Share

บทที่ 402

Author: ดอกถังร่วงหล่น
ตอนแรกปู๋เยี่ยโหวเกาะอยู่บนขอบกำแพง ซึ่งพื้นที่บนขอบกำแพงก็แคบนิดเดียว เขาจึงต้องใช้มือข้างหนึ่งเกาะกำแพง ส่วนอีกข้างดึงกางเกง

ตอนที่เขาหันกลับไปมองด้านหลัง ก็เห็นใบหน้าที่ไร้คางและดวงตาซึ่งตามหลอกหลอนเขาจนเก็บไปฝันร้าย

ถึงปู๋เยี่ยโหวจะขวัญกล้าสักแค่ไหน แต่ในเวลาแบบนี้เขากลับทำใจยอมรับไม่ค่อยได้

เฉี่ยวหลิงที่ไม่มีดวงตาและคางส่งยิ้มบางๆ ให้เขา ก่อนจะกระชากเขาจนร่วงลงจากขอบกำแพง

ปู๋เยี่ยโหว “!!!!!!!”

ครั้งที่สองแล้วนะ!

เป็นครั้งที่สองแล้วที่เขาถูกวิญญาณร้ายกลั่นแกล้ง

เขาไม่ทันระวังตัวจึงตกลงไปนอนพังพาบกับพื้น ก่อนตวาดอย่างเดือดดาล “เฉี่ยวหลิงใช่ไหม! ฝากเอาไว้ก่อนเถอะ! สักวันข้าจะจัดการเจ้าให้ได้เลย!”

เฉี่ยวหลิงยกมือเท้าเอา ก่อนจะกระดิกนิ้วใส่หน้าเขา “เจ้าจะรอวันนั้นไปทำไม แน่จริงก็จัดการข้าตอนนี้เลยสิ!”

ปู๋เยี่ยโหว “……”

เขาคิดว่านิสัยของวิญญาณร้ายที่เฟิ่งชูอิ่งเลี้ยงเอาไว้เหมือนนิสัยของนางมาก เป็นพวกที่ไม่รู้จักอยู่เฉยๆ เลยสักวินาทีเดียว

เขาคลานขึ้นมาจากพื้นขณะที่ปากก็ก่นด่าไปด้วย ทว่าเขายังไม่ทันยืนให้มั่นคง ก็ถูกเฉี่ยวหลิงเตะก้นจนหน้าทิ่มลงพื้นไปอีกครั้ง

ปู๋เยี่ยโหว “……”

เขานอนนิ่งอยู่
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App
Comments (2)
goodnovel comment avatar
เกรซ องุ่น
เฉี่ยวหลิวกับปู๋เยี่ยโหวเหมาะกันมาก......
goodnovel comment avatar
Phongsak Meewong
ฮ่าๆๆๆๆ ขำน้ำตาเล็ด
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 403

    ทว่าตอนที่เขาเตรียมจะออกจากจวน ก็ดันนึกถึงเรื่องพระสนมสวี่กับอดีตฮ่องเต้ขึ้นมา เขาตระหนักว่าเรื่องของความรู้สึกไม่ใช่สิ่งที่จะบังคับกันได้หากบังคับไปแล้ว อาจจะต้องพบกับจุดจบที่เป็นโศกนาฎกรรมได้ และการถอนหมั้นของตระกูลเจิ้ง ก็เกี่ยวข้องกับจิ่งโม่เยี่ยอย่างไม่อาจปฏิเสธได้จิ่งโม่เยี่ยจึงคิดว่าหลังจากนี้หากมีโอกาส เขาจะหาภรรยาที่ดีให้ฉินจื๋อเจี้ยนเองแต่เขาคิดไม่ถึงเลยว่า เรื่องราวทั้งหมดมันจะกลับตาลปัตรอย่างนี้ไปได้วันนี้ฉินจื๋อเจี้ยนก็แค่ตามเฟิ่งชูอิ่งออกไปข้างนอก แต่กลับได้แต่งภรรยากลับมาเสียอย่างนั้นวันนี้เขาได้รับจดหมายเชิญเข้าร่วมงานมงคลสมรสของทั้งสองคนจากองครักษ์ เขาก็แอบประหลาดใจไม่น้อยเลยถึงเขาจะรู้ว่าเฟิ่งชูอิ่งมีความสามารถ แต่เขาคิดไม่ถึงจริงๆ ว่านางจะแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ตอนนี้เขาชักจะคาดหวังเสียแล้ว หลังจากพวกเขาแต่งงานกัน นางจะสร้างความประหลาดใจให้เขาอย่างไรบ้างเฟิ่งชูอิ่งยิ้มตอบ “วันนี้ฉินจ๋างสื่อแต่งภรรยา มิใช่ท่านอ๋องแต่งภรรยาเสียหน่อย จะขอบคุณก็ควรเป็นฉินจ๋างสื่อมาเอ่ยเองสิเพคะ”จิ่งโม่เยี่ยปรายตามองนางเล็กน้อย “ก็จริงนะ เรื่องนี้สมควรเป็นฉินจื๋อเจี้ยนมาขอบคุณเจ้าเ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 404

    นับตั้งแต่ตอนที่เขากระโดดลงทะเลสาบตามนางมา เจิ้งเนี่ยนซินก็ไม่คิดจะสงสัยความรักที่อีกฝ่ายมีให้นางอีกแล้วตอนนี้เขายังยกทรัพย์สินทั้งหมดที่มีให้นางอีก เท่ากับว่าเขาอุทิศดวงใจทั้งดวงให้นางแล้วความรักไม่สามารถวัดน้ำหนักได้ แต่ตอนที่ใครสักคนหนึ่งยื่นหัวใจทั้งดวงมาให้ คนที่ได้รับมันกลับสามารถรับรู้ได้นางแต่งงานกับฉินจื๋อเจี้ยนเพราะรักในตัวเขา ไม่ใช่เพราะสิ่งของนอกกายพวกนี้นางมองเขาและกล่าวอย่างจริงจัง “จับจูงมือกัน แก่เฒ่าผมขาวไปด้วยกัน ชีวิตนับจากนี้เป็นต้นไป พวกเราจะไม่แยกจากกัน”ฉินจื๋อเจี้ยนตื่นเต้นมากจนไม่สนใจแล้วว่ามีใครมองอยู่บ้าง เขาคว้าเจิ้งเนี่ยนซินเข้ามากอดอย่างแนบแน่นเจิ้งเนี่ยนซินเป็นคนหน้าบาง พอถูกกอดกะทันหันจึงหน้าแดงก่ำ แต่ก็หักใจผลักเขาออกไม่ได้องครักษ์ที่มาร่วมแสดงความยินดีส่งเสียงโห่แซม ฉินจื๋อเจี้ยนก็ทำเป็นไม่ได้ยินพวกเขาก่อนหน้านี้เฟิ่งชูอิ่งก็มองออกว่าฉินจื๋อเจี้ยนชอบเจิ้งเนี่ยนซิน แต่ตอนนี้พอได้เห็นความจริงใจของเขาแล้ว นางก็รู้สึกว่าวันนี้ไม่เหนื่อยเปล่าจริงๆการได้เห็นคู่รักแต่งงานเป็นครอบครัวเดียวกัน เป็นเรื่องน่ายินดีปรีดามากจริงๆเฟิ่งชูอิ่งคิดว่าหากทั้งสองค

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 405

    เฟิ่งชูอิ่งดึงมือกลับโดยสัญชาตญาณ ทว่าจิ่งโม่เยี่ยกุมมือนางแน่นไม่ยอมปล่อยนางหันมองเขา เขาตอบนางอย่างไร้อารมณ์ “ฉินจื๋อเจี้ยนยังแต่งงานได้ แล้วทำไมข้าถึงจะจับมือว่าที่พระชายาตัวเองไม่ได้?”เฟิ่งชูอิ่ง “……”เหตุผลของเขา นางโต้แย้งไม่ได้จริงๆจิ่งโม่เยี่ยเอ่ยเสียงเรียบ “หากข้าแต่งภรรยา จะต้องไม่ด้อยกว่าเจ้าฉินจื๋อเจี้ยนนั่นแน่“รอให้พวกเราแต่งงานกันเมื่อไหร่ จวนอ๋องฉู่ก็จะเป็นของเจ้า”เฟิ่งชูอิ่งยิ้มตอบ “ท่านอ๋องล้อเล่นเก่งจริงๆ เลยนะเพคะ ต่อให้พวกเราแต่งงานกัน อย่างมากข้าก็แค่เป็นเจ้าของจวนอ๋องครึ่งเดียว“หากทั้งจวนอ๋องตกเป็นของข้าจริงๆ สิ่งแรกที่ข้าจะทำคือการไล่ท่านอ๋องออกจากจวน....”นางยังไม่พูดไม่ทันจบ ก็ถูกจิ่งโม่เยี่ยกระชากตัวเข้าไปโอบกอด ริมฝีปากถูกเขาประกบจูบเฟิ่งชูอิ่ง “……”ไอ้ผู้ชายคนนี้มันเอาแต่ใจตัวเองเสมอต้นเสมอปลายจริงๆ อยากจูบก็จูบ ไม่มีลังเลเลยสักนิด นางอยากจะผลักเขาออก แต่อาจเป็นเพราะจูบของเขาอ่อนโยน หรืออาจเป็นเพราะพระจันทร์คืนนี้สวยเกินไป สายลมอ่อนโยนมากเกินไป มือของนางที่วางทาบบนแผงอกเขาถึงไม่มีแรงสักเท่าไหร่นางตระหนักดีว่าตราบใดที่ฮ่องเต้เจาหยวนยังไม่ตาย พวกเขาก็

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 406

    กว่าเฟิ่งชูอิ่งจะรู้สึกตัวว่ามีลูกธนูยิงมาทางตนเองก็สายเกินไปแล้วลูกธนูดอกนั้นเล็งไปที่หัวใจของนาง ชัดเจนว่าหมายจะเอาชีวิต!นี่เป็นครั้งแรกที่นางเฉียดใกล้ความตายมากที่สุดนับตั้งแต่ทะลุมิติมา นางคิดว่าครั้งนี้คงจะได้ตายของจริงแน่ทว่าครู่ต่อมา วัตถุบางอย่างก็ลอยเข้ามากระทบลูกธนูดอกนั้นจนมันเปลี่ยนวิถี ลูกธนูดังกล่าวจึงแฉลบผ่านหน้าอกของนางไปพริบตาต่อมา จิ่งโม่เยี่ยก็ปรากฏตัวข้างกายนาง ผลักนางไปยืนอยู่ด้านหลังแล้วถามว่า “ไม่เป็นไรใช่ไหม?”แม้เฟิ่งชูอิ่งจะหัวใจเต้นระส่ำ แต่กลับไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร จึงตอบว่า “ข้าไม่เป็นไร”เพียงแต่คืนนี้น่าจะมีคนฉวยโอกาสตอนที่พวกเขาไม่ได้พาองครักษ์ติดตัวมา คิดจะสังหารพวกเขาทั้งคู่ในความมืดชั่วพริบตาเดียว คนชุดดำจำนวนสิบกว่าคนก็ปรากฏตัวโอบล้อมพวกเขาด้วยจิตสังหารอันแรงกล้าสถานที่ตรงนี้ไม่ใช่มุมอับลับตาคนแต่อย่างใด การที่คนพวกนี้กล้าลงมือ แสดงว่าผู้จ้างวานที่อยู่เบื้องหลังตัดสินใจแน่วแน่ ว่าอย่างไรวันนี้ก็ต้องสังหารพวกเขาให้ได้ก่อนหน้านี้เฟิ่งชูอิ่งกับเจ้าอาวาสเคยถูกกองทัพเกล็ดทองปิดล้อมสังหารมาก่อน ตอนนั้นบรรยากาศมิได้เย็นชาอำมหิตเท่านี้นางรู้ว่าตอนนั้น

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 407

    ชะตาชีวิตของทั้งสองผูกติดกัน เขาจึงตวัดนางมาโอบกอดไว้แล้วก้มลงไปนอนหมอบกับพื้นเฟิ่งชูอิ่ง “……”การตอบสนองของเขาไม่เหมือนกับที่นางคิดไว้สักเท่าไหร่นางพยายามตั้งสติท่ามกลางความชุลมุน “ท่านอ๋อง ท่านช่วยปล่อยข้าก่อนได้หรือไม่?”ตอนแรกนางคิดจะใช้จังหวะที่หมอบลงประสานคาถาใช้งานยันต์ ผลกลับกลายเป็นว่าถูกเขากดไว้กับพื้นหากไม่ใช่เพราะยันต์หมอกควันที่นางใช้ไปก่อนหน้านี้ยังมีผลอยู่ พวกเขานอนหมอบอยู่บนพื้นแบบนี้ น่ากลัวว่าจะถูกมือสังหารพวกนั้นแทงตายไปแล้วจิ่งโม่เยี่ยรู้สึกกระอักกระอ่วนเล็กน้อย ก่อนจะเอียงตัวปล่อยนางให้มีอิสระเพิ่มนิดหน่อยเฟิ่งชูอิ่ง “……”เอาเถอะ ถึงจะมีพื้นที่ให้เคลื่อนไหวไม่สะดวกเท่าไหร่ แต่อย่างน้อยนางก็ประสานคาถาได้พอมีนักฆ่าเข้ามาใกล้ จิ่งโม่เยี่ยก็ใช้กระบี่ปลิดชีพทิ้งในคราเดียวทว่าการทำแบบนี้ เป็นการเปิดเผยตำแหน่งของพวกเขา นักฆ่าทั้งหมดจึงพากันกรูเข้ามาตอนที่เฟิ่งชูอิ่งได้ยินเสียงฝีเท้าของคนพวกนั้น นางก็ประสานมือสร้างคาถาอย่างว่องไวแทบจะทันทีที่นางประสานมือสร้างคาถาออกไป เหนือศีรษะของพวกเขาก็มีประกายไฟแล่นปลาบ พร้อมกับสายฟ้าสว่างวาบพริบตาเดียว เสียงร้องโหยหวนก็ดังก้

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 408

    แม้ฐานะของจิ่งโม่เยี่ยจะชวนอึดอัด แต่เขาก็ยังเป็นอ๋องฉู่ แล้วฮ่องเต้เจาหยวนยังแสดงต่อหน้าผู้อื่นว่ารักและเอ็นดูเขามากตอนนี้พวกนักฆ่าเหิมเกริมถึงขั้นลอบสังหารเขากลางถนนหนทาง เรื่องนี้ด้วยนิสัยของจิ่งโม่เยี่ยไม่มีทางปล่อยผ่านไปแน่เฟิ่งชูอิ่งที่อยู่ข้างๆ กล่าวว่า “วันนี้มีอสนีบาตจากท้องฟ้าผ่าลงมาสังหารนักฆ่าพวกนั้น มิเช่นนั้นเกรงว่าต้องเกิดเรื่องกับท่านอ๋องแน่”นางกล่าวจบก็แหงนหน้ามองท้องฟ้า “ขอบคุณสวรรค์และทวยเทพที่คุ้มครอง!”นางกล่าวถ้อยคำดังกล่าวด้วยท่าทางจริงจังซื่อสัตย์ ราวกับมันเป็นเรื่องจริงหากจิ่งโม่เยี่ยไม่เห็นกับตาว่านางเขวี้ยงยันต์ออกไป แล้วยังตระหนักดีถึงความสามารถของนาง เกรงว่าคงหลงเชื่อนางแล้วเขาลอบด่านางในใจ “เป็นเด็กเลี้ยงแกะที่เก่งจริงๆ”ทว่ายามนี้ตอนที่เขาก่นด่านางในใจ กลับมีความอ่อนโยนแฝงอยู่หลายส่วนโดยที่เขาไม่รู้ตัวความจริงแล้วพวกทหารรักษาการณ์อยู่แถวนี้ตั้งแต่แรก พวกเขาจึงเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นพวกเขาไม่ทราบความสามารถของเฟิ่งชูอิ่ง เมื่อเห็นปรากฏการณ์พวกนั้นก็เชื่อว่าเป็นทัณฑ์สวรรค์จริงๆ พริบตานั้น ในใจของพวกทหารรักษาการณ์ก็เกิดความคิดหนึ่งขึ้นมาหรือจ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 409

    “ตอนนี้อาจคิดว่าการว่ามีเจ้าอยู่ข้างกายข้า ทำให้เรื่องต่างๆ เริ่มจะหลุดจากการควบคุม พวกเขาก็เริ่มจะอยู่ไม่สุขกันแล้ว”“คืนนี้เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ต่อไปอาจจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกบ่อยครั้งเชียวล่ะ เจ้ากลัวหรือไม่?”เฟิ่งชูอิ่งเบ้ปาก กล่าวว่า “กลัวไปก็ไม่มีประโยชน์ ข้าหนีพ้นเสียที่ไหนล่ะ”เอ่ยจบนางจึงยกมือไปทุบอกของเขาแล้วกล่าวว่า “ทั้งหมดเป็นความผิดของท่าน!“ครั้งที่แล้วข้าออกจากเมืองหลวงไปแล้ว ถ้าท่านไม่ไปตามข้ากลับมา ข้าก็คงไม่ต้องเจออันตรายแบบนี้!”ท่าทางของนางในสายตาของจิ่งโม่เยี่ย ดูเหมือนกำลังเง้างอนอยู่เล็กน้อยจิ่งโม่เยี่ยจับมือของนางไว้แล้วเอ่ยว่า “ตอนนี้ยอมรับแล้วใช่ไหมว่าตอนนั้นคิดจะหนี?”เฟิ่งชูอิ่งจ้องเขา “ข้าไม่ใช่คนโง่นะ รู้ว่าอันตรายยังไม่ยอมหนี ยอมอยู่เฉยๆ ให้คนอื่นรังแกแบบนั้น?”จิ่งโม่เยี่ยหลุดขำออกมาเฟิ่งชูอิ่งเอ่ยอย่างไม่พอใจ “ยังจะหัวเราะอีก! ทั้งหมดเป็นเพราะท่านเพียงคนเดียวเลย!”จิ่งโม่เยี่ยไม่เคยยอมรับผิดต่อหน้าใครมาก่อนเลยสักครั้ง แต่ตอนนี้เขากลับเอ่ยว่า “อืม ข้าผิดเอง”เฟิ่งชูอิ่งตั้งใจว่าถ้าเขายังกล้าเอ่ยอะไรอีก นางจะโต้กลับเขาให้หนักเลย

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 410

    จิ่งโม่เยี่ยอึ้งไปชั่วขณะ ไม่สามารถตั้งสติได้ชั่วคราว ดวงตาดอกท้อเบิกกว้างจ้องมองนางหลังจากที่นางจูบเขาอย่างดุดันจนพอใจแล้วก็ลุกขึ้นยืน เท้าเอวกล่าวว่า “ข้าต้องทนทุกข์เพื่อท่านมากมาย ทำไมท่านถึงเอาเปรียบข้าได้แค่ฝ่ายเดียวล่ะ ทำไมข้าถึงเอาเปรียบท่านบ้างไม่ได้?”จิ่งโม่เยี่ย “…...”หลังจากที่นางกล่าวจบก็จูบซ้ำเขาอีกครั้งแล้วกล่าวว่า “ในเมื่ออย่างไรก็หนีไม่พ้น การปล่อยบุรุษรูปงามชั้นยอดอย่างท่านไปเฉยๆ โดยไม่เอารัดเอาเปรียบสักนิด ข้าก็คงโง่มากแล้วล่ะ!”จิ่งโม่เยี่ย “…...”เขาคิดว่านางประกาศอย่างแข็งกร้าวถึงเพียงนี้ อีกเดี๋ยวจะต้องลงมือทำอะไรเขาอย่างแน่นอนตอนนี้เขาไม่สามารถส่งเสียงได้ จึงใช้ดวงตาดอกท้อจ้องมองนางอย่างดุดันแทนเขาคิดไม่ถึงว่าหลังจากนางกล่าววาจาแข็งกร้าวเหล่านั้นแล้วก็ขโมยจูบเขาอีกที ก่อนจะหันหลังแล้ววิ่งหนีไปจิ่งโม่เยี่ยนอนอยู่บนเตียงด้วยท่าทางสับสนในคราแรก จากนั้นริมฝีปากของเขาปรากฏรอยยิ้มบางๆก่อนหน้านี้เขาพอจะสังเกตได้แล้วว่านางพูดจาร้ายกาจ แต่ความจริงแล้วเป็นคนขี้ขลาดอย่างมากเขาหัวเราะอย่างไร้สุ้มเสียงก่อนหน้านี้เขารู้สึกว่าแม้พวกเขาจะนอนอยู่บนเตียงเดียวกั

Latest chapter

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 997

    เฟิ่งชูอิ่งพูดต่อว่า “แต่ตอนนี้ข้าไม่เหลือทั้งบิดามารดาแล้ว เจ้าห้ามรังแกข้าเชียวนะ!”จิ่งโม่เยี่ยยกมือสาบานต่อฟ้าทันที “หากข้าทำไม่ดีกับเจ้าในภายภาคหน้า ขอให้สวรรค์ลงทัณฑ์ส่งฟ้ามาผ่าให้ตาย!”เฟิ่งชูอิ่งหัวเราะ “เรื่องฟ้าผ่าไม่ต้องถึงมือสวรรค์หรอก ข้าก็ทำได้”จิ่งโม่เยี่ย “......”เขาเกือบลืมไปแล้วว่านางวาดยันต์ได้เก่งมาก ตราบใดที่นางต้องการ ใช้ฟ้าผ่าเขาก็ไม่ใช่เรื่องยากเฟิ่งชูอิ่งเห็นท่าทางของเขาก็แอบหัวเราะเบาๆ เอื้อมมือไปกอดแล้วซุกศีรษะพิงอกเขา กล่าวว่า “ข้าเชื่อใจท่าน”“ตอนนี้เราทั้งสองล้วนไม่มีพ่อแม่แล้ว ชีวิตที่เหลืออยู่ก็มีเพียงกันและกัน”“ต่อไปข้าจะดูแลเจ้าอย่างเต็มที่ จะไม่ระแวงเจ้าอีก ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ข้าจะเชื่อใจเจ้า”หัวใจที่ตึงเครียดของจิ่งโม่เยี่ยก็ผ่อนคลายลงในทันทีเขากอดนางตอบ “กาลเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าการตัดสินใจของเจ้าถูกต้อง”เขาโน้มตัวลงจูบหน้าผากนางเบาๆ เอ่ยอย่างอ่อนโยนว่า “ข้าจะทุ่มเททุกอย่างเพื่อรักเจ้า”เมื่อเฟิ่งชูอิ่งได้ยินคำพูดนี้ หัวใจก็สั่นไหว นางช้อนตามองขึ้นไปที่เขา ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความอ่อนโยนนางรู้ว่าคำพูดของเขาในตอนนี้ล้วนมาจ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 996

    ก่อนหน้านี้เขาไม่รู้ฐานะของจิ้งจอกสือซานเหนียง แต่ตอนนี้เขาพอจะเข้าใจได้หลังจากได้ยินบทสนทนาระหว่างจิ้งจอกสือซานเหนียงและเฟิ่งชูอิ่งจิ้งจอกสือซานเหนียงเห็นสีหน้าเคร่งขรึมของเขาก็หัวเราะเบาๆ ก่อนจะหันหลังเดินจากไปเฟิ่งชูอิ่งถามว่า “เจ้าจะไปไหน? ข้ายังมีเรื่องอยากจะถามเจ้าอีกมาก”จิ้งจอกสือซานเหนียงตอบว่า “ข้าจะไปหาที่ขับไล่พลังชั่วร้ายออกจากร่างกาย พอขับไล่เสร็จแล้วข้าจะกลับมาหาเจ้า”ตลอดหลายปีที่ผ่านมา นางฝึกฝนวิชาสายชั่วร้ายมากมาย ทำให้พลังชั่วร้ายในร่างกายมีมากเกินไป หากอยู่ใกล้ใครนานๆ จะมีผลกระทบต่อคนรอบข้างเฟิ่งชูอิ่งจึงเตือนนางว่า “เจ้าอย่าผิดคำพูดล่ะ ข้าจะรอเจ้ากลับมา!”จิ้งจอกสือซานเหนียงโบกมือแล้วบอกว่า “วางใจเถอะ ข้าจะกลับมาแน่นอน”หลังจากนางเดินออกไปไกลแล้ว เฟิ่งชูอิ่งก็ถอนหายใจยาวๆ และเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากแยกทางกันให้จิ่งโม่เยี่ยฟังหลังจากที่จิ่งโม่เยี่ยได้ยินเรื่องของเหมยตงยวน เขาก็เงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “เพราะรักถลำลึกจึงไม่ยืนยาว เรื่องระหว่างท่านพ่อกับท่านแม่ช่างน่าเศร้า”เฟิ่งชูอิ่งกล่าวอย่างแผ่วเบาว่า “ดังนั้นการสื่อสารจึงสำคัญ ต่อไปไม่ว่าจะมี

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 995

    สิ้นเสียงของนาง สายฟ้าก็ฟาดลงมาอีกครั้ง ทำให้พลังที่พุ่งพล่านของเขาสลายไปจิ่งสือเยี่ยน “!!!!!!!!”หลังจากถูกอสนีบาตฟาดใส่อย่างต่อเนื่องห้าครั้ง ร่างวิญญาณของเขาก็จางลงอย่างมากแต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังไม่ตายเฟิ่งชูอิ่งถึงกับตกใจ ชีวิตของจิ่งสือเยี่ยนช่างแข็งแกร่งเสียจริง!นางอดสงสัยไม่ได้ว่าเขาจะกลายเป็นเทียนซือคนที่สอง และจะกลายเป็นภัยพิบัติในอนาคตนางกำลังจะม้วนแขนเสื้อขึ้นเพื่อเสกยันต์ใส่จิ่งสือเยี่ยนอีกครั้ง แต่กลับมีเงาร่างหนึ่งพุ่งเข้ามาแล้วกลืนเขาเข้าไปทั้งตัวเฟิ่งชูอิ่ง “!!!!!!”จิ้งจอกสือซานเหนียงเรอออกมาคำโตแล้วบอกว่า “เขาเป็นอาหารที่ข้าหมายตาไว้แต่แรก”“การปล่อยให้อาหารหลุดมือไป เป็นเรื่องที่ไม่อาจให้อภัยได้”เฟิ่งชูอิ่ง “......”นางเคยจินตนาการถึงความตายของจิ่งสือเยี่ยนไว้หลายแบบ แต่ไม่มีฉากจบแบบนี้อยู่เลยนางได้คงบอกได้แค่ว่าจิ้งจอกสือซานเหนียงเจ๋งสุดยอด!ขณะเดียวกันนั้นจิ่งโม่เยี่ยก็เดินเข้ามา เขาจ้องมองจิ้งจอกสือซานเหนียงด้วยความระแวดระวัง มือจับกระบี่เอาไว้ เตรียมพร้อมที่จะฟันจิ้งจอกสือซานเหนียงได้ทุกเมื่อเฟิ่งชูอิ่งบีบมือเขาเบาๆ ให้เขาผ่อนคลายจิ้งจอก

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 994

    แต่ทว่าคันธนูของจิ่งสือเยี่ยนเพิ่งจะยกขึ้นมา ก็มีลูกธนูที่เร็วกว่าพุ่งทะลุหัวใจของเขาในทันทีจิ่งสือเยี่ยนมองลูกธนูที่ปักอยู่บนอกด้วยความไม่อยากเชื่อ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองและเห็นดวงตาที่เย็นชาของจิ่งโม่เยี่ยเมื่อครู่นี้พวกเขาทั้งสองยังมีระยะห่างต่อกันอยู่แท้ๆ และตำแหน่งที่เขาหลบอยู่ก็เป็นมุมอับที่จิ่งโม่เยี่ยยิงมาไม่ถึงทว่าเพียงแค่อึดใจเดียว จิ่งโม่เยี่ยก็ปรับตำแหน่งได้อย่างรวดเร็วและยิงธนูทะลุหัวใจเขาได้ในนัดเดียวในตอนนี้จิ่งสือเยี่ยนกับจิ่งโม่เยี่ยไม่ได้อยู่ห่างกันมากนัก แต่ถ้าพูดคุยกันตามปกติก็คงไม่ได้ยินทว่าในเวลาเช่นนี้ จิ่งสือเยี่ยนกลับได้ยินเสียงของจิ่งโม่เยี่ย “คนที่กล้าทำร้ายชูอิ่งต้องตาย!”ก่อนหน้านี้จิ่งสือเยี่ยนคิดแค่ว่าจิ่งโม่เยี่ยดีต่อเฟิ่งชูอิ่งมาก ทว่าตอนนี้เขาเพิ่งได้รู้ซึ้งเรื่องบางอย่างเฟิ่งชูอิ่งไม่ใช่แค่จุดอ่อนของจิ่งโม่เยี่ย แต่เป็นทั้งชีวิตของเขาแต่มาเข้าใจเอาป่านนี้ก็สายไปแล้วในตอนนี้เฟิ่งชูอิ่งยังคงนอนคว่ำอยู่บนพื้นหิมะ นางได้ยินเสียงวัตถุแหวกอากาศจึงหันไปมอง และเห็นภาพของจิ่งสือเยี่ยนล้มลงกับพื้นในเวลานี้ เฟิ่งชูอิ่งก็เข้าใจใด้ทันทีว่าในโลกน

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 993

    ในเมื่อเขาไม่ได้ราชบัลลังก์และเฟิ่งชูอิ่งมาครอบครอง ราชบัลลังก์เขาอาจจะทำลายไม่ได้ แต่เฟิ่งชูอิ่งแค่คนเดียวเขาทำลายได้แน่นอนองครักษ์สองคนของเขารีบเปลี่ยนมาง้างคันธนูเล็งไปที่เฟิ่งชูอิ่ง ทว่าลูกธนูยังไม่ทันได้ยิงออกไป ก็ถูกบางสิ่งบางอย่างปัดออกไปอีกครั้งในตอนนี้จิ่งสือเยี่ยนก็พลันเข้าใจบางอย่างขึ้นมาทันทีตลอดทางที่ผ่านมา วิญญาณร้ายของเฟิ่งชูอิ่งถึงจะมาแล้ว แต่ก็ไม่ได้ลงมือ นั่นก็น่าจะมีเหตุผลที่ลงมือไม่ได้วิญญาณร้ายโจมตีองครักษ์ของเขา แต่กลับไม่โจมตีเขา นั่นก็หมายความว่าวิญญาณร้ายเหล่านั้นโจมตีเขาไม่ได้เขานึกถึงข่าวลือที่เคยได้ยินมาว่า พลังมังกรของผู้เป็นฮ่องเต้เป็นสิ่งที่ปราบภูตผีปีศาจได้วิญญาณร้ายไม่โจมตีเขา นั่นแสดงว่าวิญญาณร้ายทำอะไรเขาไม่ได้ แปลว่าเขามีพลังมังกรอยู่ในตัว?ความคิดนี้ทำให้จิตใจเขาฮึกเหิมขึ้นมาทันที เขารีบหยิบธนูของตัวเองขึ้นมา อดทนต่อความเจ็บปวดจากบาดแผลแล้วยิงธนูไปที่หลังของเฟิ่งชูอิ่งเฉี่ยวหลิงเห็นภาพนี้ก็ตกใจ รีบยื่นมือออกไปเพื่อจะรับลูกธนูนั้นทว่าลูกธนูนั้นเปื้อนเลือดของจิ่งสือเยี่ยน เลือดนั้นเป็นอันตรายต่อวิญญาณร้ายอย่างมาก มือของนางแค่เพียงสัมผ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 992

    หิมะยังคงโปรยปรายลงมา โลกนี้เงียบสงัด มีเพียงเสียงฝีเท้ากระทบกับพื้นหิมะดังฟุ่บฟั่บช่วงใกล้รุ่งสาง ชวีเหลียงอวี่ก็มาปรากฏตัวและเอ่ยขึ้นทันทีว่า "ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการรออยู่ข้างนอกแล้ว"เมื่อได้ยินดังนั้น เฟิ่งชูอิ่งก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยนางหันไปบอกกับจิ่งสือเยี่ยนว่า "เมื่อครู่ข้าลองคิดดูดีๆ แล้ว รู้สึกว่าที่เจ้าพูดก็มีเหตุผลอยู่บ้าง การมีชีวิตอยู่ก็ไม่เลว"จิ่งสือเยี่ยน “......”หลังจากผ่านมาทั้งคืน นางกลับปลงตกในเรื่องเช่นนี้ได้ ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจอยู่เล็กน้อยแต่การที่นางคิดได้ในตอนนี้ก็เป็นเรื่องดีเขาจึงพูดว่า "หลายสิ่งหลายอย่างทำได้ตอนมีชีวิตอยู่เท่านั้น ตายไปแล้วทำไม่ได้""ตราบใดที่เจ้าพาข้าออกจากค่ายกลแห่งนี้ ข้าจะไม่สร้างความลำบากให้เจ้าอีก”เฟิ่งชูอิ่งพยักหน้า "ก็ได้ งั้นตอนนี้ข้าจะพาเจ้าไปทำลายค่ายกล"พูดจบนางก็ควบม้านำหน้าไป จิ่งสือเยี่ยนรีบนำทหารตามไปทันทีเพียงแต่พวกเขาเดินวนเวียนอยู่ที่นี่ทั้งคืน ทั้งเหนื่อยทั้งหิว พลังจึงลดลงไปมากเฟิ่งชูอิ่งมียันต์ป้องกันความหนาวติดตัวอยู่จึงไม่รู้สึกหนาว ก่อนหน้านี้ก็นอนหลับมาตลอดทาง ทำให้รักษาพลังงานไว้ได้มากที่สุ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 991

    เขาไม่เคยเจอใครดื้อด้านเท่านางมาก่อน!เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อระงับโทสะ เพราะตอนนี้เขาไม่สามารถตบตีหรือด่าทอนางได้ทั้งนั้นเขาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “เจ้าอยากไปเจียงหนานไม่ใช่หรือ? พอออกจากที่นี่ได้ ข้าจะไม่ขัดขวางเจ้า เจ้าก็จะได้ไปชมวิวทิวทัศน์เจียงหนานที่เจ้าอยากเห็น”“เจียงหนานในฤดูหนาวที่มีหิมะปกคลุมทั้งงดงามและน่าหลงใหล ถ้าเจ้ายังไม่เคยเห็น ต้องไปดูด้วยตาตัวเองให้ได้เลย”เฟิ่งชูอิ่งยังคงนอนอยู่บนพื้นไม่ยอมลุกขึ้น “ไม่ไป อากาศหนาวเกินไป เดินทางเหนื่อยเกินไป”จิ่งสือเยี่ยน “…...”ตั้งแต่วินาทีที่เขาติดกับอยู่ที่นี่ สถานะระหว่างเขากับเฟิ่งชูอิ่งก็สลับกันโดยสิ้นเชิงเพราะเขามีความทะเยอทะยาน อยากใช้ชีวิตอย่างสุขสบายยิ่งเฟิ่งชูอิ่งแสดงออกว่าอยากตายมากเท่าไหร่ จิ่งสือเยี่ยนก็ยิ่งไม่ยอมให้นางตายมากขึ้นเท่านั้นดังนั้นตอนนี้นางจึงควบคุมเขาได้อย่างเบ็ดเสร็จการที่นางแสดงท่าทีไม่ยอมทำตามไม่ว่าเขาจะใช้ไม้แข็งหรือไม้อ่อนเช่นนี้ ทำให้เขาแทบเป็นบ้าจิ่งสือเยี่ยนไม่เคยคิดฝันมาก่อนว่าการจับตัวประกันจะน่าอึดอัดขนาดนี้เฟิ่งชูอิ่งนอนเอกเขนกอยู่ตรงนั้นอย่างสบายใจ เหตุผลก็ง่ายๆ นางใช้

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 990

    เฟิ่งชูอิ่งยิ้มแล้วถามว่า “ทางที่ข้าชี้นำ เจ้ากล้าเดินตามหรือ?”เมื่อมาถึงตอนนี้แล้ว นางก็คร้านจะเสแสร้งต่อไปสีหน้าของจิ่งสือเยี่ยนแข็งค้างไปครู่หนึ่ง นางพูดอย่างเฉื่อยชาว่า “เพราะพวกเจ้าติดอยู่ที่นี่ คงรู้สึกหนาวเหน็บและหวาดกลัว”“เจ้าบาดเจ็บ ในสภาพอากาศหนาวเย็นเช่นนี้ แผลของเจ้าจะยิ่งทรุดหนัก”“เจ้ารีบร้อนมารวบรวมกำลังพลของกองกำลังอวี๋ซาน เจ้าคงไม่ได้พกอาหารมาด้วยมากนัก ดังนั้นตอนนี้พวกเจ้าคงหิวมากแล้ว”“ในสถานการณ์เช่นนี้ แค่ข้ากักขังพวกเจ้าไว้ที่นี่ ต่อให้ไม่หนาวตาย พวกเจ้าก็คงอดตายอยู่ดี”ขณะนี้หิมะขาวโพลนโปรยปรายไปทั่ว อากาศหนาวเหน็บ สภาพอากาศเช่นนี้คงจะดำเนินต่อไปเป็นเวลาอย่างน้อยครึ่งเดือนเป็นอย่างที่เฟิ่งชูอิ่งบอก พวกเขาเดินทางมาที่นี่โดยไม่ได้พกเสบียงอาหารแห้งหรืออะไรทำนองนั้นมาด้วยเลยด้วยเหตุนี้ตอนที่พวกเขาเดินวนจนครบรอบที่สาม เสบียงอาหารก็หมดลงตอนนี้ฟ้าเริ่มมืดแล้ว หลังจากตกกลางคืน อากาศจะยิ่งหนาวเย็นลง พวกเขาจะยิ่งลำบากมากขึ้นจิ่งสือเยี่ยนชักกระบี่ยาวออกมา “เจ้าเชื่อหรือไม่ว่าข้าสามารถบั่นคอเจ้าด้วยกระบี่เล่มนี้ได้!”เฟิ่งชูอิ่งยิ้มหวานแล้วเอ่ยว่า “เอาเลย ฆ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 989

    เขาคลี่ยิ้มมุมปากเล็กน้อย “ได้”หลังจากฆ่าจิ่งโม่เยี่ยแล้ว จะปล่อยนางไปหรือไม่ เรื่องนี้เขาจะเป็นคนตัดสินใจนางเป็นผู้หญิงคนแรกที่เขารู้สึกชอบจริงๆ และนางก็เป็นผู้หญิงคนแรกที่ทำให้เขารู้จักกับความล้มเหลวเขารู้ว่านางมีวิธีการบางอย่างที่คนทั่วไปไม่มี ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าประมาท เขาจะป้อนยาที่ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงให้นางกินทุกวันเฟิ่งชูอิ่งรู้ทันความคิดของเขา และยอมให้ความร่วมมือแต่โดยดีขณะที่ในใจของนางกำลังครุ่นคิด ครั้งที่แล้วโดนไปขนาดนั้นยังรอดมาได้ ถ้าอย่างนั้นก็ต้องหาโอกาสฆ่าเขาให้ตายสนิทแบบไม่มีสิทธิ์ฟื้นขึ้นมาอีกนางพลันนึกถึงเรื่องที่เหมยตงยวนวิญญาณแหลกสลายหลังจากรู้ข่าวการตายของเฟิ่งชิงหลิง จิตใจนางจึงหม่นหมองตามไปด้วยนางรู้ว่าเหมยตงยวนรักเฟิ่งชิงหลิงอย่างสุดซึ้ง แต่ไม่คิดว่านั่นจะเป็นรากฐานที่ทำให้เขามีชีวิตอยู่ในโลกใบนี้เพราะนางเห็นความรักของพวกเขา นางจึงยิ่งรู้ชัดว่าตัวเองมีความรู้สึกแบบไหนต่อจิ่งโม่เยี่ยในเมื่อรักแล้ว ก็ต้องรักให้สุดหัวใจอย่าได้ทำเรื่องที่ทำให้ตัวเองเสียใจและทำให้ฝ่ายตรงข้ามเข้าใจผิดอีกจิ่งสือเยี่ยนไม่ได้ไปตามล่าจิ่งโม่เยี่ยโดยตรง เขาวางแผนท

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status