“ช่วงนี้เธอก็สงบๆหน่อย ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น เช้าใจไหม!?”น้ำเสียงของเหยียนฉู่จริงจังมากเธอกลัวว่ากู้อิ๋นจะทำอะไรให้เผยเซียวสงสัย“งั้นเด็กในท้องฉันล่ะจะเอายังไง?” กู้อิ๋นถาม“.…..” เหยียนฉู่ไม่พูดถึงเด็กยังดี พอพูดถึงแล้วใจที่เตรียมพร้อมจะตายก็มีแล้วนั่นสินะ ยังมีเรื่องของเด็กอยู่!“เธอยังไม่ได้ลองถามประธานเผยอีกหรอ?”“ฉันไม่กล้า!”“.…..” ไม่กล้า งั้นแล้วตอนนี้จะทำยังไงล่ะ?เวลาแค่ไม่นานนี้ ทำไมพวกเธอถึงได้มีเรื่องมากมายขนาดนี้นะ?เหยียนฉู่อยากจะร้องไห้จริงๆจะจัดการกับเด็กในท้องเลยพวกเธอก็ไม่กล้า!แต่ถ้าลองถามเผยเซียวเขาก็เนคนช่างสังเกต จะต้องสงสัยแน่ๆถ้าเกิดว่าสืบต่อไป ไม่ต้องบอกก็รู้......ตายแน่!เห็นเหยียนฉู่หมดคำจะพูด กู้อิ๋นก็อดจะสะอื้นไม่ได้ “ทำยังไงดี? เรายื้อต่อไปไม่ได้แล้ว!”เมื่อก่อนหมอก็เคยบอกแล้วถ้าเกิดว่าไม่อยากได้ก็ต้องรีบจัดการถ้าเกิดเด็กในท้องตัวโตเกินไป มันคงจะผ่าตัดได้ยากขึ้น!“.…..” เหยียนฉู่งั้นจะทำยังไงดี?ถ้าสารภาพไปตอนนี้ก็จะลำบากไปถึงตระกูลเหยียนยิ่งพอนึกถึงตอนที่พ่อของเธอรู้เรื่อง เธอก็……!“งั้นวันนี้เธอก็ลองคิดหาวิธีถามประธานเผย
เห็นสีหน้าของเขาเคร่งขรึมลงในใจของกู้อิ๋นก็เหมือนกับถูกควักออกไปตอนนี้เธอไม่เหลือพลังมาคิดอะไรแล้วตอนนี้นัยน์ตาของเผยเซียวมีแต่ความเย็นชาพาดผ่าน เขาเดินก้าวขายาวๆมาทางกู้อิ๋น ก่อนจะบีบคางของเธอเบาๆ น้ำเสียงของเขามีแต่ความเย็นชา “ลูก? เธอหมายความว่ายังไง?”นี่ นี่มัน……!นี่เขากำลังฟังอะไรอยู่?กู้อิ๋นเงยหน้าอย่างระมัดระวัง สิ่งที่เธอมองเห็นคือสายตาคมๆของเผยเซียวแค่เพียงนิดเดียวเธอก็รีบปิดตาลง!แรงบีบที่คางก็แรงมากขึ้นไปอีก “ลืมตา!”กู้อิ๋นไม่กล้านี่!แรงบีบที่คางของเธอก็ยังคงแรงขึ้น กู้อิ๋นฝืนลืมตาขึ้นมาก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงน่าสงสาร “ประธานเผยคะ”“ลูกอะไร ไหนพูด?” เผยเซียวว่าน้ำเสียงของเผยเซียวยิ่งดุดันมากขึ้น ทำให้สติที่เพิ่งจะกลับมาแตกซ่านไปอีกครั้งเธอในตอนนี้ไม่เหลือสติให้คิดอะไรแล้วเธอจึงมองไปทางเผยเซียวด้วยสายตาน่าสงสาร!“พูดมา!” เผยเซียวพูดซ้ำ“คะ....คือ คือ คือว่าเหยียนฉู่……!” กู้อิ๋นพูดตะกุกตะกักเดี๋ยวก่อนนะ เหยียนฉู่!เหมือนว่าเมื่อกี้เธอจะลืมถามเหยียนฉู่ไปว่าถูกถามเรื่องอะไรบ้าง และเธอพูดอะไรไปบ้างทำยังไงดี? เธอถูกถามว่าอะไรบ้าง? และเธอพูดอะไรไปบ้าง?
เมื่อก่อนถึงแม้ว่าจะทำงานอยู่ในตึกเดียวกันแต่เดือนนึงเจอกันแค่ไม่กี่ครั้งต่อให้จะเจอกันก็แค่พยักหน้าทักทายเท่านั้นช่วงนี้จำนวนครั้งที่ไปห้องทำงานของเขาทำเอาเหยียนนึกตกใจเหมือนกัน......ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไปเธอคงหลุดก่อนยายโง่กู้อิ๋นแน่ๆ!เหยียนฉู่มองไปทางลั่วเหยียนอย่างอ่อนแรง “หัวหน้าลั่วมีอะไรอีกหรือเปล่า?”จะพูดครั้งเดียวให้จบเลยได้ไหม?ตอนนี้ในใจของเหยียนฉู่เหนื่อยมากๆ ตอนนี้เธอพอจะรู้แล้วว่าทำไมกู้อิ๋นถึงกลัวเผยเซียวเพราะว่า......ปัญหามันเยอะเกินไป!แต่ละวันนี้มีแต่เรื่องเข้ามาจู่ๆเหยียนฉู่ก็ฉุกคิดด่ากู้อิ๋นไม่ได้โง่ เธอเป็นผู้ช่วยที่อยู่กับเผยเซียวได้นานที่สุดผู้ช่วยคนอื่นอยู่กันไม่ถึงเดือนด้วยซ้ำ แต่เธอกลับทำได้เป็นปีๆ! นี่ก็เห็นได้ชัดแล้วว่าเธอไม่ได้โง่แต่ว่าไม่โง่ ก็คงถูกทำให้ตกใจจนเป็นบ้าแล้วล่ะมั้ง?ลั่วเหยียนมองเหยียนฉู่อย่างสังเกต “เธอท้องหรอ?”“.…..” เหยียนฉู่ตอนนี้สมองเธอหยุดทำงานไปแล้ว!เธอมองไปที่ลั่วเหยียนอย่างไม่เข้าใจ เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาไปโดนยาตัวไหนมาทำไมอยู่ๆถึงถามเรื่องนี้ขึ้นมา“เปล่าสักหน่อยค่ะ!” เหยียนฉู่ส่ายหน้า“ไม่ได้ท้องจริงๆหรอ?”
เหยียนฉู่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองออกมาจากห้องทำงานของลั่วเหยียนได้ยังไง แต่ลั่วเหยียนก็ไม่ได้ถามอะไรเธออีกแต่คำว่า ‘สามวัน’ ก็เหมือนกับเสียงของปีศาจอย่างไรอย่างนั้น มันกำลังค่อยๆทำลายประสาทของเธอเพราะอย่างนั้นสามวันหลังจากนี้……!ถ้าเธอไม่เปิดโปงกู้อิ๋นก็ต้องบอกว่าคนที่อยู่ในห้องของเผยเซียวที่หนานเฉิงในคืนนั้นเป็นตัวเธอเอง……!?แบบนั้นไม่ได้แน่นอน ถ้าเธอยอมรับว่าเป็นตัวเองเผยเซียวคงจะต้องเอาเรื่องตระกูลเหยียนแน่ๆถ้าเป็นแบบนั้นชะตาชีวิตของเธอกับพ่อคงต้องไปอาศัยอยู่ข้างถนนแทนแน่ๆทำยังไงดี? เธอจะทำยังไงดี? คนที่ฉลาดมาตลอดแบบเธอตอนนี้รู้สึกเหมือนกับว่าวิญญาณไม่อยู่กับตัวเธอรีบหยิบเอาโทรศัพท์ขึ้นมาก่อนจะโทรไปหากู้อิ๋น แต่เสียงรอสายดังขึ้นแค่ครั้งเดียวก็ถูกตัดสายแล้วเหยียนฉู่กำโทรศัพท์ในมือแน่น เธอคิดได้ว่าตอนนี้กู้อิ๋นอาจจะถูกเผยเซียวสอบสวนอยู่เหมือนกันก็ได้!“เฮ้อ~!” เหยียนฉู่ถอนหายใจออกมาตอนนี้เธอกับกู้อิ๋นถูกต้อนจนมุมแล้วเธอยกโทรศัพท์ขึ้นมาก่อนจะโทรออกไปที่เบอร์หนึ่งทางฝั่งนั้นไม่นานก็รับสายแล้วไม่ต้องรอให้ฝ่ายนั้นพูดก่อน เหยียนฉู่ก็เป็นฝ่ายเริ่มก่อน “พ่อคะ วันนี้จะก
ระหว่างพวกเราไม่จำเป็นต้องมีลูก!รอเขาจัดการเหลียงม่านเข่อแล้วยึดเอากิจการที่ต่างระเทศกลับมาได้ทุกอย่างก็จะจบลงพอถึงตอนนั้นเขาก็จะกลับไปหารักแรกของเขาอย่างหลีเวยเยว่ ส่วนเธอก็เป็นแค่เพียง......กู้อิ๋นคนเดิม!เผยเซียวยุ่งมากๆก่อนจะเดินขึ้นไปข้างบนเขาแวะไปหาป้าเฉิน “เก็บของให้หน่อยนะ พรุ่งนี้ผมจะต่างเมือง”“ได้ค่ะคุณชาย!” ป้าเฉินรับคำอย่างนอบน้อมก่อนจะเดินไปเขาหันหลับมาทางกู้อิ๋น “เธอเองก็ไปเตรียมตัว“กู้อิ๋นได้ยินก็หน้าถอดสีก่อนจะชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง “ฉันก็ต้องไปหรอคะ?”“ถ้าเธอไม่ไปใครจะไปล่ะ?”“.…..” กู้อิ๋นก่อนหน้านี้ไม่ได้บอกว่าจะไม่พาเธอไปหรือไง?แต่พอคิดดูดีๆ ตั้งแต่เข้ามาทำงานเป็นผู้ช่วยของเผยเซียว ทุกครั้งที่เผยเซียวไปต่างเมืองเธอก็เหมือนจะอยู่ข้างกายเขาตลอดเพราะอย่างนั้นครั้งนี้เธอเองก็จำเป็นต้องไปเช่นกันเมื่อถูกสายตาคมๆมองเธอก็รีบพยักหน้า “เดี๋ยวฉันไปเก็บของค่ะ”พูดจบเธอก็รีบเข้าห้องเหมือนหนี!ตายแล้ว!แบบนี้เธอจะทำยังไงดีล่ะ? เรื่องที่เผยเซียวอยากจะมีลูกไหมเธอก็หลอกถามมาได้แล้วก่อนหน้านี้ก็คุยกับเหยียนฉู่แล้วด้วยว่าถ้าเผยเซียวไม่อยากได้ก็จะถือโอกาสช่วงสา
กู้อิ๋นได้ยินน้ำเสียงที่เด็ดขาดของกู้หลานก็ยิ่งรู้สึกเห็นใจเธอมากขึ้นอีกเธอหายใจเข้าลึกๆ “นี่เขาใช้มีด……”พอพูดถึงตรงนี้กู้อิ๋นก็รู้สึกอึดอัดจนเหมือนจะหายใจไม่ออกเพราะว่ากู้หลานคอยดูแลเธอมาก็ตั้งหลายปี ทำไมเธอถึงทำแบบนี้ได้ลงคอ?แต่เมื่อนึกถึงภาพที่เธอถูกโยนเข้าไปในบ้านของคุณย่า!และยังจะมีท่าทางที่จ้าวเป่าอวิ๋นมีต่อกู้หลานในช่วงกี่ปีนี้ กู้อิ๋นก็คิดว่าจ้าวเป่าอวิ๋นสามารถทำเรื่องแบบนี้ออกมาได้“อืม เขานั่นแหละเป็นคนทำ!” กู้หลานพูดตอนนี้น้ำเสียงของกู้หลานทั้งแน่วแน่และเต็มไปด้วยความเกลียดชังกู้อิ๋นได้ฟังก็ยิ่งแค้นใจ ความเกลียดชังที่มีต่อจ้าวเป่าอวิ๋นก็ยิ่งทวีมากขึ้นกู้หลานคิดนิดหน่อยก่อนจะพูด “ต่อจากนี้เธอไม่ต้องมาที่โรงพยาบาลแล้วนะ”“กู้หลาน~!”“สวีจิ้งอวี่กำลังจะมาที่เมืองก่างแล้ว” กู้หลาานพูดสวีจิ้งอวี่ถูกเลี้ยงมาโดยจ้าวเป่าอวิ๋น เขาก็รู้จักแต่เพียงอยากจะได้โดยพาะเงินทองกี่ปีมานี้ก็ได้จากพวกเธอสองพี่น้องไปไม่น้อย!แต่ครั้งนี้ ก็หลานอยากจะจัดการเรื่องทุกอย่างให้มันแล้วสิ้นไปคนเราควรจะมีเส้นแบ่งกั้นต่อกันบ้าง!ถ้าคนเราไม่ขีดเส้นแบ่งให้ดี สุดท้ายคนที่เจ็บปวดก็คือ
ไม่ว่าจะเป็นยังไงสวีจิ้งอวี่ก็คือคนที่ถูกส่งเข้าเมืองเพื่อเรียนต่อมหาวิทยาลัยทำไมเวลาที่พูดอะไรออกมาแต่ละคำถึงได้น่ารังเกียจขนาดนี้นะ?ตอนนี้สวีจิ้งอวี่ปวดหัวมากๆ “คนที่ไม่ยอมนับญาติกับใครเลยต่างหากถึงน่ารังเกียจ”“ใช่ ฉันไม่อยากนับญาติกับใครทั้งนั้น! แต่ก็ดีกว่าคนที่คอยจะหลอกเอาเงินญาติคนอื่นแบบเธอ!”น้ำเสียงของกู้อิ๋นเต็มไปด้วยความกระแทกแดกดันเมื่อก่อนเธอไม่เคยคิดจะสนใจคนแบบสวีจิ้งอวี่ครั้งนี้เธอเองก็ไม่คิดจะไว้หน้าเขาด้วย!สวีจิ้งอวี่ได้ฟังก็งุนงงไปชั่วขณะสำหรับเขาแล้วกู้อิ๋นเป็นคนที่ขี้ขลาดตอนนี้มันคืออะไร……!?เพียงแค่ไม่นานเขาก็ดึงสติกลับมาได้ “นั่นสินะ คนที่ไปอยู่ในเมืองใหญ่ก็ไม่เหมือนใคร ตอนนี้กล้าที่จะพูดอะไรแบบนี้แล้วหรอ?”กู้อิ๋นหัวเราะเย็นๆ “ทำไม? คนน่ารังเกียจแบบนายคิดอยากจะเหยียบฉันไว้ตลอดไปหรือไง?”เพียงคำว่า ‘คนน่ารังเกียจ’ ก็กระแทกแดกดันสวีจิ้งอวี่ไปทั้งตัวตอนนี้สวีจิ้งอวี่โมโหจนพูดอะไรไม่ออก!“นายมาที่เมืองก่างแล้วล่ะสิ?” กู้อิ๋นถาม“ใช่ พรุ่งนี้เก้าโมงเช้า มารับที่สถานีรถไฟด้วย!” สวีจิ้งอวี่กัดฟันพูดอย่างอดทน“.…..” กู้อิ๋นไอ่เด็กโง่นี่ ตอนนี้ย
ตอนนี้ต่อให้ไม่ดูกู้อิ๋นก็พอจะเดาได้ว่าสวีจิ้งอวี่คงจะโมโหจนแทบบ้าแต่เมื่อคิดได้ว่ากู้หลานคงไม่ยอมให้เงินเขาสักบาทในใจของกู้อิ๋นก็รู้สึกดีขึ้นมาทุกครั้งที่เห็นท่าทีประนีประนอมของกู้หลานเธออึดอัดจนแทบบ้า!แต่ตอนนี้ทุกอย่างมันจบลงแล้ว!พอคิดได้เธอก็รีบโทรหาเหยียนฉู่ตอนนี้สิ่งที่น่าปวดหัวที่สุดคือปัญหาของตัวเธอเองเหยียนฉู่รับโทรศัพท์อย่างเร็ว “อย่ามาบอกเชียวนะว่าเธอมีปัญหาอีกแล้วน่ะ”ในสายโทรศัพท์น้ำเสียงของเหยียนฉู่เหมือนกับคนที่ตายแล้วเกิดใหม่อย่างไรอย่างนั้น“เธอเป็นอะไรหรือเปล่า?” กู้อิ๋นถาม“นี่เธอบอกประธานเผยยังไงทำไมลั่วเหยียนถึงมาถามว่าฉันท้องหรือเปล่า?” “งั้นแล้วเธอตอบไปว่ายังไง?”“ไม่ท้องแล้วก็ท้องแล้ว!” น้ำเสียงของเหยียนฉู่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดใช่ เจ็บปวดเธอคิดว่าตัวเองในวันนี้ถูกบีบให้เดินมาจนถึงจุดที่เรียกว่าเจ็บใจแล้วก็ไม่รู้ว่าหัวใจของเธอมีปัญหาแล้วหรือเปล่า เธอมักจะคิดว่าการมีชีวิตอยู่นี่มันยากจริงๆ“งั้นสรุปเธอท้องหรือไม่ท้องล่ะ?” กู้อิ๋นถาม“ลั่วเหยียนเหมือนจะเริ่มสงสัยแล้วว่าคนที่หนานเฉิงในคืนนั้นถ้าไม่ใช่เธอก็คือฉัน”เพราะอย่างนั้นเรื่องในเลวร้