ตอนนี้ต่อให้ไม่ดูกู้อิ๋นก็พอจะเดาได้ว่าสวีจิ้งอวี่คงจะโมโหจนแทบบ้าแต่เมื่อคิดได้ว่ากู้หลานคงไม่ยอมให้เงินเขาสักบาทในใจของกู้อิ๋นก็รู้สึกดีขึ้นมาทุกครั้งที่เห็นท่าทีประนีประนอมของกู้หลานเธออึดอัดจนแทบบ้า!แต่ตอนนี้ทุกอย่างมันจบลงแล้ว!พอคิดได้เธอก็รีบโทรหาเหยียนฉู่ตอนนี้สิ่งที่น่าปวดหัวที่สุดคือปัญหาของตัวเธอเองเหยียนฉู่รับโทรศัพท์อย่างเร็ว “อย่ามาบอกเชียวนะว่าเธอมีปัญหาอีกแล้วน่ะ”ในสายโทรศัพท์น้ำเสียงของเหยียนฉู่เหมือนกับคนที่ตายแล้วเกิดใหม่อย่างไรอย่างนั้น“เธอเป็นอะไรหรือเปล่า?” กู้อิ๋นถาม“นี่เธอบอกประธานเผยยังไงทำไมลั่วเหยียนถึงมาถามว่าฉันท้องหรือเปล่า?” “งั้นแล้วเธอตอบไปว่ายังไง?”“ไม่ท้องแล้วก็ท้องแล้ว!” น้ำเสียงของเหยียนฉู่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดใช่ เจ็บปวดเธอคิดว่าตัวเองในวันนี้ถูกบีบให้เดินมาจนถึงจุดที่เรียกว่าเจ็บใจแล้วก็ไม่รู้ว่าหัวใจของเธอมีปัญหาแล้วหรือเปล่า เธอมักจะคิดว่าการมีชีวิตอยู่นี่มันยากจริงๆ“งั้นสรุปเธอท้องหรือไม่ท้องล่ะ?” กู้อิ๋นถาม“ลั่วเหยียนเหมือนจะเริ่มสงสัยแล้วว่าคนที่หนานเฉิงในคืนนั้นถ้าไม่ใช่เธอก็คือฉัน”เพราะอย่างนั้นเรื่องในเลวร้
ก่อนนี้เขาก็พูดแบบนั้นอยู่หรอก!ถ้าไม่อย่างงั้นเธอจะเอาแต่วางแผนเรื่องที่จะทำหลังจากวันพรุ่งนี้ทำไม?แต่ในตอนนี้ “ก็เมื่อกี้เขาเพิ่งบอกว่าจะให้ฉันไปด้วยนี่”“งั้นจะทำยังไงดี? เด็กในท้องเธอคนนี้ถ้าไม่รีบจัดการ ถ้าอายุครรภ์มากขึ้นจะทำไม่ได้แล้วนะ”“เธอคงไม่รู้ใช่ไหมว่าผ่านช่วงสามเดือนไปแล้วจะไม่ให้ทำแท้งแล้วน่ะ!”มีกฏหมายข้อนี้ด้วยหรอ? กู้อิ๋นไม่เคยรู้มาก่อน!จากที่เธอพอจะรู้เกี่ยวกับตารางงานของเผยเซียว หลังจากไปทำงานต่างเมืองพรุ่งนี้แล้วกว่าจะไปอีกทีเด็กในท้องก็อายุครรภ์สี่เดือนเข้าไปแล้วเมื่อคิดได้ดังนั้น ริมฝีปากของเธอก็กระตุกขึ้นมาตอนนี้เวลาที่จะให้เธอคิดหาหนทางทำอะไรสักอย่างยังไม่มีพอเลยด้วยซ้ำ“งั้นฉันจะทำยังไงดี?” กู้อิ๋นถาม“เธอรีบหาทางที่จะไม่ไปเถอะ”“มีทางไหนอีกล่ะ?” น้ำเสียงของกู้อิ๋นสั่นเครือก่อนหน้านี้เหยียนฉู่ไม่ได้บอกเธอ เธอจึงไม่ได้คิดถึงความแย่ของเรื่องนี้ แต่ตอนนี้นึกถึงมันได้แล้ว“แกล้งป่วยสิ” กู้อิ๋นว่าตอนนี้นอกจากจะแกล้งป่วยยังจะมีวิธีอะไรอีก!?“ไม่ได้นะ!” กู้อิ๋นตอบเธอจะแกล้งป่วยไม่ได้เด็ดขาดคิดถึงเรื่องก่อนหน้านี้สิ่ง คุณ๋อก็ทำเอาเธอตกใจแทบแย
“ระวังหน่อยค่ะนายหญิง ซุปหม้อนี้ยังร้อนอยู่” ป้าเฉินถือเอาน้ำเปล่าเย็นๆมากู้อิ๋นน้ำตาจะไหลอยู่แล้วเผยเซียวเห็นท่าทางของเธอก็ถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยใจเธอหยิบเอาน้ำเย็นในมือของป้าเฉิน “คิดอะไรอยู่ ทำไมเหม่อขนาดนี้?”เห็นนัยน์ตาที่คลอไปด้วยน้ำตาของกู้อิ๋นน้ำเสียงของเผยเซียวก็อบอุ่นขึ้นเล็กน้อยเมื่อก่อนเขารำคาญผู้หญิงที่ขี้แยมากๆ คิดว่ามันแปลกๆแต่พอมาเป็นกู้อิ๋นที่น้ำตาไหลอยู่บ่อยๆเขากลับไม่ได้เกลียดมันเท่าที่ควรกู้อิ๋นรีบรับน้ำมาดื่ม ความเย็นของน้ำทำให้เธอรู้สึกีขึ้นมาหน่อยป้าเฉินถือน้ำแข็งเดินมา “อมไว้สักก้อนเถอะค่ะ”เผยเซียวหยอบเอาถังน้ำแข็งมาถือไว้ก่อนจะคีบน้ำแข็งขึ้นมาหนึ่งก้อนส่งไปที่บริเวณริมฝีปากของกู้อิ๋น “อ้าปาก”กู้อิ๋นเองก็อ้าปากอย่างว่าง่ายเมื่อมีน้ำแข็งอยู่ในปากความเจ็บปวดก็เหมือนจะดีขึ้นเมื่อสักครู่นี้มันร้อนซะจนเธอแทบจะทนไม่ไหว!เธอมองไปทางเผยเซียวก่อนจะร้องออกมา “เจ็บค่ะ”“รู้ว่าเจ็บด้วยหรือไง? ครั้งหน้ากินข้าวต้องตั้งใจนะรู้ไหม?” เผยเซียวพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง!เห็นท่าทางน่าสงสารของกู้อิ๋น น้ำเสียงของเขาก็ดูจะโทษว่าเป็นความผิดของเธอแต่ก็เพียงเล็ก
“ไอ่นิสัยพูดติดอ่างเมื่อไหร่จะแก้ได้สักที?”ก็คงเป็นตอนที่ไม่กลัวเขาแล้วล่ะมั้ง?สำหรับเรื่องที่กู้อิ๋นกลัวตัวเอง เผยเซียวก็เหนื่อยใจ นี่เขาไม่ดีต่อเธอหรือไง? ทำไมต้องกลัวขนาดนั้นกู้หลานยิ้มออกมาอย่างสดใส “ฉัน ฉันจะพยายามค่ะ!”“เก็บของเสร็จหรือยัง?” เผยเซียวถาม“ค่ะ” กู้อิ๋นพยักหน้า!เผยเซียวช่วยเธอเช็ดผมทำเอาเอตกใจจนไม่กล้าขยับตัวเมื่อก่อนเขายังเคยช่วยเธอดึงผมอยู่เลย!ทั้งสองขยับเข้ามาใกล้กันมากขึ้น กลิ่นอายของชายหนุ่มล้อมรอบไปทั่วทั้งตัวของกู้อิ๋นตอนนี้ในใจของเธอเหมือนกับถูกเติมเต็มตอนนี้ในใจของเธอประหม่ามากๆผ่านไปได้ไม่นานผมของเธอก็แห้ง “ไปนอนซะ”“ค่ะ” กู้อิ๋นลุกขึ้นยืนก่อนจะรีบเดินกลับเข้าไปที่ห้องนอนเผยเซียวเห็นทิศทางที่เธอเดินไปก็ขมวดคิ้ว “ถ้าตอนกลางคืนไข้ขึ้นจะทำยังไง?”เท้าที่กำลังก้าวเดินของเหยียนฉู่ชะงักลง!เธอหันหลับไปมองเผยเซียวด้วยแววตาน่าสงสาร “ไม่หรอกค่ะ”“ไปห้องนอนหลัก!”คำสี่คำนี้ถูกพูดออกมาอย่างไม่ยอมให้เธอได้ปฏิเสธกู้อิ๋นเบะปากอย่างน้อยใจ ถ้าต้องไปนอนที่ห้องนอนหลักแล้วตอนกลางคืนเกิดปีนเตียงเขาขึ้นมาจะทำยังไงล่ะ!?ผ่านมาก็ตั้งหลายปี เอก็เพิ่ง
และเพราะแบบนี้สมองของกู้อิ๋นก็เบลอๆก่อนจะหลับสนิทไป!รอจนถึงตอนที่เธอตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็เป็นตอนที่เสียงนาฬิกาปลุกของเผยเซียวแผดเสียงขึ้นตอนที่เธอสะลึมสะลืออยู่นั้นก็เห็นผู้ชายคนหนึ่งอยู่ตรงหน้า เธอเหมือนจะหยุดหยุดหายใจเธอชักจะหมดหนทางช่วยเหลือแล้วจริงๆ ทำไมถึงปีนเตียงของประธานเผยอีกแล้วล่ะ? เธอคงใกล้จะตายแล้วจริงๆ“ประธานเผย~!”กู้อิ๋นก้มหน้าลงก่อนจะรีบมุดหายเข้าไปในผ้าห่มเธอในตอนนี้ไม่กล้ามองหน้าของเผยเซียวด้วยซ้ำและในตอนที่เธอมุดเข้าไปในผ้าห่มถึงเพิ่งจะรู้ว่าขาของเธอกำลังพันอย่กับขาของเผยเซียวตอนนี้เธอนึกอยากจะตบตัวเองสักทีสองทีให้รู้แล้วรู้รอดไปและที่แย่ไปกว่านั้นก็คือมือของเผยเซียวมันถูกวางอยู่ที่บริเวณหน้าท้องของเธอความอบอุ่นนั่นทำให้เธอรู้สึกเหมือนถูกไฟซ๊อตก็ไม่ปาน เธอกลัวว่าเผยเซียวจะออกแรงบีบหน้าท้องของเธอ“ยังไม่ตื่นอีกหรือไง?”บนหัวของเธอมีเสียงของเผยเซียวดังขึ้น“ตื่นแล้ว ฉันตื่นแล้วค่ะ!” กู้อิ๋นพูดพูดจบเธอก็รีบลงมาจากตัวของเผยเซียว...ใช่ ลงมาจากตัวของเผยเซียวเพราะร่างของเธอครึ่งนึงเกยทับอยู่บนตัวเผยเซียวกู้อิ๋นเพราะอารามรีบร้อนที่จะลงจากเตียงจึงทำ
ในตอนที่พวกเขาทั้งสองคนทานอาหารเสร็จเตรียมตัวจะออกจากบ้าน ด้านนอกฟ้าเริ่มที่จะสว่างขึ้นแล้วตอนนี้คนขับรถเองก็จอดรถรอทั้งสองคนที่ด้านนอกเรียบร้อยแล้วกู้อิ๋นในมือถือกระเป๋าเดินทางด้วยทำให้เดินได้ช้าลง เผยเซียวหันกลับไปมองเธอก่อนจะหยุดยืนรอเธอ“ทำไมยังช้าอยู่?”พูดถึงความเร็วในการเดินของกู้อิ๋น เผยเซียวเองก็ได้แต่อ่อนอกอ่อนใจ!ทุกครั้งเวลาที่ในมือเธอถือหรือว่าลากอะไร ความเร็วในการเดินก็เหมือนกับหอยทากอย่างไรอย่างนั้น ใช้ไม่ได้เลยจริงๆ!กู้อิ๋นเหนื่อยจนหอบ “หนักมากเลยค่ะ”เผยเซียวรับเอากระเป๋าของเธอมาถือและมันไม่หนักเลยสักนิดเดียว!“ประธานเผยคะ เดี๋ยวฉันถือเองก็ได้ค่ะ” กู้อิ๋นรู้สึกเกรงใจก่อนจะมองไปทางกระเป๋าของเผยเซียวด้วยสีหน้ายุ่งยากผ็ช่วยคนอื่นเวลาไปทำงานต้องช่วยเจ้านายถือของ เธอนี่สิ ยังต้องให้บอสช่วยถือของอีกคนขับรถมองเห็นพวกเธอก็รีบลงจากรถมาช่วยในตอนที่เขารับเอากระเป๋าจากในมือของเผยเซียวก็มองไปทางกู้อิ๋นอย่างสนใจเห็นได้ชัดเลยว่าที่บริษัททุกคนยังปรับตัวไม่ได้กับเรื่องการแต่งงานกันแล้วของทั้งเผยเซียวและกู้อิ๋นเพราะว่ากู้อิ๋นเป็นเลขาส่วนตัวของเผยเซียวมาตลอด เห็นเผยเ
แล้วในใจของประธานเผยคิดว่าเธอมีค่าแค่เพียงเป็นคนช่วยดื่มเหล้าแทนใช่ไหม?ถ้าหากไม่สามารถดื่มแทนได้ อย่างนั้นเธอก็ไม่มีประโยชน์อันใดสักนิดเลยใช่ไหม?กู้อิ๋นมองไปที่เผยเซียวด้วยความกลัดกลุ้มใจ!เผยเซียวชายตามองด้วยสายตาเย็นชา “เป็นอะไรหรือ?” “ไม่มีค่ะ!” กู้อิ๋นไม่กล้าเอ่ยเรื่องดื่มเหล้าไม่เป็นออกมาถ้าหากเธอมีประโยชน์เพียงแค่นี้จริงๆล่ะก็ แล้วถ้ากล้าเอ่ยเรื่องดื่มเหล้าไม่เป็นล่ะ แน่นอนว่าก็ถูกไล่ออกอย่างเป็นแน่เพียงแค่เธอทำงานไม่ดีหรือ?เธอเป็นคนที่รอบคอบมีความรับผิดชอบสูง มีวินัยปฏิบัติตามระเบียบ ทำขนาดนี้แล้วจะถูกปฏิเสธได้อย่างไร?ในใจกู้อิ๋นรู้สึกอึดอัดคับข้องใจเป็นอย่างมาก แต่ก็ไม่กล้าที่จะเอ่ยออกมาบนเครื่องบินเธอและเผยเซียวนั่งชั้นธุรกิจด้วยกันพนักงานบนเครื่องบินได้เสิร์ฟขนมของว่างให้ เมื่อก่อนกู้อิ๋นไม่ค่อยสนใจของว่างพวกนี้สักเท่าไหร่นัก แต่ทว่าเมื่อได้เห็นในตอนนี้แล้ว เธอก็อยากจะรับประทานมันขึ้นมาส่วนเผยเซียวกลับไม่สนใจสิ่งเหล่านี้สักเท่าไหร่กู้อิ๋นหยิบขนมถุงหนึ่งแล้วแกะออกหยิบชิ้นเล็กขึ้นมากัด เสียงเคี้ยวดัง“กร็อบๆ!” เผยเซียวผู้ซึ่งนอนปิดตาอยู่ทันใดนั้นก็ลืมตาข
สูดลมหายใจเข้าลึกๆ “คุณบอกว่าฉันทำงานไม่กระฉับกระเฉง แล้วทำไมยังให้ฉันทำงานอยู่กับคุณเป็นเวลานานล่ะคะ?”รู้แค่ว่าผู้ช่วยของเขาคนก่อนๆทำงานอยู่กับเขาล้วนแต่อยู่ได้ไม่นาน!เล่ากันว่านานที่สุดก็แค่สามเดือน สุดท้ายเพราะว่าทนไม่ไหวที่จะให้ท่าเขาก็เลยถูกไล่ออกแต่หากเปรียบเทียบระหว่างเธอกับคนอื่นๆนั้น ศักยภาพการทำงานก็แค่งั้นๆจริงๆ แม้จะนับว่าเธอเป็นคนที่มีการจัดการอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย แต่อันที่จริงแล้ว......ก็ไม่ถือว่าเป็นคนที่โดดเด่นและถึงขนาดที่ว่าด้อยกว่าคนอื่นๆที่ผ่านมาดูเหมือนว่าจะมีทั้งความสามารถและประสบการณ์ อันที่จริงแล้วทำการสิ่งใดล้วนแต่อาจเกิดข้อผิดพลาดขึ้นได้ ในการทำงานก็ไม่สามารถไว้วางใจเธอคนนี้ได้จริงๆเผยเซียวได้ฟังกู้อิ๋นถามคำถามนี้ขึ้นมา ก็ตกอยู่ในสถานการณ์ที่น่าครุ่นคิดไตร่ตรองกู้อิ๋นเห็นเผยเซียวไม่เอ่ยคำพูดใดๆขึ้นมา จึงสูดหายใจเข้าเต็มปอดแล้วถามออกไป “เพียงเพราะฉันสามารถดื่มเหล้าเป็นจริงๆใช่ไหมคะ?”เผยเซียวฟังถามคำนั้นไปก็ตกตะลึง!สายตาเพ่งมองที่บนใบหน้าที่ลำบากใจของกู้อิ๋นหากคิดดูแล้ว เธอก็ดูเหมือนมีความสามารถเพียงเท่านี้“อืม ประมาณนั้นแหละ” เผยเซี