น้ำเสียงเย็นชาที่ใช้ถามกลับทำให้กำแพงในใจที่สร้างไว้ของเธอล้มลงจนหมด!แต่เธอยังคงพยายามเข้มแข็งไว้ ก่อนจะได้ยินเธอพยายามพูด “ไม่มีปัญหาแน่นอนค่ะ”“หืม?”ไม่มีปัญหา กล้าที่จะบอกว่าไม่มีปัญหามาถึงตอนนี้ควรจะพูดว่าเธอปากแข็งดีหรือจะพูดว่าเธอไม่รู้ว่าเรื่องนี้มันใหญ่แค่ไหนดี?“งั้นฉันขอเตือนเธอสักหน่อย ชื่อในใบรับรองแพทย์นั้นเป็นชื่อของกู้อิ๋น!” น้ำเสียงของลั่วเหยียนดุดันมากยิ่งขึ้น“ใช่ค่ะ เป็นชื่อของกู้อิ๋นแต่เป็นเพราะฉันเขียนผิดไงคะ” เหยียนฉู่ว่าลั่วเหยียนมองไปทางเธอด้วยสายตาดุดัน เขาไม่พูดอะไรเพื่อรอฟังเธอพูดประโยคต่อไปเหยียนฉู่ถูกเขามองแบบนี้ก็ยิ่งประหวั่นแต่เธอก็ยังคงพยายามต่อไป “พ่อบังคับให้ฉันแต่งงาน ตอนแรกฉันตั้งใจจะออกใบรับรองแพทย์ให้ตัวเอง แต่ว่าตอนนั้นกำลังโทรศัพท์อยู่ก็เลยพูดผิดเป็นชื่อของกู้อิ๋น เพราะอย่างนั้นมันก็เลยผิดไปน่ะค่ะ”เหยียนฉู่พูดออกมาหน้าตาเฉย!ลั่วเหยียนก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ เขายกน้ำขึ้นมาดื่มท่าทางไม่เดือดเนื้อร้อนใจนั่นกำลังบอกเหยียนฉู่ว่าเขาไม่เชื่อเธอแม้แต่น้อย!เห็นท่าทางแบบนี้ของเขาเหยียนฉู่ก็ยิ่งประหวั่นใจถึงแม้ว่าตอนนี้เธอจะพยายามปลอบใจต
แล้วเธอตอบว่าไม่ใช่ได้ไหม?เห็นได้ชัดเลยว่าไม่ได้!คำพูดที่พูดออกไปก็ไม่ต่างจากน้ำที่ถูกสาดออกจากแก้ว......ถ้าตอนนี้เธอคิดจะคืนคำก็เหมือนกับเธอยอมรับต่อหน้าลั่วเหยียนว่าคำโกหกทั้งหมดที่ผ่านมาของเธอมันไม่ใช่ความจริงและมันจะตามมาด้วยเรื่องราววุ่นวายอีกมากมายพอคิดได้ดังนั้นเธอจึงพยักหน้า “ฉันสาบานเลยว่าฉันพูดความจริง”“เพราะอย่างนั้นก็แปลว่ากู้อิ๋นพูดโกหกใช่ไหม?”ใช่อะไรล่ะ?เหยียนฉู่คิดว่าตอนนี้เธอกำลังจะเป็นบ้าแล้วต่อหน้าสายตาของลั่วเหยียนเธอจะพยักหน้าก็ไม่ได้ จะส่ายหน้าก็ยิ่งไม้ได้!สุดท้ายเธอจึงกัดฟัน “ฉันไม่รู้หรอกนะคะว่าเขาพูดว่าอะไร แต่ที่ฉันพูดน่ะเป็นความจริงแน่นอน”ในตอนนี้เหยียนฉู่คิดว่าตัวเองไม่รู้ว่ากู้อิ๋นพูดว่าอะไรไม่แน่ลั่วเหยียนอาจจะกำลังหลอกเธอก็ได้โดยเฉพาะในช่วงเวลานี้ สิ่งเดียวที่เธอพอจะทำได้ก็คือยึดมั่นในคำพูดของตัวเองไม่ปล่อยโอกาสให้เขาสงสัยต่อให้เขาจะสงสัยอะไร แต่เธอก็ไม่ควรเปิดโอกาสให้เขาสงสัยไปมากกว่านี้และเพราะแบบนี้เหยียนฉู่จึงได้เดินบนนถนนแห่งคามมืดของการโกหก และยังเดินไปไกลยิ่งกว่าเดิมที่ซ่างเหอหยวนฝีมือของป้าเฉินอร่อยมากๆกู้อิ๋นไม่
แต่เธอคิดได้ว่าเหยียนฉู่เป็นคนที่ใจแข็งยิ่งกว่าอะไรพอคิดได้แบบนี้เธอก้ไม่กลัวมากแล้วจนกระทั่งบ่ายสามเหยียนฉู่ถึงจะมาตอบข้อความของเธอ “ฉันตายไปแล้วหนึ่งครั้ง!”“หัวหน้าลั่วเรียกเธอไปพบจริงๆหรอ?” เหยียนฉู่ถาม“เธอรู้แล้วยังไม่ยอมมาบอกฉันงั้นหรอ?” พอพูดถึงเรื่องนี้เหยียนฉู่ก็รู้สึกเหนื่อยใจเธอคิดว่าเรื่องของกู้อิ๋นใกล้จะปิดบังต่อไปไม่ได้อีกแล้วถึงแม้ว่าวันนี้จะไม่ได้เกิดเรื่องใหญ่อะไรขึ้น!แต่ลั่วเหยียนกับเผยเซียวเหมือนกับว่าจะคอยจ้องพวกเธออยู่ตลอดเวลา นี่มันเป็นเรื่องที่ยังไงก็ต้องเกิดขึ้นอยู่แล้ว“ฉันก็อยากจะโทรบอกเธอ แต่ทำไม่ได้นี่ ก็เขาโทรหาประธานเผยเลยนี่นา” กู้อิ๋นว่าตอนนั้นอยู่กับความกดดันของเผยเซียวเธอจะขยับก็ยังไม่กล้าด้วยซ้ำเธอจะกล้าส่งข่าวให้เหยียนฉู่ได้ยังไง!“พวกเราจะตายกันแล้ว!” เหยียนฉู่ว่าคำพูดพวกนี้ต่อให้มองไม่เห็นหน้าของอีกฝ่ายกู้อิ๋นก็รู้ได้เลยว่าสีหน้าของอีกฝ่ายเป็นแบบไหนวันนี้คงจะตกใจมากจริงๆ!วันนี้มันกระทันหันมากจริงๆกู้อิ๋นมองไปทางด้านบนเผยเซียวอยู่ในห้องทำงานไม่ออกมาคงจะประชุมอยู่เธอถือโทรศัพท์เดินเข้าไปในห้องนอนก่อนจะกดโทรหาเหยียนฉู่ฝ
“ช่วงนี้เธอก็สงบๆหน่อย ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น เช้าใจไหม!?”น้ำเสียงของเหยียนฉู่จริงจังมากเธอกลัวว่ากู้อิ๋นจะทำอะไรให้เผยเซียวสงสัย“งั้นเด็กในท้องฉันล่ะจะเอายังไง?” กู้อิ๋นถาม“.…..” เหยียนฉู่ไม่พูดถึงเด็กยังดี พอพูดถึงแล้วใจที่เตรียมพร้อมจะตายก็มีแล้วนั่นสินะ ยังมีเรื่องของเด็กอยู่!“เธอยังไม่ได้ลองถามประธานเผยอีกหรอ?”“ฉันไม่กล้า!”“.…..” ไม่กล้า งั้นแล้วตอนนี้จะทำยังไงล่ะ?เวลาแค่ไม่นานนี้ ทำไมพวกเธอถึงได้มีเรื่องมากมายขนาดนี้นะ?เหยียนฉู่อยากจะร้องไห้จริงๆจะจัดการกับเด็กในท้องเลยพวกเธอก็ไม่กล้า!แต่ถ้าลองถามเผยเซียวเขาก็เนคนช่างสังเกต จะต้องสงสัยแน่ๆถ้าเกิดว่าสืบต่อไป ไม่ต้องบอกก็รู้......ตายแน่!เห็นเหยียนฉู่หมดคำจะพูด กู้อิ๋นก็อดจะสะอื้นไม่ได้ “ทำยังไงดี? เรายื้อต่อไปไม่ได้แล้ว!”เมื่อก่อนหมอก็เคยบอกแล้วถ้าเกิดว่าไม่อยากได้ก็ต้องรีบจัดการถ้าเกิดเด็กในท้องตัวโตเกินไป มันคงจะผ่าตัดได้ยากขึ้น!“.…..” เหยียนฉู่งั้นจะทำยังไงดี?ถ้าสารภาพไปตอนนี้ก็จะลำบากไปถึงตระกูลเหยียนยิ่งพอนึกถึงตอนที่พ่อของเธอรู้เรื่อง เธอก็……!“งั้นวันนี้เธอก็ลองคิดหาวิธีถามประธานเผย
เห็นสีหน้าของเขาเคร่งขรึมลงในใจของกู้อิ๋นก็เหมือนกับถูกควักออกไปตอนนี้เธอไม่เหลือพลังมาคิดอะไรแล้วตอนนี้นัยน์ตาของเผยเซียวมีแต่ความเย็นชาพาดผ่าน เขาเดินก้าวขายาวๆมาทางกู้อิ๋น ก่อนจะบีบคางของเธอเบาๆ น้ำเสียงของเขามีแต่ความเย็นชา “ลูก? เธอหมายความว่ายังไง?”นี่ นี่มัน……!นี่เขากำลังฟังอะไรอยู่?กู้อิ๋นเงยหน้าอย่างระมัดระวัง สิ่งที่เธอมองเห็นคือสายตาคมๆของเผยเซียวแค่เพียงนิดเดียวเธอก็รีบปิดตาลง!แรงบีบที่คางก็แรงมากขึ้นไปอีก “ลืมตา!”กู้อิ๋นไม่กล้านี่!แรงบีบที่คางของเธอก็ยังคงแรงขึ้น กู้อิ๋นฝืนลืมตาขึ้นมาก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงน่าสงสาร “ประธานเผยคะ”“ลูกอะไร ไหนพูด?” เผยเซียวว่าน้ำเสียงของเผยเซียวยิ่งดุดันมากขึ้น ทำให้สติที่เพิ่งจะกลับมาแตกซ่านไปอีกครั้งเธอในตอนนี้ไม่เหลือสติให้คิดอะไรแล้วเธอจึงมองไปทางเผยเซียวด้วยสายตาน่าสงสาร!“พูดมา!” เผยเซียวพูดซ้ำ“คะ....คือ คือ คือว่าเหยียนฉู่……!” กู้อิ๋นพูดตะกุกตะกักเดี๋ยวก่อนนะ เหยียนฉู่!เหมือนว่าเมื่อกี้เธอจะลืมถามเหยียนฉู่ไปว่าถูกถามเรื่องอะไรบ้าง และเธอพูดอะไรไปบ้างทำยังไงดี? เธอถูกถามว่าอะไรบ้าง? และเธอพูดอะไรไปบ้าง?
เมื่อก่อนถึงแม้ว่าจะทำงานอยู่ในตึกเดียวกันแต่เดือนนึงเจอกันแค่ไม่กี่ครั้งต่อให้จะเจอกันก็แค่พยักหน้าทักทายเท่านั้นช่วงนี้จำนวนครั้งที่ไปห้องทำงานของเขาทำเอาเหยียนนึกตกใจเหมือนกัน......ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไปเธอคงหลุดก่อนยายโง่กู้อิ๋นแน่ๆ!เหยียนฉู่มองไปทางลั่วเหยียนอย่างอ่อนแรง “หัวหน้าลั่วมีอะไรอีกหรือเปล่า?”จะพูดครั้งเดียวให้จบเลยได้ไหม?ตอนนี้ในใจของเหยียนฉู่เหนื่อยมากๆ ตอนนี้เธอพอจะรู้แล้วว่าทำไมกู้อิ๋นถึงกลัวเผยเซียวเพราะว่า......ปัญหามันเยอะเกินไป!แต่ละวันนี้มีแต่เรื่องเข้ามาจู่ๆเหยียนฉู่ก็ฉุกคิดด่ากู้อิ๋นไม่ได้โง่ เธอเป็นผู้ช่วยที่อยู่กับเผยเซียวได้นานที่สุดผู้ช่วยคนอื่นอยู่กันไม่ถึงเดือนด้วยซ้ำ แต่เธอกลับทำได้เป็นปีๆ! นี่ก็เห็นได้ชัดแล้วว่าเธอไม่ได้โง่แต่ว่าไม่โง่ ก็คงถูกทำให้ตกใจจนเป็นบ้าแล้วล่ะมั้ง?ลั่วเหยียนมองเหยียนฉู่อย่างสังเกต “เธอท้องหรอ?”“.…..” เหยียนฉู่ตอนนี้สมองเธอหยุดทำงานไปแล้ว!เธอมองไปที่ลั่วเหยียนอย่างไม่เข้าใจ เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาไปโดนยาตัวไหนมาทำไมอยู่ๆถึงถามเรื่องนี้ขึ้นมา“เปล่าสักหน่อยค่ะ!” เหยียนฉู่ส่ายหน้า“ไม่ได้ท้องจริงๆหรอ?”
เหยียนฉู่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองออกมาจากห้องทำงานของลั่วเหยียนได้ยังไง แต่ลั่วเหยียนก็ไม่ได้ถามอะไรเธออีกแต่คำว่า ‘สามวัน’ ก็เหมือนกับเสียงของปีศาจอย่างไรอย่างนั้น มันกำลังค่อยๆทำลายประสาทของเธอเพราะอย่างนั้นสามวันหลังจากนี้……!ถ้าเธอไม่เปิดโปงกู้อิ๋นก็ต้องบอกว่าคนที่อยู่ในห้องของเผยเซียวที่หนานเฉิงในคืนนั้นเป็นตัวเธอเอง……!?แบบนั้นไม่ได้แน่นอน ถ้าเธอยอมรับว่าเป็นตัวเองเผยเซียวคงจะต้องเอาเรื่องตระกูลเหยียนแน่ๆถ้าเป็นแบบนั้นชะตาชีวิตของเธอกับพ่อคงต้องไปอาศัยอยู่ข้างถนนแทนแน่ๆทำยังไงดี? เธอจะทำยังไงดี? คนที่ฉลาดมาตลอดแบบเธอตอนนี้รู้สึกเหมือนกับว่าวิญญาณไม่อยู่กับตัวเธอรีบหยิบเอาโทรศัพท์ขึ้นมาก่อนจะโทรไปหากู้อิ๋น แต่เสียงรอสายดังขึ้นแค่ครั้งเดียวก็ถูกตัดสายแล้วเหยียนฉู่กำโทรศัพท์ในมือแน่น เธอคิดได้ว่าตอนนี้กู้อิ๋นอาจจะถูกเผยเซียวสอบสวนอยู่เหมือนกันก็ได้!“เฮ้อ~!” เหยียนฉู่ถอนหายใจออกมาตอนนี้เธอกับกู้อิ๋นถูกต้อนจนมุมแล้วเธอยกโทรศัพท์ขึ้นมาก่อนจะโทรออกไปที่เบอร์หนึ่งทางฝั่งนั้นไม่นานก็รับสายแล้วไม่ต้องรอให้ฝ่ายนั้นพูดก่อน เหยียนฉู่ก็เป็นฝ่ายเริ่มก่อน “พ่อคะ วันนี้จะก
ระหว่างพวกเราไม่จำเป็นต้องมีลูก!รอเขาจัดการเหลียงม่านเข่อแล้วยึดเอากิจการที่ต่างระเทศกลับมาได้ทุกอย่างก็จะจบลงพอถึงตอนนั้นเขาก็จะกลับไปหารักแรกของเขาอย่างหลีเวยเยว่ ส่วนเธอก็เป็นแค่เพียง......กู้อิ๋นคนเดิม!เผยเซียวยุ่งมากๆก่อนจะเดินขึ้นไปข้างบนเขาแวะไปหาป้าเฉิน “เก็บของให้หน่อยนะ พรุ่งนี้ผมจะต่างเมือง”“ได้ค่ะคุณชาย!” ป้าเฉินรับคำอย่างนอบน้อมก่อนจะเดินไปเขาหันหลับมาทางกู้อิ๋น “เธอเองก็ไปเตรียมตัว“กู้อิ๋นได้ยินก็หน้าถอดสีก่อนจะชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง “ฉันก็ต้องไปหรอคะ?”“ถ้าเธอไม่ไปใครจะไปล่ะ?”“.…..” กู้อิ๋นก่อนหน้านี้ไม่ได้บอกว่าจะไม่พาเธอไปหรือไง?แต่พอคิดดูดีๆ ตั้งแต่เข้ามาทำงานเป็นผู้ช่วยของเผยเซียว ทุกครั้งที่เผยเซียวไปต่างเมืองเธอก็เหมือนจะอยู่ข้างกายเขาตลอดเพราะอย่างนั้นครั้งนี้เธอเองก็จำเป็นต้องไปเช่นกันเมื่อถูกสายตาคมๆมองเธอก็รีบพยักหน้า “เดี๋ยวฉันไปเก็บของค่ะ”พูดจบเธอก็รีบเข้าห้องเหมือนหนี!ตายแล้ว!แบบนี้เธอจะทำยังไงดีล่ะ? เรื่องที่เผยเซียวอยากจะมีลูกไหมเธอก็หลอกถามมาได้แล้วก่อนหน้านี้ก็คุยกับเหยียนฉู่แล้วด้วยว่าถ้าเผยเซียวไม่อยากได้ก็จะถือโอกาสช่วงสา