“ไม่ได้พ่ะย่ะค่ะ”ขุนนางต่างคุกเข่าตรงหน้าหลี่หลงเชียวในท้องพระโรง บางส่วนอิจฉาที่ได้ครอบครองแม่นางจูผู้งดงาม บางส่วนก็เห็นว่าไม่สมควรจริงๆ คนที่คิดว่าอิจฉาก็มีบางส่วนที่คิดว่าหลี่หลงเชียวลงแข่งขันแล้วพวกเขาก็แค่หมดหวังก็เท่านั้นยิ่งมอบตำแหน่งฮองเฮานั่นเท่ากับพวกเขาปิดประตูไม่อาจต่อกรได้อีกต่อไปบางคนยอมแพ้แต่บางคนยังฮึดสู้ เช่นนั้นเสียงจึงไม่แตกเป็นเอกฉันท์ว่าไม่สมควรไม่เป็นด้วยคัดค้านและไม่ส่งเสริมฝ่าบาทควรไตร่ตรอง“ควรไม่ควรแล้วแต่ฝ่าบาทจะทรงพิจารณาไตร่ตรองแต่เดิมไม่เคยมีหญิงในหอคณิกาคนไหนได้รับการยกย่องเพียงนี้มาก่อน”หลี่หลงเชียวก็แค่พยักหน้าขึ้นลงไม่ได้รู้สึกโกรธเคืองอะไรหน้าที่ของเขาคือทำให้เหล่าขุนนางและเปลี่ยนความคิดเกี่ยวกับอันเล่อให้ได้เพราะอย่างไรคนที่เขาตั้งใจมอบตำแหน่งฮองเฮามีเพียงอันเล่อเท่านั้น“ข้าต้องการหญิงนางหนึ่งไว้ข้างกายในตำแหน่งฮองเฮาในสามเดือนนี้พวกท่านที่เป็นขุนนางมานานต่างคนต่างมีความเฉลียวฉลาดไม่แพ้กันเช่นนั้นช่วยกันคิดว่าข้าควรจะทำอย่างไร”“เสียงอื้ออึงดังไปทั่วท้องพระโรงหลี่หลงเชียวก็แค่จิบชาเบาๆ ไม่ได้รู้สึกกดดันอะไร คนที่ต้องกดดันเป็นเหล่าขุนนางต่างหากที่บ
“จูอันเล่อ หรืออืมมข้าได้ยินว่านางเป็นท่านแม่หอคณิกาผู้มีอำนาจนี่ เหล่าขุนนางต่างยอมสวามิภักดิ์นางไม่ต่างจากฝ่าบาท”องค์หญิงอิงเผยสะอื้นอย่างแรง“เสด็จแม่ พี่ใหญ่เอาแต่ตามใจนาง แล้วยังจะยกตำแหน่งฮองเอาให้นางอย่างไม่ลังเลแม้ขุนนางจะคัดค้านเรื่องที่นางเป็นท่านแม่หอคณิกาแต่ฝ่าบาทก็ยังหาทางนำตัวนางเข้ามารับใช้ใกล้ชิดในวังหลวง”ไทเฮา สุ่ยจือส่ายหน้าไปมา“เดิมข้าไม่ก้าวก่ายเรื่องวังลหวงมาวันนี้เรื่องวุ่นวายได้ยินมาถึงนี่ แล้วจะถือศีลบำเพ็ญเพียรต่อได้อย่างไรไหวร้อนตูดร้อนก้นเพียงนี้”“เสด็จแม่ฝ่าบาททรงไม่ฟังคำทัดทานของใคร และยังกดดันเหล่าขุนนางจนไม่มีใครกล้าทวงติงเสด็จแม่เท่านั้นที่จะจัดการกับท่านแม่หอคณิกาคนนี้ได้”“พยุงข้าข้าจะกลับวังหลวงเดี๋ยวนี้”อิงเผยก้มหน้าซ่อนยิ้มวังหลวงท่านแม่หอคณิกา “จูอันเล่อ มาถึงแล้วววววว”เสียงขันทีขานดังๆหลี่หลงเชียวนั่งอยู่บนบัลลังก์ใจจดจ่อที่หน้าประตูท้องพระโรงที่อันเล่อกำลังจะก้าวเข้ามาภาพงดงามตรงหน้าทำเอาหลี่หลงเชียวแทบจะลืมหายใจ เช่นไรจึงรู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้พบอันเล่อ มีเหตุผลใดกันบอกว่าต้องรู้สึกตื่นเต้นเพียงนี้"จุอันเล่อถวายพระพรฝ่าบาท”“อันเล่อ
“มารยาสาไถย หอคณิกานี่สร้างคนได้ยอดเยี่ยมจริงๆ”ไทเฮาพร้อมกับอิงเผยขันทีข้างกายนางกำนัลที่พยุงร่างชราดินเข้ามาในท้องพระโรงที่มีเพียงอันเล่อและหลี่หลงเชียวและไคเฉิงในนั้น“เสด็จแม่หลี่หลงเชียวถวายพระพรเสด็จแม่ทรงพระเจริญพันปี”“ยังไม่มีพยุงแม่อีกหรือ ตำแหน่งไทเฮาของข้าคงได้มาเพราะจับสลากสินะ ดูนางสิสวมใส่อาภรณ์งดงามแต่แม้แต่จะย่อกายให้ข้านางยังไม่ทำ ยืนให้ฮ่องเต้ปลอบประโลมราวกับบิดานางตาย” คำพูดแสบๆคันๆ อันเล่อขยับจะย่อกายแต่หลี่หลงเชียวดึงไว้ในอ้อมแขน“ไคเฉิงพยุงไทเฮา”สุ่ยจือไทเฮาส่ายหน้าไปมา“นางเดินไม่ได้หรือ”เอ่ยปากถามน้ำเสียงไม่ได้แสดงว่าเหน็บแนมหาแต่ใสซื่อสิ้นดี“เดินได้เพคะ ลูกยังเห็นนางเดินเหินราวกับคนปกติ”อิงเผยรีบพูดแทรกขึ้น“นางเศร้าโศก ขาของนางมิได้เป็นอะไร”ไทเฮาเลิกคิ้วสูงเหมือนไม่เชื่อที่หลี่หลงเชียวพูดอันเล่อถอนหายใจ“อันเล่อถวายพระพร พระพันปี ทรงพระเจริญ พันปีพันพันปี”ย่อกายลงงดงาม หลี่หลงเชียวถอนหายใจ“เฮ้อ เมื่อก่อนนั้น จะหลับแต่ละคืนจะต้องนอนกอด ข้ามาบัดนี้ฮ่องเต้กับมีหญิง….คณิกาข้างกายไม่สนใจว่ามารดาเช่นข้าจะอยู่ที่ไหน”“เสด็จแม่อันเล่อยังไม่ได้เข้ามานอนร่วมแท่นนอนก
“เฮ้อ คงถึงคราวซวยของท่านแล้วสิจวิ้นหวัง”อันเล่อโยนให้จวิ้นหวังง่ายดาย“กงกง นำจุอันเล่อยังตำหนักฟ้าสาง”หลี่หลงเชียวที่ตงิดตงิดไม่พอใจสายตาของคังหยินที่มองอันเล่อเท่าไหร่นักรีบให้ขันทีพาอันเล่อไปยังตำหนักฟ้าสางที่มีการคุ้มกันแน่นหนา“จิว้นหวังมาครั้งนี้จุดประสงค์คงมิใช่แค่แวะมาใช่หรือไม่”นับไว่าไทเฮามิใช่แค่ปากคอจัดจ้านแต่ยังกล้าคิดกล้าพูด“่พะย่ะค่ะ คังหยินมาครั้งนี้ตั้งใจ มาเพราะได้รับฎีกาหลายฉบับจากเหล่าขุนนางว่าด้วยเรื่องที่ฝ่าบาท ทรง.. ทรง… นำหญิงคณิกาในหอนางโลมมาไว้ข้างกาย”“ก็คงพวกที่แย่งชิงท่านแม่หอสุริยันจันทราใช่ไหมขุนนางเหล่านี้งานราชสำนักมากมายแต่มีเวลาร่างฎีกาส่งไปถึงจวิ้นหวังเพื่อให้มาทัดทานฝ่าบาทเรื่องนี้เชียวหรือ อืมการข่าวนี่ไวดีจริง อยู่ถึงทางใต้รู้ข่าวพอๆ กับข้าที่อยู่ที่วิหารเทียมฟ้าเลยหรือ” คังหยินหน้าตึง“ลูกคงต้องให้สอบสวนหาคนที่ส่งข่าวถึงจวิ้นหัวงให้ลำบากเดินทางมาถึงวังหลวงเสียแล้ว” ไทเฮายิ้มๆ“ตำแหน่งฮ่องเต้ใช่จะได้มาเพราะโชคช่วยหากแต่ได้มาด้วยความพยายาม ฮ่องเต้คงเข้าใจข้อนี้ดีใชไหม”หันมาสั่งสอนลูกชายหัวแก้วหัวแหวน หลี่หลงเชียวยิ้มบางๆ“ เชิญตามสบาย วังหลวงของ
“ทีละคน เข้ามาทีละคนมาให้พวกนางเข้ามาทีละคนมาให้ข้าได้ทดสอบทีละคน”เสี่ยวเอ่อยิ้มแห้งๆ“นายหญิงเจ้าขาจะเหมาะหรือเจ้าคะ”“ถามข้าหรือ เจ้าอย่าลืมว่า ฮองเฮาหรือสนมจะต้องคอยปรนบัติฝ่าบาทแค่เปลื้องผ้ายังไม่กล้าจะปรนนิบัติฝ่าบาทได้ดีหรือ”“เจ้าค่ะ”เสี่ยวเอ่อออกไปแล้ว ขันทีที่คุมตัวหญิงงามที่จะเข้ามาคัดตัวฮองเฮารีบเกณฑ์พวกนางตามคำสั่งอันเล่อ“คุณหนูบ้าน กู้ กู้เสี่ยวโยว่”หญิงงามนามเสี่ยวโยว่ก้าวขาเข้าไปในตำหนักฟ้าสางและปลดอาภรณ์ลงไปกองแทบเท้า อันเล่อ“ข้าน้อยกู้เสี่ยวโยว่”อันเล่อมองสำรวจร่างเปลือยไม่ได้มีทีท่าว่าอย่างไร แต่ใครบางคนที่ยืน แอบมองอยู่ด้านในถึงกับใจเต้นไม่เป็นจังหวะ“หมุนตัว”เสี่ยวโยว่หมุนช้าๆ ให้อันเล่อได้สำรวจ“สวมอาภรณ์ของเจ้าแล้วไปเสีย คนต่อไป”“หมุนรอบๆ”“สวมอาภรณ์ของเจ้าแล้วไปเสีย”“ไทเฮาเสด็จๆๆๆๆๆ” อันเล่อลุกจากแท่นนอนในอาภรณ์ชั้นในๆ ไม่ได้สวมใส่อะไรเพิ่มเติมกว่านั้นเดินมายืนย่อกายตรงหน้าไทเฮา“เฮอะ คิดว่าจะมีวิธีดีกว่านี้สุดท้ายก็แค่เปลื้องผ้า ตามแบบนางคณิกาชอบทำ”“เป็นการดูหญิงงามที่ง่ายที่สุดวิธีหนึ่ง ก่อนนั้นการคัดตัวฮองเฮาก็ทำกันแบบนี้อย่าพูดว่าเหมือนหญิงคณิกาพึ่งกระทำ
“ข้ามีความหวาดกลัวคนผู้หนึ่ง”คังหยินกลืนน้ำลายลงคอยากเย็น“ใครกัน หลี่หลงเชียวหรือไร”อันเล่อส่ายหน้ายิ้มหวาน“ต้านเถียน ราชบุตรเขยต้านเถียน”“ไม่น่าเชื่อท่านแม่หอคณิกาอันเล่อถึงกลับเอ่ยปาก”“ท่านคิดว่าต้านเถียนผู้นั้นเป็นคนเช่นไร”หลุบตามองพื้นรอฟังคำตอบ“ข้าเพิ่งพบเขาไม่สิเขาเพิ่งมาพบข้าทันทีที่ข้ามาถึง”“คงเยี่ยมเยือนตามประสาคนที่ไม่ได้พบกันเสียนาน”คังหยินยิ้มจะบอกอย่างไรว่าต้านเถียนมีอุดมการณ์เดียวกันทว่าไม่อาจร่วมทางคังหยินรู้ดีว่าคนเช่นต้านเถียนไม่อาจวางใจ“เขาเสนอแผนการบางอย่างให้กับข้าแต่ข้าก็คิดว่าข้าควรไตร่ตรองให้ดีก่อนไม่แน่ว่าจะมาอย่างมิตรหรือศัตรู”“อันเล่อห่วงท่านจวิ้นหวังคนผู้นี้ไม่น่าวางใจแม้แต่องค์หญิงที่ร่วมแท่นนอนทุกวันเขายังกล้านอกใจ”คังหยินยิ้มเคลิ้มไปตามคำพูดของอันเล่อที่แสดงออกทั้งสีหน้าและท่าทางว่าห่วงใย“ข้าก็แค่รับเอาข้อมูลสำคัญไม่หวังจะร่วมทางกับเขาแน่”“ท่านคุยกับเขาแล้วหรือเรื่องสำคัญนั้น”“แน่นอน ข้ารับเอาสิ่งที่เขาต้องการจะบอก…ไว้แล้ว”ไม่ยอมบอกว่าเรื่องอะไรนับว่าเขาไม่วางใจอันเล่อเสียทีเดียว“จวิ้นหวัง ไม่กล้าบอกว่าเรื่องราวที่พูดคุยกับต้านเถียนคือเรื่องอะ
มิใช่เพียงแต่ฮ่องเต้กับไทเฮาทว่าเหล่าขุนนางต่างพร้อมใจกัน แวะเวียนมาที่ตำหนักฟ้าสาง“ฮะฮะฮะฮ่าาาอุ๊ป”หลี่หลงเชียวกอดรวบอันเล่อจากด้านหลังจุ๊บที่แก้มหนึ่งทีไม่สนใจสายตาใครกระนั้น ไทเฮาส่ายหน้าไปมา“สนุกจริงเชียวกำลังหัวเหราะอะไรอยู่นี่” ก้มมองอาภรณ์วาบหวิวเผยให้เห็นอกอวบรีบถอดเสื้อคลุมห่มคลุมให้อันเล่อในปิดบังไม่ให้สายตาเหล่าขุนนางที่จ้องตาเป็นมันได้มีโอกาสได้เห็นเนื้อในของอันเล่อ“ถวายพระพรฝ่าบาทไทเฮาทรงพระเจริญ”“ปล่อยนะเพคะ”อันเล่อส่งเสียงปรามหน้าแดงระเรื่อด้วยมีคนที่จับตาจำนวนมาก“ฮ่องเต้ จะประเจิดประเจ้อเกินไปแล้ว เห็นชัดๆ ว่ากำลังคัดตัวฮองเฮาแต่ดูการแสดงออกที่ทำกับ….หญิงคณิกาคนหนึ่งสิไม่รู้สึกว่าไม่บังควรบ้างหรือ แม่ให้ฮ่องเต้มาจัดการนางที่ลบหลู่แม่ แต่ฮ่องเต้กลับมาแสดงให้คนอื่นรู้ว่าคลั่งรักนางเพียงนี้”“เห็นไหมเล่าเพคะ ทำแบบนี้มิใช่แค่เพียงคนนินทาฟ้าตำหนิแม้แต่ไทเฮายังทรงให้ความสนพระทัย”“อย่าสำคัญตัวผิดข้าจะให้ความสนใจเจ้าๆ ทำไมกันในเมื่อก็แค่นางคณิกาเอาตัวแลกเงินก็เท่านั้น ฮ่องเต้เองสักวันเมื่อเบื่อเจ้าก็แค่โยนเศษเงินให้เจ้าก็คงจะพอ”อันเล่อยิ้ม“นั่นสิเพคะ เฮ้อ จะให้เลือกฮอง
“อันเล่อขอบพระทัยฝ่าบาท”หลี่หลงเชียว คว้ามือบางมานั่งบนตักกอดไว้แน่น“อายพวกเขา”ขันทีกับนางกำนัลต่างหลบออกไปหลี่หลงเชียวดอมดมที่ซอกคอขาว“ไม่ไหวแล้ว ทนคิดถึงเจ้าไม่ไหวแล้ว”“ต้องทนเพคะ”“กินเจ้าก่อนเสวยดีไหม หลายวันมานี้ข้าคิดถึงแต่เจ้าเท่านั้นคลอเคลียที่ลำคอขาว พร่ำพูดคำหวาน“เช่นนั้น ก็ไม่ควรรีรอเพคะ” อันเล่อก้มลงกดปิดริมฝีปากกับปากอุ่นจูบซอกซอนหวานฉ่ำ หลี่หลงเชียวใจเต้นไม่เป็นจังหวะรสจูบหวานจะเกินต้าน เลือดในกายพลุ่งพล่าน ลุกขึ้นจากแท่นนั่ง ช้อนร่างบางเข้าไปในแท่นนอนในห้องถัดไปไม่อาจปล่อยให้ความกระหายในรสสวาทสะดุดหยุดลงทาบทับร่างบางไว้ ทั้งตัวบรรจงมอบรสจูบหวานเฉกเช่นเดียวกับที่อันเล่อมอบให้เมื่อครู่เผยอรับรสจูบฉ่ำมือไม่นำล้วงลึกล้ำสอดเสียบ เกินจำนรรจ์กอดรัดพลัน ทั้งดูเลีย อกอวบพ้นเสื้อบางลิ้มรสนางจนครางลั่น มือเรียวสอดใส่พลันกดลิ้นรัวทั่วเนินอูมลิ้นสากกระดกรัว ให้จนทั่วร่องฉ่ำหวาน หยาดเยิ้มโฉมสะคราญ เจ้าเปิดอ้ารอท่าคอย เสียบชักและยักย้ายเสียบแก่นกายลงทันทีนวลน้องไม่รอรีครางเสียงสั่นลั่นแท่นนอน สุขสม อารมณ์รัก แทบสำลักเกินจะถอนเอวแกร่งกระแทกแม่งามงอนจนร่องรักจะบรรลัย หวานรักซ้ำห
“อย่างนั้นสิเพคะต้องทำให้คังหยินวางใจแล้วยังต้องหาทางช่วยต้านเถียนช่วยองคืหญิงอิงเผยหาเรื่องให้ไทเอาออกไปบำเพ็ญเพียรแต่แอบเปลี่ยนเส้นทางมาที่หอคณิกา เพื่อความปลอดภัยหากแผนล่มคังหยินรุ้ว่าฝ่าบาทยังไม่ตายพวกเขาที่เป้นคนที่รักของฝ่าบาทจะต้องกลายเป็นเครื่องต่อรอง”“หากไม่มีเจ้าข้าคงลำบากไม่น้อยขอบใจเจ้าจริงๆอันเล่อมาถึงตอนนี้ เสด็จแม่ก็คงเสียใจที่เคยใช้วาจาดูแคลนเจ้า”“อันเล่อไม่เคยรู้สึกเช่นนั้นการที่ทำได้อย่างทุกวันนี้เพราะไม่ยอมแพ้ คนที่น่านับถือที่สุดคือคนที่ไม่ยอมแพ้”“เฮ้อ ไม่น่าเชื่อหญิงเมามายคนหนึ่งในคืนนั้นจะทำให้สุขสมจนต้องให้คนออกตามหานางและไม่น่าเชื่อว่าหญิงคนเดียวกันนี้จะคือหนึ่งในดวงใจข้าจนไม่มีสายตาไว้มองใคร และยิ่งไม่น่าเชื่อกว่านั้นคือ หลีหลงเชียวคนนี้ตกเป็นทาสของเจ้าแล้วนับจากนี้ไป อันเล่อของข้า”“หือออ ฝ่าบาทขี้โกงแอบกอดแอบหอมไม่เอ่ยถึงตำแหน่งฮองเฮาแม้แต่น้อย”“ก้มันของตายนี่ตำแหน่งฮองเฮาอย่างไรก็ต้องเป็นของอันเล่อคนเดียวไหนบอกว่าไม่ได้อยากเป็นฮองเฮาของใคร”“อะนั่นพูดถึงหากเป็นคังหยินนี่เพคะเขาให้ทองตั้งมากแต่หากเป็นคนนี้…..”ซบหน้าลงบนอกกว้างหลี่หลงเชียวจุมพิตที่ปากบาง อ
“ฉึกๆ”ต้านเถียนที่อยู่ด้านหลังใช้กระบี่ในมือเสียบเข้าที่กลางแผ่นหลังของคังหยิน แล้วชักกระบี่ออก ร่างสูงทรุดกายลงกับพื้นดึงเอาอันเล่อล้มตามลงไปด้วยหลี่หลงเชียวรีบเข้าประคอง อันเล่อให้ลุกขึ้นยืน สำรวจทั่วร่างว่าอันเล่อบาดเจ็บตรงไหนหรือไม่ด้วยความห่วงใย“อะอันเล่อ เจ้าให้เขาฆ่าข้าหรือ ให้ต้านเถียนฆ่าข้าหรือ เจ้าไม่กลัวว่าจะไม่ได้พบข้าอีกหรือเจ้าไม่เคยรักข้าสินะถึงไม่กลัวว่าจะไม่ได้พบข้าอีก”น้ำตาไหลนองอาบแก้ม เลือดสดๆ ไหลออกจากบาดแผล อันเล่อเบือนหน้าซบอกหลี่หลงเชียวเสีย“เจ้าไม่เสียใจใช่ไหมที่ข้าจะจากไป จริงสิเจ้าไม่เคยรักข้ามีเพียงข้าที่โง่งม”“ม่ายๆๆๆๆๆๆๆ”จูไห่หลิงวิ่งเข้ามา พยุงคังหยินไว้ในอ้อมแขน“ฝะฝะฝ่าบาทท่านจะตายไม่ได้ ข้ายังอยากเป็นฮองเฮาท่านจะตายไม่ได้”จูไห่หลิงร้องไห้สะอึกสะอื้น“อั๊กๆๆๆ อันเล่อ ได้โปรดอย่าทำร้ายไห่หลิงอีกข้าขอร้อง ถือเสียว่าข้าชดใช้ในส่วนที่นางทำกับเจ้าไว้แล้ว”อันเล่อหลับตาลงช้าๆ“นางแพศยา เจ้าทำให้เขาต้องเป็นแบบนี้อันเล่อเจ้าฆ่าเขาเขาเป็นสามีข้าใครใช้ให้เจ้าทำร้ายเขา ข้าจะฆ่าเจ้าเสีย”ลุกขึ้นคว้ากระบี่ตรงเข้าหาอันเล่อ ต้านเถียนเสียบคมกระบี่อีกครั้ง“ต้านเถียนอ
จะบอกอย่างไรเขาพอร่วมรักกับจูไห่หลิงแล้วถึงได้รู้ว่าคนที่ไร้ซึ่งความรักไม่อาจให้ความสุขสมได้เท่าหญิงที่ทั้งรักและใคร่ในคราวเดียวกัน“หยุดร้องได้แล้วพรุ่งนี้ข้าให้ฟงฉีรับเจ้าในตำแหน่งสนม”จูไห่หลิงกัดฟันแน่นแค่ตำแหน่งสนมหรือไร แล้วตำแหน่งฮองเฮานั่นจะมอบให้กับอันเล่ออย่างนั้นหรือแต่ไม่เอื้อนเอ่ยออกมา“เพคะไห่หลิงจะรออย่างอดทน”เกี้ยวของคังหยินถูกเร่งความเร็วยังวังหลวง อันเล่อจรดพู่กันลงบนกระดาษสีขาวสะอาดเป็นตัวอักษรสาวยงาม“อันเล่อ”ประตูตำหนักเปิดอ้าออกคังหยินวิ่งเข้ามาสวมกอดอันเล่อที่เบี่ยงตัวหลบ บนกระดาษนั้น“ไร้รักไร้หัวใจหมดสิ้นแล้วความรักก่อนพรุ่งนี้จึงนั่งทอดถอนหายใจพรุ่งนี้จึง ………“เจ้าโกรธข้าหรือ”อันเล่อยิ้มหวานหยด“ไม่เพคะ”“เจ้าหมดรักข้าแล้วหรือจึงเย็นชาเช่นนี้“ไม่เพคะ”“อันเล่ออย่าทำแบบนี้”ตรงเข้าสวมกอดทว่าอันเล่อกลับผลักร่างสูงของคังหยิน“ทำไมเจ้าไม่รักข้าแล้วหรือ หรือเป็นเพราะข้า… กับพี่สาวเจ้า อันเล่อถึงอย่างไรข้าก็รักเจ้าคนเดียวไม่เคยมีคนอื่นในใจ เจ้าอภัยให้ข้าได้ไหม”รู้ว่าสิ่งที่ทำไม่อาจรอดพ้นสายตาอันเล่อ“ ไม่อภัยหากแต่ ฝ่าบาท อันเล่อขอโทษ เพราะอันเล่อไม่เคยรักฝ่าบา
“ขออภัยขอรับท่านแม่ทัพท่านสั่งให้เราเข้มงวดเรื่องการเข้าออกข้าน้อยก็เลยทำตามหน้าที่”“อืมมม”เกี้ยวเคลื่อนออกจากวังหลวงไปยังหอสุริยันจันทรา ต้านเถียนผลักร่างสูงที่ไร้สติของชงหยวนอวี่ลงไปนอนบนพื้นเกี้ยวลุกขึ้นมานั่งกอดอก“ตามอิงเผย”หลี่หลงเชียวสั่งเจียวเจียวให้ไปตามองค์หญิงอิงเผยที่หลับไปแล้ว“ฝ่าบาทท่านแม่อันเล่อ ฝากมาบอกว่านางรอท่านอยู่”หลี่หลงเชียวยิ้มประหลาดใจและดีใจที่พบต้านเถียนถึงจะไม่ชอบเขาแต่ก็อดสงสารน้องสาวไม่ได้“ท่านพี่”อิงเผย พุ่งตัวเข้าหาอ้อมกอดของต้านเถียนที่โอบร่างร่างอวบ หลี่หลงเชียวเผลอถอนหายใจ“ขะขะข้าว่าชาตินี้จะไม่ได้พบท่านอีกแล้ว ท่านทำให้ข้าต้องเศร้าโศกทำไมไม่มาเร็วกว่านี้”“ท่านแม่อันเล่อให้ข้าหลบที่ตำหนักฟ้าสางนางช่วยข้าก่อนที่เพชฌฆาตจะลงดาบ วันนั้นท่านแม่อันเล่อคุมการประหารด้วยตัวเองนางจึงทำตามใจไม่มีใครกล้าขัดนาง แม้แต่ศพของข้ายังไม่มีใครกล้าตรวจสอบเพราะคำสั่งของท่านแม่อันเล่อ ส่วนศพที่เจ้าฝังไปนั้นคือศพไร้ญาติที่ท่านแม่อันเล่อให้คนนำมาสวมรอยเป็นข้า เพราะนางช่วยข้าจึงต้องเชื่อฟังนางนางไม่ให้มาเช่นไรจึงมาได้และข้ายกย่องนางเท่ากับแม่คนหนึ่งนางคืนชีวิตให้ข้าจึงไม
บ้านจู“ฝ่าบาท ไห่หลิงขอบพระทัยฝ่าบาทที่เป็นธุระจัดการเรื่องพิธีศพของท่านพ่อ”สายตาอ่อนหวานเว้าวอน คังหยินถอนหายใจ“อันเล่อนางไม่น่าว่าจะเป็นคนอย่างนี้ ปกติแล้วนางเป็นคนที่มีเหตุผล”“น้องคกำลังเสียใจที่บิดาจาไปไม่ได้ร่ำลา ฝ่าบาทอย่าได้ถือโทษน้องเลยค่ะหากจะดทษใครสักคนต้องโทษไห่หลิงที่สั่งสอนน้องไม่ได้เพราะต่ำต้อยกว่านาง อันเล่อนางเป็นคนที่เข้มแข้งเกินกว่าหฺญิงใดก็ไม่ผิดที่น้องจะแสดงออกอย่างนี้”“ข้าไม่ชอบที่นางเป็นแบบนี้ ต่อไปก็คงร้าวฉานกับนาง”“ฝ่าบาทอย่าทรงกริ้วเพคะ ไห่หลิงในตอนนี้ไร้ญาติขาดมิตรังไม่เคยคิดจะโกรธน้องฝ่าบาทยังไม่รู้จักนางไห่หลิงรู้จักนางดีอนาคตต่อจากนี้นางตัดพี่ตัดน้องไห่หลิงคงไร้ที่พึ่ง”“ไม่ต้องกลัวข้าจะพาเจ้าเข้าวัง ในนามของข้าอันเล่อไม่มีทางกล้าไล่เจ้าอีกแล้ว”จูไห่หลิงย่อกายลงงดงาม คังหยันเข้ามาโอบที่ไหล่บางไห่หลิงยกแขนสองข้างกอดรอบเอวหนาซบหน้าลงบนอกกว้างเงยหน้าเศร้าสร้อยขึ้นสบตาคังหยิน“ไห่หลิงตอ่นี้คงต้องฝากชวีติไว้กับฝ่าบาทแล้ว”“ไม่เป็นไร ข้าเต็มใจ จูไห่หลิงล้วงมือเลยผ่านเข้าไปในอกเสื้อดวงตากลมโตสบตาคังหยินนิ่งก่อนจะรับตาเผยอรมฝีปากคังหยินโน้มตัวลงจูบหวานที่ริม
“ข้ารู้แล้ว อันเล่อทราบเรื่องนี้แล้วเคะ”ท่าทีนิ่งเฉยของอันเล่อ ทำเอาคังหยินขมวดคิ้วกับเรื่องที่เขาพาจูไห่หลิงเข้ามาในตำหนักฟ้าสางเพื่อบอกกล่าวเรื่องการใต้ของใต้เท้าจูให้กับอันเล่อทว่านางกลับเฉยชาจนน่าใจหาย“น้องพี่ท่านพ่อก่อนตาย พร่ำเรียกชื่อเจ้า อภัยให้เจ้า และอยากพบเจ้า”“ข้ารู้แล้ว ท่านมาพูดตอนนี้ได้ประโยชน์อะไรขึ้นมาท่านพ่อป่วยแรมเดือน แต่ก่อนตายไม่ถึงสองชั่วยามที่พร่ำเรียกหา ท่านตอนนั้นทำไมไม่ตามข้าเล่าจูไห่หลิง”“อันเล่อ เจ้าก็รู้ว่าท่านพ่อป่วยแรมเดือนข้าเองก็รู้ว่าแต่ว่าในเมื่อเจ้ามาที่นี่เพื่อมีชีวิตที่ดีออกจากบ้านมาเป็นนายหญิงหอคณิกามีเงินทองมากมาย ข้าจึงคิดว่าเจ้าอาจไม่อยากกลับไปพบกับความลำบากที่บ้านจูอีก”“เป็นพวกท่านที่ผลักไสข้าออกมาแล้วจะมาเรียกร้องสิ่งใดกันกลับไปได้แล้วจูไห่หลิงต่อไปเราสองคนไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกต่อไปแล้ว”จูไห่หลิงกระหยิ่มในใจทำไมจะไม่รู้ด้วยการที่บิดาตายไปอันเล่อจึงโมโหเช่นนี้นางรักบิดาไม่น้อยก็ตั้งแต่เกิดมามีเพียงบิดาที่เลี้ยงดูมารดาของทั้งสองตายไปบิดาก็ไม่เคยมีภรรยาใหม่ ยิ่งนางโกรธยิ่งไม่ได้ดูดีในสายตาของคังหยิน จูไห่หลิงคุกเข่าลงกับพื้นต่อหน้าจูไ
“ข้าหมดใจกับเจ้าแล้ว เจ้าก็ได้แค่เพียงเท่านี้ต่างจากอันเล่อตอนนี้นางซื้อใจฝ่าบาทนั่งเคียงข้างบนบัลลังก์ราวกับฮองเฮาข้าในตอนนี้ถึงจะบอกว่าแค้นนางแค่ไหนในที่สุดก็ต้องยอมลงให้นางเจ้าเทำได้เช่นนางไหมเล่า”ซีหยินหลับตาลงช้าๆ“หย่ากับข้าเสียเถอะ”“ดีมากเจ้ายอมง่ายดายเช่นนี้จึงดี ข้าจะได้มีเอาเวลาทั้งหมดไปทุ่มเทให้อันเล่อเห็นว่าข้ายังอยากจะญาติดีกับนางไม่คิดแค้นเคืองนาง เผื่อโอกาสต่อๆ ไป”ซีหยินยิ้มหยัน“อย่าบอกนะว่าท่านจะ….”“ไม่แน่อันเล่อย่างไรก็มีข้าเป็นรักแรกที่นางทำแบบนั้นอาจเพราะแค้นเคืองข้า หากนางไม่มีใจให้ข้าทำไมไม่ห้ามฝ่าบาทเรื่องที่คืนตำแหน่งแม่ทัพให้ข้า”ซีหยินส่ายหน้าไปมา เสียดายเวลาที่เอาช่วงวัยสวยมาจมปรักกับคนเช่นชงหยวนอวี่หอสุริยันจันทรา“จูอันเล่อ จูอันเล่อฮืออออออข้ามาแล้วเจ้าใจร้ายไม่ออกมาพบข้าหรือไร” จูไห่หลิงร้องไห้ฟูมฟายป่านจะว่าตัวเองจะตายกระนั้น“นายหญิงไม่อยู่ที่นี่เจ้าค่ะ ท่านมีสิ่งใดก็พูดกับข้ามาเถิดข้าจะนำความไปบอกกับนายหญิงด้วยตัวเอง”เจียวเจียวยืนรอรับหน้าจูไห่หลิงคนในหอสุริยันจันทราใครบ้างไม่รู้ฤทธิ์เดชของนางใครบ้างไม่เกลียดนาง“นางไปไหนเสียน้องข้าไปไหนเสียเจ้าโกห
แสงไฟในห้องสลัวๆ คังหยินก้าวเดินอย่างมั่นคงในใจกระหยิ่มยิ้มย่องหยุดยืนที่หน้าห้องนอนของอันเล่อเพื่อให้ขันทีปลดเสื้อคลุมตัวนอกออกเสียคิดถึงความหฤหรรษ์ต่อจากนี้บทพิศวาสที่เขานั่งจินตนาการเกือบหนึ่งชั่วยามว่าจะปรนเปรออันเล่อเช่นไรให้นางตราตรึงเขาไม่ลืมเลือนร่างระหงนั่งหันข้างอยู่บนแท่นนอนเพียงเสี้ยวหน้าก็ทำคังหยินใจสั่น“อันเล่อถวายพระพรฝ่าบาท”คังหยินพุ่งตัวเข้ากอดประคองแทบจะไม่อยากปล่อยให้เวลาเสียไปกลิ่นกายหอมจนอยากจะซุกหน้าลงไปในตอนนี้ เอียงตัวซุกไซร้ซอกคอขาวกินหอมอ่อนๆ ที่ชวนเคลิบเคลิ้ม อันเล่อผลักร่างสูงแล้วดึงมือคังหยินมานั่งบนแท่นนอน“ข้า ไม่รับการถวายพระพรจากเจ้าแต่ขอเปลี่ยนมันเป็นการปรนนิบัติข้าอย่างถึงใจดีไหม”อันเล่อยิ้มหวานหยด“ทั้งคืนเพคะ”อันเล่อลงมานั่งด้านล่างคุกเข่าตรงหน้าคังหยิน เอื้อมมือเรียวปลดสายรัดเอวด้านหน้าคังหยินใจเต้นจนแทบจะหลุดออกจากอกกว้าง ริมฝีปากแดงเผยอออกช้าๆ น่าลิ้มรสจูบหวานเสียจริง“อันเล่อพร้อมแล้ว”คังหยินหลับตาลงช้าๆ เพื่อดื่มด่ำกับความหฤหรรษ์ที่อันเล่อกำลังจะมอบให้ ไฟในห้องมอดดับลงมือเย็นเฉียบลูบไล้แก่นกายอย่างแผ่วเบาเพียงแค่นั้นเขาก็แทบจะหยุดหายใจสัมผั
กับลุงกวงกับสาวใช้ในหอคณิกาอีกสองสามคนยกอาหารมาวางบนโต๊ะ อีกมากมาย ขุนนางต่างนั่งล้อมวงรู้สึกโล่งอกและดีใจกลับสิ่งที่ได้รับในวันนี้“ข้าน้อยโง่งมมมองคนผิดไปของฝ่าบาทลงทัณฑ์ด้วย”หลี่หลงเชียวยิ้ม“ให้ลงทัณฑ์พวกท่านที่ภักดีต่อข้าอย่างนั้นหรือ ไม่อาจกระทำ”“ข้าน้อยผิดไปแล้วแม่นางจูทำทุกอย่างจนมีวันนี้พวกเราซาบซึ้งน้ำใจยิ่งนักแต่ก่อนนห้านั้นกล่าวโทษนาง นางจะเจ็บปวดใจแค่ไหนที่พวกเราใช้คำพูดเหยียดหยามนางเพียงนั้น”“ข้ารู้ดีว่าอันเล่อต้องการให้เป็นแบบนี้อยู่แล้วนางตั้งใจคัดคนเพื่อการนี้ ใต้เท้าเฉินและพวกท่านทั้งหลายไม่ต้องกังวล เพียงแค่ต่อแต่นี้จะเชื่อฟังและยกย่องอันเล่อให้เคียข้างข้าก็พอแล้ว”ใต้เท้าเฉินกับเหล่าขุนนางต่างรีบทรดกายลงกับพื้นอีกครั้ง“นัอมบัญชาฝ่าบาท”ลุงกวงเดินเข้ามาใกล้ๆ หลี่หลงเชียวหลายวันมานี้ ก็มีแต่ลุงกวงและไคเฉิงเท่านั้นที่คอยรับใช้และอธิบายเรื่องต่างๆ ที่หลี่หลงเชียวยังไม่เข้าใจ“ฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ นายหญิงสั่งไว้ว่าทองของนายหญิงนอนรอนายหญิงให้มาเชยชม ฝ่าบาทเองก็ควรจะอยู่ที่นั่นรอพบนายหญิงไม่ควรออกมาเช่นนี้”ลุงกวงก้มหน้าประสานมือพูดเบาๆ ราวกับกระซิบ“ข้าเข้าใจแล้วแต่ทนไม่ได