"คุณทำไมดูไม่ตกใจเลยล่ะ" เข้ามาถึงในห้องก็ยังเห็นว่าเขาปกติ ไม่มีท่าทีตกใจกลัวอะไรเลยตอนเห็นปืนใครบ้างจะไม่ตกใจ แต่พอเห็นว่าเธอกับแม่พยายามปกป้องเขาอยู่ ก็เลยทำให้คลายความกลัวไปได้เยอะ"พ่อคุณเป็นกำนันเหรอ" ที่เขาถามแบบนี้เพราะได้ยิน คนชื่อจ้อยเรียกว่าพ่อกำนัน"ใช่ค่ะ"ได้ยินแบบนั้นชายหนุ่มก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ เขาเดินไปทิ้งตัวลงนอนที่เตียง"นี่คุณ ฉันไม่ได้จะให้คุณนอนในห้องนี้สักหน่อย""ไม่ให้ผมนอนนี่แล้วจะให้นอนไหน""เดี๋ยวพ่อฉันสงบลงแล้วจะหาห้องให้" บ้านเธอกว้างขวาง ห้องนอนก็มีหลายห้อง"คุณคิดว่าพ่อคุณจะสงบง่ายไหม ยิ่งตอนนี้เห็นผมเข้ามาในห้องของคุณด้วยแล้ว""คุณก็อย่าพูดให้ฉันเสียวสันหลังสิ" ตอนเรียนมัธยมเคยถูกพ่อตีมาแล้วครั้งหนึ่งด้วยเรื่องผู้ชายนี่แหละ แต่ก็ไม่ได้เลยเถิดอะไรมากก็แค่วัยรุ่นอยากจะไปเที่ยวกับเพื่อนบ้าง"ผมขอนอนพักเอาแรงหน่อยแล้วกัน ขับรถมาตั้งหลายชั่วโมง"อะไรของเขาเนี่ย ยังจะนอนหลับอีกเหรอ"ออกมา!""พ่อ?" เขานอนไปได้แค่ครู่เดียว ก็ได้ยินเสียงพ่อตะโกนมาจากหน้าห้อง"ไม่ต้องออกมานะลูก ปล่อยให้พ่อบ้าอยู่คนเดียวเถอะ" แม่รีบตามมาห้ามพ่อ"ลูกเราเป็นผู้หญิงนะแม่!""พ่อกล้าขึ
"ทำไมช่วงนี้นายถึงไม่ค่อยว่างเลยล่ะ" หญิงสาวที่ร่างกายสมบูรณ์ สมบูรณ์ในที่นี้คือ อก..เอว..สะโพก..เกินขนาดของหญิงไทย แต่ก็ไม่ถึงกับอ้วน"อย่างี่เง่าได้ไหม ก็บอกแล้วไงว่าต้องได้ช่วยงานทางบ้าน"ใบหน้าอวบ เต่งตึง บูดบึ้งขึ้นมาทันตาเห็น หลายวันแล้วที่ไม่ค่อยได้คุยกับเขา..ผู้ชายที่ทำให้หัวใจเต้นแรง"แล้ววันไหนนายถึงจะว่างไปดูหนังกับเราล่ะ""ช่วงนี้ต้องส่งงานอาจารย์ กลับบ้านก็ต้องช่วยงานที่บ้านอีก ไว้ว่างค่อยไปดูกัน""ไปกันหรือยังคะราม"ขณะที่ทั้งสองกำลังคุยกันอยู่ก็มีผู้หญิงอีกคนเดินมาเรียก ชายหนุ่มรีบหอบหนังสือที่วางอยู่บนโต๊ะ แล้วเดินตามผู้หญิงคนนั้นออกไป"ฉันว่าแกถอยออกมาดีกว่าไหม" ของขวัญที่นั่งอยู่อีกโต๊ะ รีบเขยิบเข้ามาหาเพื่อน"ถอยออกมาหมายความว่ายังไง""ยังจะให้ฉันพูดอีกเหรอ แค่นี้ก็เห็นอยู่ตําตา""แต่เขาบอกว่าไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย""ไม่ได้เป็นอะไรกัน แค่มาสะกิดก็วิ่งตามแล้วเนี่ยนะ""เขาบอกว่าทำรายงานกลุ่มกันอยู่""แล้วแกก็เชื่อ?"ดวงตางามที่แฝงไว้ด้วยความเศร้าได้แต่มองตามไป ถ้าสถานะของเธอชัดเจนกว่านี้ ก็คงจะแสดงอารมณ์ออกมาได้บ้าง แต่นี่..ไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ในสถานะไหน จะว่าเพื่อน
ค่ำๆ ของวันเดียวกัน.. กว่าจะคุยกับอาจารย์เสร็จออกมาก็ค่ำมืดแล้ว"น้องสาว ให้พี่ไปส่งไหมจ๊ะ" วินมอเตอร์ไซค์ตรงหน้ามหาวิทยาลัย ส่วนมากจะชอบแซวสาวๆ แบบนี้ประจำ แต่ก็ไม่มีพิษมีภัยอะไร"ไปส่งที่ซอย 5 หน่อยค่ะ" ซอย 5 เป็นห้องเช่าของขวัญ บางวันถ้าไม่อยากกลับบ้าน จ๊ะเอ๋ก็จะไปพักกับเพื่อน ที่ไม่อยากกลับบ้านไม่ใช่เพราะมีปัญหาแค่เรื่องถูกโกงมรดก พ่อกับแม่ก็มีปากเสียงกันตลอดจนเธอไม่ค่อยอยากกลับบ้านเลย"โช๊ครถมึงดีหรือเปล่าวะ""มึงก็พูดเกินไป น้องเขาแค่อวบกำลังพอดี""อย่าว่ากำลังพอดีเลย แบบนี้เรียกว่าอวบระยะสุดท้ายแล้ว"ไม่ใช่ว่าเธอจะไม่ได้ยินสิ่งที่วินมอเตอร์ไซค์พูดแซวกัน แต่ที่พวกเขาพูดมันก็เป็นจริง คนอื่นถ้ามีเรื่องหนักใจหรือไม่สบายใจคงกินไม่ลง แต่กับจ๊ะเอ๋แล้ว ยิ่งไม่สบายใจก็ยิ่งกิน จนห้ามปากตัวเองไม่ได้ ตอนเข้ามหาวิทยาลัยใหม่ๆ ก็ไม่ถึงกับอวบขนาดนี้ หรือเป็นเพราะหุ่นที่เปลี่ยนไปเขาถึงไม่ค่อยสนใจ"แล้วแกบอกพ่อกับแม่หรือยัง" ของขวัญถามเพื่อนเมื่อได้ยินว่าเพื่อนขอค้างที่นี่ด้วย"เดี๋ยวโทรไปบอก" ถึงแม้จะไม่บอก..พ่อกับแม่ก็ไม่ค่อยสนใจอยู่แล้วแล้วทั้งสองก็เลยพูดคุยกันเรื่องทั่วไป จนดึกดื่นค่อนคืน"
"ใครทำอะไรแก" ของขวัญเห็นเพื่อนไม่ขึ้นเรียน ก็เลยลงมาดู "ฉันถามว่าใครทำอะไรแก""ไม่มี""ไม่มีแล้วแกร้องไห้ทำไม""ร้องไห้เฉยๆ ไม่ได้หรือไง""การที่คนคนหนึ่งจะร้องไห้ ถ้าไม่ดีใจมาก ก็คือเสียใจ แต่ดูจากสภาพของแกแล้วคงไม่ใช่ดีใจแน่""ฉันเลิกกับเขาแล้วนะ""เลิก?""ใช่""ก็ดีแล้วนี่.." ของขวัญก็เลยนั่งลงข้างๆ เพื่อน "ฉันให้ยืมไหล่ซับน้ำตาแล้วกัน แต่ฉันให้ยืมแค่ครั้งเดียวนะ""งื้ออออ" หญิงสาวซุกหน้าลงที่ไหล่ของเพื่อนแล้วก็ร้องไห้ออกมาเสียงดัง โชคดีที่เพื่อนคนอื่นเข้าห้องเรียนกันไปหมดแล้วเย็นวันเดียวกัน.."พ่อไปไหนคะแม่" กลับมาถึงบ้านก็ไม่เห็นพ่ออยู่"ไปตายแล้วมั้ง""แม่ก็พูดดีๆ กับพ่อหน่อยสิ""นี่แหละดีสุดแล้ว แล้วนี่เมื่อไรจะเรียนจบสักที""อีกปีหนึ่งค่ะ""แล้วที่แม่บอกให้หางานทำไปด้วย หาได้หรือยัง""แค่เรียนก็หนักมากพออยู่แล้วนะแม่"จ๊ะเอ๋ได้แต่มองตามหลังแม่ที่เดินออกไปทางหลังบ้าน และเธอก็รู้ดีว่าแม่จะแอบไปร้องไห้อีก"ถ้างั้นจ๊ะไม่เรียนต่อก็ได้นะแม่"พอลูกสาวพูดขึ้นผู้เป็นแม่ถึงกับหยุดชะงักอยู่กับที่แต่ก็ไม่ได้หันกลับมา"เหลืออีกแค่ปีเดียวไม่ใช่เหรอ รีบเรียนให้มันจบ อย่าเหลวไหลเหมือนพ่อแกแ
จ๊ะเอ๋เปิดดูตู้เสื้อผ้าว่าพอมีชุดที่จะไปใส่สมัครงานได้ไหม"ต้องได้ซื้อชุดใหม่หมดเลยหรือเรา" หญิงสาวพูดพร้อมกับมองลงไปดูเรือนร่างของตัวเอง[ห้างสรรพสินค้าใกล้บ้าน]เธอต้องได้นั่งวินมอเตอร์ไซค์ออกมาซื้อชุดใหม่ โชคดีที่ร้านในห้างยังไม่ปิด เพราะยังไม่ดึกเท่าไร"ลดราคาให้หน่อยสิแม่ค้า""นี่ราคาเซลล์แล้วนะน้อง""ก็ได้ค่ะ เอาชุดนี้" ถ้าได้งานทำค่อยซื้อเพิ่มแล้วกัน ยังไงก็ต้องหาชุดที่เหมาะสมเพื่อไปสมัครงานก่อนพอได้สิ่งที่ต้องการแล้ว จ๊ะเอ๋ก็เลือกที่จะนั่งรถเมล์มาลงหน้าปากซอยบ้าน เพื่อเซฟค่าใช้จ่าย ..พอมาถึงหน้าปากซอยก็เดินอีกประมาณ 10 นาทีก็ถึงบ้าน"ได้ชุดไหมล่ะลูก" แม่ยังคงนั่งรอลูกสาวที่หน้าบ้าน เพราะช่วงนี้ขี้เหล้าในซอยชอบแซวลูกสาว"ได้ค่ะแม่ จ๊ะขอไปรีดเสื้อไว้ก่อนนะ แม่ก็เข้านอนได้แล้ว"จอยแม่ของจ๊ะเอ๋ก็เลยหันไปปิดบ้าน..เช้าวันต่อมา..จ๊ะเอ๋ออกมาจากบ้านพร้อมกับแม่ ทั้งสองนั่งรถเมล์ที่หน้าปากซอย น้ำตาคลอออกมาแบบไม่รู้ตัว เมื่อเห็นแม่ยืนห้อยรถเมล์ที่คนหนาแน่น ..ถ้าฉันได้ทำงาน แม่ก็คงจะไม่ลำบากแบบนี้ใช่ไหม ครั้งแรกที่เคยขึ้นรถเมล์มาพร้อมกับแม่ เพราะตอนเรียนอยู่ต้องได้ออกจากบ้านคนละเวลากัน
"ทีนี้เราก็ต้องได้มารอลุ้นกันแล้วว่าจะออกหมู่หรือจ่า""ยังจะลุ้นอีกเหรอแก" ของขวัญยังคงคิดเหมือนเดิม เพราะความหวังมันน้อยนิดมาก"แกก็อย่าพูดให้ฉันเสียกำลังใจสิวะ""ทำใจไว้บ้างเถอะเพื่อน"ทั้งสองคุยกันในระหว่างเดินออกมาจากห้องฝ่ายบุคคลที่มายื่นเอกสาร"แกกลับไปก่อนเลยนะ ฉันจะไปดูแม่หน่อย""ฉันไปด้วยสิ""ไม่ต้องหรอก" จ๊ะเอ๋ได้ยินว่าแม่ทำความสะอาดห้องน้ำ ต้องเป็นห้องไหนห้องหนึ่งที่อยู่แถวนี้แน่ของขวัญก็เลยเดินออกมาเรียกแท็กซี่ เพื่อที่จะกลับห้องพักก่อน ขณะที่ของขวัญล้วงเอาเงินในกระเป๋าเพื่อที่จะจ่ายค่าแท็กซี่ ก็จับได้อะไรบางอย่างขึ้นมาด้วย"ปากกา?" ปากกาด้ามที่จ๊ะเอ๋ยืมมาอยู่ในกระเป๋าของขวัญ เพราะเธอเป็นคนกรอกเอกสารต่อจากเพื่อน ..ไปยืมของใครเขามาล่ะเนี่ย ท่าจะแพงด้วยหรือของก๊อป? เธอก็เลยจับยัดลงไปไว้ที่เดิม รอเอาคืนให้เพื่อนวันหลังแล้วกันส่วนทางด้านจ๊ะเอ๋ เดินน้ำตาไหลออกมาจากบริษัท เพราะภาพที่ไปเห็นแม่ยืนแอบทานข้าวเที่ยงอยู่ห้องเก็บของในห้องน้ำ.. นี่แม่เราลำบากขนาดนี้เลยเหรอ ขณะที่แม่กำลังลำบาก เธอไปเดินห้างดูหนังกับเพื่อนออกมาถึงด้านนอกกำลังจะเรียกแท็กซี่ หญิงสาวก็เลยเปลี่ยนใจนั่งรอรถ
>>{"ฮัลโหลใครคะ"} เสียงของเธอยังคงงัวเงียครึ่งหลับครึ่งตื่น {"สวัสดีค่ะ ใช่เบอร์โทรของคุณจ๊ะเอ๋ไหมคะ"}>>{"ใช่ค่ะ"} {"ทางบริษัท PN อิเล็กทรอนิกส์ ขอเชิญคุณมาสัมภาษณ์งานในวันพรุ่งนี้ค่ะ"}>>{"ค่ะ"} ว่าแล้วหญิงสาวก็วางสายไป คิดว่าจะงีบต่ออีกสักหน่อย ..แต่ประโยคของคนที่โทรเมื่อสักครู่ค่อยๆ ก้องเข้ามาในหู บริษัท PN อิเล็กทรอนิกส์?? "บริษัท PN อิเล็กทรอนิกส์!! กรี๊ดดดดดดด เราทำอะไรลงไปเนี่ย" จ๊ะเอ๋รีบเอาโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อที่จะโทรกลับไป เพราะเธอเสียมารยาทวางสายไปก่อน แต่พอโทรกลับเบอร์เดิมก็ไม่ว่างแล้ว เพราะพนักงานต้องโทรไปแจ้งข่าวผู้สมัครท่านต่อไป..ครื่นนน ครื่นนนนขณะที่ไม่รู้ว่าต้องทำยังไงดี..โทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง"สวัสดีค่ะพี่ เมื่อสักครู่ฉันขอโทษด้วยนะคะที่เสียมารยาท""พี่ที่ไหนวะ""อ้าว ขวัญแกเองเหรอ" จ๊ะเอ๋ก็เลยมองไปดูที่หน้าจอโทรศัพท์ ลืมดูเลยว่าเป็นเบอร์ของใครที่โทรเข้ามา"ใช่..ฉันโทรมาหาแกเรื่องที่บริษัทโทรมาบอกให้ไปสัมภาษณ์งาน""เขาโทรมาหาแกด้วยเหรอ?""อย่าบอกนะว่าเขาโทรไปหาแกเหมือนกัน""ใช่ กรี๊ดดดดด" ทั้งสองกรี๊ดขึ้นพร้อมกันแบบลืมตัว ถ้าอยู่ใกล้คงได้กระโดดกอดก
"เชิญนั่งก่อนสิคะ" คนที่กล่าวเชิญก็คือมัลลิกา เป็นเจ้าหน้าที่สัมภาษณ์ในครั้งนี้"ขอบคุณค่ะ" จ๊ะเอ๋รีบเรียกสติตัวเองให้กลับมา แล้วก็นั่งลงตรงหน้าของคนที่สัมภาษณ์"ดูจากประวัติแล้ว คุณจ๊ะเอ๋ยังไม่มีประสบการณ์ในการทำงานเลยนี่คะ""ใช่ค่ะ ดิฉันเพิ่งเรียนจบ""แต่สายที่คุณเรียนมาก็ตรงกับที่เราต้องการ.."จ๊ะเอ๋ทำได้แค่นั่งฟังอยู่เงียบๆ พอทางฝ่ายสัมภาษณ์ต้องการรายละเอียดเธอถึงได้บอกไปตามนั้น ..ไอ้ที่เตรียมมาว่าจะพูด ตอนนี้ลืมไปหมดสิ้น แต่ถึงพูดสิ่งที่เตรียมมา ทางบริษัทก็คงไม่รับเธอเข้าทำงานแล้วล่ะ"คนต่อไปเลยค่ะ" ของขวัญลุกขึ้นแล้วเดินมารอเพื่อจะเข้าไปสัมภาษณ์คนต่อไป แต่จังหวะที่เพื่อนเดินออกมา ดูสีหน้าแล้วคงหมดหวัง จะถามก็ไม่ได้ เพราะต้องรีบเดินเข้าไป.."สวัสดีค่ะดิฉันชื่อนางสาวของขวัญ...??" พอของขวัญเงยหน้าขึ้นมองคนที่นั่งอยู่ในห้องจนทั่ว เครื่องหมายคำถามก็ได้ผุดขึ้นมา แบบนี้เองเหรอเพื่อนถึงได้มีสีหน้าแบบนั้น"คุณจบมาจากที่เดียวกับคนเมื่อสักครู่ใช่ไหมคะ" มัลลิกายังคงทำหน้าที่สัมภาษณ์ต่อ"ใช่ค่ะ" ของขวัญก็ตอบรายละเอียดตามที่ผู้สัมภาษณ์ได้ถาม แถมสายตายังคงแอบมองผู้ชายที่นั่งอยู่ในห้องนั้นด้วย
"คุณทำไมดูไม่ตกใจเลยล่ะ" เข้ามาถึงในห้องก็ยังเห็นว่าเขาปกติ ไม่มีท่าทีตกใจกลัวอะไรเลยตอนเห็นปืนใครบ้างจะไม่ตกใจ แต่พอเห็นว่าเธอกับแม่พยายามปกป้องเขาอยู่ ก็เลยทำให้คลายความกลัวไปได้เยอะ"พ่อคุณเป็นกำนันเหรอ" ที่เขาถามแบบนี้เพราะได้ยิน คนชื่อจ้อยเรียกว่าพ่อกำนัน"ใช่ค่ะ"ได้ยินแบบนั้นชายหนุ่มก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ เขาเดินไปทิ้งตัวลงนอนที่เตียง"นี่คุณ ฉันไม่ได้จะให้คุณนอนในห้องนี้สักหน่อย""ไม่ให้ผมนอนนี่แล้วจะให้นอนไหน""เดี๋ยวพ่อฉันสงบลงแล้วจะหาห้องให้" บ้านเธอกว้างขวาง ห้องนอนก็มีหลายห้อง"คุณคิดว่าพ่อคุณจะสงบง่ายไหม ยิ่งตอนนี้เห็นผมเข้ามาในห้องของคุณด้วยแล้ว""คุณก็อย่าพูดให้ฉันเสียวสันหลังสิ" ตอนเรียนมัธยมเคยถูกพ่อตีมาแล้วครั้งหนึ่งด้วยเรื่องผู้ชายนี่แหละ แต่ก็ไม่ได้เลยเถิดอะไรมากก็แค่วัยรุ่นอยากจะไปเที่ยวกับเพื่อนบ้าง"ผมขอนอนพักเอาแรงหน่อยแล้วกัน ขับรถมาตั้งหลายชั่วโมง"อะไรของเขาเนี่ย ยังจะนอนหลับอีกเหรอ"ออกมา!""พ่อ?" เขานอนไปได้แค่ครู่เดียว ก็ได้ยินเสียงพ่อตะโกนมาจากหน้าห้อง"ไม่ต้องออกมานะลูก ปล่อยให้พ่อบ้าอยู่คนเดียวเถอะ" แม่รีบตามมาห้ามพ่อ"ลูกเราเป็นผู้หญิงนะแม่!""พ่อกล้าขึ
"ผู้จัดการ?" พอรู้ว่าคนที่ยืนอยู่หน้าห้องคือใคร ของขวัญรีบปิดประตูกลับคืนไว้เหมือนเดิม "ขะ..คุณมาทำไมคะ""ตกใจเหมือนเห็นผี" โชคดีที่เขาก้าวขาถอยกลับทันจังหวะที่เธอปิดประตู ถ้าไม่งั้นได้หน้าแหกแน่ "เปิดประตูออกมาคุยกันก่อน""คุณไม่เห็นหรือไงว่าฉันอยู่ในสภาพไหน""ไม่ได้ใส่อะไรยังเห็นมาแล้ว แค่นี้ทำไมต้องอาย"นี่แสดงว่าเขายังคงจำได้เหรอ? ..ของขวัญพยายามบอกตัวเองว่าเขาคงลืมแล้ว เพราะเธอไม่ได้สำคัญอะไรกับเขา แต่ทำไมเขายังจำได้ล่ะ "ฉันขออาบน้ำก่อนเดี๋ยวออกไปหา""คุณจะให้ผมยืนรออยู่ตรงนี้เหรอ""ไม่รู้จะมาทำไม แล้วนี่เมื่อไรพระรามกับจ๊ะเอ๋จะมา" หญิงสาวพึมพำออกมาแค่เบาๆ แต่ก็ยอมเปิดประตูให้ห้องเช่าของเธอไม่ได้กว้างขวาง แต่ก็แบ่งโซนที่ใช้ทำเป็นครัว ห้องน้ำในตัว ส่วนเตียงนอนก็จะถูกจัดวางไว้อีกมุมหนึ่งในห้องเดียวกัน"คุณนั่งรอก่อนแล้วกัน" ในห้องนี้ถ้าจะนั่งรอก็คงมีแค่เตียงนอน จากที่ไม่เคยเอาเสื้อผ้าเข้าไปเปลี่ยนในห้องน้ำด้วย เธอก็เลยต้องได้เอาเข้าไป เพราะจะมาเปลี่ยนต่อหน้าเขาคงไม่ได้แล้วอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จของขวัญก็ออกมา"คุณมีอะไรจะคุยกับฉันก็ว่ามาสิ""เก็บเสื้อผ้าเดี๋ยวจะพากลับบ้าน""ไห
ชายหนุ่มออกมาจากห้องของผู้เป็นพ่อก่อนที่จะกลับเข้าห้องตัวเอง สายตาคมก็ได้มองไปที่.."เข้ามาหาผมหน่อย"กาญจนาหันมองกลับไปด้านหลัง เพราะดูเหมือนว่าผู้จัดการจะไม่ได้พูดกับตัวเอง"เมื่อสักครู่ผู้จัดการบอกใครคะ" พรทิพย์ก็มีความสงสัยอยู่เหมือนกัน เพราะด้านหลังของคุณเลขามีอยู่สองคน เผื่อว่าผู้จัดการจะเรียกใช้ตัวเองบ้าง"พี่ว่าคงจะบอก.." กาญจนาตวัดสายตามองไปที่ของขวัญ "เข้าไปหาผู้จัดการสิ"มีธุระอะไรต้องเรียกเราอีกเนี่ย ..หญิงสาววางงานไว้แล้วก็เดินมาที่ห้องของเขาแกร็ก! แอดดด.. "อุ๊ย.. ขอโทษค่ะ" มัวแต่คิดอยู่ว่าเขาจะคุยอะไรด้วยก็เลยลืมเคาะประตู พอเปิดเข้าไปแล้วก็ต้องได้ปิดไว้ก่อนก๊อก ก๊อก "เข้ามา""ผู้จัดการให้ฉันเข้ามามีอะไรคะ" หญิงสาวเอ่ยถามขึ้นเมื่อเข้ามาในห้องนี้แล้ว"บ้านของคุณอยู่ที่ไหน""คะ?""คุณเป็นคนจังหวัดอะไร""ถามแปลก..ฉันก็เป็นคนทุกจังหวัดนั่นแหละค่ะ" ไม่ใช่ว่าเธอจะไม่รู้ แค่ไม่อยากจะบอกว่าบ้านอยู่ที่ไหน ..แต่พอเห็นสายตาของเขามองมา ของขวัญก็เลยต้องได้บอกไป"เคลียร์งานเสร็จอีกสองวันเดี๋ยวจะพากลับบ้าน" เขาพูดเหมือนไม่มีอารมณ์ร่วมกับคำพูดของตัวเองเลย"อะไรนะคะ?""อยากจะกลับบ้านไม
ของขวัญที่ยังไม่รู้ว่าเขาหลอกใช้ก็แอบคิดในใจอยู่หรอกว่า ทำไมเขาพาเธอมาดินเนอร์ อยากจะพูดอะไรกับเราหรือเปล่า แต่ก็ไม่น่าต้องพามาเปลืองเงินแบบนี้"ทานสิครับ" พระลักษณ์เอื้อมมือมาตักอาหารวางใส่จานตรงหน้าให้กับเธอแบบอ่อนโยน"??" หญิงสาวแปลกใจมากขึ้น แบบนี้มันไม่ธรรมดาแล้ว แต่เธอก็เล่นไปตามเกมที่เขาวางไว้ "ขอบคุณค่ะ""คุณไม่ชอบแบบนี้หรือครับ"ดวงตากลมเปิดกว้างขึ้น ไม่นะของขวัญ เรายังไม่รู้เลยว่าเขาทำไปเพื่ออะไร เธออย่าหวั่นไหวกับเขาเด็ดขาด ..เพราะแต่ละคำพูดแต่ละประโยคที่ออกมาจากปากผู้ชายตรงหน้ามันช่างละมุนยิ่งนัก จนของขวัญเผลอเคลิ้มไปกับคำหวานพวกนั้น"วันหลังอยากไปไหนก็บอกผมแล้วกัน จะได้หาเวลาว่างให้" ชายหนุ่มยังคงทำใบหน้าละมุนนั่นไง..ว่าแล้ว ..จากที่มองหน้าเขาแบบตกอยู่ในภวังค์ ตอนนี้ดวงตาของเธอมองสอดส่ายไปทั่วห้องอาหารหรูแห่งนี้"คุณพูดจริงนะคะ ฉันอยากไปหลายที่เลย" เสียงของเธอเริ่มเปลี่ยนไป จากที่พูดแบบไม่มีหางเสียง ตอนนี้น้ำตาลยังอายพระลักษณ์ก็เลยต้องได้มองหน้าเธออีกครั้ง "แล้วคุณอยากไปไหนล่ะครับ""อยากกลับบ้านค่ะ""กลับบ้าน?" ชายหนุ่มมองไปดู กลุ่มคนที่เขารู้แล้วแหละว่าเป็นนักข่าว เพรา
"ผมไม่ได้หมายถึงเรื่องนั้น""แล้วผู้จัดการจะคุยเรื่องอะไรล่ะคะ" เขาไม่คิดเลยเหรอว่าเราจะอาย ..พอถูกเบรคของขวัญก็นึกอายขึ้นมา เรื่องเมื่อคืนนี้มีอะไรต้องให้พูดกันอีกนอกจากเรื่องที่เขาทำกับเธอแบบนั้น"ถ้าคุณพ่อเรียกตัวไปพบ ก็บอกท่านไปว่ามันไม่มีอะไรเกิดขึ้น""??" อะไรกันท่านประธานจะเรียกตัวเราไปพบเหรอ แค่ผู้จัดการเธอก็ทำตัวไม่ถูกแล้ว นี่ท่านประธานเลยนะ "ฉันไม่ไปค่ะ" คิดดูแล้วถ้าท่านประธานเรียกไปพบ เธอขอลาออกดีกว่า"ไม่ไปไหน?""ก็ถ้าท่านประธานเรียกตัวไปพบฉันขอไม่ไปพบท่านไงคะ""ผมแค่พูดเผื่อไว้ถ้าท่านเรียกตัวคุณไป" พระลักษณ์รู้ดีว่ายังไงพ่อก็ต้องเรียกตัวเธอไปคุยเรื่องนี้อยู่แล้วทำไมเราต้องไปด้วย เขาต่างหากที่ทำกับเรา "ฉันไม่ไปหรอกค่ะ เพราะฉันโกหกใครไม่เป็น""โกหก?""ก็ใช่ไงคะ คุณจะให้ฉันบอกว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้ยังไง..ก็ในเมื่อมันมี""เธอคิดจะแบล็คเมล์ฉันเหรอ" แค่จูบเขาไม่คิดว่ามีอะไรอยู่แล้วคิดว่าฉันจะแบล็คเมล์เลยเหรอ? ..ของขวัญคิดว่าแค่จะพูดให้ผู้จัดการไปเคลียร์กับพ่อเอง "แล้วแต่ผู้จัดการจะคิดแล้วกันค่ะ ฉันขอออกไปทำงาน" ทำไมเรื่องวุ่นวายต้องเกิดขึ้นกับเราด้วย จริงๆ แล้วของขวัญไม่ใช่ค
"??" คนที่อยู่ในห้องไม่รู้หรอกว่าหน้าห้องกำลังเกิดอะไรขึ้น เพราะม่านรูดที่นี่เป็นห้องเก็บเสียงอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นเสียงรบกวนจากข้างนอก หรือเสียงที่อยู่ข้างในก็ไม่สามารถเล็ดลอดออกไปได้ "คุณพ่อ?""จ๊ะ??" ไม่ได้ตกใจแค่พระลักษณ์ ของขวัญที่ตามออกมาก็ตกใจไม่ต่างกัน"ขวัญอยู่ในห้องนั้นจริงๆ ด้วย" จ๊ะเอ๋เอ่ยพูดออกมาเบาๆ พระรามต้องรีบโอบร่างเธอไว้ก่อนที่เข่าจะทรุด "พี่ชายของคุณทำอะไรเพื่อนฉัน" หญิงสาวเฝ้าแต่โทษตัวเองที่ดึงเพื่อนเข้ามาเดือดร้อนด้วย"เรื่องทั้งหมดมันเป็นยังไงกันแน่คะ" นักข่าวไม่พลาดสักช๊อต และตอนนี้ภาพเหตุการณ์ทุกอย่างได้ถูกบันทึกเป็นคลิปไว้หมดแล้ว รอแค่เวลาเผยแพร่"ลูกมาทำอะไรที่นี่" พระนายถามออกไปด้วยท่าทางที่ปกติมาก ไม่ตื่นตระหนกเหมือนคนอื่นเลย"คือว่าผม.." พระลักษณ์มองสายตาพ่อก็รู้แล้วว่าไม่ได้ปกติเหมือนใบหน้าและคำพูดที่แสดงออกมาในเวลานี้เลย"ก็บอกแล้วไงว่าพ่อรู้เรื่องนี้แล้ว จะคบกันพ่อก็ไม่ว่า"???? เครื่องหมายนี้ไม่ได้ผุดขึ้นแค่พระลักษณ์ ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างก็สงสัยและแปลกใจ เพราะพระนายทำเหมือนว่ามันเป็นเรื่องปกติ และรู้เรื่องนี้มาก่อนแล้ว"ต้องขอโทษทุกท่านด้วยนะครับ
"ทำยังไงดีโทรก็ไม่ติด" จ๊ะเอ๋พยายามโทรหาของขวัญ แต่ดูเหมือนว่าโทรศัพท์ของเพื่อนจะถูกปิดเครื่อง"เราไปดูที่ห้องเช่าก่อน..ขวัญอาจจะนั่งแท็กซี่กลับไปแล้ว" ในขณะที่ขับรถไปห้องของขวัญ พระรามก็ทำได้แค่พูดปลอบใจเธอ"ภาวนาขอให้เป็นแบบนั้นทีเถอะ"ในเวลาต่อมา..ที่ห้องเช่า"ขวัญยังไม่กลับมาเลย" จ๊ะเอ๋เริ่มใจไม่ดี เมื่อมาถึงเห็นว่ากุญแจคล้องจากด้านนอก "ทำยังไงดี""เดี๋ยวเรากลับไปโรงแรมอีกครั้ง ไปขอดูกล้องวงจรปิด" ที่เขายังไม่ไปขอดูเพราะกลัวว่ามันจะเป็นเรื่องใหญ่ และต้องเช็คให้แน่ใจก่อนว่าเพื่อนของเธอไม่ได้กลับมาที่ห้องพัก[โรงแรมที่ใช้จัดงาน]"นั่นลูกชายของคุณพระนายไม่ใช่เหรอ" นักข่าวที่กำลังจะกลับ เห็นพระรามแล้วจ๊ะเอ๋เดินผ่านเข้าไปด้านในก็เลยจำได้"พวกเขาจะเข้าไปทำไม งานเลี้ยงเลิกแล้วไม่ใช่เหรอ""อยากรู้ก็ตามไปดูสิ" นักข่าวทั้งสองเดินตามไปแบบไม่ให้รู้ตัว"เรามาขอดูกล้องวงจรปิดที่ลานจอดรถครับ" เขาไปถึงพระรามก็พูดกับเจ้าหน้าที่ของโรงแรม"มีอะไรเกิดขึ้นคะ""เพื่อนของเรายังไม่กลับบ้าน" แล้วจ๊ะเอ๋ก็เล่าให้ฟังว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้นบ้างพนักงานได้ยินแบบนั้นก็ตรวจเช็คกล้องวงจรปิดให้ทันที บางกรณีถ้าแขก
นักข่าวที่ประจำอยู่หน้างาน ก็เห็นอยู่ว่ามีคู่รักเดินมาด้วยกัน แต่ไม่มีใครสนใจ เพราะคิดว่ามาร่วมงานปกติพระนายมองออกไปที่หน้างาน ก็ไม่พอใจเอามากๆ เมื่อเห็นลูกชายคนเล็กควงผู้หญิงคนนั้นมาด้วยพระลักษณ์ที่กำลังพาของขวัญไปคุยกันมุมหนึ่งของงานนั้น แต่ยังไม่ได้คุยเลยด้วยซ้ำก็มองไปเห็นพ่อที่เรียกตัวให้เข้ามาหาก่อน"ผู้จัดการมีอะไร..?" ของขวัญกำลังจะถามว่าผู้จัดการมีอะไรจะคุยกับเธอ แต่พอมองอีกทีผู้จัดการเดินไปโน่นแล้ว "อะไรวะ เรียกเรามาคุยด้วยซะดิบดี" หญิงสาวมองซ้ายมองขวา เพราะถ้าใครเห็นคงน่าอายมาก"จะทำยังไง" พระนายยื่นใบหน้าเข้าไปถามลูกชายเบาๆ เพราะไม่อยากให้แขกที่นั่งร่วมโต๊ะอยู่รู้ว่ากำลังคุยอะไรกัน"ผมก็ไม่แน่ใจว่าจะ..""อย่าให้พ่อได้ยินคำว่าไม่แน่ใจอีก" ลูกชายยังพูดไม่จบเลยด้วยซ้ำ ผู้เป็นพ่อก็พูดสวนขึ้น"ผมจะพยายามแล้วกันครับ" พระลักษณ์เดินออกมาแล้วก็มองว่าผู้หญิงสองคนที่เขาชวนมางานด้วย คนไหนพอที่จะเรียกใช้งานได้"คุณช่วยอะไรผมหน่อยสิ" และเขาก็เลือกที่จะเดินมาหา.."ลิกาหรือคะ?""ถ้าคุณช่วยผมได้ ผมจะตอบแทนอย่างงาม""ช่วยอะไรคะผู้จัดการ" "ช่วยแยกผู้หญิงคนนั้นออกจากพระรามหน่อย"มัลลิกามอง
[ห้องเช่าของขวัญ]ตอนที่โทรคุยกันจ๊ะเอ๋บอกให้เพื่อนกลับห้องไปก่อนเดี๋ยวตามไปหา"เข้ามาข้างในก่อน" ของขวัญเปิดประตูห้องให้กับจ๊ะเอ๋ สายตาไม่ได้มองเพื่อนหรอกแต่มองคนที่เดินตามหลังเข้ามา"ฉันรู้ว่าแกอยากจะถามอะไร" เพราะคิดว่าของขวัญต้องอยากรู้แน่ว่าทั้งสองกลับมาคบกันแล้วเหรอ ทำไมถึงตามติดเหมือนเงาเลย"แกพร้อมที่จะเล่าให้ฉันฟังไหมล่ะ" ของขวัญแอบน้อยใจอยู่ไม่ใช่น้อย ที่ได้ยินเรื่องราวของเพื่อนจากปากคนอื่น แต่ถ้าเพื่อนพร้อมที่จะเล่าให้ฟังป่านนี้คงเล่าแล้ววันต่อมาที่บริษัท"จริงเหรอ?" ตอนนี้ข่าวที่ผู้จัดการชวนมัลลิกาไปออกงานรู้กันไปทั่วทั้งบริษัทแล้ว"จริงสิ..ได้ยินมาจากเจ้าตัวเองเลยแหละ""ทำไมเราไม่ถูกเชิญแบบนี้บ้าง""เรื่องนั้นเอาไว้ก่อน เรามาเม้าท์เรื่องที่ทำไมผู้จัดการถึงเชิญมัลลิกา" คนที่กำลังพูดคุยกันอยู่ต่างก็จ้องตา เพราะผู้จัดการก็ยังโสด ส่วนมัลลิกาตอนนี้ใครๆ ก็รู้ว่าคงไม่สมหวังจากพระรามแล้วล่ะ"นางหาที่เกาะใหม่ได้เร็วมาก""มาโน่นแล้ว" อีกคนรีบสะกิดเพื่อนไว้เมื่อเห็นมัลลิกาเดินยิ้มแป้นเข้ามาในบริษัท"คุณมัลลิกา""คะ""วันนี้ดูอารมณ์ดีจังเลยนะคะ""จริงเหรอคะ..ไม่รู้เลยนะเนี่ย""คืนนี