"ทำไม? ยังไม่ยอมอีกเหรอ?"เย่เฟิงเลิกคิ้วถาม เมื่อเห็นสายตาอาฆาตของฉินเจิ้นฉินเจิ้นแค่นเสียงเย็นชา "แค่พวกนักสู้เท่านั้น! ฉันยอมรับว่าแกมีพลังฝีมือเหนือกว่าฉัน แต่ถ้าต้องสู้กันเอาชีวิต คนที่จะตายต้องเป็นแก!""อ้อ? จริงเหรอ?"เย่เฟิงยิ้มเยาะฉินเจิ้นกัดฟัน "ไอ้หนุ่ม บนสนามรบจริงๆ พลังฝีมือไม่ได้สำคัญขนาดนั้นความสามารถทางการทหารต่างหากที่เป็นกุญแจสำคัญ!แกจะเก่งแค่ไหน แต่ฉันใช้สไนเปอร์จากระยะพันเมตรก็จัดการแกได้กำปั้นและเท้าของแกไม่มีวันสัมผัสตัวฉันได้เลยแม้แต่น้อย!พลังฝีมือของแก จะไปสู้อาวุธหนักยุคใหม่ได้หรือเปล่า? จะต้านรถถัง ปืนใหญ่ หรือเครื่องบินได้ไหม?"เมื่อพูดจบ เหล่าสมาชิกหน่วยดาบมังกรต่างพากันสนับสนุน"ใช่! พวกศิลปะการต่อสู้นั่นไม่มีอะไรหรอก!""ถ้าเอาจริงในสนามรบ หัวหน้าเรายิงหมอนั่นดับได้ในพริบตาแล้ว""สิ่งที่เราฝึกทุกวันคือการต่อสู้ทางทหาร นั่นแหละของจริง!""กำปั้นกับเท้า แค่เรื่องเล่นๆ เท่านั้น!"เย่เฟิงยิ้มเล็กน้อยก่อนพยักหน้า "ใช่ ฉันยอมรับว่าในเรื่องเอาชีวิตรอด พวกแกเก่งกว่า ฉันชื่นชมพวกแกในฐานะทหารผู้ปกป้องประเทศ"คำพูดของเย่เฟิงทำให้ฉินเจิ้นถึงกับชะงั
“จะไม่สังเกตได้ยังไง? หน้าตาพอใช้ได้ที่ไหน นั่นมันเป็นทหารหญิงที่สวยที่สุดตั้งแต่ที่ผมเคยเจอแล้ว!”ลั่วกันหยุนกล่าวยิ้มร้ายเจี่ยงเจิ้ง และจางเฉิงเฟิงเองก็ดวงตาเป็นประกายเมื่อพูดถึงผู้หญิงคนนั้นทหารเขตรักษาความปลอดภัยที่อยู่บนรถอีกคันหนึ่งเองก็วิจารณ์กันพลันทุกคนล้วนเป็นผู้ชาย อยู่แต่ในกองทัพทั้งวัน เดือนหนึ่งไม่ได้เห็นสาวสวยแม้แต่คนเดียวบางครั้งแค่เห็นแม่หมู ก็ยังรู้สึกสวยงามตระการตาเลย อย่าว่าแต่เห็นสาวสวยขนาดนี้เลย“ผู้หญิงคนนั้นดูเหมือนจะเป็นเจ้าหน้าที่ภายนอกของหน่วยปฏิบัติการดาบมังกรเหมือนคุณเย่ด้วย!”“สวยจริงๆ ชื่ออะไรน่ะ?”“ชื่ออะไรไม่รู้ แต่ได้ยินคนที่หน่วยนั้นเรียกเธอว่าฉางหู น่าจะเป็นชื่อในวงการ ดูเหมือนว่าเธอจะมาจากเขตฉาง!”“ใช่ๆ! ว่ากันว่ามาจากสำนักไหนสักแห่งของเขตฉาง ดูลึกลับดี!”เมื่อได้ฟังเรื่องเหล่านี้ โดยเฉพาะตอนที่ได้ยินว่าอีกฝ่ายมาจากเขตฉางแล้ว เย่เฟิงก็หูผึ่งทันทีเริ่มรู้สึกสนใจในตัวฉางหูแห่งหน่วยปฏิบัติการดาบมังกรสำหรับเย่เฟิงแล้ว เขตฉางหูถือเป็นความเจ็บปวดอย่างหนึ่ง แต่ก็เป็นความหวังอันเล็กน้อย!เมื่อตนอายุสิบแปดปี พ่อแม่ของตนได้หายตัวไปอย่างไร้ร
“ให้ช่วยไหม?”หลังจากที่มาถึง เย่เฟิงก็ถามฉางหูยิ้มๆหลานเขอซีหรือก็คือฉางหูอึ้งไปสักพัก แล้วหันไปมองค้อนใส่เย่เฟิงพลางส่ายหัวอย่างไร้อารมณ์ “ไม่ต้อง!”เบื้องลึกสายตาของเธอแฝงไปด้วยความรำคาญรู้สึกแย่ต่อพฤติกรรมเข้ามาทักทายแบบนี้ของเย่เฟิง“เธอชื่ออะไร? ได้ข่าวว่ามาจากเขตฉางเหรอ? มาจากสำนักไหนล่ะ?”เย่เฟิงกลับไม่สนใจ เอ่ยถามด้วยสีหน้า ‘ไร้ยางอาย’“ไม่มีอะไรต้องบอกนาย!”หลานเขอซีขมวดคิ้ว กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาขณะนั้นเอง ฉินเจิ้นนำทีมสมาชิกหน่วยปฏิบัติการดาบมังกรเดินเข้ามาด้วยใบหน้าเคร่งเครียด“ไอ้เย่ ทำอะไรน่ะ?”ฉินเจิ้นตบไหล่เย่เฟิงอย่างแรง และถามด้วยน้ำเสียงไม่พอใจแม่งเอ๊ย! กล้ามาจีบฉางหูงั้นเหรอ?สมแล้วที่เป็นคนนอก ไม่มีมารยาท!สายตาของเหล่าสมาชิกหน่วยปฏิบัติการดาบมังกรที่มองเย่เฟิง เต็มไปด้วยความไม่พอใจและดูถูกเหมือนพวกเขากำลังมองคนเจ้าชู้ที่ไม่มีอะไรดีไปกว่าผู้ชายลามก“ก็แค่พูดคุยกันในฐานะเพื่อนร่วมทีม มันผิดตรงไหน? ฉันได้ยินมาว่าฉางหูเป็นสมาชิกเสริมเหมือนกัน เราก็ถือว่ามีพรหมลิขิตต่อกัน จริงไหม?”เย่เฟิงพูดพร้อมรอยยิ้ม“พรหมลิขิต? แม่งพูดได้ไม่อายปาก!”“ฉันจ
หลานเขอซีเข้ามาเป็นสมาชิกของหน่วยปฏิบัติการดาบมังกรด้วยวิธีนี้เธอมาจากสำนักลึกลับที่ชื่อสำนักก๋าเจียในเขตฉาง ซึ่งมีวิถีการฝึกฝนเฉพาะตัวแม้จะร่วมเดินทางไปกับทหาร เธอก็ไม่เคยละทิ้งการฝึกฝนตอนนี้ ในบรรยากาศของภูเขาที่สงบและบริสุทธิ์ หลานเขอซีหาที่นั่งเงียบๆ เพื่อทำสมาธิเส้นผมยาวของเธอสยายลงเบาๆ ให้ความรู้สึกสง่างามและบริสุทธิ์ใบหน้าด้านข้างที่งดงามดุจภาพวาดของเธอ ทำให้ใครเห็นก็หลงใหลแต่ในวินาทีต่อมา คิ้วของหลานเขอซีก็ขมวดเข้าหากัน สายตาเย็นชาจ้องมองไปยังทิศทางหนึ่ง"น่ารำคาญจริงๆ!"หลานเขอซีลุกขึ้นยืน มองเย่เฟิงที่เดินตามมา เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเย็นชาเธอคิดว่าเย่เฟิงเป็นแค่ผู้ชายเจ้าชู้ที่หวังลวนลามเธอแต่ครั้งนี้ ใบหน้าของเย่เฟิงไร้ซึ่งรอยยิ้มเหมือนตอนที่เข้ามาทักสายตาของเขากลับดูแข็งกร้าว เย็นชา และจ้องมองเธออย่างไม่ลดละเย่เฟิงเดินตรงไปที่หลานเขอซี โดยไม่พูดอะไร เขายื่นมือไปคว้าที่คอเสื้อของเธอทันทีเพี๊ยะ!เสียงฝ่ามือดังขึ้นอย่างชัดเจนหลานเขอซีตบหน้าเย่เฟิงเต็มแรงเธอยกมือขึ้นปิดคอเสื้อของตัวเอง สายตาเต็มไปด้วยความโกรธ และแฝงไปด้วยความดุดัน"ไอ้เลว!""แกกล้าดี
หลานเขอซีสัมผัสได้ถึงอารมณ์ของเย่เฟิงในตอนนี้ ใบหน้าของเธอเปลี่ยนไปทันทีผู้ชายที่เมื่อครู่ยังทำตัวสนิทสนม พูดจาเล่นหัว เหมือนสุนัขตัวเล็กๆ ตอนนี้กลับกลายเป็นหมาป่าดุร้ายตัวหนึ่ง!"นายเป็นบ้าอะไร? ทำไมฉันต้องบอกนายด้วย?"หลานเขอซีขมวดคิ้ว ถามกลับด้วยน้ำเสียงเย็นชาปัง!สิ้นเสียง เย่เฟิงกระทืบเท้ากับพื้น ก่อนพุ่งเข้าหาหลานเขอซีหลานเขอซีหน้าซีดเผือด เธอชูนิ้วขึ้นทำท่าดาบ แล้วโจมตีไปที่หน้าอกของเย่เฟิงในชั่วพริบตา พลังระดับแปรสภาพขั้นต้นของเธอปะทุออกมาเต็มที่ การโจมตีของเธอรุนแรงและรวดเร็วแม้แต่นิ้วมือของเธอที่พุ่งผ่านอากาศยังส่งเสียงหวีดหวิวแต่เย่เฟิงกลับมองการโจมตีของเธอด้วยสายตาไม่ยี่หระเพี๊ยะ!เสียงฝ่ามือดังขึ้น เย่เฟิงฟาดมือตบการโจมตีของหลานเขอซีออกไปอย่างง่ายดายจากนั้นมือใหญ่ของเขาก็คว้าคอของหลานเขอซี และยกตัวเธอขึ้นจากพื้น"สร้อยหยกเส้นนี้มาจากไหน?""บอกมา! ไม่อย่างนั้น ฉันจะทำให้เธอมีชีวิตอยู่ไม่สู้ตาย!!"เย่เฟิงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาและเต็มไปด้วยความน่ากลัวใบหน้าสวยของหลานเขอซีเริ่มแดงก่ำจากการขาดอากาศ เธอมองเย่เฟิงด้วยความตกใจและหวาดกลัวเย่เฟิงในตอนนี้ไร้
เย่เฟิงคว้าหัวไหล่ของหลานเขอซีไว้แน่น "พิธีฝังศพแห่งฟ้า? ทำไมต้องพิธีฝังศพแห่งฟ้า? ทำไม? พวกเธอมีสิทธิ์อะไรที่จะจัดการศพของพวกเขาแบบนั้น? ฮะ?"พิธีฝังศพแห่งฟ้า?ถ้างั้นพ่อแม่ของเขาก็คงไม่เหลือแม้กระดูกแล้วน่ะสิ!!หลานเขอซีมองเย่เฟิงที่ดูเหมือนจะเสียสติ หัวใจของเธอเต้นระรัว กลัวว่าเขาจะฆ่าเธอในทันที"ในวัฒนธรรมของพวกเราพิธีฝังศพแห่งฟ้า คือการให้เกียรติอันสูงสุดแก่ผู้เสียชีวิต มันหมายถึงการที่วิญญาณไม่มีวันสูญสิ้น และจะวนเวียนในวัฏจักรของการเกิดใหม่""อาจารย์ของฉันทำด้วยความหวังดี!"เย่เฟิงจ้องมองหลานเขอซีโดยไม่พูดอะไรเป็นเวลานาน ในที่สุดเขาก็ปล่อยเธอออกจากมือตุบ!ร่างของเย่เฟิงเซเล็กน้อย ก่อนจะทรุดเข่าลงกับพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรงพ่อแม่ของเขา...ตายแล้วเหรอ?ได้ยังไงกัน? ตายได้ยังไงกัน?หลายปีที่ผ่านมา เย่เฟิงยังคงมีความหวังเล็กๆ ว่าพ่อแม่ของเขาอาจยังมีชีวิตอยู่ แม้ว่าความหวังนั้นจะริบหรี่เพียงใดแต่เมื่อได้ยินคำตอบนี้จากปากของหลานเขอซี เย่เฟิงก็เหมือนถูกไฟฟ้าช็อตสามสิบล้านโวลด์รู้สึกว่าความหวังหลายปีมานี้ได้พังทลายลงในชั่วพริบตายิ่งไปกว่านั้น จากที่หลานเขอซีเล่า พ่อแม่ของ
“ขอบคุณเธอและอาจารย์ของเธอมากที่พยายามช่วยพวกเขาในตอนนั้น!”“ฉันต้องขอโทษสำหรับการกระทำของฉันเมื่อกี้ด้วย”เสียงของเย่เฟิงเต็มไปด้วยความหม่นหมอง หลังจากพูดจบ เขาก็หันหลังเดินออกจากหุบเขาโดยไม่เหลียวกลับมามอง"ฟู่ว..."หลานเขอซีมองเขาเดินจากไป แล้วถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอกเธอลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนตัดสินใจรักษาระยะห่าง แล้วเดินตามเย่เฟิงกลับไปยังค่ายพักชั่วคราวในใจเธอรู้สึกโชคดี ที่เย่เฟิงไม่ได้เสียสติจนฆ่าเธอในตอนนั้นเมื่อเห็นเย่เฟิงสวมสร้อยหยกไว้ที่คอ หลานเขอซีเองก็ไม่กล้าขอคืนเธอคิดว่า ชายหญิงที่ตายไปนั้นคงมีความสัมพันธ์พิเศษกับเขาบางทีอาจเป็นญาติสายตรงก็ได้!แน่นอนว่า หลานเขอซีไม่มีความกล้าพอที่จะถามเย่เฟิงเกี่ยวกับเรื่องนี้ เธอรู้ดีว่าตอนนี้เขาไม่ควรได้รับการกระตุ้นเพิ่มอีกแต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะเข้าใจเรื่องนี้เมื่อเย่เฟิงเดินกลับมาที่ค่ายพักด้วยสีหน้าเย็นชา เสียงหัวเราะเยาะก็ดังขึ้นทันที“โอ้ กลับมาแล้วเหรอ?”“ทำไมสีหน้าตาดูไม่ดีเลยล่ะ! หรือว่าโดนฉางหูตบหน้าไปหลายที? ฮ่าๆๆ...”สมาชิกหน่วยดาบมังกรคนหนึ่งพูดขึ้น พร้อมหัวเราะเยาะเมื่อเห็นเย่เฟิงเดินกลับมาในสภาพอารมณ
“พ่อค่ะ โนโนะเจ็บมากเลย! โนโนะจะตายอยู่แล้ว...”“โนโนะไม่รักษาแล้วได้ไหม?”“โนโนะไม่อยากเจ็บปวดแบบนี้อีกแล้ว แล้วก็ไม่อยากให้พ่อต้องมาเสียเงินกับโนโนะแล้วด้วย”“พาโนโนะกลับบ้านหน่อยได้ไหม? โนโนะอยากกลับบ้าน…โนโนะอยากกลับบ้านจริง ๆ นะ…”ในห้องไอซียู มีคนตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งกำลังนอนอยู่ที่นั่น ใบหน้าเล็ก ๆ ที่มีความน่ารักจิ้มลิ้มแต่เดิมนั้นซีดเผือดไปหมด แต่กลับมีเลือดไหลออกจากปากและจมูกอยู่ตลอดเวลา มีจุดเลือดออกทั่วร่างกาย! !มือเล็ก ๆ ข้างหนึ่งพยายามใช้แรงเฮือกสุดท้ายคว้ามือของเย่เฟิงเอาไว้ ดวงตาที่กลมโตของเธอแสดงออกถึงความรู้สึกเจ็บปวดและความคิดถึงอาวรณ์พ่อของเธอ!ดวงตาของเย่เฟิงแดงก่ำ เขารู้สึกเจ็บปวดหัวใจราวกับโดนเข็มทิ่มแทงอย่างไรอย่างนั้น ความเจ็บปวดนั้นเลวร้ายเสียยิ่งกว่าบาดแผลที่ถูกมีดแทงที่ไตด้านซ้ายของเขาเป็นร้อยเป็นพันเท่า“โนโนะลูกรัก พ่อจะหาทางรักษาลูกให้หายให้ได้ เมื่อลูกอาการดีขึ้นแล้ว พ่อจะพาโนโนะกลับบ้าน แล้วก็จะทำปีกไก่โค้กให้โนโนะด้วย โอเคไหม?”เย่เฟิงจับมือเล็ก ๆ ข้างนั้นเอาไว้ เขาพูดด้วยเสียงสะอื้น“พ่อโกหก โนโนะรู้ว่าไม่มีทางรักษาให้หายได้ พ่อเก็บเงินไว้เถอะ หากโนโนะตา
“ขอบคุณเธอและอาจารย์ของเธอมากที่พยายามช่วยพวกเขาในตอนนั้น!”“ฉันต้องขอโทษสำหรับการกระทำของฉันเมื่อกี้ด้วย”เสียงของเย่เฟิงเต็มไปด้วยความหม่นหมอง หลังจากพูดจบ เขาก็หันหลังเดินออกจากหุบเขาโดยไม่เหลียวกลับมามอง"ฟู่ว..."หลานเขอซีมองเขาเดินจากไป แล้วถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอกเธอลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนตัดสินใจรักษาระยะห่าง แล้วเดินตามเย่เฟิงกลับไปยังค่ายพักชั่วคราวในใจเธอรู้สึกโชคดี ที่เย่เฟิงไม่ได้เสียสติจนฆ่าเธอในตอนนั้นเมื่อเห็นเย่เฟิงสวมสร้อยหยกไว้ที่คอ หลานเขอซีเองก็ไม่กล้าขอคืนเธอคิดว่า ชายหญิงที่ตายไปนั้นคงมีความสัมพันธ์พิเศษกับเขาบางทีอาจเป็นญาติสายตรงก็ได้!แน่นอนว่า หลานเขอซีไม่มีความกล้าพอที่จะถามเย่เฟิงเกี่ยวกับเรื่องนี้ เธอรู้ดีว่าตอนนี้เขาไม่ควรได้รับการกระตุ้นเพิ่มอีกแต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะเข้าใจเรื่องนี้เมื่อเย่เฟิงเดินกลับมาที่ค่ายพักด้วยสีหน้าเย็นชา เสียงหัวเราะเยาะก็ดังขึ้นทันที“โอ้ กลับมาแล้วเหรอ?”“ทำไมสีหน้าตาดูไม่ดีเลยล่ะ! หรือว่าโดนฉางหูตบหน้าไปหลายที? ฮ่าๆๆ...”สมาชิกหน่วยดาบมังกรคนหนึ่งพูดขึ้น พร้อมหัวเราะเยาะเมื่อเห็นเย่เฟิงเดินกลับมาในสภาพอารมณ
เย่เฟิงคว้าหัวไหล่ของหลานเขอซีไว้แน่น "พิธีฝังศพแห่งฟ้า? ทำไมต้องพิธีฝังศพแห่งฟ้า? ทำไม? พวกเธอมีสิทธิ์อะไรที่จะจัดการศพของพวกเขาแบบนั้น? ฮะ?"พิธีฝังศพแห่งฟ้า?ถ้างั้นพ่อแม่ของเขาก็คงไม่เหลือแม้กระดูกแล้วน่ะสิ!!หลานเขอซีมองเย่เฟิงที่ดูเหมือนจะเสียสติ หัวใจของเธอเต้นระรัว กลัวว่าเขาจะฆ่าเธอในทันที"ในวัฒนธรรมของพวกเราพิธีฝังศพแห่งฟ้า คือการให้เกียรติอันสูงสุดแก่ผู้เสียชีวิต มันหมายถึงการที่วิญญาณไม่มีวันสูญสิ้น และจะวนเวียนในวัฏจักรของการเกิดใหม่""อาจารย์ของฉันทำด้วยความหวังดี!"เย่เฟิงจ้องมองหลานเขอซีโดยไม่พูดอะไรเป็นเวลานาน ในที่สุดเขาก็ปล่อยเธอออกจากมือตุบ!ร่างของเย่เฟิงเซเล็กน้อย ก่อนจะทรุดเข่าลงกับพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรงพ่อแม่ของเขา...ตายแล้วเหรอ?ได้ยังไงกัน? ตายได้ยังไงกัน?หลายปีที่ผ่านมา เย่เฟิงยังคงมีความหวังเล็กๆ ว่าพ่อแม่ของเขาอาจยังมีชีวิตอยู่ แม้ว่าความหวังนั้นจะริบหรี่เพียงใดแต่เมื่อได้ยินคำตอบนี้จากปากของหลานเขอซี เย่เฟิงก็เหมือนถูกไฟฟ้าช็อตสามสิบล้านโวลด์รู้สึกว่าความหวังหลายปีมานี้ได้พังทลายลงในชั่วพริบตายิ่งไปกว่านั้น จากที่หลานเขอซีเล่า พ่อแม่ของ
หลานเขอซีสัมผัสได้ถึงอารมณ์ของเย่เฟิงในตอนนี้ ใบหน้าของเธอเปลี่ยนไปทันทีผู้ชายที่เมื่อครู่ยังทำตัวสนิทสนม พูดจาเล่นหัว เหมือนสุนัขตัวเล็กๆ ตอนนี้กลับกลายเป็นหมาป่าดุร้ายตัวหนึ่ง!"นายเป็นบ้าอะไร? ทำไมฉันต้องบอกนายด้วย?"หลานเขอซีขมวดคิ้ว ถามกลับด้วยน้ำเสียงเย็นชาปัง!สิ้นเสียง เย่เฟิงกระทืบเท้ากับพื้น ก่อนพุ่งเข้าหาหลานเขอซีหลานเขอซีหน้าซีดเผือด เธอชูนิ้วขึ้นทำท่าดาบ แล้วโจมตีไปที่หน้าอกของเย่เฟิงในชั่วพริบตา พลังระดับแปรสภาพขั้นต้นของเธอปะทุออกมาเต็มที่ การโจมตีของเธอรุนแรงและรวดเร็วแม้แต่นิ้วมือของเธอที่พุ่งผ่านอากาศยังส่งเสียงหวีดหวิวแต่เย่เฟิงกลับมองการโจมตีของเธอด้วยสายตาไม่ยี่หระเพี๊ยะ!เสียงฝ่ามือดังขึ้น เย่เฟิงฟาดมือตบการโจมตีของหลานเขอซีออกไปอย่างง่ายดายจากนั้นมือใหญ่ของเขาก็คว้าคอของหลานเขอซี และยกตัวเธอขึ้นจากพื้น"สร้อยหยกเส้นนี้มาจากไหน?""บอกมา! ไม่อย่างนั้น ฉันจะทำให้เธอมีชีวิตอยู่ไม่สู้ตาย!!"เย่เฟิงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาและเต็มไปด้วยความน่ากลัวใบหน้าสวยของหลานเขอซีเริ่มแดงก่ำจากการขาดอากาศ เธอมองเย่เฟิงด้วยความตกใจและหวาดกลัวเย่เฟิงในตอนนี้ไร้
หลานเขอซีเข้ามาเป็นสมาชิกของหน่วยปฏิบัติการดาบมังกรด้วยวิธีนี้เธอมาจากสำนักลึกลับที่ชื่อสำนักก๋าเจียในเขตฉาง ซึ่งมีวิถีการฝึกฝนเฉพาะตัวแม้จะร่วมเดินทางไปกับทหาร เธอก็ไม่เคยละทิ้งการฝึกฝนตอนนี้ ในบรรยากาศของภูเขาที่สงบและบริสุทธิ์ หลานเขอซีหาที่นั่งเงียบๆ เพื่อทำสมาธิเส้นผมยาวของเธอสยายลงเบาๆ ให้ความรู้สึกสง่างามและบริสุทธิ์ใบหน้าด้านข้างที่งดงามดุจภาพวาดของเธอ ทำให้ใครเห็นก็หลงใหลแต่ในวินาทีต่อมา คิ้วของหลานเขอซีก็ขมวดเข้าหากัน สายตาเย็นชาจ้องมองไปยังทิศทางหนึ่ง"น่ารำคาญจริงๆ!"หลานเขอซีลุกขึ้นยืน มองเย่เฟิงที่เดินตามมา เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเย็นชาเธอคิดว่าเย่เฟิงเป็นแค่ผู้ชายเจ้าชู้ที่หวังลวนลามเธอแต่ครั้งนี้ ใบหน้าของเย่เฟิงไร้ซึ่งรอยยิ้มเหมือนตอนที่เข้ามาทักสายตาของเขากลับดูแข็งกร้าว เย็นชา และจ้องมองเธออย่างไม่ลดละเย่เฟิงเดินตรงไปที่หลานเขอซี โดยไม่พูดอะไร เขายื่นมือไปคว้าที่คอเสื้อของเธอทันทีเพี๊ยะ!เสียงฝ่ามือดังขึ้นอย่างชัดเจนหลานเขอซีตบหน้าเย่เฟิงเต็มแรงเธอยกมือขึ้นปิดคอเสื้อของตัวเอง สายตาเต็มไปด้วยความโกรธ และแฝงไปด้วยความดุดัน"ไอ้เลว!""แกกล้าดี
“ให้ช่วยไหม?”หลังจากที่มาถึง เย่เฟิงก็ถามฉางหูยิ้มๆหลานเขอซีหรือก็คือฉางหูอึ้งไปสักพัก แล้วหันไปมองค้อนใส่เย่เฟิงพลางส่ายหัวอย่างไร้อารมณ์ “ไม่ต้อง!”เบื้องลึกสายตาของเธอแฝงไปด้วยความรำคาญรู้สึกแย่ต่อพฤติกรรมเข้ามาทักทายแบบนี้ของเย่เฟิง“เธอชื่ออะไร? ได้ข่าวว่ามาจากเขตฉางเหรอ? มาจากสำนักไหนล่ะ?”เย่เฟิงกลับไม่สนใจ เอ่ยถามด้วยสีหน้า ‘ไร้ยางอาย’“ไม่มีอะไรต้องบอกนาย!”หลานเขอซีขมวดคิ้ว กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาขณะนั้นเอง ฉินเจิ้นนำทีมสมาชิกหน่วยปฏิบัติการดาบมังกรเดินเข้ามาด้วยใบหน้าเคร่งเครียด“ไอ้เย่ ทำอะไรน่ะ?”ฉินเจิ้นตบไหล่เย่เฟิงอย่างแรง และถามด้วยน้ำเสียงไม่พอใจแม่งเอ๊ย! กล้ามาจีบฉางหูงั้นเหรอ?สมแล้วที่เป็นคนนอก ไม่มีมารยาท!สายตาของเหล่าสมาชิกหน่วยปฏิบัติการดาบมังกรที่มองเย่เฟิง เต็มไปด้วยความไม่พอใจและดูถูกเหมือนพวกเขากำลังมองคนเจ้าชู้ที่ไม่มีอะไรดีไปกว่าผู้ชายลามก“ก็แค่พูดคุยกันในฐานะเพื่อนร่วมทีม มันผิดตรงไหน? ฉันได้ยินมาว่าฉางหูเป็นสมาชิกเสริมเหมือนกัน เราก็ถือว่ามีพรหมลิขิตต่อกัน จริงไหม?”เย่เฟิงพูดพร้อมรอยยิ้ม“พรหมลิขิต? แม่งพูดได้ไม่อายปาก!”“ฉันจ
“จะไม่สังเกตได้ยังไง? หน้าตาพอใช้ได้ที่ไหน นั่นมันเป็นทหารหญิงที่สวยที่สุดตั้งแต่ที่ผมเคยเจอแล้ว!”ลั่วกันหยุนกล่าวยิ้มร้ายเจี่ยงเจิ้ง และจางเฉิงเฟิงเองก็ดวงตาเป็นประกายเมื่อพูดถึงผู้หญิงคนนั้นทหารเขตรักษาความปลอดภัยที่อยู่บนรถอีกคันหนึ่งเองก็วิจารณ์กันพลันทุกคนล้วนเป็นผู้ชาย อยู่แต่ในกองทัพทั้งวัน เดือนหนึ่งไม่ได้เห็นสาวสวยแม้แต่คนเดียวบางครั้งแค่เห็นแม่หมู ก็ยังรู้สึกสวยงามตระการตาเลย อย่าว่าแต่เห็นสาวสวยขนาดนี้เลย“ผู้หญิงคนนั้นดูเหมือนจะเป็นเจ้าหน้าที่ภายนอกของหน่วยปฏิบัติการดาบมังกรเหมือนคุณเย่ด้วย!”“สวยจริงๆ ชื่ออะไรน่ะ?”“ชื่ออะไรไม่รู้ แต่ได้ยินคนที่หน่วยนั้นเรียกเธอว่าฉางหู น่าจะเป็นชื่อในวงการ ดูเหมือนว่าเธอจะมาจากเขตฉาง!”“ใช่ๆ! ว่ากันว่ามาจากสำนักไหนสักแห่งของเขตฉาง ดูลึกลับดี!”เมื่อได้ฟังเรื่องเหล่านี้ โดยเฉพาะตอนที่ได้ยินว่าอีกฝ่ายมาจากเขตฉางแล้ว เย่เฟิงก็หูผึ่งทันทีเริ่มรู้สึกสนใจในตัวฉางหูแห่งหน่วยปฏิบัติการดาบมังกรสำหรับเย่เฟิงแล้ว เขตฉางหูถือเป็นความเจ็บปวดอย่างหนึ่ง แต่ก็เป็นความหวังอันเล็กน้อย!เมื่อตนอายุสิบแปดปี พ่อแม่ของตนได้หายตัวไปอย่างไร้ร
"ทำไม? ยังไม่ยอมอีกเหรอ?"เย่เฟิงเลิกคิ้วถาม เมื่อเห็นสายตาอาฆาตของฉินเจิ้นฉินเจิ้นแค่นเสียงเย็นชา "แค่พวกนักสู้เท่านั้น! ฉันยอมรับว่าแกมีพลังฝีมือเหนือกว่าฉัน แต่ถ้าต้องสู้กันเอาชีวิต คนที่จะตายต้องเป็นแก!""อ้อ? จริงเหรอ?"เย่เฟิงยิ้มเยาะฉินเจิ้นกัดฟัน "ไอ้หนุ่ม บนสนามรบจริงๆ พลังฝีมือไม่ได้สำคัญขนาดนั้นความสามารถทางการทหารต่างหากที่เป็นกุญแจสำคัญ!แกจะเก่งแค่ไหน แต่ฉันใช้สไนเปอร์จากระยะพันเมตรก็จัดการแกได้กำปั้นและเท้าของแกไม่มีวันสัมผัสตัวฉันได้เลยแม้แต่น้อย!พลังฝีมือของแก จะไปสู้อาวุธหนักยุคใหม่ได้หรือเปล่า? จะต้านรถถัง ปืนใหญ่ หรือเครื่องบินได้ไหม?"เมื่อพูดจบ เหล่าสมาชิกหน่วยดาบมังกรต่างพากันสนับสนุน"ใช่! พวกศิลปะการต่อสู้นั่นไม่มีอะไรหรอก!""ถ้าเอาจริงในสนามรบ หัวหน้าเรายิงหมอนั่นดับได้ในพริบตาแล้ว""สิ่งที่เราฝึกทุกวันคือการต่อสู้ทางทหาร นั่นแหละของจริง!""กำปั้นกับเท้า แค่เรื่องเล่นๆ เท่านั้น!"เย่เฟิงยิ้มเล็กน้อยก่อนพยักหน้า "ใช่ ฉันยอมรับว่าในเรื่องเอาชีวิตรอด พวกแกเก่งกว่า ฉันชื่นชมพวกแกในฐานะทหารผู้ปกป้องประเทศ"คำพูดของเย่เฟิงทำให้ฉินเจิ้นถึงกับชะงั
เย่เฟิงแค่นเสียงเยาะ “นายแน่ใจเหรอ?”“มาเลย!”ฉินเจิ้นคำรามเสียงดัง ก่อนพุ่งตัวเข้าหาเย่เฟิงเขาใช้ท่าเทียนซานเค่าจากหมัดแปดสุดยอด ท่าที่โดดเด่นด้วยการโจมตีใกล้ตัวที่ทรงพลัง ใช้แรงทั้งหมดในร่างกายพุ่งชนศัตรูหากโดนโจมตี ท่าที่รุนแรงนี้อาจทำให้ศัตรูได้รับบาดเจ็บสาหัสถึงขั้นอวัยวะภายในเสียหาย!เย่เฟิงเพียงแค่นเสียงเย็นชา ก่อนดึงตัวเข้าสู่ท่ารับมือ พร้อมพุ่งเข้าหาฉินเจิ้นโดยใช้ท่าเดียวกัน“พี่เย่ ระวัง!”จางเฉิงเฟิงร้องเตือนด้วยความตกใจ“ไอ้บ้านี่บ้าไปแล้วหรือไง?”“จู่ๆ กลับไม่หลบ?”“ท่านี้ของหัวหน้าพวกเรา ต่อให้เป็นต้นไม้ใหญ่อายุนับร้อยปีก็ยังโดนพุ่งจนแหลก!”“เลียนแบบท่าของหัวหน้า? คิดว่าตัวเองจะทำได้เหมือนเหรอ ฮ่าๆ...”เหล่าทหารจากหน่วยดาบมังกรหัวเราะเยาะเย้ยเมื่อเห็นท่าทางของเย่เฟิง ดูเหมือนพยายามเลียนแบบ แต่ท่าทางของเขากลับดูเงอะงะและขาดความสมบูรณ์เย่เฟิงไม่เคยเรียนวิชาการต่อสู้มาก่อน ทักษะของเขามาจากการฝึก พลังมังกรเทพนิรันดร์ท่าเทียนซานเค่านี้ เขาเลียนแบบฉินเจิ้นมาทั้งนั้นดังนั้นการเลียนแบบท่าเทียนซานเค่า จึงดูเหมือนไม่ชำนาญนักทำให้หลายคนเผยสีหน้าเย้ยหยันและดูถ
ฉินเจิ้นพุ่งเข้าใส่เย่เฟิงทันที พร้อมออกหมัดตรงพุ่งไปที่ใบหน้าของเขา แรงลมจากหมัดนั้นเฉียบคมจนเกิดเสียงฝ่าอากาศพลังของเขาอยู่ในระดับ พลังมืดทมิฬช่วงปลาย อีกเพียงนิดเดียวก็จะทะลุถึงระดับพลังแปรสภาพเย่เฟิงสังเกตเห็นตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้วว่า คนที่แข็งแกร่งที่สุดในหน่วยปฏิบัติการดาบมังกร กลับไม่ใช่ฉินเจิ้นหัวหน้าหน่วยแต่เป็นหญิงสาวที่มีใบหน้างดงามโดดเด่นในกลุ่ม!ฟึ่บ!เมื่อเผชิญหน้ากับหมัดของฉินเจิ้น เย่เฟิงเพียงเอนหัวหลบเบาๆ ก็พ้นจากการโจมตี“หัวหน้า สู้เขา!”“ทำให้เขารู้ว่า หน่วยปฏิบัติการดาบมังกรของเรานั้นเก่งขนาดไหน!”“ยอดฝีมือ? ข้าว่าคงเป็นยอดฝีมือด้านปากมากกว่า ฮ่าๆ...”เหล่าทหารจากหน่วยดาบมังกรส่งเสียงเชียร์อย่างสนุกสนาน“พี่เย่ สู้เขา!”“ให้ตายสิ พวกนี้มันหยิ่งกันเกินไปแล้ว พี่เย่ สั่งสอนมันหน่อย!”“…”ลั่วกันหยุนและทหารจากเขตรักษาความปลอดภัยฝั่งหยุนเฉิงก็เชียร์เย่เฟิงอย่างแข็งขันตั้งแต่ที่หน่วยปฏิบัติการดาบมังกรมาถึง พวกเขาแสดงความเย่อหยิ่ง ไม่ใส่ใจคนจากเขตรักษาความปลอดภัยหยุนเฉิงเลยเหล่าทหารฝั่งหยุนเฉิงต่างหวังว่า เย่เฟิงจะสามารถดับความเย่อหยิ่งของพวกเขาได้“