ริมทะเลสาบในหุบเขาแห่งนี้ บรรยากาศเต็มไปด้วยกลิ่นอายสังหาร!แม้แต่คนธรรมดาที่อยู่ห่างออกไปไกล ยังสามารถรับรู้ถึงจิตสังหารที่น่าสะพรึงระหว่างเย่เฟิงกับโอดะ ชินเก็น!พลังอันมหาศาลคล้ายจับต้องได้ พวยพุ่งออกมาจากโอดะ ชินเก็น กดดันเข้าหาเย่เฟิงเมื่อสะสมพลังถึงขีดสุด เขาก็ส่งเสียงคำราม ดึงดาบคู่จากหลังออกมา กลายร่างเป็นเงาวูบพุ่งเข้าหาเย่เฟิง!เย่เฟิงแค่นเสียงเย็น ย่ำเท้าไปข้างหน้าโดยไม่หวาดหวั่น ปะทะเข้าไปอย่างกล้าหาญดวงตาเป็นประกาย เผยให้เห็นจิตวิญญาณนักสู้ที่พลุ่งพล่าน!“ฟัน!”โอดะ ชินเก็นแสยะยิ้มอย่างดุร้าย ดาบคู่ฟันตัดผ่านอากาศ มุ่งหน้าเข้าสู่เย่เฟิงในลักษณะฟันไขว้!ท่าทางราวกับจะตัดเย่เฟิงออกเป็นสี่ส่วน!หวือ!ในชั่วพริบตา พลังมังกรอันแข็งแกร่งพวยพุ่งออกมาจากร่างของเย่เฟิง ก่อตัวเป็นพลังป้องกันแน่นหนาภายนอกร่างกายของเขาอากาศรอบตัวเย่เฟิงดูเหมือนบิดเบี้ยวตามไปด้วยในพริบตา เย่เฟิงพุ่งตรงเข้าสู่ดาบไขว้ของโอดะ ชินเก็นอย่างไม่หยุดยั้งเคร้ง! เคร้ง! เคร้ง…ในวินาทีนั้นเอง ม่านตาของโอดะ ชินเก็นที่เต็มไปด้วยความมั่นใจหดลง!ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความดุร้ายและโหดเหี้ยม กลับถูกแทน
หลี่เฉิงหนานโบกมือปฏิเสธไม่หยุดก่อนหน้านี้เขายังทำหน้าหยิ่งผยอง พูดจาท้าทายว่าจะประลองกับเย่เฟิง แต่ตอนนี้กลับดูเหมือนจะร้องไห้อย่างไรอย่างนั้น พูดออกมาพร้อมปากที่สั่นระริกเขาไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้าเย่เฟิงตรงๆ ด้วยซ้ำ!เย่เฟิงหัวเราะเบาๆ ก่อนกวาดตามองไปรอบๆผู้จัดการฉางจากจุดชมวิวหดคอด้วยความกลัว รู้สึกขาสั่นจนแทบทรงตัวไม่อยู่ดาราสาวเจียงรุ่ยฉีเบือนสายตาไปทางอื่น ไม่กล้าสบตากับเย่เฟิง ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความลังเลและสับสนวี๊วอ…วี๊วอ…วี๊วอ…ในขณะนั้นเอง เสียงไซเรนตำรวจดังขึ้นอย่างเร่งรีบวินาทีต่อมา รถตำรวจของหน่วยปราบปรามหลายคัน พร้อมรถพยาบาลอีกหลายคันก็มาถึงที่เกิดเหตุ!หลังจากที่หัวหน้าทีมลงจากรถ แล้วเห็นภาพเบื้องหน้า เขาก็ตกตะลึงจนหน้าถอดสี!“ทุกคนอย่าขยับ! ยกมือขึ้น!”หัวหน้าทีมควักปืนออกมา พร้อมตะโกนสั่งเสียงดังเจ้าหน้าที่คนอื่นที่ลงจากรถตามมา ก็ตกใจเช่นกันเมื่อเห็นศพที่คุกเข่าเรียงรายกันเต็มพื้น พวกเขาก็รีบชักปืนออกมาทันทีเย่เฟิงส่ายหัวเล็กน้อย ก่อนยอมยกมือขึ้นอย่างร่วมมือคนอื่นๆ ก็ยกมือขึ้นตาม…“พาตัวทุกคนไป!”หัวหน้าทีมสั่งเสียงเย็นชา พร้อมพาคนทั้งหมดท
เย่เฟิงตะโกนด้วยความโกรธ “พาเธอมาสิ! ผมจะเผชิญหน้ากับเธอ! เธอกำลังแก้แค้นส่วนตัว และใส่ร้ายผมอย่างไร้เหตุผลอยู่!”เมื่อเขาพูดจบ ชายผมเทาก็ลังเลเล็กน้อย ก่อนตอบด้วยเสียงเรียบว่า “ผมจะถ่ายทอดความต้องการของคุณให้คุณเจียงรุ่ยฉี ถ้าเธอยินดี ผมจะจัดให้พวกคุณได้เผชิญหน้ากัน!”หลังจากพูดจบ ชายผมเทาก็ออกจากห้องสอบปากคำไป!ในขณะเดียวกันอีกฝั่งหนึ่งคนอื่นๆ ที่ให้ปากคำเสร็จแล้ว ส่วนใหญ่ยังคงอยู่ในลานของหน่วยปราบปราม ยังไม่ได้กลับไปหลีเอียนก็อยู่ในกลุ่มนั้นด้วย!เธอแสดงความกังวลออกมา มองไปรอบๆ แต่อย่างไรก็ไม่เห็นเย่เฟิงออกมาสักทีวินาทีต่อมา หลีเอียนคว้าแขนเจ้าหน้าที่คนหนึ่ง ถามด้วยน้ำเสียงร้อนรนว่า “ขอโทษนะคะ คุณเย่เฟิงทำไมยังไม่ออกมา? เขาไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะ?”เจ้าหน้าที่คนนั้นส่ายหัว “ขอโทษครับ มีคนกล่าวหาว่าคุณเย่ฆ่าผู้บริสุทธิ์ เรากำลังสอบสวนอยู่”เมื่อได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของหลีเอียนก็เปลี่ยนไปทันที “เย่เฟิงจะฆ่าคนบริสุทธิ์ได้ยังไง? ใครกล่าวหา? คนคนนั้นตาบอดหรือไง?”เธอมองไปรอบๆ ด้วยสายตาอันแหลมคม แต่ก็ไม่เห็นเจียงรุ่ยฉีอยู่ในกลุ่มนั้นนั่นทำให้หลีเอียนนึกถึงบางสิ่ง ก่อนพูดด้วยควา
เมื่อเห็นเช่นนั้น คนที่อยู่ในที่นั้นต่างสะดุ้งและรีบโบกมือ“พะ...พวกเราไม่ได้ทำ!”“เหล่าไคจะถูกคุณเย่ฆ่าได้ยังไง? ฉันเห็นกับตาชัดๆ ว่าฆาตกรคือมือสังหารคนแรกที่เป็นหัวหน้าพวกนั้น เขาเป็นคนฆ่าเหล่าไค!”“ใช่! ฉันเป็นพยานให้คุณเย่ได้!”“คุณเย่เป็นฮีโร่ เขาช่วยพวกเราไว้ จะฆ่าคนบริสุทธิ์ได้ยังไง? เหล่าไคถูกมือสังหารญี่ปุ่นฆ่าต่างหาก!”“พวกเราเป็นพยานให้คุณเย่ได้!”“คนที่กล่าวหาคุณเย่ไม่ใช่ฉันแน่!”“ใครมันใจร้ายกล้าโกหกแบบนี้?”เหล่าทีมงานกองถ่าย นักแสดง ตัวประกอบ และทีมงานร้านชุดแต่งงาน รวมถึงผู้จัดการจุดชมวิว ต่างช่วยกันพูดด้วยความโกรธโดยเฉพาะนักแสดงหญิงและตัวประกอบหญิง พวกเธอพูดเสียงดังเป็นพิเศษ ราวกับการได้ยินว่ามีคนใส่ร้ายเย่เฟิงทำให้พวกเธอโกรธไปด้วยตอนนี้เกือบทุกคนกลายเป็นแฟนคลับของเย่เฟิง เต็มไปด้วยความเคารพและชื่นชมต่อผู้ชายที่เหมือนเทพเจ้าสงครามคนนี้หลีเอียนเห็นภาพนี้ ก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา รีบขอบคุณพวกเขาอย่างจริงใจ “ขอบคุณค่ะ! ขอบคุณที่ทุกคนยอมเป็นพยานให้เย่เฟิง!”“ไม่เป็นไรค่ะ เราก็แค่พูดความจริง ถ้าไม่มีคุณเย่ พวกเราอาจจะตกอยู่ในเงื้อมมือของพวกมือสังหารไปแล้ว! เราไ
ถงซวี่เย่ที่เพิ่งมาถึง รับรู้แค่ว่ากองถ่ายถูกโจมตีโดยมือสังหาร แต่ยังไม่รู้รายละเอียดยิ่งไม่รู้ด้วยว่า เย่เฟิงกับหลีเอียนก็เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ครั้งนี้ด้วยเมื่อเห็นหลีเอียน เขาก็แสดงความประหลาดใจออกมา“ฉันต้องอยู่ที่นี่อยู่แล้ว เรื่องครั้งนี้ทั้งฉันกับเย่เฟิงก็อยู่ในเหตุการณ์ด้วย”หลีเอียนพยักหน้าและพูด“พี่เย่กับพี่สะใภ้ก็อยู่ด้วย? แล้วพี่เย่ล่ะ? อยู่ไหน?”ถงซวี่เย่ได้ยินดังนั้น สีหน้าก็เปลี่ยนไป พลางมองหาคนในกลุ่มนอกจากเห็นเหล่าทหารที่ติดอาวุธและผู้บัญชาการมู่แล้ว เขาก็ไม่เห็นเย่เฟิงเลยในขณะเดียวกัน บทสนทนาระหว่างถงซวี่เย่กับหลีเอียน ทำให้คนในกองถ่ายแสดงความประหลาดใจออกมาคุณชายถง ถึงกับสุภาพกับภรรยาของคุณเย่ขนาดนี้เลยเหรอ?แถมเรียกเธอว่าพี่สะใภ้อีก?ก่อนหน้านี้ ตอนเย่เฟิงพูดว่าจะโทรหาคุณชายถง หลายคนยังคิดว่าเขาพูดเล่นแต่ตอนนี้ ดูเหมือนเขาจะรู้จักคุณชายถงจริงๆและดูจากท่าทีของคุณชายถงแล้ว ความสัมพันธ์ต้องไม่ธรรมดาแน่ๆ!!หลี่เฉิงหนานที่แอบอยู่ด้านหลัง เช็ดเหงื่อเย็นพลางพยายามซ่อนตัวเมื่อคิดถึงการไม่เคารพเย่เฟิงและหลีเอียนก่อนหน้านี้ เขารู้สึกกังวลอย่างยิ่ง กลัวว
เย่เฟิงกัดฟันแน่นด้วยความโกรธในใจเขาแทบอยากจะเดินไปตบหน้าเจียงรุ่ยฉีอีกหลายครั้ง“ขอโทษนะคะ แต่ที่ฉันเห็นคือคุณฆ่าเขา! ส่วนคนอื่นจะเห็นยังไงฉันไม่รู้ บางทีพวกเขาอาจจะกลัวคุณ เพราะเห็นคุณฆ่าคนอย่างโหดเหี้ยมก็ได้!แต่ฉัน เจียงรุ่ยฉี จะไม่ยอมกลัวพลังอำนาจของคุณเด็ดขาด!”เจียงรุ่ยฉีพูดพร้อมกับยักไหล่ จากนั้นก็ลูบหน้าผากของตัวเองด้วยท่าทางเหมือนเวียนหัว “แน่นอน มันก็อาจจะเป็นไปได้ว่า ตอนนั้นสถานการณ์มันตึงเครียดเกินไป ฉันเลยตกใจจนเห็นภาพหลอนไปเอง!เพราะฉันถูกคุณตบ จนตอนนี้หัวฉันยังมึนอยู่เลยไม่ว่าจะยังไง ฉันก็แค่พูดในสิ่งที่ฉันเห็นออกมาก็เท่านั้น!”เย่เฟิงได้ยินดังนั้ ก็มองเธอด้วยแววตาโกรธจัด “เธอ...”เจียงรุ่ยฉียิ้มอย่างได้ใจ เมื่อเห็นเย่เฟิงโกรธแต่ทำอะไรไม่ได้ เธอรู้สึกสะใจยิ่งนักกล้าตบฉันเหรอ?เดี๋ยวเจ๊จะทำให้นายไม่มีทางหนีเลยคอยดู!ต่อให้จะเก่งแค่ไหน ฆ่ามือสังหารได้กี่คนแล้วยังไง?ก็ไม่มีทางสู้กับกฎหมายหรืออำนาจรัฐได้อยู่ดี!ปัง!ในตอนนั้นเอง เสียงดังสนั่นเกิดขึ้นประตูห้องสอบปากคำถูกเตะเปิดออกจากด้านนอกผู้ช่วยไช่ลดเท้าลงยืนตัวตรงอยู่ข้างประตูผู้บัญชาการมู่ เดินเข้
เจียงรุ่ยฉีได้ยินคำพูดของมู่จ้าน ในใจเธอหล่นวูบ หน้าซีดเผือดด้วยความหวาดกลัวแต่เธอยังคงดื้อดึง กล่าวด้วยเสียงแหลมสูงว่า “ฉัน...ฉันไม่รู้ว่ามือสังหารเหล่านั้นจะจับฉันหรือเปล่า แต่ฉันเห็นเย่เฟิงฆ่าคน!มันอาจเป็นไปได้ว่าฉันเห็นภาพหลอนไปเอง เพราะก่อนหน้านี้เย่เฟิงตบหน้าฉัน! ดูสิคะ...เขาเป็นคนรุนแรง ฆ่ามือสังหารไปตั้งมากมาย อาจจะเผลอฆ่าคนในกองถ่ายโดยไม่ตั้งใจก็ได้!ฉันอาจจะมองผิด แต่ฉันไม่ได้ใส่ร้าย...ไม่จริงๆ!”แม้ถึงตอนนี้ ผู้หญิงคนนี้ก็ยังไม่สำนึกในตอนนั้นเอง เธอเหลือบเห็นถงซวี่เย่ที่เดินเข้ามา ดวงตาของเธอสว่างวาบทันที“คุณชายถง! ช่วยฉันด้วย!”“คุณชายถง คุณต้องช่วยฉันนะคะ!”ถึงแม้ผู้บัญชาการมู่จะมีตำแหน่งสูง แต่ในความคิดของเจียงรุ่ยฉี ถงฟากรุ๊ปที่เป็นกลุ่มธุรกิจใหญ่ที่สุดในมณฑล ต้องมีอิทธิพลมากกว่าแน่นอนตราบใดที่คุณชายถงยืนอยู่ข้างเธอ ผู้บัญชาการเขตรักษาความปลอดภัยในเมืองเล็กๆ นี้ก็คงต้องเกรงใจแต่ในวินาทีถัดมา สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เจียงรุ่ยฉีแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองถงซวี่เย่ไม่ได้สนใจเธอเลย ใบหน้าของเขาดูไม่พอใจอย่างยิ่ง ก่อนจะหันไปหาเย่เฟิงด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึก
เจียงรุ่ยฉีในตอนนี้โดนตบจนใบหน้าบวมปูดจนจำเค้าเดิมไม่ได้ถงซวี่เย่ที่โกรธจัดไม่ยั้งแรงเลยแม้แต่น้อย“ไม่...ฉัน...ฉันนึกออกแล้ว! เย่...คุณเย่ไม่ได้ฆ่าเหล่าไค!เมื่อกี้ฉันแค่พูดไปเรื่อยเปื่อย...”เจียงรุ่ยฉีร้องไห้พูดด้วยน้ำเสียงสั่นสะท้าน เธอตกใจจนแทบหมดสติเพี๊ยะ! เพี๊ยะ! เพี๊ยะ!เสียงตบดังสนั่นก้องอยู่ในห้องสอบปากคำถงซวี่เย่ระดมตบเจียงรุ่ยฉีอย่างไร้ปรานี“พูดเรื่อยเปื่อย? พูดเรื่อยเปื่อยอีกสิ!”“ผู้หญิงไร้ค่าอย่างเธอกล้ากล่าวหาว่าเขาฆ่าคน? ถ้าไม่ใช่พี่เย่ของฉัน แต่เป็นคนอื่นล่ะ เธอคิดว่าพวกเขาจะเจอกับอะไร?”“ฉันมันโง่เอง ที่อุตส่าห์ดันเธอจนโด่งดังขึ้นมา!”“พี่เย่ของฉันคือใคร? เขาคือคนที่ช่วยชีวิตแม่ของฉันไว้! เป็นผู้มีพระคุณของตระกูลถง! แล้วเธอ ผู้หญิงไร้ค่านี่ จะให้ฉันมองหน้าพี่เย่ได้ยังไง?”“ให้ตายเถอะ ฉันจะฆ่าแก นังแพศยา!”ถงซวี่เย่พูดด้วยความเดือดดาล พลางตบซ้ำไปมา“คุณชายถง! ฉันผิดไปแล้ว...”“อ๊าก!”“ฉันไม่กล้าอีกแล้ว! ได้โปรดไว้ชีวิตฉันด้วย...”“อ๊าก!”เจียงรุ่ยฉีร้องลั่น ใบหน้าของเธอบิดเบี้ยวจนดูไม่ออกว่าเป็นใครผู้หญิงที่เคยหยิ่งทะนงในช่วงเช้า ตอนนี้เหมือนหม
นอกวงล้อม!ร่างสี่ร่างปรากฏขึ้นตรงหน้าเย่เฟิง!หรือจะพูดให้ถูกต้องคือ เย่เฟิงเพียงร่างเดียว ยืนขวางหน้าร่างทั้งสี่นั่นเขากำลังหยุดพวกมันจากการมุ่งหน้าไปยังค่ายพักในบรรดาร่างทั้งสี่ มีสองคนที่มีใบหน้าแบบชาวเอเชีย พวกเขาเป็นยอดฝีมือจากประเทศญี่ปุ่นอีกสองคนมีผมหยิก ผิวขาว และดวงตาลึกโหล พวกเขาเป็นชาวตะวันตกหลังจากทาคุโนะ ซากิ และโอดะ ชินเก็น สองยอดฝีมือจากประเทศญี่ปุ่นได้เดินทางมายังเยียนเซียแล้วขาดการติดต่อครั้งนี้ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการชิงตัวเสิ่นจี่ ฝ่ายประเทศญี่ปุ่นไม่เพียงแค่ส่งองค์กรนักฆ่าและยอดฝีมือจากประเทศตัวเองมาเท่านั้น แต่ยังจ้างยอดฝีมือระดับโลกด้วยเงินจำนวนมหาศาลชายร่างผอมสูงจากประเทศญี่ปุ่นที่ยืนอยู่ทางซ้ายสุด มีสีหน้าซีดแดงเล็กน้อย และดูเหมือนร่างกายกำลังสั่นสะเทือนจากภายในเมื่อครู่เขาได้ปะทะกับเย่เฟิงไปแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งเป็นที่มาของแรงระเบิดและพลังงานที่กระจายไปทั่วทั้งสี่คน ยืนเผชิญหน้ากับเย่เฟิงด้วยแรงกดดันแม้ใบหน้าจะยังเต็มไปด้วยความมั่นใจ แต่ลึกๆ แล้วก็แฝงไปด้วยความระวังเมื่ออยู่ในระดับยอดฝีมือเช่นนี้ พวกเขาจะไม่ประมาทศัตรูคนใดเด็ดขาดยิ่งไป
ตูม!เสียงระเบิดดังสนั่นจนพื้นดินสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ทุกคนรอบบริเวณรู้สึกได้ถึงการสั่นไหวของพื้นนักรบในชุดดำที่พุ่งเข้าไปล้อมเย่เฟิง ถูกแรงระเบิดส่งตัวลอยขึ้นกลางอากาศร่างของพวกเขาระเบิดออก!หมอกเลือดฟุ้งกระจายไปทั่ว แขนขาที่ขาดกระเด็นปลิวไปคนละทิศทางเย่เฟิงยืนอยู่ตรงกลาง พื้นดินแตกร้าวเป็นใยแมงมุมกว้างใหญ่พลังดินสะเทือนโลกที่เขาใช้ก่อนหน้านี้ ได้ถูกปลดปล่อยออกมาอย่างเต็มกำลังในครั้งนี้ครั้งนี้ต่างจากครั้งเมื่อเผชิญหน้ากับยอดฝีมือตระกูลหลี เพราะครั้งนี้ เย่เฟิงไม่ยั้งมือเย่เฟิงเหยียบลงบนพื้นดิน และสังหารนักรบชุดดำกว่าร้อยชีวิตในพริบตา!พื้นที่รอบตัวเขาโล่งว่าง เหมือนมีช่องว่างใหญ่เปิดขึ้นกลางกองทัพศัตรูเขาเปรียบเสมือนมังกรร้ายที่บุกเข้าสู่ฝูงแกะ ฉีกทำลายศัตรูจนพินาศทั้งศัตรูและฝ่ายเดียวกันต่างมองภาพนี้ด้วยความตกตะลึงในวินาทีต่อมา ขวัญกำลังใจของฝ่ายเย่เฟิงก็พุ่งสูงขึ้นทุกคนรู้สึกถึงกระแสเลือดในตัวที่พลุ่งพล่านปัง ปัง ปัง!การยิงของฝ่ายเย่เฟิงดุเดือดขึ้นหลายเท่าตัวนักรบที่โดนศัตรูล้อมอยู่ต่างตะโกนลั่น ก่อนเปลี่ยนไปใช้ดาบปลายปืน และเปิดฉากต่อสู้ระยะประชิดกับ
ผลวิจัยไบโอเทคของหยุนเจิงในครั้งนี้ ดูเหมือนจะเป็นความสำเร็จที่ก้าวล้ำอย่างมากเพราะหลังจากที่ทาคุโนะ ซากิ และโอดะ ชินเก็นปรากฏตัว ในระหว่างการคุ้มกันนักโทษครั้งนี้ ก็ได้มีนักรบฝีมือเยี่ยมจากประเทศญี่ปุ่นกลุ่มใหญ่อีกกลุ่มหนึ่งปรากฏตัวขึ้นเพื่อจู่โจมหน่วยควบคุมตัวการต่อสู้ที่ดุเดือดปะทุขึ้นในภูเขาอย่างฉับพลันเสียงปืน เสียงตะโกน และเสียงกรีดร้องดังขึ้นไม่หยุด!หน่วยปฏิบัติการดาบมังกรและทหารเขตรักษาความปลอดภัย ต่อสู้กับศัตรูจากต่างแดนอย่างดุเดือดในขณะเดียวกัน ในอีกทิศทางหนึ่งเย่เฟิงเหมือนสัตว์ร้ายที่ถูกกักขังมานาน และตอนนี้มันได้ปลดปล่อยพลังออกมาอย่างเต็มที่ แทบจะรอก่อให้เกิดพายุครั้งใหญ่ไม่ไหวแล้วอย่างไรอย่างนั้น!เขาเพียงลำพังสามารถฆ่านินจาที่ใช้วิชาดินกลุ่มหนึ่งจนหมดสิ้น ก่อนจะพุ่งเข้าสู่กลุ่มนักรบซามูไรที่ถือดาบและโล่“บากะ!”“ฆ่ามัน!”“หั่นมันเป็นชิ้นๆ!”เหล่าซามูไรจากประเทศญี่ปุ่นชะงักไปครู่หนึ่ง เมื่อเห็นชายคนเดียวพุ่งเข้ามาจากนั้นสีหน้าของพวกเขาเปลี่ยนเป็นดุดัน เต็มไปด้วยความกระหายเลือดในเสี้ยววินาที ดาบซามูไรมากกว่าสิบเล่มฟันผ่านอากาศ พุ่งใส่เย่เฟิงอย่างรวดเร็ว
กลุ่มนักรบในชุดดำ โผล่ออกมาจากทุกทิศทาง!พวกเขามือถือดาบซามูไรในมือและโล่กันกระสุนอีกข้าง ค่อยๆ บีบวงล้อมเข้ามา ปิดล้อมค่ายพักชั่วคราวไว้แน่นบรรยากาศรอบบริเวณเต็มไปด้วยความมุ่งร้ายและกลิ่นอายสังหาร!“ศัตรูบุก! เตรียมพร้อมสู้!”“คุ้มกันเสิ่นจี่! ห้ามให้มีข้อผิดพลาดเด็ดขาด!”สีหน้าของฉินเจิ้นเปลี่ยนพลางตะโกนเสียงดังปัง! ปัง! ปัง!ต้องยอมรับว่าหน่วยปฏิบัติการดาบมังกรมีความสามารถในการรบที่ยอดเยี่ยม พวกเขาตอบสนองได้รวดเร็วทันทีเสียงปืนเริ่มดังขึ้น!ลั่วกันหยุนและเหล่าทหารเขตรักษาความปลอดภัยก็เข้าสู่สถานะเตรียมรบอย่างรวดเร็วการปะทะที่ดุเดือดเริ่มต้นขึ้นโดยไม่มีคำพูดใดๆในขณะเดียวกัน เย่เฟิงพุ่งเข้าหานักรบในชุดดำกลุ่มหนึ่งดวงตาสีแดงก่ำของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ ความเศร้า... และความตื่นเต้นเล็กน้อย“ขอบใจพวกแกมากที่โผล่มาในเวลานี้!”เย่เฟิงแสยะยิ้มอย่างน่ากลัว พลังสังหารที่พุ่งออกมาจากตัวเขาเข้มข้นจนทำให้บรรยากาศรอบข้างเย็นยะเยือกตูม!ในชั่วพริบตา หมัดของเขาซัดใส่นินจาคนหนึ่งอีกฝ่ายเพิ่งจะยกดาบขึ้นเตรียมรับมือ แต่แรงมหาศาลจากหมัดของเย่เฟิงพุ่งใส่หน้าอกจนเขาลอยกระเด็นออกไป
“ขอบคุณเธอและอาจารย์ของเธอมากที่พยายามช่วยพวกเขาในตอนนั้น!”“ฉันต้องขอโทษสำหรับการกระทำของฉันเมื่อกี้ด้วย”เสียงของเย่เฟิงเต็มไปด้วยความหม่นหมอง หลังจากพูดจบ เขาก็หันหลังเดินออกจากหุบเขาโดยไม่เหลียวกลับมามอง"ฟู่ว..."หลานเขอซีมองเขาเดินจากไป แล้วถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอกเธอลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนตัดสินใจรักษาระยะห่าง แล้วเดินตามเย่เฟิงกลับไปยังค่ายพักชั่วคราวในใจเธอรู้สึกโชคดี ที่เย่เฟิงไม่ได้เสียสติจนฆ่าเธอในตอนนั้นเมื่อเห็นเย่เฟิงสวมสร้อยหยกไว้ที่คอ หลานเขอซีเองก็ไม่กล้าขอคืนเธอคิดว่า ชายหญิงที่ตายไปนั้นคงมีความสัมพันธ์พิเศษกับเขาบางทีอาจเป็นญาติสายตรงก็ได้!แน่นอนว่า หลานเขอซีไม่มีความกล้าพอที่จะถามเย่เฟิงเกี่ยวกับเรื่องนี้ เธอรู้ดีว่าตอนนี้เขาไม่ควรได้รับการกระตุ้นเพิ่มอีกแต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะเข้าใจเรื่องนี้เมื่อเย่เฟิงเดินกลับมาที่ค่ายพักด้วยสีหน้าเย็นชา เสียงหัวเราะเยาะก็ดังขึ้นทันที“โอ้ กลับมาแล้วเหรอ?”“ทำไมสีหน้าตาดูไม่ดีเลยล่ะ! หรือว่าโดนฉางหูตบหน้าไปหลายที? ฮ่าๆๆ...”สมาชิกหน่วยดาบมังกรคนหนึ่งพูดขึ้น พร้อมหัวเราะเยาะเมื่อเห็นเย่เฟิงเดินกลับมาในสภาพอารมณ
เย่เฟิงคว้าหัวไหล่ของหลานเขอซีไว้แน่น "พิธีฝังศพแห่งฟ้า? ทำไมต้องพิธีฝังศพแห่งฟ้า? ทำไม? พวกเธอมีสิทธิ์อะไรที่จะจัดการศพของพวกเขาแบบนั้น? ฮะ?"พิธีฝังศพแห่งฟ้า?ถ้างั้นพ่อแม่ของเขาก็คงไม่เหลือแม้กระดูกแล้วน่ะสิ!!หลานเขอซีมองเย่เฟิงที่ดูเหมือนจะเสียสติ หัวใจของเธอเต้นระรัว กลัวว่าเขาจะฆ่าเธอในทันที"ในวัฒนธรรมของพวกเราพิธีฝังศพแห่งฟ้า คือการให้เกียรติอันสูงสุดแก่ผู้เสียชีวิต มันหมายถึงการที่วิญญาณไม่มีวันสูญสิ้น และจะวนเวียนในวัฏจักรของการเกิดใหม่""อาจารย์ของฉันทำด้วยความหวังดี!"เย่เฟิงจ้องมองหลานเขอซีโดยไม่พูดอะไรเป็นเวลานาน ในที่สุดเขาก็ปล่อยเธอออกจากมือตุบ!ร่างของเย่เฟิงเซเล็กน้อย ก่อนจะทรุดเข่าลงกับพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรงพ่อแม่ของเขา...ตายแล้วเหรอ?ได้ยังไงกัน? ตายได้ยังไงกัน?หลายปีที่ผ่านมา เย่เฟิงยังคงมีความหวังเล็กๆ ว่าพ่อแม่ของเขาอาจยังมีชีวิตอยู่ แม้ว่าความหวังนั้นจะริบหรี่เพียงใดแต่เมื่อได้ยินคำตอบนี้จากปากของหลานเขอซี เย่เฟิงก็เหมือนถูกไฟฟ้าช็อตสามสิบล้านโวลด์รู้สึกว่าความหวังหลายปีมานี้ได้พังทลายลงในชั่วพริบตายิ่งไปกว่านั้น จากที่หลานเขอซีเล่า พ่อแม่ของ
หลานเขอซีสัมผัสได้ถึงอารมณ์ของเย่เฟิงในตอนนี้ ใบหน้าของเธอเปลี่ยนไปทันทีผู้ชายที่เมื่อครู่ยังทำตัวสนิทสนม พูดจาเล่นหัว เหมือนสุนัขตัวเล็กๆ ตอนนี้กลับกลายเป็นหมาป่าดุร้ายตัวหนึ่ง!"นายเป็นบ้าอะไร? ทำไมฉันต้องบอกนายด้วย?"หลานเขอซีขมวดคิ้ว ถามกลับด้วยน้ำเสียงเย็นชาปัง!สิ้นเสียง เย่เฟิงกระทืบเท้ากับพื้น ก่อนพุ่งเข้าหาหลานเขอซีหลานเขอซีหน้าซีดเผือด เธอชูนิ้วขึ้นทำท่าดาบ แล้วโจมตีไปที่หน้าอกของเย่เฟิงในชั่วพริบตา พลังระดับแปรสภาพขั้นต้นของเธอปะทุออกมาเต็มที่ การโจมตีของเธอรุนแรงและรวดเร็วแม้แต่นิ้วมือของเธอที่พุ่งผ่านอากาศยังส่งเสียงหวีดหวิวแต่เย่เฟิงกลับมองการโจมตีของเธอด้วยสายตาไม่ยี่หระเพี๊ยะ!เสียงฝ่ามือดังขึ้น เย่เฟิงฟาดมือตบการโจมตีของหลานเขอซีออกไปอย่างง่ายดายจากนั้นมือใหญ่ของเขาก็คว้าคอของหลานเขอซี และยกตัวเธอขึ้นจากพื้น"สร้อยหยกเส้นนี้มาจากไหน?""บอกมา! ไม่อย่างนั้น ฉันจะทำให้เธอมีชีวิตอยู่ไม่สู้ตาย!!"เย่เฟิงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาและเต็มไปด้วยความน่ากลัวใบหน้าสวยของหลานเขอซีเริ่มแดงก่ำจากการขาดอากาศ เธอมองเย่เฟิงด้วยความตกใจและหวาดกลัวเย่เฟิงในตอนนี้ไร้
หลานเขอซีเข้ามาเป็นสมาชิกของหน่วยปฏิบัติการดาบมังกรด้วยวิธีนี้เธอมาจากสำนักลึกลับที่ชื่อสำนักก๋าเจียในเขตฉาง ซึ่งมีวิถีการฝึกฝนเฉพาะตัวแม้จะร่วมเดินทางไปกับทหาร เธอก็ไม่เคยละทิ้งการฝึกฝนตอนนี้ ในบรรยากาศของภูเขาที่สงบและบริสุทธิ์ หลานเขอซีหาที่นั่งเงียบๆ เพื่อทำสมาธิเส้นผมยาวของเธอสยายลงเบาๆ ให้ความรู้สึกสง่างามและบริสุทธิ์ใบหน้าด้านข้างที่งดงามดุจภาพวาดของเธอ ทำให้ใครเห็นก็หลงใหลแต่ในวินาทีต่อมา คิ้วของหลานเขอซีก็ขมวดเข้าหากัน สายตาเย็นชาจ้องมองไปยังทิศทางหนึ่ง"น่ารำคาญจริงๆ!"หลานเขอซีลุกขึ้นยืน มองเย่เฟิงที่เดินตามมา เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเย็นชาเธอคิดว่าเย่เฟิงเป็นแค่ผู้ชายเจ้าชู้ที่หวังลวนลามเธอแต่ครั้งนี้ ใบหน้าของเย่เฟิงไร้ซึ่งรอยยิ้มเหมือนตอนที่เข้ามาทักสายตาของเขากลับดูแข็งกร้าว เย็นชา และจ้องมองเธออย่างไม่ลดละเย่เฟิงเดินตรงไปที่หลานเขอซี โดยไม่พูดอะไร เขายื่นมือไปคว้าที่คอเสื้อของเธอทันทีเพี๊ยะ!เสียงฝ่ามือดังขึ้นอย่างชัดเจนหลานเขอซีตบหน้าเย่เฟิงเต็มแรงเธอยกมือขึ้นปิดคอเสื้อของตัวเอง สายตาเต็มไปด้วยความโกรธ และแฝงไปด้วยความดุดัน"ไอ้เลว!""แกกล้าดี
“ให้ช่วยไหม?”หลังจากที่มาถึง เย่เฟิงก็ถามฉางหูยิ้มๆหลานเขอซีหรือก็คือฉางหูอึ้งไปสักพัก แล้วหันไปมองค้อนใส่เย่เฟิงพลางส่ายหัวอย่างไร้อารมณ์ “ไม่ต้อง!”เบื้องลึกสายตาของเธอแฝงไปด้วยความรำคาญรู้สึกแย่ต่อพฤติกรรมเข้ามาทักทายแบบนี้ของเย่เฟิง“เธอชื่ออะไร? ได้ข่าวว่ามาจากเขตฉางเหรอ? มาจากสำนักไหนล่ะ?”เย่เฟิงกลับไม่สนใจ เอ่ยถามด้วยสีหน้า ‘ไร้ยางอาย’“ไม่มีอะไรต้องบอกนาย!”หลานเขอซีขมวดคิ้ว กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาขณะนั้นเอง ฉินเจิ้นนำทีมสมาชิกหน่วยปฏิบัติการดาบมังกรเดินเข้ามาด้วยใบหน้าเคร่งเครียด“ไอ้เย่ ทำอะไรน่ะ?”ฉินเจิ้นตบไหล่เย่เฟิงอย่างแรง และถามด้วยน้ำเสียงไม่พอใจแม่งเอ๊ย! กล้ามาจีบฉางหูงั้นเหรอ?สมแล้วที่เป็นคนนอก ไม่มีมารยาท!สายตาของเหล่าสมาชิกหน่วยปฏิบัติการดาบมังกรที่มองเย่เฟิง เต็มไปด้วยความไม่พอใจและดูถูกเหมือนพวกเขากำลังมองคนเจ้าชู้ที่ไม่มีอะไรดีไปกว่าผู้ชายลามก“ก็แค่พูดคุยกันในฐานะเพื่อนร่วมทีม มันผิดตรงไหน? ฉันได้ยินมาว่าฉางหูเป็นสมาชิกเสริมเหมือนกัน เราก็ถือว่ามีพรหมลิขิตต่อกัน จริงไหม?”เย่เฟิงพูดพร้อมรอยยิ้ม“พรหมลิขิต? แม่งพูดได้ไม่อายปาก!”“ฉันจ