"ใครน่ะ? ทำตัวเหมือนคนโง่?"เมื่อเห็นถงซวี่เย่เข้ามาแล้วเข้าไปจับมือเย่เฟิงด้วยความตื่นเต้น สวี่ซีเหยียนก็ขมวดคิ้วแล้วถามด้วยความไม่พอใจคิดว่าถงซวี่เย่คงเป็นใครสักคนที่ไม่มีชื่อเสียงอะไรเท่านั้นเมื่อได้ยินดังนั้น เซียวคุนก็แค่นเสียง ‘เอ่อ’ ออกมา แล้วทำหน้าแปลกประหลาดในขณะที่เย่เฟิงหัวเราะเบาๆ และถามว่า "คุณไม่รู้จักเขาเหรอ? แล้วแฟนของคุณล่ะ? ก็ไม่รู้จักเหมือนกันเหรอ?" เขาหันไปมองฟลานเดอร์ยิ้มๆ ระหว่างที่พูดฟลานเดอร์ขมวดคิ้วเล็กน้อยและพูดด้วยท่าทีดูถูก "ผมจะรู้จักคนแบบนี้ได้ยังไง? คนที่ผมรู้จักน่ะ มีแต่พวกที่อยู่ในสังคมชั้นสูงเท่านั้น"สิ้นเสียง เซียวคุนก็ได้แต่ส่ายหัวพร้อมหัวเราะเบาๆ แล้วเริ่มมองฟลานเดอร์ด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป"คุณไม่รู้จักเขาจริงเหรอ?"ทายาทบางคนในห้องก็มองฟลานเดอร์ด้วยสายตาที่เปลี่ยนไปเช่นกันถงว่านจินเป็นเศรษฐีอันดับหนึ่งของมณฑลเจียง ในฐานะที่เป็นลูกชายของมหาเศรษฐีแห่งมณฑลเจียง ถึงแม้ถงซวี่เย่จะไม่ปรากฏตัวออกมาบ่อยนัก แต่ทายาทตระกูลใหญ่ในหยุนเฉิงพวกนี้ต่างก็เขาเช่นกัน"ผม...ผมควรจะรู้จักเขาเหรอ?"ฟลานเดอร์เริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติ จึงเอ่ยด้วยความแปลก
หลีเอียนหลุดขำเบาๆ พลางส่ายหัวสวี่ซีเหยียนหน้าแดงก่ำด้วยความอับอาย เธอหันไปตบฟลานเดอร์เต็มแรง "ไอ้เลว! แกกล้าหลอกฉันเหรอ? ออกไป! ไปให้พ้น! ฉันเสียหน้าเพราะแกคนเดียว!"ฟลานเดอร์ยกมือขึ้นจับหน้าที่โดนตบ แล้วรีบวิ่งออกจากห้องไปอย่างหมดสภาพแต่ทันทีที่เขาออกไป เขาก็ถูกผู้จัดการเถิงพร้อมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเข้ามาขวางเอาไว้เพราะบัตรวีไอพีระดับเพชรที่เขาใช้ มันไม่ใช่ของเขาจริงๆ แต่เป็นของลูกค้าคนหนึ่งที่ทำหายไว้"ซีเหยียน ผู้ชายดีๆ ในเยียนเซียมีตั้งเยอะตั้งแยะ แต่ทำไมเธอถึงเลือกคบกับคนต่างชาติที่เป็นนักต้มตุ๋นแบบนี้ล่ะ? ยังไงซะ ตระกูลสวี่ก็นับว่าเป็นตระกูลใหญ่ในหยุนเฉิง เธอเองก็เป็นคุณหนูของตระกูลสวี่ จะไปภูมิใจอะไรกับแฟนชาวต่างชาตินักหนา?สิ่งที่เธอต้องการไม่ใช่ภาพลักษณ์ แต่เป็นศักดิ์ศรีของคนเยียนเซีย!"หลีเอียนพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบๆ“เธอ…ฉัน…”สวี่ซีเหยียนรู้สึกอับอายแทบอยากแทรกแผ่นดินหนีแต่คนในงานวันนี้ล้วนแต่เป็นลูกหลานคนสำคัญในหยุนเฉิงทั้งนั้น เธอจึงไม่กล้าเดินออกไป"เอาล่ะๆ คุณสวี่ก็โดนหลอกเหมือนกันนี่นา! ทุกคนมากันครบแล้วใช่ไหม งั้นเรามาสั่งอาหารกันดีกว่า"เย
เย่เฟิงจะไม่เคยเห็นได้อย่างไร!จี้หยกรูปมังกรที่อยู่ในภาพนั้นก็คือสมบัติตกทอดของตระกูลที่ปู่และพ่อของเขาเคยให้ไว้!เพราะจี้หยกนี้ ทำให้เขาเปลี่ยนชะตาชีวิตและได้รับความสามารถพิเศษหลายอย่างทุกวันนี้ แม้จี้หยกนี้จะหมดแสงเงางดงามไปนานแล้ว แต่เย่เฟิงก็ยังเก็บรักษามันไว้ในตู้เซฟที่บ้านของเขาเป็นอย่างดีคาดไม่ถึงเลยว่าวันนี้จะมีใครบางคนมาตามหาจี้หยกนี้?แถมที่บังเอิญยิ่งกว่าคือ คนที่ตามหา ก็แซ่เย่เหมือนเขาด้วย!แต่ด้วยความที่เย่เฟิงไม่ไว้วางใจเย่อินเสวียน เขาจึงไม่คิดจะบอกความจริงกับเธอ"อา น่าเสียดายจังค่ะ!"เย่อินเสวียนกล่าวด้วยความเสียดาย พร้อมกับส่ายหัวเบาๆ"คุณเย่เลือกคนถามได้ดีจริงๆ ทุกคนที่นี่ไม่รู้ แล้วเขาจะรู้ได้ยังไง?"สวี่ซีเหยียนหันปากค่อนขอดเย่เฟิงอีกครั้งแม้ว่าเซียวคุนและถงซวี่เย่จะดูเกรงใจเย่เฟิงมาก แต่เธอกลับมองว่าเย่เฟิงยังคงเป็นแค่คนที่ต้องพึ่งพาผู้หญิงอยู่ ฟลานเดอร์ทำให้เธอเสียหน้าไปมาก เธอจึงไม่อยากเห็นสามีของหลีเอียนได้หน้ามากไปกว่าเธอด้วยความรู้สึกเช่นนี้ เธออยากจะทำให้เย่เฟิงต่ำตมมากจริงๆ"ใช่ครับ ผมไม่รู้เรื่องอยู่แล้ว"เย่เฟิงยักไหล่ ไม่สนใจคำพูดของ
ดูเหมือนจะรู้สึกโกรธเย่เฟิงขึ้นมาเล็กน้อย"พี่เย่ พี่หมายความว่าไง? เสวียนเอ๋อร์ทำอะไรให้พี่ไม่พอใจ หรือว่าผมไปทำอะไรให้พี่?”คุณชายเซียวถามด้วยสีหน้ามืดมนหลีเอียนเองก็มองเย่เฟิงอย่างไม่เข้าใจ แต่เธอก็ไม่ได้แตะต้องแก้วเหล้านั้น เพราะเธอเชื่อว่าเย่เฟิงคงไม่พูดหรือทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลรวมถึงถงซวี่เย่ เขาลังเลเล็กน้อยแล้ววางแก้วลงด้วยเช่นกันลูกชายคนสำคัญของถงฟากรุ๊ปยังคงมีความเยือกเย็นอยู่บ้างเนื่องจากเย่เฟิงเพิ่งรักษาแม่ของเขาให้หาย ถงซวี่เย่จึงมีความไว้วางใจที่ยากจะอธิบายต่อเย่เฟิง เมื่อเย่เฟิงบอกว่าอย่าดื่ม เขาจึงไม่ดื่มและรอดูสถานการณ์ในขณะนั้นเอง เย่เฟิงก็แสดงสีหน้าจริงจังและพูดกับเย่อินเสวียนทีละคำว่า "ฟ่งหวงเตี่ยนโถว (ฟินิกซ์พยักหน้า)! เป็นเทคนิคสุดยอดในการใช้หนอนพิษแห่งมู่เจียง! คุณเย่ คุณคือใครกันแน่? แล้วมาที่หยุนเฉิงเพื่อจุดประสงค์อะไร?"เมื่อคำพูดจบลง คนอื่นๆ บนโต๊ะต่างแสดงสีหน้าไม่แน่ใจ"ฟ่งหวงเตี่ยนโถวอะไรกัน? หนอนพิษอะไร? นายพูดเหลวไหลอะไรอยู่น่ะ?"สวี่ซีเหยียนหัวเราะเยาะและถามคนอื่นๆ ก็มองเย่เฟิงเหมือนว่าเขาเป็นคนบ้าเช่นกันส่วนเย่อินเสวียนก็แสดงสีหน้าใส
หลังจากหายใจได้ไม่กี่อึดใจ เซียวคุนก็รู้สึกถึงความขมคาวในลำคอของเขา"แหวะ!" ทันใดนั้น เขาก็อาเจียนออกมา!พบว่ามีหนอนสีแดงสดตัวหนึ่งถูกอาเจียนออกมาจากปากของเขา!"อ๊า!" ฉากนี้ทำให้หญิงสาวบางคนในที่นั้นกรีดร้องออกมาส่วนคนอื่นๆ ก็มองด้วยความตกใจกลัว รู้สึกขนลุกและหัวใจเต้นแรงเซียวคุนที่ตอนนี้สีหน้ากลับมาเป็นปกติ แววตาที่เคยหลงใหลในเย่อินเสวียนหายไป แทนที่ด้วยความสับสนสงสัยเขามองดูหนอนพิษที่ตัวเองอาเจียนออกมาอย่างตกใจและโมโห "เสวียนเอ๋อร์ ฝีมือคุณจริงๆ เหรอ?"แต่เย่อินเสวียนกลับไม่สนใจเขาเลย สำหรับเธอแล้ว เซียวคุนก็แค่เครื่องมือเท่านั้นในเมื่อเครื่องมือถูกทำลาย เธอก็มองเย่เฟิงด้วยความโกรธแค้น"ไอ้ผู้ชายบ้า มาขัดขวางฉันอีกแล้ว! วอนหาที่ตาย!”เธอด่าด้วยความเกลียดชัง ก่อนจะเคลื่อนไหวพุ่งตรงไปหาเย่เฟิงอย่างรวดเร็ว มือข้างหนึ่งทำเป็นมีดแล้วฟันไปที่คอของเขา ส่งเสียงฟาดลมอันดุดันออกมาเย่เฟิงเบิกตากว้าง แล้วรีบรับมือทันที!ปัง! ปัง! ปัง...ทั้งสองกระโดดเหยียบบนโต๊ะ ต่อสู้กันไปมาสามครั้งในพริบตาเดียว เย่อินเสวียนส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดก่อนจะถอยร่นกลับด้วยแรงผลักจากนั้นใช้
สวี่ซีเหยียนหน้าซีดด้วยความกลัว "เย่เฟิง ช่วยหน่อยเถอะนะ เห็นแก่ที่ฉันกับเอียนเอียนเป็นเพื่อนกัน นายอย่าถือสาฉันเลยนะ ช่วยฉันด้วย…ฉันไม่อยากโดนหนอนพิษ..."เหล่าทายาทตระกูลใหญ่ทั้งหลายต่างพากันตกใจกลัว ร้องขอความช่วยเหลืออย่างหมดท่า"หึๆ ตอนนี้รู้สึกกลัวแล้วเหรอ? ไม่ต้องตกใจไป หนอนพิษเพิ่งเข้าไปไม่นาน ยังอยู่แค่ในกระเพาะอาหารของพวกเธอ ยังไม่เข้ากระแสเลือดกลับไปเอาผงสารส้มละลายน้ำร้อน แล้วก็ล้วงคอให้อาเจียนออกมา อาเจียนออกมาให้หมดจนไม่มีอะไรเหลือค้างอยู่"เย่เฟิงพูดนิ่งๆเมื่อพูดจบ เหล่าทายาทตระกูลใหญ่ต่างรีบพุ่งออกจากห้อง ไม่รอช้าแม้แต่วินาทีเดียวเซียวคุนกับถงซวี่เย่ยิ่งรู้สึกศรัทธาและเคารพเย่เฟิงมากขึ้นไปอีกหลังจากนั้น เซียวคุนก็เปลี่ยนห้องเพื่อทานอาหารกันสี่คนแบบเรียบง่ายหนึ่งชั่วโมงต่อมา...เย่เฟิงและหลีเอียนออกมาจากร้านเชียนเว่ยเซวียน กำลังจะขึ้นรถไปส่งบอสสาวสวยกลับบ้านหลีเอียนเดินตามหลังเย่เฟิง มองเย่เฟิงที่เดินนำหน้าไปอย่างไม่สนใจใยดีด้วยสายตาที่มีแววขุ่นเคืองตอนทานอาหารเมื่อครู่ หลีเอียนเห็นเซียวคุนหลงใหลและอ่อนโยนกับเย่อินเสวียน ก็รู้สึกแปลกๆ แล้วแม้จะรู้ว่าเซ
ใช่แล้ว หลีเอียนรู้เรื่องจี้หยกรูปมังกรของเย่เฟิงตอนที่เย่เฟิงโดนรถของเธอชนแล้วกระเด็นไป ตอนนั้นเขากำจี้หยกชิ้นนั้นไว้แน่น หลีเอียนจึงจำมันได้ขึ้นใจอีกทั้งตอนที่เย่อินเสวียนหยิบภาพวาดออกมา หลีเอียนเองก็สงสัยอยู่ในใจ แต่ไม่ได้แสดงออกมาเมื่อได้ยินคำขู่ของหลีเอียน สีหน้าของเย่เฟิงก็เปลี่ยนไปทันที แววตาของเขาแฝงด้วยความเย็นชา “คุณกำลังขู่ผมอยู่เหรอ?”หลีเอียนที่เห็นสายตาเย็นชาของเย่เฟิง ก็หยุดชะงักไปเล็กน้อย ในใจเต็มไปด้วยความขุ่นเคืองและความไม่พอใจ เธอจ้องมองเขาอย่างน้อยใจ“ใช่ ฉันขู่คุณ แล้วจะทำไม? ยังจะกล้าขัดคำสั่งฉันไหม?”เย่เฟิงถอนหายใจเล็กน้อย รู้สึกปั่นป่วนในใจเมื่อเห็นท่าทางของเธอ สุดท้ายเขาก็ยอมจำนน“โอเคๆ ผมจะทำตามที่คุณบอก โอเคไหม คุณภรรยาผู้ยิ่งใหญ่ของผม...แต่คุณต้องช่วยผมเก็บเรื่องนี้เป็นความลับนะ”หลีเอียนจ้องเขาด้วยสายตาไม่พอใจแล้วพูดขึ้น “ก็ต้องดูพฤติกรรมของคุณแล้ว”“ผมว่าผมก็ทำตัวดีมาตลอดนะ”“แย่สุดๆ!”หลีเอียนกัดฟันและพูดออกมาด้วยใบหน้าที่เย็นชาทำให้เย่เฟิงได้แต่นั่งหน้าหมอง พร้อมคิดในใจว่า(ผู้หญิง เหอะๆ…เปลี่ยนอารมณ์ง่ายเหมือนเปลี่ยนหน้าหนังสือเลย!
“ราคาสูง? สูงแค่ไหน?”เย่เฟิงขมวดคิ้วถาม“ยกตัวอย่างเช่น ยาหนึ่งเม็ดจากตระกูลนี้ ราคาก็สูงถึงหลักสิบล้าน ส่วนทักษะวิชาการต่อสู้บางเล่มอาจทะลุไปถึงร้อยล้านเลย...”หลีหยวนเล่าความเป็นมาของตระกูลกู่นี้ให้เย่เฟิงฟังตระกูลกู่เป็นตระกูลที่เงียบสงบและไม่เผยตัวต่อสาธารณะ แต่ก็แข็งแกร่งมากพวกเขาไม่ทำธุรกิจข้างนอก แต่ก็ร่ำรวยมหาศาลลำพังแค่งานประมูลหนึ่งครั้ง ก็สามารถทำรายได้ถึงหลายพันหลายหมื่นล้านแล้วยิ่งไปกว่านั้น ตระกูลนี้ยังเต็มไปด้วยผู้เชี่ยวชาญฝีมือสูงที่สามารถรับงานต่างๆ ได้ แต่ค่าจ้างก็แพงมากเช่นกันแน่นอนว่าความสามารถของยอดฝีมือที่ส่งไปนั้น ก็เก่งกาจมากเช่นกันเฉินจิงเทียนที่ได้ชื่อว่าเป็นนักสู้อันดับหนึ่งในมณฑลเจียง ยังอาจไม่ใช่คู่ต่อสู้ของผู้เชี่ยวชาญบางคนในตระกูลนี้ด้วยซ้ำ เพียงแค่พวกเขาไม่เปิดเผยตัวเท่านั้นหลังจากที่หลีหย่วนพูดจบแล้ว เย่เฟิงก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วและรู้สึกหนักใจตระกูลกู่จะมีผู้เชี่ยวชาญหรือยอดฝีมืออะไรไม่เกี่ยวกับเขา สิ่งที่เขาต้องการคือของประมูลราคาสูงลิ่วที่หลีหย่วนพูดถึงตามที่หลีหย่วนกล่าว ราคาของหยกพลังวิญญาณนั่น เผลอๆ อาจสูงถึงร้อยล้านเลยก็ได้
ทันทีที่ทั้งสามคนคิดว่าจะหนีรอดได้ ก็ต้องชะงักเมื่อเย่เฟิงเรียกพวกเขาไว้!เหอปิง หลี่เวย และเจี่ยอี้ ตัวสั่นด้วยความกลัว ใบหน้าซีดเผือด"เย่… เย่เฟิง…คุณเย่ ฉัน…ฉันแค่พูดเล่นน่ะ ทุกคนเป็นเพื่อนร่วมชั้นกัน คุณ…คงไม่คิดจริงจังใช่ไหม?"หลี่เวยพูดตะกุกตะกักด้วยความหวาดกลัว"เย่เฟิง ฉันรู้อยู่แล้วว่านายต้องมีอนาคตที่สดใส! และดูเหมือนฉันจะคิดถูกฉัน… ยังไงฉันก็เคยเป็นครูของนาย…"เหอปิงพยายามฝืนยิ้มและพูดอ้อนวอนด้วยเสียงต่ำคนอย่างพวกเธอที่ชอบดูถูกคนจนและประจบคนรวย ย่อมเปลี่ยนท่าทีได้รวดเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ!แต่การที่เย่เฟิงเรียกพวกเธอให้หยุด กลับทำให้ทั้งสองคนกลัวแทบหัวใจวาย"พวกเธอ…ช่วยพูดอะไรแทนครูหน่อยสิ!"เหอปิงร้องขอเพื่อนร่วมชั้นคนอื่นๆ ด้วยเสียงสะอื้นแต่ไม่มีใครกล้าออกหน้า ทุกคนรีบหนีออกไปจากห้องราวกับกลัวว่าจะเดือดร้อนเมื่อเห็นว่าไม่มีใครช่วย สีหน้าของเหอปิงเปลี่ยนเป็นซีดเผือด เธอมองเย่เฟิงด้วยความหวาดกลัวอย่างลึกซึ้ง"เย่เฟิง…คุณเย่! ฉันเป็นครูของนาย นายทำแบบนี้กับฉันไม่…”"อุ๊บ…"คำพูดยังไม่ทันจบ เย่เฟิงก็คว้าเก้าไม้ออกมา หักที่พักแขนจนขาด จากนั้นใช้มือเปล่าบีบมันจ
เจี่ยอี้อึ้งจนพูดไม่ออก!เหอปิง ครูประจำชั้นเก่ามองด้วยสายตาไม่อยากเชื่อ!หลี่เวยอ้าปากค้างจนสามารถใส่กล้วยได้สองลูก…เย่เฟิงที่พูดว่าโรงแรมนี้เป็นของเขา เป็น…เป็นเรื่องจริงงั้นเหรอ?ลูกพี่ลูกน้องของหวงเจี้ยน ผู้ที่ว่ากันว่าเป็นคนใหญ่คนโตในโลกใต้ดิน กลับทำงานอยู่ใต้คำสั่งของเย่เฟิง?นี่มัน…เหลือเชื่อเกินไปแล้ว!ในตอนนั้น เฮียเฉวียนหันไปยิ้มแหยๆ ให้เย่เฟิง "คุณเย่ครับ สรุปแล้วเจ้าเด็กหวงเจี้ยนมันล่วงเกินคุณยังไงเหรอครับ? บอกผมเถอะ ไม่ต้องลงมือเอง ผมจะจัดการมันให้เอง!""เหอะๆ น้องชายนายเป็นมิตรเกินไปน่ะ มันอยากให้ฉันลองชิมรสชาติไวน์บนรองเท้าของมัน!"เย่เฟิงปล่อยมือจากหัวหวงเจี้ยน พร้อมหัวเราะเย็นๆ"ไวน์บนรองเท้า?"เฮียเฉวียนขมวดคิ้ว ก่อนจะเข้าใจและใบหน้ากระตุกด้วยความโกรธทันทีที่คิดได้ เขาเดินอย่างรวดเร็วไปหาหวงเจี้ยน หยิบขวดไวน์บนโต๊ะแล้วฟาดเข้าที่หัวหวงเจี้ยนเต็มแรง"ไอ้เวรนี่! อยากตายรึไง?!"เพล้ง!"หวงเจี้ยน คิดว่าบ้านมีเงินหน่อย แล้วจะครอบงำทั้งหยุนเฉิงได้รึไง?"เพล้ง!"โรงงานกระจอกๆ สองสามโรงของพ่อแก จะทำให้นายลอยฟ้าได้เลยเหรอ?"เพล้ง!"ไอ้เวรตะไล! กล้าลามปามคุณเ
"ไอ้บ้า เย่เฟิงมันเสียสติไปแล้ว!""นึกว่ามีเงินนิดหน่อยจะยุ่งกับใครก็ได้เหรอ? กล้าตบหวงเจี้ยน นายจบเห่แน่!"เจี่ยอี้ยกมือกุมหน้าตัวเอง พลางกัดฟันพูดในใจคนอื่นๆ ในห้องก็คิดเหมือนกัน ว่าเย่เฟิงคงจะทำอะไรไม่คิดถึงผลที่จะตามมา และครั้งนี้เขาคงสร้างปัญหาใหญ่ให้ตัวเองแล้ว"ไอ้ขยะ! โมโหไร้เหตุผล! ทำอะไรก็ไม่คิดถึงผลลัพธ์!"เหอปิง ครูประจำชั้นเก่า ด่าขึ้นด้วยความโมโห"ตบซะสะใจแบบนี้ เดี๋ยวครอบครัวคุณชายหวงคงจัดการนายให้ตายแน่!"หลี่เวยพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา"ไม่ต้องรอถึงครอบครัว คุณชายหวงโทรหาเฮียเฉวียนแล้ว หมอนี่ต้องตายเร็วๆ นี้แน่นอน!"ผู้หญิงอีกคนพูดพลางหัวเราะเยาะถึงจะพูดแบบนั้น แต่ไม่มีใครกล้าเข้าไปหยุดเย่เฟิง เพราะพลังอันดุดันของเขาทำให้ทุกคนหวาดกลัวเย่เฟิงในขณะนี้ น่ากลัวมาก!มีเพียงเจียงหว่านที่พยายามดึงแขนเย่เฟิง พลางพูดด้วยความร้อนใจ "เย่เฟิง พอได้แล้ว! ถ้านายยังทำแบบนี้ต่อไป เดี๋ยวจะถึงขั้นฆ่ากันตายนะ! ครอบครัวหวงเจี้ยน นายสู้พวกเขาไม่ได้หรอก รีบไปเถอะ ก่อนจะสายเกินไป!""ไม่เป็นไร"เย่เฟิงพูดอย่างเรียบๆ จากนั้นก็ยกตัวหวงเจี้ยนขึ้นมาอีกครั้งเจียงหว่านเห็นท่าทีไม่แยแ
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ หวงเจี้ยนชะงักไปชั่วขณะ จากนั้นเขาก็ปาแก้วไวน์ในมือลงพื้นจนแตกละเอียด"แกล้งทำตัวใหญ่โตไปได้! ถ้านายไม่อยากไสหัวไป ก็เลียรองเท้าฉันให้สะอาดซะสิ! ฉันอาจเห็นแก่ความเป็นเพื่อนร่วมชั้นแล้วให้นายอยู่กินข้าวได้!""เอาสิ! ตอนเรียน นายก็เก่งเรื่องซักถุงเท้ากับขัดรองเท้าอยู่แล้ว นี่มันงานถนัดของนายไม่ใช่หรือ? ฮ่าๆๆ…""เลียให้สะอาด ฉันอาจพิจารณาหางานให้ทำก็ได้นะ!"เสียงหัวเราะเยาะดังขึ้นอีกครั้งทั่วทั้งห้องเจียงหว่านทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอพูดขึ้นอย่างโกรธจัด "หวงเจี้ยน! นายอย่าทำตัวเกินไปนักนะ!"เธอจับมือเย่เฟิงแล้วพูด "เย่เฟิง เราไปกันเถอะ งานเลี้ยงรุ่นนี่ไม่มีอะไรน่าสนใจแล้ว"เมื่อเห็นแบบนี้ หวงเจี้ยนมองทั้งสองคนด้วยสายตาเย็นชา เต็มไปด้วยความอิจฉาดูเหมือนที่หลี่เวยบอกเขาเมื่อกี้จะเป็นความจริง เจียงหว่านยังมีใจให้เย่เฟิงอยู่!"จะไปไหน?""พวกแก ช่วยจับไอ้จนคนนี้ไว้ที! ฉันจะใช้หน้ามันเช็ดรองเท้าฉัน!"หวงเจี้ยนตั้งใจจะทำให้เย่เฟิงอับอายต่อหน้าเจียงหว่านเมื่อเขาพูดจบ เพื่อนชายบางคนที่เคยเป็นลูกน้องของหวงเจี้ยนในสมัยเรียนก็กระโดดเข้ามาทันทีพวกนี้เคยเป็นพวกเดียวกับหว
เย่เฟิงหันไปมองเจี่ยอี้ด้วยสายตาเย็นชา ความรู้สึกทั้งหมดที่เคยคิดว่าเขาเป็น "พี่น้อง" ถูกลบล้างจนหมดสิ้นเสียงหัวเราะเยาะที่ดังรอบตัวไม่ได้กระทบจิตใจเขาแม้แต่น้อย เขายืนอยู่ตรงนั้นนิ่งเฉย ราวกับทุกอย่างไม่เกี่ยวข้องกับเขา"พวกนายทำแบบนี้ได้ยังไง? เอาความเจ็บปวดของคนอื่นมาล้อเลียน?"มีเพียงเจียงหว่านเท่านั้นที่ยืนขึ้นปกป้องเย่เฟิงเย่เฟิงดึงแขนเธอเบาๆ พร้อมส่ายหัวเป็นเชิงบอกว่าไม่ต้องพูดอะไรให้มากความสำหรับเขาในตอนนี้ สายตาและมุมมองต่อโลกของเขาต่างจากคนเหล่านี้ไปไกลแล้วมังกรที่บินอยู่บนฟ้าย่อมไม่สนใจคำดูถูกจากมดปลวกบนดิน"หัวเราะพอแล้วใช่ไหม? ถ้าพอแล้ว ก็เชิญไสหัวไปได้เลย!"เย่เฟิงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาเสียงของเขาไม่ได้ดังนัก แต่ทุกคนในห้องได้ยินชัดเจนคำพูดนี้ทำให้เสียงหัวเราะดังขึ้นอีกครั้ง"ไสหัวไป? ฉันได้ยินถูกไหม ไอ้คนว่างงานมาบอกให้พวกเราหัวไป?"หลี่เวยพูดด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันก่อนกระซิบอะไรบางอย่างกับหวงเจี้ยน"อาหารมื้อนี้คุณชายหวงเลี้ยง นายเป็นใครถึงกล้ามาบอกให้คนอื่นออกไป?"เหอปิง ครูประจำชั้นเก่าเอ่ยขึ้นด้วยความดูถูกหวงเจี้ยนที่ได้ยินหลี่เวยกระซิบแล้วหันไปมอ
หลังจากเดินเข้ามาเห็นภาพนั้น เจียงหว่านก็อดขมวดคิ้วไม่ได้เธอรู้สึกว่างานเลี้ยงรุ่นนี้กลายเป็นการอวดรวย แข่งขันกัน และสร้างเครือข่ายไปเสียแล้ว"โอ้ ดาวโรงเรียนของพวกเรามาแล้วเหรอ?"ทันใดนั้น มีคนสังเกตเห็นเจียงหว่านและตะโกนขึ้นหวงเจี้ยนที่กำลังถูกล้อมรอบดั่งดวงดาวกลางวงก็รีบหันมาทางเธอ ดวงตาเป็นประกาย เขาย้ายมือที่วางอยู่บนตัวเหอปิงออก แล้วเดินตรงเข้ามา "เสี่ยวหว่าน เธอมาเสียที! ฉันคิดถึงเธอแทบแย่"เจียงหว่านยิ้มเล็กน้อย แต่ไม่ได้ตอบสนองอะไรในขณะนั้นเอง มีคนสังเกตเห็นเย่เฟิงที่ยืนอยู่ด้านหลังเจียงหว่าน"เอ๊ะ? นั่นเย่เฟิงไม่ใช่เหรอ? ตอนนี้ทำอะไรอยู่ล่ะ?"เมื่อได้ยิน ทุกคนก็หันมามองเย่เฟิงด้วยสายตาหลากหลายในสมัยเรียน เย่เฟิงมีชื่อเสียงในฐานะคนจน ทำให้ทุกคนยังจดจำเขาได้"ไม่ได้ทำอะไร"เย่เฟิงตอบด้วยสีหน้าไร้อารมณ์"ไม่ได้ทำอะไร? หมายความว่าตอนนี้ว่างงานสินะ?""ฉันมีถุงเท้าคู่หนึ่ง นายช่วยซักให้หน่อยสิ ฉันให้ห้าร้อย เป็นไง?"ทันใดนั้น เสียงหัวเราะดังลั่นห้องแม้กระทั่งเหอปิง อดีตครูประจำชั้นของเขา ก็เบะปากพูดด้วยน้ำเสียงเหยียดหยาม "เย่เฟิง ฉันไม่คิดเลยว่านายจะยังไร้ประโยช
"ไม่เป็นไร! งานเลี้ยงรุ่นที่คุณชายหวงเป็นคนจัด ฉันจะไม่ไปได้ยังไง!"เย่เฟิงส่ายหัว พร้อมยิ้มบางๆเมื่อได้ยิน หลี่เวยหัวเราะเสียงดัง "ทำไมล่ะ เย่เฟิง? นายก็รู้ว่าคุณชายหวงตอนนี้ไปได้สวยเลยอยากจะเอาใจเขาใช่ไหม? นายก็ถือว่ารู้จักประจบคนเป็นนะเนี่ย ถ้าทำให้คุณชายหวงพอใจ บางทีเขาอาจให้ไปทำงานเป็นพ่อบ้านที่บริษัทเขาก็ได้ยังไงตอนเรียน นายก็ซักเสื้อผ้าให้คนอื่นจนชินมือแล้วนี่ ฮ่าๆๆ!"หลี่เวยพูดด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน ก่อนจะหัวเราะอย่างสะใจ"เหอะๆ ใช่สิ! ฉันเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าตอนนี้คุณชายหวงจะเจ๋งแค่ไหน! แต่ดูจากสภาพเธอตอนนี้ ท่าทางจะประจบเขาไม่น้อยเลยสินะ? ถึงขั้นขึ้นเตียงด้วยหรือเปล่า?"เย่เฟิงตอบด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันคำพูดนี้ทำให้หลี่เวยโกรธจนหน้าแดง "ไปให้พ้นเลย เย่เฟิง! ไม่เจอกันหลายปี นายกลายเป็นคนต่ำช้าขนาดนี้เลยเหรอ?"ในใจเธอแอบคิดอย่างเกรี้ยวกราด (นายมันก็แค่ขยะ ยังกล้าคิดจะไปประจบคุณชายหวง หวังจะเกาะเขาด้วย?ได้ รอให้ฉันไปปั่นหัวคุณชายหวงสักหน่อย นายเจอดีแน่!)ในขณะเดียวกัน เจียงหว่านที่ได้ยินคำพูดของเย่เฟิงก็รู้สึกผิดหวังเล็กน้อยเมื่อได้ยินว่าหวงเจี้ยนประสบความสำเร็จ เย
หญิงสาวคนนี้เห็นเย่เฟิงก็หยุดนิ่งไปครู่หนึ่ง พอจำได้ก็เบะปากแล้วพูดขึ้นเธอชื่อหลี่เวย เป็นเพื่อนร่วมชั้นมัธยมปลายของเย่เฟิงเช่นเดียวกันแต่ตั้งแต่สมัยเรียน หลี่เวยก็ไม่ค่อยชอบเย่เฟิงอยู่แล้วหรือจะพูดให้ถูกก็คือ เพื่อนส่วนใหญ่ในตอนนั้น ต่างก็มองเย่เฟิงด้วยสายตาดูถูกตอนอายุ 18 ปี พ่อแม่ของเย่เฟิงหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยที่ทิเบต ทำให้เขาขาดแคลนทั้งเงินและค่าใช้จ่ายเพื่อหาเงินค่าเล่าเรียนและค่าใช้จ่าย เย่เฟิงต้องทำงานพิเศษในโรงเรียน เช่น ซักผ้า ทำความสะอาด และวิ่งซื้อของให้เพื่อนแม้กระทั่งกางเกงใน รองเท้าเหม็นๆ และถุงเท้าสกปรกของเพื่อนผู้ชายบางคน เย่เฟิงก็เป็นคนซักเรื่องนี้ทำให้เพื่อนหลายคนมองเย่เฟิงด้วยความดูถูกแต่ก็มีเพื่อนบางคนที่แตกต่างออกไป ซึ่งเจียงหว่านเป็นหนึ่งในนั้น สมัยนั้น เธอไม่เพียงไม่ดูถูกเย่เฟิง แต่ยังมักจะซื้อข้าวให้เย่เฟิงอยู่บ่อยๆจนมีข่าวลือในโรงเรียนว่า เจียงหว่านชอบเย่เฟิงเพียงแต่ ตอนนั้นเย่เฟิงมีความรู้สึกด้อยค่า แม้ว่าเขาจะแอบชอบเจียงหว่านเช่นกัน แต่เขาไม่มีความกล้าที่จะแสดงออก"หวงเจี้ยนอาจลืมเชิญนายล่ะมั้ง! เย่เฟิง ไหนๆ ก็เจอกันแล้ว มาด้วยกันสิน
เวลา 3 ทุ่ม เย่เฟิงมาถึงโรงแรมโกลด์เดนรอยัลโรงแรมแห่งนี้เป็นของหลีหย่วนเอง ไม่ได้เกี่ยวข้องกับตระกูลหลีหลีหย่วนพาอาเจียงและเหล่าหยู ซึ่งเป็นลูกน้องคนสนิทมายืนรออยู่หน้าประตูตั้งแต่เนิ่นๆ"พี่เขย!""คุณเย่!"เมื่อเห็นเย่เฟิง พวกเขาตะโกนพร้อมกัน"พี่ พี่คิดว่าโรงแรมนี้เป็นยังไง? ชอบไหมครับ?"หลีหย่วนเดินมาโอบไหล่เย่เฟิงแล้วถามด้วยรอยยิ้ม"ดีนะ ดูดีเลย"เย่เฟิงพยักหน้า"ถ้าชอบ งั้นโรงแรมนี้ผมยกให้พี่เลย! จากนี้ไป พี่คือเจ้าของที่นี่!"หลีหย่วนหัวเราะเสียงดัง พร้อมผายมือเย่เฟิงได้ยินก็ทำหน้าอึ้ง "ยกให้ฉัน? ฉันไม่เอาหรอก! ฉันไม่มีเวลามาบริหารจัดการ แล้วฉันก็ไม่เก่งเรื่องนี้ด้วย""โธ่ พี่ จะลงมือเองทำไมล่ะ? ก็มีผู้จัดการโรงแรมอยู่แล้วนี่ พี่แค่รอรับเงินก็พอ!""ผมไม่สนล่ะ ยังไงพี่ก็ต้องรับไว้ ถ้าไม่รับ…ถ้าไม่รับ ผมจะฟ้องพี่สาวผมว่าพี่แอบไปนวดร้านแบบนั้นมา!"หลีหย่วนพูดพลางยิ้มเจ้าเล่ห์"ไปให้พ้นเลย! ไอ้เด็กนี่ แกนี่มันแสบจริงๆ!"เย่เฟิงยิ้มขำ พร้อมด่าแบบไม่จริงจังนัก"ฮ่าๆๆ…"หลีหย่วนหัวเราะเสียงดัง ก่อนจะพาเย่เฟิงเดินเข้าไปในโรงแรมเมื่อขึ้นไปถึงห้องส่วนตัวขนาดใหญ่บนชั