แชร์

บทที่ 755

ผู้เขียน: โมเนโต้
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
“ฮ่าฮ่า! คุณเป็นผู้หญิงนะ! คิดว่าฉันที่เป็นผู้ชายจะกลัวไหม ถ้าคนอื่นไม่รู้เรื่องนี้? แล้วใครจะเชื่อว่าคุณไร้เดียงสา? คนอื่นคงพูดว่าคุณเป็นคนที่ล่อลวงฉันมากกว่าเพราะเงินเดือนหนึ่งล้านเหรียญที่คุณได้รับ จริงไหม? ที่นี่ใครมีอำนาจ คุณหรือฉัน?” ทิโมธีหัวเราะและพูดต่อว่า “คุณลองคิดดูนะเซเลน่า เทย์เลอร์ คุณลองคิดให้ดี ฉัน ทิโมธี เดรค อยากได้คุณตอนนี้ และคุณไม่มีทางเลือกนอกจากต้องทำตามที่ฉันพูด!”

“ฝันไปเถอะ!” เซเลน่าหน้าซีดมาก เธอไม่คิดว่าทิโมธีจะเลวขนาดนี้

“คุณควรคิดให้ดีนะ ถ้าคุณไม่ทำตามที่ฉันบอก ฉันจะยกเลิกสัญญากับตระกูลเทย์เลอร์ ค่าชดเชยเพียงแค่หนึ่งร้อยล้านเอง ไม่ได้เยอะเท่าไหร่ ฉันสามารถจ่ายได้!” ทิโมธียิ้มอย่างเย็นชา “ประการที่สอง ฉันไล่สามีคุณออกไปแล้ว และตอนนี้เขาก็ตกงานแล้ว จะเกิดอะไรขึ้นกับค่าใช้จ่ายของครอบครัวคุณเพราะตอนนี้เขาสูญเสียเงินเดือนยี่สิบล้านเหรียญไปแล้ว?”

“ว่าไงนะ?! คุณ...คุณไล่เขาออกเหรอ?!” เซเลน่าตกใจที่ทิโมธีพูดจาไม่ดี นายน้อยเดรคเลวเกินไปแล้ว เธอไม่คิดว่าเขาจะมีแนวซาดิสม์แบบนี้

“อย่าใจร้อนนักสิ! ฉันยังพูดไม่จบ!” ทิโมธียิ้มด้วยความมั่นใจ “ลองคิดดูนะ ตอนนี้พวกคุณอา
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application
ความคิดเห็น (5)
goodnovel comment avatar
Namon Cheawpu
เมื่อไหร่จะจบ ยื้อจนเงินหมดไปเยอะละ
goodnovel comment avatar
รักแรง หึง
สงสัยต้องเลิกอ่านเสียเงินแถมเสียอารมณ์
goodnovel comment avatar
Tanet Trachoo
เหลือวันละตอนแล้วหรือ
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 756

    ทิโมธีหัวเราะเยาะการขัดขืนของเซเลน่า “ฮ่าฮ่า! แล้วทำไมฉันต้องปล่อยคุณไปด้วย ยอมฉันซะเถอะ!” เขาผลักเธอลงบนโต๊ะอย่างแรงพร้อมกับจับเธอไว้"ไปให้พ้นนะ!" ด้วยความกลัวและความตื่นตระหนก เซเลน่าเตะไปที่ระหว่างขาของทิโมธีตอนที่เขาเข้ามาใกล้“อ๊าก!” ทิโมธีร้องตะโกนออกมาอย่างเจ็บปวดและคุกเข่าลงในท่าหมอบเซเลน่าลุกขึ้นทันทีที่ทิโมธีล้มลงไปและจ้องมองเขาขณะที่เธอรีบวิ่งไปที่ประตู “นายน้อยเดรค ไอ้สารเลว! ฉันขอลาออก!” เซเลน่าเปิดประตูแล้วรีบวิ่งออกไปทันที...“เกิดอะไรขึ้น? ทำไมผู้จัดการเทย์เลอร์ถึงวิ่งออกมาจากห้อง!” พนักงานตกใจที่เห็นเซเลน่ารีบวิ่งออกมาจากห้องทำงานของเธอ“เขาพลาดงั้นเหรอ? ผมของผู้จัดการเทย์เลอร์ดูเหมือนจะยุ่งนิดหน่อย แต่เธอก็เปิดประตูและวิ่งออกไปทันที ดูเหมือนเธอจะเพิ่งร้องไห้ด้วย” เฟลิเซียพูดอย่างแปลกใจ “ดูเหมือนจะไม่ถูกต้องนะ มันไม่ควรเป็นแบบนี้ถ้าหากพวกเขามีความสัมพันธ์กันอย่างลับ ๆ เธอควรจะมีความสุขมากไม่ใช่เหรอ?”"ฉันจะไปรู้ได้ยังไง? ไปดูกันดีกว่า” ซอนย่ากับเฟลิเซียเดินเข้าไปในห้องทำงานของเซเลน่าทันที พวกเธอมองเข้าไปในห้องทำงานและพบนายน้อยเดรคหมอบอยู่บนพื้น เขาเอามือจับส่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 757

    “ผมจะไปเอาคำอธิบายจากเขา” เฟนด์กัดฟันพูด“อย่านะ! ที่เรากำลังพูดถึงอยู่นั่นมันตระกูลเดรคนะ!” เซเลน่าตกใจมากเมื่อเห็นท่าทางหุนหันพลันแล่นของเฟนด์ จึงจับมือของเขาไว้ “ที่รัก อย่าไปเลยนะ นั่นตระกูลเดรคนะ มันไม่ใช่คงามคิดที่ดีที่จะไปทำให้พวกเขาขุ่นเคือง นอกจากนั้น เขายังไม่ได้แตะต้องฉันอย่างไม่เหมาะสม ตอนที่เขากอดฉันอย่างแรง แต่ฉันก็หนีหลุดออกมาได้!”“นั่นไม่มีความหมายอะไรกับผม จะเกิดอะไรขึ้นถ้าคุณหนีไม่ทัน? ตระกูลเดรคต้องให้คำอธิบายกับผม! เขากล้าดียังไงถึงมาเอาเปรียบคุณ!” เฟนด์กำหมัดแน่นมากหมัดขึ้น เขาหันไปหาเซเลน่าและอุ้มเธอเอาไว้ในอ้อมแขนในท่าเจ้าสาว เดินไปที่รถเมื่อเขาเห็นว่ามือของเธอยังคงจับเขาไว้อยู่“คุณกำลังจะทำอะไร? ฉันขอให้คุณไม่ไปที่นั่น!” เซเลน่าตกใจมากและยังรู้สึกกังวลในขณะที่เขาอุ้มเธอขึ้นราวกับเจ้าหญิง ถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้ช่วยลบความกังวลของเธอออกไป เพราะยังไงซะ ตระกูลเดรคก็เป็นตระกูลที่แม้แต่ตระกูลชั้นสูงยังไม่กล้าทำให้ขุ่นเคือง แล้วเฟนด์ไปคนเดียวมันจะสำเร็จเหรอ?“คุณไม่ต้องห่วง ผมไม่ฆ่าพี่ชายของทันย่าหรอกเพราะยังเห็นแก่มิตรภาพของเรา แต่ถ้าหากเขาไม่คุกเข่าและขอโทษ ผมก็จะ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 758

    ในตอนนั้นทิโมธีจำได้ว่าจอมพลพ้ายแพ้ให้เขาในการต่อสู้ยังไง ด้วยความรู้สึกผิด เขาจึงพูดออกมาเบา ๆ ว่า “ก็ผมไม่รู้ว่าเฟนด์จะทรงพลังขนาดนั้น! ผมคิดว่าเขาเป็นเพียงหัวหน้าผู้บัญชาการที่ไม่คู่ควรกับความเคารพและคำชื่นชมจากตระกูลของเรา ผมเพิ่งรู้เรื่องนี้ก็ตอนที่จอมพลจากตระกูลเทิร์นเนอร์พ้ายแพ้ให้เขาในการต่อสู้แล้ว และนั่นมันก็หลังจากที่ผมไล่เขาออกไปแล้ว!”“ฮ่าฮ่า! พ่อเคยบอกแกไปนานแล้วนะว่าเขาเก่งพอ ๆ กับราชาแห่งสงครามเลย ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นเพียงราชาแห่งสงครามหนึ่งดาราก็ตาม! ที่สำคัญเขาสนิทกับเทพีแห่งสงคราม แกไม่รู้เหรอ? เทพีแห่งสงครามเต็มใจมาคุยกับพ่อเพราะความสัมพันธ์ของเรากับเฟนด์!” ยิ่งเขาคิดเกี่ยวกับมัน เจมส์ก็ยิ่งโกรธมากขึ้นเรื่อย ๆ “แล้วไง? พรุ่งนี้ผมจะไปหาเขาและขอให้เขากลับมาทำงานตามปกติ!” ทิโมธีไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเชื่อฟังพ่อของเขาหลังจากที่เขาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะคนในตระกูลเดรคหลายคนเล่นมองเขาซะขนาดนี้ และไม่มีใครลุกขึ้นมาปกป้องเขาเลย“ฮ่าฮ่า! คิดถึงนิสัยของเขาสิ! ลูกคิดว่าเขาขาดเงินเหรอถ้าเขาเป็นราชาแห่งสงครามจริง ๆ? ประเทศจะให้เงินบำนาญแก่เขาหลายหมื่นล้านเหรียญเป็นราง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 759

    ทิโมธีพยายามหาข้อแก้ตัวสำหรับการกระทำของเขาที่ได้ทำลงไป“ลูกไม่กลัวว่าจะไปทำให้เขาขุ่นเคืองเหรอ? พ่อจะบอกให้นะ ถ้าแกทำให้เขาขุ่นเคืองจริง ๆ พ่อ...พ่อก็ช่วยอะไรแกไม่ได้หรอกนะ!” เจมส์โกรธจัดจนพูดไม่ออก เขามีลูกชายคนเดียวและเขากลายเป็นคนแบบนี้ได้ยังไง“เป็นไปไม่ได้! ล้อเล่นใช่ไหม? เราเป็นถึงตระกูลชนชั้นหนึ่งเลยนะ เรามียอดฝีมือมากมาย! แม้ว่าผมจะยอมรับว่าเฟนด์มีฝีมือดี แต่ผมไม่เชื่อว่าเราจะแพ้ถ้าทุกคนต่อสู้กับเขาทั้งกลุ่ม” ทิโมธีตอบกลับอย่างไม่แยแส เขาไม่เชื่อว่าเฟนด์จะน่ากลัวขนาดนั้นเจมส์เหลือบมองทิโมธีและประกาศออกมาอย่างเย็นชาว่า “โอ้ นั่นก็จริง เรากำลังรอแกอยู่ที่นี่เพราะเราอยากบอกบางอย่างกับลูก พ่อรู้สึกว่าลูกไม่ค่อยสนใจงานเลย ดังนั้นพ่อจึงไปตรวจดูที่เซ้าท์ซิตี้ กรุ๊ปมาและพบว่ามันสูญเสียเงินไปมาก ด้วยเหตุนี้ต่อไปบริษัทเซ้าท์ซิตี้ กรุ๊ปจะให้ทันย่าน้องสาวของลูกดูแลจัดการแทนตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป พ่อคิดว่าลูกน่าจะไปผ่อนคลายและพักผ่อนบ้าง”ทิโมธีสงสัยว่าเขาได้ยินพ่อพูดผิดไปหรือเปล่า และมองไปที่เจมส์อย่างงง ๆ “อะไรนะ? พ่อ ผมได้ยินไม่ผิดใช่ไหม? พ่อเพิ่งพูดว่าเซ้าท์ซิตี้ กรุ๊ป?”ในมุมม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 760

    “เขา...เขามันบ้ามาก! เขาหมายความว่าไง 'ลงมือ' ? พ่อ ฟังที่เขาพูดสิ การกระทำของเขาไม่เคารพต่อตระกูลเดรคเลย!” ทิโมธีสูดหายใจเข้าลึก ๆ เมื่อเขาได้ยินสิ่งที่บอดี้การ์ดพูดสิ่งที่เฟนด์พูด บอกตรง ๆ เลยว่าเขากลัว เซเลน่าคงไม่ได้บอกเฟนด์ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในออฟฟิศใช่ไหม?เขานึกขึ้นมาได้ว่าเขายังไม่ได้เอาเปรียบเซเลน่าเลย ไม่สำคัญหรอกว่าเซเลน่าจะเขินหรือว่าเธอมีความตั้งใจจะจัดการกับตระกูลเดรกจริง ๆ เธอคงไม่บอกเฟนด์เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างพวกเขาแต่ทิโมธีไม่คิดว่าเฟนด์จะมาตามหาเขา และนั่นมันจะทำให้เกิดปัญหาใหญ่เพราะเหตุนั้น เขาจึงต้องกระตุ้นความสัมพันธ์ระหว่างพ่อกับเฟนด์“เขาทำเกินไป นี่มันเป็นการข่มขูตระกูลเดรคของเรา!” หนึ่งในยอดฝีมือของตระกูลเดรคไม่พอใจ ความสามารถในการต่อสู้ของเขาแข็งแกร่งกว่าสเปคเตอร์เฟซมาก เขาไม่เกรงกลัวจอมพลและสามารถต่อสู้กับราชาแห่งสงครามได้ยอดฝีมือคนนี้เป็นคนแรกที่ลุกขึ้นมาต่อต้านคำขู่ของเฟนด์“ใช่ สิ่งที่ผู้เฒ่ากอร์ดอนพูดมีเหตุผล หมอนั่นชอบทำตัวแบบนี้เสมอ เราควรจะทำให้เขารู้ว่าเขาอยู่ในฐานะไหน!” ทิโมธีรู้สึกโล่งใจที่มีคนอื่นมาแสดงจุดยืนในเรื่องนี้ด้วย และ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 761

    เซเลน่าเกรงกลัวนิดหน่อยเมื่อเห็นว่ามีคนมากมายอยู่ตรงหน้าเธอ บอดี้การ์ดส่วนใหญ่ก็อยู่ที่นี่ด้วย ไม่นานก็มีคนอยู่ฝั่งตระกูลเดรคหนึ่งถึงสองร้อยคน เธอจึงเกลี้ยกล่อมเฟนด์ทันทีแต่เฟนด์ยังคงยืนอยู่ที่เดิมและไม่ขยับไปไหน เขาจ้องทิโมธีอย่างเย็นชาและพูดว่า “ทิโมธี มานี่สิ คุกเข่าแล้วขอโทษภรรยาของฉัน คำนับสามครั้งและฉันจะปล่อยทุกอย่างไป ถ้าไม่อย่างนั้น นายจะต้องเสียใจแน่ถ้าฉันลงมือเอง!”“ไอ้บ้า มันจะไม่มากเกินไปหน่อยเหรอ?!” ผู้เฒ่ากอร์ดอนอดทนไม่ไหวอีกต่อไป เขาเริ่มโมโห ดังนั้นเขาจึงเดินออกมาข้างหน้าสองก้าว มองไปที่เฟนด์แล้วพูดว่า “นี่คือตระกูลเดรคนะ! นายรู้ไหมว่าทิโมธีเป็นใคร? เขาเป็นนายน้อยคนโตของตระกูลเรา! มันก็ไม่อะไรหรอกถ้าจะเรียกชื่อเขาตรง ๆ แต่นายกล้าดียังไงถึงมาสั่งให้คนที่มีเกียรติอย่างเขาคุกเข่าและคำนับให้นาย! นายนี่ช่างอวดดีเสียจริง!”เฟนด์มองชายชราคนนี้อย่างเย็นชาก่อนจะพูดว่า “ฉันกำลังพูดกับทิโมธี กรุณาอย่ามาขัดจังหวะในการพูดคุยของเรา!”“นาย...” ผู้เฒ่ากอร์ดอนโกรธจัดและกำมือแน่น “แน่นอน พวกเขาทั้งหมดบอกว่านายแข็งแกร่ง และในเมื่อนายกล้าแสดงท่าทางอวดดีต่อหน้าพวกเราที่คฤหาสน์ตระกูลเด

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 762

    “ผู้เฒ่ากอร์ดอน หยุด! จะขัดคำสั่งฉันเหรอ?” เจมส์เห็นว่าผู้เฒ่ากอร์ดอนก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเฟนด์อย่างแน่นอนอย่างไรก็ตาม เขาได้ลงมือไปแล้ว หลังจากที่เขาล้มเหลว เขาทำได้เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้นและจ้องไปที่เฟนด์เพราะยังไงซะ เขาอาจจะตายอย่างน่าสมเพชมาก ถ้าเขาพุ่งไปข้างหน้าและต่อสู้กับเฟนด์ต่อ แต่ถ้าเขาหยุดตอนนี้เขาคงจะเสียหน้าสีหน้าผู้เฒ่ากอร์ดอนเย็นชาหลังจากได้ยินสิ่งที่เจมส์พูด “หนุ่มน้อย วันนี้ฉันจะอดทนไว้ก่อน เพราะนายท่านสั่งไว้ ยังไงก็ตาม ที่นี่คือคฤหาสน์ตระกูลเดรค ถ้านายกล้าทำอะไรรุนแรง ฉันจะไม่ทนอีกต่อไป!” ผู้เฒ่ากอร์ดอนถอยหลังกลับมาหลังจากเขาพูดจบมุมปากของทิโมธีกระตุกไปหลายครั้ง สุดท้ายเขาก็สังเกตเห็นว่าถ้าผู้เฒ่ากอร์ดอนสู้แค่คนเดียว เขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเฟนด์อย่างแน่นอน อีกอย่าง ผู้เฒ่ากอร์ดอนเป็นคนที่รักในศักดิ์ศรีของตัวเอง เขาทิ้งคำพูดพวกนั้นไว้ เพื่อที่เขาจะได้ออกมาอย่างมีเกียรติ“เอาล่ะ เฟนด์ เป็นไงบ้าง? งั้นไม่เป็นไรถ้านายกับคุณเซเลน่าไม่อยากกลับมาทำงาน ครั้งนี้ ลูกชายของฉันเป็นคนเดียวที่หุนหันพลันแล่น ฉันจะให้เงินนายแปดร้อยล้านเหรียญ ดีไหม? แล้วปล่อยเรื่องนี้ไปเถอะ!”

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 763

    ทิโมธีตกใจมาก เขาทำได้เพียงกัดฟันและไม่ยอมรับเรื่องนี้เมื่อเห็นคนจำนวนมากมองมาที่เขา“ไร้สาระ?” คราวนี้แม้แต่เซเลน่าก็ทนไม่ได้และมองมาที่ทิโมธีอย่างไม่พอใจ “ฮ่าฮ่า นายน้อยทิโมธี ฉันไม่ได้คิดว่าคุณจะเป็นพวกขี้ขลาดที่ไม่กล้ายอมรับในสิ่งที่คุณทำ ถ้าคุณพูดอย่างนั้น ทำไมเราไม่ลองไปถามคนในบริษัทดูล่ะ เรามีพนักงานตั้งมากมาย คุณคิดว่าพวกเขาไม่ได้ยินอะไรเลยงั้นเหรอ?” สีหน้าของทิโมธีหมองลงทันทีเมื่อเขาได้ยินสิ่งที่เธอพูด ใช่ มันยากที่จะอธิบาย ว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนหน้านี้ ในตอนแรกเขาคงบอกคนในบริษัทว่าเซเลน่าเป็นคนล่อล่วงเขาได้ หลายคนคงเชื่อในสิ่งที่เขาพูด แต่ตอนนี้เฟนด์พาเซเลน่ามาที่บ้านของเขาแล้ว คงไม่มีใครเชื่อถ้าเขาใช้ข้ออ้างแบบนั้น นั่นจะเป็นปัญหาอย่างมาก “ไอ้...ไอ้ลูกเวร!” ในที่สุดเจมส์ก็ตระหนักได้ว่าสิ่งที่ลูกชายของเขาทำนั้นมันน่ารังเกียจแค่ไหน เขาก้าวออกมาและตบทิโมธีอย่างแรง “ฉันผิดหวังในตัวแกจริง ๆ ฉันคิดว่าแกแค่ไล่พวกเขาสองคนออก ฉันไม่คิดว่าแกจะทำร้ายคุณเซเลน่าด้วย ไม่น่าแปลกใจเลยที่เฟนด์จะโกรธมาก!” ผู้เฒ่ากอร์ดอนซึ่งเดิมทีรู้สึกว่าเฟนด์ทำตัวเกินเหตุ ในที่สุดเขาก็รู้ตัวเกือบถูกทิโ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29

บทล่าสุด

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2455

    ตราบใดที่มันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการบ่มเพาะโอสถของเขา ทั้งสองคนจะทำอะไรตามต้องการก็ย่อมได้ สิ่งนั้นไม่กระทบอะไรกับเขาเลย“ถึงฉันจะดูแคลนหมอนี่ แต่เขาก็ยังกล้าเสมอ เขาก็คงจะมีความสามารถอยู่บ้าง เขาน่าจะผ่านสองขั้นตอนแรกได้อย่างไม่มีปัญหา” เกรย์สันพูดอย่างชัดเจนรูดี้มองไปที่เกรย์สันด้วยรอยยิ้มเย็นชาบนใบหน้าแล้วตอบว่า "นายดูมั่นใจกับหมอนี่มากเลยนะ ฉันจะคิดว่าทุกครั้งที่เขาพูดก่อนหน้านี้ล้วนเป็นเรื่องไร้สาระทั้งหมด“ฉันคิดว่าเขาอาจจะไปถึงขั้นที่สองก่อนที่เขาจะล้มเหลวโดยสิ้นเชิง! ฉันอยากเห็นจริง ๆ ว่าถ้าล้มเหลวขึ้นมา เด็กสารเลวคนนี้จะสู้หน้าเราได้ยังไง”เกรย์สันสูดหายใจเข้าลึก ๆ เขารู้สึกได้ว่าความโกรธของรูดี้ที่มีต่อเฟนด์นั้นลึกซึ้งกว่าของเขามากดวงตาของรูดี้ลุกเป็นไฟ เห็นได้ชัดว่าเขาเกลียดเฟนด์มากเพียงใดเกรย์สันหัวเราะอย่างเย็นชา "แล้วมาดูกันว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ฉันคิดว่าเขาน่าจะสามารถไปถึงขั้นตอนสุดท้ายได้ ถ้าเขาสามารถควบรวมอักขระทางยาได้ถึงร้อยเม็ดเขาก็น่าจะมาถึงระดับนั้น"หลังจากที่ทั้งสองพูดเรื่องเหล่านั้นออกมา พวกเขาก็ปิดปากเงียบพร้อม ๆ กับการมองดูเฟนด์โดยไม่พูดอะไรพวกเขามอง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2454

    ผู้อาวุโสฮอร์สท์กระแอมเล็กน้อยในขณะที่เขาพูดต่อ “หลังจากที่เธอบ่มเพาะโอสถได้สำเร็จแล้ว ให้นำโอสถมาให้ฉันตรวจสอบ พวกเธอจะมีเวลาในการทดสอบทั้งสิ้นแปดชั่วโมง ถ้าเธอไม่สามารถบ่มเพาะโอสถได้ภายในแปดชั่วโมง ก็จะแปลว่าไม่ผ่านการทดสอบ ดังนั้นอย่าได้ช้าเกินไป”พวกเขาทั้งสามพยักหน้าแทบจะพร้อมกัน หลังจากผู้อาวุโสฮอร์สท์ให้คำแนะนำแล้ว เขาก็จัดให้มีคนงานสองสามคนคอยเป็นคนตรวจ มีผู้ดูแลยืนอยู่ด้านหลังทั้งสามคนเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่ทำอะไรผิดพลาดหลังจากนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็หันกลับมาและไปหาผู้สอบคนอื่น ๆ รูดี้หรี่ตาลง ขณะที่เขาเหลือบมองเฟนด์และพูดว่า "ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการบ่มเพาะโอสถระดับหกคือขั้นตอนสุดท้าย แต่ขั้นตอนแรกก็ไม่ง่ายเช่นกัน ถ้านายรู้ว่าทำไม่ได้ ก็อย่าทำให้ต้องสิ้นเปลืองวัตถุดิบเลย ของพวกนี้ล้วนมีราคาค่างวด ต่อให้นายจะขายตัวเองเป็นทาสก็ยังไม่พอให้ซื้อของพวกนี้!”เฟนด์ถอนหายใจออกเบา ๆ หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาเบื่อเกินกว่าจะอ้าปากพูดด้วยซ้ำ เขาตัดสินใจที่จะเพิกเฉยต่อผู้ชายคนนั้นและทุกสิ่งที่จะออกมาจากปากเขา ถึงโต้ตอบไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรอยู่ดี

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2453

    เกรย์สันหรี่ตาลงขณะที่เขามองเฟนด์ด้วยความโกรธเช่นกัน เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ดูเหมือนว่าวันนี้ นายจะมาที่นี่เพื่อหาเรื่องขายหน้าให้กับตัวเองเท่านั้น"หลังจากพูดจบเกรย์สันก็หันหลังกลับและเงียบไป เสียงความขัดแย้งหยุดลง และทุกคนรอบ ๆ ก็เริ่มกระซิบกระซาบกันผู้อาวุโสฮอร์สท์มองเฟนด์อย่างมีความหมาย ราวกับว่าเขามองเฟนด์ในมุมมองที่ต่างออกไป ทันใดนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็อยากรู้เรื่องของเฟนด์อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ในขณะนั้นเขาไม่อาจพูดอะไรออกมาได้เมื่อเขาเห็นว่าทุกคนได้จับกลุ่มกันเรียบร้อยแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็โบกมือแล้วพูดว่า "มากับฉัน!"ทุกคนติดตามผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปเป็นกลุ่ม ๆ ผู้อาวุโสฮอร์สท์เข้าไปในเรือวิญญาณ ภายในเรือเต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังรีบร้อนพวกเขาเดินตามหลังผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปอย่างใกล้ชิด เดินลัดเลาะไปตามทางก่อนจะมาถึงห้องกว้างขวางในที่สุด ห้องกว้างขวางมากจนเรียกได้ว่าห้องโถงเลยทีเดียวทันทีที่พวกเขาก้าวเข้าไปในห้อง ทุกคนก็สามารถสัมผัสได้ถึงรังสีของโอสถที่หนาแน่นรอบ ๆ บรรยากาศ พื้นที่ในห้องนี้ใหญ่เกินพอสำหรับพวกเขาแปดสิบคนเฟนด์ประเมินสถานการณ์เล็กน้อย ห้องนี้ใหญ่พอที่จะรองรับคน

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2452

    พวกเขาถาโถมข้อกล่าวหาและดูหมิ่นมามากเกินไป ถึงเขาจะไม่อยากโต้เถียงกับคนพวกนี้ แต่เขาก็ยังถูกบังคับให้ต้องเงยหน้าขึ้นมาอย่างช้า ๆ อยู่วันยันค่ำเขามองเข้าไปในดวงตาของรูดี้ซึ่งเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน ราวกับเขาเป็นเพียงแมลงในสายตาของรูดี้เฟนด์หัวเราะอย่างเย็นชา “แล้วนายได้ยินเสียงสุนัขที่เห่าดังที่สุดแล้วหรือยังล่ะ?”คำพูดเหล่านั้นสามารถเยาะเย้ยทุกคนที่นั่นได้สำเร็จ เขาเปรียบเทียบกิลเบิร์ตกับสุนัขและเย้ยหยันทุกคนที่ฟังสุนัขตัวนั้นเห่า มันทำให้การแสดงออกบนใบหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปกิลเบิร์ตเกือบจะลืมความโกรธของตัวเองไปแล้ว เขาไม่อยากจะเชื่ออะไรด้วยซ้ำว่าเฟนด์จะสามารถขจัดคำดูถูกดูแคลนทั้งหมดลงได้ แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้นกิลเบิร์ตหันกลับมาจ้องมองเฟนด์ด้วยใบหน้าแดงก่ำจากความโกรธเขาอยากจะตะโกนกลับแต่ถูกรองเหรัญญิกปรามไว้ "ดูเหมือนว่านายจะไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบแล้วสินะ!"ประโยคนั้นเพียงประโยคเดียวก็ทำให้กิลเบิร์ตไม่อาจพูดอะไรออกมาได้อีก กิลเบิร์ตตระหนักได้แล้วว่าเขาได้ทำให้รองเหรัญญิกขุ่นเคืองอย่างหนักหากเขายังคงยืนกรานที่จะต่อปากต่อคำกับเฟนด์ รองเหรัญญิกอาจจะดึงเขาออกไปจริง ๆ แล้วเขาจะ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2451

    “สมองหมอนั่นจะต้องมีอะไรผิดปกติจริง ๆ นั่นแหละ เขาคิดจริง ๆ หรือว่าเขาอยู่ในระดับเดียวกับอีกสองคนที่อยู่ตรงหน้าเขา แค่เพราะไปยืนอยู่กลุ่มเดียวกัน? นั่นน่าจะตลกมากเกินไปหน่อยนะ…”“ฉันนึกว่าการทดสอบจะเข้มงวดและจริงจังเสียอีก ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะได้เห็นอะไรแบบนี้ ทำเอาฉันขำจนปวดท้องเลยล่ะ…”แอนดรูว์ขมวดคิ้วอย่างรู้สึกอับอาย รองเหรัญญิกโกรธจนตัวสั่นหลังจากได้ยินคำพูดของกิลเบิร์ต เขานึกอยากจะพุ่งตัวไปไปตบกิลเบิร์ตสักสองสามครั้งกิลเบิร์ตเพิกเฉยต่อชื่อเสียงของวิมานโอสถอย่างเห็นแก่ตัวที่สุด พวกเขาแทบอยากจะมุดดินหนี ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นี่จะเป็นความอัปยศอดสูที่วิมานโอสถไม่อาจจำกัดทิ้งได้รองเหรัญญิกตะโกนออกไปว่า "หุบปากเดี๋ยวนี้! นายกำลังพูดเรื่องบ้าอะไร ถ้าไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบ ก็ไสหัวไปซะ!"รองเหรัญญิกโกรธมาก ขณะที่เขาพูดเช่นนั้น สีหน้าของเขาดูอดสูอย่างไม่น่าเชื่อ เขายังคิดจะฆ่ากิลเบิร์ตให้ตายเสียเดี๋ยวนี้ เมื่อถูกตำหนิเช่นนั้นก็ทำให้กิลเบิร์ตตระหนักได้ว่าเขาพูดผิดไปถึงกระนั้นก็ไม่มีทางที่เขาจะถอนคำพูดเหล่านั้นกลับคืนมา เขากระแอมเบา ๆ ก่อนที่จะรีบหันศีรษะไปซ้ายทีขวาที อย่างไม่กล้

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2450

    ไม่มีใครรู้ดีไปกว่ารองเหรัญญิกว่าโอสถระดับหกหมายถึงสิ่งใด ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา วิมานโอสถรับบัณฑิตมาจำนวนนับไม่ถ้วน แต่มีไม่มากนักที่จะได้กลายเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุระดับหกจริง ๆคอนสแตนซ์ยิ้มอย่างมีความหมายขณะที่เขาเอ่ยถาม "รองเหรัญญิกคนนี้มีความสามารถหลากหลายจริง ๆ ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าวิมานโอสถจะมีอัจฉริยะกับเขาด้วย ผมไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลย"ริมฝีปากของรองเหรัญญิกกระตุก เขาต้องการอธิบายตัวเอง แต่ถ้าเขาบอกว่าเฟนด์ไม่สามารถสกัดโอสถระดับหกได้ และมีเพียงพรสวรรค์ในการสร้างอักขระทางยาเท่านั้น มันคงจะกลายเป็นเรื่องตลกครั้งใหญ่ และทุกคนคงจะหัวเราะเยาะวิมานโอสถเป็นแน่แต่ถ้าเขายังคงดื้อรั้นต่อไป พอถึงเวลาต้องบ่มเพาะโอสถ เฟนด์ก็จะเปิดเผยความจริงข้อนั้นออกมา เมื่อนั้นความอัปยศอดสูก็จะยิ่งหนักข้อขึ้นเขาถึงกับมือสั่น ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยรู้สึกเหมือนตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้มาก่อน เขารู้สึกเหมือนกำลังถูกกักขังอยู่ในกำแพงอีกสองด้าน ทุกคนคิดว่ารองเหรัญญิกกำลังวางแผนที่จะใช้ความเงียบเพื่อตอบคำถามเมื่อเห็นกับตาว่ารองเหรัญญิกไม่ตอบอะไรออกมาแต่ทว่าคอนสแตนซ์คล้ายกับจะไม่เ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2449

    เฟนด์เป็นคนเดียวที่ยังคงยืนอยู่ ขณะนั้นเขาดูคล้ายกับกำลังลังเลและดูเหมือนกำลังรออะไรบางอย่างอยู่ ขณะที่รองเหรัญญิกพูดจบ ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็จ้องมองมาอย่างอยากรู้อยากเห็นแม้ว่าดวงตาของเขาจะดูเป็นประกายมากขนาดไหน แต่เฟนด์ก็ยังคงรู้สึกถึงความเฉียบคมภายใน ราวกับว่าเขาจะถูกตัดสิทธิ์หากเขาไม่ขยับริมฝีปากของเฟนด์กระตุกอย่างช่วยไม่ได้ เขารีรอต่อไปไม่ได้แล้ว จึงได้แต่เดินไปยังพื้นที่ที่เขาวางแผนไว้ก่อนหน้านี้ในตอนแรกเฟนด์ไม่ได้ดึงดูดความสนใจใครมากนัก เขาอาจจะเป็นคนสุดท้ายที่ปรากฏตัวขึ้น ไม่มีใครจำเขาได้ ต่อให้เขาจะมาจากวิมานโอสถ แต่นอกจากคนที่เคยพบเขาแล้ว ก็ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใครขณะที่เขาเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกต่อไป ทุกคนก็เริ่มจ้องมองไปที่เขา ใบหน้าของรองเหรัญญิกก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นบูดบึ้งเมื่อเขาสังเกตเห็นว่าเฟนด์กำลังมุ่งหน้าไปทางใด“ผู้ชายคนนั้นคิดจะไปต่อหลังรูดี้หรือเปล่า? เขาคิดจะพิสูจน์ตัวเองด้วยการกลั่นโอสถระดับหกด้วยหรือ?”“ก็คงเป็นแบบนั้น เว้นแต่เขาจะเป็นคนโง่เง่าที่ไม่ทันได้ฟังกฎการตัดสินให้ดี ไม่งั้นคงไม่เดินไปแบบนั้นหรอก เขาเป็นใคร ทำไมฉันไม่เคยได้ยินอะไรเกี่ยวกับเขาเลย

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2448

    กิลเบิร์ตทำท่าราวกับกลืนแมลงวันเข้าไปสองสามตัว เขาคาดหวังว่ารองเหรัญญิกจะพูดคำเหล่านั้นกับเขาเสียอีก แต่กลับกลายเป็นว่ารองเหรัญญิกไม่ละสายตามามองเขาเลยแม้แต่วินาทีเดียวรองเหรัญญิกฝากความหวังทั้งหมดไว้กับเฟนด์ราวกับว่ากิลเบิร์ตและแอนดรูว์มาที่นี่เพื่อเพิ่มจำนวนคนเท่านั้นแอนดรูว์มีสีหน้าขมขื่นเช่นกัน ในอดีตเขาขัดแย้งกับกิลเบิร์ตมามากมาย และความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ไม่อาจพัฒนาไปในทางที่ดีได้แต่ต้องขอบคุณเฟนด์ที่ทำให้เขาสามารถวางเฉยต่อความแค้นทั้งหมดที่เคยมีได้แอนดรูว์พูดด้วยใบหน้าที่มืดมน “รองเหรัญญิก ดูเหมือนคุณจะฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่เฟนด์เลยนะ“แต่คุณก็น่าจะเตือนเฟนด์สักหน่อยว่าต่อให้เขาจะมีพรสวรรค์ค่อนข้างดี แต่ก็ไม่ควรหยิ่งผยองเกินไป”แอนดรูว์โกรธมากในขณะนั้นและอดไม่ได้จริง ๆ ที่จะต้องเอ่ยคำดูแคลนที่สุดเช่นนั้นออกมากิลเบิร์ตกล่าวเสริมอย่างรีบร้อนทันที “แอนดรูว์พูดถูก แม้ว่าพรสวรรค์ของเฟนด์จะค่อนข้างดี แต่เขาก็ไม่ควรหยิ่งผยองนัก คำพูดพวกนั้นไม่ได้ช่วยอะไรเลยสักนิด”เฟนด์ถึงกับพูดไม่ออกเมื่อถูกคนทั้งสองเหยียบย่ำ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเฟนด์ไม่ได้เอ่ยปากเลยสักคำ แล้วเขาจะเอาเวลา

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2447

    ในตอนแรก คอนสแตนซ์และซีนย์เพียงยืนเคียงข้างกันโดยไม่สนใจเรื่องนี้ พวกเขาต้องการปล่อยให้สถานการณ์ดำเนินต่อไปอย่างที่ควรจะเป็น แต่เมื่อว่าเกรย์สันและรูดี้เริ่มเถียงกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งสองคนก็ถูกบีบให้ต้องทำอะไรสักอย่างพวกเขาถูกบีบให้ต้องแยกรูดี้และเกรย์สันออกจากกัน นั่นก็เพราะ การทะเลาะกันของเด็ก ๆ ควรจะมีขีดจำกัด เพราะหากมันเกินขีดจำกัดไปแล้ว นั่นจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของพวกเขา นี่คือสิ่งที่รูดี้และเกรย์สันเองก็ไม่อยากเห็นเป็นเวลาเกือบสิบห้านาทีแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์นั่งบนเก้าอี้ ขณะมองดูการทะเลาะวิวาทและการพูดคุยกันอย่างเฉยเมย เมื่อหมดเวลาเขาก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้เสียงปรบมือดังขึ้นตอนที่เขาจะพูดว่า "เอาล่ะ หมดเวลาแล้ว ทุกคนต้องตัดสินใจได้แล้วว่าจะพิสูจน์ความสามารถของตัวเองยังไง”“ฉันไม่คิดว่าฉันจะต้องบอกอะไรพวกนายทุกอย่างหรอกนะ ตอนนี้ก็แยกออกเป็นกลุ่มเสีย ผู้ที่ต้องการรวมอักขระทางยาจะยืนอยู่ทางทิศตะวันออก“ผู้ที่ต้องการแยกแยะวัสดุสามารถยืนอยู่ตรงกลางได้เลย และหากจะพิสูจน์ตัวเองด้วยกันบ่มเพาะโอสถให้ไปยืนที่ทางทิศตะวันตก“ถึงอย่างนั้นฉันก็ต้องขอเตือนทุกคนก่อน หากทุกคนต้องการ

DMCA.com Protection Status