แชร์

บทที่ 65

ผู้แต่ง: โมเนโต้
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
ธัญญ่า กล่าวขึ้นพร้อมกลับฉีกยิ้มอย่างขมขื่น

"อะไรกัน? เธอยอมรับเงื่อนไขแบบนี้ได้หรือ? ไม่เพียง แต่ค่าจ้างที่สูงมาก แต่เขายังไม่ฟังเราอีกด้วย นอกจากนั้นเขาสามารถออกไปได้ทุกเมื่อที่ต้องการ? มันจะโอเคได้อย่างไรกัน?”

ทิโมธี ตกใจมากดวงตาของเขาดูเหมือนจะตกลงไปที่พื้นได้เลย เขาวางถ้วยชาลงแล้วบอกเจมส์ ว่า “พ่อครับมันไร้เหตุผลเกินไป เขาคิดว่าเขาเป็นใครกัน? ถ้าเขาเป็น ราชาแห่งสงคราม หรือ เทพเจ้าแห่งสงคราม นั่นถึงจะเป็นที่ยอมรับได้ ไม่เช่นนั้นเขามีสิทธิ์อะไรในการเรียกร้องความต้องการแบบนี้ได้?”

“ไม่ว่าเขาจะเป็นใคร ถ้าเขาเรียกร้องเช่นนี้มันจะผิดปกติอย่างมากและมันเป็นข้อพิสูจน์ได้ว่า ถ้าเขาไม่แน่จริงเขาไม่เรียกร้องเช่นนี้แน่!”

เจมส์ ก็หัวเราะในขณะที่พยักหน้า เขากล่าวว่า “ถ้าเขามีความสามารถอย่างแท้จริง เขาเองก็คงจะไม่สนใจเงินยี่สิบล้านเหรียญด้วยซ้ำนี้ ที่เขาตอบตกลงเป็นเพราะเขาไม่มีอะไรทำและต้องการหาอะไรทำ เพื่อที่ต้องการรักษาบริษัทของภรรยาไว้หรือบางทีเขาก็แค่ฆ่าเวลา ถ้าเขาไม่มองหางานเขาจะถูก ตระกูลเทย์เลอร์ดูถูกเอาได้!”

“พ่อหมายความว่าการจ้างเขาในราคานี้ถือว่าคุ้มแล้วใช่ไหม”

ทิโมธี ขมวดคิ้วในตอ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 66

    “แน่นอน แต่มันค่อนข้างไกล ตราบใดที่คุณไม่เหนื่อยนั่นก็ไม่ใช่ปัญหา!”เซเลน่า ยิ้มอย่างมีความสุข ตอนแรกเธอคิดว่าเฟนด์ จะดูเย็นชามากขึ้นนับตั้งแต่เขากลับมาจากสงคราม เขามักจะมีใบหน้าที่จริงจังตลอดเวลา ไม่คาดคิดว่าในบางครั้งเขาจะโรแมนติกได้เช่นกัน“แน่นอนผมไม่มีทางเหนื่อยหรอก ตราบใดที่ยังคุณอยู่กับผม ยังเป็นคนซ้อนท้ายในทุกวัน ทุกอย่างก็มีค่าสำหรับผมเสมอ ผมยังแข็งแรงพอที่จะพาคุณไปทำงานได้ทุกวันนั้นแหละ!”เฟนด์ ตอบอย่างมีความสุข“พ่อคะ หนูอยากให้พ่ออุ้มหนูไปด้วยคะ!”ไคลีที่อยู่ในอ้อมแขนของเขาหัวเราะเบา ๆ“ได้เลยครับ พ่อจะอุ้มหนูเอง!”เฟนด์วางเด็กหญิงตัวน้อยไว้บนหลังของเขา เขาอุ้มเธอโฉบไปมาเสมือนเธอได้นั่งอยู่บนเครื่องบินจำลอง“พี่เขยถ้าคุณเป็นบอดี้การ์ดจริง ๆ ด้วยเงินเดือนยี่สิบล้านเหรียญต่อเดือน คุณช่วยซื้อรถให้หน่อยได้ไหม เอ่อ เรื่องทั้งหมดก่อนหน้านี้เป็นเพียงความเข้าใจผิดเท่านั้น” เบ็น วิ่งมาหาพวกเขาหลังจากได้รับข้อมูลคร่าว ๆ จาก ซีน่า และถามด้วยเสียงหัวเราะเบา ๆ พยายามที่จะประจบประแจง เฟนด์ให้ซื้อรถให้แม้ว่าเขาจะรู้สึกเสียหน้าเป็นครั้งที่สอง ถ้ามันกลายเป็นความจริงล่ะ? การประจบปร

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 67

    เซเลน่า ยิ้มอย่างขบขัน“จริงเหรอ ผมก็คิดว่าอาจเป็นไปได้จริง ๆ นั่นแหละสามีของคุณหล่อมาก ๆ เลยนะ ถ้าเกิดถ้ามีคนสนใจว่าจะเป็นนารีอุปถัมภ์ให้ผมล่ะ”เฟนด์ กำลังพูดในขณะที่เขาหันหลังมามองที่ต้นขาสีขาวราวกับหิมะที่อยู่ข้าง ๆ เขา เขาเคลื่อนมือมาไว้บนขาและลูบไล้ที่ข้างขาของเธอเบา ๆ"อา!"เซเลน่าคาดไม่ถึงว่า เฟนด์จะหน้าด้านขนาดนี้ ใบหน้าของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงทันที “คุณกำลังจะทำอะไร! ซุกซนอย่างเปิดเผยในตอนขี่รถแบบนี้ได้ยังไง! รู้ไหมถ้าถูกคนอื่นเห็นเข้ามันจะน่าอับอายมากขนาดไหน? ฉันไม่คิดมาก่อนเลยว่าคุณจะเป็นเหลวไหลแบบนี้”"แค่ก! แค่ก! ผมเห็นยุงนะกลัวว่ามันจะกัดคุณ จึงได้ตัดสินใจฆ่ามันเพื่อคุณเลยนะ!”เฟนด์ ตอบอย่างหน้าตาย“ยุงจะกัดฉัน คุณคิดว่าฉันอายุสามขวบเหรอ! ถ้าคุณทำอีกครั้งล่ะก็ฉันจะโดดลงไปและเดินกลับบ้านเอง!”เซเลน่า รู้สึกหงุดหงิดพร้อมกับรู้สึกอับอายเป็นอย่างมากเฟอร์รารีได้ขับผ่านพวกเขาไป เมื่อเห็นภาพดังกล่าวคนขับก็อดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายลงคอ“แม่งโคตรเซ็กซี่เลย ผู้หญิงคนนั้นคือใคร? หุ่นของเธอสุดยอดมาก ๆ ขาของเธอโคตรมีเสน่ห์ ส่วนกระโปรงนั่น... ถ้าสั้นกว่านี้อีกหน่อยก็คงจะสุดยอดไ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 68

    "ทำแบบนี้หมายความว่ายังไง?"เฟนด์ จอดสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าข้างรถคันหรูและมองอีกฝ่ายอย่างเย็นชาทันที่ที่เขาลงจากรถ “แกตาบอดเหรอ?”นายน้อยหนุ่มฮิวโก้ ทำราวกับว่าเขาไม่ได้ยินคำพูดจาก เฟนด์ แต่เขามองไปที่ เซเลน่า และถามว่า “โอ้นี่... คุณคือ เซเลน่า เทย์เลอร์ ผู้หญิงที่สวยที่สุดตามตำนานหรอกเหรอ? คุณเทย์เลอร์ ผมได้ยินมาว่ามีสุภาพบุรุษมากมายมาติดพันคุณ แต่คุณกลับปฏิเสธพวกเขาทั้งหมด ในตอนแรกผมก็คิดว่าคุณจงรักภักดีและรอสามีที่ไร้ค่าของคุณอยู่!”เขาพูดและก็มองไปที่ เฟนด์ อย่างดูถูกเหยียดหยามต่อ “ปรากฏว่า คุณเองก็คงจะได้พบกับความเหงาที่ยากเกินจะทน ดูเหมือนว่าผมจะจับได้ว่าที่ผ่านมาเป็นแค่การแสดงของคุณเท่านั้นใช่ไหมล่ะ?”“มันก็เป็นเรื่องของฉัน คุณมายุ่งวุ่นวายด้วยทำไม มันเกี่ยวอะไรกับคุณ?”เซเลน่า อดไม่ได้ที่จะถกเถียงกับเขาโดยเอ่ยอย่างเย็นชาว่า “เรื่องเมื่อกี้คุณตั้งใจทำใช่ไหม? คุณจงใจจอดรถแล้วรอให้เราผ่านแอ่งน้ำนี้เพื่อเร่งแซงใช่ไหม?”“โอ้ คุณเทย์เลอร์ คำพูดของคุณมันก็เกินไปนะ มันเป็นแค่อุบัติเหตุจริง ๆ!”นายน้อยฮิวโก้ ยักไหล่แล้วหยิบกระเป๋าออกจากรถ เขาควักเงินสองหมื่นเหรียญและยื่นให้ “สองหมื่นเห

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 69

    แอ่งน้ำอยู่ห่างจากพวกเขามากกว่าสิบเมตร การเตะของเฟนด์ นั้นก็ทรงพลังเป็นอย่างมาก สามารถส่งให้ นายน้อยฮิวโก้ ลอยไปอยู่ในแอ่งน้ำนั้นได้ภายในการเตะเพียงครั้งเดียวเสื้อเชิ้ตลายดอกไม้ของ ฝนายน้อยฮิวโก้ ก็เปียกชุ่มไปด้วยน้ำโคลน“กะ-กะ-แกกล้าตี นายน้อยฮิวโก้ เชียวเหรอ? แกกำลังหาที่ตายใช่ไหม”หญิงสาวที่มาด้วยนั้นตกใจกลัวถอยหลังในทันที ขณะที่เธอชี้ไปที่ เฟนด์เฟนด์ ยังคงไร้อารมณ์และมองตรงไปที่เธอ“คุณต้องการให้ฉันจัดการให้หรือว่าคุณจะกลิ้งลงไปในแอ่งน้ำตรงนั้นด้วยตัวเอง?”“ย๊ะ-อย่า-อย่าตีฉัน…”หญิงสาวรู้สึกหวาดกลัวกับการจ้องมองของเฟนด์ มันเป็นการจ้องมองของคนที่รอดชีวิตจากการนองเลือดมานับไม่ถ้วนเธอก็วิ่งไปอย่างรวดเร็วและกลิ้งไปมาในแอ่งน้ำ กระโปรงของเธอสั้นมากอยู่แล้ว หลังจากที่เปียกแล้วก็ยิ่งเผยรูปร่างของเธอให้เห็นมากขึ้นไปอีก“ไอ้สารเลว กะ-กะ-แกฝากไว้ก่อนเถอะ!”นายน้อยฮิวโก้ เดือดด้วยความโกรธ เขาลุกขึ้นยืนจากนั้นก็กระอักเลือดออกมา ผิวหนังที่แขนของเขามีบาดแผลขนาดใหญ่และมีเลือดออกจำนวนมาก แม้แต่เสื้อเชิ้ตของเขาก็ขาดจากแรงเสียดสี เขาดูน่าสงสารมาก“ที่รักตระกูลของพวกเขามีอำนาจมากเลยนะ คุ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 70

    “รื้อเหรอ? ถ้าเป็นเช่นนั้นเราก็ควรได้รับค่าตอบแทนสักหน่อยไม่ใช่หรือ”เฟนด์ คิดฟุ้งซ่านอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นก็เดินตามเซเลน่า เข้าไปในบ้านในตอนนี้ห้องนั่งเล่นกลับมีชีวิตชีวามาก มีคนงานจำนวนหนึ่งกำลังคุยกับฟีโอน่า และแอนดรูว์“โอ้ เซเลน่า เกิดอะไรขึ้นกับทั้งคู่? ทำไมลูกถึงมอมแมมไปด้วยหมดเลยล่ะ?”เมื่อเห็นเซเลน่า และเฟนด์ ทั้งสองคน โจแอนก็ตกใจถามอย่างรวดเร็ว“คือเราอยู่ใกล้แอ่งน้ำ และรถคันหนึ่งไม่ชะลอตัวตอนที่ผ่านแอ่งน้ำนั้น... เราเลยโดนน้ำกระเด็นใส่นะคะ!”เซเลน่า ขมวดคิ้วอธิบายอย่างตะกุกตะกัก เธอเองก็ละอายใจเกินกว่าจะพูดออกไป ถ้าแม่ของเธอรู้ว่าพวกเขาทำให้ ตระกูลฮิวโก้ ขุ่นเคืองเข้าแล้ว แม่จะมีปฏิกิริยาอย่างไรกันนะ?“โอ้! นี่คือ คุณเทย์เลอร์!”ชายวัยกลางคนยืนขึ้นอย่างกระตือรือร้นแล้วอธิบายว่า “ผมเป็นคนงานที่รับผิดชอบงานในครั้งนี้ครับ คือตอนนี้ที่ดินผืนนี้กำลังถูกเวนคืนเนื่องจากที่นี่ค่อนข้างสงบ เรากำลังมีแผนที่จะสร้างบ้านหลังเกษียณจึงจำเป็นต้องรื้อถอนบ้านหลังนี้ครับ!”"บ้านพักคนชราเหรอคะ?"เซเลน่าขมวดคิ้วทันที"ใช่แล้วครับ คุณสามารถถือว่ามันเป็นการบริจาคเพื่อประเทศของเราก็ได้ครั

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 71

    “นอกจากนี้เรายังได้รับการแจ้งร้องเรียนว่าสถานที่แห่งที่สร้างขึ้นอย่างไม่ถูกต้องตามกฎหมาย คุณเข้าใจไหม? โชคดีแค่ไหนแล้วที่พวกคุณไม่โดนปรับ เรากำลังเจรจาเพื่อจะให้คุณออกไปโดยสมัครใจ อะไรที่ทำให้คุณคิดว่าจะมีค่าชดเชย?”ชายวัยกลางคนมีรอยยิ้มผุดขึ้นบนใบหน้า แต่คำพูดของเขานั้นกลับทำให้คนที่เหลือและฟีโอน่านั้น รู้สึกอารมณ์เสียทันที การรื้อถอนครั้งนี้ไม่มีค่าชดเชย?“มันเป็นไปไม่ได้ ที่นี่คือคฤหาสน์เก่าแก่ของครอบครัวเทย์เลอร์ ถูกปล่อยทิ้งไว้โดยไม่มีใครอยู่เป็นเวลาหลายปี ปู่ของฉันเป็นคนบอกให้เราอยู่ที่นี่ ไม่ว่าอย่างไรก็ควรมีการชดเชยการรื้อถอน แล้วที่นี่จะเป็นอาคารที่ผิดกฎหมายได้อย่างไร? เราอยู่ที่นี่มาหลายปีแล้ว!”เซเลน่ารู้สึกโกรธมาก แต่เดิมที่ตั้งใจไว้ว่าจะกลับบ้านมาอาบน้ำอาบท่า แต่ตอนนี้เธอไม่มีอารมณ์นั้นอีกแล้วแผนเดิมของเธอคือการกลับบ้านเพื่ออาบน้ำ แต่ในขณะนี้เธอไม่มีอารมณ์ อีกฝ่ายนั้นทำตัวช่างไร้เหตุผล“ฉันคิดว่าเงินคงอยู่กับแก แต่แกตั้งใจที่จะวางแผนเพื่อจะเก็บเงินเอาไว้ใช้เองใช่ไหม? ฮ่า ๆ แกรู้ไหมว่าเรามาจากครอบครัวเทย์เลอร์ แกควรจะตรวจสอบรายละเอียดอย่างรอบคอบก่อนที่จะมา แกคิดว่าแก

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 72

    “โอ้! นายน้อยคลาร์ก ทำไมคุณถึงมาที่นี่ได้? นานมากที่ไม่ได้เจอ!”เมื่อฟีโอน่า เห็นเคนยืนอยู่กับช่าง เธอก็ต้อนรับเขาอย่างเป็นกันเอง“ฮ่า ๆ คุณป้าไม่นานหรอก เราเพิ่งพบกันเมื่อสองวันก่อนเอง!”เคนหัวเราะเบา ๆ แล้วชี้ไปที่ฟันของเขา “ดูผมสิ ดูปากของผม ทั้งหมดนี้เป็นเพราะลูกเขยที่ล้ำค่าของคุณทำ!” ท่าทางของฟีโอน่าเปลี่ยนไปในทันที เธอฝืนยิ้มและตอบว่า “คุณกำลังพูดอะไร เขาไม่ใช่ลูกเขยของฉัน เราจะได้คำตอบหลังจากวันเกิดครอบรอบปีทีเจ็ดสิบของนายใหญ่อีกประมาณยี่สิบวันเท่านั้น!”เคนถึงกับชะงัก ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความสงสัย ปนแปลกใจ “คุณป้าหมายถึงอะไร? พวกเขาได้แต่งงานกันถูกต้องตามกฎหมาย และยังมีลูกน้อยอีก ทำไมเราถึงต้องรออีกประมาณ 20 วันจึงจะรู้?” “ใช่ ใช่ ใช่!”ฟีโอน่ารีบพยักหน้าทันที “เป็นแบบนั้นแหละ ฉันไม่ขอพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นตอนนั้น เรื่องมันเป็นแบบนี้ หลังจากที่เฟนด์กลับมา เขาได้ต่อสู้กับนายน้อยอีวาน และสามารถเอาชนะเขาได้”“หลังจากนั้น… มันจึงเป็นเหตุว่าทำไมเขาถึงต้องเอาเงินสามสิบล้านเหรียญมาให้เรา ไม่อย่างนั้นเขาจะถูกไล่ออกจากครอบครัวเทย์เลอร์ แน่นอนว่าถ้าเขาไม่เอาของขวัญวันหมั้นมู

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 73

    ฟีโอน่าที่คิดได้ดังนั้น เธอจึงเข้าไปหาเซเลน่าในที่สุด “นายน้อยคลาร์ก เขาบอกว่าต้องการที่จะปรึกษาหารือเกี่ยวกับบ้านหลังนี้กับลูก ลูกลองเจรจากับเขาดู ขอให้เขาไม่รื้อถอนบ้านหลังนี้ ถ้ามันถูกรื้อถอนครอบครัวของเราจะไปพักที่ไหนกัน”เซเลน่านิ่งเงียบครู่หนึ่งจากนั้นพยักหน้าแล้วเดินไป“บ้านหลังนี้เป็นคฤหาสน์เก่าแก่ของครอบครัวเรา ถึงจะไม่ได้เป็นทรัพย์สินที่จดทะเบียน แต่ก็ถือว่าเป็นทรัพย์สินของตระกูลเทย์เลอร์ คุณไม่สามารถทำลายมันได้!”เซเลน่ามองไปที่นายน้อยคลาร์ก ที่อยู่ตรงหน้าเธออย่างเย็นชา ขณะที่เธอพูดออกไปก่อนที่เฟนด์จะกลับมา นายน้อยคลาร์กมักจะมาหาเธอตลอดเวลา มีไม่กั่ครั้งที่เขามาเพื่อให้เธอไปยื่นใบมรณะบัตร เพื่อที่จะให้เธอหย่ากับเฟนด์ แล้วมาแต่งงานกับเขาถึงแม้ว่าเธอรู้สึกรำคาญคน ๆ นี้ แต่เขาก็ไม่ใช่คนที่แย่ขนาดนั้น อย่างน้อยความประทับที่เธอมีต่อเขาก็มากกว่าไมเคิลมากเธอไม่เคยคิดว่าคน ๆ นี้ จะใช้กลยุทธ์เช่นนี้ สิ่งนี้มันทำให้เธอรู้สึกผิดหวังกับนายน้อยคลาร์ก เพื่อที่จะก้าวไปสู่จุดมุ่งหมายอันสูงใหม่นี้“เฮ้! นี่มันไม่ใช่เพื่อภาพลักษณ์จองเมือง และประโยชน์ของอาณาเขตกลางหรอกเหรอ?”นายน้อย

บทล่าสุด

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2455

    ตราบใดที่มันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการบ่มเพาะโอสถของเขา ทั้งสองคนจะทำอะไรตามต้องการก็ย่อมได้ สิ่งนั้นไม่กระทบอะไรกับเขาเลย“ถึงฉันจะดูแคลนหมอนี่ แต่เขาก็ยังกล้าเสมอ เขาก็คงจะมีความสามารถอยู่บ้าง เขาน่าจะผ่านสองขั้นตอนแรกได้อย่างไม่มีปัญหา” เกรย์สันพูดอย่างชัดเจนรูดี้มองไปที่เกรย์สันด้วยรอยยิ้มเย็นชาบนใบหน้าแล้วตอบว่า "นายดูมั่นใจกับหมอนี่มากเลยนะ ฉันจะคิดว่าทุกครั้งที่เขาพูดก่อนหน้านี้ล้วนเป็นเรื่องไร้สาระทั้งหมด“ฉันคิดว่าเขาอาจจะไปถึงขั้นที่สองก่อนที่เขาจะล้มเหลวโดยสิ้นเชิง! ฉันอยากเห็นจริง ๆ ว่าถ้าล้มเหลวขึ้นมา เด็กสารเลวคนนี้จะสู้หน้าเราได้ยังไง”เกรย์สันสูดหายใจเข้าลึก ๆ เขารู้สึกได้ว่าความโกรธของรูดี้ที่มีต่อเฟนด์นั้นลึกซึ้งกว่าของเขามากดวงตาของรูดี้ลุกเป็นไฟ เห็นได้ชัดว่าเขาเกลียดเฟนด์มากเพียงใดเกรย์สันหัวเราะอย่างเย็นชา "แล้วมาดูกันว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ฉันคิดว่าเขาน่าจะสามารถไปถึงขั้นตอนสุดท้ายได้ ถ้าเขาสามารถควบรวมอักขระทางยาได้ถึงร้อยเม็ดเขาก็น่าจะมาถึงระดับนั้น"หลังจากที่ทั้งสองพูดเรื่องเหล่านั้นออกมา พวกเขาก็ปิดปากเงียบพร้อม ๆ กับการมองดูเฟนด์โดยไม่พูดอะไรพวกเขามอง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2454

    ผู้อาวุโสฮอร์สท์กระแอมเล็กน้อยในขณะที่เขาพูดต่อ “หลังจากที่เธอบ่มเพาะโอสถได้สำเร็จแล้ว ให้นำโอสถมาให้ฉันตรวจสอบ พวกเธอจะมีเวลาในการทดสอบทั้งสิ้นแปดชั่วโมง ถ้าเธอไม่สามารถบ่มเพาะโอสถได้ภายในแปดชั่วโมง ก็จะแปลว่าไม่ผ่านการทดสอบ ดังนั้นอย่าได้ช้าเกินไป”พวกเขาทั้งสามพยักหน้าแทบจะพร้อมกัน หลังจากผู้อาวุโสฮอร์สท์ให้คำแนะนำแล้ว เขาก็จัดให้มีคนงานสองสามคนคอยเป็นคนตรวจ มีผู้ดูแลยืนอยู่ด้านหลังทั้งสามคนเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่ทำอะไรผิดพลาดหลังจากนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็หันกลับมาและไปหาผู้สอบคนอื่น ๆ รูดี้หรี่ตาลง ขณะที่เขาเหลือบมองเฟนด์และพูดว่า "ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการบ่มเพาะโอสถระดับหกคือขั้นตอนสุดท้าย แต่ขั้นตอนแรกก็ไม่ง่ายเช่นกัน ถ้านายรู้ว่าทำไม่ได้ ก็อย่าทำให้ต้องสิ้นเปลืองวัตถุดิบเลย ของพวกนี้ล้วนมีราคาค่างวด ต่อให้นายจะขายตัวเองเป็นทาสก็ยังไม่พอให้ซื้อของพวกนี้!”เฟนด์ถอนหายใจออกเบา ๆ หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาเบื่อเกินกว่าจะอ้าปากพูดด้วยซ้ำ เขาตัดสินใจที่จะเพิกเฉยต่อผู้ชายคนนั้นและทุกสิ่งที่จะออกมาจากปากเขา ถึงโต้ตอบไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรอยู่ดี

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2453

    เกรย์สันหรี่ตาลงขณะที่เขามองเฟนด์ด้วยความโกรธเช่นกัน เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ดูเหมือนว่าวันนี้ นายจะมาที่นี่เพื่อหาเรื่องขายหน้าให้กับตัวเองเท่านั้น"หลังจากพูดจบเกรย์สันก็หันหลังกลับและเงียบไป เสียงความขัดแย้งหยุดลง และทุกคนรอบ ๆ ก็เริ่มกระซิบกระซาบกันผู้อาวุโสฮอร์สท์มองเฟนด์อย่างมีความหมาย ราวกับว่าเขามองเฟนด์ในมุมมองที่ต่างออกไป ทันใดนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็อยากรู้เรื่องของเฟนด์อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ในขณะนั้นเขาไม่อาจพูดอะไรออกมาได้เมื่อเขาเห็นว่าทุกคนได้จับกลุ่มกันเรียบร้อยแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็โบกมือแล้วพูดว่า "มากับฉัน!"ทุกคนติดตามผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปเป็นกลุ่ม ๆ ผู้อาวุโสฮอร์สท์เข้าไปในเรือวิญญาณ ภายในเรือเต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังรีบร้อนพวกเขาเดินตามหลังผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปอย่างใกล้ชิด เดินลัดเลาะไปตามทางก่อนจะมาถึงห้องกว้างขวางในที่สุด ห้องกว้างขวางมากจนเรียกได้ว่าห้องโถงเลยทีเดียวทันทีที่พวกเขาก้าวเข้าไปในห้อง ทุกคนก็สามารถสัมผัสได้ถึงรังสีของโอสถที่หนาแน่นรอบ ๆ บรรยากาศ พื้นที่ในห้องนี้ใหญ่เกินพอสำหรับพวกเขาแปดสิบคนเฟนด์ประเมินสถานการณ์เล็กน้อย ห้องนี้ใหญ่พอที่จะรองรับคน

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2452

    พวกเขาถาโถมข้อกล่าวหาและดูหมิ่นมามากเกินไป ถึงเขาจะไม่อยากโต้เถียงกับคนพวกนี้ แต่เขาก็ยังถูกบังคับให้ต้องเงยหน้าขึ้นมาอย่างช้า ๆ อยู่วันยันค่ำเขามองเข้าไปในดวงตาของรูดี้ซึ่งเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน ราวกับเขาเป็นเพียงแมลงในสายตาของรูดี้เฟนด์หัวเราะอย่างเย็นชา “แล้วนายได้ยินเสียงสุนัขที่เห่าดังที่สุดแล้วหรือยังล่ะ?”คำพูดเหล่านั้นสามารถเยาะเย้ยทุกคนที่นั่นได้สำเร็จ เขาเปรียบเทียบกิลเบิร์ตกับสุนัขและเย้ยหยันทุกคนที่ฟังสุนัขตัวนั้นเห่า มันทำให้การแสดงออกบนใบหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปกิลเบิร์ตเกือบจะลืมความโกรธของตัวเองไปแล้ว เขาไม่อยากจะเชื่ออะไรด้วยซ้ำว่าเฟนด์จะสามารถขจัดคำดูถูกดูแคลนทั้งหมดลงได้ แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้นกิลเบิร์ตหันกลับมาจ้องมองเฟนด์ด้วยใบหน้าแดงก่ำจากความโกรธเขาอยากจะตะโกนกลับแต่ถูกรองเหรัญญิกปรามไว้ "ดูเหมือนว่านายจะไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบแล้วสินะ!"ประโยคนั้นเพียงประโยคเดียวก็ทำให้กิลเบิร์ตไม่อาจพูดอะไรออกมาได้อีก กิลเบิร์ตตระหนักได้แล้วว่าเขาได้ทำให้รองเหรัญญิกขุ่นเคืองอย่างหนักหากเขายังคงยืนกรานที่จะต่อปากต่อคำกับเฟนด์ รองเหรัญญิกอาจจะดึงเขาออกไปจริง ๆ แล้วเขาจะ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2451

    “สมองหมอนั่นจะต้องมีอะไรผิดปกติจริง ๆ นั่นแหละ เขาคิดจริง ๆ หรือว่าเขาอยู่ในระดับเดียวกับอีกสองคนที่อยู่ตรงหน้าเขา แค่เพราะไปยืนอยู่กลุ่มเดียวกัน? นั่นน่าจะตลกมากเกินไปหน่อยนะ…”“ฉันนึกว่าการทดสอบจะเข้มงวดและจริงจังเสียอีก ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะได้เห็นอะไรแบบนี้ ทำเอาฉันขำจนปวดท้องเลยล่ะ…”แอนดรูว์ขมวดคิ้วอย่างรู้สึกอับอาย รองเหรัญญิกโกรธจนตัวสั่นหลังจากได้ยินคำพูดของกิลเบิร์ต เขานึกอยากจะพุ่งตัวไปไปตบกิลเบิร์ตสักสองสามครั้งกิลเบิร์ตเพิกเฉยต่อชื่อเสียงของวิมานโอสถอย่างเห็นแก่ตัวที่สุด พวกเขาแทบอยากจะมุดดินหนี ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นี่จะเป็นความอัปยศอดสูที่วิมานโอสถไม่อาจจำกัดทิ้งได้รองเหรัญญิกตะโกนออกไปว่า "หุบปากเดี๋ยวนี้! นายกำลังพูดเรื่องบ้าอะไร ถ้าไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบ ก็ไสหัวไปซะ!"รองเหรัญญิกโกรธมาก ขณะที่เขาพูดเช่นนั้น สีหน้าของเขาดูอดสูอย่างไม่น่าเชื่อ เขายังคิดจะฆ่ากิลเบิร์ตให้ตายเสียเดี๋ยวนี้ เมื่อถูกตำหนิเช่นนั้นก็ทำให้กิลเบิร์ตตระหนักได้ว่าเขาพูดผิดไปถึงกระนั้นก็ไม่มีทางที่เขาจะถอนคำพูดเหล่านั้นกลับคืนมา เขากระแอมเบา ๆ ก่อนที่จะรีบหันศีรษะไปซ้ายทีขวาที อย่างไม่กล้

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2450

    ไม่มีใครรู้ดีไปกว่ารองเหรัญญิกว่าโอสถระดับหกหมายถึงสิ่งใด ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา วิมานโอสถรับบัณฑิตมาจำนวนนับไม่ถ้วน แต่มีไม่มากนักที่จะได้กลายเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุระดับหกจริง ๆคอนสแตนซ์ยิ้มอย่างมีความหมายขณะที่เขาเอ่ยถาม "รองเหรัญญิกคนนี้มีความสามารถหลากหลายจริง ๆ ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าวิมานโอสถจะมีอัจฉริยะกับเขาด้วย ผมไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลย"ริมฝีปากของรองเหรัญญิกกระตุก เขาต้องการอธิบายตัวเอง แต่ถ้าเขาบอกว่าเฟนด์ไม่สามารถสกัดโอสถระดับหกได้ และมีเพียงพรสวรรค์ในการสร้างอักขระทางยาเท่านั้น มันคงจะกลายเป็นเรื่องตลกครั้งใหญ่ และทุกคนคงจะหัวเราะเยาะวิมานโอสถเป็นแน่แต่ถ้าเขายังคงดื้อรั้นต่อไป พอถึงเวลาต้องบ่มเพาะโอสถ เฟนด์ก็จะเปิดเผยความจริงข้อนั้นออกมา เมื่อนั้นความอัปยศอดสูก็จะยิ่งหนักข้อขึ้นเขาถึงกับมือสั่น ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยรู้สึกเหมือนตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้มาก่อน เขารู้สึกเหมือนกำลังถูกกักขังอยู่ในกำแพงอีกสองด้าน ทุกคนคิดว่ารองเหรัญญิกกำลังวางแผนที่จะใช้ความเงียบเพื่อตอบคำถามเมื่อเห็นกับตาว่ารองเหรัญญิกไม่ตอบอะไรออกมาแต่ทว่าคอนสแตนซ์คล้ายกับจะไม่เ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2449

    เฟนด์เป็นคนเดียวที่ยังคงยืนอยู่ ขณะนั้นเขาดูคล้ายกับกำลังลังเลและดูเหมือนกำลังรออะไรบางอย่างอยู่ ขณะที่รองเหรัญญิกพูดจบ ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็จ้องมองมาอย่างอยากรู้อยากเห็นแม้ว่าดวงตาของเขาจะดูเป็นประกายมากขนาดไหน แต่เฟนด์ก็ยังคงรู้สึกถึงความเฉียบคมภายใน ราวกับว่าเขาจะถูกตัดสิทธิ์หากเขาไม่ขยับริมฝีปากของเฟนด์กระตุกอย่างช่วยไม่ได้ เขารีรอต่อไปไม่ได้แล้ว จึงได้แต่เดินไปยังพื้นที่ที่เขาวางแผนไว้ก่อนหน้านี้ในตอนแรกเฟนด์ไม่ได้ดึงดูดความสนใจใครมากนัก เขาอาจจะเป็นคนสุดท้ายที่ปรากฏตัวขึ้น ไม่มีใครจำเขาได้ ต่อให้เขาจะมาจากวิมานโอสถ แต่นอกจากคนที่เคยพบเขาแล้ว ก็ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใครขณะที่เขาเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกต่อไป ทุกคนก็เริ่มจ้องมองไปที่เขา ใบหน้าของรองเหรัญญิกก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นบูดบึ้งเมื่อเขาสังเกตเห็นว่าเฟนด์กำลังมุ่งหน้าไปทางใด“ผู้ชายคนนั้นคิดจะไปต่อหลังรูดี้หรือเปล่า? เขาคิดจะพิสูจน์ตัวเองด้วยการกลั่นโอสถระดับหกด้วยหรือ?”“ก็คงเป็นแบบนั้น เว้นแต่เขาจะเป็นคนโง่เง่าที่ไม่ทันได้ฟังกฎการตัดสินให้ดี ไม่งั้นคงไม่เดินไปแบบนั้นหรอก เขาเป็นใคร ทำไมฉันไม่เคยได้ยินอะไรเกี่ยวกับเขาเลย

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2448

    กิลเบิร์ตทำท่าราวกับกลืนแมลงวันเข้าไปสองสามตัว เขาคาดหวังว่ารองเหรัญญิกจะพูดคำเหล่านั้นกับเขาเสียอีก แต่กลับกลายเป็นว่ารองเหรัญญิกไม่ละสายตามามองเขาเลยแม้แต่วินาทีเดียวรองเหรัญญิกฝากความหวังทั้งหมดไว้กับเฟนด์ราวกับว่ากิลเบิร์ตและแอนดรูว์มาที่นี่เพื่อเพิ่มจำนวนคนเท่านั้นแอนดรูว์มีสีหน้าขมขื่นเช่นกัน ในอดีตเขาขัดแย้งกับกิลเบิร์ตมามากมาย และความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ไม่อาจพัฒนาไปในทางที่ดีได้แต่ต้องขอบคุณเฟนด์ที่ทำให้เขาสามารถวางเฉยต่อความแค้นทั้งหมดที่เคยมีได้แอนดรูว์พูดด้วยใบหน้าที่มืดมน “รองเหรัญญิก ดูเหมือนคุณจะฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่เฟนด์เลยนะ“แต่คุณก็น่าจะเตือนเฟนด์สักหน่อยว่าต่อให้เขาจะมีพรสวรรค์ค่อนข้างดี แต่ก็ไม่ควรหยิ่งผยองเกินไป”แอนดรูว์โกรธมากในขณะนั้นและอดไม่ได้จริง ๆ ที่จะต้องเอ่ยคำดูแคลนที่สุดเช่นนั้นออกมากิลเบิร์ตกล่าวเสริมอย่างรีบร้อนทันที “แอนดรูว์พูดถูก แม้ว่าพรสวรรค์ของเฟนด์จะค่อนข้างดี แต่เขาก็ไม่ควรหยิ่งผยองนัก คำพูดพวกนั้นไม่ได้ช่วยอะไรเลยสักนิด”เฟนด์ถึงกับพูดไม่ออกเมื่อถูกคนทั้งสองเหยียบย่ำ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเฟนด์ไม่ได้เอ่ยปากเลยสักคำ แล้วเขาจะเอาเวลา

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2447

    ในตอนแรก คอนสแตนซ์และซีนย์เพียงยืนเคียงข้างกันโดยไม่สนใจเรื่องนี้ พวกเขาต้องการปล่อยให้สถานการณ์ดำเนินต่อไปอย่างที่ควรจะเป็น แต่เมื่อว่าเกรย์สันและรูดี้เริ่มเถียงกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งสองคนก็ถูกบีบให้ต้องทำอะไรสักอย่างพวกเขาถูกบีบให้ต้องแยกรูดี้และเกรย์สันออกจากกัน นั่นก็เพราะ การทะเลาะกันของเด็ก ๆ ควรจะมีขีดจำกัด เพราะหากมันเกินขีดจำกัดไปแล้ว นั่นจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของพวกเขา นี่คือสิ่งที่รูดี้และเกรย์สันเองก็ไม่อยากเห็นเป็นเวลาเกือบสิบห้านาทีแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์นั่งบนเก้าอี้ ขณะมองดูการทะเลาะวิวาทและการพูดคุยกันอย่างเฉยเมย เมื่อหมดเวลาเขาก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้เสียงปรบมือดังขึ้นตอนที่เขาจะพูดว่า "เอาล่ะ หมดเวลาแล้ว ทุกคนต้องตัดสินใจได้แล้วว่าจะพิสูจน์ความสามารถของตัวเองยังไง”“ฉันไม่คิดว่าฉันจะต้องบอกอะไรพวกนายทุกอย่างหรอกนะ ตอนนี้ก็แยกออกเป็นกลุ่มเสีย ผู้ที่ต้องการรวมอักขระทางยาจะยืนอยู่ทางทิศตะวันออก“ผู้ที่ต้องการแยกแยะวัสดุสามารถยืนอยู่ตรงกลางได้เลย และหากจะพิสูจน์ตัวเองด้วยกันบ่มเพาะโอสถให้ไปยืนที่ทางทิศตะวันตก“ถึงอย่างนั้นฉันก็ต้องขอเตือนทุกคนก่อน หากทุกคนต้องการ

DMCA.com Protection Status