Share

บทที่ 55

Author: โมเนโต้
เมื่อสังเกตเห็นว่าเฟนด์ เริ่มที่ปฏิเสธการดื่มและออกอาการมึนเมาเล็กน้อย อีวานก็รู้สึกดีใจ เมื่อสำรวจดูจากรูปลักษณ์ภายนอกของเขา ดูเหมือนว่าเฟนด์จะเริ่มถึงขีดจำกัดของเขา เขาพูดขึ้นมาทันทีว่า “ไม่เป็นไร ๆ มา ๆ วันนี้เป็นวันแห่งความสุข เราควรดื่มฉลองกันสักหน่อย ดื่มกันคนละสามแก้วไปเลย!”

“ดีเลย!”

เฟนด์แกล้งทำเป็นเหมือนเขากำลังรู้สึกกระอักกระอ่วน กำลังฝืนใจที่จะดื่ม แต่เขาก็ยังดื่มแอลกอฮอล์จนหมดอย่างช้า ๆ

ในขณะนี้เฟนด์ ดื่มไปมากกว่าสิบแก้วติดต่อกัน แม้แต่ผู้อาวุโสที่เหลือกับอีวาน ก็เริ่มรู้สึกมึนงงเล็กน้อยแล้วตอนนี้

อย่างไรก็ตามพวกเขาทุกคนคิดว่าเฟนด์ น่าจะใกล้จะเมาแล้ว

“มาเถอะ! พวกเราไม่ได้ดื่มด้วยกันมานานมากแล้วมาดื่มกันมา!”

อีวานยกแก้วขึ้นและพูดกับทุกคนที่อยู่ในตอนนี้

เขาเยาะเย้ยอยู่ภายในใจของเขา สถานการณ์แบบนี้ที่ทุกคนกำลังดื่ม เฟนด์ไม่มีทางที่จะปฏิเสธได้เลย เขาต้องถูกบังคับให้ดื่มเท่านั้น

“เอาล่ะ ดื่มหมดแก้ว เพื่อให้ธุรกิจของเทย์เลอร์ กรุ๊ป เติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่งกันเถอะ!”

นายใหญ่เทย์เลอร์ ยิ้มขณะที่เขาเอ่ยขึ้น

“ไชโย!”

อีวานรีบยกแก้วขึ้นดื่มทันที

หลังจากที่เขาดื่มจนหมดแก้ว
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 56

    “ฉันเป็นคนแปลกหน้างั้นเหรอ? ถ้าอย่างนั้นฉันขอตัว!” ทันย่าอึ้งไปครู่หนึ่ง ก่อนที่หัวเราะเบา ๆ เธอหันกลับมาเพื่อที่จะออกไปนายใหญ่เทย์เลอร์ จำได้ว่าเธอคือใคร เขาตกใจอ้าปากค้างทันทีเธอคือลูกสาวของผู้ชายที่ร่ำรวยที่สุดในอาณาเขตกลาง อำนาจของครอบครัวเธอยิ่งใหญ่มาก ไม่รู้ว่ามีกี่ครอบครัวที่อยากได้โอกาสทำให้พวกเขามีความสุข อย่างไรก็ตามโอกาสเหล่านั้นไม่ใช่หากันได้ง่าย ๆ ยิ่งพวกเขาอยู่ในฐานะครอบครัวชนชั้นสูงระดับที่สาม ยิ่งต้องการประจบประแจงพวกเขามากขึ้น สิ่งเดียวก็คือ พวกเขาไม่เคยมีโอกาสที่จะได้ทำเช่นนั้นพวกเขาไม่เคยคิดไม่เคยฝันว่าทันย่า จะมาปรากฏตัวต่อหน้าพวกเขาจริง ๆ ที่เห็นสิ่งเดียวในตอนนี้ก็คือ หลานชายของเขาช่างมีสภาพที่ดูไม่ได้ เขาพูดออกมาโดยที่ไม่กลัวว่าจะทำให้คน ๆ นั้นขุ่นเคือง“คุณ - คุณทันย่า เดรก…”นายใหญ่เทย์เลอร์ รู้สึกประหม่า ขณะที่เขาพูดกับเธอ คำพูดของเขายังฟังดูตะกุกตะกัก “อีวาน แกกำลังพล่ามอะไรบนโลกใบนี้? แกแหกตาดูว่าคุณทันย่า ยืนอยู่ตรงนี้ แกยังจะไม่รีบขอโทษอีกเหรอ?”แม้แต่ธีโอดอร์ก็ยังตกใจ เขารีบต่อว่าอีวานทันทีแต่เดิมเขาอยู่ในอาการมึนเมาอยู่นั้น เมื่อได้ยินดัง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 57

    ที่ไม่น่าเชื่อไปกว่านั้นก็คือ คุณทันย่ากำลังปิดปากเล็ก ๆ ของเธอแสดงอาการตกใจ จากนั้นเธอก็พูดว่า “ถ้าคุณสามารถดื่มไวน์แดงหมดขวดนี้ได้ นั่นถือว่าเป็นการพิสูจน์ความจริงใจในการขอโทษของคุณ”นายใหญ่เทย์เลอร์ พูดไม่ออกไปชั่วขณะ เนื่องจากคุณทันย่า เป็นคนเอ่ยปาก ถ้าหากพวกเขาไม่ทำตามเกรงว่าจะเป็นการดูหมิ่นเธออย่างมากหากทำให้เธอขุ่นเคืองใจเพราะเรื่องนี้ ตระกูลเทย์เลอร์ของพวกเขาคงไม่แม้แต่จะมีโอกาสที่จะฝันว่าจะได้ขยายกิจการในอาณาเขตกลางอีกต่อไปเลย“แกยังมามัวรีรออะไรอยู่อีวาน? แสดงความจริงใจของแกสิ!”เมื่อสังเกตเห็นใบหน้าที่กล้ำกลืนฝืนทนของอีวาน นายใหญ่เทย์เลอร์ ก็อยู่ในจุดที่ลำบากใจ เขาได้ตักเตือนอีวานทันที“ตกลง ผมไม่ได้ตั้งใจที่จะทำให้คุณขุ่นเคืองใจก่อนหน้านี้ ดังนั้นผมจะดื่มไวน์แดงขวดนี้ เพื่อแสดงความจริงใจและเป็นการขอโทษให้กับคุณ!”อีวานคว้าขวดไวน์แดงแล้วยกดื่มลงคอทันทีเมื่อดื่มไปได้ครึ่งขวด เขาก็เริ่มรู้สึกพะอืดพะอมเล็กน้อย แต่เขาไม่มีทางเลือกอื่น นอกเหนือจากกัดฟันและทนดื่มมันไปจนหมดขวดความเกลียดชังที่มีต่อเฟนด์ นั้นเริ่มก่อตัวในใจเขา เขาสาปแช่งเฟนด์ ที่ทำให้เขาต้องมาเจอกับปัญหา แ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 58

    “ไม่มีทาง นี่เขาเป็นบ้าไปแล้วเหรอ? เวลานี้เขากำลังข่มขู่คุณทันย่าอย่างนั้นเหรอ?”ถ้าไม่ได้เรียกข่มขู่แล้วจะเรียกว่าอะไร? ถ้าหากภรรยาของเขาไม่ได้งานทำ นั่นหมายถึงว่าเขาจะไม่ทำงานเป็นบอดี้การ์ดให้พวกเขา? นี่มันเรื่องตลกอะไรกัน? เขาทำราวกับว่าเธอกำลังขอร้องให้เขามาเป็นบอดี้การ์ด?พระเจ้า! ทำไมถึงได้โง่แบบนี้ คุณทันย่ากำลังพิจารณาว่าความจริงแล้วเขามีส่วนร่วมในการปกป้องประเทศ เธอถึงได้ต้องการให้เขามาเป็นบอดี้การ์ดของตระกูลเดรก มีคนตั้งมามากมายที่อยากจะทำงานในตำแหน่งนี้ แต่เขากลับมีความกล้าที่จะพูดเรื่องไร้สาระแบบนี้ออกมา!เฮ้อ ประเด็นหลักก็คือ คุณทันย่าเป็นคนยื่นข้อเสนอให้เขาเอง นั่นเป็นสิ่งที่ทำให้เห็นว่าเธอให้เกียรติเขามากขนาดไหน!ญาติตระกูลเทย์เลอร์ ทุกคนต่างอ้าปากค้าง หลังจากได้ยินสิ่งที่เฟนด์พูด และเริ่มคุยกันอย่างเงียบ ๆ“พระเจ้าช่วย! จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเจ้านั่นมันทำให้คุณทันย่าไม่พอใจ? ถ้าเป็นแบบนั้นพวกเขาจะมากล่าวโทษตระกูลเทย์เลอร์ด้วยหรือไม่? เพราะเจ้านั่นมันเป็นลูกเขยของตระกูลเทย์เลอร์!” ไม่มีใครรู้ว่าเขาจะพูดอย่างนั้นนายใหญ่เทย์เลอร์ ก็ตกใจเช่นกันหลังจากที่ได้ยินคำพูดนั้น

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 59

    ฟีโอน่ารู้สึกมีความสุขอย่างมาก เนื่องจากค่าจ้างที่สูงมากขนาดนี้เธอไม่เคยคาดหวังมาก่อน นั่นหมายความว่าหลังจากนั้นอีกไม่กี่เดือน พวกเขาก็จะสามารถซื้อบ้านหลังใหญ่โตได้ถูกไหม?“นี่…มันไม่สูงไปหน่อยเหรอ?”“เซเลน่าถามขึ้นอย่างค่อนข้างมีอารมณ์ หลังจากที่เธอตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง”ย้อนกลับไปตอนที่เธอถูกไล่ออกจากตระกูลเทย์เลอร์ เธอก็พบกับอุปสรรคอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเธอเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากในการหางานทำ ขณะที่ต้องการมองหาเอเจนท์หางาน เพื่อที่จะค้นหางานแทนเธอ แต่ก็ไม่มีใครกล้ายอมรับเธอ อย่างไรก็ตามตอนนี้คุณทันย่า ได้พลิกชะตาชีวิตของเธอไปแล้วแต่ประเด็กหลักคือ อีวานจะกล้าก่อเรื่องกับครอบครัวเดรก หรือไม่? หลังจากที่คุณทันย่านั้นได้เสนอหน้าที่การงานให้เธอ ไม่น่าเชื่อว่ามันจะเกิดขึ้นได้ เฟนด์ขมวดคิ้ว ขณะที่เขาพึมพำในใจว่า จริง ๆ แล้วครอบครัวเดรก มีความสามารถในการสืบประวัติมากเลยทีเดียว พวกเขาพยายามสร้างความพอใจให้กับเขา พวกเขาถึงได้เสนองานที่ดีเช่นนี้ให้กับเซเลน่าถึงแม้ว่าเฟนด์จะไม่ชอบเงิน แต่ถ้าภรรยาของเขามีความสุข เขาก็มีความสุขเช่นกัน“ที่รัก ทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับคุณ คุณอยากที่จะทำหร

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 60

    “ขอบคุณ คุณทันย่าสำหรับคำชมของคุณ คำชมนี้ฉันขอรับไว้ด้วยความนับถือ!”ภายในใจของเซเลน่ารู้กังวลเล็กน้อย ค่าจ้างเดือนละล้านเหรียญ งานแบบนี้ไม่ได้หาได้ง่าย ๆ รายได้ของผู้จัดการทั่ว ๆ ไปยังไม่ได้มากเท่านี้“ฮ่า ๆ คุณก็พูดเกินไป! ขอให้คุณมีความสุขที่ได้ทำงานร่วมกัน!” ทันย่าไม่มีท่าทีที่เย่อหยิ่ง เธอเดินไปรินไวน์แดงให้ตัวเองก่อน จากนั้นเธอก็เดินไปชนแก้วกับเซเลน่าเบา ๆ ก่อนที่จะยกมันขึ้นดื่ม“เฟนด์ ตอนนี้ภรรยาของคุณตกลงที่จะมาทำงานร่วมกับเรา คุณคงไม่กลับคำพูดของคุณนะ ดังนั้นตอนนี้คุณสามารถตกลงราคาของคุณกับเราได้หรือยัง?”ทันย่ายิ้มแย้มแจ่มใส ขณะที่เธอภาวนาในใจว่าถ้าพ่อของเธอรู้ว่า เธอจ้างเฟนด์มาเป็นบอดี้การ์ดเขาจะมีความสุขมากแค่ไหนใบหน้าของทุกคนมีเหงื่อซึมออกมากันทั่วหน้า ไม่เพียงแต่คุณทันย่าไม่โกรธ หลังจากที่ได้ยินคำพูดที่โอ้อวดของเฟนด์นั้น แต่เธอกลับกระตือรือร้นที่จะให้เฟนด์ เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเดรก เธอต้องการให้เขากลายมาเป็นบอดี้การ์ดเฟนด์หัวเราะอย่างแผ่วเบา และพูดว่า “ตอนนี้ผมคงไม่มีทางเลือกแล้วสินะ ดูเหมือนว่าผมจะต้องยอมตกลงแล้ว!”ขณะที่เขากำลังพูดอยู่นั้น เฟนด์ก็คิด

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 61

    แม้ว่าบอดี้การ์ดอีกสามคนจะไม่พูดอะไรสักคำ แต่สีหน้าท่าทางพวกเขาดูแย่ลง นี่ไม่ใช่การดูถูกพวกเขาหรอกหรือ?“คุณกำลังพูดถึงเรื่องบ้าบออะไร?”เซเลน่า ก็ตกใจมากเช่นกันคุณทันย่า เธอเป็นคนดีมาก ครั้งแล้วครั้งเล่าที่ เฟนด์ กำลังทดสอบขีดจำกัดของเธออย่างโจ่งแจ้งในทุก ๆ ครั้งที่เจอกันค่าจ้างยี่สิบล้านเหรียญต่อเดือน นอกจากนี้เขาสามารถออกจาก ตระกูลเดรก เมื่อใดก็ตามที่เขาต้องการในทันที? มันจะเป็นไปได้อย่างไร? ถ้าหัวหน้าตระกูลเดรก ได้รู้ถึงข้อเรียกร้องอันบ้าบิ่นของ เฟนด์ ท่านจะต้องโมโหแทบจะเป็นบ้าในทันที“เฟนด์ คุณบ้าไปแล้วเหรอที่เรียกเงินเดือนสูงขนาดนี้? คุณคิดว่ามันจะไม่เป็นเรียกค่าจ้างสูงไปหรือ? ค่าจ้างที่คุณเรียกไปมันยี่สิบล้านเหรียญต่อเดือนเลยนะ! นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเคยได้ยินว่าค่าจ้างของบอดี้การ์ดคนหนึ่งจะแพงได้ขนาดนี้!”เซซิเลีย พูดด้วยน้ำเสียงที่มุ่งร้ายไม่ใช่ไอ้สารเลวนี่เจตนาจะทำให้ คุณทันย่าขุ่นเคืองหรืออย่างไรกัน?มันคงเป็นเรื่องไร้สาระสำหรับ คุณทันย่าที่จะถือสาในเรื่องนี้แต่กับเหล่าบอดี้การ์ดของเธอนั้นมันคนละเรื่องกัน เห็นได้ชัดเหล่าบอดี้การ์ดนั้นต่างโกรธและแค้นมันมาก ดูเหมือนว่

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 62

    คำพูดประโยคเดียวของเฟนด์ เกือบจะทำให้บอดี้การ์ดทั้งหมดแสดงกิริยาไม่สมควรออกมา ไอ้สารเลวนี่ไม่มีเหตุผลเกินไปแล้ว นี่ไม่ได้เป็นการดูถูกพวกเขาอย่างโจ่งแจ้งหรือ?“ไม่ต้องกังวล ฉันคงดูเป็นคนโง่มั้ง แต่ฉันเชื่อในความสามารถของเขานะ! ถ้าเขาสามารถอยู่รอดในสนามรบได้เป็นเวลาห้าปีเขาก็คงจะพอมีประโยชน์อย่างไม่ต้องสงสัย!”คุณทันย่า ให้แสดงความชัดเจนในใจของเธอและเธอไม่สามารถบอกใครได้ว่า เขาเป็นถึงเทพเจ้าแห่งสงครามด้วยสาเหตุนี้ราคาที่เขาเสนอมานั้นค่อนข้างต่ำกว่าปกติด้วยซ้ำ ดังนั้นเธอจึงไม่จำเป็นอธิบายเรื่องราวให้มากมาย"ใช่ ใช่แล้ว ใช่แล้วล่ะ! คุณทันย่า การตัดสินใจของคุณไร้ที่ติ!”ฟีโอน่ารู้สึกปลาบปลื้มอย่างไม่น่าเชื่อ ถ้าค่าจ้างรายเดือนของเฟนด์ เท่ากับยี่สิบล้านเหรียญนั่นหมายความว่าเขาจะทำเงินได้สองร้อยสี่สิบล้านต่อปีหรือไม่? ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ถ้าเฟนด์ทำงานไปตลอดชีวิตล่ะ ไม่อยากจะคิดเลยว่าต้องมีแต่คนอิจฉาพวกเธอย่างแน่นอน“คุณธัญญ่า ไม่ต้องกังวลนะครับ ผมมั่นใจว่าพี่เขยของผมจะไม่ทำให้คุณผิดหวังอย่างแน่นอน!”เบ็น ตื่นเต้นมากเขาไม่รู้จะพูดอะไร จู่ ๆ เขาพูดออกมาทันที"พี่เขย?"เฟนด์ หันหน้าไปมอง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 63

    เซเลน่า ไม่รู้ว่าควรจะแสดงท่าทีอย่างไรดี เพราะเธอเองก็ยังไม่เชื่อว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเรื่องจริง“ใช่แล้วมันเป็นเรื่องจริง คุณทันย่า เธอพูดด้วยตนเองจริงๆ!”ฟีโอน่าไม่รู้ว่าบรรยายความประหลาดใจที่ท่วมท้นเช่นนี้ได้อย่างไรดี มันเหนือจิตนาการของเธอเป็นอย่างมาก“เป็นได้อย่างไร เขามีสิทธิอะไรถึงได้รับค่าจ้างที่สูงเช่นนี้”เซซิเลีย มีสีหน้าขมขื่น อย่างไรก็ตามหลังจากครุ่นคิดอย่างจริงจัง ทันใดนั้นเธอก็คิดบางอย่างออกและเริ่มหัวเราะและพูดว่า “ฮ่าฮ่า ตอนนี้ฉันรู้แล้วล่ะเฟนด์ คุณทันย่า แค่ต้องการหลอกคนโง่อย่างคุณเท่านั้น นี้เป็นแค่เรื่องตลก!”“เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด คุณทันย่าเป็นคนบอกเองว่าพรุ่งนี้ให้ไปเริ่มทำงาน แล้วจะเป็นเรื่องตลกได้อย่างไร”ฟีโอน่าเถียงทันที“ลองคิดดูสิว่าบอดี้การ์ดคนอื่น ๆ ที่พวกเขามีอยู่ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเป็นถึงหัวหน้าพวกเขาก็ยังไม่ได้รับค่าตอบแทนมากมายขนาดนั้น แล้วคนอย่างเขามีสิทธิอะไรถึงได้รับค่าตอบแทนที่สูงขนาดนั้น?”“นอกจากนี้ เซเลน่า ยังได้ทำงานเป็นผู้จัดการและค่าจ้างเดือนละล้านเหรียญของเธอก็ค่อนข้างสมเหตุสมผลอยู่ ในทางกลับกัน เฟนด์ เขาเป็นเพียงบอดี้การ์ดดังนั้นค

Latest chapter

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2455

    ตราบใดที่มันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการบ่มเพาะโอสถของเขา ทั้งสองคนจะทำอะไรตามต้องการก็ย่อมได้ สิ่งนั้นไม่กระทบอะไรกับเขาเลย“ถึงฉันจะดูแคลนหมอนี่ แต่เขาก็ยังกล้าเสมอ เขาก็คงจะมีความสามารถอยู่บ้าง เขาน่าจะผ่านสองขั้นตอนแรกได้อย่างไม่มีปัญหา” เกรย์สันพูดอย่างชัดเจนรูดี้มองไปที่เกรย์สันด้วยรอยยิ้มเย็นชาบนใบหน้าแล้วตอบว่า "นายดูมั่นใจกับหมอนี่มากเลยนะ ฉันจะคิดว่าทุกครั้งที่เขาพูดก่อนหน้านี้ล้วนเป็นเรื่องไร้สาระทั้งหมด“ฉันคิดว่าเขาอาจจะไปถึงขั้นที่สองก่อนที่เขาจะล้มเหลวโดยสิ้นเชิง! ฉันอยากเห็นจริง ๆ ว่าถ้าล้มเหลวขึ้นมา เด็กสารเลวคนนี้จะสู้หน้าเราได้ยังไง”เกรย์สันสูดหายใจเข้าลึก ๆ เขารู้สึกได้ว่าความโกรธของรูดี้ที่มีต่อเฟนด์นั้นลึกซึ้งกว่าของเขามากดวงตาของรูดี้ลุกเป็นไฟ เห็นได้ชัดว่าเขาเกลียดเฟนด์มากเพียงใดเกรย์สันหัวเราะอย่างเย็นชา "แล้วมาดูกันว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ฉันคิดว่าเขาน่าจะสามารถไปถึงขั้นตอนสุดท้ายได้ ถ้าเขาสามารถควบรวมอักขระทางยาได้ถึงร้อยเม็ดเขาก็น่าจะมาถึงระดับนั้น"หลังจากที่ทั้งสองพูดเรื่องเหล่านั้นออกมา พวกเขาก็ปิดปากเงียบพร้อม ๆ กับการมองดูเฟนด์โดยไม่พูดอะไรพวกเขามอง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2454

    ผู้อาวุโสฮอร์สท์กระแอมเล็กน้อยในขณะที่เขาพูดต่อ “หลังจากที่เธอบ่มเพาะโอสถได้สำเร็จแล้ว ให้นำโอสถมาให้ฉันตรวจสอบ พวกเธอจะมีเวลาในการทดสอบทั้งสิ้นแปดชั่วโมง ถ้าเธอไม่สามารถบ่มเพาะโอสถได้ภายในแปดชั่วโมง ก็จะแปลว่าไม่ผ่านการทดสอบ ดังนั้นอย่าได้ช้าเกินไป”พวกเขาทั้งสามพยักหน้าแทบจะพร้อมกัน หลังจากผู้อาวุโสฮอร์สท์ให้คำแนะนำแล้ว เขาก็จัดให้มีคนงานสองสามคนคอยเป็นคนตรวจ มีผู้ดูแลยืนอยู่ด้านหลังทั้งสามคนเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่ทำอะไรผิดพลาดหลังจากนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็หันกลับมาและไปหาผู้สอบคนอื่น ๆ รูดี้หรี่ตาลง ขณะที่เขาเหลือบมองเฟนด์และพูดว่า "ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการบ่มเพาะโอสถระดับหกคือขั้นตอนสุดท้าย แต่ขั้นตอนแรกก็ไม่ง่ายเช่นกัน ถ้านายรู้ว่าทำไม่ได้ ก็อย่าทำให้ต้องสิ้นเปลืองวัตถุดิบเลย ของพวกนี้ล้วนมีราคาค่างวด ต่อให้นายจะขายตัวเองเป็นทาสก็ยังไม่พอให้ซื้อของพวกนี้!”เฟนด์ถอนหายใจออกเบา ๆ หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาเบื่อเกินกว่าจะอ้าปากพูดด้วยซ้ำ เขาตัดสินใจที่จะเพิกเฉยต่อผู้ชายคนนั้นและทุกสิ่งที่จะออกมาจากปากเขา ถึงโต้ตอบไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรอยู่ดี

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2453

    เกรย์สันหรี่ตาลงขณะที่เขามองเฟนด์ด้วยความโกรธเช่นกัน เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ดูเหมือนว่าวันนี้ นายจะมาที่นี่เพื่อหาเรื่องขายหน้าให้กับตัวเองเท่านั้น"หลังจากพูดจบเกรย์สันก็หันหลังกลับและเงียบไป เสียงความขัดแย้งหยุดลง และทุกคนรอบ ๆ ก็เริ่มกระซิบกระซาบกันผู้อาวุโสฮอร์สท์มองเฟนด์อย่างมีความหมาย ราวกับว่าเขามองเฟนด์ในมุมมองที่ต่างออกไป ทันใดนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็อยากรู้เรื่องของเฟนด์อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ในขณะนั้นเขาไม่อาจพูดอะไรออกมาได้เมื่อเขาเห็นว่าทุกคนได้จับกลุ่มกันเรียบร้อยแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็โบกมือแล้วพูดว่า "มากับฉัน!"ทุกคนติดตามผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปเป็นกลุ่ม ๆ ผู้อาวุโสฮอร์สท์เข้าไปในเรือวิญญาณ ภายในเรือเต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังรีบร้อนพวกเขาเดินตามหลังผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปอย่างใกล้ชิด เดินลัดเลาะไปตามทางก่อนจะมาถึงห้องกว้างขวางในที่สุด ห้องกว้างขวางมากจนเรียกได้ว่าห้องโถงเลยทีเดียวทันทีที่พวกเขาก้าวเข้าไปในห้อง ทุกคนก็สามารถสัมผัสได้ถึงรังสีของโอสถที่หนาแน่นรอบ ๆ บรรยากาศ พื้นที่ในห้องนี้ใหญ่เกินพอสำหรับพวกเขาแปดสิบคนเฟนด์ประเมินสถานการณ์เล็กน้อย ห้องนี้ใหญ่พอที่จะรองรับคน

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2452

    พวกเขาถาโถมข้อกล่าวหาและดูหมิ่นมามากเกินไป ถึงเขาจะไม่อยากโต้เถียงกับคนพวกนี้ แต่เขาก็ยังถูกบังคับให้ต้องเงยหน้าขึ้นมาอย่างช้า ๆ อยู่วันยันค่ำเขามองเข้าไปในดวงตาของรูดี้ซึ่งเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน ราวกับเขาเป็นเพียงแมลงในสายตาของรูดี้เฟนด์หัวเราะอย่างเย็นชา “แล้วนายได้ยินเสียงสุนัขที่เห่าดังที่สุดแล้วหรือยังล่ะ?”คำพูดเหล่านั้นสามารถเยาะเย้ยทุกคนที่นั่นได้สำเร็จ เขาเปรียบเทียบกิลเบิร์ตกับสุนัขและเย้ยหยันทุกคนที่ฟังสุนัขตัวนั้นเห่า มันทำให้การแสดงออกบนใบหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปกิลเบิร์ตเกือบจะลืมความโกรธของตัวเองไปแล้ว เขาไม่อยากจะเชื่ออะไรด้วยซ้ำว่าเฟนด์จะสามารถขจัดคำดูถูกดูแคลนทั้งหมดลงได้ แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้นกิลเบิร์ตหันกลับมาจ้องมองเฟนด์ด้วยใบหน้าแดงก่ำจากความโกรธเขาอยากจะตะโกนกลับแต่ถูกรองเหรัญญิกปรามไว้ "ดูเหมือนว่านายจะไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบแล้วสินะ!"ประโยคนั้นเพียงประโยคเดียวก็ทำให้กิลเบิร์ตไม่อาจพูดอะไรออกมาได้อีก กิลเบิร์ตตระหนักได้แล้วว่าเขาได้ทำให้รองเหรัญญิกขุ่นเคืองอย่างหนักหากเขายังคงยืนกรานที่จะต่อปากต่อคำกับเฟนด์ รองเหรัญญิกอาจจะดึงเขาออกไปจริง ๆ แล้วเขาจะ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2451

    “สมองหมอนั่นจะต้องมีอะไรผิดปกติจริง ๆ นั่นแหละ เขาคิดจริง ๆ หรือว่าเขาอยู่ในระดับเดียวกับอีกสองคนที่อยู่ตรงหน้าเขา แค่เพราะไปยืนอยู่กลุ่มเดียวกัน? นั่นน่าจะตลกมากเกินไปหน่อยนะ…”“ฉันนึกว่าการทดสอบจะเข้มงวดและจริงจังเสียอีก ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะได้เห็นอะไรแบบนี้ ทำเอาฉันขำจนปวดท้องเลยล่ะ…”แอนดรูว์ขมวดคิ้วอย่างรู้สึกอับอาย รองเหรัญญิกโกรธจนตัวสั่นหลังจากได้ยินคำพูดของกิลเบิร์ต เขานึกอยากจะพุ่งตัวไปไปตบกิลเบิร์ตสักสองสามครั้งกิลเบิร์ตเพิกเฉยต่อชื่อเสียงของวิมานโอสถอย่างเห็นแก่ตัวที่สุด พวกเขาแทบอยากจะมุดดินหนี ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นี่จะเป็นความอัปยศอดสูที่วิมานโอสถไม่อาจจำกัดทิ้งได้รองเหรัญญิกตะโกนออกไปว่า "หุบปากเดี๋ยวนี้! นายกำลังพูดเรื่องบ้าอะไร ถ้าไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบ ก็ไสหัวไปซะ!"รองเหรัญญิกโกรธมาก ขณะที่เขาพูดเช่นนั้น สีหน้าของเขาดูอดสูอย่างไม่น่าเชื่อ เขายังคิดจะฆ่ากิลเบิร์ตให้ตายเสียเดี๋ยวนี้ เมื่อถูกตำหนิเช่นนั้นก็ทำให้กิลเบิร์ตตระหนักได้ว่าเขาพูดผิดไปถึงกระนั้นก็ไม่มีทางที่เขาจะถอนคำพูดเหล่านั้นกลับคืนมา เขากระแอมเบา ๆ ก่อนที่จะรีบหันศีรษะไปซ้ายทีขวาที อย่างไม่กล้

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2450

    ไม่มีใครรู้ดีไปกว่ารองเหรัญญิกว่าโอสถระดับหกหมายถึงสิ่งใด ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา วิมานโอสถรับบัณฑิตมาจำนวนนับไม่ถ้วน แต่มีไม่มากนักที่จะได้กลายเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุระดับหกจริง ๆคอนสแตนซ์ยิ้มอย่างมีความหมายขณะที่เขาเอ่ยถาม "รองเหรัญญิกคนนี้มีความสามารถหลากหลายจริง ๆ ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าวิมานโอสถจะมีอัจฉริยะกับเขาด้วย ผมไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลย"ริมฝีปากของรองเหรัญญิกกระตุก เขาต้องการอธิบายตัวเอง แต่ถ้าเขาบอกว่าเฟนด์ไม่สามารถสกัดโอสถระดับหกได้ และมีเพียงพรสวรรค์ในการสร้างอักขระทางยาเท่านั้น มันคงจะกลายเป็นเรื่องตลกครั้งใหญ่ และทุกคนคงจะหัวเราะเยาะวิมานโอสถเป็นแน่แต่ถ้าเขายังคงดื้อรั้นต่อไป พอถึงเวลาต้องบ่มเพาะโอสถ เฟนด์ก็จะเปิดเผยความจริงข้อนั้นออกมา เมื่อนั้นความอัปยศอดสูก็จะยิ่งหนักข้อขึ้นเขาถึงกับมือสั่น ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยรู้สึกเหมือนตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้มาก่อน เขารู้สึกเหมือนกำลังถูกกักขังอยู่ในกำแพงอีกสองด้าน ทุกคนคิดว่ารองเหรัญญิกกำลังวางแผนที่จะใช้ความเงียบเพื่อตอบคำถามเมื่อเห็นกับตาว่ารองเหรัญญิกไม่ตอบอะไรออกมาแต่ทว่าคอนสแตนซ์คล้ายกับจะไม่เ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2449

    เฟนด์เป็นคนเดียวที่ยังคงยืนอยู่ ขณะนั้นเขาดูคล้ายกับกำลังลังเลและดูเหมือนกำลังรออะไรบางอย่างอยู่ ขณะที่รองเหรัญญิกพูดจบ ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็จ้องมองมาอย่างอยากรู้อยากเห็นแม้ว่าดวงตาของเขาจะดูเป็นประกายมากขนาดไหน แต่เฟนด์ก็ยังคงรู้สึกถึงความเฉียบคมภายใน ราวกับว่าเขาจะถูกตัดสิทธิ์หากเขาไม่ขยับริมฝีปากของเฟนด์กระตุกอย่างช่วยไม่ได้ เขารีรอต่อไปไม่ได้แล้ว จึงได้แต่เดินไปยังพื้นที่ที่เขาวางแผนไว้ก่อนหน้านี้ในตอนแรกเฟนด์ไม่ได้ดึงดูดความสนใจใครมากนัก เขาอาจจะเป็นคนสุดท้ายที่ปรากฏตัวขึ้น ไม่มีใครจำเขาได้ ต่อให้เขาจะมาจากวิมานโอสถ แต่นอกจากคนที่เคยพบเขาแล้ว ก็ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใครขณะที่เขาเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกต่อไป ทุกคนก็เริ่มจ้องมองไปที่เขา ใบหน้าของรองเหรัญญิกก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นบูดบึ้งเมื่อเขาสังเกตเห็นว่าเฟนด์กำลังมุ่งหน้าไปทางใด“ผู้ชายคนนั้นคิดจะไปต่อหลังรูดี้หรือเปล่า? เขาคิดจะพิสูจน์ตัวเองด้วยการกลั่นโอสถระดับหกด้วยหรือ?”“ก็คงเป็นแบบนั้น เว้นแต่เขาจะเป็นคนโง่เง่าที่ไม่ทันได้ฟังกฎการตัดสินให้ดี ไม่งั้นคงไม่เดินไปแบบนั้นหรอก เขาเป็นใคร ทำไมฉันไม่เคยได้ยินอะไรเกี่ยวกับเขาเลย

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2448

    กิลเบิร์ตทำท่าราวกับกลืนแมลงวันเข้าไปสองสามตัว เขาคาดหวังว่ารองเหรัญญิกจะพูดคำเหล่านั้นกับเขาเสียอีก แต่กลับกลายเป็นว่ารองเหรัญญิกไม่ละสายตามามองเขาเลยแม้แต่วินาทีเดียวรองเหรัญญิกฝากความหวังทั้งหมดไว้กับเฟนด์ราวกับว่ากิลเบิร์ตและแอนดรูว์มาที่นี่เพื่อเพิ่มจำนวนคนเท่านั้นแอนดรูว์มีสีหน้าขมขื่นเช่นกัน ในอดีตเขาขัดแย้งกับกิลเบิร์ตมามากมาย และความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ไม่อาจพัฒนาไปในทางที่ดีได้แต่ต้องขอบคุณเฟนด์ที่ทำให้เขาสามารถวางเฉยต่อความแค้นทั้งหมดที่เคยมีได้แอนดรูว์พูดด้วยใบหน้าที่มืดมน “รองเหรัญญิก ดูเหมือนคุณจะฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่เฟนด์เลยนะ“แต่คุณก็น่าจะเตือนเฟนด์สักหน่อยว่าต่อให้เขาจะมีพรสวรรค์ค่อนข้างดี แต่ก็ไม่ควรหยิ่งผยองเกินไป”แอนดรูว์โกรธมากในขณะนั้นและอดไม่ได้จริง ๆ ที่จะต้องเอ่ยคำดูแคลนที่สุดเช่นนั้นออกมากิลเบิร์ตกล่าวเสริมอย่างรีบร้อนทันที “แอนดรูว์พูดถูก แม้ว่าพรสวรรค์ของเฟนด์จะค่อนข้างดี แต่เขาก็ไม่ควรหยิ่งผยองนัก คำพูดพวกนั้นไม่ได้ช่วยอะไรเลยสักนิด”เฟนด์ถึงกับพูดไม่ออกเมื่อถูกคนทั้งสองเหยียบย่ำ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเฟนด์ไม่ได้เอ่ยปากเลยสักคำ แล้วเขาจะเอาเวลา

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2447

    ในตอนแรก คอนสแตนซ์และซีนย์เพียงยืนเคียงข้างกันโดยไม่สนใจเรื่องนี้ พวกเขาต้องการปล่อยให้สถานการณ์ดำเนินต่อไปอย่างที่ควรจะเป็น แต่เมื่อว่าเกรย์สันและรูดี้เริ่มเถียงกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งสองคนก็ถูกบีบให้ต้องทำอะไรสักอย่างพวกเขาถูกบีบให้ต้องแยกรูดี้และเกรย์สันออกจากกัน นั่นก็เพราะ การทะเลาะกันของเด็ก ๆ ควรจะมีขีดจำกัด เพราะหากมันเกินขีดจำกัดไปแล้ว นั่นจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของพวกเขา นี่คือสิ่งที่รูดี้และเกรย์สันเองก็ไม่อยากเห็นเป็นเวลาเกือบสิบห้านาทีแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์นั่งบนเก้าอี้ ขณะมองดูการทะเลาะวิวาทและการพูดคุยกันอย่างเฉยเมย เมื่อหมดเวลาเขาก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้เสียงปรบมือดังขึ้นตอนที่เขาจะพูดว่า "เอาล่ะ หมดเวลาแล้ว ทุกคนต้องตัดสินใจได้แล้วว่าจะพิสูจน์ความสามารถของตัวเองยังไง”“ฉันไม่คิดว่าฉันจะต้องบอกอะไรพวกนายทุกอย่างหรอกนะ ตอนนี้ก็แยกออกเป็นกลุ่มเสีย ผู้ที่ต้องการรวมอักขระทางยาจะยืนอยู่ทางทิศตะวันออก“ผู้ที่ต้องการแยกแยะวัสดุสามารถยืนอยู่ตรงกลางได้เลย และหากจะพิสูจน์ตัวเองด้วยกันบ่มเพาะโอสถให้ไปยืนที่ทางทิศตะวันตก“ถึงอย่างนั้นฉันก็ต้องขอเตือนทุกคนก่อน หากทุกคนต้องการ

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status