Share

บทที่ 402

Author: โมเนโต้
last update Last Updated: 2024-10-29 19:42:56
ทันย่าที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี เฟนด์คิดอะไรอยู่? เขาเป็นเพียงแค่บอดี้การ์ดยังมาเดินข้าง ๆ พวกเธอแถมเขายังเดินอยู่ระหว่างพวกเธอด้วย ไม่แปลกที่ทุกคนจะเข้าใจผิด

ตอนนี้เธอสงสัยว่าจริง ๆ แล้วเฟนด์คงไม่ได้ตั้งใจจริงหรือเปล่า

หลังจากที่อีวอนน์ตะโกนเสร็จ เธอก็ส่ายหัวและกลอกตาไปที่เฟนด์ “ทำไมนายถึงเดินอยู่ระหว่างพวกเราฮะ? นายควรเดินอยู่ข้างหลังเรา นายไม่รู้เหรอ?”

เฟนด์แสยะยิ้มเยาะเย้ย “ผมแค่กลัวจะถูกกล่าวหาว่ามองก้นของคุณถ้าผมเดินข้างหลัง อีกอย่างกระโปรงของคุณสั้นไปหน่อยนะวันนี้ มันคงจะไม่ดีถ้าผมเดินตามหลัง!”

ใบหน้าของอีวอนน์แดงขึ้นทันทีเธอโกรธมากจนกัดฟันแน่น เธอรู้สึกเหมือนมีแรงกระตุ้นบางอย่างที่อธิบายไม่ถูก อยากจะพุ่งเข้าไปบีบคอหมอนี่ให้ตายไปซะจริง ๆ

“เกิดอะไรขึ้น? เธอเป็นคนบอกให้ฉันโทรหาเขาและพาเขามาซื้อของกับเราไม่ใช่เหรออีวอนน์? ตอนนี้เธอเสียใจแล้วเหรอ?”

ทันย่าหัวเราะเยาะจากที่ยืนอยู่ข้าง ๆ “เธอกลัวอะไร? เธอไม่ต้องกลัวถ้าเธอไม่ได้ทำอะไรผิด”

หลังจากที่เธอพูดจบทันย่าก็ควงแขนเฟนด์ “เราไม่ต้องกลัวที่จะถูกเข้าใจผิด” เธอพูด “ยังไงก็เถอะ ถ้าหากภรรยาของใครบางคนเห็นสิ
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 403

    อีวอนน์พยักหน้า เป็นความจริงที่ตระกูลเดรคเป็นตระกูลที่ทรงอิทธิพลที่สุดในอาณาเขตกลาง แม้แต่สี่ตระกูลที่ทรงอิทธิพลของที่นี่ก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของตระกูลเดรคและยังไม่กล้ารุกรานพวกเขาเลย เธอจะต้องกลัวอะไร?เว้นเสียแต่ว่าเขาจะมาจากตระกูลที่มีอำนาจมากที่สุดในเมืองโลนยังไงเสียเมืองโลนก็ใหญ่กว่าอาณาเขตกลางสองสามเท่า แน่นอนว่าพวกเขามีอำนาจมากกว่า ชนชั้นสูงที่นั่นและแข็งแกร่งกว่าชนชั้นสูงของอาณาเขตกลาง ที่นั่นพวกเขามีพลังที่น่ากลัว มีเพียงความแข็งแกร่งระดับนี้เท่านั้นที่สามารถทำให้ตระกูลเดรคหวาดกลัวได้“จุ๊...จุ๊ อย่ามาโกหกต่อหน้าฉัน คุณสามารถจ้างบอดี้การ์ดได้แค่เพียงคนเดียว เฮ้ คิดว่าคุณจะทำให้ฉันกลัวได้เหรอ?”ฟลินน์หัวเราะคิกคัก “ตระกูลของฉันเป็นตระกูลชนชั้นสองจากเมืองโลน” เขาพูด “คุณคิดว่าไง? เริ่มกลัวแล้วใช่ไหม?”“ไม่น่าเชื่อ ชนชั้นสองเหรอ? ฉันกลัวมาก!”ทันย่าแกล้งทำเป็นกลัวเมื่อได้ยินอย่างนั้น“โอ้พระเจ้า ชนชั้นสอง พวกเราตายแน่พวกเราตายแน่เลย!”อีวอนน์ก็เล่นไปกับเธอด้วย“ฮ่า! ดีจริงที่คุณกลัว!”ฟลินน์คิดว่าพวกเขากลัวจริง ๆ จากนั้นก็ระเบิดหัวเราะ “ในเมื่อพวกคุณกลัวมาก จงมาเป็นผู้ห

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 404

    เฟนด์ไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดีเมื่อได้ยินแบบนั้น “จากที่ฉันเห็น แกก็หน้าตาดีและดูโดดเด่นมากกว่าคนอื่นนะ” เขาพูด “ทำไมแกไม่ลองมาช่วยฉันขัดรองเท้าดูล่ะ?”“ไอ้เวรเอ๊ย!“จับมัน!”ฟลินน์คำรามด้วยความโกรธขณะที่เขาโบกมือสั่ง เขาเป็นที่รู้จักและน่ายกย่องในหมู่ผู้คน แต่ชายคนนี้กลับปฏิเสธที่จะรับข้อเสนอของเขา มันเป็นสิ่งที่เขาคาดไม่ถึง“บอดี้การ์ดเหล่านี้ดูเหมือนจะมีฝีมือดีกว่าที่ฉันเจอเมื่อครั้งก่อน แต่คนพวกนี้ก็ยังเป็นแค่สวะในสายตาของฉันอยู่ดี!”ริมฝีปากของเฟนด์ปรากฏรอยยิ้มน่าขนลุก เขาเริ่มเคลื่อนไหวโดยก้าวไปข้างหน้าสองก้าวและกำหมัดแน่นปั๊ก! ปั๊ก! ปั๊ก!บอดี้การ์ดที่วิ่งเข้าไปก่อนคนอื่นถูกต่อยที่ใบหน้า ก่อนที่เขาจะได้โต้ตอบพวกเขาก็กระเด็นไปข้างหลังและกระอักเลือดจากฟันหน้าที่หัก“อ๊าก!”ชายคนหนึ่งที่น่าจะอายุสามสิบกว่า ๆ แต่เขากลับมีหมัดที่รวดเร็วและเทคนิคของเขานั้นยอดเยี่ยมมากเฟนด์สังเกตเขา ทักษะการต่อสู้ของชายคนนี้น่าจะดีกว่าผู้ช่วยผู้บัญชาการหลายคนในกองทัพนิดหน่อยอย่างไรก็ตามในสายตาของเฟนด์เขาก็ไม่ได้เป็นภัยคุกคามอะไรกับเขาเลย เขากำหมัดและชกไปข้างหน้าหมัดของเขาปะทะกับชายอ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 405

    “มาสู้กับฉันสิ! เป็นไง?”เฟนด์โบกมืออีกครั้ง “ฉันจะไว้ชีวิตนายถ้านายโจมตีฉันได้สักหมัดหนึ่ง!”เลือดในกายของฟลินน์พุ่งสูงขึ้น เขาเป็นชายหนุ่มที่ถูกเอาอกเอาใจและคาบช้อนทองมาตั้งแต่เกิด เขาจะรู้วิธีการต่อสู้ได้ยังไง? ถ้าเขาโดนโจมตีทีหนึ่ง แม้ว่าเขาจะไม่ได้ตายในทันทีแต่เขาอาจจะพิการได้“ร-เราทำอย่างอื่นดีไหม? ฉันผิดไปแล้ว!”สีหน้าของฟลินน์บิดเบี้ยวด้วยความสิ้นหวัง เขามองไปที่ห้างสรรพสินค้าตรงหน้าเขาอย่างรวดเร็ว “จริงสิ พวกคุณกำลังจะไปช้อปปิ้งกันใช่ไหมสาว ๆ?” เขาพูด “เอาอย่างนี้ไหม? ฉันจะจ่ายทุกอย่างที่คุณซื้อในวันนี้เอง เลือกอะไรก็ได้ตามที่คุณต้องการในห้างนี้ได้เลย ดีไหม?”“โอ้โห นายจะจ่ายเหรอ? ทำไมจะไม่ได้ล่ะ? พวกคุณคิดว่ายังไง?”เฟนด์ยิ้มและมองไปที่ทันย่าและอีวอนน์ยังไงซะเขาก็เป็นถึงนายน้อยของครอบครัวชนชั้นสอง เฟนด์ไม่อยากที่จะเจอกับปัญหาที่เกินความจำเป็น เพราะเขาไม่อยากสร้างปัญหาให้ตัวเองลำบากมีความเป็นไปได้ที่นายใหญ่ของตระกูลเบนจะมาหาเรื่องเขาอีก ถ้าในวันนี้เขาเอาชนะนายน้อยเบนนี่ได้ ไม่ใช่ว่าเฟนด์จัดการกับนายน้อยเบนไม่ได้ แต่เขาไม่ชอบสร้างปัญหาที่ไม่จำเป็น เขาแค่อยากมีชีวิตที

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 406

    ตระกูลเบนมีนักสู้ที่มีทักษะอยู่มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสองคนนั้นที่แข็งแกร่งกว่านักสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดของตระกูลคลาร์กอย่างแดนนิดหน่อย แต่ฟลินน์ไม่ได้พาพวกเขามาด้วยเพราะเขาไม่คิดว่าจะถูกรังแกแบบนี้ในอาณาเขตกลาง ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังเชื่อว่าลูกพี่ลูกน้องของเขา จะพาคนมามากพอที่จะกำจัดบอดี้การ์ดนั่นให้สิ้นซากได้ พวกเขาเดินซื้อของกันมาประมาณครึ่งชั่วโมงแล้ว ทันย่าและอีวอนน์ได้ของที่มีมูลค่ารวมประมาณ 20 ล้านเหรียญ มันทำให้หัวใจของฟลินน์เจ็บปวดอย่างควบคุมไม่ได้ เขาไม่คิดว่าผู้หญิงสองคนจะใช้เงินมากขนาดนี้ในการช้อปปิ้ง จนเขาถือของจำนวนมากนั้นแทบจะไม่หมด ใครจะไปรู้ว่าพวกเขาจะซื้อของหรูหราอย่างนาฬิกา ต่างหู น้ำหอม และของกระจุกกระจิกอื่น ๆ อีกมากมาย ไม่เป็นไรหรอกที่พวกมันมีราคาแพงถ้าพวกมันเล็กและง่ายที่จะถือด้วย เมื่อพวกเขาซื้อของกันเสร็จ สีหน้าของเขาก็ซีดจนแทบจะเหมือนคนตาย “ว้าว รู้สึกดีจังที่ได้ใช้เงิน!” ทันย่าเหยียดแขนขึ้นเหนือศีรษะ รูปร่างของเธอเกือบทำให้ฟลินน์เลือดกำเดาไหล “จริงด้วย? นานมากแล้วที่ฉันไม่ได้ซื้อของมากมายขนาดนี้ รู้สึกดีจัง!” อีวอนน์จึงยืดแขนของเธอด้วย รูปร่างของ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 407

    “อะแฮ่ม ไม่ใช่ว่าฉันจะขาดเงินหรอกนะ แต่มันรู้สึกลำบากใจเหลือเกินที่จะพาสาวสวยอย่างพวกคุณไปช้อปปิ้งด้วย เพราะพวกคุณเป็นที่น่าสนใจมาก งั้นเราไปซื้อของกันอีกสักครึ่งชั่วโมงก็ได้!”แม้ว่าเขาจะปวดใจเพราะเรื่องเงินที่ต้องเสียไป แต่สีหน้าของของฟลินน์ก็แสดงออกอย่างไม่แยแส เขาแค่อยากถ่วงเวลาพวกเขาไปอีกสักพัก ใครจะรู้ว่าในอนาคตเขาจะได้เจอกับพวกเธออีกหรือเปล่า ถ้าพวกเธอกลับไปล่ะ? เขากำลังรอจนกว่าลูกพี่ลูกน้องของเขาจะมาและฆ่าหมอนั่นซะ แล้วเขาจะได้เล่นกับพวกสาว ๆ เพื่อที่จะได้ปลดปล่อยความแค้นออกมา “ไม่เป็นไร ฉันไม่อยากซื้อของแล้ว กลับกันเถอะ!" อย่างไรก็ตามทันย่าและอีวอนน์ไม่ชอบเอาเปรียบคนอื่น พวกเธอทำสิ่งนั้นไปเพียงเพื่อสอนบทเรียนให้แก่ชายคนนั้น เพราะยังไงเสียพวกเธอก็ไม่ได้ขาดแคลนเงิน หลังจากที่พวกเธอพูดจบ ทั้งสามก็เดินไปที่ชั้นหนึ่งและออกจากห้างไป หลังจากที่ฟลินน์เดินไปที่ทางเข้า เคนและคนอื่น ๆ ก็ยังไม่มาถึง เขาวิตกกังวลจนแน่นหน้าอก บอดี้การ์ดของเขาทั้งหมดที่อยู่บนพื้น มันบอกได้อย่างชัดเจนว่าพวกเขาเคยทะเลาะวิวาทมาก่อนและตอนนี้พวกเขาก็ดูสิ้นหวังอย่างมาก เขาไม่ได้ตะโกนไล่ให้พวกมันออ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 408

    “ให้ปล่อยไปงั้นเหรอ? ฉันปล่อยเรื่องนี้ไปไม่ได้หรอกเคน!” “นายสัญญาแล้วนะว่าจะช่วยฉัน นายรู้ไหม? ฉันจะให้ผู้หญิงคนหนึ่งกับนาย!” สีหน้าของฟลินน์แสดงออกอย่างป่าเถื่อนในขณะที่เขาพูดพร้อมกับยิ้ม “นายน้อยเบนอย่าพูดอะไรอีกเลย นายอยากตายงั้นเหรอ?” สีหน้าของแดนช่างมืดมนจนดูเหมือนกับเมฆพายุฝนกำลังปกคลุมอยู่ เขาส่งสายตาเยาะเย้ยใส่ฟลินน์ “อะไรนะ? ฉันอยากตาย? ฮ่า ๆ นายหมายถึงอะไร ไม่มีทาง นายเอาชนะหมอนี่ไม่ได้งั้นเหรอ!” ฟลินน์ยังคงไม่รู้ถึงสถานการณ์ เขาพูดพร้อมกับหัวเราะไปด้วย “พวกเขากำลังบอกให้แกหุบปาก ไม่ได้ยินงั้นเหรอ?” เฟนด์ไม่อยากโต้เถียงเรื่องไร้สาระกับหมอนี่ เขาเตะเท้าลงบนพื้นและพุ่งไปข้างหน้า วินาทีถัดมาเขาก็ยืนอยู่ตรงหน้าฟลินน์เสียแล้ว เขาหันหลังให้กับชายอีกคน ปั๊ก! ฟลินน์กระเด็นถอยหลังและล้มลงกับพื้นอย่างแรง! เลือดทะลักออกมาจากปากและฟันหักไปหลายซี่ “ก-แกกล้าต่อยฉันเหรอ?” ฟลินน์โกรธมากจนหน้าซีดไปหมด “คุณทันย่าผมขอโทษด้วยจริง ๆ นี่เป็นครั้งแรกที่ลูกพี่ลูกน้องของผมมาที่อาณาเขตกลาง เขาเลยหลงทางนิดหน่อยผมหวังว่าคุณจะเมตตาเขา” สีหน้าของเคนมืดลงเขาปาดเหงื่อเย็นออกจากหน

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 409

    “ได้เลยคุณทันย่า!” เฟนด์พยักหน้า ยังไงซะไอ้สารเลวนี่ก็ไม่ได้ทำให้พวกเขาโกรธแค่ครั้งเดียวก่อนหน้านี้ นอกจากนี้มันยังกล้าทำให้ทันย่าขายหน้า มันคงไม่มีเหตุผลที่พวกเขาจะปล่อยให้มันลอยนวล“แกไม่กล้าหรอก! ฉันจะบอกให้นะ ฉัน ฟลินน์ และตระกูลของฉันก็เป็นถึงตระกูลชนชั้นสองในเมืองโลน ครอบครัวชนชั้นสองของเราแข็งแกร่งกว่าพวกคุณทุกคนที่นี่ บอดี้การ์ดห้าอันดับแรกของตระกูลเบนก็ทรงพลังมากด้วยเช่นกัน!” “ ‘ทรงพลัง’ ของนายมันก็เพียงความมั่งคั่งและทรัพย์สินของนายเท่านั้น นักสู้ของนายอาจจะไม่ได้แข็งแกร่งกว่าพวกเราก็ได้!” ฟลินน์ตกใจกลัวไปถึงกระดูกเมื่อเห็นเฟนด์เดินมา เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากกัดฟันและข่มขู่ “เฮ้ นายนี่กล้าหาญจริง ๆ ที่ขู่เรา แทนที่จะร้องขอชีวิตในตอนนี้!” เฟนด์หัวเราะและก้าวไปข้างหน้า เขาคว้าแขนฟลินน์ขึ้นมาและคว้ามันไว้แน่น “กร๊อบ!” การเคลื่อนไหวของเฟนด์ดูสบาย ๆ แต่เสียงกระดูกหักดังออกมาอย่างชัดเจน “แก…” ในความคิดของฟลินน์ เขาไม่อยากเชื่อเลยว่าเฟนด์ซึ่งเป็นแค่บอดี้การ์ดจะกล้าทำอะไรแบบนี้กับเขา ความเจ็บปวดทำให้หน้าเขาซีดจนไม่มีสีและเขาก็หมดสติไปทันที ความน่ากลัวนี้ทำให้เคนแ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 410

    ไม่นานเคนก็ได้แต่ส่ายหัวอย่างไม่อยากเชื่อ “เป็นไปไม่ได้หรอก ทำไมหมอนั่นถึงได้ทำตัวจนขนาดนั้นล่ะถ้าเขามีเงินพันล้านจริง ๆ?” “ฉันก็ไม่รู้ คนบางคนชอบทำตัวติดดินบ่อย ๆ หรือบางทีเขาอาจแค่ไม่อยากใช้ชีวิตอย่างฟุ่มเฟือยเกินไป!” หลังจากที่แดนคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้เขาก็อธิบายออกมาอย่างช่วยไม่ได้ “นายน้อยคลาร์ก ฟังฉันนะเซเลน่า เทย์เลอร์นั้นสวยก็จริง แต่คุณหาผู้หญิงคนอื่นไม่ได้เหรอด้วยเงินที่คุณมี? คุณไม่ควรทำให้เฟนด์โกรธไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม! เข้าใจไหม?” “หุบปาก! หยุดบ่นฉันเหมือนนายเป็นแม่ของฉันซะที!” เคนตะโกนอย่างโกรธจัดรู้สึกไม่พอใจมาก เขาไม่อยากเชื่อเลยว่าเฟนด์จะทำตัวติดดินขนาดนี้ ทั้งที่เขามีเงินมากขนาดนั้นและยังเป็นนักสู้ที่มีฝีมือ จริงสิ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะเป็นผู้บัญชาการหรือมียศอะไรสักอย่างในกองทัพนี่ นอกจากนี้ถ้าหมอนั่นเป็นผู้บัญชาการขึ้นมาจริง ๆ ล่ะ? แต่ยังไงเขาก็ต้องตายอยู่ดีถ้าเขามายั่วโมโหคนอย่างเคน คลาร์ก ตอนนี้เขาไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องกังวล เขาเชื่อว่าเรื่องของเฟนด์จะคลี่คลายเมื่อวันเกิดของนายใหญ่เทย์เลอร์มาถึง เขาจะต้องถูกไล่ออกจากตระกูลเทย์เลอร์ แต่ถ้า

Latest chapter

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2455

    ตราบใดที่มันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการบ่มเพาะโอสถของเขา ทั้งสองคนจะทำอะไรตามต้องการก็ย่อมได้ สิ่งนั้นไม่กระทบอะไรกับเขาเลย“ถึงฉันจะดูแคลนหมอนี่ แต่เขาก็ยังกล้าเสมอ เขาก็คงจะมีความสามารถอยู่บ้าง เขาน่าจะผ่านสองขั้นตอนแรกได้อย่างไม่มีปัญหา” เกรย์สันพูดอย่างชัดเจนรูดี้มองไปที่เกรย์สันด้วยรอยยิ้มเย็นชาบนใบหน้าแล้วตอบว่า "นายดูมั่นใจกับหมอนี่มากเลยนะ ฉันจะคิดว่าทุกครั้งที่เขาพูดก่อนหน้านี้ล้วนเป็นเรื่องไร้สาระทั้งหมด“ฉันคิดว่าเขาอาจจะไปถึงขั้นที่สองก่อนที่เขาจะล้มเหลวโดยสิ้นเชิง! ฉันอยากเห็นจริง ๆ ว่าถ้าล้มเหลวขึ้นมา เด็กสารเลวคนนี้จะสู้หน้าเราได้ยังไง”เกรย์สันสูดหายใจเข้าลึก ๆ เขารู้สึกได้ว่าความโกรธของรูดี้ที่มีต่อเฟนด์นั้นลึกซึ้งกว่าของเขามากดวงตาของรูดี้ลุกเป็นไฟ เห็นได้ชัดว่าเขาเกลียดเฟนด์มากเพียงใดเกรย์สันหัวเราะอย่างเย็นชา "แล้วมาดูกันว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ฉันคิดว่าเขาน่าจะสามารถไปถึงขั้นตอนสุดท้ายได้ ถ้าเขาสามารถควบรวมอักขระทางยาได้ถึงร้อยเม็ดเขาก็น่าจะมาถึงระดับนั้น"หลังจากที่ทั้งสองพูดเรื่องเหล่านั้นออกมา พวกเขาก็ปิดปากเงียบพร้อม ๆ กับการมองดูเฟนด์โดยไม่พูดอะไรพวกเขามอง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2454

    ผู้อาวุโสฮอร์สท์กระแอมเล็กน้อยในขณะที่เขาพูดต่อ “หลังจากที่เธอบ่มเพาะโอสถได้สำเร็จแล้ว ให้นำโอสถมาให้ฉันตรวจสอบ พวกเธอจะมีเวลาในการทดสอบทั้งสิ้นแปดชั่วโมง ถ้าเธอไม่สามารถบ่มเพาะโอสถได้ภายในแปดชั่วโมง ก็จะแปลว่าไม่ผ่านการทดสอบ ดังนั้นอย่าได้ช้าเกินไป”พวกเขาทั้งสามพยักหน้าแทบจะพร้อมกัน หลังจากผู้อาวุโสฮอร์สท์ให้คำแนะนำแล้ว เขาก็จัดให้มีคนงานสองสามคนคอยเป็นคนตรวจ มีผู้ดูแลยืนอยู่ด้านหลังทั้งสามคนเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่ทำอะไรผิดพลาดหลังจากนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็หันกลับมาและไปหาผู้สอบคนอื่น ๆ รูดี้หรี่ตาลง ขณะที่เขาเหลือบมองเฟนด์และพูดว่า "ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการบ่มเพาะโอสถระดับหกคือขั้นตอนสุดท้าย แต่ขั้นตอนแรกก็ไม่ง่ายเช่นกัน ถ้านายรู้ว่าทำไม่ได้ ก็อย่าทำให้ต้องสิ้นเปลืองวัตถุดิบเลย ของพวกนี้ล้วนมีราคาค่างวด ต่อให้นายจะขายตัวเองเป็นทาสก็ยังไม่พอให้ซื้อของพวกนี้!”เฟนด์ถอนหายใจออกเบา ๆ หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาเบื่อเกินกว่าจะอ้าปากพูดด้วยซ้ำ เขาตัดสินใจที่จะเพิกเฉยต่อผู้ชายคนนั้นและทุกสิ่งที่จะออกมาจากปากเขา ถึงโต้ตอบไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรอยู่ดี

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2453

    เกรย์สันหรี่ตาลงขณะที่เขามองเฟนด์ด้วยความโกรธเช่นกัน เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ดูเหมือนว่าวันนี้ นายจะมาที่นี่เพื่อหาเรื่องขายหน้าให้กับตัวเองเท่านั้น"หลังจากพูดจบเกรย์สันก็หันหลังกลับและเงียบไป เสียงความขัดแย้งหยุดลง และทุกคนรอบ ๆ ก็เริ่มกระซิบกระซาบกันผู้อาวุโสฮอร์สท์มองเฟนด์อย่างมีความหมาย ราวกับว่าเขามองเฟนด์ในมุมมองที่ต่างออกไป ทันใดนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็อยากรู้เรื่องของเฟนด์อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ในขณะนั้นเขาไม่อาจพูดอะไรออกมาได้เมื่อเขาเห็นว่าทุกคนได้จับกลุ่มกันเรียบร้อยแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็โบกมือแล้วพูดว่า "มากับฉัน!"ทุกคนติดตามผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปเป็นกลุ่ม ๆ ผู้อาวุโสฮอร์สท์เข้าไปในเรือวิญญาณ ภายในเรือเต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังรีบร้อนพวกเขาเดินตามหลังผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปอย่างใกล้ชิด เดินลัดเลาะไปตามทางก่อนจะมาถึงห้องกว้างขวางในที่สุด ห้องกว้างขวางมากจนเรียกได้ว่าห้องโถงเลยทีเดียวทันทีที่พวกเขาก้าวเข้าไปในห้อง ทุกคนก็สามารถสัมผัสได้ถึงรังสีของโอสถที่หนาแน่นรอบ ๆ บรรยากาศ พื้นที่ในห้องนี้ใหญ่เกินพอสำหรับพวกเขาแปดสิบคนเฟนด์ประเมินสถานการณ์เล็กน้อย ห้องนี้ใหญ่พอที่จะรองรับคน

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2452

    พวกเขาถาโถมข้อกล่าวหาและดูหมิ่นมามากเกินไป ถึงเขาจะไม่อยากโต้เถียงกับคนพวกนี้ แต่เขาก็ยังถูกบังคับให้ต้องเงยหน้าขึ้นมาอย่างช้า ๆ อยู่วันยันค่ำเขามองเข้าไปในดวงตาของรูดี้ซึ่งเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน ราวกับเขาเป็นเพียงแมลงในสายตาของรูดี้เฟนด์หัวเราะอย่างเย็นชา “แล้วนายได้ยินเสียงสุนัขที่เห่าดังที่สุดแล้วหรือยังล่ะ?”คำพูดเหล่านั้นสามารถเยาะเย้ยทุกคนที่นั่นได้สำเร็จ เขาเปรียบเทียบกิลเบิร์ตกับสุนัขและเย้ยหยันทุกคนที่ฟังสุนัขตัวนั้นเห่า มันทำให้การแสดงออกบนใบหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปกิลเบิร์ตเกือบจะลืมความโกรธของตัวเองไปแล้ว เขาไม่อยากจะเชื่ออะไรด้วยซ้ำว่าเฟนด์จะสามารถขจัดคำดูถูกดูแคลนทั้งหมดลงได้ แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้นกิลเบิร์ตหันกลับมาจ้องมองเฟนด์ด้วยใบหน้าแดงก่ำจากความโกรธเขาอยากจะตะโกนกลับแต่ถูกรองเหรัญญิกปรามไว้ "ดูเหมือนว่านายจะไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบแล้วสินะ!"ประโยคนั้นเพียงประโยคเดียวก็ทำให้กิลเบิร์ตไม่อาจพูดอะไรออกมาได้อีก กิลเบิร์ตตระหนักได้แล้วว่าเขาได้ทำให้รองเหรัญญิกขุ่นเคืองอย่างหนักหากเขายังคงยืนกรานที่จะต่อปากต่อคำกับเฟนด์ รองเหรัญญิกอาจจะดึงเขาออกไปจริง ๆ แล้วเขาจะ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2451

    “สมองหมอนั่นจะต้องมีอะไรผิดปกติจริง ๆ นั่นแหละ เขาคิดจริง ๆ หรือว่าเขาอยู่ในระดับเดียวกับอีกสองคนที่อยู่ตรงหน้าเขา แค่เพราะไปยืนอยู่กลุ่มเดียวกัน? นั่นน่าจะตลกมากเกินไปหน่อยนะ…”“ฉันนึกว่าการทดสอบจะเข้มงวดและจริงจังเสียอีก ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะได้เห็นอะไรแบบนี้ ทำเอาฉันขำจนปวดท้องเลยล่ะ…”แอนดรูว์ขมวดคิ้วอย่างรู้สึกอับอาย รองเหรัญญิกโกรธจนตัวสั่นหลังจากได้ยินคำพูดของกิลเบิร์ต เขานึกอยากจะพุ่งตัวไปไปตบกิลเบิร์ตสักสองสามครั้งกิลเบิร์ตเพิกเฉยต่อชื่อเสียงของวิมานโอสถอย่างเห็นแก่ตัวที่สุด พวกเขาแทบอยากจะมุดดินหนี ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นี่จะเป็นความอัปยศอดสูที่วิมานโอสถไม่อาจจำกัดทิ้งได้รองเหรัญญิกตะโกนออกไปว่า "หุบปากเดี๋ยวนี้! นายกำลังพูดเรื่องบ้าอะไร ถ้าไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบ ก็ไสหัวไปซะ!"รองเหรัญญิกโกรธมาก ขณะที่เขาพูดเช่นนั้น สีหน้าของเขาดูอดสูอย่างไม่น่าเชื่อ เขายังคิดจะฆ่ากิลเบิร์ตให้ตายเสียเดี๋ยวนี้ เมื่อถูกตำหนิเช่นนั้นก็ทำให้กิลเบิร์ตตระหนักได้ว่าเขาพูดผิดไปถึงกระนั้นก็ไม่มีทางที่เขาจะถอนคำพูดเหล่านั้นกลับคืนมา เขากระแอมเบา ๆ ก่อนที่จะรีบหันศีรษะไปซ้ายทีขวาที อย่างไม่กล้

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2450

    ไม่มีใครรู้ดีไปกว่ารองเหรัญญิกว่าโอสถระดับหกหมายถึงสิ่งใด ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา วิมานโอสถรับบัณฑิตมาจำนวนนับไม่ถ้วน แต่มีไม่มากนักที่จะได้กลายเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุระดับหกจริง ๆคอนสแตนซ์ยิ้มอย่างมีความหมายขณะที่เขาเอ่ยถาม "รองเหรัญญิกคนนี้มีความสามารถหลากหลายจริง ๆ ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าวิมานโอสถจะมีอัจฉริยะกับเขาด้วย ผมไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลย"ริมฝีปากของรองเหรัญญิกกระตุก เขาต้องการอธิบายตัวเอง แต่ถ้าเขาบอกว่าเฟนด์ไม่สามารถสกัดโอสถระดับหกได้ และมีเพียงพรสวรรค์ในการสร้างอักขระทางยาเท่านั้น มันคงจะกลายเป็นเรื่องตลกครั้งใหญ่ และทุกคนคงจะหัวเราะเยาะวิมานโอสถเป็นแน่แต่ถ้าเขายังคงดื้อรั้นต่อไป พอถึงเวลาต้องบ่มเพาะโอสถ เฟนด์ก็จะเปิดเผยความจริงข้อนั้นออกมา เมื่อนั้นความอัปยศอดสูก็จะยิ่งหนักข้อขึ้นเขาถึงกับมือสั่น ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยรู้สึกเหมือนตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้มาก่อน เขารู้สึกเหมือนกำลังถูกกักขังอยู่ในกำแพงอีกสองด้าน ทุกคนคิดว่ารองเหรัญญิกกำลังวางแผนที่จะใช้ความเงียบเพื่อตอบคำถามเมื่อเห็นกับตาว่ารองเหรัญญิกไม่ตอบอะไรออกมาแต่ทว่าคอนสแตนซ์คล้ายกับจะไม่เ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2449

    เฟนด์เป็นคนเดียวที่ยังคงยืนอยู่ ขณะนั้นเขาดูคล้ายกับกำลังลังเลและดูเหมือนกำลังรออะไรบางอย่างอยู่ ขณะที่รองเหรัญญิกพูดจบ ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็จ้องมองมาอย่างอยากรู้อยากเห็นแม้ว่าดวงตาของเขาจะดูเป็นประกายมากขนาดไหน แต่เฟนด์ก็ยังคงรู้สึกถึงความเฉียบคมภายใน ราวกับว่าเขาจะถูกตัดสิทธิ์หากเขาไม่ขยับริมฝีปากของเฟนด์กระตุกอย่างช่วยไม่ได้ เขารีรอต่อไปไม่ได้แล้ว จึงได้แต่เดินไปยังพื้นที่ที่เขาวางแผนไว้ก่อนหน้านี้ในตอนแรกเฟนด์ไม่ได้ดึงดูดความสนใจใครมากนัก เขาอาจจะเป็นคนสุดท้ายที่ปรากฏตัวขึ้น ไม่มีใครจำเขาได้ ต่อให้เขาจะมาจากวิมานโอสถ แต่นอกจากคนที่เคยพบเขาแล้ว ก็ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใครขณะที่เขาเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกต่อไป ทุกคนก็เริ่มจ้องมองไปที่เขา ใบหน้าของรองเหรัญญิกก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นบูดบึ้งเมื่อเขาสังเกตเห็นว่าเฟนด์กำลังมุ่งหน้าไปทางใด“ผู้ชายคนนั้นคิดจะไปต่อหลังรูดี้หรือเปล่า? เขาคิดจะพิสูจน์ตัวเองด้วยการกลั่นโอสถระดับหกด้วยหรือ?”“ก็คงเป็นแบบนั้น เว้นแต่เขาจะเป็นคนโง่เง่าที่ไม่ทันได้ฟังกฎการตัดสินให้ดี ไม่งั้นคงไม่เดินไปแบบนั้นหรอก เขาเป็นใคร ทำไมฉันไม่เคยได้ยินอะไรเกี่ยวกับเขาเลย

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2448

    กิลเบิร์ตทำท่าราวกับกลืนแมลงวันเข้าไปสองสามตัว เขาคาดหวังว่ารองเหรัญญิกจะพูดคำเหล่านั้นกับเขาเสียอีก แต่กลับกลายเป็นว่ารองเหรัญญิกไม่ละสายตามามองเขาเลยแม้แต่วินาทีเดียวรองเหรัญญิกฝากความหวังทั้งหมดไว้กับเฟนด์ราวกับว่ากิลเบิร์ตและแอนดรูว์มาที่นี่เพื่อเพิ่มจำนวนคนเท่านั้นแอนดรูว์มีสีหน้าขมขื่นเช่นกัน ในอดีตเขาขัดแย้งกับกิลเบิร์ตมามากมาย และความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ไม่อาจพัฒนาไปในทางที่ดีได้แต่ต้องขอบคุณเฟนด์ที่ทำให้เขาสามารถวางเฉยต่อความแค้นทั้งหมดที่เคยมีได้แอนดรูว์พูดด้วยใบหน้าที่มืดมน “รองเหรัญญิก ดูเหมือนคุณจะฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่เฟนด์เลยนะ“แต่คุณก็น่าจะเตือนเฟนด์สักหน่อยว่าต่อให้เขาจะมีพรสวรรค์ค่อนข้างดี แต่ก็ไม่ควรหยิ่งผยองเกินไป”แอนดรูว์โกรธมากในขณะนั้นและอดไม่ได้จริง ๆ ที่จะต้องเอ่ยคำดูแคลนที่สุดเช่นนั้นออกมากิลเบิร์ตกล่าวเสริมอย่างรีบร้อนทันที “แอนดรูว์พูดถูก แม้ว่าพรสวรรค์ของเฟนด์จะค่อนข้างดี แต่เขาก็ไม่ควรหยิ่งผยองนัก คำพูดพวกนั้นไม่ได้ช่วยอะไรเลยสักนิด”เฟนด์ถึงกับพูดไม่ออกเมื่อถูกคนทั้งสองเหยียบย่ำ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเฟนด์ไม่ได้เอ่ยปากเลยสักคำ แล้วเขาจะเอาเวลา

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2447

    ในตอนแรก คอนสแตนซ์และซีนย์เพียงยืนเคียงข้างกันโดยไม่สนใจเรื่องนี้ พวกเขาต้องการปล่อยให้สถานการณ์ดำเนินต่อไปอย่างที่ควรจะเป็น แต่เมื่อว่าเกรย์สันและรูดี้เริ่มเถียงกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งสองคนก็ถูกบีบให้ต้องทำอะไรสักอย่างพวกเขาถูกบีบให้ต้องแยกรูดี้และเกรย์สันออกจากกัน นั่นก็เพราะ การทะเลาะกันของเด็ก ๆ ควรจะมีขีดจำกัด เพราะหากมันเกินขีดจำกัดไปแล้ว นั่นจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของพวกเขา นี่คือสิ่งที่รูดี้และเกรย์สันเองก็ไม่อยากเห็นเป็นเวลาเกือบสิบห้านาทีแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์นั่งบนเก้าอี้ ขณะมองดูการทะเลาะวิวาทและการพูดคุยกันอย่างเฉยเมย เมื่อหมดเวลาเขาก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้เสียงปรบมือดังขึ้นตอนที่เขาจะพูดว่า "เอาล่ะ หมดเวลาแล้ว ทุกคนต้องตัดสินใจได้แล้วว่าจะพิสูจน์ความสามารถของตัวเองยังไง”“ฉันไม่คิดว่าฉันจะต้องบอกอะไรพวกนายทุกอย่างหรอกนะ ตอนนี้ก็แยกออกเป็นกลุ่มเสีย ผู้ที่ต้องการรวมอักขระทางยาจะยืนอยู่ทางทิศตะวันออก“ผู้ที่ต้องการแยกแยะวัสดุสามารถยืนอยู่ตรงกลางได้เลย และหากจะพิสูจน์ตัวเองด้วยกันบ่มเพาะโอสถให้ไปยืนที่ทางทิศตะวันตก“ถึงอย่างนั้นฉันก็ต้องขอเตือนทุกคนก่อน หากทุกคนต้องการ

DMCA.com Protection Status