Share

บทที่ 384

Author: โมเนโต้
last update Last Updated: 2024-10-29 19:42:56
“อื้อออ!”

เซเลน่าดิ้นรน เธอพยายามที่จะเตือนเฟนด์แต่ความพยายามของเธอก็ไร้ผล

ไม่นานหลังจากนั้น เธอก็รู้สึกได้ว่าไม่มีเสียงรบกวนจากภายนอกอีกแล้ว มันเงียบแบบเงียบมาก 'เฟนด์...ตายแล้วเหรอ?' เธอเริ่มกังวล

ทันใดนั้นเองเธอก็ตกใจเมื่อเห็นมือข้างหนึ่งผลักประตูเปิดออกอย่างรวดเร็ว

“อืม!” ดวงตาของเซเลน่าแดงก่ำและน้ำตาไหลด้วยความดีใจปิติเมื่อเห็นว่าเป็นเฟนด์ที่เข้ามา

เธอเพิ่งตระหนักได้ว่าเธอแคร์เขามากแค่ไหนในช่วงความเป็นความตาย เธอไม่เพียงแต่รู้ตัวว่าเธอรักเขามากเพียงใด เธอยังรู้สึกกลัวกับความคิดที่ว่าถ้าเขาตายมันจะทำให้ลูกของเธอขาดพ่อ

เมื่อเห็นว่าเฟนด์เข้ามาในห้องอย่างปลอดภัย เธอก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก

“ผมรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่คุณ!”

ด้วยความตกใจ เขาเดินไปหาเซเลน่าและเอาผ้าที่ยัดในปากของเธอออก เขากอดเธอไว้ในอ้อมแขนอย่างรวดเร็วและถามว่า “ที่รัก คุณเป็นยังไงบ้าง? มันได้ทำร้ายคุณไหม? มันได้ทรมานคุณหรือเปล่า?”

“ไม่เป็นไร ฉันสบายดี คุณต่างหากที่เป็นเป้าหมาย ไม่ใช่ฉัน เธออยู่ที่ไหน? เธอเป็นนักฆ่าห้าอันดับแรกของภูมิภาคตะวันตกเฉียงใต้ เธอบอกว่า... เธออันตราย! แม้แต่จอมพลก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเธอ” เซ
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 385

    เซเลน่าพูดไม่ออก ดูเหมือนว่าเธอจะมีกังวลอะไร เฟนด์จับสังเกตเบาะแสที่น่าสงสัยได้จากนั้นเฟนด์ก็สารภาพว่า “ถึงแม้จะพิจารณาแล้วก็ตามผมยังลังเลที่ฆ่า ถ้าผมคิดผิดล่ะ? ผมจึงทำได้ก็ต่อเมื่อตัวตนของเธอถูกเปิดเผย”“อะไรทำให้ตัวตนของเธอถูกเปิดเผย?” เซเลน่าขมวดคิ้วและสงสัยเมื่อคิดว่าการปลอมตัวของนักฆ่านั้นสมบูรณ์แบบ“ความจริงนั่นก็คือภรรยาของผมจะไม่เริ่มจูบผมก่อน ที่สำคัญผมได้กลิ่นบุหรี่ นั่นหมายความว่าเธอสูบบุหรี่ แต่ภรรยาผมไม่สูบ! นั่นคือตอนที่ผมยืนยันว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นนักฆ่าไม่ใช่คุณ”“ฉลาดมากเลยใช่ไหม?”จากนั้นเธอก็คิดว่าผู้หญิงคนนั้นจูบเฟนด์ยังไง เธอเยาะเย้ยอย่างหงุดหงิด “แล้วตอนนี้ล่ะ? คุณรู้สึกตื่นเต้นไหมที่ผู้หญิงคนนั้นจูบคุณ? ฉันต้องบอกว่าเธอมีรูปร่างที่ดี ตอนนี้คุณมีความสุขไหม?”เฟนด์รู้สึกละอายใจ ดังนั้นเซเลน่าจึงยังรู้สึกหึงเขายิ้มอย่างขมขื่น “ที่รัก นั่นเป็นนักฆ่าที่ผมกำลังเผชิญอยู่ คุณคิดว่าผมจะมีเวลาคิดเกี่ยวกับมันเหรอ? ที่มันเลยเถิดไปนิดหน่อยเพราะผมกังวลว่าผมจะตัดสินเธอผิด ดังนั้นผมจึงชะลอการฆ่าเธอและจะทำมันต่อเมื่อผมแน่ใจแล้วเท่านั้น”“เดี๋ยวก่อน เธอเป็นนักฆ่าที่มีฝีมื

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 386

    “ฮ่าฮ่า ไม่เป็นไรหรอกไม่ต้องรีบร้อน ปล่อยให้พวกเขามาในวันพรุ่งนี้!” เฟนด์ยิ้มและมองเซเลน่าที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เขา “ที่รัก ไหน ๆ คุณก็ออกมาแล้ว ไปที่เมืองและทานอาหารกลางวันเพื่อผ่อนคลายกันไหม คุณคิดว่าไง?”“ฟังดูเข้าท่าดีนะ” เซเลน่าพยักหน้า ไม่นานพวกเขาก็ขับรถลงจากเนินเขาในขณะนั้นอีวาน, เทย์เลอร์และเจเน็ตยังคงรออยู่ที่ห้องทำงานของเซเลน่า“เกิดอะไรขึ้น? นี่คือ...” อีวานเริ่มร้อนใจ เขาโทรหาเซเลน่าอย่างน้อยก็สิบครั้งก่อนหน้านี้ แต่ไม่มีใครรับสายเลยเขามองไปที่เจเน็ตและพูดว่า “คุณคิดว่าเราถูกหลอกหรือเปล่า? เซเลน่าต้องล้อเราเล่นแน่ ๆ ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงเธอก็ทำเกินไปแล้ว!”ในทางกลับกันเจเน็ตยิ้ม “เป็นไปไม่ได้ ฉันเชื่อใจผู้จัดการเทย์เลอร์ ในเมื่อเธอสัญญากับเราแล้วเธอจะต้องอยู่ที่นี่แน่ ที่เธอมาช้าคงเป็นเพราะมีเหตุฉุกเฉิน!”“ฮ่าฮ่า ช่างน่าขำ มีอะไรสำคัญไปกว่าการเซ็นสัญญากับเรา” อีวานหัวเราะและพูดด้วยความโกรธหลังจากนั้นเขาก็ขมวดคิ้วและสูดหายใจลึก ๆยังไงซะนักฆ่าก็บอกกับเขาว่าจะจัดการเรื่องนี้ภายในห้าวันวันนี้เพิ่งเป็นวันที่สอง เป็นไปได้ไหมที่เธอจะเริ่มเคลื่อนไหวแล้ว?ที่สำคัญที่สุดก็ค

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 387

    “บ้าเอ๊ย มันก็เป็นไปได้ที่เซเลน่าจะถูกลักพาตัวไป ฉันไม่รู้ว่านักฆ่าจะฆ่าเธอหรือเปล่า!” อีวานโกรธมากจนกำมือแน่น “ฉันประมาทไปจริง ๆ ฉันยังไม่ได้เซ็นสัญญาเลย ฉันควรจะสั่งให้เธอรออีกสักสองสามวันก่อนที่จะลงมือทำอะไร นี่…”อีวานไม่คิดว่าการสั่งให้เธอไปฆ่าเฟนด์จะทำให้การเซ็นสัญญาของเขาล้มเหลวขณะที่เขานั่งอยู่ในรถ ในใจของเขาเต็มไปด้วยความคิดเกี่ยวกับสถานที่ที่เซเลน่าและคนอื่น ๆเคยอยู่อาศัยในคืนนั้น แต่เมื่อเขานึกถึงมันเขาก็เลิกคิดหากเฟนด์กับเซเลน่ายังปลอดภัยดีและนักฆ่าไม่ได้เริ่มภารกิจของเธอ การบุกไปเยี่ยมพวกเขามันคงไม่สมเหตุสมผล เพราะยังไงซะก่อนหน้านี้เขาแสดงออกว่ารังเกียจและไม่เคยไปเยี่ยมพวกเขาเลยแต่ถ้านักฆ่าล้มเหลว เฟนด์อาจสงสัยว่าเขาเป็นคนที่จ้างนักฆ่า? แม้ว่าความเป็นไปได้ที่นักฆ่าจะล้มเหลวนั้นจะมีน้อยมากก็ตามเขาครุ่นคิด มองดูเวลาและเตรียมที่จะขับรถกลับบังเอิญเมื่อเขาขับรถผ่านร้านกาแฟ เขามองเข้าไปข้างในและเห็นซีน่า แจ็คสัน“นั่นไม่ใช่แฟนของเบ็น เทย์เลอร์หรอกเหรอ?” อีวานตกใจนิดหน่อย เขาจอดรถไว้ริมถนนและเดินเข้าไปในร้านกาแฟในขณะที่ซีน่ากำลังคุยกับเพื่อนสนิทสองคนของเธอ และดูเหมื

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 388

    อีวานมองมาที่เธอและยิ้มอย่างเฉยเมย “จะทำให้เสียเวลาในการทานอาหารกับผู้หญิงสวย ๆอย่างคุณได้ยังไงกัน? มันควรจะเป็นเกียรติของผม!”ซีน่ายิ้มเมื่อได้ยิน “นายน้อยเทย์เลอร์ ฉันแน่ใจว่าคุณเคยเจอผู้หญิงสวย ๆ มาเยอะแล้ว ฉันไม่ควรถูกมองว่าเป็นผู้หญิงสวยในความคิดของคุณ!”“ฮ่าฮ่า คุณถ่อมตัวมาก!” อีวานยืนขึ้นและส่งสัญญาณให้ซีน่า “ไปกันเถอะ คนสวย!”“ฉันคิดว่าคุณทำให้ฉันไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องยอมรับมันแต่โดยดี!”แม้ว่าซีน่ายังคงสงสัยว่าทำไมอีวานจึงอยากชวนเธอไปทานอาหารเย็นเพียงลำพัง เธอรู้สึกว่าเขาต้องมีเรื่องสำคัญบางอย่างที่จะพูด ดังนั้นเธอจึงไม่ได้คิดอะไรมากเพียงแค่เดินตามเขาไปทั้งคู่ขับรถออกไปและมาถึงโรงแรมหรูหรา ไม่นานพวกเขาได้ห้องส่วนตัวและสั่งอาหารมากมาย“นายน้อยเทย์เลอร์ มีอะไรสำคัญที่คุณจะคุยกับฉันเป็นการส่วนตัวหรือเปล่า?” ซีน่ารู้สึกประหม่านิดหน่อยเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เธอนั่งเผชิญหน้ากับเศรษฐีตัวจริง นอกจากนี้มันยังดูหรูหรามากเมื่อพวกเขาได้รับไวน์แดง เธอไม่ได้เตรียมตัวไว้สำหรับมันยังไงซะอีวานก็สวมสูทที่ให้ความรู้สึกของคนที่ประสบความสำเร็จ“มาเถอะ ดื่มกันก่อน!” อีวานเทไวน์หนึ่งแ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 389

    “โอ้ นายน้อยเทย์เลอร์ คุณก็พูดเกินไป ฉันไม่ได้สวยขนาดนั้น!” ซีน่าแสร้งทำเป็นเจียมเนื้อเจียมตัวและตักอาหารขึ้นมาก่อนที่จะวางลงบนจานของอีวาน “มา ทานข้าวกันเถอะ!”“ฮ่าฮ่า ได้สิ!” อีวานหัวเราะและพวกเขาก็เริ่มทานอาหารกันหลังจากนั้นไม่นานอีวานก็พูดอีกครั้งว่า “คุณซีน่า ผมตกหลุมรักคุณตั้งแต่แรกเห็น ผมคิดถึงคุณมาสองสามวันแล้วและวันนี้ผมก็โชคดีมากที่ได้พบคุณ ผมต้องรวบรวมความกล้ามากเลยที่จะเชิญคุณมาทานอาหารเย็น!”“เป็นไปได้ยังไง?” ซีน่าขมวดคิ้วและมองไปที่อีวานก่อนจะพูดว่า “นายน้อยเทย์เลอร์ คุณพูดจริงเหรอ?”“ไม่ต้องห่วง ผมพูดจริง!” อีวานวางมือข้างหนึ่งลงบนต้นขาของซีน่าอีกครั้งก่อนจะพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปผมจะให้ทุกอย่างที่คุณต้องการ คุณก็จะให้ทุกอย่างที่ผมต้องการด้วยใช่ไหม? ผมคิดว่าคุณก็ไม่ได้ชอบเบ็นจริง ๆ หรอกถูกไหม?”“นายน้อยเทย์เลอร์คุณพูดถูก ฉันหมดรักเบ็นมานานแล้ว ถ้าเขาไม่ดีกับฉัน ฉันก็อยากที่จะเลิกกับเขาจริง ๆ!”ซีน่ากลัวว่าเธอจะพลาดโอกาสนี้ เธอหยุดผลักมือของอีวานออกและแสร้งทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีวานยิ้มอย่างเย็นชาเมื่อเขาได้ยินเช่นนั้น อย่างไรก็ตามเขาจับมือข

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 390

    “นายน้อยเทย์เลอร์ ไม่นะ! เราไม่ควร...” ซีน่าตกใจมากและสู้กลับ“ซีน่าคุณจะเป็นผู้หญิงของผม คุณจะได้ตามผมไปท่องเที่ยวเพื่อสนุกกับชีวิตตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป อีกอย่างผมสามารถซื้อทุกอย่างที่คุณชอบได้!”อีวานดื่มไวน์ไปมากและมันก็เป็นความจริงที่ว่าซีน่านั้นสวยและมีรูปร่างที่ยอดเยี่ยม ดูเหมือนว่าเขาจะควบคุมตัวเองไม่ได้ สติเขาไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเพราะเริ่มเมาแล้ว“ม-ไม่...เราทำไม่ได้! เราเพิ่งเจอกันไม่นานมานี้เอง”“ความสัมพันธ์เกิดขึ้นเพราะความรู้สึกที่มีต่อกัน มันไม่เกี่ยวกับระยะเวลาที่เราได้พบกัน...”“นายน้อยเทย์เลอร์ ไม่! ฉันยังไม่พร้อมสำหรับเรื่องนี้!”“...” ซีน่าแอบดีใจและเธอก็ยอมเขาหลังจากปฏิเสธอย่างไม่เต็มใจประมาณครึ่งชั่วโมงต่อมาอีวานมองผู้หญิงที่อยู่บนเตียงอย่างพอใจ เขาสวมเสื้อผ้า “ที่รัก คุณเก่งจริง ๆ ไปช้อปปิ้งกันเถอะ ผมจะซื้อรถให้คุณ เป็นไง?”“ซื้อรถ?” ซีน่างงก่อนจะถามว่า “นายน้อยเทย์เลอร์ คุณนี่ตลกจริง ๆ ไม่ใช่ว่าฉันมาที่นี่ด้วยรถโรลส์-รอยซ์แฟนทอมเหรอ?”“นั่นไม่ใช่แค่เช่าเหรอ?” อีวานตกตะลึง ซีน่าเป็นผู้หญิงที่ขี้อวด ในความคิดของเขาเธอต้องเช่ารถโรลส์-รอยซ์แฟนทอมนั้นมาเพื

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 391

    มุมปากของอีวานกระตุกเมื่อได้ยิน ถ้าเฟนด์มีเงินจริง ๆ มันคงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาที่จะแกล้งเฟนด์ในงานวันเกิดของนายใหญ่เทย์เลอร์และไล่เขาออกจากบ้าน“อย่างไรก็ตามเฟนด์ได้มอบเงินยี่สิบล้านเหรียญให้กับฟีโอน่าซึ่งเป็นของขวัญหมั้นสำหรับเซเลน่าตามที่เขาสัญญากับฟีโอน่าไว้ก่อนหน้านี้!” ซีน่าพูดต่อ“เอาล่ะ ถ้าในอนาคตเฟนด์ได้รับเงิน คุณต้องบอกให้ผมทราบทันทีแม้ว่าจะเป็นเรื่องปกติที่ตระกูลเดรคจะจ่ายค่าจ้างล่วงหน้า ซึ่งถ้าคุณไม่รู้ก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าคุณรู้คุณต้องบอกผม!” อีวานคิดเกี่ยวกับมันและเตือนซีน่า“ตกลงค่ะ นายน้อยเทย์เลอร์ฉันเข้าใจแล้ว!” ซีน่ากลอกตามองเขาอย่างหงุดหงิด หลังจากที่ได้พบกันเธอรู้สึกไม่ค่อยพอใจนิดหน่อย นี่เธอกลายเป็นสายลับและมีหน้าที่สืบข้อมูลมาบอกเขารึไง?“ผมบอกแล้วว่าไม่ต้องเรียกผมว่านายน้อยเทย์เลอร์ เรียกผมว่าอีวานก็พอ!” อีวานยิ้มและโอบไหล่ของเธอไว้ “ไปช้อปปิ้งกันเถอะ ผมจะซื้อกระเป๋าและนาฬิการาคาแพงให้คุณ เป็นไง?”“โอเคค่ะ แต่เราต้องไปทางด้านเหนือของเมือง เพราะถ้าเราอยู่ที่นี่เราอาจจะเจอกับเบ็นแล้วพวกเราจะไม่ถูกจับได้เหรอ?” ซีน่าคิดเกี่ยวกับมันและบอกเขา“จริงด้วยที่รัก คุณฉล

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 392

    อีวานโกรธมาก เขาไม่คิดว่าเซซีเลียจะล้อเลียนเขาอย่างไม่เคารพแบบนี้ บ้าเอ๊ย!“อย่ามาล้อเล่นได้ไหม?” เขาจ้องไปที่เธอ“นั่นสิ? คุณเป็นถึงนายน้อยของตระกูลเทย์เลอร์ ตัวตนอันทรงเกียรติเช่นนี้... จะพูดล้อเล่นเรื่องแบบนี้ได้ยังไง? คราวหน้าฉันแนะนำให้คุณอย่าพูดเรื่องตลกแบบนี้อีก” เซซีเลียเยาะเย้ยเธอกำลังคบหากับนายน้อยจากครอบครัวชนชั้นสอง อีกไม่นานเธอก็จะได้แต่งงานกับเขาและเป็นภรรยาที่ร่ำรวย เมื่อถึงตอนนั้นอีวานก็จะกลายเป็นแค่เรื่องกล้วย ๆ และเธอก็ไม่ต้องทำงานกับเขาอีกต่อไป เธอรู้สึกดีมากเมื่อคิดแบบนั้นในทางตรงกันข้าม อีวานนั้นอยากชกเซซีเลีย!ทันใดนั้นนายใหญ่เทย์เลอร์ก็พูดขึ้นว่า “ฉันบอกแล้วว่านายจะต้องระวังปากไว้ให้ดีก่อนที่เราจะได้ทำสัญญา” เขาหยุดชั่วครู่ก่อนจะพูดต่อ “เซเลน่าเป็นคนที่รักษาคำพูดเธอจะไม่ไม่ผิดคำพูดแน่ มันต้องมีเหตุผลที่ทำให้เธอไม่ได้มา”เมื่อพูดถึงตัวร้าย โทรศัพท์ของอีวานก็ดังขึ้น สายที่โทรเข้ามาคือเซเลน่า“เซเลน่า เทย์เลอร์ นี่มันหมายความว่ายังไงกัน? ฉันรอคุณมาตลอดทั้งบ่าย คุณไปอยู่ที่ไหนมา คุณไม่รับสายเลย!”อีวานรู้ดีว่าเกิดอะไรขึ้น ความโกรธทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่การแส

Latest chapter

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2455

    ตราบใดที่มันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการบ่มเพาะโอสถของเขา ทั้งสองคนจะทำอะไรตามต้องการก็ย่อมได้ สิ่งนั้นไม่กระทบอะไรกับเขาเลย“ถึงฉันจะดูแคลนหมอนี่ แต่เขาก็ยังกล้าเสมอ เขาก็คงจะมีความสามารถอยู่บ้าง เขาน่าจะผ่านสองขั้นตอนแรกได้อย่างไม่มีปัญหา” เกรย์สันพูดอย่างชัดเจนรูดี้มองไปที่เกรย์สันด้วยรอยยิ้มเย็นชาบนใบหน้าแล้วตอบว่า "นายดูมั่นใจกับหมอนี่มากเลยนะ ฉันจะคิดว่าทุกครั้งที่เขาพูดก่อนหน้านี้ล้วนเป็นเรื่องไร้สาระทั้งหมด“ฉันคิดว่าเขาอาจจะไปถึงขั้นที่สองก่อนที่เขาจะล้มเหลวโดยสิ้นเชิง! ฉันอยากเห็นจริง ๆ ว่าถ้าล้มเหลวขึ้นมา เด็กสารเลวคนนี้จะสู้หน้าเราได้ยังไง”เกรย์สันสูดหายใจเข้าลึก ๆ เขารู้สึกได้ว่าความโกรธของรูดี้ที่มีต่อเฟนด์นั้นลึกซึ้งกว่าของเขามากดวงตาของรูดี้ลุกเป็นไฟ เห็นได้ชัดว่าเขาเกลียดเฟนด์มากเพียงใดเกรย์สันหัวเราะอย่างเย็นชา "แล้วมาดูกันว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ฉันคิดว่าเขาน่าจะสามารถไปถึงขั้นตอนสุดท้ายได้ ถ้าเขาสามารถควบรวมอักขระทางยาได้ถึงร้อยเม็ดเขาก็น่าจะมาถึงระดับนั้น"หลังจากที่ทั้งสองพูดเรื่องเหล่านั้นออกมา พวกเขาก็ปิดปากเงียบพร้อม ๆ กับการมองดูเฟนด์โดยไม่พูดอะไรพวกเขามอง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2454

    ผู้อาวุโสฮอร์สท์กระแอมเล็กน้อยในขณะที่เขาพูดต่อ “หลังจากที่เธอบ่มเพาะโอสถได้สำเร็จแล้ว ให้นำโอสถมาให้ฉันตรวจสอบ พวกเธอจะมีเวลาในการทดสอบทั้งสิ้นแปดชั่วโมง ถ้าเธอไม่สามารถบ่มเพาะโอสถได้ภายในแปดชั่วโมง ก็จะแปลว่าไม่ผ่านการทดสอบ ดังนั้นอย่าได้ช้าเกินไป”พวกเขาทั้งสามพยักหน้าแทบจะพร้อมกัน หลังจากผู้อาวุโสฮอร์สท์ให้คำแนะนำแล้ว เขาก็จัดให้มีคนงานสองสามคนคอยเป็นคนตรวจ มีผู้ดูแลยืนอยู่ด้านหลังทั้งสามคนเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่ทำอะไรผิดพลาดหลังจากนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็หันกลับมาและไปหาผู้สอบคนอื่น ๆ รูดี้หรี่ตาลง ขณะที่เขาเหลือบมองเฟนด์และพูดว่า "ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการบ่มเพาะโอสถระดับหกคือขั้นตอนสุดท้าย แต่ขั้นตอนแรกก็ไม่ง่ายเช่นกัน ถ้านายรู้ว่าทำไม่ได้ ก็อย่าทำให้ต้องสิ้นเปลืองวัตถุดิบเลย ของพวกนี้ล้วนมีราคาค่างวด ต่อให้นายจะขายตัวเองเป็นทาสก็ยังไม่พอให้ซื้อของพวกนี้!”เฟนด์ถอนหายใจออกเบา ๆ หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาเบื่อเกินกว่าจะอ้าปากพูดด้วยซ้ำ เขาตัดสินใจที่จะเพิกเฉยต่อผู้ชายคนนั้นและทุกสิ่งที่จะออกมาจากปากเขา ถึงโต้ตอบไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรอยู่ดี

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2453

    เกรย์สันหรี่ตาลงขณะที่เขามองเฟนด์ด้วยความโกรธเช่นกัน เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ดูเหมือนว่าวันนี้ นายจะมาที่นี่เพื่อหาเรื่องขายหน้าให้กับตัวเองเท่านั้น"หลังจากพูดจบเกรย์สันก็หันหลังกลับและเงียบไป เสียงความขัดแย้งหยุดลง และทุกคนรอบ ๆ ก็เริ่มกระซิบกระซาบกันผู้อาวุโสฮอร์สท์มองเฟนด์อย่างมีความหมาย ราวกับว่าเขามองเฟนด์ในมุมมองที่ต่างออกไป ทันใดนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็อยากรู้เรื่องของเฟนด์อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ในขณะนั้นเขาไม่อาจพูดอะไรออกมาได้เมื่อเขาเห็นว่าทุกคนได้จับกลุ่มกันเรียบร้อยแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็โบกมือแล้วพูดว่า "มากับฉัน!"ทุกคนติดตามผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปเป็นกลุ่ม ๆ ผู้อาวุโสฮอร์สท์เข้าไปในเรือวิญญาณ ภายในเรือเต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังรีบร้อนพวกเขาเดินตามหลังผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปอย่างใกล้ชิด เดินลัดเลาะไปตามทางก่อนจะมาถึงห้องกว้างขวางในที่สุด ห้องกว้างขวางมากจนเรียกได้ว่าห้องโถงเลยทีเดียวทันทีที่พวกเขาก้าวเข้าไปในห้อง ทุกคนก็สามารถสัมผัสได้ถึงรังสีของโอสถที่หนาแน่นรอบ ๆ บรรยากาศ พื้นที่ในห้องนี้ใหญ่เกินพอสำหรับพวกเขาแปดสิบคนเฟนด์ประเมินสถานการณ์เล็กน้อย ห้องนี้ใหญ่พอที่จะรองรับคน

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2452

    พวกเขาถาโถมข้อกล่าวหาและดูหมิ่นมามากเกินไป ถึงเขาจะไม่อยากโต้เถียงกับคนพวกนี้ แต่เขาก็ยังถูกบังคับให้ต้องเงยหน้าขึ้นมาอย่างช้า ๆ อยู่วันยันค่ำเขามองเข้าไปในดวงตาของรูดี้ซึ่งเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน ราวกับเขาเป็นเพียงแมลงในสายตาของรูดี้เฟนด์หัวเราะอย่างเย็นชา “แล้วนายได้ยินเสียงสุนัขที่เห่าดังที่สุดแล้วหรือยังล่ะ?”คำพูดเหล่านั้นสามารถเยาะเย้ยทุกคนที่นั่นได้สำเร็จ เขาเปรียบเทียบกิลเบิร์ตกับสุนัขและเย้ยหยันทุกคนที่ฟังสุนัขตัวนั้นเห่า มันทำให้การแสดงออกบนใบหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปกิลเบิร์ตเกือบจะลืมความโกรธของตัวเองไปแล้ว เขาไม่อยากจะเชื่ออะไรด้วยซ้ำว่าเฟนด์จะสามารถขจัดคำดูถูกดูแคลนทั้งหมดลงได้ แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้นกิลเบิร์ตหันกลับมาจ้องมองเฟนด์ด้วยใบหน้าแดงก่ำจากความโกรธเขาอยากจะตะโกนกลับแต่ถูกรองเหรัญญิกปรามไว้ "ดูเหมือนว่านายจะไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบแล้วสินะ!"ประโยคนั้นเพียงประโยคเดียวก็ทำให้กิลเบิร์ตไม่อาจพูดอะไรออกมาได้อีก กิลเบิร์ตตระหนักได้แล้วว่าเขาได้ทำให้รองเหรัญญิกขุ่นเคืองอย่างหนักหากเขายังคงยืนกรานที่จะต่อปากต่อคำกับเฟนด์ รองเหรัญญิกอาจจะดึงเขาออกไปจริง ๆ แล้วเขาจะ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2451

    “สมองหมอนั่นจะต้องมีอะไรผิดปกติจริง ๆ นั่นแหละ เขาคิดจริง ๆ หรือว่าเขาอยู่ในระดับเดียวกับอีกสองคนที่อยู่ตรงหน้าเขา แค่เพราะไปยืนอยู่กลุ่มเดียวกัน? นั่นน่าจะตลกมากเกินไปหน่อยนะ…”“ฉันนึกว่าการทดสอบจะเข้มงวดและจริงจังเสียอีก ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะได้เห็นอะไรแบบนี้ ทำเอาฉันขำจนปวดท้องเลยล่ะ…”แอนดรูว์ขมวดคิ้วอย่างรู้สึกอับอาย รองเหรัญญิกโกรธจนตัวสั่นหลังจากได้ยินคำพูดของกิลเบิร์ต เขานึกอยากจะพุ่งตัวไปไปตบกิลเบิร์ตสักสองสามครั้งกิลเบิร์ตเพิกเฉยต่อชื่อเสียงของวิมานโอสถอย่างเห็นแก่ตัวที่สุด พวกเขาแทบอยากจะมุดดินหนี ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นี่จะเป็นความอัปยศอดสูที่วิมานโอสถไม่อาจจำกัดทิ้งได้รองเหรัญญิกตะโกนออกไปว่า "หุบปากเดี๋ยวนี้! นายกำลังพูดเรื่องบ้าอะไร ถ้าไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบ ก็ไสหัวไปซะ!"รองเหรัญญิกโกรธมาก ขณะที่เขาพูดเช่นนั้น สีหน้าของเขาดูอดสูอย่างไม่น่าเชื่อ เขายังคิดจะฆ่ากิลเบิร์ตให้ตายเสียเดี๋ยวนี้ เมื่อถูกตำหนิเช่นนั้นก็ทำให้กิลเบิร์ตตระหนักได้ว่าเขาพูดผิดไปถึงกระนั้นก็ไม่มีทางที่เขาจะถอนคำพูดเหล่านั้นกลับคืนมา เขากระแอมเบา ๆ ก่อนที่จะรีบหันศีรษะไปซ้ายทีขวาที อย่างไม่กล้

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2450

    ไม่มีใครรู้ดีไปกว่ารองเหรัญญิกว่าโอสถระดับหกหมายถึงสิ่งใด ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา วิมานโอสถรับบัณฑิตมาจำนวนนับไม่ถ้วน แต่มีไม่มากนักที่จะได้กลายเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุระดับหกจริง ๆคอนสแตนซ์ยิ้มอย่างมีความหมายขณะที่เขาเอ่ยถาม "รองเหรัญญิกคนนี้มีความสามารถหลากหลายจริง ๆ ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าวิมานโอสถจะมีอัจฉริยะกับเขาด้วย ผมไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลย"ริมฝีปากของรองเหรัญญิกกระตุก เขาต้องการอธิบายตัวเอง แต่ถ้าเขาบอกว่าเฟนด์ไม่สามารถสกัดโอสถระดับหกได้ และมีเพียงพรสวรรค์ในการสร้างอักขระทางยาเท่านั้น มันคงจะกลายเป็นเรื่องตลกครั้งใหญ่ และทุกคนคงจะหัวเราะเยาะวิมานโอสถเป็นแน่แต่ถ้าเขายังคงดื้อรั้นต่อไป พอถึงเวลาต้องบ่มเพาะโอสถ เฟนด์ก็จะเปิดเผยความจริงข้อนั้นออกมา เมื่อนั้นความอัปยศอดสูก็จะยิ่งหนักข้อขึ้นเขาถึงกับมือสั่น ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยรู้สึกเหมือนตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้มาก่อน เขารู้สึกเหมือนกำลังถูกกักขังอยู่ในกำแพงอีกสองด้าน ทุกคนคิดว่ารองเหรัญญิกกำลังวางแผนที่จะใช้ความเงียบเพื่อตอบคำถามเมื่อเห็นกับตาว่ารองเหรัญญิกไม่ตอบอะไรออกมาแต่ทว่าคอนสแตนซ์คล้ายกับจะไม่เ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2449

    เฟนด์เป็นคนเดียวที่ยังคงยืนอยู่ ขณะนั้นเขาดูคล้ายกับกำลังลังเลและดูเหมือนกำลังรออะไรบางอย่างอยู่ ขณะที่รองเหรัญญิกพูดจบ ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็จ้องมองมาอย่างอยากรู้อยากเห็นแม้ว่าดวงตาของเขาจะดูเป็นประกายมากขนาดไหน แต่เฟนด์ก็ยังคงรู้สึกถึงความเฉียบคมภายใน ราวกับว่าเขาจะถูกตัดสิทธิ์หากเขาไม่ขยับริมฝีปากของเฟนด์กระตุกอย่างช่วยไม่ได้ เขารีรอต่อไปไม่ได้แล้ว จึงได้แต่เดินไปยังพื้นที่ที่เขาวางแผนไว้ก่อนหน้านี้ในตอนแรกเฟนด์ไม่ได้ดึงดูดความสนใจใครมากนัก เขาอาจจะเป็นคนสุดท้ายที่ปรากฏตัวขึ้น ไม่มีใครจำเขาได้ ต่อให้เขาจะมาจากวิมานโอสถ แต่นอกจากคนที่เคยพบเขาแล้ว ก็ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใครขณะที่เขาเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกต่อไป ทุกคนก็เริ่มจ้องมองไปที่เขา ใบหน้าของรองเหรัญญิกก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นบูดบึ้งเมื่อเขาสังเกตเห็นว่าเฟนด์กำลังมุ่งหน้าไปทางใด“ผู้ชายคนนั้นคิดจะไปต่อหลังรูดี้หรือเปล่า? เขาคิดจะพิสูจน์ตัวเองด้วยการกลั่นโอสถระดับหกด้วยหรือ?”“ก็คงเป็นแบบนั้น เว้นแต่เขาจะเป็นคนโง่เง่าที่ไม่ทันได้ฟังกฎการตัดสินให้ดี ไม่งั้นคงไม่เดินไปแบบนั้นหรอก เขาเป็นใคร ทำไมฉันไม่เคยได้ยินอะไรเกี่ยวกับเขาเลย

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2448

    กิลเบิร์ตทำท่าราวกับกลืนแมลงวันเข้าไปสองสามตัว เขาคาดหวังว่ารองเหรัญญิกจะพูดคำเหล่านั้นกับเขาเสียอีก แต่กลับกลายเป็นว่ารองเหรัญญิกไม่ละสายตามามองเขาเลยแม้แต่วินาทีเดียวรองเหรัญญิกฝากความหวังทั้งหมดไว้กับเฟนด์ราวกับว่ากิลเบิร์ตและแอนดรูว์มาที่นี่เพื่อเพิ่มจำนวนคนเท่านั้นแอนดรูว์มีสีหน้าขมขื่นเช่นกัน ในอดีตเขาขัดแย้งกับกิลเบิร์ตมามากมาย และความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ไม่อาจพัฒนาไปในทางที่ดีได้แต่ต้องขอบคุณเฟนด์ที่ทำให้เขาสามารถวางเฉยต่อความแค้นทั้งหมดที่เคยมีได้แอนดรูว์พูดด้วยใบหน้าที่มืดมน “รองเหรัญญิก ดูเหมือนคุณจะฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่เฟนด์เลยนะ“แต่คุณก็น่าจะเตือนเฟนด์สักหน่อยว่าต่อให้เขาจะมีพรสวรรค์ค่อนข้างดี แต่ก็ไม่ควรหยิ่งผยองเกินไป”แอนดรูว์โกรธมากในขณะนั้นและอดไม่ได้จริง ๆ ที่จะต้องเอ่ยคำดูแคลนที่สุดเช่นนั้นออกมากิลเบิร์ตกล่าวเสริมอย่างรีบร้อนทันที “แอนดรูว์พูดถูก แม้ว่าพรสวรรค์ของเฟนด์จะค่อนข้างดี แต่เขาก็ไม่ควรหยิ่งผยองนัก คำพูดพวกนั้นไม่ได้ช่วยอะไรเลยสักนิด”เฟนด์ถึงกับพูดไม่ออกเมื่อถูกคนทั้งสองเหยียบย่ำ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเฟนด์ไม่ได้เอ่ยปากเลยสักคำ แล้วเขาจะเอาเวลา

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2447

    ในตอนแรก คอนสแตนซ์และซีนย์เพียงยืนเคียงข้างกันโดยไม่สนใจเรื่องนี้ พวกเขาต้องการปล่อยให้สถานการณ์ดำเนินต่อไปอย่างที่ควรจะเป็น แต่เมื่อว่าเกรย์สันและรูดี้เริ่มเถียงกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งสองคนก็ถูกบีบให้ต้องทำอะไรสักอย่างพวกเขาถูกบีบให้ต้องแยกรูดี้และเกรย์สันออกจากกัน นั่นก็เพราะ การทะเลาะกันของเด็ก ๆ ควรจะมีขีดจำกัด เพราะหากมันเกินขีดจำกัดไปแล้ว นั่นจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของพวกเขา นี่คือสิ่งที่รูดี้และเกรย์สันเองก็ไม่อยากเห็นเป็นเวลาเกือบสิบห้านาทีแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์นั่งบนเก้าอี้ ขณะมองดูการทะเลาะวิวาทและการพูดคุยกันอย่างเฉยเมย เมื่อหมดเวลาเขาก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้เสียงปรบมือดังขึ้นตอนที่เขาจะพูดว่า "เอาล่ะ หมดเวลาแล้ว ทุกคนต้องตัดสินใจได้แล้วว่าจะพิสูจน์ความสามารถของตัวเองยังไง”“ฉันไม่คิดว่าฉันจะต้องบอกอะไรพวกนายทุกอย่างหรอกนะ ตอนนี้ก็แยกออกเป็นกลุ่มเสีย ผู้ที่ต้องการรวมอักขระทางยาจะยืนอยู่ทางทิศตะวันออก“ผู้ที่ต้องการแยกแยะวัสดุสามารถยืนอยู่ตรงกลางได้เลย และหากจะพิสูจน์ตัวเองด้วยกันบ่มเพาะโอสถให้ไปยืนที่ทางทิศตะวันตก“ถึงอย่างนั้นฉันก็ต้องขอเตือนทุกคนก่อน หากทุกคนต้องการ

DMCA.com Protection Status