แชร์

บทที่ 294

ผู้แต่ง: โมเนโต้
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
อย่างไรก็ตามขณะนี้สาวสวยคนหนึ่งในชุดกี่เพ้าสุดเซ็กซี่ที่สวมหน้ากากก็มาถึงทางเข้าหลักของคฤหาสน์

หลังจากนั้นไม่นานชายที่เฝ้าอยู่หน้าทางเข้าก็รีบวิ่งเข้ามาด้วยใบหน้าที่บวมจากการถูกตี

“นายท่าน ๆ แย่แล้ว ผู้หญิงที่สวมหน้ากากบอกว่าอยากเจอเจ้านาย!”

ชายคนนั้นพูดขึ้นหลังจากที่วิ่งเข้ามาในขณะที่ก้มหัวอยู่

“เกิดอะไรขึ้นกับใบหน้าของนาย?”

ชายสูงวัยถามทันที นี่เป็นที่พักของเจ้านายพรรคเทพเจ้าแห่งมังกรและผู้อาวุโสบางคน ใครจะมาที่นี่เพื่อสร้างปัญหา?

ชายคนนั้นเงยหน้าขึ้นและพูดว่า “รูปร่างของผู้หญิงคนนั่นช่างน่าทึ่งและเธอก็ยังเซ็กซี่มากด้วย ดังนั้นบอดี้การ์ดของเราสองสามคนจึงอยากที่จะฉีกหน้ากากของเธอออกมาดู แต่ไม่คิดว่าผู้หญิงคนนั้นจะมีพลังมหาศาล เธอเอาชนะเราได้อย่างง่ายดาย เธอยังบอกอีกว่าถ้าเธอไม่เห็นเจ้านายในอีกสามนาทีเธอจะทำลายพรรคเทพเจ้าแห่งมังกรของเรา!”

“เธอกล้าหาญมาก!”

ชายสูงอายุคนนั้นตบโต๊ะเสียงดังด้วยความโมโห จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นยืนทันทีด้วยสีหน้าที่โกรธจัดและพูดว่า “เธอกล้าทำแบบนี้กับพรรคเทพเจ้าแห่งมังกรของเราและเธอยังอ้างว่าจะทำลายมัน? เธอคิดว่าเธอเป็นใคร?”

“ผู้หญิงทำตัวอวดดีงั้นเหรอ?”

บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 295

    “นายท่าน นายท่านฮาร์วีย์ ดูให้ดี ๆ ใคร นั่นใคร?”ในที่สุดชายสูงอายุก็จำลาน่าได้ เขาตกใจมากแม้กระทั่งเสียงของเขาก็ยังสั่นสิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือลาน่าเป็นเพียงผู้ส่งสาร ใครกันแน่ที่สามารถสั่งให้เทพเจ้าแห่งสงครามมาส่งข้อความให้พวกเขา?“ท-เทพีแห่งสงคราม ลาน่า!”หลังจากที่นายท่านฮาร์วีย์มองผู้หญิงคนนั้นอย่างละเอียดเขาก็อ้าปากค้างเมื่อเทพีแห่งสงครามผู้ยิ่งใหญ่มาถึงอาณาเขตกลาง เธอมีอำนาจในการปกครองชีวิตและความตาย ไม่รู้ว่ามีคนมากมายแค่ไหนที่มีอำนาจมากต้องการที่จะประจบเธออย่างไรก็ตามเขาไม่คิดว่าเทพีแห่งสงครามจะมาที่พรรคเทพเจ้าแห่งมังกรของพวกเขาดูจากเหตุผล การที่เทพีเจ้าแห่งสงครามมาที่พรรคเทพเจ้าแห่งมังกรของพวกเขาน่าจะเป็นเรื่องดี แต่ช่างน่าขำเธอกลับกลายเป็นคนที่นำพาฝันร้ายมาให้พวกเขาเขาไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อยเพราะคำเหล่านั้นเป็นคำพูดของเทพีแห่งสงคราม นอกจากนี้เทพีแห่งสงครามคงไม่ได้มีเวลามากพอที่จะทำไปเพื่อยั่วยุพวกเขายิ่งไปกว่านั้นถ้าห้าพยัคฆ์ของพวกเขาตายจริง พวกเขาจะต้องออกจากอาณาเขตกลางให้เร็วที่สุด ไม่ต้องรอให้เทพีแห่งสงครามบอกให้พวกเขาหรอก มิฉะนั้นศัตรูของพวกเขาคงจะมาปรากฏตัวใ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 296

    “พระเจ้า มีเรื่องสำคัญเกิดขึ้น! พรรคเทพเจ้ามังกรออกจากอาณาเขตกลางไปแล้ว!”เหตุการณ์ที่พรรคเทพเจ้ามังกรค่อย ๆ เปิดเผยออกมาตอนเวลาสี่โมงพบศพของห้าพยัคฆ์แห่งเผ่าเทพเจ้ามังกรและลูกชายของนายท่านฮาร์วีย์ในไม่ช้า สิ่งนี้สร้างความหวาดกลัวให้กับผู้ทรงอำนาจบางกลุ่มในจังหวัดกลางนั่นเป็นเพราะทุกคนทราบดีว่าจำนวนสมาชิกทั้งหมดของพรรคเทพเจ้ามังกรมีมากกว่าสองสามพันคน อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าแม้แต่ผู้ทรงอำนาจอย่างนั้นก็พังทลายลงได้แน่นอนว่ามีผู้คนมากมายที่มีความสุขตั้งแต่พรรคเทพเจ้ามังกรเคยก่ออาชญากรรมที่ร้ายแรงอย่างหยิ่งผยอง การกระทำของพวกเขาก็ทำให้ทุกคนโกรธแค้นมานานอย่างเช่นเมื่อพวกเขาเริ่มเปิดบริษัท มันจะเกี่ยวข้องกับเงินกู้นอกระบบ พวกนี้ได้ทำลายครอบครัวมานับไม่ถ้วน และทำลายบ้านของผู้คนมานับไม่ถ้วนเช่นกัน มันช่างน่าหดหู่ใจจริง ๆตอนนี้พรรคเทพเจ้ามังกรก็ไปแล้ว เป็นเรื่องธรรมชาติที่ทุกคนจะมีความสุขในทางกลับกัน พรรคที่เหลือทั้งหมดก็รู้สึกตึงเครียด นอกเหนือจากการตกใจแล้ว แล้วพวกเขายังรู้สึกหวาดกลัวอย่างมากกับข่าวที่ได้รับแน่นอนว่านอกเหนือจากกองกำลังมืดแล้วยังมีตระกูลใหญ่ ๆ ที่ดำเนินการอย่างถ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 297

    ภาพของผู้กอบกู้ที่นอนอยู่ในอ้อมแขนของเฟนด์ปรากฏขึ้นมาในความคิดทันย่า"อ๊ะ!"ในขณะที่เธอตกอยู่ในภวังค์ จู่ ๆ ก็มีออดี้เบรกอยู่ตรงหน้าเธอทันย่าสะดุ้งหยุดรถ เธอชนท้ายออดี้คันหนึ่ง“คุณทันย่าเสียสมาธิเพราะฟังเรื่องราวของผมเหรอ?”เฟนด์หัวเราะอย่างขมขื่นขณะมองไปที่ทันย่าที่ตกใจ “ความผิดนายนั่นแหละที่เรื่องมันน่าเศร้า ฉันฟุ้งซ่านตอนที่คิดถึงเรื่องพี่ชายนาย!”ทันย่ากลอกตาใส่เฟนด์ลงจากรถเฟนด์มองป้ายทะเบียนรถคันข้างหน้า มันคือ B77777 ดูเหมือนเจ้าของรถคันนี้จะไม่ง่ายอย่างที่คิด!เนื่องจากทันย่าพาเขาไปในฐานะบอดี้การ์ด เพื่อความปลอดภัยของทันย่า เฟนด์จึงเดินตามหลังเจ้าของรถคันข้างหน้าได้ลงจากรถมาทันที“ขับประสาอะไรวะ ผู้หญิงเหรอ? ให้ตายเหอะ ผู้หญิงขับไม่ได้ดูทางเลยรึไง?”เมื่อลงมาจากรถเขาก็โวยวายใส่เฟนด์และทันย่าทันทีคนประมาณสิบคนออกมาจากรถออดี้ ทุกคนสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวกางเกงยีนส์สีดำและรองเท้าหนังที่แวววาว ทุกคนดูสดใหม่และเป็นบอดี้การ์ดทั้งหมดชายอีกคนที่สวมเสื้อคลุมสีและเสื้อเชิ้ตลายดอกไม้เดินเข้ามาหาพวกเขาและพูดว่า “สวยจริง! เธอขับรถเฟอร์รารี ไม่เลวนี่ ลูกสาวเศรษฐีใช่ไหม?”“ขอโ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 298

    ทันย่าพูดไม่ออก เหตุการณ์นี้ไม่ได้จริงจังเลยแม้แต่น้อย และเงิน 100,000 เหรียญก็น่าจะพอ เธอไม่คิดว่าเขาจะตอบกลับมาแบบนั้นเธอกัดฟันอย่างระงับความโกรธก่อนพูดว่า “500,000 น่าจะพอใช่ไหม? นี่ไม่แพงไปกว่า R8 หรอก อย่าทำเหมือนฉันโง่เรื่องรถเลย”ชายคนนั้นหัวเราะเบา ๆ “น่าสนใจจังเลยนะ รู้เรื่องรถจริง ๆ! ดีกว่าคนขับผู้หญิงคนอื่น ๆ สินะ”บอดี้การ์ดพวกนั้นหัวเราะหลังจากได้ยินเช่นนั้น“เอาล่ะ คุณคิดว่า 500,000 มันพอเหรอ?” ชายคนนั้นก้าวเข้ามาใกล้ ๆ เธอขณะที่หัวเราะอย่างน่ากลัว“ล้านนึงก็พอแล้ว เอาเลขบัญชีมาฉันจะโอนให้คุณ”แม้ว่าจะมีอารมณ์โกรธ แต่เธอก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะโต้เถียงกับคนพวกนี้ เธอสงสัยอย่างมากว่าคนพวกนี้คือนักต้มตุ๋นมืออาชีพหรือไม่“ล้านเหรอ?”เธอไม่คิดว่าชายคนนั้นจะหัวเราะขึ้นมาอีก “มันจะไปพอได้ยังไง?” เขาเยาะเย้ย “พวกคุณจะไปไหนไม่ได้ทั้งนั้นจนกว่าจะเอาเงิน 1 หมื่นล้านมา!”ทันย่ากังวลใจเมื่อได้ยินเช่นนั้น นี่มันต้มตุ๋นกันชัด ๆ“1 หมื่นล้าน? คุณกำลังหลอกกันอยู่ใช่ไหม?”เฟนด์ทนดูไม่ได้อีกต่อไป ดูเหมือนว่าคนพวกนั้นจะแกล้งทันย่าด้วยจำนวนคนที่มากกว่านี่ค่อนข้างไม่มีเหตุผล“พูดอะไร?

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 299

    หลังจากที่โกรธขึ้นมาทันย่าก็หันหลังเดินกลับไปที่รถทันที “ไปกันเถอะเฟนด์” เธอบอก “อย่าไปยุ่งกับขยะพวกนี้เลย พวกขี้โกง พอเราสุภาพด้วยก็ไม่รู้จักพอ!”ทันย่ามักจะทำถือตัวตลอด แต่ในเมื่อมันเป็นความผิดของเธอ เธอก็ขอโทษและชดใช้ความเสียหายเธอไม่คิดว่าคนพวกนั้นจะไม่มีเหตุผล เธอโกรธมากจนแทบจะกระอักเลือด “ฮ่า ๆ อยากไปเหรอ? จะปล่อยคุณไปง่าย ๆ แบบนี้ได้ไงกัน ว่าไหม?”ชายคนนั้นหัวเราะและโบกมือส่งสัญญาณให้ลูกน้องเข้ามาล้อมเฟนด์และทันย่า “แกต้องการอะไรกันแน่? กำลังฝันเหรอว่าอยากให้ฉันเป็นแฟน ฝันลม ๆ แล้ง ๆ เข้าใจไหม? มันจะไม่มีทางเกิดขึ้นแน่!”ทันย่าโกรธจัด เธอไม่เคยโดนแกล้งมาก่อนตั้งแต่เด็กชายคนนั้นหัวเราะเบา ๆ “งั้นมาทำให้เรื่องมันง่ายมา ให้ผมจูบคุณหนึ่งที โอเคใช่ไหม? ในเมื่อคุณไม่มีแฟนนี่ก็น่าจะเป็นจูบแรก การจูบคุณเป็นหนทางหนึ่งในการชดใช้ค่าเสียหาย! ลองคิดดูนะ จูบเดียว มีค่าหมื่นล้านเหรียญ ไม่ตื่นเต้นเหรอ?”เขาหัวเราะอย่างน่ากลัวดูเหมือนจะไม่ให้ทันย่าจริงจัง“คุณทันย่า เหมือนว่าคนพวกนี้จะเลือกทางที่ลำบากนะ!”เฟนด์สังเกตเห็นความผยองของชายคนนี้ ไอ้บ้านี่ทะลึ่งละที่จะให้บังคับให้เธอจูบ เ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 300

    “ไอ้สารเลวนั่นหนีไปแน่ ๆ!” เฟนด์หัวเราะเบา ๆ ขณะมองรถที่วิ่งออกไป“คุณมันบ้า! ถ้าฮาร์วีย์อยู่ตรงนี้จะไม่สามารถแก้ปัญหาได้เร็วเท่าคุณแม้ว่าเขามีทักษะในการต่อสู้ก็ตาม!”หลังจากที่ได้ระบายคนรอบ ๆ ตัวทันย่าออกไป เธอก็รู้สึกดีขึ้นมาในทันทีเฟนด์หัวเราะเบา ๆ “ผมจะไม่บ้าได้ยังไง ได้เงินเยอะขนาดนี้?”เฟนด์เปิดประตูและพูดว่า “ไปกันเถอะคุณทันย่า ไปช็อปปิ้งกันต่อ อย่าเอาไอ้ขยะพวกนี้มาเป็นผลกระทบเลย!”ทั้งสองคนออกไปช็อปปิ้งกันต่อนายน้อยในชุดเชิ้ตลายดอกไม้ไปที่บ้านของเคน“นายต้องช่วยฉันนะ!”ชายในชุดเสื้อลายดอกไม้ร้องไห้และบ่นเมื่อเขาได้เจอเคน “ดูเอาสิ ฉันมาที่นี่เพื่อพักผ่อนที่อาณาเขตกลาง แต่ไม่คิดว่าจะโดนรังแกก่อนที่จะก้าวเท้าเข้ามาบ้านของนายด้วยซ้ำ!” เขาบ่นเคนหงุดหงิดขณะคิดถึงหนทางที่จะได้เซเลน่า แล้วเขาก็สังเกตว่าฟลินน์ปรากฏตัวที่นี่ เขาค่อนข้างหงุดหงิดขณะพูดว่า “มีอะไรเกิดขึ้น? ใครมันกล้ารังแกนาย? ชื่อเล่นนายคือทรราชน้อยไม่ใช่เหรอ? ครอบครัวอันตรายของนายยังเป็นครอบครัวชนชั้นสองในเมืองโลน แล้วมีคนกล้าพอจะรังแกนายได้ยังไง?”เมืองโลนเป็นเมืองใหญ่กว่าอาณาเขตกลางมาก นอกจากนี้ยังมีเหล่าผู้

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 301

    เคนหัวเราะอย่างขมขื่นก่อนรอฟังต่อฟลินน์หัวเราะ ๆ อย่างกระอักกระอ่วนก่อนพูดต่อ “แล้วฉันก็เลยบอกให้บอดี้การ์ดจับผู้หญิงคนนั้นเพื่อที่จะได้จูบเป็นการชดใช้ ฉันรู้สึกว่านี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ยังไงก็ตามฉันไม่คิดว่าบอดี้การ์ดของเธอจะแข็งแกร่งขนาดนั้น เขาไม่ใช้ความพยายามใด ๆ เพื่อล้มบอดี้การ์ดฉันเลย”“ผู้หญิงคนนั้นคือใคร? รู้จักชื่อไหม?”เคนถามหลังจากคิดได้บางอย่างเพราะลูกพี่ลูกน้องของเขามาเที่ยวแล้วมีเรื่องเกิดขึ้น เขากลัวว่าพ่อแม่ฝั่งนู้นจะไม่พอใจถ้าไม่ช่วยอะไรเลย“อ่อ ไม่รู้สิ ฉันไม่ได้ถาม!” นายน้อยฟลินน์หัวเราะอย่างขมขื่น“แล้วฉันจะอยู่ข้างนายได้ยังไง?” เคนจ้องฟลินน์ “ฉันไม่รู้ว่าเธอเป็นใคร และถึงแม้ว่าฉันจะพาคนมาช่วยตอนนี้ พวกนั้นก็คงไปแล้ว คิดเหรอว่าเธอจะรอแกอยู่ที่นั่น? คิดซะว่าโชคร้ายแล้วกัน คิดดีกว่าว่าถ้าเจอกันครั้งหน้าจะทำยังไง!”“เอาล่ะ งั้นฉันจะจำไว้สำหรับการเจอกันครั้งหน้า ในเมื่อหน้าของทั้งสองคนยังอยู่ในความทรงจำฉัน หวังว่าจะไม่เจอกันอีกดีที่สุดนะ ไม่งั้นฉันจะบอกเขาว่า ฉัน ฟลินน์ เบน ไม่ใช่คนที่จะมายุ่งด้วยได้!” นายน้อยฟลินน์กำหมัดแน่นสถบอย่างโกรธ ๆ หลังจากพาทันย่าไปช็อ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 302

    สิ่งสุดท้ายที่เฟนด์คาดหวังคือเห็นผู้หญิงเปลือยโดยไม่มีผ้าขนหนูพันรอบตัว เธอเช็ดผมที่เปียกด้วยผ้าขนหนูก่อนเดินออกไปเธอตะลึงสักพักตอนที่ได้เห็นเขา“อ๊า! โรคจิต!” เธอตะโกนออกมาสุดปอดเธอเห็นเฟนด์หันหลังให้จึงเห็นว่าเป็นโอกาสที่จะเปิดประตูห้องเข้าไปและล็อก “เหมือนว่าลูกพี่ลูกน้องคุณทันย่าจะกลับมาแล้วนะ! อีวอนน์กลับมาแล้ว!”เฟนด์หัวเราะเบา ๆ อย่างช่วยไม่ได้ เขาไม่คิดว่าจะได้เห็นเธอเปลือยอย่างนั้นต้องยอมรับเลยว่ารูปร่างของอีวอนน์ช่างน่าทึ่ง ดูมีอายุมากกว่าทันย่าสองสามปี เธอดูเป็นผู้ใหญ่ ขณะที่ทันย่าดูเหมือนเจ้าหญิงเฟนด์ตัดสินใจกลับห้องของตัวเอง ทำหน้าตาไม่ค่อยดีเพราะลำบากใจว่าผู้หญิงคนนั้นจะรังเกียจหรือไม่สิ่งนี้ไม่เคยเกิดขึ้นกับเฟนด์มาก่อนในสนามรบเขากล้าหาญมาก แต่นี่ล่ะ? เขาไม่รู้ว่าทำไงถึงจะควบคุมความเสียหายนี้ได้สักครู่หนึ่ง อีวอนน์ก็เดินออกมาอย่างโกรธเกรี้ยว เธอเปลี่ยนชุดเป็นชุดเดรสยาวสีขาว เดินตรงไปยังห้องของเฟนด์จ้องมองเขาอย่างเกรี้ยวโกรธถ้าการจ้องมองแค่ครั้งเดียวแล้วทำให้ตายได้ เฟนด์อาจจะตายไปแล้วเป็นพัน ๆ ครั้งเธอถือกรรไกรก่อนชี้ไปที่เฟนด์ “แกเป็นใคร? โรคจิต? เข้

บทล่าสุด

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2455

    ตราบใดที่มันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการบ่มเพาะโอสถของเขา ทั้งสองคนจะทำอะไรตามต้องการก็ย่อมได้ สิ่งนั้นไม่กระทบอะไรกับเขาเลย“ถึงฉันจะดูแคลนหมอนี่ แต่เขาก็ยังกล้าเสมอ เขาก็คงจะมีความสามารถอยู่บ้าง เขาน่าจะผ่านสองขั้นตอนแรกได้อย่างไม่มีปัญหา” เกรย์สันพูดอย่างชัดเจนรูดี้มองไปที่เกรย์สันด้วยรอยยิ้มเย็นชาบนใบหน้าแล้วตอบว่า "นายดูมั่นใจกับหมอนี่มากเลยนะ ฉันจะคิดว่าทุกครั้งที่เขาพูดก่อนหน้านี้ล้วนเป็นเรื่องไร้สาระทั้งหมด“ฉันคิดว่าเขาอาจจะไปถึงขั้นที่สองก่อนที่เขาจะล้มเหลวโดยสิ้นเชิง! ฉันอยากเห็นจริง ๆ ว่าถ้าล้มเหลวขึ้นมา เด็กสารเลวคนนี้จะสู้หน้าเราได้ยังไง”เกรย์สันสูดหายใจเข้าลึก ๆ เขารู้สึกได้ว่าความโกรธของรูดี้ที่มีต่อเฟนด์นั้นลึกซึ้งกว่าของเขามากดวงตาของรูดี้ลุกเป็นไฟ เห็นได้ชัดว่าเขาเกลียดเฟนด์มากเพียงใดเกรย์สันหัวเราะอย่างเย็นชา "แล้วมาดูกันว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ฉันคิดว่าเขาน่าจะสามารถไปถึงขั้นตอนสุดท้ายได้ ถ้าเขาสามารถควบรวมอักขระทางยาได้ถึงร้อยเม็ดเขาก็น่าจะมาถึงระดับนั้น"หลังจากที่ทั้งสองพูดเรื่องเหล่านั้นออกมา พวกเขาก็ปิดปากเงียบพร้อม ๆ กับการมองดูเฟนด์โดยไม่พูดอะไรพวกเขามอง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2454

    ผู้อาวุโสฮอร์สท์กระแอมเล็กน้อยในขณะที่เขาพูดต่อ “หลังจากที่เธอบ่มเพาะโอสถได้สำเร็จแล้ว ให้นำโอสถมาให้ฉันตรวจสอบ พวกเธอจะมีเวลาในการทดสอบทั้งสิ้นแปดชั่วโมง ถ้าเธอไม่สามารถบ่มเพาะโอสถได้ภายในแปดชั่วโมง ก็จะแปลว่าไม่ผ่านการทดสอบ ดังนั้นอย่าได้ช้าเกินไป”พวกเขาทั้งสามพยักหน้าแทบจะพร้อมกัน หลังจากผู้อาวุโสฮอร์สท์ให้คำแนะนำแล้ว เขาก็จัดให้มีคนงานสองสามคนคอยเป็นคนตรวจ มีผู้ดูแลยืนอยู่ด้านหลังทั้งสามคนเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่ทำอะไรผิดพลาดหลังจากนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็หันกลับมาและไปหาผู้สอบคนอื่น ๆ รูดี้หรี่ตาลง ขณะที่เขาเหลือบมองเฟนด์และพูดว่า "ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการบ่มเพาะโอสถระดับหกคือขั้นตอนสุดท้าย แต่ขั้นตอนแรกก็ไม่ง่ายเช่นกัน ถ้านายรู้ว่าทำไม่ได้ ก็อย่าทำให้ต้องสิ้นเปลืองวัตถุดิบเลย ของพวกนี้ล้วนมีราคาค่างวด ต่อให้นายจะขายตัวเองเป็นทาสก็ยังไม่พอให้ซื้อของพวกนี้!”เฟนด์ถอนหายใจออกเบา ๆ หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาเบื่อเกินกว่าจะอ้าปากพูดด้วยซ้ำ เขาตัดสินใจที่จะเพิกเฉยต่อผู้ชายคนนั้นและทุกสิ่งที่จะออกมาจากปากเขา ถึงโต้ตอบไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรอยู่ดี

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2453

    เกรย์สันหรี่ตาลงขณะที่เขามองเฟนด์ด้วยความโกรธเช่นกัน เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ดูเหมือนว่าวันนี้ นายจะมาที่นี่เพื่อหาเรื่องขายหน้าให้กับตัวเองเท่านั้น"หลังจากพูดจบเกรย์สันก็หันหลังกลับและเงียบไป เสียงความขัดแย้งหยุดลง และทุกคนรอบ ๆ ก็เริ่มกระซิบกระซาบกันผู้อาวุโสฮอร์สท์มองเฟนด์อย่างมีความหมาย ราวกับว่าเขามองเฟนด์ในมุมมองที่ต่างออกไป ทันใดนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็อยากรู้เรื่องของเฟนด์อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ในขณะนั้นเขาไม่อาจพูดอะไรออกมาได้เมื่อเขาเห็นว่าทุกคนได้จับกลุ่มกันเรียบร้อยแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็โบกมือแล้วพูดว่า "มากับฉัน!"ทุกคนติดตามผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปเป็นกลุ่ม ๆ ผู้อาวุโสฮอร์สท์เข้าไปในเรือวิญญาณ ภายในเรือเต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังรีบร้อนพวกเขาเดินตามหลังผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปอย่างใกล้ชิด เดินลัดเลาะไปตามทางก่อนจะมาถึงห้องกว้างขวางในที่สุด ห้องกว้างขวางมากจนเรียกได้ว่าห้องโถงเลยทีเดียวทันทีที่พวกเขาก้าวเข้าไปในห้อง ทุกคนก็สามารถสัมผัสได้ถึงรังสีของโอสถที่หนาแน่นรอบ ๆ บรรยากาศ พื้นที่ในห้องนี้ใหญ่เกินพอสำหรับพวกเขาแปดสิบคนเฟนด์ประเมินสถานการณ์เล็กน้อย ห้องนี้ใหญ่พอที่จะรองรับคน

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2452

    พวกเขาถาโถมข้อกล่าวหาและดูหมิ่นมามากเกินไป ถึงเขาจะไม่อยากโต้เถียงกับคนพวกนี้ แต่เขาก็ยังถูกบังคับให้ต้องเงยหน้าขึ้นมาอย่างช้า ๆ อยู่วันยันค่ำเขามองเข้าไปในดวงตาของรูดี้ซึ่งเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน ราวกับเขาเป็นเพียงแมลงในสายตาของรูดี้เฟนด์หัวเราะอย่างเย็นชา “แล้วนายได้ยินเสียงสุนัขที่เห่าดังที่สุดแล้วหรือยังล่ะ?”คำพูดเหล่านั้นสามารถเยาะเย้ยทุกคนที่นั่นได้สำเร็จ เขาเปรียบเทียบกิลเบิร์ตกับสุนัขและเย้ยหยันทุกคนที่ฟังสุนัขตัวนั้นเห่า มันทำให้การแสดงออกบนใบหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปกิลเบิร์ตเกือบจะลืมความโกรธของตัวเองไปแล้ว เขาไม่อยากจะเชื่ออะไรด้วยซ้ำว่าเฟนด์จะสามารถขจัดคำดูถูกดูแคลนทั้งหมดลงได้ แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้นกิลเบิร์ตหันกลับมาจ้องมองเฟนด์ด้วยใบหน้าแดงก่ำจากความโกรธเขาอยากจะตะโกนกลับแต่ถูกรองเหรัญญิกปรามไว้ "ดูเหมือนว่านายจะไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบแล้วสินะ!"ประโยคนั้นเพียงประโยคเดียวก็ทำให้กิลเบิร์ตไม่อาจพูดอะไรออกมาได้อีก กิลเบิร์ตตระหนักได้แล้วว่าเขาได้ทำให้รองเหรัญญิกขุ่นเคืองอย่างหนักหากเขายังคงยืนกรานที่จะต่อปากต่อคำกับเฟนด์ รองเหรัญญิกอาจจะดึงเขาออกไปจริง ๆ แล้วเขาจะ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2451

    “สมองหมอนั่นจะต้องมีอะไรผิดปกติจริง ๆ นั่นแหละ เขาคิดจริง ๆ หรือว่าเขาอยู่ในระดับเดียวกับอีกสองคนที่อยู่ตรงหน้าเขา แค่เพราะไปยืนอยู่กลุ่มเดียวกัน? นั่นน่าจะตลกมากเกินไปหน่อยนะ…”“ฉันนึกว่าการทดสอบจะเข้มงวดและจริงจังเสียอีก ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะได้เห็นอะไรแบบนี้ ทำเอาฉันขำจนปวดท้องเลยล่ะ…”แอนดรูว์ขมวดคิ้วอย่างรู้สึกอับอาย รองเหรัญญิกโกรธจนตัวสั่นหลังจากได้ยินคำพูดของกิลเบิร์ต เขานึกอยากจะพุ่งตัวไปไปตบกิลเบิร์ตสักสองสามครั้งกิลเบิร์ตเพิกเฉยต่อชื่อเสียงของวิมานโอสถอย่างเห็นแก่ตัวที่สุด พวกเขาแทบอยากจะมุดดินหนี ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นี่จะเป็นความอัปยศอดสูที่วิมานโอสถไม่อาจจำกัดทิ้งได้รองเหรัญญิกตะโกนออกไปว่า "หุบปากเดี๋ยวนี้! นายกำลังพูดเรื่องบ้าอะไร ถ้าไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบ ก็ไสหัวไปซะ!"รองเหรัญญิกโกรธมาก ขณะที่เขาพูดเช่นนั้น สีหน้าของเขาดูอดสูอย่างไม่น่าเชื่อ เขายังคิดจะฆ่ากิลเบิร์ตให้ตายเสียเดี๋ยวนี้ เมื่อถูกตำหนิเช่นนั้นก็ทำให้กิลเบิร์ตตระหนักได้ว่าเขาพูดผิดไปถึงกระนั้นก็ไม่มีทางที่เขาจะถอนคำพูดเหล่านั้นกลับคืนมา เขากระแอมเบา ๆ ก่อนที่จะรีบหันศีรษะไปซ้ายทีขวาที อย่างไม่กล้

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2450

    ไม่มีใครรู้ดีไปกว่ารองเหรัญญิกว่าโอสถระดับหกหมายถึงสิ่งใด ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา วิมานโอสถรับบัณฑิตมาจำนวนนับไม่ถ้วน แต่มีไม่มากนักที่จะได้กลายเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุระดับหกจริง ๆคอนสแตนซ์ยิ้มอย่างมีความหมายขณะที่เขาเอ่ยถาม "รองเหรัญญิกคนนี้มีความสามารถหลากหลายจริง ๆ ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าวิมานโอสถจะมีอัจฉริยะกับเขาด้วย ผมไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลย"ริมฝีปากของรองเหรัญญิกกระตุก เขาต้องการอธิบายตัวเอง แต่ถ้าเขาบอกว่าเฟนด์ไม่สามารถสกัดโอสถระดับหกได้ และมีเพียงพรสวรรค์ในการสร้างอักขระทางยาเท่านั้น มันคงจะกลายเป็นเรื่องตลกครั้งใหญ่ และทุกคนคงจะหัวเราะเยาะวิมานโอสถเป็นแน่แต่ถ้าเขายังคงดื้อรั้นต่อไป พอถึงเวลาต้องบ่มเพาะโอสถ เฟนด์ก็จะเปิดเผยความจริงข้อนั้นออกมา เมื่อนั้นความอัปยศอดสูก็จะยิ่งหนักข้อขึ้นเขาถึงกับมือสั่น ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยรู้สึกเหมือนตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้มาก่อน เขารู้สึกเหมือนกำลังถูกกักขังอยู่ในกำแพงอีกสองด้าน ทุกคนคิดว่ารองเหรัญญิกกำลังวางแผนที่จะใช้ความเงียบเพื่อตอบคำถามเมื่อเห็นกับตาว่ารองเหรัญญิกไม่ตอบอะไรออกมาแต่ทว่าคอนสแตนซ์คล้ายกับจะไม่เ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2449

    เฟนด์เป็นคนเดียวที่ยังคงยืนอยู่ ขณะนั้นเขาดูคล้ายกับกำลังลังเลและดูเหมือนกำลังรออะไรบางอย่างอยู่ ขณะที่รองเหรัญญิกพูดจบ ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็จ้องมองมาอย่างอยากรู้อยากเห็นแม้ว่าดวงตาของเขาจะดูเป็นประกายมากขนาดไหน แต่เฟนด์ก็ยังคงรู้สึกถึงความเฉียบคมภายใน ราวกับว่าเขาจะถูกตัดสิทธิ์หากเขาไม่ขยับริมฝีปากของเฟนด์กระตุกอย่างช่วยไม่ได้ เขารีรอต่อไปไม่ได้แล้ว จึงได้แต่เดินไปยังพื้นที่ที่เขาวางแผนไว้ก่อนหน้านี้ในตอนแรกเฟนด์ไม่ได้ดึงดูดความสนใจใครมากนัก เขาอาจจะเป็นคนสุดท้ายที่ปรากฏตัวขึ้น ไม่มีใครจำเขาได้ ต่อให้เขาจะมาจากวิมานโอสถ แต่นอกจากคนที่เคยพบเขาแล้ว ก็ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใครขณะที่เขาเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกต่อไป ทุกคนก็เริ่มจ้องมองไปที่เขา ใบหน้าของรองเหรัญญิกก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นบูดบึ้งเมื่อเขาสังเกตเห็นว่าเฟนด์กำลังมุ่งหน้าไปทางใด“ผู้ชายคนนั้นคิดจะไปต่อหลังรูดี้หรือเปล่า? เขาคิดจะพิสูจน์ตัวเองด้วยการกลั่นโอสถระดับหกด้วยหรือ?”“ก็คงเป็นแบบนั้น เว้นแต่เขาจะเป็นคนโง่เง่าที่ไม่ทันได้ฟังกฎการตัดสินให้ดี ไม่งั้นคงไม่เดินไปแบบนั้นหรอก เขาเป็นใคร ทำไมฉันไม่เคยได้ยินอะไรเกี่ยวกับเขาเลย

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2448

    กิลเบิร์ตทำท่าราวกับกลืนแมลงวันเข้าไปสองสามตัว เขาคาดหวังว่ารองเหรัญญิกจะพูดคำเหล่านั้นกับเขาเสียอีก แต่กลับกลายเป็นว่ารองเหรัญญิกไม่ละสายตามามองเขาเลยแม้แต่วินาทีเดียวรองเหรัญญิกฝากความหวังทั้งหมดไว้กับเฟนด์ราวกับว่ากิลเบิร์ตและแอนดรูว์มาที่นี่เพื่อเพิ่มจำนวนคนเท่านั้นแอนดรูว์มีสีหน้าขมขื่นเช่นกัน ในอดีตเขาขัดแย้งกับกิลเบิร์ตมามากมาย และความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ไม่อาจพัฒนาไปในทางที่ดีได้แต่ต้องขอบคุณเฟนด์ที่ทำให้เขาสามารถวางเฉยต่อความแค้นทั้งหมดที่เคยมีได้แอนดรูว์พูดด้วยใบหน้าที่มืดมน “รองเหรัญญิก ดูเหมือนคุณจะฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่เฟนด์เลยนะ“แต่คุณก็น่าจะเตือนเฟนด์สักหน่อยว่าต่อให้เขาจะมีพรสวรรค์ค่อนข้างดี แต่ก็ไม่ควรหยิ่งผยองเกินไป”แอนดรูว์โกรธมากในขณะนั้นและอดไม่ได้จริง ๆ ที่จะต้องเอ่ยคำดูแคลนที่สุดเช่นนั้นออกมากิลเบิร์ตกล่าวเสริมอย่างรีบร้อนทันที “แอนดรูว์พูดถูก แม้ว่าพรสวรรค์ของเฟนด์จะค่อนข้างดี แต่เขาก็ไม่ควรหยิ่งผยองนัก คำพูดพวกนั้นไม่ได้ช่วยอะไรเลยสักนิด”เฟนด์ถึงกับพูดไม่ออกเมื่อถูกคนทั้งสองเหยียบย่ำ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเฟนด์ไม่ได้เอ่ยปากเลยสักคำ แล้วเขาจะเอาเวลา

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2447

    ในตอนแรก คอนสแตนซ์และซีนย์เพียงยืนเคียงข้างกันโดยไม่สนใจเรื่องนี้ พวกเขาต้องการปล่อยให้สถานการณ์ดำเนินต่อไปอย่างที่ควรจะเป็น แต่เมื่อว่าเกรย์สันและรูดี้เริ่มเถียงกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งสองคนก็ถูกบีบให้ต้องทำอะไรสักอย่างพวกเขาถูกบีบให้ต้องแยกรูดี้และเกรย์สันออกจากกัน นั่นก็เพราะ การทะเลาะกันของเด็ก ๆ ควรจะมีขีดจำกัด เพราะหากมันเกินขีดจำกัดไปแล้ว นั่นจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของพวกเขา นี่คือสิ่งที่รูดี้และเกรย์สันเองก็ไม่อยากเห็นเป็นเวลาเกือบสิบห้านาทีแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์นั่งบนเก้าอี้ ขณะมองดูการทะเลาะวิวาทและการพูดคุยกันอย่างเฉยเมย เมื่อหมดเวลาเขาก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้เสียงปรบมือดังขึ้นตอนที่เขาจะพูดว่า "เอาล่ะ หมดเวลาแล้ว ทุกคนต้องตัดสินใจได้แล้วว่าจะพิสูจน์ความสามารถของตัวเองยังไง”“ฉันไม่คิดว่าฉันจะต้องบอกอะไรพวกนายทุกอย่างหรอกนะ ตอนนี้ก็แยกออกเป็นกลุ่มเสีย ผู้ที่ต้องการรวมอักขระทางยาจะยืนอยู่ทางทิศตะวันออก“ผู้ที่ต้องการแยกแยะวัสดุสามารถยืนอยู่ตรงกลางได้เลย และหากจะพิสูจน์ตัวเองด้วยกันบ่มเพาะโอสถให้ไปยืนที่ทางทิศตะวันตก“ถึงอย่างนั้นฉันก็ต้องขอเตือนทุกคนก่อน หากทุกคนต้องการ

DMCA.com Protection Status