แชร์

บทที่ 262

ผู้แต่ง: โมเนโต้
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
“โอ้พระเจ้า เงิน 100 ล้านเหรียญ! นั่นคือเงิน 100 ล้านเหรียญ! เขาปฏิเสธมันด้วยเงินสามล้านเหรียญจริงหรอ? เขาโง่หรือเปล่า?” บริตนีย์ตะโกน เธอตกใจมาก

“ให้ตายสิ เงิน 100 ล้านเหรียญพอสำหรับทั้งชีวิต ทำไมเขาถึงปฏิเสธล่ะ? ถ้าเป็นฉัน ฉันจะเห็นด้วยอย่างแน่นอนโดยไม่ลังเลเลย!” แมทยังอุทานด้วยความประหลาดใจ สงสัยว่าเขากำลังอยู่ในความฝัน

“ใครบอกว่าการเป็นทหารไม่มีประโยชน์? ผู้ชายคนนี้แข็งแกร่งและต่อสู้เก่ง เขาสามารถจับเสือไซบีเรียนสองตัวได้ด้วยมือเปล่า เมื่อช่วงเวลาแห่งความโชคดีมาถึง เขาสามารถช่วยลูกชายของน้องชายนายน้อยรอยได้ เขาได้รับโชคใหญ่ในคราวเดียว!”

“แต่ทำไมเขาถึงปฏิเสธที่จะรับมัน?”

ดีแลนก็ดูสับสนเช่นกัน “พวกเขาไม่ยากจนหรอ? พวกเขายากจนมากจนไม่สามารถจ่ายบิล 10 ล้านเหรียญได้ แต่ตอนนี้เขาปฏิเสธเงิน 100 ล้านเหรียญ? ถ้าคุณบอกว่าพวกเขาไม่ชอบเงินทำไมถึงยังต้องการเงินสามล้านเหรียญ?”

เมื่อได้ยินคำพูดของดีแลน ราเชล และคนอื่น ๆ ก็รู้สึกสับสนเหมือนกัน

ทุก ๆ คนก็มึนงง รวมทั้งเคนและนีลด้วย

“เซเลน่าสามีของคุณโง่หรือเปล่า? เขาเลือกเงินสามล้านเหรียญแทนที่จะเลือกเงิน 100 ล้านเหรียญ?”

เคนเหยียดยิ้มก่อนจะพ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 263

    นอกจากนี้เฟนด์รู้สึกดีที่ปฏิเสธเงิน 100 ล้านเหรียญ จิตวิญญาณของเขาน่าชื่นชม “ผู้ชายคนนี้ทำเพื่อเสียงเชียร์!”“อืม นั่นเป็นสัญญาณบ่งบอกความดีงาม!”“ดูสิว่าเขาดีแค่ไหน!”บริตนีย์กัดฟันรู้สึกโกรธ ตอนแรกเธอคิดว่าเฟนด์จะถูกโอนีลฆ่าตาย จากนั้นเธอก็หวังให้คนจากตระกูลรอยส์ฆ่าเขา เธอไม่คาดคิดว่าเหตุการณ์จะพลิกผันเช่นนี้“ผู้ชายคนนี้ช่างโชคดีจริง ๆ!”เคนและนีลสบตากันทั้งคู่รู้สึกทำอะไรไม่ถูกไม่นานพวกเขาก็เดินไปรวมเข้ากับผู้ชมและออกจากที่นี่เฟนด์มองไปที่พนักงานเสิร์ฟคนสวยและโบกมือให้เธอ จากนั้นเขาก็หยิบเงิน 50,000 เหรียญและส่งให้เธอ “นี่คือทิปของคุณตามที่สัญญาไว้!”“ม-มากขนาดนี้เลยหรอ! มันไม่ใช่ 10,000 เหรียญหรอ?”พนักงานเสิร์ฟคนสวยถือเงินไว้ในมือ สงสัยว่านี่อาจเป็นภาพลวงตา มันมากเกินไป นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้ทิปมากขนาดนี้“เฮ้ ที่ฉันพูดก่อนหน้านี้ว่าไม่ต่ำกว่า 10,000 เหรียญ! ฉันไม่เคยบอกเลยว่ามันจะแค่ 10,000 เหรียญเท่านั้น!”เฟนด์หัวเราะเบา ๆ แล้วพูดว่า “คุณเป็นคนดี คุณสมควรได้รับมัน!”“ข-ขอบคุณค่ะ!”พนักงานเสิร์ฟพยักหน้าขอบคุณมาก เธอมีความรู้สึกว่าผู้ชายตรงหน้าเธอแตกต่างจากคนอ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 264

    ”ยากจน? ฮ่าฮ่า ฉันสามารถซื้อปอร์เช่สองคันได้ ฉันยากจน?” เฟนด์หัวเราะเยาะเขาไม่สนใจบริตนีย์จากนั้นก็โบกมือให้ผู้หญิงสองคนนั้น “มาที่นี่สักครู่!”“เขาอ้างว่ามีปอร์เช่สองคัน ฉันต้องฝันไปแน่ ๆ!”บริตนีย์ยิ่งพูดไม่ออก ผู้ชายคนนี้เป็นแชมป์ที่โอ้อวด? เขาไร้ยางอายขนาดนี้ได้ยังไงที่ยืนยันว่าเขามีปอร์เช่สองคัน?ผู้หญิงสองคนดูสับสน แต่ก็เข้าไปหาเขาโดยไม่ได้คิดอะไร“คุณผู้ชาย มีอะไรผิดปกติหรือเปล่าคะ?” ถามครูใหญ่อย่างกล้า ๆ กลัว ๆ“ขอดูเอกสารของคุณหน่อยสิ!” เฟนด์ถามพวกเขาด้วยรอยยิ้ม“โอ้!”ในที่สุดทั้งคู่ก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นและหยิบเอกสารของพวกเขาส่งให้เฟนด์ซึ่งมาพร้อมกับรูปบางส่วนของโรงเรียน“คุณผู้ชาย คุณต้องการบริจาคหรอคะ? ถ้าไม่เป็นการรบกวนฉันหวังว่าคุณจะสามารถช่วยได้ แม้สักหนึ่งหรือ 10 เหรียญก็ได้ค่ะ!”ครูใหญ่หญิงดูขี้อายเล็กน้อย อย่างไรก็ตามเพื่อเห็นแก่โรงเรียนและลูก ๆ ของพวกเขาเธอจึงกัดริมฝีปากและพูดออกมา“คุณผู้ชาย เราไม่ได้โกหกจริง ๆ หากคุณไม่เชื่อ คุณสามารถขับรถไปดูได้ โรงเรียนของเราอยู่ที่…”ครูผู้หญิงอีกคนรีบแจ้งที่อยู่ของโรงเรียนให้เฟนด์“พื้นที่นั้นค่อนข้างแย่จริง ๆ!” เซ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 265

    เซเลน่าพูดไม่ออก เฟนด์เป็นคนใจดีมาก แต่ถึงยังไงนิสัยอวดดีของเขาก็ไม่สามารถแก้ไขได้อย่างไรก็ตามขณะเดียวกันนั้นรถปอร์เช่สีแดงสองคันก็วิ่งมาด้วยความเร็วสูงโดยที่ไม่ได้ปิดไฟหน้า แล้วมาจอดข้างหน้าของทุกคน“พี่สาว พี่เขย ฮ่าๆ รถของพี่นี่สุดยอดจริง ๆ! ตอนที่ขับบนถนนผมรู้สึกโดดเด่นมากเลยล่ะ!”เบ็นลงมาจากรถแล้วโยนกุญแจให้เฟนด์ซีน่าก็ลงมาจากรถอีกคันแล้วก็โยนกุญแจให้เซเลน่า “มันยอดเยี่ยมมาก นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้ขับรถสปอร์ต ความรู้สึกนั้นยอดเยี่ยมมากจริง ๆ!”ในตอนนั้นเธอพูดเสริมอย่างเศร้าใจ “น่าเสียดายที่มันไม่ใช่ของเรา เฮ้อ ถ้าฉันมีเป็นของตัวเองสักคันนะ!”“พวกนายยังไม่กลับอีกหรอ?”เซเลน่าขมวดคิ้วเมื่อเห็นว่าทั้งคู่ยื่นกุญแจให้แล้ว“ฮ่า ๆ พอดีผมนัดกับเพื่อน ๆ ไว้ว่าจะไปเล่นเกมที่ร้านอินเทอร์เน็ตหลังจากนี้น่ะ พวกเขากำลังรอเราอยู่ อีกอย่างวันนี้เราได้สนุกกับรถของพี่ทั้งวันทั้งคืนแล้ว ได้เวลาส่งมันกลับคืนแล้วล่ะ”เบ็นหัวเราะเขาโอบไหล่ซีน่าแล้วรีบเดินจากไป“ที่รัก ดูเหมือนว่าเราจะต้องขับคนละคันแล้วล่ะ!” เฟนด์ฝืนยิ้มจากนั้นก็เดินไปขึ้นรถคันหนึ่งเซเลน่ายักไหล่จากนั้นเดินขึ้นรถอีกคัน แล้

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 266

    “ตามตรงนะ เงิน 100 ล้านเหรียญนี่ล่อตาล่อใจมาก ถ้าเราเอาเงินนี้ไปก็จะมีเงินมากพอสำหรับวันเกิดคุณปู่ แต่ลองคิดดูนะ ถ้าเราไม่ได้เอาเงินไปล่ะ”พวกเขากลับบ้านและอาบน้ำ เซเลน่านอนตะแคงยิ้มอยู่บนเตียงขณะที่มองเฟนด์ที่นอนอยู่ข้างล่าง เธอพูดว่า “ที่รัก ฉันว่าเราสองคนมีความหมายต่อกันและบางครั้งเราก็เหมือนจะมีความคิดเดียวกัน!”“ถ้าฉันช่วยเด็กคนนั้นเพื่อเงินฉันก็จะเอามันไป แต่ไงก็ตาม เงินไม่ได้อยู่ในความคิดฉันเลยตอนที่ช่วยเขา ฉันก็เลยไม่เอาเงินมา!”เฟนด์ยิ้มและมองที่เซเลน่าที่ใส่ชุดนอนเดรสอันแสนเซ็กซี่ เขาพูดว่า “ที่รัก ไคลี่หลับเร็วอยู่นะ ผมจูบคุณได้ไหม?”เซเลน่ากรอกตาทันที “ฝันไปเถอะ แต่ฉันมีคำถาม คุณจะทำยังไงกับเงิน 3.8 ล้านที่ถูกขโมย? อย่าลืมว่าแม่กำหนดเวลาให้คุณนะ”เธอเป็นกังวล และพูดต่อ “แล้วก็ เราตกลงที่จะให้เงินแค่ 10 ล้านเหรียญเป็นของขวัญหมั้นกับแม่ คุณเป็นคนที่ยอมให้เธอใช้ประโยชน์จากคุณแล้วตอนนี้เธอขอเงิน 20 ล้านเหรียญ นอกจากนั้นคุณยังต้องชดเชยให้อีวาน 10 ล้านเหรียญและของขวัญอีกประมาณ 10 ล้านเหรียญ เท่ากับคุณต้องเตรียมเงินทั้งหมด 40 ล้านเหรียญในวันเกิดของคุณปู่ คุณจะหาเงินมากมายขนาด

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 267

    “เป็นอะไรไป? กดโทรศัพท์ไม่ได้เหรอ?”เซเลน่าถามสีหน้านิ่งซอนย่าใจสั่นขณะที่เธอยิ้มอย่างกระอักกระอ่วน “ไม่ ไม่ คุณโทรหาเธอไม่ได้นะ!”ซอนย่าหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและแสร้งกดหมายเลขหาโรซ่า “ฮัลโหล คุณมาถึงรึยังคะ? คุณมีสัมภาษณ์งานวันนี้นี่ จำได้ไหม?”ซอนย่ารู้สึกละอาย เธอไม่คิดว่าเซเลน่าจะโทรหาเบอร์ปลอมที่เธอสร้างขึ้นมาติดอย่างไรก็ตาม มันก็ไม่เป็นไรถ้าโทรจะโทรติด คนที่ปลายสายอาจจะคิดได้ว่าโทรผิด เขาหรือเธออาจจะวางสายใส่เซเลน่า“คุณอยู่ที่หน้าบริษัทแล้วใช่ไหม? งั้นคุณก็ตามเข้ามาทีหลังก็ได้!”เซเลน่าวางสายหลังจากพูดได้ประโยคเดียว “เธออยู่หน้าประตูแล้ว กำลังเข้ามา ทำไมคุณถึงบอกว่าเธอป่วยเลยมาสอบสัมภาษณ์ไม่ได้ล่ะ?”“เป็นไปไม่ได้!”“ทำไมล่ะ?”มันตลกเมื่อได้เห็นสีหน้าตกใจของซอนย่า เซเลน่าคิด“ไม่...ไม่มีอะไรค่ะ มันเป็นไปได้เพราะว่าผู้หญิงที่ชื่อแอวริลหลอกฉันมาโดยตลอด!”ซอนย่าหัวเราะอย่างกระอักกระอ่วนก่อนพูดกับเซเลน่าอีกครั้ง“ผู้จัดการ คนอย่างนี้ไม่น่าเชื่อถือ คุณจะจ้างเธอไม่ได้นะ!”“ฉันรู้น่าว่าต้องทำยังไง!” เซเลน่ายิ้ม“เยี่ยมค่ะ!”ซอนย่าพยักหน้าและก็แอบยิ้มเยาะในใจ เธอแอบคิดว่าไม

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 268

    สีหน้าเทรเวอร์นิ่งลงทันที เขาอยากขุดหลุมแล้วกระโดดลงไปในนั้นจริง ๆ เขาอวดต่อหน้าทุกคนเมื่อคืนนี้ถึงรายละเอียดของชั้นเชิงในการได้งานนี้อีกด้วยนั่นไม่ใช่ประเด็นหลัก สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เขาบอกทุกคนว่าผู้จัดการได้งานมาด้วยวิธีที่ไม่สุจริตต่อหน้าเซเลน่า เขาพูดว่าผู้จัดการต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับความลับบางอย่างกับนายน้อยของตระกูลเดรค นั่นคือวิธีที่เธอได้งานและได้รับค่าตอบแทนอย่างดีเขาไม่เคยคิดว่าเซเลน่าจะเป็นคนนั้นที่เขาพูดถึงกันอย่างไรก็ตาม เทรเวอร์ก็ไม่หวั่นไหวไปกับคำวิจารณ์ง่าย ๆ เขาหัวเราะและพูดว่า “ฉันเมาเมื่อวานก็เลยพูดแบบนั้นไปน่ะ หวังว่าเธอจะไม่ว่าอะไรนะ ยังไงเราก็เป็นเพื่อนเก่ากัน ฉันเชื่อว่าฉันจะเป็นผู้สมัครที่ดีที่สุดที่จะมาช่วยเธอ”ทันใดนั้นเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น“เข้ามา!”เซเลน่าตะโกนเป็นซอนย่าที่เดินเข้ามา “ผู้จัดการคะ มีคนที่ชื่อโรซ่าอยู่ด้านนอก เธอยืนยันว่าคุณเรียกเธอมาที่นี่เพื่อสัมภาษณ์ เป็นไปไม่ได้ใช่ไหมคะ? ผู้สอบสัมภาษณ์ของเราชื่อแอวริล เธอมาผิดแผนกรึเปล่า?”“ให้เธอเข้ามา!”เซเลน่ายิ้มหลังจากพูดหลังจากนั้น ซอนย่าก็เดินออกไปด้วยสีหน้าที่สับสนและพาโรซ่าเข

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 269

    เทรเวอร์กัดฟันก่อนเงยหน้าขึ้น “เซเลน่า อย่าตื่นเต้นไปหน่อยเลย ครั้งนี้ฉันแค่โชคไม่ดีที่ตกอยู่ในกำมือของเธอ ก็แค่ตำแหน่งผู้ช่วย ฉันไม่เอาแล้ว! ฉันไม่อยากจะเชื่อว่าหางานที่ดีกว่านี้ไม่ได้กับความสามารถที่มีอยู่!”“หา? ความสามารถของนาย? น่าผิดหวังจริง ๆ นายมีความรู้แค่ว่าต้องใช้เวลากับเกมยังไงตอนที่อยู่ต่างประเทศ จากนั้นก็กลับมาโม้กับทุกคนว่าจบจากต่างประเทศ นั่นเรียกว่าความสามารถเหรอ?”เซเลน่าขำอีกครั้ง“เทรเวอร์ ฉันไม่ได้อยากจะโทษนายหรอกนะ แต่เมื่อคืนนี้นายทำมากเกินไปจริง ๆ ถ้าฉันเป็นเซเลน่าก็ไม่จ้างนายหรอก!”โรซ่าถอนหายใจ คนที่ชอบเล่นตุกติกอย่างเขาสามารถแทงข้างหลังได้ทุกเวลา“ฮ่า ๆ เธอเป็นใครมาหัวเราะเยาะฉัน?”เทรเวอร์ยิ้มเย็น ๆ ดวงตาของเขาเหมือนปิศาจขณะเอ่ยว่า “ฉันคือคนที่รับผิดชอบในสิ่งที่ทำลงไป ไม่อนุญาตให้ทำงานที่นี่เหรอ? ออกก็ได้เว้ย ฉันอาจจะหางานที่ดีกว่านี้ได้ด้วยซ้ำ!”เขาหันไปมองเซเลน่าและเย้ยหยัน “เซเลน่า หยุดทำตัวเหมือนเป็นผู้บริสุทธิ์ได้แล้ว คิดว่าฉันเชื่อเหรอว่าผู้จัดการอย่างเธอจะทำเงินได้หนึ่งล้านเหรียญต่อเดือน? ผู้จัดการคนก่อนหน้าทำได้แค่ไม่กี่แสนเหรียญเลย แล้วเธอจะถ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 270

    “ตอนที่เราเมา เซเลน่า ฉันได้ยินเทรเวอร์พูดว่าแฟนเขาเป็นญาติห่าง ๆ ของตระกูลเดรค เป็นไปได้ไหมว่าเป็นลุงที่พูดถึงก่อนหน้า? ถ้าเป็นเขาจริง ๆ ไม่ใช่ว่าเรากำลังตกอยู่ในปัญหาเหรอ? เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอจะบอกเขาเรื่องไร้สาระอะไร!”โรซ่ากังวลมากขึ้นหลังจากซอนย่าออกไป“ครั้งนี้เธอโกรธมาก เหมือนว่าเธอกำลังไปหาตระกูลเดรคนะ ถ้าเกิดว่าเธอพูดเรื่องแย่ ๆ ของเธอต่อหน้าพวกเขาล่ะ? จะทำให้เธออยู่ในสถานการณ์ที่เสียเปรียบรึเปล่า?”สีหน้าของเซเลน่านิ่งลงหลังจากได้ยินเช่นนั้น เธอก็กังวงใจเหมือนกันยังไงซะเขาก็เป็นญาติกัน แล้วเธอก็รับประกันไม่ได้ว่าซอนย่าจะพูดเรื่องอะไรกับตระกูลเดรคยิ่งไปกว่านั้น เธอเพิ่งจะเริ่มงานได้สองสามวันเอง เขาจะเชื่อซอนย่าหรือเธอที่เป็นคนนอก?โรซ่ากังวลมากขึ้นหลังจากได้เห็นเซเลน่าขมวดคิ้ว “เราคงถึงวาระแล้วล่ะ พวกเขาจะไล่เธอออกไหมถ้าหล่อนพูดเรื่องไร้สาระจริง ๆ ถ้าเธอโดน หล่อนจะต้องมาจัดการฉันต่อแน่ ๆ!”อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้น เซเลน่าหัวเราะอย่างขมขื่นเล็กน้อย “ฉันเชื่อว่าถ้าเจมส์มีความสามารถที่จะทำให้ตัวเองเป็นคนรวยที่สุดในอาณาเขตกลางได้ เขาจะต้องเป็นคนที่สามารถแยกสิ่งที่ถูกผิด

บทล่าสุด

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2455

    ตราบใดที่มันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการบ่มเพาะโอสถของเขา ทั้งสองคนจะทำอะไรตามต้องการก็ย่อมได้ สิ่งนั้นไม่กระทบอะไรกับเขาเลย“ถึงฉันจะดูแคลนหมอนี่ แต่เขาก็ยังกล้าเสมอ เขาก็คงจะมีความสามารถอยู่บ้าง เขาน่าจะผ่านสองขั้นตอนแรกได้อย่างไม่มีปัญหา” เกรย์สันพูดอย่างชัดเจนรูดี้มองไปที่เกรย์สันด้วยรอยยิ้มเย็นชาบนใบหน้าแล้วตอบว่า "นายดูมั่นใจกับหมอนี่มากเลยนะ ฉันจะคิดว่าทุกครั้งที่เขาพูดก่อนหน้านี้ล้วนเป็นเรื่องไร้สาระทั้งหมด“ฉันคิดว่าเขาอาจจะไปถึงขั้นที่สองก่อนที่เขาจะล้มเหลวโดยสิ้นเชิง! ฉันอยากเห็นจริง ๆ ว่าถ้าล้มเหลวขึ้นมา เด็กสารเลวคนนี้จะสู้หน้าเราได้ยังไง”เกรย์สันสูดหายใจเข้าลึก ๆ เขารู้สึกได้ว่าความโกรธของรูดี้ที่มีต่อเฟนด์นั้นลึกซึ้งกว่าของเขามากดวงตาของรูดี้ลุกเป็นไฟ เห็นได้ชัดว่าเขาเกลียดเฟนด์มากเพียงใดเกรย์สันหัวเราะอย่างเย็นชา "แล้วมาดูกันว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ฉันคิดว่าเขาน่าจะสามารถไปถึงขั้นตอนสุดท้ายได้ ถ้าเขาสามารถควบรวมอักขระทางยาได้ถึงร้อยเม็ดเขาก็น่าจะมาถึงระดับนั้น"หลังจากที่ทั้งสองพูดเรื่องเหล่านั้นออกมา พวกเขาก็ปิดปากเงียบพร้อม ๆ กับการมองดูเฟนด์โดยไม่พูดอะไรพวกเขามอง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2454

    ผู้อาวุโสฮอร์สท์กระแอมเล็กน้อยในขณะที่เขาพูดต่อ “หลังจากที่เธอบ่มเพาะโอสถได้สำเร็จแล้ว ให้นำโอสถมาให้ฉันตรวจสอบ พวกเธอจะมีเวลาในการทดสอบทั้งสิ้นแปดชั่วโมง ถ้าเธอไม่สามารถบ่มเพาะโอสถได้ภายในแปดชั่วโมง ก็จะแปลว่าไม่ผ่านการทดสอบ ดังนั้นอย่าได้ช้าเกินไป”พวกเขาทั้งสามพยักหน้าแทบจะพร้อมกัน หลังจากผู้อาวุโสฮอร์สท์ให้คำแนะนำแล้ว เขาก็จัดให้มีคนงานสองสามคนคอยเป็นคนตรวจ มีผู้ดูแลยืนอยู่ด้านหลังทั้งสามคนเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่ทำอะไรผิดพลาดหลังจากนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็หันกลับมาและไปหาผู้สอบคนอื่น ๆ รูดี้หรี่ตาลง ขณะที่เขาเหลือบมองเฟนด์และพูดว่า "ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการบ่มเพาะโอสถระดับหกคือขั้นตอนสุดท้าย แต่ขั้นตอนแรกก็ไม่ง่ายเช่นกัน ถ้านายรู้ว่าทำไม่ได้ ก็อย่าทำให้ต้องสิ้นเปลืองวัตถุดิบเลย ของพวกนี้ล้วนมีราคาค่างวด ต่อให้นายจะขายตัวเองเป็นทาสก็ยังไม่พอให้ซื้อของพวกนี้!”เฟนด์ถอนหายใจออกเบา ๆ หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาเบื่อเกินกว่าจะอ้าปากพูดด้วยซ้ำ เขาตัดสินใจที่จะเพิกเฉยต่อผู้ชายคนนั้นและทุกสิ่งที่จะออกมาจากปากเขา ถึงโต้ตอบไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรอยู่ดี

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2453

    เกรย์สันหรี่ตาลงขณะที่เขามองเฟนด์ด้วยความโกรธเช่นกัน เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ดูเหมือนว่าวันนี้ นายจะมาที่นี่เพื่อหาเรื่องขายหน้าให้กับตัวเองเท่านั้น"หลังจากพูดจบเกรย์สันก็หันหลังกลับและเงียบไป เสียงความขัดแย้งหยุดลง และทุกคนรอบ ๆ ก็เริ่มกระซิบกระซาบกันผู้อาวุโสฮอร์สท์มองเฟนด์อย่างมีความหมาย ราวกับว่าเขามองเฟนด์ในมุมมองที่ต่างออกไป ทันใดนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็อยากรู้เรื่องของเฟนด์อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ในขณะนั้นเขาไม่อาจพูดอะไรออกมาได้เมื่อเขาเห็นว่าทุกคนได้จับกลุ่มกันเรียบร้อยแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็โบกมือแล้วพูดว่า "มากับฉัน!"ทุกคนติดตามผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปเป็นกลุ่ม ๆ ผู้อาวุโสฮอร์สท์เข้าไปในเรือวิญญาณ ภายในเรือเต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังรีบร้อนพวกเขาเดินตามหลังผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปอย่างใกล้ชิด เดินลัดเลาะไปตามทางก่อนจะมาถึงห้องกว้างขวางในที่สุด ห้องกว้างขวางมากจนเรียกได้ว่าห้องโถงเลยทีเดียวทันทีที่พวกเขาก้าวเข้าไปในห้อง ทุกคนก็สามารถสัมผัสได้ถึงรังสีของโอสถที่หนาแน่นรอบ ๆ บรรยากาศ พื้นที่ในห้องนี้ใหญ่เกินพอสำหรับพวกเขาแปดสิบคนเฟนด์ประเมินสถานการณ์เล็กน้อย ห้องนี้ใหญ่พอที่จะรองรับคน

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2452

    พวกเขาถาโถมข้อกล่าวหาและดูหมิ่นมามากเกินไป ถึงเขาจะไม่อยากโต้เถียงกับคนพวกนี้ แต่เขาก็ยังถูกบังคับให้ต้องเงยหน้าขึ้นมาอย่างช้า ๆ อยู่วันยันค่ำเขามองเข้าไปในดวงตาของรูดี้ซึ่งเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน ราวกับเขาเป็นเพียงแมลงในสายตาของรูดี้เฟนด์หัวเราะอย่างเย็นชา “แล้วนายได้ยินเสียงสุนัขที่เห่าดังที่สุดแล้วหรือยังล่ะ?”คำพูดเหล่านั้นสามารถเยาะเย้ยทุกคนที่นั่นได้สำเร็จ เขาเปรียบเทียบกิลเบิร์ตกับสุนัขและเย้ยหยันทุกคนที่ฟังสุนัขตัวนั้นเห่า มันทำให้การแสดงออกบนใบหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปกิลเบิร์ตเกือบจะลืมความโกรธของตัวเองไปแล้ว เขาไม่อยากจะเชื่ออะไรด้วยซ้ำว่าเฟนด์จะสามารถขจัดคำดูถูกดูแคลนทั้งหมดลงได้ แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้นกิลเบิร์ตหันกลับมาจ้องมองเฟนด์ด้วยใบหน้าแดงก่ำจากความโกรธเขาอยากจะตะโกนกลับแต่ถูกรองเหรัญญิกปรามไว้ "ดูเหมือนว่านายจะไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบแล้วสินะ!"ประโยคนั้นเพียงประโยคเดียวก็ทำให้กิลเบิร์ตไม่อาจพูดอะไรออกมาได้อีก กิลเบิร์ตตระหนักได้แล้วว่าเขาได้ทำให้รองเหรัญญิกขุ่นเคืองอย่างหนักหากเขายังคงยืนกรานที่จะต่อปากต่อคำกับเฟนด์ รองเหรัญญิกอาจจะดึงเขาออกไปจริง ๆ แล้วเขาจะ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2451

    “สมองหมอนั่นจะต้องมีอะไรผิดปกติจริง ๆ นั่นแหละ เขาคิดจริง ๆ หรือว่าเขาอยู่ในระดับเดียวกับอีกสองคนที่อยู่ตรงหน้าเขา แค่เพราะไปยืนอยู่กลุ่มเดียวกัน? นั่นน่าจะตลกมากเกินไปหน่อยนะ…”“ฉันนึกว่าการทดสอบจะเข้มงวดและจริงจังเสียอีก ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะได้เห็นอะไรแบบนี้ ทำเอาฉันขำจนปวดท้องเลยล่ะ…”แอนดรูว์ขมวดคิ้วอย่างรู้สึกอับอาย รองเหรัญญิกโกรธจนตัวสั่นหลังจากได้ยินคำพูดของกิลเบิร์ต เขานึกอยากจะพุ่งตัวไปไปตบกิลเบิร์ตสักสองสามครั้งกิลเบิร์ตเพิกเฉยต่อชื่อเสียงของวิมานโอสถอย่างเห็นแก่ตัวที่สุด พวกเขาแทบอยากจะมุดดินหนี ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นี่จะเป็นความอัปยศอดสูที่วิมานโอสถไม่อาจจำกัดทิ้งได้รองเหรัญญิกตะโกนออกไปว่า "หุบปากเดี๋ยวนี้! นายกำลังพูดเรื่องบ้าอะไร ถ้าไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบ ก็ไสหัวไปซะ!"รองเหรัญญิกโกรธมาก ขณะที่เขาพูดเช่นนั้น สีหน้าของเขาดูอดสูอย่างไม่น่าเชื่อ เขายังคิดจะฆ่ากิลเบิร์ตให้ตายเสียเดี๋ยวนี้ เมื่อถูกตำหนิเช่นนั้นก็ทำให้กิลเบิร์ตตระหนักได้ว่าเขาพูดผิดไปถึงกระนั้นก็ไม่มีทางที่เขาจะถอนคำพูดเหล่านั้นกลับคืนมา เขากระแอมเบา ๆ ก่อนที่จะรีบหันศีรษะไปซ้ายทีขวาที อย่างไม่กล้

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2450

    ไม่มีใครรู้ดีไปกว่ารองเหรัญญิกว่าโอสถระดับหกหมายถึงสิ่งใด ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา วิมานโอสถรับบัณฑิตมาจำนวนนับไม่ถ้วน แต่มีไม่มากนักที่จะได้กลายเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุระดับหกจริง ๆคอนสแตนซ์ยิ้มอย่างมีความหมายขณะที่เขาเอ่ยถาม "รองเหรัญญิกคนนี้มีความสามารถหลากหลายจริง ๆ ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าวิมานโอสถจะมีอัจฉริยะกับเขาด้วย ผมไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลย"ริมฝีปากของรองเหรัญญิกกระตุก เขาต้องการอธิบายตัวเอง แต่ถ้าเขาบอกว่าเฟนด์ไม่สามารถสกัดโอสถระดับหกได้ และมีเพียงพรสวรรค์ในการสร้างอักขระทางยาเท่านั้น มันคงจะกลายเป็นเรื่องตลกครั้งใหญ่ และทุกคนคงจะหัวเราะเยาะวิมานโอสถเป็นแน่แต่ถ้าเขายังคงดื้อรั้นต่อไป พอถึงเวลาต้องบ่มเพาะโอสถ เฟนด์ก็จะเปิดเผยความจริงข้อนั้นออกมา เมื่อนั้นความอัปยศอดสูก็จะยิ่งหนักข้อขึ้นเขาถึงกับมือสั่น ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยรู้สึกเหมือนตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้มาก่อน เขารู้สึกเหมือนกำลังถูกกักขังอยู่ในกำแพงอีกสองด้าน ทุกคนคิดว่ารองเหรัญญิกกำลังวางแผนที่จะใช้ความเงียบเพื่อตอบคำถามเมื่อเห็นกับตาว่ารองเหรัญญิกไม่ตอบอะไรออกมาแต่ทว่าคอนสแตนซ์คล้ายกับจะไม่เ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2449

    เฟนด์เป็นคนเดียวที่ยังคงยืนอยู่ ขณะนั้นเขาดูคล้ายกับกำลังลังเลและดูเหมือนกำลังรออะไรบางอย่างอยู่ ขณะที่รองเหรัญญิกพูดจบ ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็จ้องมองมาอย่างอยากรู้อยากเห็นแม้ว่าดวงตาของเขาจะดูเป็นประกายมากขนาดไหน แต่เฟนด์ก็ยังคงรู้สึกถึงความเฉียบคมภายใน ราวกับว่าเขาจะถูกตัดสิทธิ์หากเขาไม่ขยับริมฝีปากของเฟนด์กระตุกอย่างช่วยไม่ได้ เขารีรอต่อไปไม่ได้แล้ว จึงได้แต่เดินไปยังพื้นที่ที่เขาวางแผนไว้ก่อนหน้านี้ในตอนแรกเฟนด์ไม่ได้ดึงดูดความสนใจใครมากนัก เขาอาจจะเป็นคนสุดท้ายที่ปรากฏตัวขึ้น ไม่มีใครจำเขาได้ ต่อให้เขาจะมาจากวิมานโอสถ แต่นอกจากคนที่เคยพบเขาแล้ว ก็ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใครขณะที่เขาเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกต่อไป ทุกคนก็เริ่มจ้องมองไปที่เขา ใบหน้าของรองเหรัญญิกก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นบูดบึ้งเมื่อเขาสังเกตเห็นว่าเฟนด์กำลังมุ่งหน้าไปทางใด“ผู้ชายคนนั้นคิดจะไปต่อหลังรูดี้หรือเปล่า? เขาคิดจะพิสูจน์ตัวเองด้วยการกลั่นโอสถระดับหกด้วยหรือ?”“ก็คงเป็นแบบนั้น เว้นแต่เขาจะเป็นคนโง่เง่าที่ไม่ทันได้ฟังกฎการตัดสินให้ดี ไม่งั้นคงไม่เดินไปแบบนั้นหรอก เขาเป็นใคร ทำไมฉันไม่เคยได้ยินอะไรเกี่ยวกับเขาเลย

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2448

    กิลเบิร์ตทำท่าราวกับกลืนแมลงวันเข้าไปสองสามตัว เขาคาดหวังว่ารองเหรัญญิกจะพูดคำเหล่านั้นกับเขาเสียอีก แต่กลับกลายเป็นว่ารองเหรัญญิกไม่ละสายตามามองเขาเลยแม้แต่วินาทีเดียวรองเหรัญญิกฝากความหวังทั้งหมดไว้กับเฟนด์ราวกับว่ากิลเบิร์ตและแอนดรูว์มาที่นี่เพื่อเพิ่มจำนวนคนเท่านั้นแอนดรูว์มีสีหน้าขมขื่นเช่นกัน ในอดีตเขาขัดแย้งกับกิลเบิร์ตมามากมาย และความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ไม่อาจพัฒนาไปในทางที่ดีได้แต่ต้องขอบคุณเฟนด์ที่ทำให้เขาสามารถวางเฉยต่อความแค้นทั้งหมดที่เคยมีได้แอนดรูว์พูดด้วยใบหน้าที่มืดมน “รองเหรัญญิก ดูเหมือนคุณจะฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่เฟนด์เลยนะ“แต่คุณก็น่าจะเตือนเฟนด์สักหน่อยว่าต่อให้เขาจะมีพรสวรรค์ค่อนข้างดี แต่ก็ไม่ควรหยิ่งผยองเกินไป”แอนดรูว์โกรธมากในขณะนั้นและอดไม่ได้จริง ๆ ที่จะต้องเอ่ยคำดูแคลนที่สุดเช่นนั้นออกมากิลเบิร์ตกล่าวเสริมอย่างรีบร้อนทันที “แอนดรูว์พูดถูก แม้ว่าพรสวรรค์ของเฟนด์จะค่อนข้างดี แต่เขาก็ไม่ควรหยิ่งผยองนัก คำพูดพวกนั้นไม่ได้ช่วยอะไรเลยสักนิด”เฟนด์ถึงกับพูดไม่ออกเมื่อถูกคนทั้งสองเหยียบย่ำ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเฟนด์ไม่ได้เอ่ยปากเลยสักคำ แล้วเขาจะเอาเวลา

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2447

    ในตอนแรก คอนสแตนซ์และซีนย์เพียงยืนเคียงข้างกันโดยไม่สนใจเรื่องนี้ พวกเขาต้องการปล่อยให้สถานการณ์ดำเนินต่อไปอย่างที่ควรจะเป็น แต่เมื่อว่าเกรย์สันและรูดี้เริ่มเถียงกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งสองคนก็ถูกบีบให้ต้องทำอะไรสักอย่างพวกเขาถูกบีบให้ต้องแยกรูดี้และเกรย์สันออกจากกัน นั่นก็เพราะ การทะเลาะกันของเด็ก ๆ ควรจะมีขีดจำกัด เพราะหากมันเกินขีดจำกัดไปแล้ว นั่นจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของพวกเขา นี่คือสิ่งที่รูดี้และเกรย์สันเองก็ไม่อยากเห็นเป็นเวลาเกือบสิบห้านาทีแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์นั่งบนเก้าอี้ ขณะมองดูการทะเลาะวิวาทและการพูดคุยกันอย่างเฉยเมย เมื่อหมดเวลาเขาก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้เสียงปรบมือดังขึ้นตอนที่เขาจะพูดว่า "เอาล่ะ หมดเวลาแล้ว ทุกคนต้องตัดสินใจได้แล้วว่าจะพิสูจน์ความสามารถของตัวเองยังไง”“ฉันไม่คิดว่าฉันจะต้องบอกอะไรพวกนายทุกอย่างหรอกนะ ตอนนี้ก็แยกออกเป็นกลุ่มเสีย ผู้ที่ต้องการรวมอักขระทางยาจะยืนอยู่ทางทิศตะวันออก“ผู้ที่ต้องการแยกแยะวัสดุสามารถยืนอยู่ตรงกลางได้เลย และหากจะพิสูจน์ตัวเองด้วยกันบ่มเพาะโอสถให้ไปยืนที่ทางทิศตะวันตก“ถึงอย่างนั้นฉันก็ต้องขอเตือนทุกคนก่อน หากทุกคนต้องการ

DMCA.com Protection Status