“นายคิดว่าจะมีผู้อาวุโสคนไหนจะยอมรับศิษย์ที่ดีแต่เลียแข้งเลียขา? เดิมทีก็มีศิษย์มากมายที่ชอบประจบประแจงผู้อาวุโสอยู่แล้ว ดังนั้นทำไมพวกอาวุโสจำเป็นจะต้องรับพวกเขาเป็นศิษย์ของตัวเองด้วยล่ะ? ถ้าเขาชอบฟังคำประจบสอพลอมากขนาดนั้น ฉันยอมลาออกจากตำแหน่งงานนี้ทันทีและไปดักรอเขาที่หน้าประตูบ้านทุกวันเพื่อเอยประโยคประจบสอพลอให้เขาวันละเป็นร้อย ๆ ประโยค โดยไม่ซ้ำกันด้วย”เซนตะลึงกับสิ่งนี้ และแม้แต่เฟนด์ก็ไม่สามารถทานทนกับรอยยิ้มจาง ๆ ที่ผุดขึ้นบนใบหน้าของเขาได้ แต่โนเอลไม่สนใจปฏิกิริยาของพวกเขาระหว่างทางกลับห้อง เฟนด์ยังคงนึกถึงสิ่งที่พวกเขาคุยกัน เขาแน่ใจว่าผู้อาวุโสก็อดฟรีย์มีแผนของตัวเองที่จู่ ๆ ก็ประกาศความตั้งใจที่จะรับศิษย์คนสุดท้ายของเขาในตอนนี้ เขาไม่เชื่อว่าผู้อาวุโสก็อดฟรีย์สามารถลืมประสบการณ์เฉียดตายที่ป่าดงอสูรไปได้ผู้คนที่ตกอยู่ในที่นั่งเดียวกับผู้อาวุโสก็อดฟรีย์เกลียดชังความอยุติธรรมอย่างยิ่ง และพวกเขาจะไม่ตอบแทนความคับข้องใจด้วยความเมตตา เป็นไปได้ว่าเขาอาจมีเจตนาอื่นแอบแฝง เมื่อความคิดของเฟนด์เบนมาที่ประเด็นนี้ เขาก็เริ่มคาดเดาถึงตัวบุคคลที่ปองร้ายผู้อาวุโสก็อดฟรีย์ครั้งก่อน
เฟนด์หยุดชั่วคราวก่อนที่จะพูดต่อ “นอกเหนือจากนั้น ผมก็ไม่คิดว่าเราจะสามารถเก็บงำทุกอย่างเอาไว้ได้ และต่อให้ผมจะบอกใครเรื่องพวกนี้ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอก ผู้อาวุโสก็อดฟรีย์จะช่วยผมเวลาผมมีปัญหาหรือเปล่า แล้วผมจะสนับสนุนเขาและมีอิทธิพลอะไรกับสถานการณ์ภายในสำนักหรือไม่? ในฐานะศิษย์ภายนอก ผมไม่ได้สลักสำคัญอะไรกับคนระดับสูงพวกนี้เลย โดยปกติแล้ว พวกเขาจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับผมเพราะความแค้นที่มีต่อผู้อาวุโสก็อดฟรีย์”แนชพยักหน้าเล็กน้อยสิ่งที่เฟนด์พูดดูมีเหตุผล แม้จะมีความกังวลใจหลงเหลืออยู่แต่เขาก็เบาใจมากขึ้น เขาเปลี่ยนหัวข้อ ไม่อยากจมปลักอยู่กับหัวข้อก่อนหน้านี้ “ลูกบอกพ่อไม่ใช่เหรอว่าลูกเห็นศพหลังจากที่ออกมาจากเวทย์ค่ายกลสิบสัมบูรณ์”สิ่งนี้ทำให้เฟนด์นึกย้อนไปถึงศพที่เขาเห็นในทันที เนื่องจากพวกเขากลับมาอยู่ในสำนักแล้วจึงถือว่าพวกเขาอยู่ในบริเวณที่ปลอดภัย เขาปิดประตูแล้ว และจะไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นถ้าเขาเอาศพออกมาในตอนนี้เฟนด์ร่ายอักษรรูนหลายตัวด้วยมือของเขา ก่อนที่มัสตาร์ด ซี๊ดถูกเปิดออกอีกครั้ง จากนั้นเขาก็นำศพดังกล่าวออกจากมัสตาร์ด ซี๊ดและวางไว้บนโต๊ะข้างหน้าเขาร่างนี้มีความสูงเท่
แนชขมวดคิ้วและโฟกัสไปที่มือขวาของศพด้วย เขายังยกมือขวาที่เหลือแต่โครงกระดูกของศพขึ้น และเขามองเห็นได้จากด้านข้างว่ามือขวากำผลึกใสไว้เท่านั้นถึงกระนั้นพวกเขาก็ไม่รู้ว่าผลึกใสนั้นคืออะไรสองพ่อลูกสบตากันก่อนจะเอื้อมไปจับมือขวาของผู้ตายพยายามง้างนิ้วออก ตอนแรกพวกเขาคิดว่าพวกเขาจะต้องออกแรงในการง้างนิ้วมือของโครงกระดูกนั้นออก เพราะเห็นว่ามันแน่นแค่ไหน แต่ทั้งเฟนด์และแนชกลับได้ยินเสียงบางอย่างกุกกักบางอย่างดังออกมา ดูคล้ายว่ากลไกดังกล่าวถูกเปิดใช้งานเมื่อพวกเขาลองขยับมันทั้งสองคนตกใจปล่อยมือขวาที่เป็นโครงกระดูก มือข้างดังกล่าวตกลงบนโต๊ะจนเสียงดังสนั่นและข้อนิ้วที่ปิดแน่นก็เปิดออกวางราบอยู่บนโต๊ะ ผลึกใสที่มือนั้นคว้าไว้แน่นก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าเฟนด์และแนชนี่เป็นผลึกใสขนาดเท่าฝ่ามือ และบรรจุของเหลวสีแดงเรืองแสงไว้ข้างใน ของเหลวสีแดงดังกล่าวดึงดูดความสนใจของเฟนด์ได้ในทันที เขาเพ่งความสนใจไปที่ของเหลวสีแดงนั้นและสังเกตเห็นว่าของเหลวนั้นดูเหมือนจะยังมีชีวิตอยู่ ของเหลวไหลวนอยู่ในผลึกและดูเหมือนจะพยายามอย่างหนักเพื่อที่จะได้หลุดพ้นจากการกักขังของผลผลึกดังกล่าว ยิ่งไปกว่านั้น บนผลผลึกดังกล่าวก
เมื่อคิดถึงสิ่งนี้เฟนด์จึงตั้งข้อสังเกตว่า “ถ้าผมสามารถรถดูดซับโลหิตสวรรค์ได้ ผมจะสามารถบ่มเพาะ ทักษะวิถีแห่งสุญญะได้!”ทักษะศิลปยุทธที่เฟนด์ฝึกฝนคือทักษะวิถีแห่งสุญญะ และทั้งหมดนี้เกี่ยวกับการควบคุมกฎแห่งสุญญะ หยาดเลือดจากมังกรจันทรคราสโบราณนี้มีพรสวรรค์และทักษะในการควบคุมกฎแห่งสุญญะอยู่ ถ้าเขาสามารถดูดซับหยาดเลือดนี้ได้ การควบคุมกฎแห่งสุญญะของเขาก็จะดีขึ้น!ท่ามกลางความตื่นเต้นของเฟนด์จู่ ๆ แนชก็พูดแทรกขึ้นมาว่า “ลูกไม่คิดว่ามันค่อนข้างแปลกเหรอ?”เฟนด์เลิกคิ้วและมองไปที่แนชอย่างสับสน แนชถอนหายใจเบา ๆ ก่อนที่จะอธิบาย “ทีแรกก็ผลึกวิญญาณสลาย แถมตอนนี้ยังมีหยาดเลือดมังกรจันทรคราสโบราณที่มีทักษะกฎแห่งสุญญะอีก ทำไมพ่อรู้สึกเหมือนกับว่าทั้งสองอย่างนี้ถูกจัดเตรียมไว้สำหรับลูกโดยเฉพาะเลยล่ะ แถมลูกก็บังเอิญต้องการมันพอดีด้วย ลูกไม่คิดว่านี่เป็นเรื่องบังเอิญมากไปหน่อยเหรอ?”แววตาที่มองผ่านดวงตาของเฟนด์และเขาพยักหน้าเล็กน้อย ดูเหมือนเป็นเรื่องบังเอิญ แต่นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่แนชพูดถึง เขาชี้ไปที่ข้อความบนผลึก “ผมไม่คิดว่ามันจะเป็นอย่างที่พ่อคิดหรอก เพราะว่าข้อความที่สลักบนผลึกนี้เป็นภาษาท
โนเอลอ้าปากค้างอย่างไม่อยากเชื่อ “ถ้าเป็นเรื่องสำคัญขนาดนั้น คิดว่าฉันจะยังมีอารมณ์มานั่งจิบชาและคุยกับนายที่นี่ได้อยู่เหรอ?”ในที่สุดเฟนด์ก็ถึงกับร้องอ๋อ ที่โนเอลพูดก็มีเหตุผล แต่นอกเหนือจากเรื่องนั้นแล้วจะมีอะไรอีกที่จะทำให้ยุ่งเหยิงได้อีก?โนเอลไม่รอให้เฟนด์ถาม เขาพูดต่อทันที “ฉันบอกนายแล้วไม่ใช่เหรอว่าผู้อาวุโสลำดับที่สิบเอ็ดกำลังรับศิษย์คนแรกและคนสุดท้ายของเขาอยู่? ศิษย์ภายในกำลังต่อสู้กันเองเพราะเหตุนี้ โอลิเวอร์เข้าร่วมเวทีการต่อสู้เดิมพันกับศิษย์ภายในคนอื่น ๆ เพราะเหตุนี้ สนามประลองเดิมพันนั้นมีแน่นขนัดจนไม่มีที่ยืน ทำให้เห็นว่ามันแน่นขนาดไหน นายอยากไปดูไหม”เฟนด์ถอนหายใจอย่างสิ้นหวัง เขาไม่คิดว่านี่เป็นเรื่องสำคัญอะไร มันเป็นเพียงเรื่องของการรับศิษย์คนสุดท้าย แล้วมันพิเศษขนาดไหนกัน? แม้ว่าศิษย์คนสุดท้ายนี้จะส่งผลต่อผู้อาวุโสก็อดฟรีย์ในอนาคต แต่สำหรับปัญหาที่ใหญ่ที่สุดที่สำนักกำลังเผชิญอยู่เท่านั้น นั่นไม่ใช่ปัญหาที่สำนักวายชนม์ก่อขึ้นหรอกหรือ?เฟนด์ส่ายหน้าโดยไม่ต้องคิดซ้ำสอง “บอกตามตรง ผมไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะต้องไปดูการประลอง แม้ว่าพวกเขาจะสู้กันจนตายไปข้างก็เถอะ ทั้งหม
เฟนด์ไม่ต้องการมีส่วนร่วมในเหตุการณ์เหล่านี้ โนเอลเม้มปากและพูดว่า “ผู้อาวุโสลำดับที่สิบเอ็ดเป็นหนึ่งในผู้อาวุโสภายใน และนี่คือศิษย์เพียงคนเดียวของเขา นี่ไม่ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่สำหรับตำหนักสองกษัตริย์ของเรา ศิษย์ของเราต่างก็เข้าใจในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในหมู่ผู้อาวุโสภายใน จึงเป็นเหตุผลที่ทุกคนให้ความสนใจเป็นพิเศษกับเรื่องนี้ ยิ่งไปกว่านั้น ผู้อาวุโสภายในคนอื่น ๆ ต่างก็ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอย่างสูงเช่นกัน สิบวันนับจากนี้ ผู้อาวุโสภายในที่มาจากสำนักฝ่ายในก็จะมารวมตัวกัน ณ จุดรวมพลนี้ด้วยเช่นกัน”ริมฝีปากของเฟนด์กระตุกเมื่อได้ยินสิ่งนี้ เนื่องจากผู้อาวุโสภายในทั้งหมดจะอยู่ที่นั่น เขาไม่สามารถทำตัวเหมือนอยู่เหนือกฎและปลีกตัวออกจากงานได้ เขาเลิกคิ้ว ใบหน้าสง่างามของผู้อาวุโสก็อดฟรีย์ฉายผ่านความคิดของเขา เขาสงสัยเหลือเกินว่าผู้อาวุโสก็อดฟรีย์จะเลือกใครเป็นศิษย์เพียงคนเดียวของเขาแม้ว่าสิ่งนี้จะไม่เกี่ยวข้องกับเขาเลยแม้แต่น้อย แต่เขาก็ไม่ต้องการให้ผู้อาวุโสก็อดฟรีย์เลือกโอลิเวอร์เป็นศิษย์เพียงคนเดียวของเขา ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น โอลิเวอร์ก็เป็นศัตรูของเขา และแน่นอนว่าย่อมไม่ใช่เรื่องดี
เลือดของสัตว์อสูรในตำนานที่พุ่งไปทางซ้ายและขวาดูคล้ายกับสัตว์อสูรที่หลุดออกจากกรงมันดูทรงพลังอย่างไม่น่าเชื่อ ดูเหมือนว่ามันต้องการที่จะรีบพุ่งออกมาและหลบหนีไปในอากาศ เฟนด์จะปล่อยให้เรื่องนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร? เขาหยิบกริชสีดำออกมาจากมัสตาร์ด ซี๊ดและเฉือนลงบนฝ่ามือขวาของตัวเองมีเลือดไหลออกจากบาดแผลในทันที และในขณะที่หยดเลือดของสัตว์อสูรในตำนานกำลังจะหลีกหนีไปได้ เขาก็ยกมือที่มีบาดแผลขึ้นเพื่อดูดซับหยาดเลือดและกักขังมันไว้ในฝ่ามือของตัวเอง จากนั้นเฟนด์ก็กดหยดเลือดตรงตำแหน่งที่เปิดแผลของเขาอย่างรวดเร็ว เลือดของสัตว์ในตำนานถูกเจือจางทันทีหลังจากที่สัมผัสกับเลือดของเฟนด์ฉ่า!เสียงที่ฟังดูเหมือนหัวแร้งร้อนจัดถูกใส่ในน้ำเย็นดังขึ้น แนชขมวดคิ้ว และความกังวลในดวงตาของเขาก็ปรากฏลึกลงไปแต่เฟนด์ไม่ได้พูดอะไรสักคำ เขากดบาดแผลที่เพิ่งสร้างในทันทีหลังจากที่เลือดของเขาผสานกับเลือดของสัตว์อสูรในตำนาน แล้วเลือดของสัตว์อสูรในตำนานก็ไหลเข้าสู่ร่างกายของเฟนด์ ด้วยวิธีดังกล่าวเฟนด์จึงได้ยินเพียงเสียงหัวใจของเขาเต้นแรงราวกับกำลังจะระเบิดผิวของเฟนด์เปลี่ยนเป็นสีแดงและร้อนขึ้นอย่างรวดเร็ว เขาไม่รอช้า
เฟนด์รู้สึกได้ถึงการระเบิดของพลังงานทำลายล้างที่พุ่งเข้าหาเขาในขณะที่บุคคลลึกลับขว้างหมัดของเขาออกไป พลังนั้นทำให้ท้องฟ้าเต็มไปด้วยดวงดาวโดยรอบสั่นสะเทือน มันเป็นคลื่นพลังอันแข็งแกร่งที่เฟนด์ไม่เคยพบเห็นมาก่อนด้วยเสียงโครมคราม เฟนด์จึงหงายหลังและร่วงลงบนพื้นอย่างเสียการทรงตัวในทันทีเมื่อเฟนด์ลืมตาขึ้นอีกครั้ง เขาก็กลับสู่โลกแห่งความเป็นจริงแล้ว และเห็นว่าพ่อของเขากำลังจ้องมองมาที่เขาอย่างเป็นห่วง แนชยื่นมือออกไปและตบแก้มเฟนด์เบา ๆ "ลูกบาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า? ลูกเห็นอะไร ทำไมเหงื่อถึงออกเยอะแบบนี้”ลมหายใจของเฟนด์ถี่ขึ้นและหัวใจของเขาก็เต้นแรง เขารู้สึกราวกับเหมือนหัวใจของเขาเต้นแรงถึงหนึ่งร้อยเก้าสิบครั้งต่อนาที เขารู้ว่าทั้งหมดล้วนเป็นเพียงภาพลวงตา แต่หมัดนั้นช่างน่ากลัวจริง ๆ หากเขายืนอยู่ต่อหน้าชายชุดดำจริง ๆ ก็ไม่มีความจำเป็นที่ชายคนนั้นจะต้องต่อยเขาเลยด้วย เพราะเฟนด์คงกลายเป็นเถ้าถ่านและหายไปจากโลกนี้ไปด้วยลมหายใจของชายคนนั้นเฟนด์โบกมืออย่างอ่อนแรงและยอมให้แนชช่วยพยุงให้เขานั่งตัวตรง “ผมไม่เป็นอะไร มันเป็นแค่ภาพลวงตา แต่ที่น่ากลัวกว่านั้นก็คือ”ทันทีที่เฟนด์พูด แนชก็โพล่งอ