แชร์

บทที่ 209

ผู้แต่ง: โมเนโต้
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
“จริง งั้นเราไปโชวรูมปอร์เช่ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกันดีกว่า" เฟนด์พยักหน้าแล้วพาเซเลน่าออกไปข้างนอก

“ปอร์เช่?”

พนักงานทั้งสองคนก็ตอบรับทันที หลังจากที่ทั้งสามคนออกไป ทั้งคู่ต่างมองหน้ากัน และต่างสงสัยว่าได้ยินเฟนด์พูดผิดรึเปล่าเมื่อสักครู่นี้

เมื่อได้ยินราคาของ BMW ทั้งคู่คิดว่าครอบครัวนี้จะไปที่ร้านที่ขายรถยนต์ราคาถูกกว่า พวกเธอทั้งคู่ไม่เคยคิดว่าพวกเขาจะไปที่ร้านปอร์เช่จริง ๆ

"จอยซ์ เธอคิดว่าเราเสียลูกค้าที่มีศักยภาพไปหรือเปล่า? ถ้าเกิดเขามีเงินล่ะ?" พนักงานที่ถูพื้นก็ขมวดคิ้ว สีหน้าของเธอค่อนข้างเสียใจ

"ไม่มีทาง!" จอยซ์ตอบทันที "เสื้อผ้าที่ผู้หญิงคนนั้นสวมใส่ดูไม่ได้แย่จนเกินไป แต่เสื้อผ้าของผู้ชาย ดูก็รู้ว่ามาจากของตามท้องตลาด” เธอกล่าว “เธอคิดว่าคนแบบนี้จะร่ำรวยแค่ไหน เขาอาจจะพูดอะไรบางอย่างเพื่อยั่วโมโหเรา เพื่อที่จะรักษาหน้าของเขาก็เท่านั้น”

เมื่อเธอพูดจบ เธอก็เดินตรงไปที่ประตู "ถ้าเธอไม่เชื่อฉันนะ เธอลองมองพวกเขาจากตรงนี้ พวกเขาจะไม่เข้าไปในนั้นอย่างแน่นอน!"

พนักงานขายที่กำลังถูพื้นอยู่นั้น ก็เข้ามาร่วมวงกับจอยซ์บริเวณทางเข้าด้วย คิ้วของเธอขมวด "เป็นไปไม่ได้… จอยซ์ พวกเขาเข้
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 210

    พนักงานขายคนนั้นกําลังถูพื้นอย่างกระฉับกระเฉง ด้วยอากาศที่ร้อนอบอ้าว ทำให้เหงื่อไหลลงบนหน้าผากของเธอเธอเงยหน้าขึ้น เห็นสามีภรรยาคู่หนึ่งอยู่บริเวณทางเข้า อ้อมแขนของผู้ชายคนนั้นถึงกับกอดสาวน้อยน่ารัก เธอรีบวางไม้ถูพื้นไว้ข้าง ๆ และเดินเข้าไปหาพร้อมกับรอยยิ้มที่ประดับอยู่บนใบหน้าทันที"คุณสองคนมาดูรถของเราหรือเปล่าคะ? เข้ามาด้านในก่อนค่ะ รับน้ำดื่มอะไรดีคะ? เรามีน้ํามะนาว กาแฟ น้ำเปล่า เลือกดื่มที่ชอบได้เลยค่ะ"พนักงานขายตั้งคําถามมากมายกับพวกเธอ รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอไม่เคยหายไปเลยเซเลน่าตกใจไปพักหนึ่ง แล้วก็ดูพื้นที่เพิ่งถูไป "คุณไม่ห่วงหรือว่าเราจะทําให้พื้นที่คุณเพิ่งทําความสะอาดเสร็จนั้นสกปรกเลอะเทอะ?""ไม่ต้องห่วง! คุณเป็นลูกค้าของเรา และคุณคือพระราชาของที่นี่ คุณจะเดินก้าวไปตรงไหนก็ได้ที่คุณต้องการ!”หลังจากคนขายพูดจบ เธอมองไปที่ไคลี “เป็นหญิงสาวที่น่ารักมากเลยนะคะ” หล่อนยิ้ม “หนูสวยจริง ๆ มันคงจะดีไม่น้อยถ้าในอนาคตฉันจะมีลูกสาวที่สวยเหมือนหนู”"ดาน่า... ทําไมเธอถึงต้อนรับทุกคนที่เธอเห็น? มันดีกับเธอหรือเปล่า"“ใช่ ที่นี่เราขายปอร์เช่ สามีภรรยาคู่นี้พอจะซื้อได้ไหม? ร้านเร

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 211

    “ใช่! ใช่ เรามีค่ะ"ดาน่าดีใจเสียงสั่นเมื่อพูด รุ่นพิเศษนี้มีราคาแพงมาก ถ้าสามารถขายได้หนึ่งในนั้นทุกเดือนก็เพียงพอแล้วแม้หลายคนจะซื้อรถปอร์เช่ แต่ก็ยังไม่สามารถขายรถรุ่นที่มีราคาขายมากกว่า 2 ล้านเหรียญได้อย่างสม่ำเสมอและที่สําคัญทางเฟนด์ได้ขอซื้อรุ่นเดียวกัน ถึงสองคันด้วยกัน"ฉันฟังผิดหรือเปล่า?"ขากรรไกรของพนักงานอีกคนถึงกับค้าง เธอจ้องบัตรเครดิตด้วยความตกใจ "ไม่ เดี๋ยว" หล่อนบอก "นี่คือการ์ดอะไร ทําไมไม่เคยเห็นมาก่อน"ริมฝีปากของเฟนด์แสยะยิ้ม “เป็นการ์ดพิเศษ ทั่วโลกมีแค่ห้าประเภท มันคงแปลกมากถ้าคุณเคยเห็นมันมาก่อน! ผมคิดว่าผมคือคนเดียวใน แคทธีเซียที่มีการ์ดนี้"พนักงานขายก็ยิ้มอย่างไม่สบอารมณ์ เมื่อได้ยินประโยคนี้ "คุณโกหก ในโลกนี้มีไม่ถึง 5 ประเภท? เราไม่รู้ว่าคุณจะรูดบัตรด้วยเงินนั่นได้ไหม ถ้าคุณเป็นคนเดียวในแคทธีเซียที่เป็นเจ้าของบัตรใบนี้จริง คงไม่มีใครที่จะจำมันได้ แต่นั่นก็หมายความว่าไม่มีใครสามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นของจริง ไม่ใช่เหรอ? คุณคิดว่าคุณฉลาดใช่ไหม? ช่างเป็นคําโกหกที่ไร่ข้อกังขา!"เซเลน่ารีบเอามือข้างหนึ่งปิดปากของเธอ เพื่อกลั้นเสียงหัวเราะที่จะหลุดออกมา สามี

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 212

    ตลอดห้าปีที่ผ่านมา ครอบครัวของพวกเขาต้องทนทุกข์ด้วยกัน ในช่วงเวลานั้น เซเลน่าคิดอยู่เสมอว่า การมีชีวิตที่ดี หรือขับรถดี ๆ สักคันจะวิเศษแค่ไหนโชคไม่ดีที่เธอไม่มีทางเลือก เธอได้แต่กัดฟันและเอาตัวรอดต่อไปวัน ๆเป็นเรื่องธรรมดาที่เธอสามารถเอาชนะอาการหวาบหวิวที่อยู่ในใจได้ เพราะในที่สุดเธอก็สามารถขับรถหรูที่มีมูลค่ากว่า 2 ล้านเหรียญนี้ได้“ฮะ! เซเลน่าหรอกเหรอ?”ฟีโอน่าวิ่งออกมาจากบ้าน เธอสังเกตเห็นว่าเป็นเฟนด์กับเซเลน่าที่ลงมาจากรถ ทันใดนั้นเธอก็ตะโกนบอกบ้านว่า "แอนดรูว์ มานี่! ดูนั่นสิ! ลูกสาวของเรา พระเจ้า รถสวยจัง คงใช้เงินไปเยอะ""เซเลน่า เกิดอะไรขึ้น...เกิดอะไรขึ้น?” เบ็นเข้าไปหาเธอ "มันต้องแพงแน่ ๆ มันดูใหม่มาก พระเจ้า อย่าบอกนะว่านี่เป็นของพี่?” เขาถาม"ก็ใช่...."เซเลน่าขมวดคิ้ว ชําเลืองมองสามี เธอไม่รู้จะอธิบายยังไงถ้าเธอบอกแม่ว่าเฟนด์มีเงินสดมากพอ ที่จะซื้อรถสองคันนี้ เธอคงคิดว่าเฟนด์ยอมเอาเงินของเขามาชดเชย 3.8 ล้านที่เธอถูกขโมยไป งั้นเธอคงไม่ดีใจขนาดนั้นหรอก!เฟนด์ก็มีความคิดแบบนี้เหมือนกัน เขาก็ตะลึงตามภรรยาของเขาไปเหมือนกันเมื่อเซเลน่าไม่ตอบ ฟีโอน่ารีบเดินเข้าหาเขา

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 213

    “ใช่! นั่นล่ะ!”เซเลน่าหัวเราะอย่างอาย ๆ หากแม่ของเธอพบรู้ว่าเฟนด์ใช้เงินของเขาในการซื้อรถสองคัน รวมมูลค่ากว่า 5 ล้านเหรียญ เธออาจจะบอกเฟนด์ให้ควักกระเป๋าเงินออกมาต่อหน้าเธอโชคยังดีที่เฟนด์ตั้งสติคิดได้อย่างรวดเร็ว เขาแค่โยนความผิดให้ทันย่า"ครอบครัวเดรคร่ำรวยจริง ๆ เขาให้ทั้งสองคนขับรถบริษัท และเป็นรถที่หรูหราขนาดนี้ด้วย!""เธอใช้เงินซื้อนี่ไปเท่าไหร่" เบ็นถามเฟนด์อย่างตื่นเต้น"ไม่เยอะหรอก รถคันละประมาณ 2.7 ล้าน!" เฟนด์ยิ้ม"รถ 2.7 ล้านคันต่อคัน อย่างที่ผมคิด รถยนต์แบบนี้อย่างน้อย ๆ ต้องใช้เงินถึง 2 ล้านเหรียญ แต่จริง ๆ แล้วราคาคันละ 2.7 ล้าน พระเจ้า มันเยี่ยมมาก มันเป็นรถที่ผู้ชายควรขับ!"เบ็นตื่นเต้นจนกระโดดไปทั่ว ร่างกายของเขาสั่นระริกระรี้ด้วยความดีใจ"งั้นอย่าบอกนะว่ารถสองคันมีค่ามาก 5 ล้านงั้นหรือ? พระเจ้า โลกของคนรวย ไม่อาจจินตนาการได้จริง ๆ!"ซีน่าก็ตกใจเหมือนกัน เธอกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากเธออยากจะลองดูคลุกคลีกับคนชั้นชนสูงว่าใช้เบ็นเป็นทางผ่าน ยังไงซะเขาก็เป็นพวกชนชั้นสูง แน่นอน เขาถูกไล่ออกจากบ้าน แต่ใครจะไปรู้ว่า วันหนึ่งนายใหญ่เทย์เลอร์ อาจจะเปลี่ยนใจใช่ห

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 214

    อย่ากังวลไปเลยค่ะแม่ เฟนด์จะได้เงินมาคืนแน่นอน"เซเลน่ายิ้มและตอบว่า "โอเค เดี๋ยวเฟนด์กับหนูจะต้องไปงานเลี้ยงรุ่น เพื่อนเก่าของหนูสองสามคนชวนไปดื่ม สังสรรค์และร้องเพลงที่บาร์! หนูไม่ได้เจอพวกเขานานแล้วเลยต้องไปเจอกันสักหน่อย”เฟนด์และเซเลน่า พักผ่อนอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะไปอาบน้ำ จากนั้นทั้งคู่เตรียมออกไปข้างนอกเมื่อใกล้ถึงเวลา“ฮะ? แม่คะ รถอยู่ไหนคะ?"เมื่อเซเลน่าเห็นลานที่ว่างเปล่า ใบหน้าก็หมองคล้ำลง ขณะที่เธออาบน้ำ เธอได้ยินเสียงรถดังขึ้น แต่เธอคิดว่ามันมาจากถนน เธอไม่คิดว่ารถปอร์เช่ของเธอจะถูกขับออกไป“อ้อ ซีน่ากับน้องชายของลูกออกไปนั่งรถเล่นด้วยกัน” ฟีโอน่าตอบสั้น ๆเซเลน่ามุมปากประตุก “แม่คะ พวกเขาขับรถคันเดียวกันไม่ได้หรือไง ถ้าพวกเขาอยากจะขับมันมากขนาดนั้น” เธอพูดกับฟีโอน่า “ทำไมทั้งคู่ต้องขับออกไป? พวกเขารู้ว่าหนูจะต้องไปธุระที่ข้างนอก ทำไมพวกเขาถึงไม่ทิ้งรถไว้ให้หนู แล้วตอนนี้หนูกับเฟนด์จะทำยังไง?”"แหม… น้องแกแค่อยากจะขับออกไปอวดเพื่อน ๆ เท่านั้น” ฟีโอน่ารีบตอบทันที โดยไม่ได้สนใจความรู้สึกของลูกสาว “น้องมันให้ลูกกับเฟนด์ เรียกรถแท็กซี่ไปลูกมีนัดก่อน ปล่อยให้พวกเขาขับรถกัน

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 215

    "เธอเป็นผู้หญิงในตระกูลเทย์เลอร์ เธอยังมีความสามารถพิเศษในเชิงธุรกิจ ฉันจำได้ว่าตอนเราเรียนด้วยกัน เกรดของเธอดีที่สุดเสมอ เธอคงจะทํางานได้ดีกว่า คนงานรับจ้างทั่วไปของเราเสียอีก!" ผู้หญิงคนหนึ่งพูดเสียงดัง เธอใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวกับกระโปรงทรงดินสอสีดํา“นี่... ฉันคิดว่าเธอคงนึกภาพไม่ออกหรอกว่าเกิดอะไรขึ้นกับเซเลน่า และตอนนี้เธอทําอะไรอยู่ จริงไหมโรซ่า!"ชายใส่แว่นปรับแว่นบริเวณสันจมูกของเขา แสดงให้เห็นถึงใบหน้าที่ฉลาดและทันสมัย "ห้าปีที่แล้ว หลังจากเราเรียนจบได้ไม่นาน" เขาพูดกับโรซ่าว่า "เซเลน่าแต่งงานแล้ว!""อะไร? เธอแต่งงานแล้วเหรอ?"โรซ่าตกใจมากที่ทราบข่าวนี้ สําหรับผู้หญิงยุคใหม่ การแต่งงานนั้นถือว่าเร็วเกินไป โดยเฉพาะสําหรับผู้หญิงแกร่งอย่างเซเลน่า ที่มุ่งมั่นกับการทำงานเป็นหลัก นอกจากนี้ เธออายุเพียง 27 ปีเซเลน่าอายุเท่าเธอ ถ้าเธอแต่งงานเมื่อห้าปีก่อน ถาตอนนี้เธอมีลูก ลูกของเธอก็สามารถเดินวิ่งได้แล้ว"นั่นไม่จริงเหรอ? ฉันก็ได้ยินข่าวลือเหมือนกัน!"ผู้หญิงอีกคนหัวเราะแล้วพูดว่า"เธอยังไงก็ต้องมา!"สีหน้าของราเชลเริ่มหม่นหมอง เธอไม่เคยคาดคิดมาก่อน ว่าฮิวจะชวนเซเลน่ามางานปาร์

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 216

    ถูกไหม? เซเลน่าตอนนี้เหมือนเป็นคนละคนกัน เป็นพวกเสแสร้ง... เธอไม่มีเงิน แต่เธอชอบแกล้งรวย! "พวกเธอยังไม่ได้เจอสามีเธอเลย" ราเชลพูดอย่างร้ายกาจ "เขาเป็นคนดุจริง ๆ เขารู้จักแต่การต่อสู้ เขาไม่มีการศึกษามากขนาดนั้น เขาเอาแต่ทะเลาะกันทั้งวัน ฉันนึกไม่ออกเลยว่าอนาคตของเซเลน่าจะเป็นอย่างไร เมื่อแต่งงานกับผู้ชายแบบนี้!"ดีแลนที่เอาแต่เงียบตั้งแต่แรกก็พูดใส่ไฟว่า "ถูกไหม? คนอย่างเขามีแนวโน้มรุนแรงเสมอ หึ... ถ้าเซเลน่าโกรธเขาซักวัน เขาอาจมีคดีทําร้ายร่างกายกันในครอบครัวก็ได้"โรซ่าตกใจเมื่อได้ยินประโยคนี้ "เป็นไปไม่ได้... ฉันเกลียดผู้ชายที่ใช้ความรุนแรง ผู้ชายแบบไหนที่ทําร้ายผู้หญิง""ไม่ใช่อย่างนั้นเหรอ? ผมคิดว่าตอนนี้เซเลน่ามีชีวิตที่ไม่ค่อยดีนัก!""แต่เซลิน่าก็ยังยืนด้วยเท้าตัวเอง เธอสวยและเก่งมาก จนเธอได้ชื่อว่าเป็นสาวสวยแห่งอาณาเขตกลางเลยทีเดียว คงจะดีไม่น้อยหากเธอได้แต่งงานกับคนร่ำรวย ใคร ๆ ก็คงจะดีกว่าสามีคนปัจจุบันของเธอเป็นสิบเท่า!”ราเชลพูดระบายมันออกมารางกับว่าเธอเห็นแกเซเลน่าและโกรธแทนเธอ "เมื่อก่อนเซเลน่าไม่ใช่คนแบบนี้!"โรซ่าถอนหายใจ เซเลน่ากลายเป็นแบบนี้ น่าเสียดายจริง ๆ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 217

    โอ้ ใช่ สามีของราเชลจะเลี้ยงเราใช่ไหม? เขาเป็นผู้จัดการโรงงาน บอสใหญ่ เงินเล็ก ๆ น้อย ๆ นี้ไม่มีความหมายอะไรกับเขาเลย" โรซ่าหัวเราะดีแลนทําหน้าเข้มขึ้น เรื่องจริง : เขาเคยพูดไว้ว่า เขาจะทําดีกับทุก ๆ คน เพื่อสร้างชื่อเสียงให้กับเขาอย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเช้าวันนี้ ทําให้เขาสูญเสียเงินไปมาก นอกจากนี้ โรงงานของพวกเขาก็ไม่ได้รับออเดอร์มากในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา ถ้าพวกเขาไม่กินดื่มจนหลายแสน เขาอาจจะมีเงินจ่ายที่สําคัญเขาต้องจ่ายเงินค่ารักษาให้กับโรงพยาบาลเป็นจํานวนมาก"ไม่มีปัญหา!"ราเชลหัวเราะแก้เก้อ เธอพูดแบบนั้นตอนคุยโม้ ตอนนี้เธอไม่สามารถหันหลังกลับได้ และในขณะที่ชื่อเสียงของเธอถูกดูหมิ่น"สวัสดีทุกคน ไม่ได้เจอกันตั้งนาน!"เทรเวอร์หัวเราะด้วยความดีใจเมื่อเดินเข้ามาใช่ เทรเวอร์ เราไม่ได้เจอกันนานแล้ว วันนี้เรามารวมกลุ่มกันเพื่อต้อนรับพวกเรากลับมา!"ฮิวยิ้ม "เกิดอะไรขึ้น? แฟนของนายไม่ได้มาด้วยกันเหรอ?""โอ้ เธอมีงานต้องทําคืนนี้ นั่นคือเหตุผลที่เธอไม่ได้อยู่ที่นี่"เทรเวอร์กวาดสายตามองผู้คน "เกิดอะไรขึ้น? เราไม่ได้อยู่ที่นี่ทั้งหมดเหรอ? ทําไมเราไม่เข้าไปล่ะ?"

บทล่าสุด

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2455

    ตราบใดที่มันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการบ่มเพาะโอสถของเขา ทั้งสองคนจะทำอะไรตามต้องการก็ย่อมได้ สิ่งนั้นไม่กระทบอะไรกับเขาเลย“ถึงฉันจะดูแคลนหมอนี่ แต่เขาก็ยังกล้าเสมอ เขาก็คงจะมีความสามารถอยู่บ้าง เขาน่าจะผ่านสองขั้นตอนแรกได้อย่างไม่มีปัญหา” เกรย์สันพูดอย่างชัดเจนรูดี้มองไปที่เกรย์สันด้วยรอยยิ้มเย็นชาบนใบหน้าแล้วตอบว่า "นายดูมั่นใจกับหมอนี่มากเลยนะ ฉันจะคิดว่าทุกครั้งที่เขาพูดก่อนหน้านี้ล้วนเป็นเรื่องไร้สาระทั้งหมด“ฉันคิดว่าเขาอาจจะไปถึงขั้นที่สองก่อนที่เขาจะล้มเหลวโดยสิ้นเชิง! ฉันอยากเห็นจริง ๆ ว่าถ้าล้มเหลวขึ้นมา เด็กสารเลวคนนี้จะสู้หน้าเราได้ยังไง”เกรย์สันสูดหายใจเข้าลึก ๆ เขารู้สึกได้ว่าความโกรธของรูดี้ที่มีต่อเฟนด์นั้นลึกซึ้งกว่าของเขามากดวงตาของรูดี้ลุกเป็นไฟ เห็นได้ชัดว่าเขาเกลียดเฟนด์มากเพียงใดเกรย์สันหัวเราะอย่างเย็นชา "แล้วมาดูกันว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ฉันคิดว่าเขาน่าจะสามารถไปถึงขั้นตอนสุดท้ายได้ ถ้าเขาสามารถควบรวมอักขระทางยาได้ถึงร้อยเม็ดเขาก็น่าจะมาถึงระดับนั้น"หลังจากที่ทั้งสองพูดเรื่องเหล่านั้นออกมา พวกเขาก็ปิดปากเงียบพร้อม ๆ กับการมองดูเฟนด์โดยไม่พูดอะไรพวกเขามอง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2454

    ผู้อาวุโสฮอร์สท์กระแอมเล็กน้อยในขณะที่เขาพูดต่อ “หลังจากที่เธอบ่มเพาะโอสถได้สำเร็จแล้ว ให้นำโอสถมาให้ฉันตรวจสอบ พวกเธอจะมีเวลาในการทดสอบทั้งสิ้นแปดชั่วโมง ถ้าเธอไม่สามารถบ่มเพาะโอสถได้ภายในแปดชั่วโมง ก็จะแปลว่าไม่ผ่านการทดสอบ ดังนั้นอย่าได้ช้าเกินไป”พวกเขาทั้งสามพยักหน้าแทบจะพร้อมกัน หลังจากผู้อาวุโสฮอร์สท์ให้คำแนะนำแล้ว เขาก็จัดให้มีคนงานสองสามคนคอยเป็นคนตรวจ มีผู้ดูแลยืนอยู่ด้านหลังทั้งสามคนเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่ทำอะไรผิดพลาดหลังจากนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็หันกลับมาและไปหาผู้สอบคนอื่น ๆ รูดี้หรี่ตาลง ขณะที่เขาเหลือบมองเฟนด์และพูดว่า "ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการบ่มเพาะโอสถระดับหกคือขั้นตอนสุดท้าย แต่ขั้นตอนแรกก็ไม่ง่ายเช่นกัน ถ้านายรู้ว่าทำไม่ได้ ก็อย่าทำให้ต้องสิ้นเปลืองวัตถุดิบเลย ของพวกนี้ล้วนมีราคาค่างวด ต่อให้นายจะขายตัวเองเป็นทาสก็ยังไม่พอให้ซื้อของพวกนี้!”เฟนด์ถอนหายใจออกเบา ๆ หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาเบื่อเกินกว่าจะอ้าปากพูดด้วยซ้ำ เขาตัดสินใจที่จะเพิกเฉยต่อผู้ชายคนนั้นและทุกสิ่งที่จะออกมาจากปากเขา ถึงโต้ตอบไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรอยู่ดี

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2453

    เกรย์สันหรี่ตาลงขณะที่เขามองเฟนด์ด้วยความโกรธเช่นกัน เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ดูเหมือนว่าวันนี้ นายจะมาที่นี่เพื่อหาเรื่องขายหน้าให้กับตัวเองเท่านั้น"หลังจากพูดจบเกรย์สันก็หันหลังกลับและเงียบไป เสียงความขัดแย้งหยุดลง และทุกคนรอบ ๆ ก็เริ่มกระซิบกระซาบกันผู้อาวุโสฮอร์สท์มองเฟนด์อย่างมีความหมาย ราวกับว่าเขามองเฟนด์ในมุมมองที่ต่างออกไป ทันใดนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็อยากรู้เรื่องของเฟนด์อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ในขณะนั้นเขาไม่อาจพูดอะไรออกมาได้เมื่อเขาเห็นว่าทุกคนได้จับกลุ่มกันเรียบร้อยแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็โบกมือแล้วพูดว่า "มากับฉัน!"ทุกคนติดตามผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปเป็นกลุ่ม ๆ ผู้อาวุโสฮอร์สท์เข้าไปในเรือวิญญาณ ภายในเรือเต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังรีบร้อนพวกเขาเดินตามหลังผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปอย่างใกล้ชิด เดินลัดเลาะไปตามทางก่อนจะมาถึงห้องกว้างขวางในที่สุด ห้องกว้างขวางมากจนเรียกได้ว่าห้องโถงเลยทีเดียวทันทีที่พวกเขาก้าวเข้าไปในห้อง ทุกคนก็สามารถสัมผัสได้ถึงรังสีของโอสถที่หนาแน่นรอบ ๆ บรรยากาศ พื้นที่ในห้องนี้ใหญ่เกินพอสำหรับพวกเขาแปดสิบคนเฟนด์ประเมินสถานการณ์เล็กน้อย ห้องนี้ใหญ่พอที่จะรองรับคน

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2452

    พวกเขาถาโถมข้อกล่าวหาและดูหมิ่นมามากเกินไป ถึงเขาจะไม่อยากโต้เถียงกับคนพวกนี้ แต่เขาก็ยังถูกบังคับให้ต้องเงยหน้าขึ้นมาอย่างช้า ๆ อยู่วันยันค่ำเขามองเข้าไปในดวงตาของรูดี้ซึ่งเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน ราวกับเขาเป็นเพียงแมลงในสายตาของรูดี้เฟนด์หัวเราะอย่างเย็นชา “แล้วนายได้ยินเสียงสุนัขที่เห่าดังที่สุดแล้วหรือยังล่ะ?”คำพูดเหล่านั้นสามารถเยาะเย้ยทุกคนที่นั่นได้สำเร็จ เขาเปรียบเทียบกิลเบิร์ตกับสุนัขและเย้ยหยันทุกคนที่ฟังสุนัขตัวนั้นเห่า มันทำให้การแสดงออกบนใบหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปกิลเบิร์ตเกือบจะลืมความโกรธของตัวเองไปแล้ว เขาไม่อยากจะเชื่ออะไรด้วยซ้ำว่าเฟนด์จะสามารถขจัดคำดูถูกดูแคลนทั้งหมดลงได้ แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้นกิลเบิร์ตหันกลับมาจ้องมองเฟนด์ด้วยใบหน้าแดงก่ำจากความโกรธเขาอยากจะตะโกนกลับแต่ถูกรองเหรัญญิกปรามไว้ "ดูเหมือนว่านายจะไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบแล้วสินะ!"ประโยคนั้นเพียงประโยคเดียวก็ทำให้กิลเบิร์ตไม่อาจพูดอะไรออกมาได้อีก กิลเบิร์ตตระหนักได้แล้วว่าเขาได้ทำให้รองเหรัญญิกขุ่นเคืองอย่างหนักหากเขายังคงยืนกรานที่จะต่อปากต่อคำกับเฟนด์ รองเหรัญญิกอาจจะดึงเขาออกไปจริง ๆ แล้วเขาจะ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2451

    “สมองหมอนั่นจะต้องมีอะไรผิดปกติจริง ๆ นั่นแหละ เขาคิดจริง ๆ หรือว่าเขาอยู่ในระดับเดียวกับอีกสองคนที่อยู่ตรงหน้าเขา แค่เพราะไปยืนอยู่กลุ่มเดียวกัน? นั่นน่าจะตลกมากเกินไปหน่อยนะ…”“ฉันนึกว่าการทดสอบจะเข้มงวดและจริงจังเสียอีก ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะได้เห็นอะไรแบบนี้ ทำเอาฉันขำจนปวดท้องเลยล่ะ…”แอนดรูว์ขมวดคิ้วอย่างรู้สึกอับอาย รองเหรัญญิกโกรธจนตัวสั่นหลังจากได้ยินคำพูดของกิลเบิร์ต เขานึกอยากจะพุ่งตัวไปไปตบกิลเบิร์ตสักสองสามครั้งกิลเบิร์ตเพิกเฉยต่อชื่อเสียงของวิมานโอสถอย่างเห็นแก่ตัวที่สุด พวกเขาแทบอยากจะมุดดินหนี ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นี่จะเป็นความอัปยศอดสูที่วิมานโอสถไม่อาจจำกัดทิ้งได้รองเหรัญญิกตะโกนออกไปว่า "หุบปากเดี๋ยวนี้! นายกำลังพูดเรื่องบ้าอะไร ถ้าไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบ ก็ไสหัวไปซะ!"รองเหรัญญิกโกรธมาก ขณะที่เขาพูดเช่นนั้น สีหน้าของเขาดูอดสูอย่างไม่น่าเชื่อ เขายังคิดจะฆ่ากิลเบิร์ตให้ตายเสียเดี๋ยวนี้ เมื่อถูกตำหนิเช่นนั้นก็ทำให้กิลเบิร์ตตระหนักได้ว่าเขาพูดผิดไปถึงกระนั้นก็ไม่มีทางที่เขาจะถอนคำพูดเหล่านั้นกลับคืนมา เขากระแอมเบา ๆ ก่อนที่จะรีบหันศีรษะไปซ้ายทีขวาที อย่างไม่กล้

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2450

    ไม่มีใครรู้ดีไปกว่ารองเหรัญญิกว่าโอสถระดับหกหมายถึงสิ่งใด ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา วิมานโอสถรับบัณฑิตมาจำนวนนับไม่ถ้วน แต่มีไม่มากนักที่จะได้กลายเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุระดับหกจริง ๆคอนสแตนซ์ยิ้มอย่างมีความหมายขณะที่เขาเอ่ยถาม "รองเหรัญญิกคนนี้มีความสามารถหลากหลายจริง ๆ ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าวิมานโอสถจะมีอัจฉริยะกับเขาด้วย ผมไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลย"ริมฝีปากของรองเหรัญญิกกระตุก เขาต้องการอธิบายตัวเอง แต่ถ้าเขาบอกว่าเฟนด์ไม่สามารถสกัดโอสถระดับหกได้ และมีเพียงพรสวรรค์ในการสร้างอักขระทางยาเท่านั้น มันคงจะกลายเป็นเรื่องตลกครั้งใหญ่ และทุกคนคงจะหัวเราะเยาะวิมานโอสถเป็นแน่แต่ถ้าเขายังคงดื้อรั้นต่อไป พอถึงเวลาต้องบ่มเพาะโอสถ เฟนด์ก็จะเปิดเผยความจริงข้อนั้นออกมา เมื่อนั้นความอัปยศอดสูก็จะยิ่งหนักข้อขึ้นเขาถึงกับมือสั่น ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยรู้สึกเหมือนตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้มาก่อน เขารู้สึกเหมือนกำลังถูกกักขังอยู่ในกำแพงอีกสองด้าน ทุกคนคิดว่ารองเหรัญญิกกำลังวางแผนที่จะใช้ความเงียบเพื่อตอบคำถามเมื่อเห็นกับตาว่ารองเหรัญญิกไม่ตอบอะไรออกมาแต่ทว่าคอนสแตนซ์คล้ายกับจะไม่เ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2449

    เฟนด์เป็นคนเดียวที่ยังคงยืนอยู่ ขณะนั้นเขาดูคล้ายกับกำลังลังเลและดูเหมือนกำลังรออะไรบางอย่างอยู่ ขณะที่รองเหรัญญิกพูดจบ ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็จ้องมองมาอย่างอยากรู้อยากเห็นแม้ว่าดวงตาของเขาจะดูเป็นประกายมากขนาดไหน แต่เฟนด์ก็ยังคงรู้สึกถึงความเฉียบคมภายใน ราวกับว่าเขาจะถูกตัดสิทธิ์หากเขาไม่ขยับริมฝีปากของเฟนด์กระตุกอย่างช่วยไม่ได้ เขารีรอต่อไปไม่ได้แล้ว จึงได้แต่เดินไปยังพื้นที่ที่เขาวางแผนไว้ก่อนหน้านี้ในตอนแรกเฟนด์ไม่ได้ดึงดูดความสนใจใครมากนัก เขาอาจจะเป็นคนสุดท้ายที่ปรากฏตัวขึ้น ไม่มีใครจำเขาได้ ต่อให้เขาจะมาจากวิมานโอสถ แต่นอกจากคนที่เคยพบเขาแล้ว ก็ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใครขณะที่เขาเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกต่อไป ทุกคนก็เริ่มจ้องมองไปที่เขา ใบหน้าของรองเหรัญญิกก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นบูดบึ้งเมื่อเขาสังเกตเห็นว่าเฟนด์กำลังมุ่งหน้าไปทางใด“ผู้ชายคนนั้นคิดจะไปต่อหลังรูดี้หรือเปล่า? เขาคิดจะพิสูจน์ตัวเองด้วยการกลั่นโอสถระดับหกด้วยหรือ?”“ก็คงเป็นแบบนั้น เว้นแต่เขาจะเป็นคนโง่เง่าที่ไม่ทันได้ฟังกฎการตัดสินให้ดี ไม่งั้นคงไม่เดินไปแบบนั้นหรอก เขาเป็นใคร ทำไมฉันไม่เคยได้ยินอะไรเกี่ยวกับเขาเลย

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2448

    กิลเบิร์ตทำท่าราวกับกลืนแมลงวันเข้าไปสองสามตัว เขาคาดหวังว่ารองเหรัญญิกจะพูดคำเหล่านั้นกับเขาเสียอีก แต่กลับกลายเป็นว่ารองเหรัญญิกไม่ละสายตามามองเขาเลยแม้แต่วินาทีเดียวรองเหรัญญิกฝากความหวังทั้งหมดไว้กับเฟนด์ราวกับว่ากิลเบิร์ตและแอนดรูว์มาที่นี่เพื่อเพิ่มจำนวนคนเท่านั้นแอนดรูว์มีสีหน้าขมขื่นเช่นกัน ในอดีตเขาขัดแย้งกับกิลเบิร์ตมามากมาย และความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ไม่อาจพัฒนาไปในทางที่ดีได้แต่ต้องขอบคุณเฟนด์ที่ทำให้เขาสามารถวางเฉยต่อความแค้นทั้งหมดที่เคยมีได้แอนดรูว์พูดด้วยใบหน้าที่มืดมน “รองเหรัญญิก ดูเหมือนคุณจะฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่เฟนด์เลยนะ“แต่คุณก็น่าจะเตือนเฟนด์สักหน่อยว่าต่อให้เขาจะมีพรสวรรค์ค่อนข้างดี แต่ก็ไม่ควรหยิ่งผยองเกินไป”แอนดรูว์โกรธมากในขณะนั้นและอดไม่ได้จริง ๆ ที่จะต้องเอ่ยคำดูแคลนที่สุดเช่นนั้นออกมากิลเบิร์ตกล่าวเสริมอย่างรีบร้อนทันที “แอนดรูว์พูดถูก แม้ว่าพรสวรรค์ของเฟนด์จะค่อนข้างดี แต่เขาก็ไม่ควรหยิ่งผยองนัก คำพูดพวกนั้นไม่ได้ช่วยอะไรเลยสักนิด”เฟนด์ถึงกับพูดไม่ออกเมื่อถูกคนทั้งสองเหยียบย่ำ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเฟนด์ไม่ได้เอ่ยปากเลยสักคำ แล้วเขาจะเอาเวลา

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2447

    ในตอนแรก คอนสแตนซ์และซีนย์เพียงยืนเคียงข้างกันโดยไม่สนใจเรื่องนี้ พวกเขาต้องการปล่อยให้สถานการณ์ดำเนินต่อไปอย่างที่ควรจะเป็น แต่เมื่อว่าเกรย์สันและรูดี้เริ่มเถียงกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งสองคนก็ถูกบีบให้ต้องทำอะไรสักอย่างพวกเขาถูกบีบให้ต้องแยกรูดี้และเกรย์สันออกจากกัน นั่นก็เพราะ การทะเลาะกันของเด็ก ๆ ควรจะมีขีดจำกัด เพราะหากมันเกินขีดจำกัดไปแล้ว นั่นจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของพวกเขา นี่คือสิ่งที่รูดี้และเกรย์สันเองก็ไม่อยากเห็นเป็นเวลาเกือบสิบห้านาทีแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์นั่งบนเก้าอี้ ขณะมองดูการทะเลาะวิวาทและการพูดคุยกันอย่างเฉยเมย เมื่อหมดเวลาเขาก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้เสียงปรบมือดังขึ้นตอนที่เขาจะพูดว่า "เอาล่ะ หมดเวลาแล้ว ทุกคนต้องตัดสินใจได้แล้วว่าจะพิสูจน์ความสามารถของตัวเองยังไง”“ฉันไม่คิดว่าฉันจะต้องบอกอะไรพวกนายทุกอย่างหรอกนะ ตอนนี้ก็แยกออกเป็นกลุ่มเสีย ผู้ที่ต้องการรวมอักขระทางยาจะยืนอยู่ทางทิศตะวันออก“ผู้ที่ต้องการแยกแยะวัสดุสามารถยืนอยู่ตรงกลางได้เลย และหากจะพิสูจน์ตัวเองด้วยกันบ่มเพาะโอสถให้ไปยืนที่ทางทิศตะวันตก“ถึงอย่างนั้นฉันก็ต้องขอเตือนทุกคนก่อน หากทุกคนต้องการ

DMCA.com Protection Status