โนเอลเริ่มโกรธมากขึ้นในขณะที่เขาพูด เขาอดแทบไม่ได้ที่จะพุ่งไปข้างหน้าเพื่อตบเฟนด์เข้าที่ใบหน้าที่ไร้เดียงสาของเขาสักทีเพื่อให้เขาตื่นจากฝันกลางวัน เขาจะไม่เสียเวลามาพูดกับเฟนด์เลยหากเขาจะไม่ต้องถูกลากไปเอี่ยวด้วยหากวิญญาณของเฟนด์ได้รับบาดเจ็บ“นายรู้ตัวไหมว่านายกำลังพูดอะไรออกมา? เลือกระดับความยากเป็นระดับสอง และฉันมั่นใจว่านายคงทนได้ไม่กี่อึดใจหรอก และหลังจากฉันหายใจแค่ไม่กี่ครั้งนายก็จะวิ่งหางจุกก้นออกมา” โนเอลมองไปยังเฟนด์ด้วยสายตาที่กำลังมองคนโง่แสนดื้อรั้น เฟนด์ถอนหายใจเบา ๆ โดยรู้ดีว่าการกระทำของเขาต้องทำให้เขาดูโง่เง่าในสายตาของคนอย่างโนเอลเป็นแน่แต่เขาทำสิ่งนี้เพราะเขาไม่ต้องการเสียเวลา เพราะความยากตามปกติจะไม่ได้ช่วยพัฒนาทักษะยุทธที่ระดับทลายห้วงสุญญะ ในความเป็นจริง เขาขอให้โนเอลปรับระดับความยากเป็นระดับสอง เพราะเขาไม่เข้าใจว่าสิ่งนี้มีประโยชน์กับเขาหรือไม่ภายใต้ความยากเช่นนี้เฟนด์พูดอย่างอับจนหนทาง “ก็ไม่ต้องกังวลหรอก ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับผมตอนที่ผมอยู่ข้างใน ผมจะบอกพวกผู้ใหญ่หรือผู้ดูแลว่าผมทำเรื่องพวกนี้ด้วยความตั้งใจของผมเอง โดยที่ไม่เกี่ยวกับคุณ ผมจะตรวจสอบให้แน่ใจว่า
ภายในโลกที่มืดสนิท ซึ่งทำเอาหัวใจของคนคนหนึ่งกระเซ็นซ่าน ทุกสิ่งรอบตัวเขาถูกปกคลุมด้วยความมืด เฟนด์ยื่นมือออกไปและคลำไปรอบ ๆ ตัวตามสัญชาตญาณ แต่รอบตัวเขากลับมีเพียงความว่างเปล่า ถึงอย่างนั้นมันก็ทำให้เขารู้สึกเดินได้ลำบากพื้นที่ที่เขาอยู่นั้นแตกต่างจากพื้นที่ภายนอกอย่างสิ้นเชิง และความมืดของที่นี่ไม่อาจเทียบได้กับความมืดของด้านนอก ถ้าเขาเปรียบเทียบพื้นที่ภายนอกเหมือนน้ำพุใสในบ่อหิน พื้นที่นี้ก็เหมือนกับโจ๊กที่ปรุงสุกแล้วเพราะบรรยากาศหนาแน่นจนบรรยายไม่ถูกเขากำมือทั้งสองข้างเป็นกำปั้น และดูเหมือนว่าเขาจะไขว่คว้าพื้นที่รอบตัวเขาไว้ในมือได้ นี่คือพื้นที่ส่วนกลางของหอเจตสิกไม่ผิดแน่ และยังเป็นสถานที่ที่สามารถช่วยเขาปรับปรุงทักษะยุทธได้อันที่จริง จากสิ่งที่โนเอลบอกเขาสามารถรับรู้ได้ว่ามันไม่ง่ายเลยที่จะฝึกฝนตัวเองที่นี่ แต่เขาไม่ถอยหนีและเดินไปข้างหน้าอีกสองก้าว ขณะที่เขากำลังจะเดินไปข้างหน้าอีกครั้ง เสียงลมกระโชกแรงที่พัดผ่านยอดไม้ทำให้เขาตกใจโดยไม่รู้ตัวหลังจากนั้นก็มีลมอีกระลอกหนึ่งพัดมาทางเขา ลมกระโชกแรงนี้แตกต่างจากลมปกติภายนอก มันพัดตรงเข้าหาเฟนด์โดยไม่สนว่าน่าจะเป็นผิวหนังหรือ
คลื่นกระแทกวิญญาณที่ก่อตัวขึ้นจากวิญญาณที่อัดตัวกันแน่นยังคงพุ่งเข้าหาวิญญาณของเฟนด์ แม้ว่าการเรียกใช้ทักษะทลายห้วงสุญญะโดยเฟนด์จะทนต่อความเจ็บปวดที่เกิดจากคลื่นกระแทกวิญญาณเหล่านี้ แต่เขาก็ไม่รอดพ้นจากสิ่งเหล่านี้ คลื่นกระแทกวิญญาณพุ่งเข้ามาหาเขาอย่างต่อเนื่อง และทำให้วิญญาณของเฟนด์รู้สึกถึงคลื่นความเจ็บปวดที่เสียดแทงแต่เรื่องนี้ไม่ได้สร้างปัญหาให้กับเฟนด์ อันที่จริง เขารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง เพราะในที่สุดเขาก็พบเหตุผลสำคัญที่ว่าทำไมเขาถึงไม่อาจสร้างดาบวิญญาณเล่นที่สองได้ ในอดีต จิตวิญญาณของเฟนด์นั้นมั่นคงมาก และหากไม่ได้รับการกระตุ้นเขาก็จะไม่รู้สึกอะไรเลยอย่างที่โนเอลพูดเอาไว้ วิญญาณเป็นสิ่งลวงตา หากปราศจากสารกระตุ้นพิเศษ เฟนด์ก็สามารถสัมผัสถึงวิญญาณได้ แต่ไม่อาจสัมผัสกับอะไรได้มากมายนัก อย่างไรก็ตาม คลื่นกระแทกวิญญาณเหล่านี้ยังคงพุ่งเข้าหาวิญญาณของเฟนด์มันก่อให้เกิดผลกระทบบอกเขาครั้งแล้วครั้งเล่า เฟนด์ยังใช้โอกาสนี้ในการควบคุมการเคลื่อนไหวของจิตวิญญาณของตัวเองอีกด้วยการสร้างดาบวิญญาณนั้นต้องการการเคลื่อนไหวของวิญญาณและการเคลื่อนไหวของวิญญาณของทุกคนก็แตกต่างกัน นี่คือสาเหตุท
โนเอลกำลังศึกษาเรื่องอาชีพเสริม หลังจากที่เขาล้มเหลวในการพัฒนาทักษะของตัวเองหรือเปล่า?เซนชี้ไปที่ประตูเรียงเนตรแล้วถามว่า “ศิษย์พี่โนเอล คุณวางแผนที่จะศึกษาเรื่องกลไกของประตูหรือ?”มุมปากของโนเอลกระตุกก่อนที่เขาจะหันไปกลอกตาใส่เซน เขาเม้มริมฝีปากไม่อยากจะพูดกับอีกฝ่ายแต่เขาไม่อาจห้ามไม่ให้ตัวเองพูดได้ ในตอนนี้ความคิดหนึ่งกำลังวนเวียนอยู่ในใจของเขาตลอดเวลาเขาถอนหายใจและพูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูน่าเหลือเชื่อว่า “เมื่อครู่เพิ่งมีคนเข้าไปในนั้น”เซนซึ่งยังไม่เข้าใจในความหมายแฝงของคำตอบจากปากโนเอลยังคงงงงวย การที่มีคนเข้ามาที่นี่ก็ถือเป็นเรื่องปกติไม่ใช่หรือ? หอเจตสิกแห่งนี้มีไว้สำหรับฝึกฝนไม่ใช่หรืออย่างไร?เขามองไปที่โนเอลและถามอย่างฉงนสนเท่ห์ว่า “การจะมีใครสักคนเข้าไปฝึกข้างในก็เป็นเรื่องปกติไม่ใช่หรือไง? ทำไมคุณมายืนจับจ้องอยู่ที่นี่? คนที่อยู่ข้างในเป็นคนพิเศษหรือเปล่า? เขาเป็นศิษย์ที่ถูกเลือกซึ่งแข็งแกร่งอย่างยิ่งงั้นหรือ?”นี่เป็นคำอธิบายเดียวที่เซนคิดได้ เพราะคนที่สามารถฝึกฝนทักษะศิลปยุทธและทักษะยุทธของธาตุวิญญาณได้นั้นย่อมไม่ใช่คนธรรมดา มีเพียงศิษย์ภายในหรือสิทธิ์ผู้ถูกเลือกท
ในอดีตโนเอลเคยเห็นคนที่เพิ่งเริ่มฝึกฝนทักษะศิลปยุทธและทักษะยุทธของธาตุวิญญาณเข้าประตูเรียงเนตรเพื่อฝึกฝนมาบ้าง แต่ไม่มีใครสามารถอยู่ภายในค่ายกลเหล่านั้นได้นานกว่าหนึ่งชั่วโมงการอยู่ในนั้นได้นานกว่าหนึ่งชั่วโมงหมายความว่าบุคคลนี้มีระดับพลังยุทธที่แข็งแกร่งมาก ... แต่เด็กหนุ่มเฟนด์กลับอยู่ในนั้นได้ตลอดทั้งวัน หากค่ายกลไม่ได้ถูกใช้งานตามปกติโนเอลคงอดที่จะสงสัยไม่ได้ว่าชายผู้นี้เสียชีวิตอยู่ข้างในไปแล้วเพราะผู้ชายคนนั้นเอาแต่ทำตัวดื้อดึง หากเฟนด์ฝืนตัวเองอยู่ในนั้นราวสองสามชั่วโมง โนเอลก็คงจะสงสัยว่าผู้ชายคนนี้ดื้อด้าน และทำตัวอวดดีให้เขาเห็นเท่านั้นแต่เมื่อเวลาผ่านไปความคิดดังกล่าวของเขาก็ต้องถูกปัดทิ้ง และไม่มีวี่แววว่าคน ๆ นั้นจะก้าวออกมาเลย หากเขาคิดจะดื้อดึงอยู่ในค่ายกลนั้นโดยไม่กังวลว่าวิญญาณของเขาจะบาดเจ็บ โนเอลเองก็คงไม่อาจอดทนได้นานเท่าเขา เซนถึงกับอ้าปากค้างเมื่อได้ยินสิ่งนี้เขาเคยรู้มาก่อนว่าครั้งหนึ่งเคยมีคนทำลายสถิติการเข้าไปอยู่ในในประตูเรียงเนตรเป็นเวลาสามวันสามคืน แต่คน ๆ นั้นเป็นหนึ่งในศิษย์ที่ถูกเลือกระดับสูงสุดเชียวนะแม้ว่าจะเป็นเรื่องน่าประหลาดใจที่เฟนด์สามารถ
โนเอลชำเลืองมองเซนและเย้ยหยันเบา ๆ แม้ว่าเขาจะเข้าใจว่าทำไมใบหน้าของเซนถึงดูแข็งทื่อนัก ความไม่เชื่อของเซนยังแสดงออกชัดถึงความไม่เชื่อที่ก่อตัวขึ้นในใจของเขา โนเอลสูตรหายใจเข้าและพูดช้า ๆ ว่า “ไม่แปลกใจเลยที่ผู้ชายคนนั้นพูดแบบนั้นกับฉัน กลับกลายเป็นว่าฉันได้พบกับอัจฉริยะที่ไม่ธรรมดาเข้าเสียได้”เซนไม่สามารถระงับความประหลาดใจของตนไว้ได้ “คนคนนี้เป็นใคร? เขาเป็นศิษย์ภายนอกคนใหม่คนใดกัน?”โนเอลขมวดคิ้วขณะที่เขาพูด “ถ้าเป็นคนอื่นนายอาจจะไม่รู้จักเขา แต่ฉันแน่ใจว่าเคยได้ยินชื่อเขามาบ้าง เขาคือเฟนด์ คนที่รับคำท้าของเวสลีย์ที่จะร่วมต่อสู้กับเขาในสนามประลองเดิมพัน”การต่อสู้ระหว่างเวสลีย์กับศิษย์ภายนอกที่เพิ่งได้รับคัดเลือกได้แพร่กระจายไปในหมู่ศิษย์ภายนอกอย่างรวดเร็ว และนี่ถือเป็นเรื่องซุบซิบหลักของช่วงนี้ เพราะไม่มีใครคิดว่าเฟนด์จะสามารถเอาชนะเวสลีย์ได้ เรื่องนั้นมันเป็นไปไม่ได้ สิ่งที่เวสลีย์ทำนั้นน่ารังเกียจ แต่ดูเหมือนเขาจะหน้าหนากว่าที่คิด เนื่องจากเขามีภูมิหลังที่แข็งแกร่งยิ่งไปกว่านั้น การที่เฟนด์ได้รับห้องส่วนตัวก็เป็นชนวนของความอิจฉา แม้ว่าเวสลีย์จะไม่ทำเรื่องนี้ แต่ก็จะมีศิษย์คน
“เวสลีย์เป็นคนหยิ่งผยอง และไม่เคยเห็นหัวคนอื่น ถึงเราจะทำเพื่อเขา เขาก็คงไม่แยแสเราหรอก แต่การกระทำดังกล่าวของเรา อาจจะทำให้เฟนด์ขุ่นเคืองได้ ซึ่งมันไม่คุ้มกันเลย” โนเอลตัดสินใจที่จะปิดปากเงียบหลังจากที่เขาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ หากมีคนรู้เรื่องนี้นี่จะกลายเป็นข่าวที่ใหญ่ไม่น้อยเลย แต่มันก็ไม่ได้มีความหมายอะไรใครที่ไม่ได้ประโยชน์จากเรื่องนี้ และโนเอลก็ไม่เต็มใจที่จะรับความเสี่ยงนี้ไว้กับตัวเองเซนยังคงเงียบ แต่สายตาของเขากวาดไปรอบ ๆ ขณะที่นึกสนุกไปกับความคิดดังกล่าวเมื่อสังเกตเห็นความเงียบของเซน โนเอลจึงหันกลับมามองเขาก่อนจะสังเกตได้ว่าสีหน้าของเซนดูสนุกกับความคิดในหัวของตัวเองขนาดไหนในขณะนั้นโนเอลนึกโกรธในความโง่เขลาของอีกฝ่ายในทันที และตะคอกออกไปว่า “นี่นายกำลังคิดเรื่องอะไรอยู่? ฉันรู้ว่านายอยากจะประจบเอาใจเวสลีย์ เมื่อเปรียบเทียบกับนายแล้วเขามีชื่อเสียงมากขนาดไหน และนายอาจมีอนาคตที่ดีหากหมอนั่นประทับใจในตัวนาย แต่นายต้องเข้าใจด้วยว่าเวสลีย์ไม่ใช่คนที่นึกอยากจะประจบประแจงก็จะทำได้ อีกอย่างเขาไม่ใช่ที่พึ่งที่ดีที่สุด เขาทั้งขี้โม้และหยิ่งยโสเพราะเขามีคนหนุนหลัง ถึงนายจะเอาเรื่องนี้
ผลของการเคลื่อนไหวทางวิญญาณในระดับนี้ไม่ได้มีผลกับเฟนด์มากนัก เขาค่อย ๆ ย่างกรายขึ้นจากพื้นและเดินไปยังทิศทางที่เขาเข้ามา หลังจากนั้นเพียงไม่กี่ก้าว เขาก็รู้สึกว่าตัวเองถูกล้อมเอาไว้เขายื่นมือออกไปผลัก และรู้สึกว่าพื้นที่โดยรอบเริ่มหนาแน่นขึ้นอีกครั้ง ร่างของเฟนด์ถูกห่อหุ้มเอาไว้ในทันที หลังจากนั้นเฟนด์ก็ได้กลับมาที่หอเจตสิกภายในไม่กี่อึดใจ เขาเห็นโนเอลซึ่งยืนอยู่หน้าประตูเรียงเนตรกำลังจมไปในความคิดของตัวเอง โนเอลตกใจกับการปรากฏตัวอย่างกะทันหันของเฟนด์และถอยหลังไปหนึ่งก้าวตามสัญชาตญาณ เวลาผ่านพ้นไปราวหนึ่งวันครึ่ง ความประหลาดใจในตอนแรกของโนเอลก็ค่อย ๆ หายไป เขายังคงยืนอยู่หน้าประตูเรียงเนตรเพื่อสังเกตว่าเฟนด์จะออกมาเมื่อไหร่ในตอนแรกเขาคิดว่าเฟนด์จะอยู่ในสภาพที่กระวนกระวายและเหนื่อยล้าหลังจากที่เขาออกมาจากประตูเรียงเนตร แต่เฟนด์กลับดูกระฉับกระเฉงมาก ราวกับว่าเขาได้นอนเต็มอิ่ม มุมปากของโนเอลกระตุกในขณะที่เขาแอบถ่ายถอนใจให้กับความบ้าบิ่นของชายหนุ่มตรงหน้า สีหน้าดูถูกดูแคลนที่เขาเคยมีบนใบหน้าของเขามันมลายหายไปพร้อมกับริมฝีปากที่กระตุก"ในที่สุดนายก็ออกมาสักที! ฉันนึกว่าจะมีอะไรผิดปก