ความเร็วของนายท่านแมคเคนซี่เทียบกับเฟนด์ไม่ได้เลย ทันใดนั้นเขาก็เห็นประกายแสงสีทองพร้อม ๆ กับที่เฟนด์กระแทกกำปั้นลงบนไหล่ของเขา หมัดนั้นทำให้ข้อต่อของเขาแตกเป็นเสี่ยง ๆ เขาส่งเสียงกรีดร้องอันน่าสยดสยองออกมาครั้งแล้วครั้งเล่า ขณะที่ความรู้สึกเจ็บปวดแล่นพล่านไปทั้งร่าง หมัดนั้นทำให้ไหล่ของเขาใช้การไม่ได้อีกต่อไปเฟนด์หัวเราะอย่างเย็นชาในขณะที่เขาโชว์กำปั้นซ้ายขึ้นมาอีกครั้ง เขาไม่ให้เวลานายท่านแมคเคนซี่ได้ป้องกันตัวเองเลย แสงสีทองส่องประกายบนกำปั้นของเขาในขณะที่เขากระแทกมันเข้ากับหน้าอกด้านขวาของนายท่านแมคเคนซี่ด้วยแรงที่มากพอจะปลิดชีวิตใครก็ได้ เสียงกระดูกหักดังขึ้นอีกครั้ง หมัดนี้ไม่เพียงแต่ทำให้กระดูกของนายท่านแมคเคนซี่แตกละเอียดเท่านั้น แต่ยังทำให้เขาไม่สามารถกระตุ้นพลังฉีของเขาออกมาได้อีกด้วย ดังนั้นเขาจึงตกลงไปที่พื้นราวกับใบไม้ร่วงหล่นเฟนด์ยังไม่จบกับเขา ชายหนุ่มตามเขาลงมาและคว้าคอเสื้อของนายท่านแมคเคนซี่เอาไว้ หมัดต่อไปจะกระทบเข้าที่เส้นลมปราณของนายท่านแมคเคนซี่ เขาวางแผนที่จะทำลายพลังยุทธของอีกฝ่ายให้สิ้นซากเพื่อให้แน่ใจว่าศัตรูจะไม่มีโอกาสกลับมาล้างแค้นเขาได้ดวงตาอันน่าเกร
เขาจะสามารถบ่มเพาะโอสถราชันย์ได้ เมื่อเขากลายเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุขั้นกลางระดับสี่ สิ่งที่สำคัญที่สุดของเขาในปัจจุบันคือการถอนคำสาปให้กับเซเลน่า เขาจะไม่หยุดพักจนกว่าเรื่องที่เหมือนภูเขาในอกจะถูกยกออกไป ปัญหาอื่น ๆ จะได้รับการแก้ไขตามลำดับ กองกำลังภาคีไม่ได้เป็นภัยคุกคามต่อพวกเขาอีกต่อไปแล้วในตอนนี้ เนื่องจากพวกเขาถูกทำลายไปแล้ว เฟนด์ วู๊ดยืนอยู่ที่จุดสูงสุดของโลกและไม่มีใครโง่พอที่จะท้าทายเขาเว้นแต่พวกเขาปรารถนาที่จะตายเมื่อเวลาผ่านไป ในที่สุดเขาก็บ่มเพาะโอสถขั้นกลางระดับสี่ได้สำเร็จ ซึ่งหมายความว่าเขาได้กลายเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุขั้นกลางระดับสี่ได้แล้ว หลังจากเลื่อนระดับขึ้นมาได้เขาก็รีบทำการบ่มเพาะโอสถราชันย์ เขาได้รับน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ของเผ่าผลึกเมฆากลับมาหลังจากกำจัดกองกำลังภาคีลงได้ยิ่งกว่านั้น หลังกองกำลังภาคีล่มสลาย เผ่าเก้าเทพก็ได้รับของล้ำค่ามากมายหลังจากสำรวจฐานที่มั่นที่ถูกทิ้งร้างอย่างละเอียด มีของล้ำค่าชิ้นหนึ่งที่เรียกกันว่าคทาตรึงวิญญาณ แม้ว่ามันจะไม่มีประโยชน์ต่อการบ่มเพาะพลังยุทธ แต่ก็สามารถใช้เพื่อกำจัดการถูกครอบงำในร่างกายแบบถอนรากถอนโคน หากมีคทาตรึงวิญญาณ เฟอร์นั
เพื่อที่จะเข้าสู่สกาย เกท เฟนด์จะต้องเตรียมตัวให้พร้อม ระดับการบ่มเพาะในระดับนฤพานจะช่วยให้เขาสามารถปกป้องตัวเองได้ในทุกสถานการณ์พี่จะต้องเผชิญ หลังจากยืนอยู่ใต้สกาย เกทเป็นเวลาสี่ชั่วโมง ในที่สุดเขาก็ก้าวเท้าไปสองสามก้าวและเข้าไปข้างในทันทีที่เขาก้าวเข้าไปข้างใน เขาก็รู้สึกได้ว่าพื้นที่โดยรอบบิดเบี้ยวและทิวทัศน์รอบตัวก็เปลี่ยนไปอย่างมาก หลังจากมองดูอย่างละเอียด แม้จะมีประสบการณ์มาหลายปีแล้วเขาก็ยังอดที่จะตกใจไม่ได้ ปรากฎว่าอีกด้านหนึ่งของสกาย เกทมีโลกอีกใบซ่อนอยู่มันเป็นสถานที่ที่ดูคล้ายกับดินแดนรกร้าง เมื่อมองขึ้นไปยังดวงดาวที่หนาแน่น ดินแดนที่ว่างเปล่าก็แน่นขนัดไปด้วยกลิ่นอายเก่าแก่และน่าเกรงขาม บนพื้นดินไม่มีหญ้าแม้แต่ต้นเดียว แต่กลับเต็มไปด้วยเศษอาวุธ เมื่อมองดูใกล้ ๆ จะเห็นเลือดแห้งกรังติดอยู่บนอาวุธพวกนั้นด้วย ราวกับว่าโลกใบนี้ต้องประสบกับสงครามครั้งใหญ่ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครมาเหยียบที่นี่เป็นเวลาหลายหมื่นปีแล้ว ตรงหน้าเฟนด์มีบางอย่างกำลังเปล่งแสงสีขาวสว่างจ้าออกมา แต่เขามองไม่ออกว่ามันคืออะไร เขากลั้นใจและสาวเท้าเข้าไปหามัน เมื่อเขาก้าวไปข้างหน้า เขาก็รู้สึกได้ถึงออร่าที่แ
แม้หลังจากศึกษาเรือวิญญาณมาเป็นเวลานาน เขาก็ยังไม่เข้าใจความหมายของผนึกรูนเหล่านั้น สิ่งนี้พิสูจน์ให้เห็นถึงขุมพลังอันยิ่งใหญ่ของเรือวิญญาณลำนี้! หลังจากสำรวจจนทั่วแล้ว เขาก็กลับไปยังสถานที่ที่เขาพบผลึกหกเหลี่ยม ภายในเรือวิญญาณนั้นว่างเปล่า มีเพียงผลึกหกเหลี่ยมที่ดูเหมือนจะถูกโยนทิ้งไปอย่างไม่ระวังผลึกหกเหลี่ยมนี้มีขนาดเท่าศีรษะมนุษย์ และมันก็เปล่งแสงสีแดงจาง ๆ ออกมาด้วย เฟนด์พิจารณามันอีกครั้งด้วยญาณทิพย์ของเขา และไม่พบสิ่งที่เป็นอันตรายเกี่ยวกับมัน ดังนั้นเขาจึงก้มลงหยิบมันขึ้นมา เขานำผลึกเข้ามาดูใกล้ ๆ และตรวจสอบอย่างระมัดระวัง เขาค้นพบว่ามีผลึกต่างสีและขนาดลอยอยู่ภายใน ผลึกเล็ก ๆ เหล่านี้ก็มีหกเหลี่ยมเช่นกันผลึกทั้งหกเหลี่ยมมีรูปร่างเหมือนกัน รัศมีของมันก็ไม่ได้แตกต่างกันสักเท่าไหร่อีกด้วย ผลึกหกเหลี่ยมเล็ก ๆ ที่อยู่ภายในยังดูคล้ายจะมีออร่าลึกลับไม่น้อย ขณะที่เขามองเข้าไปใกล้ ๆ เขาก็รู้สึกเจ็บแปลบที่นิ้วที่ถือผลึกหกเหลี่ยมลูกดังกล่าว โดยไม่ทันได้ระวังนิ้วของเขาก็ถูกบาดและมีเลือดไหลออกมาหลังจากที่เปื้อนเลือดของเขา ผลึกหกเหลี่ยมก็ส่องแสงแวววาว ทันใดนั้นเฟนด์ก็รู้สึกว่าร่างกายขอ
ชิ้นส่วนวิญญาณเหล่านี้ไม่อาจนับได้ว่าเป็นชิ้นส่วนวิญญาณทั่วไป แต่เจ้าของดั้งเดิมกลับยอมละทิ้งสัมปชัญญะในเรื่องนี้โดยสมัครใจ พวกเขาทิ้งไว้เพียงชิ้นส่วนวิญญาณที่มีความทรงจำเกี่ยวกับต้นกำเนิดของตัวเองเฟนด์จ้องมองไปยังผลึกหกเหลี่ยมซึ่งมากมายเกินจะนับที่ลอยอยู่รอบตัวเขาและอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจด้วยความตระหนก ความทรงจำที่ส่งถึงเขาเมื่อครู่ได้อธิบายถึงการทำงานของชิ้นส่วนวิญญาณและกระบวนการสร้างชิ้นส่วนวิญญาณเหล่านี้ด้วย ยังไม่รวมถึงเรื่องการใช้งาน แต่กระบวนการสร้างชิ้นส่วนวิญญาณเหล่านี้ก็ไม่สามารถทำได้โดยคนธรรมดาทั่วไป เมื่อหลายหมื่นปีที่แล้วเผ่าเทพสาบสูญได้เผชิญกับการต่อสู้ฆ่าล้างบางคนทั้งเผ่า เพื่อต่อลมหายใจเฮือกสุดท้ายของเผ่าเทพสาบสูญ หัวหน้าเผ่าจึงได้รวมสมาชิกที่แข็งแกร่งที่สุดของเขาและฝึกฝนทักษะวิญญาณลับอย่างเงียบ ๆทักษะวิญญาณลับไม่ได้มีไว้เพื่อเพิ่มพลังในการต่อสู้ของพวกเขาและใช้งานได้เพียงครั้งเดียว หลังจากฝึกฝนทักษะวิญญาณลับดังกล่าวได้สำเร็จ วิญญาณของผู้ฝึกจะคงอยู่แม้ว่าร่างกายจะสูญสลายไป แต่วิญญาณของพวกเขาจะไม่สามารถไปเกิดใหม่ได้อีกแล้ว ต่อให้จะเกิดอะไรขึ้นก็ตามเขาเก็บเพียงความท
ตอนนี้เขายังอยู่ในเรือมัสตาร์ด ซี๊ดและเข้าใจว่ามันนั้นแข็งแกร่งเพียงใด หลังจากรู้ว่าแคทธีเซียเป็นเพียงโลกชั้นที่ห้า เฟนด์ก็วางแผนที่จะออกจากที่นั่นเขาต้องการเห็นอารยธรรมศิลปยุทธที่เฟื่องฟูอย่างแท้จริงและไต่ระดับขึ้นไปยังจุดสูงสุดของโลกแห่งศิลปยุทธต่อไป โลกนี้ขาดพลังฉีและทรัพยากรที่เหลืออยู่ก็เช่นกัน นอกจากเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์แล้ว ไม่มีอะไรที่เขาจะได้จากการอยู่ที่นี่ต่อไปตอนนี้ ส่วนสำคัญของการเดินทางของเขาคือเรือมัสตาร์ด ซี๊ดที่เผ่าเทพสาบสูญทิ้งไว้ให้เขา เรือมัสตาร์ด ซี๊ดลำนี้ไม่เพียงแต่สามารถบรรจุคนจำนวนมากและขนส่งทางไกลได้เท่านั้น แต่มันยังสามารถเดินทางผ่านม่านกาลอวกาศเพื่อเข้าสู่โลกในระดับอื่น ๆ ได้อีกด้วยพื้นที่ภายในของเรือมัสตาร์ด ซี๊ดนี้สามารถปรับเปลี่ยนได้และนอกเหนือจากการขนส่งแล้ว สามารถใช้เป็นที่เก็บของได้ เรียกได้ว่าเป็นที่เก็บของขนาดใหญ่เลยทีเดียว!เฟนด์พอใจกับเรือลำนี้มาก หลังจากออกจากแคทธีเซีย เขาก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่เขาจะได้กลับมาที่นี่อีก เขาทนไม่ได้ที่จะต้องทิ้งสมาชิกของครอบครัวทั้งหมดไว้ที่นี่ ดังนั้นเขาจึงวางแผนที่จะพาพวกพ้องและครอบครัวไปด้วยหากเขากำลังจ
เฟนด์ยื่นมือออกไปสัมผัสใบหน้าของเซเลน่าซึ่งกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง “เดี๋ยวมันก็ดีขึ้น”มุมปากของเซเลน่าโค้งขึ้น และรอยยิ้มที่สวยงามปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอ แต่ก่อนที่เธอจะทันได้พูดอะไร เสียงที่คุ้นเคยก็ดังมาจากข้างหลังของคนทั้งคู่ เสียงนั้นฟังดูคุ้นเคยมากจนทำให้หัวใจที่สงบเป็นปกติของเฟนด์สั่นคลอน "อาจารย์! ผมกลับมาแล้ว!" เฟอร์นันโดพุ่งไปหาเฟนด์ด้วยความดีใจอย่างเห็นได้ชัดเฟอร์นันโดหายเป็นปกติแล้ว เนื่องจากก่อนหน้านี้เฟนด์หมกมุ่นอยู่กับการฝึกฝน เขาจึงทำได้เพียงขอให้คีแรนและคนอื่น ๆ กลับไปพร้อมกับคทาตรึงวิญญาณและโอสถคืนชีพเพื่อช่วยเหลือเฟอร์นันโด แม้ว่าเขาจะไม่ได้ไปที่นั่นด้วยตัวเอง แต่เขาก็ยังแอบกังวลเฟนด์รู้สึกโล่งใจอย่างมากเมื่อได้เห็นว่าเฟอร์นันโดฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์ “ดีมากที่นายฟื้นแล้ว!”ในตอนแรกเฟอร์นันโดคิดว่าเขาอาจจะกลับมาได้แบบไม่เต็มร้อย แม้ว่าเขาจะกลับมาเคลื่อนไหวได้แล้วก็ตาม แต่ไม่คาดคิดเลยว่าคทาตรึงวิญญาณและโอสถคืนชีพจะส่งพลังถึงขนาดนั้น แถมยังไม่มีอันตรายใดเกิดขึ้นกับเขาเลย แม้ว่าเขาจะถูกแช่แข็งมาเป็นระยะเวลานานก็ตามหลังจากที่เฟนด์ตัดสินใจว่าเขาจะเดินทางออกจากที่น
เวลาผ่านไปอีกครั้งหนึ่ง สองเดือนต่อมาเฟนด์พาครอบครัวและพรรคพวกของเขาไปยังสกาย เกทหัวหน้าเผ่าเทพสาบสูญเคยกล่าวไว้ว่าม่านกาลอวกาศภายในสกาย เกทนั้นอ่อนแอที่สุด หากพวกเขาต้องการออกจากสถานที่นี้โดยเร็ว พวกเขาต้องนำเรือมัสตาร์ด ซี๊ดไปจากที่นี่และเดินทางไปยังพื้นที่อื่น ทุกคนเข้าไปในมัสตาร์ด ซี๊ดด้วยความตื่นเต้นและดีใจ เฟนด์วางศิลาวิญญาณทั้งหมดลงในส่วนที่มัสตาร์ด ซี๊ดใช้ในการดูดซับพลังงาน หลังจากการระเบิดที่ดังสนั่น มัสตาร์ด ซี๊ดก็ถูกขับเคลื่อนโดยศิลาวิญญาณและเริ่มเปล่งแสงสีขาวสว่างไสวไปทั่วทั้งเรือในขณะที่พวกเขาเริ่มพุ่งไปข้างหน้า เฟนด์ยืนอยู่อย่างเงียบ ๆ ในห้องควบคุมขณะที่เขาเฝ้าดูพื้นที่โดยรอบที่ค่อย ๆ บิดเบี้ยวภายใต้การเคลื่อนไหวของเรือมัสตาร์ด ซี๊ด...สามเดือนต่อมา ในโรงแรมอันห่างไกลที่ตั้งอยู่ในเมืองเซนิธ ซัน ซิตี้ ซึ่งตั้งอยู่ในรัฐเวสต์ เซอร์ซีในทวีปเฮสเทีย พนักงานของโรงแรมขมวดคิ้วและมองศิลาวิญญาณชั้นยอดสิบก้อนในมือด้วยความขยะแขยงศิลาวิญญาณชั้นยอดร้อยก้อนถือเป็นสกุลเงินทั่วไปที่มีค่าที่สุดในโลกของแคทธีเซียแต่พวกเขากลับถูกพนักงานของโรงแรมในทวีปเฮสเทียดูถูก“นี่อย่าบอกนะว่าของพ