Share

บทที่ 13

Author: โมเนโต้
last update Last Updated: 2024-10-29 19:42:56
“มีเกียรติ? ฮ่า ๆ ถ้าคุณไม่ได้ใส่เสื้อผ้าแบบนี้ฉันก็คงจะเชื่อ!”

เซซิเลียยิ้มเยาะแล้วถามว่า “ในนั้นมีทั้งหมดกี่ชุด จากลักษณะของมันน่าจะซื้อให้กับเซเลน่าใช่มั้ย? ฉันเดาว่ารวมทั้งหมดน่าจะเป็นหมื่นเหรียญ!”

เซซิเลียแสดงความคิดเห็นของเธออกมา จู่ ๆ เธอก็หยิบมันออกมาจากถุง “เป็นไปไม่ได้ พระเจ้า! นี่คือ ลิมิเต็ด เอดิชั่น ทั่วโลก! ชุดนี้ราคาเกินแสน! เป็นรุนใหม่ล่าสุดจากแบรนด์นี้

เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้น หลายคนในครอบครัวเทย์เลอร์ก็มีสีหน้าตกใจ

ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่สามารถซื้อชุดนั้นได้ แต่ก็แปลกที่เฟนด์สามาถซื้อมันได้

ยิ่งไปกว่านั้นมันไม่ใช่นาฬิการะดับไฮเอนด์ หรือชิ้นส่วนของหยก แต่เป็นเพียงชุดเดรส ต่อให้เป็นคนที่มาจากตระกูลเทย์เลอร์ ก็ยังต้องคิดอยู่ก่อนที่จะจ่ายเงินหลายแสนเหรียญ

“ใส่ชุดกลับเข้าไป ฉันไม่อยากให้มือสกปรกคุณ จับถูกชุดของเซเลน่า!”

เมื่อเห็นเธอเอาชุดออกมา สีหน้าของเฟนด์ก็คล้ำลงเมื่อเขาเจอเธอ

เซซิเลียแปลกใจจากนั้นเธอจึงนำกลับเข้าไปในกระเป๋า ในไม่ช้าเธอก็เริ่มยิ้ม “ฮิ ๆ ฉันรู้แล้ว คุณต้องซื้อของปลอมมาแน่ ๆ แต่มันดูเหมือนจริงมาก ฉันเกือบจะเชื่อแล้วเชียว”

คนอื่น ๆ ก็คิดตามกัน “ถูกต้อง พวกเขาจะสามารถซื้อของแบรนด์เนมพวกนี้ได้ยังไง? น่าตลกสิ้นดี จะเป็นอะไรได้อีกนอกจากงานก๊อปเกรดเอ?

“เซซิเลีย มันจะแท้หรือไม่ของมันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเธอใช่หรือไม่” นี่คือของขวัญจากสามี สำหรับฉันตราบใดที่มันมาจากเขาฉันจะชอบมันโดยไม่คำนึงถึงว่ามันจะต้องแท้หรือไม่ก็ตาม!”

เมื่อได้ยินคำพูดที่ไม่ถูกใจที่เธอพูดเซเลน่าตอบอย่างประชดประชันว่า “ต่างจากบางคนที่ไม่มีแฟนแม้จะอายุมากแล้ว เป็นไปได้ไหมที่เธออิจฉาฉัน”

“เธอ…”

เซซิเลียถูกยั่วโมโห แม้ว่ารูปร่างหน้าตาของเธอจะไม่เลวร้าย แต่เธอก็ไม่มีแฟน คำพูดของเซเลน่าทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก

จากนั้นเธอก็เยาะเย้ยกลับ “เหอะ ฉันน่ะเหรอที่อิจฉาเธอ? ฉันควรจะอิจฉาคนที่ถูกไล่ออกจากครอบครัวเทย์เลอร์เหมือนขยะหรือไม่? ฉันไม่มีแฟนเพราะฉันต้องการหาคนรวย ไม่เหมือนคนบางคนราคาถูกซะจนทำได้แค่แต่งงานกับเด็กส่งของ”

เซซิเลียได้เพิ่มเชื้อไฟเข้าไปมากขึ้น “ยิ่งไปกว่านั้นพิธีแต่งงานที่ขาดแม้กระทั่งของขวัญวันหมั้น เป็นเรื่องที่น่าละอายสำหรับตระกูลเทย์เลอร์ของเรา”

“แล้วถ้าฉันเต็มใจล่ะ? มันไม่ใช่ธุระอะไรของเธอ นี่เป็นทางเลือกของฉันเอง!”

เซเลน่ากำลังต่อสู้อย่างดุเดือดจนเกือบจะทำลายบุคลิกที่เป็นกุลสตรีของเธอ

“แน่นอนแน่นอน บางคนมีความสุขกับความเสื่อมถอยเราจะทำอย่างไรกับมันได้”

เซซิเลียยักไหล่ “ความยากลำบากแบบนั้นเป็นสิ่งที่คนอย่างฉันจะไม่มีวันได้เจอ”

“พอ!”

ในที่สุดนายใหญ่เทย์เลอร์ก็คำรามอย่างหมดความอดทน

ผู้เฒ่าอายุมากพอสมควร แต่การปรากฏตัวของเขาทำให้ห้องเงียบลงทันที

เขาเดินไปหาเฟนด์ ดูเขาอย่างระมัดระวัง ด้วยเหตุผลบางอย่างเขารู้สึกว่าชายหนุ่มคนนี้ได้รับการเปลี่ยนแปลงอย่างสมบูรณ์ เพียงแค่เขายืนอยู่ที่นั่นก็ทำให้เกิดออร่าที่ไม่ควรล้อเล่นด้วย

เขายังเป็นชายหนุ่มคนเดิมที่ขอเงินหนึ่งล้านเหรียญเพื่อรักษาโรคของแม่เมื่อห้าปีก่อนหรือไม่?

เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นก็พูดขึ้นมา “บอกฉันสิฉันควรจ่ายเงินเท่าไหร่เพื่อปล่อยให้เซเลน่าอยู่คนเดียวแล้วเลิกยุ่งกับเธอซะ”

นายใหญ่รู้ดีถึงความหลงใหลในตัวของเซเลน่า การที่เซเลน่าปฏิเสธการหย่าร้างนั่นเป็นเพราะลูก

อย่างไรก็ตามในเวลานี้เขาสามารถเข้าใกล้เฟนด์ได้

เมื่อได้ยินเช่นนั้นเซเลน่า ขมวดคิ้มทันทีและจ้อมมองไปที่เฟนด์อย่างกังวล

ท้ายที่สุดอำนาจของเงินมันทำให้ยากที่จะพูด ถึงแม้ว่าพวกเขาจะแต่งงานกันอย่างเป็นทางการ แต่ระหว่างพวกเขาก็แทบไม่มีความรู้สึกใด ๆ

เฟนด์นิ่งเงียบไป ‘เงิน? ฮ่า ๆ ตอนนี้ฉันพร้อมที่จะดูแลสิ่งเหล่านั้นแล้วหรือยัง?

นอกจากนี้เมื่อห้าปีก่อนหากไม่ใช่เพราะเขาอยากจะช่วยแม่ของเขา เขาจะไม่มีวันขอเงินใครสักคนด้วยเงินเพียงหนึ่งล้านเหรียญ

“นายใหญ่ ผมกลัวว่าคุณจะผิดหวัง เซเลน่าเป็นผู้หญิงของผม สำหรับผม เธอและลูกต้องทนทุกข์ทรมานกับความยากลำบากมาตบอดห้าปี เป็นไปไม่ได้ที่ผมจะทิ้งพวกเขาไป!” เฟนด์ตอบอย่างแน่แน่วและแฝงไปด้วยรอยยิ้ม

เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้นหัวใจของเซเลน่า ก็เต็มไปด้วยความอบอุ่น ห้าปีที่ผ่านมาของการรอคอยไม่ได้ไร้ประโยชน์

นายใหญ่หยิบเช็คออกมาอย่างรวดเร็วแล้วเซ็นชื่อของเขา จากนั้นยื่นให้เฟนด์ “ครอบครัวเทย์เลอร์ของเรา ไม่ยินดีที่จะให้เธอมาเป็นลูกเขย ในตอนนั้นเธอเคยสัญญาว่าแกล้งแต่งงานกับเซเลน่าเพื่อแย่งชิงตำแหน่งของอีวานในสนามรบ ครั้งนี้ฉันไม่ได้ฆ่าเธอเพราะเห็นแก่ความสัมพันธ์ของเธอกับเซเลน่า และไคลี ยังไงซะเธอก็ต้องออกไป!”

“เขียนจำนวนเท่าไหร่อะไรก็ได้ที่คุณต้องการ! คุณสามารถกดเงินสดได้ที่ธนาคารใดก็ได้ในอาณาเขตกลาง นอกจากนี้ฉันสามารถปล่อยให้เรื่องของเธอที่เอาชนะอีวานได้ให้จบไป!”

อาจกล่าวได้ว่าจากมุมมองของนายใหญ่เทย์เลอร์ เขาได้ประนีประนอมครั้งใหญ่แล้ว

เมื่อได้ยินเช่นนั้นอีวานก็โกรธมาก เขาก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วและกล่าวว่า “คุณปู่เราสามารถฆ่าเขาได้ เขาหักแขนของผม...”

“หุบปาก!”

ใครจะไปคิดว่านายใหญ่เทย์เลอร์ จะหันกลับมาตวาดเขา “อีวาน แกคิดว่าฉันไม่รู้เหรอว่าแกทำอะไรไว้บ้าง ความลับของแกคืออะไร? แกรู้แค่ว่าฉันสุขภาพย่ำแย่ไม่เคยออกไปนอกบ้านใช่ไหม? ฉันซูส เทย์เลอร์ ถึงจะแก่แต่ตาฉันไม่ได้บอด นับตั้งแต่ที่แกมีตำแหน่งผู้อำนวยการบริษัท เรามีผลงานลดลงในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา ฉันเหนื่อยจนฉันขี้เกียจจะด่าแก!”

นายใหญ่พูดต่อว่า “ฉันไม่ใส่ใจที่แกจะทำต่อเซเลน่ายังไง เพราะฉันก็โกรธที่เธอให้กำเนิดลูกของเขา แต่ยังไงก็ตามไคลี เธออายุเพียงแค่สี่ขวบ แกกล้าเอาขนมปังที่แกเหยียบแล้วให้เธอกินได้ยังไง ฉันแทบจะไม่อยากจินตนาการถึงเหตุการณ์เช่นนี้!”

“พ่อ ที่ว่าจะยอมให้เฟนด์จะเอาชนะอีวานได้ เพราะเหตุผลนี้ใช่ไหม นอกจากสิ่งเหล่านี้เป็นเพียงข้อหาที่ว่างเปล่าไม่มีหลักฐาน ใครจะรู้ว่าเขาอาจจะโกหกก็ได้

ธีโอดอร์ เทย์เลอร์ เจ้านายของตระกูลเทย์เลอร์และพ่อของอีวานพูดแทรกขึ้นในขณะที่เขาก้าวไปข้างหน้า

“เป็นอย่างนั้นเหรอ? แกกล้าที่จะให้ฉันตรวจสอบเรื่องนี้เพื่อดูว่ามันเกิดขึ้นจริงหรือไม่ไหม”

คำพูดของนายใหญ่ปิดปากลูกชายของเขาทันที จากนั้นเขากล่าวเสริมว่า “แกมีส่วนสำคัญพฤติกรรมของอีวานในการชอบมั่วสุมกับผู้หญิงที่น่าสงสัยพวกนั้น เขาอยู่ภายใต้การดูแลของแก เราเป็นเพียงชนชั้นสูงขั้นที่สาม ฉันต้องใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อให้เรามาถึงจุดนี้ แกไม่กลัวหรอว่าวันนึงครอบครัวเทย์เลอร์จะพังพินาศลง ด้วยน้ำมือของลูกชายแก”

“คุณปู่ จะเป็นไปได้อย่างไร ผมออกไปดื่มเพื่อพบปะลูกค้าสำหรับงานของเรา!”

อีวานหัวเราะขึ้นมาจากนั้นเขาเอ่ยว่า “บริษัทของเราค่อนข้างไปได้ดีในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา ปู่ต้องเชื่อมั้นในตัวผม ปีนี้เราจะทำกำไรมหาศาลเพื่อชดเชยความสูญเสียที่ผ่านมา”

เมื่อได้ยินเช่นนั้นหัวใจของเฟนด์ก็รู้สึกดีขึ้นมาก

ดูเหมือนว่านายใหญ่เทย์เลอร์ จะไล่เซเลน่าออกไปเนื่องจากความรำคาญของเขาที่เซเลน่าแต่งงานกับคนที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้าเช่นเขา

ตลอดระยะเวลาห้าปีผ่านไป ความโกรธของเขาส่วนใหญ่คงจะบรรเทาลง นอกจากนี้เขาอาจติดตามสถานการณ์ของเซเลน่า และไคลีอยู่ตลอด สรุปแล้วนายใหญ่ยังคงดูแลหลานสาวของเขา

“เซ็นชื่อที่นี่ เขียนจำนวนตัวเลขเท่าที่เธอต้องการ! ด้วยเหตุผลนี้จึงไม่มีข้อแม้!

Related chapters

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 14

    นายใหญ่เทย์เลอร์มีความรู้สึกหลากหลาย การคาดเดาของเฟยด์นั้นเกือบจะถูกจุดแล้วนายใหญ่ท่านเป็นบุคคลที่ให้ความสำคัญกับชื่อเสียงของเขาเป็นอย่างมาก ในตอนนั้นเขาให้เฟนด์มาแต่งงานกับครอบครัวเทย์เลอร์นั้น เพื่อป้องกันไม่ให้ อีวานถูกเกณฑ์ นั่นเป็นสิ่งที่กระทบต่อชื่อเสียงของครอบครัวเทย์เลอร์อยู่แล้วเขาไม่เคยคาดหวังว่าความอัปยศที่จะเกิดขึ้นในภายหลังที่เฟนด์ แต่งงานกับเซเลน่าเพียงวันเดียว เมื่อเขาถูกเกณฑ์ในวันรุ่งขึ้น อย่างไรก็ตามเซเลน่าก็ตั้งครรภ์ไม่นานหลังจากนั้นเขารู้ว่าคืนนั้นเซเลน่าเมาแล้ว เขายังสงสัยว่าน่าจะเป็นเฟนด์ที่บังคับตัวเองกับเซเลน่าเขาไม่เคยคาดหวังให้เซเลน่า อ้างว่าเป็นความสมัครใจ เรื่องนั้นเกือบทำให้เขาหัวใจวายด้วยความโกรธเขาจึงไล่เซเลน่าพ่อ แม่ และพี่ชายอายุ 14 ปีของเธอออกจากบ้านพักเทย์เลอร์สำหรับการที่เซเลน่าไม่สามารถทำงานได้และข้อ จำกัด ที่วางไว้กับเธอนั่นเป็นผลงานของอีวาน“คุณแน่ใจหรือว่าผมสามารถเขียนจำนวนเงินได้”เฟนด์รู้สึกประหลาดใจอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงถามในขณะที่แอบมอง“แน่นอน! แค่กรอกมันลงไป!”เมื่อเห็นว่าเฟนด์ให้ความสนใจกับเงิน หัวใจของนายใหญ่ก็ดีใจ ความงาม

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 15

    ”มันเป็นไปไม่ได้ คุณปู่ยอมรับตัวตนของเฟนด์ ในฐานะลูกเขยของตระกูลเทย์เลอร์อย่างนี้นหรือ?”เมื่อได้ยินคำพูดของนายใหญ่ สมาชิกในตระกูลเทย์เลอร์บางคนมีสีหน้าตกใจ‘คุณปู่คอยเอาอกเอาใจเซเลน่า ดูเหมือนว่าความโกรธของคุณปู่จะลดลงหลังจากหลายปีที่ผ่านมา ภายในร่างกายของเซเลน่ายังคงมีเลือดของครอบครัวเทย์เลอร์ของเราไหลเวียนอยู่ตลอดเวลา’ สมาชิกคนหนึ่งในครอบครัวเทย์เลอร์คาดเดาอย่างเงียบ ๆ ในใจของเขา“คุณปู่!”เซเลน่าเม้มริมฝีปากแดงของเธอและรู้สึกว่ามีน้ำตาไหลออกมา เธอรู้ว่าปู่ของเธอคอยติดตามความเป็นอยู่ของเธออย่างลับ ๆ ชายชราไม่สามารถลดทิฐิลงได้ทั้งหมดในตอนนี้สำหรับ ซุส เทย์เลอร์ ชื่อเสียงของเขาสำคัญกว่าสิ่งอื่นใด“อย่างไรก็ตาม?” เฟนด์หน้าบึ้ง เขารู้ว่ามันจะไม่ง่ายอย่างนั้น“แต่เรื่องที่คุณทำให้อีวานบาดเจ็บที่แขนเป็นเรื่องจริง ไม่สามารถตัดสินร่วมกันได้เช่นนั้น!”น้ำเสียงของชายชราเปลี่ยนไปอีกครั้งในขณะที่เขาพูดต่อ “คุณต้องจ่ายค่าชดเชย!”“ถูกต้อง คุณปู่พูดถูก แขนของฉันร้าว หมอบอกว่าแขนของฉันจะต้องใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งถึงสอง เดือนในการฟื้นตัวและนั่นคือการเยียวยาที่ดีที่สุด!”เนื่องจา

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 16

    ”นายน้อยวิลสัน คุณมาทำอะไรที่นี่” อีวานทักทายนายน้อยของตระกูลวิลสัน ทันทีที่สังเกตเห็นเขา “คุณพูดอะไรนะก่อนหน้านี้ นายน้อยวิลสัน? ห้าสิบล้าน? คุณยินดีที่จะเสนอห้าสิบล้านเหรียญ ยิ่งกว่าถูกรางวัลอีกใช่ไหม” ดวงตาของฟิโอน่าเต็มไปด้วยอารมณ์หลากหลาย “คุณพูดจริงใช่ไหม?” เธอพูดออกมา อย่างหนึ่งที่เรารู้ว่า วิลสันและคาร์ก ต่างก็เป็นตระกูลชนชั้นสูง พูดง่าย ๆ ก็คือพวกเขาร่ำรวยกว่าตระกูลเทย์เลอร์เป็นอย่างมาก “แน่นอนคุณป้า เราดูเหมือนคนที่กลืนคำพูดของพวกเขาหรือไม่? ผมยังคงเป็นสมาชิกของตระกูลวิลสัน ดังนั้นผมทำตามคำพูดเสมอ!” นายน้อยวิลสันหัวเราะเบา ๆ ในขณะที่เขาพูด แต่เขาก็ชื่นชมรูปร่างที่สมบูรณ์แบบของเซเลน่า ในเวลาเดียวกัน เขาไม่สามารถห้ามตัวเองไม่ได้ที่จะแอบกลืนน้ำลาย นายน้อยวิลสันอ้วนมาก มากจนดูเหมือนหมู ไม่เพียงที่เป็นคนตะกละมากเท่านั้น แต่เขาก็มักมากในเรื่องผู้หญิงด้วยเช่นกัน เขารู้สึกหลงเสน่ห์ทันทีเมื่อได้สบตากับเซเลน่าและความงามที่ไม่มีตัวติบนเธอ เมื่อเขารู้ว่าเธอแต่งงานกับเด็กส่งของบ้าน และตั้งครรภ์ในเวลาต่อมาเขาก็โกรธมาก ถึงอย่างนั้นความงามของเซเลน่าก็ยังไม่จางหายไ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 17

    ขณะที่เจมส์ได้ฟังสิ่งที่พนักงานพูด เขาก็ไม่สามารถกลั้นหัวเราะอย่างขมขื่นได้ “เทพเจ้าแห่งสงครามอยู่เหนือการควบคุมของเราและมันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำให้เรียนรู้ได้ดีขึ้น” เขากล่าว “ไม่ต้องพูดถึง นี่คือเทพเจ้าแห่งสงครามหญิง เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอชอบและไม่ชอบอะไร!” เขาหยุดพูดเมื่อหยิบยกประเด็นนี้ขึ้นมา เขากล่าวต่อว่า “ฉันกลัวว่าผู้อิทธิพลส่วนมากไม่ต้องการอะไรมากไปกว่าการพูดเยินยอให้แก่เทพแห่งสงคราม เมื่อเธอกลับมา โชคดีที่เราได้เรียนรู้จากการต่อสู้ของเธอในวันนี้มากมายและดูเหมือนว่าผู้อิทธิพลอื่น ๆ จะไม่รู้อะไรเลย” ชายวัยกลางคนที่อยู่ตรงหน้าเขาพยักหน้าและพูดว่า "ของขวัญที่เราส่งไปให้ เทพเจ้าแห่งสงครามลาน่า เธอรับหรือไม่" “เฮ้อ ... ก็ยังไม่เลว เธอยอมรับการต้อนรับที่เราจัดให้เธอ แต่สำหรับเงินมันต่างกัน เธอไม่ได้สนใจมันเลย!” เจมส์หัวเราะเบา ๆ และพูดว่า “ลาน่าดูเหมือนจะไม่ชอบเวลาที่มีคนพยายามประจบเธอ ไม่ต้องพูดถึงเราเองก็ไม่รู้ว่าจะต้องหว่านล้อมเธออย่างไร” ชายวัยกลางคนยังคงเงียบอยู่ครู่หนึ่ง ทันใดนั้นดวงตาของเขาก็แปล่งประกายในขณะที่เขาพูดว่า “นายท่านคนคุณหมายถึงตั้งแต่ตอนนั้นคื

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 18

    ตอนแรกเซเลน่าคิดว่าแม่ของเธอจะช่วยเธอถือเสื้อผ้าไว้ในมือ แต่เธอกลับโยนสิ่งเหล่านั้นลงไปในทะเลสาบมันสายเกินไปแล้วเมื่อเธอรู้สึกตัว เสื้อผ้าทั้งสามชุดที่มีราคาเกือบสองแสนถูกโยนลงไปในทะเลสาบที่อยู่ข้างเธอ ช่างไร้มารยาท“แม่กำลังทำอะไรลงไป? นั่นมันเป็นของแท้! ใครบอกว่ามันเป็นของปลอม” เซเลน่าร้อนรนจนกระทืบ ด้วยความตกใจเธอรีบวิ่งไปในขณะที่ดวงตาของเธอเริ่มเป็นสีแดงและดูเหมือนเธอกำลังจะร้องไห้ นี่เป็นครั้งแรกที่ฟาเน่ ได้เสื้อผ้าของเธอ หลังจากความยากลำบากทั้งหมดที่เธอต้องทนมาตลอดห้าปีที่ทั้งคู่แต่งงานกันในที่สุดเธอก็มีรสนิยมที่หรูหรา นั่นหมายความว่าความอดทนของเธอตลอดห้าปีที่ผ่านมาไม่ใช่เพื่ออะไร!“เรื่องจริง? ของพวกนั้นเป็นของแท้ได้ยังไง? และพวกเขาสามารถจ่ายเงินได้หรือไม่”ฟิโอน่าที่สงสัยเอามือกอดไว้ที่อกของเธอ เธอไม่มั่นใจว่าเฟนด์จะมีเงินมากขนาดนั้นเพื่อซื้อเสื้อผ้าแบรนด์ต่างประเทศให้ลูกสาวของเธอ“แม่ยายที่รัก นี่เป็นของแท้จริง ๆ เราซื้อจากร้านค้าที่มีแบรนด์เฉพาะของพวกเขา แบบนี้คงปลอมไม่ได้แล้วใช่ไหม”โจแอนที่ยืนอยู่ด้านข้างในที่สุดก็ลุกพรวด “คุณโยนเสื้อผ้าราคาเกือบสองแสนนี

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 19

    “นายท่านครับ นายท่าน! ผมโทรไปหลายครั้งและในที่สุดฉันก็พบบางอย่างเกี่ยวกับสถานการณ์ทั้งหมดที่เกี่ยวกับเฟนด์มันประหลาดมาก!” สเปกเตอร์เฟซ ร้องเรียกเจมส์ขณะที่เขาวิ่งเข้ามาอย่างลนลาน “ประหลาดยังไง?” เจมส์สะดุ้งเล็กน้อยเมื่อได้ยินสิ่งที่สเปกเตอร์เฟซพูด เขาไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะอธิบายเรื่องของเฟนด์ ว่า ‘แปลกประหลาด’ “ลองดู นี่คือข้อมูลที่ฉันได้รับมาอย่างเหน็ดเหนื่อยจากคนที่อยู่ในแวดวงทหารเพื่อตรวจสอบเฟนด์” “มีเพียงชื่อหมายเลขประจำตัวของเขาและงานในอดีตของเขาในฐานะเด็กส่งของตามบ้าน หลังจากนั้นเขาก็กลายเป็นลูกเขยของตระกูลเทย์เลอร์ เขาถูกเกณฑ์ในวันที่สองของการแต่งงานและสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นเป็นสิ่งที่เราหาไม่พบ ห้าปีต่อมาเขาก็กลับไปในเมือง!” สเปกเตอร์เฟซขมวดคิ้วและพูดว่า “ไม่ใช่ข้อมูลส่วนตัวแปลก ๆ เหรอ? แม้แต่ข้อมูลในระหว่างการเกณฑ์ทหารของเขายังเป็นปริศนา แต่แผนกที่เขาถูกเกณฑ์เข้าก็ไม่เป็นที่รู้จักเช่นกัน ทั้งหมดที่เราพบก็คือแม่ของเขาชื่อโจแอน ซาเวียร์ ปัจจุบันทำงานเป็นคนทำความสะอาดในส่วนกลาง เราไม่มีอะไรกับพ่อของเขา!” “ไม่พบอะไรเกี่ยวกับพ่อของเขาและสถานการณ์ของเขาในระห

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 20

    “เย้ เย้! เราไปทานอาหารกันได้แล้ว!” ไคลีสวมชุดเจ้าหญิงตัวน้อยๆ ที่สวยงามในขณะที่เธอเล่นอย่างสนุกสนานในลานบ้าน “คุณผู้หญิงฉันจะไม่ร่วมงานกับพวกคุณ ฉันยังมีเรื่องที่ต้องเข้าทำ ดังนั้นฉันจะขอไปตอนนี้” เจนนี่ยิ้มให้เซเลน่า “เดทกับแฟนอีกครั้ง? โอ้คุณ เร็วเข้า!” เซเลน่าพูดด้วยรอยยิ้มที่มีความเมตตา โจแอลอาบน้ำเสร็จแล้วในขณะนั้น เธอเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ที่เฟนด์ ซื้อให้เธอ เธอดูอ่อนกว่าวัยในช่วงสั้น ๆ แม้ว่าเธอจะอายุสี่สิบ แต่เธอก็ดูอ่อนเยาว์และสง่างามมากขึ้น โจแอนดูสวยงามอย่างง่ายดายและเธอก็มีความสง่างามตามธรรมชาติเช่นกัน แม้ว่าโดยปกติแล้วเธอจะแต่งกายด้วยเครื่องแบบที่สะดวกในการทำงาน แต่เธอก็ยังคงแสดงถึงความสง่างามส่วนตัวที่เป็นของเธอเท่านั้นและไม่มีใครอื่น ด้วยเหตุนี้เองที่พ่อของเฟนด์จึงตกหลุมรักเธอในตอนนั้น น่าเสียดาย… “แม่ คุณดูสวยมากในชุดนี้!” เซเลน่ายิ้มขณะมองโจแอน“โอ้ หยุดประจบฉัน ฉันแก่แล้ว!” โจแอนหัวเราะเบา ๆ ขณะที่เธอพูด ฟีโอน่าที่นั่งอยู่ด้านข้างไม่สามารถกลั้นตัวเองจากการพึมพำขณะที่เธอเห็นฉากนั้นได้ “ฉันเป็นแม่ผู้ให้กำเนิดของเธอหรือหล่อน?” เธอพึ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 21

    ภายในร้านอาหาร ฟีโอน่า ลูอิส โกรธมากจนใบหน้าของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงและหายใจฮึดฮัดเธอไม่เคยถูกล้อเลียนและดูถูกในตลอดห้าปีที่ผ่านมาถ้าไม่ใช่เพราะ เฟนด์ วู๊ด เฟนด์ วู๊ด เป็นต้นเหตุสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้น เพราะลูกเขยไร้ประโยชน์คนนี้ทันใดนั้น บรรยากาศก็ตึงเครียดมาก!ฟีโอน่านึกถึงนายน้อยคลาร์ก และนายน้อยวิลสัน ซึ่งเป็นเจ้านายรุ่นเยาว์ของครอบครัวชนชั้นสูง และร่ำรวยกว่าตระกูลเทย์เลอร์ เมื่อเธอนึกถึงเงินห้าสิบล้านที่นายน้อยวิลสัน ยินดีจ่ายเป็นของขวัญหมั้นหมายทั้งหมด สิ่งที่เธอต้องการคือไล่ไอ้เด็กเหลือขอคนนี้ออกไปจากหน้าเธอทันทีเธอเกลียดที่ไอ้เด็กเหลือขอคนนี้ มันเอาเปรียบลูกสาวของเธอที่เมาในคืนแต่งงานและจะไม่มีวันให้อภัยมันเด็ดขาด!สายตามากมายที่จับจ้องมาที่เขา เธอจึงอยากเห็นว่าเฟนด์จะจบเรื่องนี้อย่างไรมีข่าวลือว่าทหารผ่านศึกที่กลับมาจากสงครามจะได้รับโบนัสมากมาย แต่โดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณสองแสนถึงสามแสน ผู้ที่ได้รับมากกว่านั้นคือผู้ที่มีคุณงามความดีหรือผู้ที่มีตำแหน่ง อย่างเป็นทางการเห็นได้ชัดว่าเฟนด์ไม่ใช่คนแบบนั้นนอกจากนี้เขาอาจใช้เงินส่วนใหญ่ไปเพื่อทำให้ลูกสาวของเธอมีควา

Latest chapter

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2455

    ตราบใดที่มันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการบ่มเพาะโอสถของเขา ทั้งสองคนจะทำอะไรตามต้องการก็ย่อมได้ สิ่งนั้นไม่กระทบอะไรกับเขาเลย“ถึงฉันจะดูแคลนหมอนี่ แต่เขาก็ยังกล้าเสมอ เขาก็คงจะมีความสามารถอยู่บ้าง เขาน่าจะผ่านสองขั้นตอนแรกได้อย่างไม่มีปัญหา” เกรย์สันพูดอย่างชัดเจนรูดี้มองไปที่เกรย์สันด้วยรอยยิ้มเย็นชาบนใบหน้าแล้วตอบว่า "นายดูมั่นใจกับหมอนี่มากเลยนะ ฉันจะคิดว่าทุกครั้งที่เขาพูดก่อนหน้านี้ล้วนเป็นเรื่องไร้สาระทั้งหมด“ฉันคิดว่าเขาอาจจะไปถึงขั้นที่สองก่อนที่เขาจะล้มเหลวโดยสิ้นเชิง! ฉันอยากเห็นจริง ๆ ว่าถ้าล้มเหลวขึ้นมา เด็กสารเลวคนนี้จะสู้หน้าเราได้ยังไง”เกรย์สันสูดหายใจเข้าลึก ๆ เขารู้สึกได้ว่าความโกรธของรูดี้ที่มีต่อเฟนด์นั้นลึกซึ้งกว่าของเขามากดวงตาของรูดี้ลุกเป็นไฟ เห็นได้ชัดว่าเขาเกลียดเฟนด์มากเพียงใดเกรย์สันหัวเราะอย่างเย็นชา "แล้วมาดูกันว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ฉันคิดว่าเขาน่าจะสามารถไปถึงขั้นตอนสุดท้ายได้ ถ้าเขาสามารถควบรวมอักขระทางยาได้ถึงร้อยเม็ดเขาก็น่าจะมาถึงระดับนั้น"หลังจากที่ทั้งสองพูดเรื่องเหล่านั้นออกมา พวกเขาก็ปิดปากเงียบพร้อม ๆ กับการมองดูเฟนด์โดยไม่พูดอะไรพวกเขามอง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2454

    ผู้อาวุโสฮอร์สท์กระแอมเล็กน้อยในขณะที่เขาพูดต่อ “หลังจากที่เธอบ่มเพาะโอสถได้สำเร็จแล้ว ให้นำโอสถมาให้ฉันตรวจสอบ พวกเธอจะมีเวลาในการทดสอบทั้งสิ้นแปดชั่วโมง ถ้าเธอไม่สามารถบ่มเพาะโอสถได้ภายในแปดชั่วโมง ก็จะแปลว่าไม่ผ่านการทดสอบ ดังนั้นอย่าได้ช้าเกินไป”พวกเขาทั้งสามพยักหน้าแทบจะพร้อมกัน หลังจากผู้อาวุโสฮอร์สท์ให้คำแนะนำแล้ว เขาก็จัดให้มีคนงานสองสามคนคอยเป็นคนตรวจ มีผู้ดูแลยืนอยู่ด้านหลังทั้งสามคนเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่ทำอะไรผิดพลาดหลังจากนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็หันกลับมาและไปหาผู้สอบคนอื่น ๆ รูดี้หรี่ตาลง ขณะที่เขาเหลือบมองเฟนด์และพูดว่า "ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการบ่มเพาะโอสถระดับหกคือขั้นตอนสุดท้าย แต่ขั้นตอนแรกก็ไม่ง่ายเช่นกัน ถ้านายรู้ว่าทำไม่ได้ ก็อย่าทำให้ต้องสิ้นเปลืองวัตถุดิบเลย ของพวกนี้ล้วนมีราคาค่างวด ต่อให้นายจะขายตัวเองเป็นทาสก็ยังไม่พอให้ซื้อของพวกนี้!”เฟนด์ถอนหายใจออกเบา ๆ หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาเบื่อเกินกว่าจะอ้าปากพูดด้วยซ้ำ เขาตัดสินใจที่จะเพิกเฉยต่อผู้ชายคนนั้นและทุกสิ่งที่จะออกมาจากปากเขา ถึงโต้ตอบไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรอยู่ดี

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2453

    เกรย์สันหรี่ตาลงขณะที่เขามองเฟนด์ด้วยความโกรธเช่นกัน เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ดูเหมือนว่าวันนี้ นายจะมาที่นี่เพื่อหาเรื่องขายหน้าให้กับตัวเองเท่านั้น"หลังจากพูดจบเกรย์สันก็หันหลังกลับและเงียบไป เสียงความขัดแย้งหยุดลง และทุกคนรอบ ๆ ก็เริ่มกระซิบกระซาบกันผู้อาวุโสฮอร์สท์มองเฟนด์อย่างมีความหมาย ราวกับว่าเขามองเฟนด์ในมุมมองที่ต่างออกไป ทันใดนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็อยากรู้เรื่องของเฟนด์อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ในขณะนั้นเขาไม่อาจพูดอะไรออกมาได้เมื่อเขาเห็นว่าทุกคนได้จับกลุ่มกันเรียบร้อยแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็โบกมือแล้วพูดว่า "มากับฉัน!"ทุกคนติดตามผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปเป็นกลุ่ม ๆ ผู้อาวุโสฮอร์สท์เข้าไปในเรือวิญญาณ ภายในเรือเต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังรีบร้อนพวกเขาเดินตามหลังผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปอย่างใกล้ชิด เดินลัดเลาะไปตามทางก่อนจะมาถึงห้องกว้างขวางในที่สุด ห้องกว้างขวางมากจนเรียกได้ว่าห้องโถงเลยทีเดียวทันทีที่พวกเขาก้าวเข้าไปในห้อง ทุกคนก็สามารถสัมผัสได้ถึงรังสีของโอสถที่หนาแน่นรอบ ๆ บรรยากาศ พื้นที่ในห้องนี้ใหญ่เกินพอสำหรับพวกเขาแปดสิบคนเฟนด์ประเมินสถานการณ์เล็กน้อย ห้องนี้ใหญ่พอที่จะรองรับคน

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2452

    พวกเขาถาโถมข้อกล่าวหาและดูหมิ่นมามากเกินไป ถึงเขาจะไม่อยากโต้เถียงกับคนพวกนี้ แต่เขาก็ยังถูกบังคับให้ต้องเงยหน้าขึ้นมาอย่างช้า ๆ อยู่วันยันค่ำเขามองเข้าไปในดวงตาของรูดี้ซึ่งเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน ราวกับเขาเป็นเพียงแมลงในสายตาของรูดี้เฟนด์หัวเราะอย่างเย็นชา “แล้วนายได้ยินเสียงสุนัขที่เห่าดังที่สุดแล้วหรือยังล่ะ?”คำพูดเหล่านั้นสามารถเยาะเย้ยทุกคนที่นั่นได้สำเร็จ เขาเปรียบเทียบกิลเบิร์ตกับสุนัขและเย้ยหยันทุกคนที่ฟังสุนัขตัวนั้นเห่า มันทำให้การแสดงออกบนใบหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปกิลเบิร์ตเกือบจะลืมความโกรธของตัวเองไปแล้ว เขาไม่อยากจะเชื่ออะไรด้วยซ้ำว่าเฟนด์จะสามารถขจัดคำดูถูกดูแคลนทั้งหมดลงได้ แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้นกิลเบิร์ตหันกลับมาจ้องมองเฟนด์ด้วยใบหน้าแดงก่ำจากความโกรธเขาอยากจะตะโกนกลับแต่ถูกรองเหรัญญิกปรามไว้ "ดูเหมือนว่านายจะไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบแล้วสินะ!"ประโยคนั้นเพียงประโยคเดียวก็ทำให้กิลเบิร์ตไม่อาจพูดอะไรออกมาได้อีก กิลเบิร์ตตระหนักได้แล้วว่าเขาได้ทำให้รองเหรัญญิกขุ่นเคืองอย่างหนักหากเขายังคงยืนกรานที่จะต่อปากต่อคำกับเฟนด์ รองเหรัญญิกอาจจะดึงเขาออกไปจริง ๆ แล้วเขาจะ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2451

    “สมองหมอนั่นจะต้องมีอะไรผิดปกติจริง ๆ นั่นแหละ เขาคิดจริง ๆ หรือว่าเขาอยู่ในระดับเดียวกับอีกสองคนที่อยู่ตรงหน้าเขา แค่เพราะไปยืนอยู่กลุ่มเดียวกัน? นั่นน่าจะตลกมากเกินไปหน่อยนะ…”“ฉันนึกว่าการทดสอบจะเข้มงวดและจริงจังเสียอีก ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะได้เห็นอะไรแบบนี้ ทำเอาฉันขำจนปวดท้องเลยล่ะ…”แอนดรูว์ขมวดคิ้วอย่างรู้สึกอับอาย รองเหรัญญิกโกรธจนตัวสั่นหลังจากได้ยินคำพูดของกิลเบิร์ต เขานึกอยากจะพุ่งตัวไปไปตบกิลเบิร์ตสักสองสามครั้งกิลเบิร์ตเพิกเฉยต่อชื่อเสียงของวิมานโอสถอย่างเห็นแก่ตัวที่สุด พวกเขาแทบอยากจะมุดดินหนี ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นี่จะเป็นความอัปยศอดสูที่วิมานโอสถไม่อาจจำกัดทิ้งได้รองเหรัญญิกตะโกนออกไปว่า "หุบปากเดี๋ยวนี้! นายกำลังพูดเรื่องบ้าอะไร ถ้าไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบ ก็ไสหัวไปซะ!"รองเหรัญญิกโกรธมาก ขณะที่เขาพูดเช่นนั้น สีหน้าของเขาดูอดสูอย่างไม่น่าเชื่อ เขายังคิดจะฆ่ากิลเบิร์ตให้ตายเสียเดี๋ยวนี้ เมื่อถูกตำหนิเช่นนั้นก็ทำให้กิลเบิร์ตตระหนักได้ว่าเขาพูดผิดไปถึงกระนั้นก็ไม่มีทางที่เขาจะถอนคำพูดเหล่านั้นกลับคืนมา เขากระแอมเบา ๆ ก่อนที่จะรีบหันศีรษะไปซ้ายทีขวาที อย่างไม่กล้

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2450

    ไม่มีใครรู้ดีไปกว่ารองเหรัญญิกว่าโอสถระดับหกหมายถึงสิ่งใด ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา วิมานโอสถรับบัณฑิตมาจำนวนนับไม่ถ้วน แต่มีไม่มากนักที่จะได้กลายเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุระดับหกจริง ๆคอนสแตนซ์ยิ้มอย่างมีความหมายขณะที่เขาเอ่ยถาม "รองเหรัญญิกคนนี้มีความสามารถหลากหลายจริง ๆ ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าวิมานโอสถจะมีอัจฉริยะกับเขาด้วย ผมไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลย"ริมฝีปากของรองเหรัญญิกกระตุก เขาต้องการอธิบายตัวเอง แต่ถ้าเขาบอกว่าเฟนด์ไม่สามารถสกัดโอสถระดับหกได้ และมีเพียงพรสวรรค์ในการสร้างอักขระทางยาเท่านั้น มันคงจะกลายเป็นเรื่องตลกครั้งใหญ่ และทุกคนคงจะหัวเราะเยาะวิมานโอสถเป็นแน่แต่ถ้าเขายังคงดื้อรั้นต่อไป พอถึงเวลาต้องบ่มเพาะโอสถ เฟนด์ก็จะเปิดเผยความจริงข้อนั้นออกมา เมื่อนั้นความอัปยศอดสูก็จะยิ่งหนักข้อขึ้นเขาถึงกับมือสั่น ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยรู้สึกเหมือนตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้มาก่อน เขารู้สึกเหมือนกำลังถูกกักขังอยู่ในกำแพงอีกสองด้าน ทุกคนคิดว่ารองเหรัญญิกกำลังวางแผนที่จะใช้ความเงียบเพื่อตอบคำถามเมื่อเห็นกับตาว่ารองเหรัญญิกไม่ตอบอะไรออกมาแต่ทว่าคอนสแตนซ์คล้ายกับจะไม่เ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2449

    เฟนด์เป็นคนเดียวที่ยังคงยืนอยู่ ขณะนั้นเขาดูคล้ายกับกำลังลังเลและดูเหมือนกำลังรออะไรบางอย่างอยู่ ขณะที่รองเหรัญญิกพูดจบ ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็จ้องมองมาอย่างอยากรู้อยากเห็นแม้ว่าดวงตาของเขาจะดูเป็นประกายมากขนาดไหน แต่เฟนด์ก็ยังคงรู้สึกถึงความเฉียบคมภายใน ราวกับว่าเขาจะถูกตัดสิทธิ์หากเขาไม่ขยับริมฝีปากของเฟนด์กระตุกอย่างช่วยไม่ได้ เขารีรอต่อไปไม่ได้แล้ว จึงได้แต่เดินไปยังพื้นที่ที่เขาวางแผนไว้ก่อนหน้านี้ในตอนแรกเฟนด์ไม่ได้ดึงดูดความสนใจใครมากนัก เขาอาจจะเป็นคนสุดท้ายที่ปรากฏตัวขึ้น ไม่มีใครจำเขาได้ ต่อให้เขาจะมาจากวิมานโอสถ แต่นอกจากคนที่เคยพบเขาแล้ว ก็ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใครขณะที่เขาเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกต่อไป ทุกคนก็เริ่มจ้องมองไปที่เขา ใบหน้าของรองเหรัญญิกก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นบูดบึ้งเมื่อเขาสังเกตเห็นว่าเฟนด์กำลังมุ่งหน้าไปทางใด“ผู้ชายคนนั้นคิดจะไปต่อหลังรูดี้หรือเปล่า? เขาคิดจะพิสูจน์ตัวเองด้วยการกลั่นโอสถระดับหกด้วยหรือ?”“ก็คงเป็นแบบนั้น เว้นแต่เขาจะเป็นคนโง่เง่าที่ไม่ทันได้ฟังกฎการตัดสินให้ดี ไม่งั้นคงไม่เดินไปแบบนั้นหรอก เขาเป็นใคร ทำไมฉันไม่เคยได้ยินอะไรเกี่ยวกับเขาเลย

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2448

    กิลเบิร์ตทำท่าราวกับกลืนแมลงวันเข้าไปสองสามตัว เขาคาดหวังว่ารองเหรัญญิกจะพูดคำเหล่านั้นกับเขาเสียอีก แต่กลับกลายเป็นว่ารองเหรัญญิกไม่ละสายตามามองเขาเลยแม้แต่วินาทีเดียวรองเหรัญญิกฝากความหวังทั้งหมดไว้กับเฟนด์ราวกับว่ากิลเบิร์ตและแอนดรูว์มาที่นี่เพื่อเพิ่มจำนวนคนเท่านั้นแอนดรูว์มีสีหน้าขมขื่นเช่นกัน ในอดีตเขาขัดแย้งกับกิลเบิร์ตมามากมาย และความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ไม่อาจพัฒนาไปในทางที่ดีได้แต่ต้องขอบคุณเฟนด์ที่ทำให้เขาสามารถวางเฉยต่อความแค้นทั้งหมดที่เคยมีได้แอนดรูว์พูดด้วยใบหน้าที่มืดมน “รองเหรัญญิก ดูเหมือนคุณจะฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่เฟนด์เลยนะ“แต่คุณก็น่าจะเตือนเฟนด์สักหน่อยว่าต่อให้เขาจะมีพรสวรรค์ค่อนข้างดี แต่ก็ไม่ควรหยิ่งผยองเกินไป”แอนดรูว์โกรธมากในขณะนั้นและอดไม่ได้จริง ๆ ที่จะต้องเอ่ยคำดูแคลนที่สุดเช่นนั้นออกมากิลเบิร์ตกล่าวเสริมอย่างรีบร้อนทันที “แอนดรูว์พูดถูก แม้ว่าพรสวรรค์ของเฟนด์จะค่อนข้างดี แต่เขาก็ไม่ควรหยิ่งผยองนัก คำพูดพวกนั้นไม่ได้ช่วยอะไรเลยสักนิด”เฟนด์ถึงกับพูดไม่ออกเมื่อถูกคนทั้งสองเหยียบย่ำ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเฟนด์ไม่ได้เอ่ยปากเลยสักคำ แล้วเขาจะเอาเวลา

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2447

    ในตอนแรก คอนสแตนซ์และซีนย์เพียงยืนเคียงข้างกันโดยไม่สนใจเรื่องนี้ พวกเขาต้องการปล่อยให้สถานการณ์ดำเนินต่อไปอย่างที่ควรจะเป็น แต่เมื่อว่าเกรย์สันและรูดี้เริ่มเถียงกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งสองคนก็ถูกบีบให้ต้องทำอะไรสักอย่างพวกเขาถูกบีบให้ต้องแยกรูดี้และเกรย์สันออกจากกัน นั่นก็เพราะ การทะเลาะกันของเด็ก ๆ ควรจะมีขีดจำกัด เพราะหากมันเกินขีดจำกัดไปแล้ว นั่นจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของพวกเขา นี่คือสิ่งที่รูดี้และเกรย์สันเองก็ไม่อยากเห็นเป็นเวลาเกือบสิบห้านาทีแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์นั่งบนเก้าอี้ ขณะมองดูการทะเลาะวิวาทและการพูดคุยกันอย่างเฉยเมย เมื่อหมดเวลาเขาก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้เสียงปรบมือดังขึ้นตอนที่เขาจะพูดว่า "เอาล่ะ หมดเวลาแล้ว ทุกคนต้องตัดสินใจได้แล้วว่าจะพิสูจน์ความสามารถของตัวเองยังไง”“ฉันไม่คิดว่าฉันจะต้องบอกอะไรพวกนายทุกอย่างหรอกนะ ตอนนี้ก็แยกออกเป็นกลุ่มเสีย ผู้ที่ต้องการรวมอักขระทางยาจะยืนอยู่ทางทิศตะวันออก“ผู้ที่ต้องการแยกแยะวัสดุสามารถยืนอยู่ตรงกลางได้เลย และหากจะพิสูจน์ตัวเองด้วยกันบ่มเพาะโอสถให้ไปยืนที่ทางทิศตะวันตก“ถึงอย่างนั้นฉันก็ต้องขอเตือนทุกคนก่อน หากทุกคนต้องการ

DMCA.com Protection Status