Share

บทที่ 1312

Author: โมเนโต้
"เดี๋ยวก่อน! ลองค้นหาแหวนจอมยุทธของพวกเขาและดูว่ามีสมบัติอะไรอยู่ในหรือเปล่า!”

ไนกินี่คิดขึ้นมาได้จึงวิ่งไปที่ศพทั้งสามอย่างรวดเร็ว และถอดแหวนจอมยุทธของพวกเขาออก

“เอ๊ะ? ไม่เลวเลย! มียาสมานแผลสองสามเม็ดและหญ้าวิญญาณระดับหนึ่งสองสามอัน เดี๋ยวก่อน แล้วนี่อะไร? พระเจ้า! มีป้ายสีดำสองอันอยู่ในแหวนของผู้ชายคนนี้! เราเจอสมบัติแล้ว!”

ไนกินี่อุทานออกมาเสียงดังขณะที่เธอหยิบสมบัติออกมาจากแหวนและมอบให้แซลลี่ “พี่แซลลี่ ขอบคุณที่ช่วยฉันไว้! สมบัติเหล่านี้ยกให้พี่ทั้งหมดเลย! พวกมันเป็นของที่ยึดได้มาจากการต่อสู้ของพี่!”

“เธอให้ฉันทั้งหมดเลยเหรอ? ไม่ มาแบ่งกันเถอะ! ใครมีส่วนร่วมก็เอามาแบ่งปันกัน จริงไหม? ฮ่าฮ่า อีกอย่าง ด้วยหญ้าวิญญาณเหล่านี้จะทำให้เธอสามารถทะลวงไปสู่ระดับถัดไปได้เร็วขึ้น!”

แซลลี่เป็นคนยุติธรรม เธอไม่ได้เอาไปทั้งหมด แต่หยิบสมบัติไปแค่ครึ่งเดียว แล้วที่เหลือก็มอบให้ไนกินี่ เธอยังแบ่งป้ายสีดำอันหนึ่งให้กับไนกินี่ด้วย

“พี่เก็บป้ายไว้เถอะ ความสามารถในการต่อสู้ของฉันไม่แข็งแกร่งเท่าพี่ มันไม่ปลอดภัยที่ฉันจะรักษามันไว้ พี่แข็งแกร่งกว่าฉันมาก พี่ควรเก็บมันไว้ และถ้าเราต้องเจอกับอ
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1313

    ออร่าจางๆ เปล่งออกมาจากงูเหลือม เฟนด์สามารถสรุปได้ทันทีว่างูเหลือมตัวนี้เป็นสัตว์อสูรที่มีพลังเทียบเท่ากับคนที่อยู่ขั้นต้นของระดับกึ่งเทพเลย มันเป็นเรื่องน่าประหลาดใจและน่าตกใจมากที่สัตว์อสูรเช่นนี้ปรากฏตัวขึ้นในพื้นที่รอบนอกของป่าแห่งนี้ เพราะยังไงซะ งูเหลือมตัวนี้ก็ถือว่าหายากมาก ความแข็งแกร่งและพลังของมันแข็งแกร่งกว่าผู้ฝึกยุทธทั่วไป แกร่งกว่ามือสมัครเล่นพวกนั้นอีก พูดอีกอย่างก็คือ ผู้ฝึกยุทธที่อยู่ขั้นต้นของระดับกึ่งเทพก็สู้กับสัตว์อสูรดังกล่าวไม่ได้ และแม้แต่ผู้ฝึกยุทธที่อยู่ขั้นกลางของระดับกึ่งเทพก็อาจจะไม่สามารถฆ่าสัตว์อสูรที่มีพลังอยู่ในขั้นต้นของระดับกึ่งเทพเช่นนี้ได้ อย่างไรก็ตาม เฟนด์ได้ทะลวงเข้าสู่ขั้นกลางของระดับเทพแท้จริงแล้ว สัตว์ร้ายดังกล่าวไม่อยู่ในสายตาของเขาหรอกเขากำหมัดแน่น และในพริบตา เขาก็ปรากฏตัวขึ้นที่ด้านบนหัวของงูเหลือม จากนั้นจึงใช้หมัดชกลงไปที่หัวของงูเหลือมเปรี้ยง! งูเหลือมขนาดใหญ่และยาว ซึ่งยาวประมาณเจ็ดถึงแปดฟุตเลย เฟนด์ไม่เคยเห็นงูเหลือมยาวขนาดนี้มาก่อน เพราะยังไงซะ เขาก็ไม่เคยเผชิญหน้ากับสัตว์อสูรและต่อสู้กับมันจริง ๆ เขาเคยแต่ได้ยินมาจากคนอื่

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1314

    "คุณจะพูดอะไรก็พูดไปเถอะ!"เฟนด์ยืดแขนยืดขาและพูดว่า "คุณเพิ่งมาที่นี่และกระหายที่จะฉวยโอกาสแย่งของจากคนอื่นเหรอ? น่าเสียดายจริง ๆ เพราะฉันไม่ใช่พวกขี้แพ้!”“เฮ้ ฉันเป็นหลานชายของผู้อาวุโสลำดับสองของตระกูลแซคคารีเลยนะ และฉันก็อยู่ขั้นกลางของระดับเทพแท้จริงแล้ว ดังนั้นถ้านายฉลาดพอ นายจงทิ้งหญ้าวิญญาณที่เพิ่งถอนมาไว้ซะ แล้วฉันจะปล่อยนายไป!”ชายจากตระกูลแซคคารีถือดาบด้วยมือข้างเดียว มีออร่ามากมายพุ่งออกมารอบ ๆ ตัวเขา “ตระกูลแซคคารีไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่ดีกับตระกูลวู๊ด แต่เราก็ไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่เลวร้ายขนาดนั้นเหมือนกัน ฉันจะไม่ฆ่านายตราบใดที่นายมอบมันให้ฉัน เพราะยังไงซะ มันคงยากมากสำหรับนายกว่าจะได้กลายเป็นผู้สืบทอดหัวหน้าตระกูล ช่างน่าเสียดายถ้านายต้องมาตายที่นี่!”“คุณมั่นใจมากขนาดนั้นเลยแม้ว่าคุณจะอยู่แค่เพียงขั้นกลางของระดับเทพแท้จริง?” เฟนด์พุ่งขึ้นฟ้าไปในพริบตา “เอาอย่างนี้ไหม? มอบดาบของคุณและทุกสิ่งที่คุณมีมา แล้วฉันจะไว้ชีวิตคุณ เพราะคุณเสนอที่จะไว้ชีวิตฉัน!” ชายคนนั้นผงะไปพักหนึ่ง แต่เขาก็กลับเป็นปกติอย่างรวดเร็ว “เฮ้ ไอ้นอกคอก นายนี่ช่างปากดีนักนะ” เขาพูดพร้อมยิ้มอย

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1315

    ไฮเดนรู้สึกได้อย่างรวดเร็วว่ามีบางอย่างผิดปกติ รอยแตกเล็ก ๆ เริ่มปรากฏบนม่านพลังของเขา และมันกำลังจะพังทลายลงในไม่ช้า "ไม่มีทาง ไม่มีทางที่ฉันจะเอาชนะไอ้นอกคอกจากแดนมนุษย์ไม่ได้!”ไฮเดนร้องออกมาเสียงดัง ในเวลาเดียวกัน รอยร้าวบนม่านพลังป้องกันรอบตัวของเขาก็ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ จากนั้นมันก็แตกกลายเป็นฝุ่นผงปัง!เสียงอันน่าสะพรึงกลัวดังขึ้น วินาทีถัดมา ไฮเดนก็ถูกอัดกระเด็นออกไปราวกับว่าวป่านขาด เขากระแทกเข้ากับต้นไม้อย่างแรงต้นไม้หักโค่นลงจากแรงกระแทก ไฮเดนกระอักเลือดออกมา ใบหน้าของเขาซีดเซียว เขากัดฟันและพยายามลุกขึ้นยืน เลือดก็ทะลักออกมาจากปากของเขาอีกครั้ง เขาปักดาบของตัวเองลงบนพื้นและตั้งตัวขึ้นมาให้มั่นคงเฟนด์เหาะไปโดยไม่ลังเล แล้วปรากฏตัวต่อหน้าไฮเดนพร้อมกับยิ้มนิด ๆ บนใบหน้า“คุณมีพรสวรรค์นะ ไฮเดน แซคคารี!”เฟนด์ยิ้มและพูดต่อเว่า “ช่างน่าเสียดายจริง ๆ ที่ต้องฆ่าคุณที่นี่ คงยากมากแน่เลยกว่าจะฝึกตนให้แข็งแกร่งได้ขนาดนี้!”มุมปากของไฮเดนกระตุกอย่างรุนแรง ไอ้นอกคอกนี่กำลังบิดเบือนคำพูดของเขาเพื่อเอามาใช้กับเขา“ฮึ่ม ไอ้บ้าเอ๊ย ฉันโชคไม่ดีเอง ฉันไม่คิดว่าอัจฉริยะอย่างนายจะโผ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1316

    เฟนด์ไม่จำเป็นต้องตอบ เขาหันกลับแล้วค่อย ๆ เหาะจากไป ทิ้งไว้แค่คำพูดเหล่านี้ “ยาของฉันน่าจะรักษาบาดแผลได้ดีกว่าของคุณมาก คุณควรรักษาตัวให้หายดีโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่งั้นอย่ามาโทษฉันที่ทำให้คุณบาดเจ็บตอนที่คุณตายในการต่อสู้กับอัจฉริยะจากตระกูลฮันต์เมื่อคุณพบกับพวกเขา!”ไฮเดน แซคคารียังคงล้มลงอยู่ที่เดิมจนกระทั่งเฟนด์จากไป เขายังงุนงง สงสัยว่าทุกสิ่งทุกอย่างเป็นความฝันที่ชัดเจนหรือไม่ เพราะยังไงซะ เขาก็คือคนที่แอบโจมตีและดูถูกเฟนด์ เขาไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะไม่ยึดสมบัติของเขาไปทั้งหมดแม้ว่าจะเอาชนะเขาได้แล้วก็ตาม แถมเขายังทิ้งยารักษาและหินวิญญาณไว้ให้ไฮเดนด้วย“ยาเม็ดนี้มีพิษหรือเปล่านะ?” ไฮเดนพึมพำในขณะที่มองดูยาเม็ดเล็กๆ ในฝ่ามือเขาส่ายหัว หากเฟนด์ต้องการฆ่าเขาจริง ๆ มันก็ไม่จำเป็นเลยจริงไหม? แค่เอาดาบแทงเขามันไม่ง่ายกว่าเหรอ?“ฮึ่ม มาดูกันว่ายาของนายจะดีกว่ายาจากตระกูลแซคคารีของเราหรือเปล่า!” ไฮเดนทำเสียงไม่พอใจก่อนจะเอายาเข้าปากแล้วกลืนลงไปเพียงสองนาทีต่อมา ไฮเดนก็รู้สึกว่าบาดแผลของเขากำลังทุเลาลง ความเร็วในการรักษานั้นเร็วกว่าหลายเท่าเมื่อเทียบกับยารักษาของตระกูลแซคคารี

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1317

    ดังนั้น การเดินทางในตอนกลางคืนจึงอันตรายกว่ามากเมื่อเทียบกับเดินทางตอนกลางวันทันใดนั้นเอง…ตูม!เฟนด์ได้ยินเสียงดังที่น่าสะพรึงกลัวเหมือนมีการต่อสู้เกิดขึ้นใกล้ ๆ ซึ่งมันน่าจะเกิดขึ้นจริงเพราะว่าไม่มีเสียงหอนจากสัตว์อสูรเลย นั่นหมายความว่ามันคงกำลังต่อสู้อยู่ด้วยการคาดคะเนดังกล่าว เฟนด์จึงเหาะไปหาแหล่งที่มาของเสียงเมื่อมาถึงบนยอดเนินเขาเล็ก ๆ เขาก็ซ่อนตัวอยู่ในพุ่มไม้และมองไปยังทางตีนเขา“เฮเลน่า คาเบลโล่?” ไม่นานนักเฟนด์ก็เห็นร่างที่สวยงามปรากฏขึ้นในสายตา และการแสดงออกของเขาก็ค่อย ๆ เปลี่ยนไปในขณะที่เขารู้สึกว่าความรู้สึกของเขาปะปนกันไปหทดผู้หญิงคนนี้อายุเกือบ 30 ปี อายุมากกว่าเฟนด์ถึงสองปี แต่เธอยังไม่ได้แต่งงาน ตอนที่นายน้อยลำดับที่สองของตระกูลฮันท์มารังควาน เธอเลยโกหกว่าเฟนด์เป็นแฟนของเธอเพื่ออยากทำให้เขายอมแพ้ไปไม่คิดเลยว่าการตัดสินใจทำแบบนั้นของเธอจะทำให้เรื่องซับซ้อนมากขึ้นและยากที่จะอธิบายตัวเอง เขาทำได้แค่กัดฟันและโกหกต่อไปเฟนด์ได้คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว ทั้งหมดที่พวกเขาทำได้คือแสร้งทำเป็นคู่รักกัน เพราะยังไงซะ เมื่อการแข่งขันสิ้นสุดลงและทุกคนกลับบ้าน เรื่องพว

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1318

    สีหน้าของเฮเลน่ามืดลง เนื่องจากการโจมตีของนายน้อยลำดับที่สองของตระกูลฮันท์ทำให้เธอไม่สบายใจ ทั้งคู่ต่อสู้กันมาสักพักแล้ว และเธอก็ประเมินเขาต่ำไป เพราะคิดว่าตัวเองอยู่ในขั้นสุดท้ายของระดับเทพแท้จริงแล้ว เธอเลยคิดว่าเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเธออย่างไรก็ตาม เธอไม่คิดว่าเขาจะทะลวงผ่านขั้นสุดท้ายของระดับเทพแท้จริงแล้ว ภายใต้สถานการณ์ที่ความสามารถในการต่อสู้ของเขาเท่ากับเธอ ทักษะการต่อสู้หรือเทคนิคการต่อสู้ของเขาดูเหมือนจะแข็งแกร่งกว่าของเธอมาก พลังการต่อสู้โดยรวมของเขาแข็งแกร่งกว่าเธอเล็กน้อยในตอนนี้ เห็นได้ชัดว่าเธอกำลังจะพ่ายแพ้ เธอเปียกโชกไปด้วยเหงื่อและกำลังระส่ำระสายเธอไม่คิดว่านายน้อยลำดับที่สองของตระกูลฮันท์จะใช้ทักษะการต่อสู้ที่ทรงพลังเช่นนี้“ฮ่าฮ่า…! ฉันจะแสดงวิชาขั้นกลางระดับสองให้คุณดู!” ไทเรล ฮันท์หัวเราะเสียงดังเมื่แววของชัยชนะปรากฏขึ้นในสายตา ตอนที่เขาเห็นสีหน้าพ่ายแพ้ของเฮเลน่า“หมัดผู้พิชิต!” เฮเลน่าไม่อยากพลาดท่าจึงรวบรวมพลังฉีในร่างของเธอแล้วเหวี่ยงหมัดใส่เขาในตอนนั้นเฮเลน่าเครียดมาก เธอหวังว่ามันจะต้านทานการโจมตีของอีกฝ่ายได้… แต่สิ่งที่เกิดขึ้นต่อไปจากนั้นทำให้เธอ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1319

    น่าแปลกที่นายน้อยลำดับที่สองของตระกูลฮันต์หัวเราะเสียงดังอีกครั้ง “มันก็จริงที่ในอดีตตระกูลคาเบลโลไม่เคยทำให้ตระกูลฮันต์ขุ่นเคือง แต่เมื่อไม่นานมานี้คุณไม่ได้ทำให้ฉันโกรธ? คุณกล้าปฏิเสธฉันต่อหน้าผู้คนมากมาย แถมยังทำให้ฉันดูแย่อีกด้วย คุณไม่ไว้หน้าฉันเลย! ฮึ่ม! การที่ฉันชอบคุณ มันก็เป็นเกียรติสำหรับคุณแล้วนะ! ตระกูลฮันต์ของเราเป็นตระกูลลึกลับอันดับหนึ่ง ซึ่งแตกต่างจากตระกูลของคุณอย่างสิ้นเชิง!”“ฉันบอกแล้วไงว่าฉันมีแฟนแล้ว คุณยอมแพ้ซะเถอะ!” เฮเลน่าตะโกนออกมาด้วยท่าทางที่เย็นชา “นอกจากนั้น คุณก็เคยพูดเองหนิว่า ตระกูลฮันต์เป็นตระกูลลึกลับที่แข็งแกร่งที่สุด และคุณคือนายน้อยลำดับที่สองของตระกูลฮันท์ คุณกลัวว่าจะไม่ได้ผู้หญิงเหรอ?” “หยุดพูดไร้สาระนะ!” นายน้อยลำดับที่สองของตระกูลฮันท์ตะคอก “มีผู้หญิงมากมาย แต่ฉันชอบคุณคนเดียว ฉันชอบผู้หญิงที่สูงส่งและเย็นชาเหมือนเธอและน้องสาวสองคนของเธอ!”ในขณะที่เขาพูด นายน้อยลำดับที่สองของตระกูลฮันท์ก็เหลือบมองหน้าอกของเฮเลน่าที่มีบาดแผลก่อนจะเลียริมฝีปากพลางยิ้มเยาะ “คุณมีแฟนแล้ว แต่แล้วไง? แล้วถ้าคุณไม่ใช่สาวบริสุทธิ์ล่ะ? หึ ฉันไม่สนใจเรื่องพวกนี้หรอ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1320

    เนื่องจากไทเรลเป็นปรมาจารย์ที่อยู่ในขั้นสุดท้ายของระดับเทพแท้จริง เขาจึงตรวจพบทันทีว่ามีบางอย่างผิดปกติเมื่อมีประกายดาบปรากฏขึ้นและหลีกเลี่ยงได้ในพริบตา รัศมีดาบกวาดผ่านเขาไปและตัดโค่นต้นไม้ เฟนด์เหาะลงมาจากเนินเขาที่เขาซ่อนตัวอยู่"นายเองงั้นเหรอ?" ไทเรลโกรธจัดจนเส้นเลือดบนหน้าขึ้นหน้าเมื่อเขาเห็นเฟนด์ “ช่างบังเอิญจริง ๆ ไอ้หนุ่ม นายมาพอดีตอนที่ฉันกำลังจะเล่นกับแฟนนายเลย ฮ่าๆ…! นี่มันโชคชะตาอะไรกัน!”“ทำไม…ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่?” เฮเลน่ามองเฟนด์อย่างระมัดระวัง ผู้ชายคนนี้สังเกตเห็นพวกเขามานานแค่ไหนแล้ว แล้วทำไมเขาเพิ่งรีบออกมาในตอนนี้? “ฮ่าฮ่า…!” เฟนด์ยิ้มอย่างอึดอัดและพูดติดตลกว่า "ผมจะทำอะไรได้? ผมจะไม่ช่วยคุณได้เหรอในเมื่อเขาพูดว่าคุณเป็นแฟนของผม” นอกจากไม่กี่คนที่รู้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของพวกเขาในขณะนี้ คนอื่นส่วนใหญ่จะคิดว่าพวกเขาเป็นคู่รักจริง ๆ นั่นทำให้เฟนด์ไม่อาจปฏิเสธได้เฮเลน่าไม่อาจห้ามไม่ให้หน้าแดงไม่ได้เมื่อได้ยินแบบนั้น ขณะที่เธอกลอกตามองไปที่เฟนด์ "คุณมาที่นี่ทำไม? คุณอยากตายหรือไง? แม้แต่ฉันยังไม่สามารถเอาชนะเขาได้เลย ดังนั้นคุณก็คงสู้ไม่ได้เหมือนกัน!”เธอลั

Latest chapter

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2455

    ตราบใดที่มันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการบ่มเพาะโอสถของเขา ทั้งสองคนจะทำอะไรตามต้องการก็ย่อมได้ สิ่งนั้นไม่กระทบอะไรกับเขาเลย“ถึงฉันจะดูแคลนหมอนี่ แต่เขาก็ยังกล้าเสมอ เขาก็คงจะมีความสามารถอยู่บ้าง เขาน่าจะผ่านสองขั้นตอนแรกได้อย่างไม่มีปัญหา” เกรย์สันพูดอย่างชัดเจนรูดี้มองไปที่เกรย์สันด้วยรอยยิ้มเย็นชาบนใบหน้าแล้วตอบว่า "นายดูมั่นใจกับหมอนี่มากเลยนะ ฉันจะคิดว่าทุกครั้งที่เขาพูดก่อนหน้านี้ล้วนเป็นเรื่องไร้สาระทั้งหมด“ฉันคิดว่าเขาอาจจะไปถึงขั้นที่สองก่อนที่เขาจะล้มเหลวโดยสิ้นเชิง! ฉันอยากเห็นจริง ๆ ว่าถ้าล้มเหลวขึ้นมา เด็กสารเลวคนนี้จะสู้หน้าเราได้ยังไง”เกรย์สันสูดหายใจเข้าลึก ๆ เขารู้สึกได้ว่าความโกรธของรูดี้ที่มีต่อเฟนด์นั้นลึกซึ้งกว่าของเขามากดวงตาของรูดี้ลุกเป็นไฟ เห็นได้ชัดว่าเขาเกลียดเฟนด์มากเพียงใดเกรย์สันหัวเราะอย่างเย็นชา "แล้วมาดูกันว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ฉันคิดว่าเขาน่าจะสามารถไปถึงขั้นตอนสุดท้ายได้ ถ้าเขาสามารถควบรวมอักขระทางยาได้ถึงร้อยเม็ดเขาก็น่าจะมาถึงระดับนั้น"หลังจากที่ทั้งสองพูดเรื่องเหล่านั้นออกมา พวกเขาก็ปิดปากเงียบพร้อม ๆ กับการมองดูเฟนด์โดยไม่พูดอะไรพวกเขามอง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2454

    ผู้อาวุโสฮอร์สท์กระแอมเล็กน้อยในขณะที่เขาพูดต่อ “หลังจากที่เธอบ่มเพาะโอสถได้สำเร็จแล้ว ให้นำโอสถมาให้ฉันตรวจสอบ พวกเธอจะมีเวลาในการทดสอบทั้งสิ้นแปดชั่วโมง ถ้าเธอไม่สามารถบ่มเพาะโอสถได้ภายในแปดชั่วโมง ก็จะแปลว่าไม่ผ่านการทดสอบ ดังนั้นอย่าได้ช้าเกินไป”พวกเขาทั้งสามพยักหน้าแทบจะพร้อมกัน หลังจากผู้อาวุโสฮอร์สท์ให้คำแนะนำแล้ว เขาก็จัดให้มีคนงานสองสามคนคอยเป็นคนตรวจ มีผู้ดูแลยืนอยู่ด้านหลังทั้งสามคนเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่ทำอะไรผิดพลาดหลังจากนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็หันกลับมาและไปหาผู้สอบคนอื่น ๆ รูดี้หรี่ตาลง ขณะที่เขาเหลือบมองเฟนด์และพูดว่า "ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการบ่มเพาะโอสถระดับหกคือขั้นตอนสุดท้าย แต่ขั้นตอนแรกก็ไม่ง่ายเช่นกัน ถ้านายรู้ว่าทำไม่ได้ ก็อย่าทำให้ต้องสิ้นเปลืองวัตถุดิบเลย ของพวกนี้ล้วนมีราคาค่างวด ต่อให้นายจะขายตัวเองเป็นทาสก็ยังไม่พอให้ซื้อของพวกนี้!”เฟนด์ถอนหายใจออกเบา ๆ หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาเบื่อเกินกว่าจะอ้าปากพูดด้วยซ้ำ เขาตัดสินใจที่จะเพิกเฉยต่อผู้ชายคนนั้นและทุกสิ่งที่จะออกมาจากปากเขา ถึงโต้ตอบไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรอยู่ดี

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2453

    เกรย์สันหรี่ตาลงขณะที่เขามองเฟนด์ด้วยความโกรธเช่นกัน เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ดูเหมือนว่าวันนี้ นายจะมาที่นี่เพื่อหาเรื่องขายหน้าให้กับตัวเองเท่านั้น"หลังจากพูดจบเกรย์สันก็หันหลังกลับและเงียบไป เสียงความขัดแย้งหยุดลง และทุกคนรอบ ๆ ก็เริ่มกระซิบกระซาบกันผู้อาวุโสฮอร์สท์มองเฟนด์อย่างมีความหมาย ราวกับว่าเขามองเฟนด์ในมุมมองที่ต่างออกไป ทันใดนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็อยากรู้เรื่องของเฟนด์อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ในขณะนั้นเขาไม่อาจพูดอะไรออกมาได้เมื่อเขาเห็นว่าทุกคนได้จับกลุ่มกันเรียบร้อยแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็โบกมือแล้วพูดว่า "มากับฉัน!"ทุกคนติดตามผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปเป็นกลุ่ม ๆ ผู้อาวุโสฮอร์สท์เข้าไปในเรือวิญญาณ ภายในเรือเต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังรีบร้อนพวกเขาเดินตามหลังผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปอย่างใกล้ชิด เดินลัดเลาะไปตามทางก่อนจะมาถึงห้องกว้างขวางในที่สุด ห้องกว้างขวางมากจนเรียกได้ว่าห้องโถงเลยทีเดียวทันทีที่พวกเขาก้าวเข้าไปในห้อง ทุกคนก็สามารถสัมผัสได้ถึงรังสีของโอสถที่หนาแน่นรอบ ๆ บรรยากาศ พื้นที่ในห้องนี้ใหญ่เกินพอสำหรับพวกเขาแปดสิบคนเฟนด์ประเมินสถานการณ์เล็กน้อย ห้องนี้ใหญ่พอที่จะรองรับคน

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2452

    พวกเขาถาโถมข้อกล่าวหาและดูหมิ่นมามากเกินไป ถึงเขาจะไม่อยากโต้เถียงกับคนพวกนี้ แต่เขาก็ยังถูกบังคับให้ต้องเงยหน้าขึ้นมาอย่างช้า ๆ อยู่วันยันค่ำเขามองเข้าไปในดวงตาของรูดี้ซึ่งเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน ราวกับเขาเป็นเพียงแมลงในสายตาของรูดี้เฟนด์หัวเราะอย่างเย็นชา “แล้วนายได้ยินเสียงสุนัขที่เห่าดังที่สุดแล้วหรือยังล่ะ?”คำพูดเหล่านั้นสามารถเยาะเย้ยทุกคนที่นั่นได้สำเร็จ เขาเปรียบเทียบกิลเบิร์ตกับสุนัขและเย้ยหยันทุกคนที่ฟังสุนัขตัวนั้นเห่า มันทำให้การแสดงออกบนใบหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปกิลเบิร์ตเกือบจะลืมความโกรธของตัวเองไปแล้ว เขาไม่อยากจะเชื่ออะไรด้วยซ้ำว่าเฟนด์จะสามารถขจัดคำดูถูกดูแคลนทั้งหมดลงได้ แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้นกิลเบิร์ตหันกลับมาจ้องมองเฟนด์ด้วยใบหน้าแดงก่ำจากความโกรธเขาอยากจะตะโกนกลับแต่ถูกรองเหรัญญิกปรามไว้ "ดูเหมือนว่านายจะไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบแล้วสินะ!"ประโยคนั้นเพียงประโยคเดียวก็ทำให้กิลเบิร์ตไม่อาจพูดอะไรออกมาได้อีก กิลเบิร์ตตระหนักได้แล้วว่าเขาได้ทำให้รองเหรัญญิกขุ่นเคืองอย่างหนักหากเขายังคงยืนกรานที่จะต่อปากต่อคำกับเฟนด์ รองเหรัญญิกอาจจะดึงเขาออกไปจริง ๆ แล้วเขาจะ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2451

    “สมองหมอนั่นจะต้องมีอะไรผิดปกติจริง ๆ นั่นแหละ เขาคิดจริง ๆ หรือว่าเขาอยู่ในระดับเดียวกับอีกสองคนที่อยู่ตรงหน้าเขา แค่เพราะไปยืนอยู่กลุ่มเดียวกัน? นั่นน่าจะตลกมากเกินไปหน่อยนะ…”“ฉันนึกว่าการทดสอบจะเข้มงวดและจริงจังเสียอีก ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะได้เห็นอะไรแบบนี้ ทำเอาฉันขำจนปวดท้องเลยล่ะ…”แอนดรูว์ขมวดคิ้วอย่างรู้สึกอับอาย รองเหรัญญิกโกรธจนตัวสั่นหลังจากได้ยินคำพูดของกิลเบิร์ต เขานึกอยากจะพุ่งตัวไปไปตบกิลเบิร์ตสักสองสามครั้งกิลเบิร์ตเพิกเฉยต่อชื่อเสียงของวิมานโอสถอย่างเห็นแก่ตัวที่สุด พวกเขาแทบอยากจะมุดดินหนี ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นี่จะเป็นความอัปยศอดสูที่วิมานโอสถไม่อาจจำกัดทิ้งได้รองเหรัญญิกตะโกนออกไปว่า "หุบปากเดี๋ยวนี้! นายกำลังพูดเรื่องบ้าอะไร ถ้าไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบ ก็ไสหัวไปซะ!"รองเหรัญญิกโกรธมาก ขณะที่เขาพูดเช่นนั้น สีหน้าของเขาดูอดสูอย่างไม่น่าเชื่อ เขายังคิดจะฆ่ากิลเบิร์ตให้ตายเสียเดี๋ยวนี้ เมื่อถูกตำหนิเช่นนั้นก็ทำให้กิลเบิร์ตตระหนักได้ว่าเขาพูดผิดไปถึงกระนั้นก็ไม่มีทางที่เขาจะถอนคำพูดเหล่านั้นกลับคืนมา เขากระแอมเบา ๆ ก่อนที่จะรีบหันศีรษะไปซ้ายทีขวาที อย่างไม่กล้

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2450

    ไม่มีใครรู้ดีไปกว่ารองเหรัญญิกว่าโอสถระดับหกหมายถึงสิ่งใด ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา วิมานโอสถรับบัณฑิตมาจำนวนนับไม่ถ้วน แต่มีไม่มากนักที่จะได้กลายเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุระดับหกจริง ๆคอนสแตนซ์ยิ้มอย่างมีความหมายขณะที่เขาเอ่ยถาม "รองเหรัญญิกคนนี้มีความสามารถหลากหลายจริง ๆ ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าวิมานโอสถจะมีอัจฉริยะกับเขาด้วย ผมไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลย"ริมฝีปากของรองเหรัญญิกกระตุก เขาต้องการอธิบายตัวเอง แต่ถ้าเขาบอกว่าเฟนด์ไม่สามารถสกัดโอสถระดับหกได้ และมีเพียงพรสวรรค์ในการสร้างอักขระทางยาเท่านั้น มันคงจะกลายเป็นเรื่องตลกครั้งใหญ่ และทุกคนคงจะหัวเราะเยาะวิมานโอสถเป็นแน่แต่ถ้าเขายังคงดื้อรั้นต่อไป พอถึงเวลาต้องบ่มเพาะโอสถ เฟนด์ก็จะเปิดเผยความจริงข้อนั้นออกมา เมื่อนั้นความอัปยศอดสูก็จะยิ่งหนักข้อขึ้นเขาถึงกับมือสั่น ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยรู้สึกเหมือนตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้มาก่อน เขารู้สึกเหมือนกำลังถูกกักขังอยู่ในกำแพงอีกสองด้าน ทุกคนคิดว่ารองเหรัญญิกกำลังวางแผนที่จะใช้ความเงียบเพื่อตอบคำถามเมื่อเห็นกับตาว่ารองเหรัญญิกไม่ตอบอะไรออกมาแต่ทว่าคอนสแตนซ์คล้ายกับจะไม่เ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2449

    เฟนด์เป็นคนเดียวที่ยังคงยืนอยู่ ขณะนั้นเขาดูคล้ายกับกำลังลังเลและดูเหมือนกำลังรออะไรบางอย่างอยู่ ขณะที่รองเหรัญญิกพูดจบ ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็จ้องมองมาอย่างอยากรู้อยากเห็นแม้ว่าดวงตาของเขาจะดูเป็นประกายมากขนาดไหน แต่เฟนด์ก็ยังคงรู้สึกถึงความเฉียบคมภายใน ราวกับว่าเขาจะถูกตัดสิทธิ์หากเขาไม่ขยับริมฝีปากของเฟนด์กระตุกอย่างช่วยไม่ได้ เขารีรอต่อไปไม่ได้แล้ว จึงได้แต่เดินไปยังพื้นที่ที่เขาวางแผนไว้ก่อนหน้านี้ในตอนแรกเฟนด์ไม่ได้ดึงดูดความสนใจใครมากนัก เขาอาจจะเป็นคนสุดท้ายที่ปรากฏตัวขึ้น ไม่มีใครจำเขาได้ ต่อให้เขาจะมาจากวิมานโอสถ แต่นอกจากคนที่เคยพบเขาแล้ว ก็ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใครขณะที่เขาเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกต่อไป ทุกคนก็เริ่มจ้องมองไปที่เขา ใบหน้าของรองเหรัญญิกก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นบูดบึ้งเมื่อเขาสังเกตเห็นว่าเฟนด์กำลังมุ่งหน้าไปทางใด“ผู้ชายคนนั้นคิดจะไปต่อหลังรูดี้หรือเปล่า? เขาคิดจะพิสูจน์ตัวเองด้วยการกลั่นโอสถระดับหกด้วยหรือ?”“ก็คงเป็นแบบนั้น เว้นแต่เขาจะเป็นคนโง่เง่าที่ไม่ทันได้ฟังกฎการตัดสินให้ดี ไม่งั้นคงไม่เดินไปแบบนั้นหรอก เขาเป็นใคร ทำไมฉันไม่เคยได้ยินอะไรเกี่ยวกับเขาเลย

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2448

    กิลเบิร์ตทำท่าราวกับกลืนแมลงวันเข้าไปสองสามตัว เขาคาดหวังว่ารองเหรัญญิกจะพูดคำเหล่านั้นกับเขาเสียอีก แต่กลับกลายเป็นว่ารองเหรัญญิกไม่ละสายตามามองเขาเลยแม้แต่วินาทีเดียวรองเหรัญญิกฝากความหวังทั้งหมดไว้กับเฟนด์ราวกับว่ากิลเบิร์ตและแอนดรูว์มาที่นี่เพื่อเพิ่มจำนวนคนเท่านั้นแอนดรูว์มีสีหน้าขมขื่นเช่นกัน ในอดีตเขาขัดแย้งกับกิลเบิร์ตมามากมาย และความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ไม่อาจพัฒนาไปในทางที่ดีได้แต่ต้องขอบคุณเฟนด์ที่ทำให้เขาสามารถวางเฉยต่อความแค้นทั้งหมดที่เคยมีได้แอนดรูว์พูดด้วยใบหน้าที่มืดมน “รองเหรัญญิก ดูเหมือนคุณจะฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่เฟนด์เลยนะ“แต่คุณก็น่าจะเตือนเฟนด์สักหน่อยว่าต่อให้เขาจะมีพรสวรรค์ค่อนข้างดี แต่ก็ไม่ควรหยิ่งผยองเกินไป”แอนดรูว์โกรธมากในขณะนั้นและอดไม่ได้จริง ๆ ที่จะต้องเอ่ยคำดูแคลนที่สุดเช่นนั้นออกมากิลเบิร์ตกล่าวเสริมอย่างรีบร้อนทันที “แอนดรูว์พูดถูก แม้ว่าพรสวรรค์ของเฟนด์จะค่อนข้างดี แต่เขาก็ไม่ควรหยิ่งผยองนัก คำพูดพวกนั้นไม่ได้ช่วยอะไรเลยสักนิด”เฟนด์ถึงกับพูดไม่ออกเมื่อถูกคนทั้งสองเหยียบย่ำ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเฟนด์ไม่ได้เอ่ยปากเลยสักคำ แล้วเขาจะเอาเวลา

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2447

    ในตอนแรก คอนสแตนซ์และซีนย์เพียงยืนเคียงข้างกันโดยไม่สนใจเรื่องนี้ พวกเขาต้องการปล่อยให้สถานการณ์ดำเนินต่อไปอย่างที่ควรจะเป็น แต่เมื่อว่าเกรย์สันและรูดี้เริ่มเถียงกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งสองคนก็ถูกบีบให้ต้องทำอะไรสักอย่างพวกเขาถูกบีบให้ต้องแยกรูดี้และเกรย์สันออกจากกัน นั่นก็เพราะ การทะเลาะกันของเด็ก ๆ ควรจะมีขีดจำกัด เพราะหากมันเกินขีดจำกัดไปแล้ว นั่นจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของพวกเขา นี่คือสิ่งที่รูดี้และเกรย์สันเองก็ไม่อยากเห็นเป็นเวลาเกือบสิบห้านาทีแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์นั่งบนเก้าอี้ ขณะมองดูการทะเลาะวิวาทและการพูดคุยกันอย่างเฉยเมย เมื่อหมดเวลาเขาก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้เสียงปรบมือดังขึ้นตอนที่เขาจะพูดว่า "เอาล่ะ หมดเวลาแล้ว ทุกคนต้องตัดสินใจได้แล้วว่าจะพิสูจน์ความสามารถของตัวเองยังไง”“ฉันไม่คิดว่าฉันจะต้องบอกอะไรพวกนายทุกอย่างหรอกนะ ตอนนี้ก็แยกออกเป็นกลุ่มเสีย ผู้ที่ต้องการรวมอักขระทางยาจะยืนอยู่ทางทิศตะวันออก“ผู้ที่ต้องการแยกแยะวัสดุสามารถยืนอยู่ตรงกลางได้เลย และหากจะพิสูจน์ตัวเองด้วยกันบ่มเพาะโอสถให้ไปยืนที่ทางทิศตะวันตก“ถึงอย่างนั้นฉันก็ต้องขอเตือนทุกคนก่อน หากทุกคนต้องการ

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status