เฟนด์เงยหน้าขึ้นและมองไปที่ยอดเขาในระยะไกล เขาลอยขึ้นจากพื้นเพียงหนึ่งหรือสองเมตรแล้วเหาะไปข้างหน้าโฮก!ในส่วนลึกของป่า เสียงคำรามที่น่ากลัวของสัตว์ร้ายดังก้องไปทั่วบริเวณ เฟนด์รู้ว่ามีสัตว์ประหลาดที่ทรงพลังมากมายที่นี่ แต่เขาก็ไม่กลัวเพราะระดับการต่อสู้ของเขาค่อนข้างสูงแต่ถึงอย่างนั้นสัตว์ประหลาดเหล่านั้นก็จะสร้างปัญหาให้กับผู้เข้าแข่งขันบางคนจากตระกูลชั้นสามที่ยังอยู่ในระดับปรมาจารย์“เอ๊ะ!”ระดับการต่อสู้ของเฟนด์นั้นสูง และเขาก็รวดเร็ว ดังนั้นเขาจึงเห็นแผ่นป้ายสีดำอย่างรวดเร็วหลังจากเวลาผ่านไปได้ไม่นาน เขาเหาะไปหยิบมันขึ้นมาและเก็บไว้ในแหวนจอมยุทธของตัวเอง“เหลือเวลาอีกหนึ่งเดือน ไม่ต้องรีบร้อน การต่อสู้จะดุเดือดยิ่งกว่านี้ในตอนท้าย!”เฟนด์คิดกับตัวเองในขณะที่เขาเหาะ มีหลายคนค้นหาแผ่นป้ายล่วงหน้า ด้วยวิธีนี้พวกเขาจะมีแผ่นป้ายมากมายในช่วงเวลาวิกฤต และบางคนก็พยายามใช้กำลังเพื่อชิงแผ่นป้ายนั้น จะมีหลายกรณีที่ผู้คนต้องตายเพราะแผ่นป้ายเหล่านั้นผู้เข้าแข่งขันจากตระกูลเดียวกันอาจรวมตัวกัน จากนั้นการต่อสู้ระหว่างสองตระกูลก็จะปะทุขึ้น“คนจากตระกูลวู๊ดไม่ได้อ่อนแอ แต่ก็ไม่ได้แข็งแ
“สุภาพบุรุษทั้งหลาย คุณช่วยไว้ชีวิตฉันเพื่อตระกูลของพวกเราทั้งคู่จะได้ไหม? ครอบครัวของเราสนิทกันมาก่อนนี่ แถมฉันก็เพิ่งจะเข้ามา พวกคุณคงไม่ได้ต้องการจะฆ่าฉันหรอก ใช่ไหม” ไนกินี่ถอนหายใจออกมาดัง ๆ ในใจของเธอสาปแช่งความโชคร้ายที่เธอได้รับในวันนี้ มันยากอยู่แล้วที่จะเข้าร่วมการแข่งขัน เธอมาที่การแข่งขันนี้ด้วยความหวังที่จะพัฒนาตัวเองและประเมินว่าตัวเองอยู่ในระดับใด และเธอไม่คาดคิดว่าจะถูกตั้งค่าหัวอย่างนี้ ยิ่งกว่านั้น สามคนนี้จะไม่โชคดีเกินไปหรืออย่างไร? พวกเขาเจอคนตระกูลวู๊ดได้ง่าย ๆ แบบนี้ “ฉันทำอะไรไม่ได้หรอก คนสวย ครอบครัวของเรา 'เคยสนิทกัน' แต่ตอนนี้ล่ะ? ก่อนที่เราจะเข้าร่วมการแข่งขันนี้ อาจารย์เตือนเราซ้ำแล้วซ้ำอีกว่าหากเราพบคนจากตระกูลวู๊ดระหว่างทาง ก็อย่าไว้ชีวิตพวกเขา โดยเฉพาะคนที่เดินทางคนเดียว” ชายคนหนึ่งเย้ยหยันอย่างชั่วร้ายและประเมินไนกินี่อย่างระมัดระวัง “คนสวย เธอมีร่างกายที่เร่าร้อนจริง ๆ ทำไมฉันจำไม่ได้ว่าตระกูลวู๊ดมีคนน่ารัก ๆ อย่างเธอด้วย” ชายอีกคนของตระกูลลาโกริโอพูดขึ้นพร้อมกับยิ้มกว้างอย่างชั่วร้าย “จุ๊ ๆ สาวงามคนนี้เธอฮอตมาก! ฆ่าเธอทิ้งไปตอนนี้คงน่าเสียดา
ทันใดนั้นก็เกิดเหตุการณ์น่าตกใจขึ้น ลาโกริโอที่อยู่ขั้นกลางของระดับกึ่งเทพถูกหมัดของแซลลี่อัดกระเด็นไปอย่างง่ายดายและถูกทุบลงบนพื้นพร้อมกระอักเลือดออกมาเต็มปาก เขาได้รับบาดเจ็บสาหัส “ไม่…ไม่มีทาง! ความแข็งแกร่งนี้… เธออยู่ขั้นสุดท้ายของระดับกึ่งเทพ!”เขาหน้าซีดหลังจากกระอักเลือดออกมาเต็มปาก ใบหน้าของเขาเปลี่ยนไปอย่างดูไม่ได้เลยและเขารู้สึกตกใจมากอยู่ในใจ ความแข็งแกร่งที่แซลลี่มีในตอนนี้ไม่ใช่พลังขั้นกลางของระดับกึ่งเทพอย่างแน่นอน! “ถูกต้องแล้ว! เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ฉันได้ทะลวงเข้าสู่ขั้นสุดท้ายของระดับกึ่งเทพ! งั้นตอนนี้นายก็ไปลงนรกอย่างสงบได้แล้ว!”แซลลี่เย้ยหยันอย่างเย็นชา เธอพลิกฝ่ามือ ดาบชั้นดีปรากฏขึ้นในกำมือของเธอ แล้วเธอก็ปรากฏตัวต่อหน้าชายคนนั้นในพริบตาและตวัดดาบออกไป“อะไรวะเนี่ย!”ชายอีกสองคนมองหน้ากัน ทั้งคู่ตกใจกลัวจนรองเท้าแตะขาด ขาของพวกเขาอ่อนแรงและล้มลงบนพื้น ถ้าแซลลี่อยู่ในขั้นสุดท้ายของระดับกึ่งเทพจริง ๆ งั้นพวกเขาทั้งสองก็คงถูกฆ่าตาย พวกเขาไม่สามารถแม้แต่จะต่อสู้กลับได้ในตอนแรกพวกเขาคิดว่า ตราบใดที่นายน้อยฟาบิโอยังยืนหยัดได้อยู่สักพัก และรอจนกว่าพวกเ
"เดี๋ยวก่อน! ลองค้นหาแหวนจอมยุทธของพวกเขาและดูว่ามีสมบัติอะไรอยู่ในหรือเปล่า!” ไนกินี่คิดขึ้นมาได้จึงวิ่งไปที่ศพทั้งสามอย่างรวดเร็ว และถอดแหวนจอมยุทธของพวกเขาออก “เอ๊ะ? ไม่เลวเลย! มียาสมานแผลสองสามเม็ดและหญ้าวิญญาณระดับหนึ่งสองสามอัน เดี๋ยวก่อน แล้วนี่อะไร? พระเจ้า! มีป้ายสีดำสองอันอยู่ในแหวนของผู้ชายคนนี้! เราเจอสมบัติแล้ว!” ไนกินี่อุทานออกมาเสียงดังขณะที่เธอหยิบสมบัติออกมาจากแหวนและมอบให้แซลลี่ “พี่แซลลี่ ขอบคุณที่ช่วยฉันไว้! สมบัติเหล่านี้ยกให้พี่ทั้งหมดเลย! พวกมันเป็นของที่ยึดได้มาจากการต่อสู้ของพี่!” “เธอให้ฉันทั้งหมดเลยเหรอ? ไม่ มาแบ่งกันเถอะ! ใครมีส่วนร่วมก็เอามาแบ่งปันกัน จริงไหม? ฮ่าฮ่า อีกอย่าง ด้วยหญ้าวิญญาณเหล่านี้จะทำให้เธอสามารถทะลวงไปสู่ระดับถัดไปได้เร็วขึ้น!” แซลลี่เป็นคนยุติธรรม เธอไม่ได้เอาไปทั้งหมด แต่หยิบสมบัติไปแค่ครึ่งเดียว แล้วที่เหลือก็มอบให้ไนกินี่ เธอยังแบ่งป้ายสีดำอันหนึ่งให้กับไนกินี่ด้วย “พี่เก็บป้ายไว้เถอะ ความสามารถในการต่อสู้ของฉันไม่แข็งแกร่งเท่าพี่ มันไม่ปลอดภัยที่ฉันจะรักษามันไว้ พี่แข็งแกร่งกว่าฉันมาก พี่ควรเก็บมันไว้ และถ้าเราต้องเจอกับอ
ออร่าจางๆ เปล่งออกมาจากงูเหลือม เฟนด์สามารถสรุปได้ทันทีว่างูเหลือมตัวนี้เป็นสัตว์อสูรที่มีพลังเทียบเท่ากับคนที่อยู่ขั้นต้นของระดับกึ่งเทพเลย มันเป็นเรื่องน่าประหลาดใจและน่าตกใจมากที่สัตว์อสูรเช่นนี้ปรากฏตัวขึ้นในพื้นที่รอบนอกของป่าแห่งนี้ เพราะยังไงซะ งูเหลือมตัวนี้ก็ถือว่าหายากมาก ความแข็งแกร่งและพลังของมันแข็งแกร่งกว่าผู้ฝึกยุทธทั่วไป แกร่งกว่ามือสมัครเล่นพวกนั้นอีก พูดอีกอย่างก็คือ ผู้ฝึกยุทธที่อยู่ขั้นต้นของระดับกึ่งเทพก็สู้กับสัตว์อสูรดังกล่าวไม่ได้ และแม้แต่ผู้ฝึกยุทธที่อยู่ขั้นกลางของระดับกึ่งเทพก็อาจจะไม่สามารถฆ่าสัตว์อสูรที่มีพลังอยู่ในขั้นต้นของระดับกึ่งเทพเช่นนี้ได้ อย่างไรก็ตาม เฟนด์ได้ทะลวงเข้าสู่ขั้นกลางของระดับเทพแท้จริงแล้ว สัตว์ร้ายดังกล่าวไม่อยู่ในสายตาของเขาหรอกเขากำหมัดแน่น และในพริบตา เขาก็ปรากฏตัวขึ้นที่ด้านบนหัวของงูเหลือม จากนั้นจึงใช้หมัดชกลงไปที่หัวของงูเหลือมเปรี้ยง! งูเหลือมขนาดใหญ่และยาว ซึ่งยาวประมาณเจ็ดถึงแปดฟุตเลย เฟนด์ไม่เคยเห็นงูเหลือมยาวขนาดนี้มาก่อน เพราะยังไงซะ เขาก็ไม่เคยเผชิญหน้ากับสัตว์อสูรและต่อสู้กับมันจริง ๆ เขาเคยแต่ได้ยินมาจากคนอื่
"คุณจะพูดอะไรก็พูดไปเถอะ!"เฟนด์ยืดแขนยืดขาและพูดว่า "คุณเพิ่งมาที่นี่และกระหายที่จะฉวยโอกาสแย่งของจากคนอื่นเหรอ? น่าเสียดายจริง ๆ เพราะฉันไม่ใช่พวกขี้แพ้!”“เฮ้ ฉันเป็นหลานชายของผู้อาวุโสลำดับสองของตระกูลแซคคารีเลยนะ และฉันก็อยู่ขั้นกลางของระดับเทพแท้จริงแล้ว ดังนั้นถ้านายฉลาดพอ นายจงทิ้งหญ้าวิญญาณที่เพิ่งถอนมาไว้ซะ แล้วฉันจะปล่อยนายไป!”ชายจากตระกูลแซคคารีถือดาบด้วยมือข้างเดียว มีออร่ามากมายพุ่งออกมารอบ ๆ ตัวเขา “ตระกูลแซคคารีไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่ดีกับตระกูลวู๊ด แต่เราก็ไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่เลวร้ายขนาดนั้นเหมือนกัน ฉันจะไม่ฆ่านายตราบใดที่นายมอบมันให้ฉัน เพราะยังไงซะ มันคงยากมากสำหรับนายกว่าจะได้กลายเป็นผู้สืบทอดหัวหน้าตระกูล ช่างน่าเสียดายถ้านายต้องมาตายที่นี่!”“คุณมั่นใจมากขนาดนั้นเลยแม้ว่าคุณจะอยู่แค่เพียงขั้นกลางของระดับเทพแท้จริง?” เฟนด์พุ่งขึ้นฟ้าไปในพริบตา “เอาอย่างนี้ไหม? มอบดาบของคุณและทุกสิ่งที่คุณมีมา แล้วฉันจะไว้ชีวิตคุณ เพราะคุณเสนอที่จะไว้ชีวิตฉัน!” ชายคนนั้นผงะไปพักหนึ่ง แต่เขาก็กลับเป็นปกติอย่างรวดเร็ว “เฮ้ ไอ้นอกคอก นายนี่ช่างปากดีนักนะ” เขาพูดพร้อมยิ้มอย
ไฮเดนรู้สึกได้อย่างรวดเร็วว่ามีบางอย่างผิดปกติ รอยแตกเล็ก ๆ เริ่มปรากฏบนม่านพลังของเขา และมันกำลังจะพังทลายลงในไม่ช้า "ไม่มีทาง ไม่มีทางที่ฉันจะเอาชนะไอ้นอกคอกจากแดนมนุษย์ไม่ได้!”ไฮเดนร้องออกมาเสียงดัง ในเวลาเดียวกัน รอยร้าวบนม่านพลังป้องกันรอบตัวของเขาก็ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ จากนั้นมันก็แตกกลายเป็นฝุ่นผงปัง!เสียงอันน่าสะพรึงกลัวดังขึ้น วินาทีถัดมา ไฮเดนก็ถูกอัดกระเด็นออกไปราวกับว่าวป่านขาด เขากระแทกเข้ากับต้นไม้อย่างแรงต้นไม้หักโค่นลงจากแรงกระแทก ไฮเดนกระอักเลือดออกมา ใบหน้าของเขาซีดเซียว เขากัดฟันและพยายามลุกขึ้นยืน เลือดก็ทะลักออกมาจากปากของเขาอีกครั้ง เขาปักดาบของตัวเองลงบนพื้นและตั้งตัวขึ้นมาให้มั่นคงเฟนด์เหาะไปโดยไม่ลังเล แล้วปรากฏตัวต่อหน้าไฮเดนพร้อมกับยิ้มนิด ๆ บนใบหน้า“คุณมีพรสวรรค์นะ ไฮเดน แซคคารี!”เฟนด์ยิ้มและพูดต่อเว่า “ช่างน่าเสียดายจริง ๆ ที่ต้องฆ่าคุณที่นี่ คงยากมากแน่เลยกว่าจะฝึกตนให้แข็งแกร่งได้ขนาดนี้!”มุมปากของไฮเดนกระตุกอย่างรุนแรง ไอ้นอกคอกนี่กำลังบิดเบือนคำพูดของเขาเพื่อเอามาใช้กับเขา“ฮึ่ม ไอ้บ้าเอ๊ย ฉันโชคไม่ดีเอง ฉันไม่คิดว่าอัจฉริยะอย่างนายจะโผ
เฟนด์ไม่จำเป็นต้องตอบ เขาหันกลับแล้วค่อย ๆ เหาะจากไป ทิ้งไว้แค่คำพูดเหล่านี้ “ยาของฉันน่าจะรักษาบาดแผลได้ดีกว่าของคุณมาก คุณควรรักษาตัวให้หายดีโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่งั้นอย่ามาโทษฉันที่ทำให้คุณบาดเจ็บตอนที่คุณตายในการต่อสู้กับอัจฉริยะจากตระกูลฮันต์เมื่อคุณพบกับพวกเขา!”ไฮเดน แซคคารียังคงล้มลงอยู่ที่เดิมจนกระทั่งเฟนด์จากไป เขายังงุนงง สงสัยว่าทุกสิ่งทุกอย่างเป็นความฝันที่ชัดเจนหรือไม่ เพราะยังไงซะ เขาก็คือคนที่แอบโจมตีและดูถูกเฟนด์ เขาไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะไม่ยึดสมบัติของเขาไปทั้งหมดแม้ว่าจะเอาชนะเขาได้แล้วก็ตาม แถมเขายังทิ้งยารักษาและหินวิญญาณไว้ให้ไฮเดนด้วย“ยาเม็ดนี้มีพิษหรือเปล่านะ?” ไฮเดนพึมพำในขณะที่มองดูยาเม็ดเล็กๆ ในฝ่ามือเขาส่ายหัว หากเฟนด์ต้องการฆ่าเขาจริง ๆ มันก็ไม่จำเป็นเลยจริงไหม? แค่เอาดาบแทงเขามันไม่ง่ายกว่าเหรอ?“ฮึ่ม มาดูกันว่ายาของนายจะดีกว่ายาจากตระกูลแซคคารีของเราหรือเปล่า!” ไฮเดนทำเสียงไม่พอใจก่อนจะเอายาเข้าปากแล้วกลืนลงไปเพียงสองนาทีต่อมา ไฮเดนก็รู้สึกว่าบาดแผลของเขากำลังทุเลาลง ความเร็วในการรักษานั้นเร็วกว่าหลายเท่าเมื่อเทียบกับยารักษาของตระกูลแซคคารี