Share

บทที่ 1154

Author: โมเนโต้
“ที่รัก ที่นี่คึกคักและมีชีวิตชีวามาก มันเหมือนเมืองสมัยโบราณเลย ทุกที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายและบรรยากาศแบบสมัยโบราณ! ฉันเริ่มหลงรักเมืองนี้แล้ว!”

เซเลน่าเดินไปตามถนนในเมืองและอดไม่ได้ที่จะอุทานออกมาถึงความงดงามอันเก่าแก่ของเมืองนั้ ผู้คนต่างเดินเท้าบนถนน พ่อค้าแม่ค้า ลูกค้า และคนอื่น ๆ สามารถเจอได้บนท้องถนนที่เต็มไปด้วยคนพลุกพล่าน บางคนสวมชุดโบราณแต่ก็ดูหรูหรา ผู้ชายบางคนก็ตั้งใจไว้ผมยาว ถ้าไม่ใช่เพราะบางคนแต่งตัวแบบสมัยใหม่และถือโทรศัพท์มือถืออยู่ในมือ เฟนด์กับเซเลน่าคงคิดว่าพวกเขาได้ย้อนเวลากลับไปซะแล้ว

“ที่รัก ถ้าคุณสวมชุดโบราณพวกนั้น คุณต้องสวยมากแน่!”

เฟนด์เห็นร้านขายเสื้อผ้าโบราณอยู่ไม่ไกลนัก เขาจึงดึงเซเลน่าเข้าไปในร้าน “ที่รัก ลองใส่ดูสิ!”

“อืมม...ก็ได้ แต่มันก็เขินอะ!”

แก้มของเซเลน่าเปลี่ยนเป็นสีชมพู ถึงอย่างนั้นเธอก็เลือกเสื้อผ้าสองสามชุดแล้วลองสวมดู

“โอ้...ที่รัก คุณงดงามมากจริง ๆ! ถ้าคุณเกิดในสมัยโบราณ คุณก็ยังคงเป็นราชินีแห่งความงามแน่!”

เมื่อมองดูเซเลน่าที่สวมชุดโบราณอย่างมีความสุข เฟนด์ก็พยักหน้าอย่างพอใจ

“หน้าไม่อาย! เรามีลูกโตขนาดนี้แล้ว! คุณยังจะมาชมฉันแบ
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1155

    ชายร่างท้วมขมวดคิ้วเข้าหากัน บ่งบอกถึงความลังเลใจ ผู้หญิงคนนั้นเห็นว่าชายคนนนั้นลังเล เธอจึงไม่มีความสุข เธอบีบติ่งหูของเขาและตะโกนใส่เขาอย่างโมโห “คุณต้องเอาชุดนั้นมาให้ฉัน ได้ยินไหม? อย่าลืมนะว่าคุณเป็นแค่ลูกเขยนอกคอกของตระกูลเรา อย่าบังอาจมาขัดคำสั่งของฉัน! ถ้าฉันบอกพ่อว่าคุณรังแกฉัน คุณอาจจะตายได้ในไม่ช้า!” ชายคนนั้นกลัวจนใจร่วงไปอยู่ที่ตาตุ่มเมื่อได้ยินคำขู่นั้น เขากลัวมากจนต้องตอบกลับไปแทบจะในทันทีว่า “โอเคที่รัก โอเค ปล่อยหูผมได้แล้ว ผมจะไปเอาชุดนั้นมาให้คุณ!” หลังจากฉากนั้นลง ชายคนนั้นก็เดินเข้ามาหาเฟนดกับเซเลน่าพร้อมภรรยาของเขาและคนอีกกลุ่มหนึ่ง เฟนด์ไม่ได้เตรียมตัวว่าสถานการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้น เขากำลังจะไปทานอาหารค่ำที่ร้านบาร์บีคิวใกล้ ๆ แต่พวกเขากลับถูกกลุ่มคนหยุดเอาไว้ก่อนที่จะได้เข้าไปในร้านอาหาร “หื้ม? มีอะไรงั้นเเหรอ? มีอะไรผิดปกติเหรอ? ฉันคิดว่าไม่เคยเจอพวกคุณมาก่อนนะ!” เฟนด์ยิ้มอย่างเย็นชาเมื่อมองไปที่กลุ่มคนตรงหน้าเขา เขาเป็นผู้ฝึกยุทธระดับเทพแท้จริงและเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งหัวหน้าตระกูลวู๊ด ถ้าคนพวกนี้อยากมาหาเรื่อง คนพวกนี้คงอยากตายมากแน่ ๆ แต่ถึงอย่างนั

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1156

    “โอ้ เด็กน้อย ชีวิตของแกช่างต่ำต้อยจริง ๆ ฉันไม่คิดว่าแกจะพูดแบบนี้ กล้าดียังไงมาขู่ฉัน!” ผู้หญิงคนนั้นขมวดคิ้วเมื่อได้ยินอย่างนั้น “ดูเหมือนว่าวันนี้เงินจะใช้แก้ปัญหาไม่ได้ ฉันวางแผนจะจ่ายให้เงินแกสำหรับค่าเสื้อผ้า แต่ตอนนี้ ฉันไม่อยากทำแบบนั้นแล้ว ในเมื่อแกอยากตายมาก ฉันก็จะจัดให้!” หลังจากที่เธอพูดคำสุดท้ายจบ เธอก็ชี้ไปที่เฟนด์กับเซเลน่าแล้วสั่งเสียงเข้มว่า “ฆ่าหมอนี่ซะ แล้วถอดชุดของผู้หญิงคนนี้ออกมา ฉันไม่เชื่อว่า สิ่งที่ฉัน ออทัมน์ แมค อยากได้ ฉันจะเอามันมาไม่ได้! ยกเว้นแค่ไม่กี่คนในพื้นที่ภูเขาที่ฉันไม่อาจไปทำให้โกรธเคืองได้!” “เฮ้ ไอ้บ้า แกอยากหาเรื่องตายเองนะ ใครสั่งให้แกปฏิเสธข้อเสนอดี ๆ จากคุณหนูแมคของเรา! แกจะมาโทษคุณหนูของเราไม่ได้นะ!” บอดี้การ์ดหลายคนเยาะเย้ยออกมาขณะที่พวกเขาเดินเข้ามาหาเฟนด์พร้อมกับกำหมัดแน่น 'คนพวกนี้ช่างหยิ่งยโสและโอหังนักนะ?' เฟนด์คิดในใจ รอยยิ้มเย็นชาปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา พวกมันอยากให้เซเลน่าถอดเสื้อผ้าออกบนถนนจริง ๆ งั้นเหรอ? ข้อเสนอนี้เองที่ปลุกสัตว์ร้ายในตัวเฟนด์ให้ตื่นขึ้นได้สำเร็จ เฟนด์พยายามลดอารมณ์ลงในเรื่องต่าง ๆ เพื่อเซเลน่า แต่

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1157

    เฟนด์ถอนหายใจออกมาอย่างเย็นชา และในเสี้ยววินาทีเขาก็หายตัวไป เขาไปปรากฏตัวท่ามกลางบอดี้การ์ดด้วยความเร็วแสงขณะที่เหวี่ยงแขนออกไป ชั่วพริบตา บอดี้การ์ดทั้งหมดก็นอนตายอยู่บนพื้น “อะไรวะเนี่ย!” ชายร่างท้วมและผู้หญิงอวบที่เห็นเหตุการณ์นั้นดวงตาเบิกตากว้างเกือบเท่าจาน พวกเขาอ้าปากค้างและทรุดลงกับพื้น พวกเขาตกใจมาก บอดี้การ์ดที่พวกเขาพามาด้วยนั้นเป็นผู้ฝึกยุทธระดับสูง และหนึ่งในนั้นเป็นถึงปรมาจารย์ระดับหนึ่ง! ทั้งคู่ไม่คิดว่าคนของพวกเขาจะถูกฆ่าตายภายในเวลาแค่ไม่กี่วินาที “ดู...ดูเหมือนหมอนี่จะอยู่ในระดับสูงกว่าปรมาจารย์แล้ว ความสามารถในการต่อสู้และทักษะยุทธของเขาไม่เลวเลย ในที่สุดฉันก็เข้าใจแล้วว่าทำไมเมื่อกี้เขาถึงไม่กลัวเลย เพราะถ้าเขากับภรรยารีบออกจากที่นี่ไปและไม่สร้างปัญหาใหญ่อย่างนี้ขึ้น พวกเขาก็น่าจะปลอดภัย!” เคย์ล่าพึมพำกับตัวเองขณะมองดูเหตุการณ์อยู่ข้าง ๆ “ไอ้บ้า ฉันคือคุณหนูแมคนะ! กล้าดียังไงมาฆ่าคนของฉัน! แกอยากมีปัญหากับตระกูลแมคงั้นเหรอ?” ผู้หญิงคนนั้นก็เดือดจัด แต่ในเวลาเดียวกันเสียงของเธอก็สั่น เธอเอาตระกูลแมคมาใช้เป็นเครื่องมือเพื่อข่มขู่เฟนด์ “หึ ฉันรู้ แล้วฉั

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1158

    “ก็ได้ แกพูดแล้วนะ!”ชายร่างท้วมพยักหน้า เขากัดฟันและยกดาบขึ้นในมือ “ที่รัก อดทนหน่อยนะ” เขาบอกกับออทัมน์ที่อยู่บนพื้น “ผมมียาแก้ปวดและยาที่ห้ามเลือด คุณจะปลอดภัย แค่กัดฟันทนและผ่านมันไปให้ได้!”“ฮืออ ฉันกลัว!”ออทัมน์กลัวมากจนเธอเกือบจะร้องไห้ เธอมองไปที่เฟนด์ “ฉันผิดเอง” เธอพูด “ได้โปรด ปล่อยเราไปเถอะนะ ฉันจะให้เงินคุณหนึ่งพันล้านเหรียญ เป็นไง? หนึ่งพันล้านเหรียญเลยนะ!”“หึ แกคิดจริง ๆ เหรอว่าฉันจะสนใจเงินหนึ่งพันล้านเหรียญ?”เฟนด์หัวเราะ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความดูถูกเหยียดหยาม“อ๊า!”ชายร่างท้วมเหวี่ยงดาบฟันแขนของผู้หญิงคนนั้น เลือดพุ่งกระฉูดออกมาทันทีที่ดาบสัมผัสกับผิวหนัง แขนก็ขาดออก“ผมมียาอยู่นี่!”หลังจากที่เขาฟันแขนภรรยาเสร็จ ชายร่างท้วมก็เหวี่ยงดาบไปด้านข้างและให้ยาแก้ปวดกับเธอและใส่ยาเพื่อให้หยุดเลือดไหล“อ๊า!”ถึงอย่างนั้น ผู้หญิงคนนั้นก็ยังเจ็บปวดมากจนหน้าซีดไปหมด เหงื่อเย็นไหลออกมาบนหน้าผาก และเธอดูเหมือนเธอจะหมสติได้ตลอดเวลาด้วยการช่วยเหลือจากชายร่างท้วมอย่างรวดเร็ว ทั้งคู่หายวับไปจากสายตาของเฟนด์เฟนด์หยิบดาบที่วางอยู่บนพื้นและเช็ดคมดาบบนร่างของบอดี้การ์ด

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1159

    เคย์ล่าสันนิษฐานว่าเฟนด์คงกลัว ตอนที่เธอเห็นคิ้วของเขาขมวดเข้าหากัน “ใช่แล้ว ฉันจะอธิบายทุกอย่างให้ฟังนะ” เธอพูด “บางครั้ง คนตระกูลวู๊ดจะมีเพื่อนสนิทที่คอยแนะนำใครสักคนให้ หรือ พวกเขาอาจจะลงจากภูเขามาเพื่อเลือกผู้ฝึกยุทธที่มีพรสวรรค์สักสองสามคนเพื่อเข้าสู่ตระกูลวู๊ด ซึ่งเรื่องนี้ก็เกิดขึ้นได้ยาก แต่บางคนก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลวู๊ดได้เพราะแบบนั้น!”เคย์ล่าหยุดไปสักพักก่อนที่จะพูดต่อว่า “สมาชิกในตระกูลแมคคนหนึ่งโชคดีพอที่จะเข้าไปในตระกูลวู๊ดได้ และเขาสามารถเข้ากับพวกเขาได้ดี ดังนั้นตอนนี้เขาจึงคิดว่าได้ถือหางเสือ และเขายังเป็นผู้ฝึกยุทธระดับเทพแท้จริงขั้นกลางด้วย คุณแมคจึงทำตัวอวดดีเพราะเหตุผลนี้!”“รีบออกไปเถอะพ่อหนุ่ม มันจะสายเกินไปถ้าคุณไม่ออกไป ดูจากนิสัยของเธอ ฉันมั่นใจว่าออทัมน์จะไม่ปล่อยเรื่องนี้ไปแน่! อีกอย่าง คุณเป็นคนตัดแขนลูกสาวลำดับที่หนึ่งของตระกูลแมค นายท่านแมคก็คงไม่ปล่อยคุณไปเหมือนกันแน่!”ชายชราแนะนำเฟนด์กับเซเลน่าอย่างวิตกกังวล“ขอบคุณสำหรับความห่วงใยของพวกคุณ แต่ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ๆ เราก็ไม่ควรออกไปจากที่นี่มากกว่านะ!”เฟนด์ยกมือขึ้นเพื่อทำความเคารพทั้งสองค

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1160

    “ฮึ่ม ฉันทนเห็นมันไม่ได้หนิ ฉันดูดีในชุดแบบโบราณ ผู้หญิงคนนั้นไม่มีสิทธิ์ที่จะดูดีมากไปกว่าฉัน สิ่งที่เห็นมันทำให้ฉันโมโห!”ผู้หญิงคนนั้นโกรธจัด สายตาของเธอเต็มไปด้วยความร้ายกาจ “เรารีบกลับกันเถอะ” เธอพูด “เราจะปล่อยทั้งคู่ไปแบบนั้นไม่ได้ ฉันจะให้พ่อไปฆ่ามัน!”ชายร่างท้วมถึงกับพูดไม่ออก แต่เขาก็ไม่มีคำคัดค้านใด ๆ เพราะยังไงซะ เขาก็เป็นเพียงลูกเขยที่ไปอาศัยอยู่กับตระกูลแมค ไม่มีฐานะพิเศษอะไรในตระกูลแมคเลย ถ้าเขาไม่ยอมต่อความปรารถนาของเธอ เธอและตระกูลของเธอคงทำให้ชีวิตของเขาทุกข์ทรมาน“ตอนนั้นผมไม่มีทางเลือกหนิที่รัก ยังโกรธผมอยู่ไหม?”ชายร่างอ้วนพยุงเธอเดินไปข้างหน้าสีหน้าของออทัมน์มืดลง “มันเป็นความผิดของคุณที่เป็นนักสู้ที่ห่วยแตกและอ่อนแอ ฉันคงไม่ถูกรังแกแบบนี้ถ้าคุณไม่ใช่คนไร้ประโยชน์” เธอตะคอกออกมาและจ้องไปที่สามีของเธอ “ดูชายคนนั้นสิเมื่อกี้นี้สิ เขาไม่มีอะไรเหมือนคุณเลย คุณมันก็แค่ผู้ฝึกยุทธระดับหกที่อายุมากแล้วก็เท่านั้น คุณคงจะถูกหัวเราะเยาะถ้าเรื่องนี้หลุดออกไป...”…ชายร่างท้วมพูดไม่ออก เขาเพิ่งช่วยออทัมน์จนกระทั่งพวกเขามาถึงตระกูลแมค“คุณหนู เกิด-เกิดอะไรขึ้น?”บอดี

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1161

    เอซมองลูกเขยที่อ่อนแอของเขา แล้วเขาก็พากลุ่มผู้อาวุโสและนักสู้ที่ทรงพลังรีบไปยังที่สถานนั้น พวกเขาทั้งหมดเคลื่อนตัวเร็วมาก ราวกับว่าพวกเขาเป็นดั่งเงาที่วิ่งแข่งในความมืด“รอผมด้วย…”ชายร่างท้วมที่อ่อนแอถูกทิ้งไว้ข้างหลังอย่างรวดเร็ว เขาเหนื่อยมากจนหอบหายใจไม่หยุด ตามความเร็วของนักสู้พวกนั้นไม่ทัน“พ่อ หนูคิดว่าพวกคงไปแล้ว เมื่อกี้หนูไม่น่าบอกพวกเขาเลยว่าหนูเป็นลูกสาวของตระกูลแมค ตอนนี้พวกเขารู้แล้ว พวกเขาต้องหนีไปแล้วแน่!”ระหว่างทาง ออทัมน์พูดกับพ่อของเธอสีหน้าของเอซดุดันขึ้น เขาไม่พูดอะไรเลยสักคำ ความโกรธเดือดขึ้นมาในเส้นเลือดของเขา“เอ๊ะ พวกเขายังอยู่ที่นี่ พวกเขาอยู่ตรงนั้นค่ะพ่อ พวกเขากำลังกินบาร์บีคิวกันอยู่!”อย่างไรก็ตาม ไม่นานดวงตาของออทัมน์ก็เป็นประกายขึ้นหลังจากที่เธอเห็นคนสามคนกำลังกินอาหารอยู่ที่ร้านบาร์บีคิว“ทำไมเคย์ล่าถึงไปอยู่ที่นั่น? เธอเป็นเพื่อนของพวกเขาเหรอ?”เอซกำหมัดแน่นในขณะที่เขาเฝ้าดูเหตุการณนั้นจากระยะไกล“หนูไม่คิดว่าเคย์ล่าจะรู้จักพวกเขานะ ก่อนหน้านี้เธอยังเคยโน้วน้าวทั้งคู่ให้ขายเสื้อผ้าให้หนูอยู่เลย บางทีพวกเขาอาจเลี้ยงข้าวเธอเพราะพวกเขาคิดว่าเ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1162

    “ออทัมน์ใช่ไหม? เฮ้ ฉันไม่คิดว่าจะได้เจอกันเร็วขนาดนี้ ฉันยังกินข้าวไม่เสร็จเลย!”เฟนด์เดินเข้ามาหาเธออย่างสบาย ๆ “อย่าบอกนะว่าคุณมาที่นี่เพื่อขอบคุณที่ฉันไว้ชีวิตคุณ” เขาพูดพร้อมยิ้ม “ฮ่า ถ้าเป็นอย่างนั้น ก็ไม่จำเป็นต้องขอบคุณหรอก คุณพาคนจำนวนมากมาที่นี่เพื่อขอบคุณฉันเลยเหรอ คุณทำให้ฉันเขินนะ!”หลายคนที่กังวลเกี่ยวกับเฟนด์อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเยาะคำพูดของเขา แม้แต่ในตอนนี้ เขายังมีกระจิตกระใจมาพูดล้อเล่นอยู่อีก“เฮ้ แกตัดแขนลูกสาวของฉัน แล้วแกยังมาบอกว่าฉันควรจะขอบคุณแกอีกเหรอ ไอ้บ้า? แกคิดว่าฉันโง่เหรอ?”เอซหัวเราะและจ้องเฟนด์เขม็ง ดวงตาของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดง เขาดูน่ากลัวมาก ออร่าของนักสู้ระดับเทพแท้จริงปกคลุมรอบตัวเขา“นายท่าน ให้ฉันเป็นคนฆ่าไอ้เด็กบ้านี่เอง ให้ตายสิ เขายังมัวมานั่งกินบาร์บีคิวอยู่เลย เขาไม่เคารพตระกูลแมคเลย!”ชายชราซึ่งเป็นปรมาจารย์ระดับแปดก้าวออกมาข้างหน้าสองสามก้าว พูดด้วยน้ำเสียงเหี้ยมโหดเอซยิ้มอย่างร่าเริง “ขอบคุณพระเจ้าที่เขายังกินบาร์บีคิวอยู่ที่นี่ เราจะไปหาเขาเจอได้ที่ไหน ถ้าเขาหนีไปซะก่อนแล้ว”“ผู้อาวุโสลำดับที่สอง อย่าฆ่าหมอนี่ทันทีนะ” ออทัมน์เตือ

Latest chapter

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2455

    ตราบใดที่มันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการบ่มเพาะโอสถของเขา ทั้งสองคนจะทำอะไรตามต้องการก็ย่อมได้ สิ่งนั้นไม่กระทบอะไรกับเขาเลย“ถึงฉันจะดูแคลนหมอนี่ แต่เขาก็ยังกล้าเสมอ เขาก็คงจะมีความสามารถอยู่บ้าง เขาน่าจะผ่านสองขั้นตอนแรกได้อย่างไม่มีปัญหา” เกรย์สันพูดอย่างชัดเจนรูดี้มองไปที่เกรย์สันด้วยรอยยิ้มเย็นชาบนใบหน้าแล้วตอบว่า "นายดูมั่นใจกับหมอนี่มากเลยนะ ฉันจะคิดว่าทุกครั้งที่เขาพูดก่อนหน้านี้ล้วนเป็นเรื่องไร้สาระทั้งหมด“ฉันคิดว่าเขาอาจจะไปถึงขั้นที่สองก่อนที่เขาจะล้มเหลวโดยสิ้นเชิง! ฉันอยากเห็นจริง ๆ ว่าถ้าล้มเหลวขึ้นมา เด็กสารเลวคนนี้จะสู้หน้าเราได้ยังไง”เกรย์สันสูดหายใจเข้าลึก ๆ เขารู้สึกได้ว่าความโกรธของรูดี้ที่มีต่อเฟนด์นั้นลึกซึ้งกว่าของเขามากดวงตาของรูดี้ลุกเป็นไฟ เห็นได้ชัดว่าเขาเกลียดเฟนด์มากเพียงใดเกรย์สันหัวเราะอย่างเย็นชา "แล้วมาดูกันว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ฉันคิดว่าเขาน่าจะสามารถไปถึงขั้นตอนสุดท้ายได้ ถ้าเขาสามารถควบรวมอักขระทางยาได้ถึงร้อยเม็ดเขาก็น่าจะมาถึงระดับนั้น"หลังจากที่ทั้งสองพูดเรื่องเหล่านั้นออกมา พวกเขาก็ปิดปากเงียบพร้อม ๆ กับการมองดูเฟนด์โดยไม่พูดอะไรพวกเขามอง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2454

    ผู้อาวุโสฮอร์สท์กระแอมเล็กน้อยในขณะที่เขาพูดต่อ “หลังจากที่เธอบ่มเพาะโอสถได้สำเร็จแล้ว ให้นำโอสถมาให้ฉันตรวจสอบ พวกเธอจะมีเวลาในการทดสอบทั้งสิ้นแปดชั่วโมง ถ้าเธอไม่สามารถบ่มเพาะโอสถได้ภายในแปดชั่วโมง ก็จะแปลว่าไม่ผ่านการทดสอบ ดังนั้นอย่าได้ช้าเกินไป”พวกเขาทั้งสามพยักหน้าแทบจะพร้อมกัน หลังจากผู้อาวุโสฮอร์สท์ให้คำแนะนำแล้ว เขาก็จัดให้มีคนงานสองสามคนคอยเป็นคนตรวจ มีผู้ดูแลยืนอยู่ด้านหลังทั้งสามคนเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่ทำอะไรผิดพลาดหลังจากนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็หันกลับมาและไปหาผู้สอบคนอื่น ๆ รูดี้หรี่ตาลง ขณะที่เขาเหลือบมองเฟนด์และพูดว่า "ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการบ่มเพาะโอสถระดับหกคือขั้นตอนสุดท้าย แต่ขั้นตอนแรกก็ไม่ง่ายเช่นกัน ถ้านายรู้ว่าทำไม่ได้ ก็อย่าทำให้ต้องสิ้นเปลืองวัตถุดิบเลย ของพวกนี้ล้วนมีราคาค่างวด ต่อให้นายจะขายตัวเองเป็นทาสก็ยังไม่พอให้ซื้อของพวกนี้!”เฟนด์ถอนหายใจออกเบา ๆ หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาเบื่อเกินกว่าจะอ้าปากพูดด้วยซ้ำ เขาตัดสินใจที่จะเพิกเฉยต่อผู้ชายคนนั้นและทุกสิ่งที่จะออกมาจากปากเขา ถึงโต้ตอบไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรอยู่ดี

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2453

    เกรย์สันหรี่ตาลงขณะที่เขามองเฟนด์ด้วยความโกรธเช่นกัน เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ดูเหมือนว่าวันนี้ นายจะมาที่นี่เพื่อหาเรื่องขายหน้าให้กับตัวเองเท่านั้น"หลังจากพูดจบเกรย์สันก็หันหลังกลับและเงียบไป เสียงความขัดแย้งหยุดลง และทุกคนรอบ ๆ ก็เริ่มกระซิบกระซาบกันผู้อาวุโสฮอร์สท์มองเฟนด์อย่างมีความหมาย ราวกับว่าเขามองเฟนด์ในมุมมองที่ต่างออกไป ทันใดนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็อยากรู้เรื่องของเฟนด์อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ในขณะนั้นเขาไม่อาจพูดอะไรออกมาได้เมื่อเขาเห็นว่าทุกคนได้จับกลุ่มกันเรียบร้อยแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็โบกมือแล้วพูดว่า "มากับฉัน!"ทุกคนติดตามผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปเป็นกลุ่ม ๆ ผู้อาวุโสฮอร์สท์เข้าไปในเรือวิญญาณ ภายในเรือเต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังรีบร้อนพวกเขาเดินตามหลังผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปอย่างใกล้ชิด เดินลัดเลาะไปตามทางก่อนจะมาถึงห้องกว้างขวางในที่สุด ห้องกว้างขวางมากจนเรียกได้ว่าห้องโถงเลยทีเดียวทันทีที่พวกเขาก้าวเข้าไปในห้อง ทุกคนก็สามารถสัมผัสได้ถึงรังสีของโอสถที่หนาแน่นรอบ ๆ บรรยากาศ พื้นที่ในห้องนี้ใหญ่เกินพอสำหรับพวกเขาแปดสิบคนเฟนด์ประเมินสถานการณ์เล็กน้อย ห้องนี้ใหญ่พอที่จะรองรับคน

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2452

    พวกเขาถาโถมข้อกล่าวหาและดูหมิ่นมามากเกินไป ถึงเขาจะไม่อยากโต้เถียงกับคนพวกนี้ แต่เขาก็ยังถูกบังคับให้ต้องเงยหน้าขึ้นมาอย่างช้า ๆ อยู่วันยันค่ำเขามองเข้าไปในดวงตาของรูดี้ซึ่งเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน ราวกับเขาเป็นเพียงแมลงในสายตาของรูดี้เฟนด์หัวเราะอย่างเย็นชา “แล้วนายได้ยินเสียงสุนัขที่เห่าดังที่สุดแล้วหรือยังล่ะ?”คำพูดเหล่านั้นสามารถเยาะเย้ยทุกคนที่นั่นได้สำเร็จ เขาเปรียบเทียบกิลเบิร์ตกับสุนัขและเย้ยหยันทุกคนที่ฟังสุนัขตัวนั้นเห่า มันทำให้การแสดงออกบนใบหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปกิลเบิร์ตเกือบจะลืมความโกรธของตัวเองไปแล้ว เขาไม่อยากจะเชื่ออะไรด้วยซ้ำว่าเฟนด์จะสามารถขจัดคำดูถูกดูแคลนทั้งหมดลงได้ แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้นกิลเบิร์ตหันกลับมาจ้องมองเฟนด์ด้วยใบหน้าแดงก่ำจากความโกรธเขาอยากจะตะโกนกลับแต่ถูกรองเหรัญญิกปรามไว้ "ดูเหมือนว่านายจะไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบแล้วสินะ!"ประโยคนั้นเพียงประโยคเดียวก็ทำให้กิลเบิร์ตไม่อาจพูดอะไรออกมาได้อีก กิลเบิร์ตตระหนักได้แล้วว่าเขาได้ทำให้รองเหรัญญิกขุ่นเคืองอย่างหนักหากเขายังคงยืนกรานที่จะต่อปากต่อคำกับเฟนด์ รองเหรัญญิกอาจจะดึงเขาออกไปจริง ๆ แล้วเขาจะ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2451

    “สมองหมอนั่นจะต้องมีอะไรผิดปกติจริง ๆ นั่นแหละ เขาคิดจริง ๆ หรือว่าเขาอยู่ในระดับเดียวกับอีกสองคนที่อยู่ตรงหน้าเขา แค่เพราะไปยืนอยู่กลุ่มเดียวกัน? นั่นน่าจะตลกมากเกินไปหน่อยนะ…”“ฉันนึกว่าการทดสอบจะเข้มงวดและจริงจังเสียอีก ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะได้เห็นอะไรแบบนี้ ทำเอาฉันขำจนปวดท้องเลยล่ะ…”แอนดรูว์ขมวดคิ้วอย่างรู้สึกอับอาย รองเหรัญญิกโกรธจนตัวสั่นหลังจากได้ยินคำพูดของกิลเบิร์ต เขานึกอยากจะพุ่งตัวไปไปตบกิลเบิร์ตสักสองสามครั้งกิลเบิร์ตเพิกเฉยต่อชื่อเสียงของวิมานโอสถอย่างเห็นแก่ตัวที่สุด พวกเขาแทบอยากจะมุดดินหนี ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นี่จะเป็นความอัปยศอดสูที่วิมานโอสถไม่อาจจำกัดทิ้งได้รองเหรัญญิกตะโกนออกไปว่า "หุบปากเดี๋ยวนี้! นายกำลังพูดเรื่องบ้าอะไร ถ้าไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบ ก็ไสหัวไปซะ!"รองเหรัญญิกโกรธมาก ขณะที่เขาพูดเช่นนั้น สีหน้าของเขาดูอดสูอย่างไม่น่าเชื่อ เขายังคิดจะฆ่ากิลเบิร์ตให้ตายเสียเดี๋ยวนี้ เมื่อถูกตำหนิเช่นนั้นก็ทำให้กิลเบิร์ตตระหนักได้ว่าเขาพูดผิดไปถึงกระนั้นก็ไม่มีทางที่เขาจะถอนคำพูดเหล่านั้นกลับคืนมา เขากระแอมเบา ๆ ก่อนที่จะรีบหันศีรษะไปซ้ายทีขวาที อย่างไม่กล้

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2450

    ไม่มีใครรู้ดีไปกว่ารองเหรัญญิกว่าโอสถระดับหกหมายถึงสิ่งใด ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา วิมานโอสถรับบัณฑิตมาจำนวนนับไม่ถ้วน แต่มีไม่มากนักที่จะได้กลายเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุระดับหกจริง ๆคอนสแตนซ์ยิ้มอย่างมีความหมายขณะที่เขาเอ่ยถาม "รองเหรัญญิกคนนี้มีความสามารถหลากหลายจริง ๆ ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าวิมานโอสถจะมีอัจฉริยะกับเขาด้วย ผมไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลย"ริมฝีปากของรองเหรัญญิกกระตุก เขาต้องการอธิบายตัวเอง แต่ถ้าเขาบอกว่าเฟนด์ไม่สามารถสกัดโอสถระดับหกได้ และมีเพียงพรสวรรค์ในการสร้างอักขระทางยาเท่านั้น มันคงจะกลายเป็นเรื่องตลกครั้งใหญ่ และทุกคนคงจะหัวเราะเยาะวิมานโอสถเป็นแน่แต่ถ้าเขายังคงดื้อรั้นต่อไป พอถึงเวลาต้องบ่มเพาะโอสถ เฟนด์ก็จะเปิดเผยความจริงข้อนั้นออกมา เมื่อนั้นความอัปยศอดสูก็จะยิ่งหนักข้อขึ้นเขาถึงกับมือสั่น ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยรู้สึกเหมือนตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้มาก่อน เขารู้สึกเหมือนกำลังถูกกักขังอยู่ในกำแพงอีกสองด้าน ทุกคนคิดว่ารองเหรัญญิกกำลังวางแผนที่จะใช้ความเงียบเพื่อตอบคำถามเมื่อเห็นกับตาว่ารองเหรัญญิกไม่ตอบอะไรออกมาแต่ทว่าคอนสแตนซ์คล้ายกับจะไม่เ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2449

    เฟนด์เป็นคนเดียวที่ยังคงยืนอยู่ ขณะนั้นเขาดูคล้ายกับกำลังลังเลและดูเหมือนกำลังรออะไรบางอย่างอยู่ ขณะที่รองเหรัญญิกพูดจบ ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็จ้องมองมาอย่างอยากรู้อยากเห็นแม้ว่าดวงตาของเขาจะดูเป็นประกายมากขนาดไหน แต่เฟนด์ก็ยังคงรู้สึกถึงความเฉียบคมภายใน ราวกับว่าเขาจะถูกตัดสิทธิ์หากเขาไม่ขยับริมฝีปากของเฟนด์กระตุกอย่างช่วยไม่ได้ เขารีรอต่อไปไม่ได้แล้ว จึงได้แต่เดินไปยังพื้นที่ที่เขาวางแผนไว้ก่อนหน้านี้ในตอนแรกเฟนด์ไม่ได้ดึงดูดความสนใจใครมากนัก เขาอาจจะเป็นคนสุดท้ายที่ปรากฏตัวขึ้น ไม่มีใครจำเขาได้ ต่อให้เขาจะมาจากวิมานโอสถ แต่นอกจากคนที่เคยพบเขาแล้ว ก็ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใครขณะที่เขาเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกต่อไป ทุกคนก็เริ่มจ้องมองไปที่เขา ใบหน้าของรองเหรัญญิกก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นบูดบึ้งเมื่อเขาสังเกตเห็นว่าเฟนด์กำลังมุ่งหน้าไปทางใด“ผู้ชายคนนั้นคิดจะไปต่อหลังรูดี้หรือเปล่า? เขาคิดจะพิสูจน์ตัวเองด้วยการกลั่นโอสถระดับหกด้วยหรือ?”“ก็คงเป็นแบบนั้น เว้นแต่เขาจะเป็นคนโง่เง่าที่ไม่ทันได้ฟังกฎการตัดสินให้ดี ไม่งั้นคงไม่เดินไปแบบนั้นหรอก เขาเป็นใคร ทำไมฉันไม่เคยได้ยินอะไรเกี่ยวกับเขาเลย

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2448

    กิลเบิร์ตทำท่าราวกับกลืนแมลงวันเข้าไปสองสามตัว เขาคาดหวังว่ารองเหรัญญิกจะพูดคำเหล่านั้นกับเขาเสียอีก แต่กลับกลายเป็นว่ารองเหรัญญิกไม่ละสายตามามองเขาเลยแม้แต่วินาทีเดียวรองเหรัญญิกฝากความหวังทั้งหมดไว้กับเฟนด์ราวกับว่ากิลเบิร์ตและแอนดรูว์มาที่นี่เพื่อเพิ่มจำนวนคนเท่านั้นแอนดรูว์มีสีหน้าขมขื่นเช่นกัน ในอดีตเขาขัดแย้งกับกิลเบิร์ตมามากมาย และความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ไม่อาจพัฒนาไปในทางที่ดีได้แต่ต้องขอบคุณเฟนด์ที่ทำให้เขาสามารถวางเฉยต่อความแค้นทั้งหมดที่เคยมีได้แอนดรูว์พูดด้วยใบหน้าที่มืดมน “รองเหรัญญิก ดูเหมือนคุณจะฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่เฟนด์เลยนะ“แต่คุณก็น่าจะเตือนเฟนด์สักหน่อยว่าต่อให้เขาจะมีพรสวรรค์ค่อนข้างดี แต่ก็ไม่ควรหยิ่งผยองเกินไป”แอนดรูว์โกรธมากในขณะนั้นและอดไม่ได้จริง ๆ ที่จะต้องเอ่ยคำดูแคลนที่สุดเช่นนั้นออกมากิลเบิร์ตกล่าวเสริมอย่างรีบร้อนทันที “แอนดรูว์พูดถูก แม้ว่าพรสวรรค์ของเฟนด์จะค่อนข้างดี แต่เขาก็ไม่ควรหยิ่งผยองนัก คำพูดพวกนั้นไม่ได้ช่วยอะไรเลยสักนิด”เฟนด์ถึงกับพูดไม่ออกเมื่อถูกคนทั้งสองเหยียบย่ำ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเฟนด์ไม่ได้เอ่ยปากเลยสักคำ แล้วเขาจะเอาเวลา

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2447

    ในตอนแรก คอนสแตนซ์และซีนย์เพียงยืนเคียงข้างกันโดยไม่สนใจเรื่องนี้ พวกเขาต้องการปล่อยให้สถานการณ์ดำเนินต่อไปอย่างที่ควรจะเป็น แต่เมื่อว่าเกรย์สันและรูดี้เริ่มเถียงกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งสองคนก็ถูกบีบให้ต้องทำอะไรสักอย่างพวกเขาถูกบีบให้ต้องแยกรูดี้และเกรย์สันออกจากกัน นั่นก็เพราะ การทะเลาะกันของเด็ก ๆ ควรจะมีขีดจำกัด เพราะหากมันเกินขีดจำกัดไปแล้ว นั่นจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของพวกเขา นี่คือสิ่งที่รูดี้และเกรย์สันเองก็ไม่อยากเห็นเป็นเวลาเกือบสิบห้านาทีแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์นั่งบนเก้าอี้ ขณะมองดูการทะเลาะวิวาทและการพูดคุยกันอย่างเฉยเมย เมื่อหมดเวลาเขาก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้เสียงปรบมือดังขึ้นตอนที่เขาจะพูดว่า "เอาล่ะ หมดเวลาแล้ว ทุกคนต้องตัดสินใจได้แล้วว่าจะพิสูจน์ความสามารถของตัวเองยังไง”“ฉันไม่คิดว่าฉันจะต้องบอกอะไรพวกนายทุกอย่างหรอกนะ ตอนนี้ก็แยกออกเป็นกลุ่มเสีย ผู้ที่ต้องการรวมอักขระทางยาจะยืนอยู่ทางทิศตะวันออก“ผู้ที่ต้องการแยกแยะวัสดุสามารถยืนอยู่ตรงกลางได้เลย และหากจะพิสูจน์ตัวเองด้วยกันบ่มเพาะโอสถให้ไปยืนที่ทางทิศตะวันตก“ถึงอย่างนั้นฉันก็ต้องขอเตือนทุกคนก่อน หากทุกคนต้องการ

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status