มันเป็นช่วงบ่ายที่อบอุ่น ลิลลี่กำลังเตรียมตัวที่จะพักทันใดนั้นเอง โยลันดาก็บุกเข้ามาในห้องของเธอด้วยความเร็วสูง“โยลันดา? มาทำอะไรที่นี่? ฉันบอกให้เธอรอซุ่มโจมตีเฟนด์และคนอื่น ๆ บนยอดเขาไม่ใช่รึไง? มีอะไรรึเปล่า? อย่าบอกนะว่าเธอไม่พอใจกับหญ้าวิญญาณชั้นยอดสามต้นน่ะ?”เมื่อลิลลี่เห็นว่าโยลันดาบุกเข้ามา เธอเลยตะคอกด้วยน้ำเสียงไม่พอใจอย่างไรก็ตาม เมื่อเธอพูดจบ เธอก็เห็นว่าสภาพโยลันดาดูไม่ได้เลย “เป็นอะไร? เธอบาดเจ็บรึเปล่า?” ลิลลี่ร้องลั่นโยลันดาหายใจหอบเสียงดังราวกับปอดของเธอแตก ในที่สุดเธอก็สงบสติ ก่อนจะนั่งลง แล้วพูดว่า “ฉันเกือบตายแล้ว เรากำลังรอเฟนด์อยู่ และเขาก็ปรากฏตัวขึ้นไม่นานหลังจากนั้น…”หน้าของลิลลี่เป็นประกายทันทีเมื่อได้ยินเช่นนั้น “แล้วเฟนด์ล่ะ? มันตายรึยัง? เธอบาดเจ็บระหว่างต่อสู้เพราะมันแข็งแกร่งมากสินะ? ดีนอยู่ที่ไหนล่ะ? ทำไมเธอกลับมาคนเดียวล่ะ?” ลิลลี่ยิ้มอย่างมีความสุขโยลันดา เงยหน้าขึ้น และเผชิญหน้ากับลิลลี่ เธอพูดออกมาด้วยท่าทีมืดมน “นายหญิงลำดับแรก ดีน…ดีนจะไม่ได้กลับมาแล้ว เพราะเฟนด์ฝึกถึงขั้นแรกของระดับเทพแท้จริงแล้ว! เราไม่คิดเลยจริง ๆ ! ดีนตาย เพราะปร
“เฮ้อ! น่าเสียดายที่ครั้งนี้ฉันไม่สามารถจบชีวิตเขาได้ ฉันขอตัวไปรักษาแผลก่อนนะ!” โยลันดาคำนับลิลลี่แล้วหมุนตัวเตรียมที่จะออกไป“รอเดี๋ยว!” ลิลลี่เรียกโยลันดาไว้ หัวใจของโยลันดาเต้นรัวเมื่อเธอได้ยินลิลลี่เรียก เธอพูดอะไรที่ไม่สอดคล้องกันแล้วลิลลี่รู้งั้นเหรอ? ทำไมลิลลี่ถึงเรียกเธอไว้? แต่โยลันดาก็ต้องประหลาดใจ ลิลลี่พลิกมือแล้วหญ้าวิญญาณชั้นยอดระดับหนึ่งก็ปรากฏขึ้นบนฝ่ามือของเธอ เธอหันมาเผชิญหน้ากับโยลันดา และบอกให้โยลันดาเธอหยิบหญ้าวิญญาณนี้ไป “แม้ว่าเราจะมีข้อตกลงกันมาก่อนว่า เธอจะไม่ได้รับหญ้าวิญญาณหากเธอทำภารกิจไม่สำเร็จ แต่ครั้งนี้เธอได้รับบาดเจ็บ ดังนั้นฉันจะให้หญ้าวิญญาณกับเธอ ฉันหวังว่าเธอจะพัฒนาได้เร็วขึ้นและไปถึงระดับเทพแท้จริงขั้นกลางในไม่ช้า เธอเป็นคนมีความสามารถ เมื่อเธออยู่ในระดับเทพแท้จริงขั้นกลางแล้ว ฉันจะหาโอกาสเลื่อนตำแหน่งให้เธอเป็นผู้อาวุโส!” “ขอบคุณมากค่ะ นายหญิงที่หนึ่ง!” โยลันดาพยักหน้าด้วยรอยยิ้มอย่างมีความสุขขณะที่เธอหยิบหญ้าวิญญาณมา จากนั้นเธอก็ออกจากที่เกิดเหตุไป หลังจากออกจากบ้านของลิลลี่แล้ว โยลันดาก็เดินเล่นอยู่พักหนึ่ง จากนั้นเธอก็ถอนหายใจออ
“เข้าใจแล้ว ลิลลี่คงจะโกรธแทบตายแน่ถ้าเธอรู้ว่าคนที่เธอส่งมาฆ่าคุณกลับอยู่ฝั่งเดียวกับคุณ!” เซเลน่าหัวเราะออกมาหลังจากที่ได้ยินคำพูดของเฟนด์ “เพราะงั้นลิลลี่จะต้องไม่รู้เรื่องพวกนี้! ถ้าเธอรู้เข้า โยลันดาต้องตกอยู่ในอันตรายใหญ่แน่!” เฟนด์กับเซเลน่าหัวเราะออกมาพร้อมกัน จากนั้นเขาก็คลายอ้อมแขนออกแล้วปล่อยเซเลน่า เขาเดินไปที่โต๊ะกาแฟ รินน้ำชาให้ตัวเองแล้วนั่งลงบนเก้าอี้ที่อยู่ใกล้ ๆ “โยลันดาเป็นคนจิตใจดีและซื่อสัตย์ ในอนาคตเราสามารถพึ่งพาเธอได้อย่างแน่นอน อีกอย่าง ผมคิดว่าน่าจะมีหลายคนในตระกูลลาโกริโอที่ทำงานให้ตระกูลวู๊ดและซื่อสัตย์ต่อตระกูลวู๊ด เพราะยังไงซะ นิสัยเจ้าเล่ห์ของลิลลี่และกลอุบายสกปรก ๆ ของเธอก็ทำให้คนในตระกูลลาโกริโอบางคนผิดหวัง” เฟนด์พูดพลางจิบชา เซเลน่าพยักหน้าเห็นด้วย เธอนั่งลงข้างเฟนด์และพูดว่า “นั่นก็จริง แต่ในอนาคต คุณจะแยกได้ยังไงว่าพวกไหนอยู่ข้างคุณ และพวกไหนเป็นคนของลิลลี่ มันยากนะที่จะรู้จิตใจของคนอื่น!” เฟนด์ก็ขมวดคิ้วเหมือนกัน “อันที่จริง มันก็ยากที่จะรู้จิตใจของคนอื่น แต่เมื่อถึงตอนนั้น เราค่อยถามเรื่องนี้กับโยลันดาก็ได้ และถ้าไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้
“สุดยอด! สุดยอดมาก!” เฟนด์พยักหน้าอย่างพอใจ “ถ้าเป็นอย่างนี้ เรามาพยายามไปให้ถึงระดับปรมาจารย์ขั้นสูงกันเถอะ! คุณจะถือว่าเป็นผู้ฝึกยุทธที่แข็งแกร่งและทรงพลังก็ต่อเมื่อคุณก้าวข้ามผ่านขีดจำกัดนี้ไปได้!” “สำหรับฉันเรื่องเข้าสู่ระดับปรมาจารย์ขั้นสูง ฉันคิดว่าน่าจะไม่มีปัญหาอะไร แต่การก้าวข้ามไปสู่ระดับกึ่งเทพ ฉันเกรงว่าคงจะต้องใช้เวลามากพอสมควร เพราะฉันพบว่ามันง่ายที่จะฝึกฝนและพัฒนาในช่วงแรก ๆ แต่ยิ่งระดับสูงมากขึ้นเท่าไหร่ มันก็จะยิ่งยากมากขึ้นและก้าวข้ามผ่านไปได้ช้าลงมากเท่านั้น!” เซเลน่าขมวดคิ้วเข้าหากันขณะที่เธอพูดออกมา เฟนด์ยิ้มกลับไปอย่างขมขื่น “นั่นคือความจริง ระดับความยากในการฝึกฝน ระหว่าง ปรมาจารย์ขั้นสูงกับผู้ฝึกยุทธระดับสูงสุดนั้นห่างไกลกันมาก ทว่าในเวลาเดียวกัน ความแข็งแกร่งและพลังที่ปรมาจารย์ขั้นสูงครอบครองไว้นั้นก็มีมากกว่าผู้ฝึกยุทธขั้นสูงสุดมากมายนัก เมื่อคุณไปถึงระดับปรมาจารย์ขั้นสูง คุณจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับพลังฉี แต่การควบคุมมันนั้นไม่ง่ายเลย ดังนั้นมันจึงนับว่าโหดหินมากในการเพิ่มระดับต่อ เมื่อคุณอยู่ในระดับปรมาจารย์ขั้นสูงแล้ว ไม่ใช่เพียงแค่พรสวรรค์เท่านั้นที่คุ
“ที่รัก ที่นี่คึกคักและมีชีวิตชีวามาก มันเหมือนเมืองสมัยโบราณเลย ทุกที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายและบรรยากาศแบบสมัยโบราณ! ฉันเริ่มหลงรักเมืองนี้แล้ว!” เซเลน่าเดินไปตามถนนในเมืองและอดไม่ได้ที่จะอุทานออกมาถึงความงดงามอันเก่าแก่ของเมืองนั้ ผู้คนต่างเดินเท้าบนถนน พ่อค้าแม่ค้า ลูกค้า และคนอื่น ๆ สามารถเจอได้บนท้องถนนที่เต็มไปด้วยคนพลุกพล่าน บางคนสวมชุดโบราณแต่ก็ดูหรูหรา ผู้ชายบางคนก็ตั้งใจไว้ผมยาว ถ้าไม่ใช่เพราะบางคนแต่งตัวแบบสมัยใหม่และถือโทรศัพท์มือถืออยู่ในมือ เฟนด์กับเซเลน่าคงคิดว่าพวกเขาได้ย้อนเวลากลับไปซะแล้ว “ที่รัก ถ้าคุณสวมชุดโบราณพวกนั้น คุณต้องสวยมากแน่!” เฟนด์เห็นร้านขายเสื้อผ้าโบราณอยู่ไม่ไกลนัก เขาจึงดึงเซเลน่าเข้าไปในร้าน “ที่รัก ลองใส่ดูสิ!” “อืมม...ก็ได้ แต่มันก็เขินอะ!” แก้มของเซเลน่าเปลี่ยนเป็นสีชมพู ถึงอย่างนั้นเธอก็เลือกเสื้อผ้าสองสามชุดแล้วลองสวมดู “โอ้...ที่รัก คุณงดงามมากจริง ๆ! ถ้าคุณเกิดในสมัยโบราณ คุณก็ยังคงเป็นราชินีแห่งความงามแน่!” เมื่อมองดูเซเลน่าที่สวมชุดโบราณอย่างมีความสุข เฟนด์ก็พยักหน้าอย่างพอใจ “หน้าไม่อาย! เรามีลูกโตขนาดนี้แล้ว! คุณยังจะมาชมฉันแบ
ชายร่างท้วมขมวดคิ้วเข้าหากัน บ่งบอกถึงความลังเลใจ ผู้หญิงคนนั้นเห็นว่าชายคนนนั้นลังเล เธอจึงไม่มีความสุข เธอบีบติ่งหูของเขาและตะโกนใส่เขาอย่างโมโห “คุณต้องเอาชุดนั้นมาให้ฉัน ได้ยินไหม? อย่าลืมนะว่าคุณเป็นแค่ลูกเขยนอกคอกของตระกูลเรา อย่าบังอาจมาขัดคำสั่งของฉัน! ถ้าฉันบอกพ่อว่าคุณรังแกฉัน คุณอาจจะตายได้ในไม่ช้า!” ชายคนนั้นกลัวจนใจร่วงไปอยู่ที่ตาตุ่มเมื่อได้ยินคำขู่นั้น เขากลัวมากจนต้องตอบกลับไปแทบจะในทันทีว่า “โอเคที่รัก โอเค ปล่อยหูผมได้แล้ว ผมจะไปเอาชุดนั้นมาให้คุณ!” หลังจากฉากนั้นลง ชายคนนั้นก็เดินเข้ามาหาเฟนดกับเซเลน่าพร้อมภรรยาของเขาและคนอีกกลุ่มหนึ่ง เฟนด์ไม่ได้เตรียมตัวว่าสถานการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้น เขากำลังจะไปทานอาหารค่ำที่ร้านบาร์บีคิวใกล้ ๆ แต่พวกเขากลับถูกกลุ่มคนหยุดเอาไว้ก่อนที่จะได้เข้าไปในร้านอาหาร “หื้ม? มีอะไรงั้นเเหรอ? มีอะไรผิดปกติเหรอ? ฉันคิดว่าไม่เคยเจอพวกคุณมาก่อนนะ!” เฟนด์ยิ้มอย่างเย็นชาเมื่อมองไปที่กลุ่มคนตรงหน้าเขา เขาเป็นผู้ฝึกยุทธระดับเทพแท้จริงและเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งหัวหน้าตระกูลวู๊ด ถ้าคนพวกนี้อยากมาหาเรื่อง คนพวกนี้คงอยากตายมากแน่ ๆ แต่ถึงอย่างนั
“โอ้ เด็กน้อย ชีวิตของแกช่างต่ำต้อยจริง ๆ ฉันไม่คิดว่าแกจะพูดแบบนี้ กล้าดียังไงมาขู่ฉัน!” ผู้หญิงคนนั้นขมวดคิ้วเมื่อได้ยินอย่างนั้น “ดูเหมือนว่าวันนี้เงินจะใช้แก้ปัญหาไม่ได้ ฉันวางแผนจะจ่ายให้เงินแกสำหรับค่าเสื้อผ้า แต่ตอนนี้ ฉันไม่อยากทำแบบนั้นแล้ว ในเมื่อแกอยากตายมาก ฉันก็จะจัดให้!” หลังจากที่เธอพูดคำสุดท้ายจบ เธอก็ชี้ไปที่เฟนด์กับเซเลน่าแล้วสั่งเสียงเข้มว่า “ฆ่าหมอนี่ซะ แล้วถอดชุดของผู้หญิงคนนี้ออกมา ฉันไม่เชื่อว่า สิ่งที่ฉัน ออทัมน์ แมค อยากได้ ฉันจะเอามันมาไม่ได้! ยกเว้นแค่ไม่กี่คนในพื้นที่ภูเขาที่ฉันไม่อาจไปทำให้โกรธเคืองได้!” “เฮ้ ไอ้บ้า แกอยากหาเรื่องตายเองนะ ใครสั่งให้แกปฏิเสธข้อเสนอดี ๆ จากคุณหนูแมคของเรา! แกจะมาโทษคุณหนูของเราไม่ได้นะ!” บอดี้การ์ดหลายคนเยาะเย้ยออกมาขณะที่พวกเขาเดินเข้ามาหาเฟนด์พร้อมกับกำหมัดแน่น 'คนพวกนี้ช่างหยิ่งยโสและโอหังนักนะ?' เฟนด์คิดในใจ รอยยิ้มเย็นชาปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา พวกมันอยากให้เซเลน่าถอดเสื้อผ้าออกบนถนนจริง ๆ งั้นเหรอ? ข้อเสนอนี้เองที่ปลุกสัตว์ร้ายในตัวเฟนด์ให้ตื่นขึ้นได้สำเร็จ เฟนด์พยายามลดอารมณ์ลงในเรื่องต่าง ๆ เพื่อเซเลน่า แต่
เฟนด์ถอนหายใจออกมาอย่างเย็นชา และในเสี้ยววินาทีเขาก็หายตัวไป เขาไปปรากฏตัวท่ามกลางบอดี้การ์ดด้วยความเร็วแสงขณะที่เหวี่ยงแขนออกไป ชั่วพริบตา บอดี้การ์ดทั้งหมดก็นอนตายอยู่บนพื้น “อะไรวะเนี่ย!” ชายร่างท้วมและผู้หญิงอวบที่เห็นเหตุการณ์นั้นดวงตาเบิกตากว้างเกือบเท่าจาน พวกเขาอ้าปากค้างและทรุดลงกับพื้น พวกเขาตกใจมาก บอดี้การ์ดที่พวกเขาพามาด้วยนั้นเป็นผู้ฝึกยุทธระดับสูง และหนึ่งในนั้นเป็นถึงปรมาจารย์ระดับหนึ่ง! ทั้งคู่ไม่คิดว่าคนของพวกเขาจะถูกฆ่าตายภายในเวลาแค่ไม่กี่วินาที “ดู...ดูเหมือนหมอนี่จะอยู่ในระดับสูงกว่าปรมาจารย์แล้ว ความสามารถในการต่อสู้และทักษะยุทธของเขาไม่เลวเลย ในที่สุดฉันก็เข้าใจแล้วว่าทำไมเมื่อกี้เขาถึงไม่กลัวเลย เพราะถ้าเขากับภรรยารีบออกจากที่นี่ไปและไม่สร้างปัญหาใหญ่อย่างนี้ขึ้น พวกเขาก็น่าจะปลอดภัย!” เคย์ล่าพึมพำกับตัวเองขณะมองดูเหตุการณ์อยู่ข้าง ๆ “ไอ้บ้า ฉันคือคุณหนูแมคนะ! กล้าดียังไงมาฆ่าคนของฉัน! แกอยากมีปัญหากับตระกูลแมคงั้นเหรอ?” ผู้หญิงคนนั้นก็เดือดจัด แต่ในเวลาเดียวกันเสียงของเธอก็สั่น เธอเอาตระกูลแมคมาใช้เป็นเครื่องมือเพื่อข่มขู่เฟนด์ “หึ ฉันรู้ แล้วฉั