Share

บทที่ 1102

Author: โมเนโต้
"ไม่มีทาง ไอ้จิ้งจอกแก่นั่นอันตรายจริง ๆ !”

เซเลน่าตกใจมาก เมื่อเธอได้ยินเช่นนั้น “เขาแก่ก็แก่มากแล้วนะ ฉันไม่เคยคิดเลยว่าเขาอยากจะเก็บตำแหน่งหัวหน้าตระกูลไว้ให้ตัวเอง!”

“ใครจะไปรู้ล่ะ ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่กันแน่? เขาอยากฆ่าผมกับแลนซ์ แถมตอนนี้ก็หนีไปเก็บตัวอีก ไม่อยากเป็นก็แปลกแล้ว!”

เฟนด์ยิ้มอย่างเย็นชา “แต่ว่า ผมได้ยินมาว่า เขาเพิ่งจะถึงขั้นกลางของสถานะเทพแท้จริงเมื่อไม่นานมานี้ มันเลยไม่ง่ายเลยที่เขาจะพัฒนาไปมากกว่านี้ มันใช้เวลานานมาก เพราะแบบนั้น ผมเลยต้องรีบหายาถอนพิษให้พ่อ!”

ขณะที่ทั้งคู่กำลังคุยกันอยู่ พวกเขาก็เห็นฮัดสันกำลังเดินเข้ามา

เฟนด์และเซเลน่ามองหน้ากันและกันก่อนจะยิ้มออกมา ทั้งคู่รู้ทันที่ว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไร

“มีตระกูลสาขากี่ตระกูลนะที่รัก? คุณไปทำอะไรที่นั่นล่ะ? แล้วจะไปทุกที่เลยรึเปล่า?”

เซเลน่าจงใจถามเฟนด์เมื่อเธอเห็นฮัดสันใกล้เข้ามา

เฟนด์พยักหน้า “อืมมม ผมจะไปหาพวกเขาทั้งหมดเลยแล้วกัน ผมยังไม่ค่อยคุ้นเคยกับพวกเขาเท่าไหร่ ผมจะได้ดูด้วยว่า ในกลุ่มพวกเขามีอัจฉริยะปนอยู่รึเปล่า ถ้ามี เราจะได้คุยกับสมาชิกของตระกูลสาขามากขึ้น!”

“คุณจะไปเมื่อไหร่ล่ะ?”

เซเลน
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1103

    “สองต้นงั้นเหรอ?”ลิลลี่ทำหน้าถมึงทึง "ล้อกันเล่นรึเปล่า? ฉันอาจจะเชื่อนะ ถ้านายบอกว่ามันคุ้มกันกับหญ้าวิญญาณขั้นกลางระดับหนึ่ง แต่นี่นายจะบอกว่า มันคุ้มกับหญ้าวิญญาณชั้นยอดระดับหนึ่งงั้นเหรอ สองต้นเลยด้วย! นายรู้บ้างรึเปล่าว่าจริง ๆ แล้วมันมีค่าขนาดไหน?”"ไม่ ไม่ เชื่อผมสิครับ มันคุ้มกับหญ้าวิญญาณชั้นยอดระดับหนึ่งจริง ๆ !"ฮัดสันเอียงหัวไปด้านข้าง"ไม่มีทางน่า อย่างมากก็หญ้าวิญญาณขั้นกลางสองต้นเท่านั้นแหละ!”ลิลลี่เป็นคนดื้อรั้น เธอกอดอก เธอทำหน้าแหยอย่างไม่แยแส"ก็ได้ ผมเข้าใจแล้วว่าคุณไม่อยากจะคว้าโอกาสที่จะฆ่าเฟนด์ไว้ งั้นก็ได้!!”ฮัดสันยิ้มอย่างเยือกเย็น เขามองไปรอบ ๆ ก่อนจะเดินเข้ามาเขารู้ดี ว่านอกจากลิลลี่จะอยากให้ลูกชายของเธอกลับมาแบบมีชีวิตแล้ว เธอก็ยังอยากฆ่าเฟนด์อีกด้วยเขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าลิลลี่จะปฏิเสธความคิดนั้นได้ลง"เดี๋ยว!"ลิลลี่เรียกฮัดสันทันที เมื่อเธอได้ยินว่ามันเป็นโอกาสที่จะฆ่าเฟนด์เธอพลิกฝ่ามือของเธอ ก่อนจะหยิบหญ้าวิญญาณชั้นยอดระดับหนึ่งออกมาสองต้น เธอโยนมันไปทางฮัดสัน "ว่ามา นายมีข่าวอะไร”ฮัดสันเก็บหญ้าวิญญาณไป พลางยิ้ม “ใจกว้างจริง ๆ นายหญิง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1104

    ลิลลี่รีบวิ่งแจ้นไปหาสมาชิกสองคนจากตระกูลลาโกริโอทันที หลังจากดู ๆ สถานการณ์สองคนนี้มาจากตระกูล ลาโกริโอ แต่พวกเขาเป็นผู้พิทักษ์ของตระกูลวู๊ด ที่คอยพึ่งพาพวกเขามาตลอดพวกเขาเป็นคนของลาโกริโอ แต่ด้วยความสัมพันธ์ของนายหญิงลำดับหนึ่ง กับแนช วู๊ด และการที่ตระกูลวู๊ดดูแลพวกเขาอย่างดี พวกเขาเลยทำงานหนักเพื่อตระกูลวู๊ด ทุ่มแรงกายแรงใจในทุกอย่างที่พวกเขาทำ"อะไรนะ? นี่คุณจะบอกให้พวกเราตามนายน้อยเฟนด์ไป แล้วฆ่าเขาอย่างงั้นเหรอ?”ผู้พิทักษ์ทั้งสองอดอุทานออกมาไม่ได้ เมื่อเขารู้สาเหตุที่ลิลลี่มาหาพวกเขาพวกเขาไม่คิดมาก่อนเลยว่าลิลลี่จะสั่งให้พวกเขาทำอะไรแบบนี้“ทำไมล่ะ? อย่าบอกนะว่าพวกนายมีปัญหา? นายทั้งสองคนเป็นนักสู้ที่อยู่ขั้นต้นของเทพแท้จริง คงฆ่าเฟนด์ได้ไม่ยากหรอก”ลิลลี่อึ้งกิมกี่ไปครู่นึง ก่อนจะพูดด้วยรอยยิ้มที่แสนเย็นชา“เราไม่ได้หมายความแบบนั้น!”หญิงสาวคนนึงท่ามกลางพวกเขาทำหน้านิ่มคิ้วขมวด “นายหญฺงลำดับหนึ่ง ถึงนายน้อยเฟนด์จะแย่งตำแหน่งที่ลูกชายของคุณควรจะได้รับ แต่เราก็ไม่ควรฆ่าเขาเพราะเรื่องนี้ไม่ใช่เหรอ? สุดท้ายแล้ว เขาก็เป็นลูกของนายท่าน แถมนายท่านก็สภาพไม่ค่อยดีเท่าไหร่แล้

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1105

    โยลันดาทำได้แค่ถอนหายใจในใจ แต่เธอไม่มีตัวเลือกอื่นนอกจากพยักหน้าเห็นด้วยเท่านั้นทว่า เธอไม่คิดเลยว่าคู่หูของเธอจะตอบรับไปอย่างทันควัน แถมยังส่งยิ้มให้กับนายหญิงลำดับหนึ่งอีก “แต่ว่า คุณน่าจะให้หญ้าวิญญาณกับเราก่อนไม่ใช่เหรอ นายหญิงลำดับหนึ่ง? สุดท้ายแล้ว เราจะทำงานใหญ่ ๆ แบบนี้ให้สำเร็จไม่ได้เลย ถ้าเราพัฒนาไปถึงขั้นกลางของเทพแท้จริง เราก็จะทำตามคำสั่งของคุณได้ดีมากยิ่งขึ้น!”“ปากหวานจริง ๆ เลยนะ!”ลิลลี่กลอกตา ก่อนจะหยิบหญ้าวิญญาณชั้นยอดระดับหนึ่งออกมาสองต้น “ฉันจะให้พวกเธอคนละต้น” เธอพูด “ทำงานเสร็จแล้วมาหาฉัน พวกเธอจะได้มากกว่านี้!”“ขอบคุณค่ะ/ครับ นายหญิงลำดับหนึ่ง!”ทั้งสองคนคำนับเธอทันที หลังจากได้รับหญ้าวิญญาณไม่นานหลังจากนั้น ทั้งคู่ก็ออกมาจากคฤหาสน์ของลิลลี่“จริงที่เฟนด์เก่งมาก แน่มันก็คงน่าเสียดายมาก ๆ ถ้าเขาต้องมาตาย!”หลังจากเดินออกมาได้ไกลพอสมควร ชายหนุ่มคนนั้นก็พูดกับโยลันดา “ทำไมต้องคิดมากด้วยล่ะ? นายหญิงลำดับหนึ่งเป็นนายหญิงของตระกูลนะ ถ้าเราไม่ช่วยเธอแล้วใครจะช่วยล่ะ? ฉันก็คิดนะ ว่าเธอออกจะใจร้ายไปหน่อย แต่ไม่มีทางที่ฉันจะไม่ทำแน่ โลกมันก็เป็นแบบนี้ เฟนด์ก็แ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1106

    เมื่อเธอได้ยินเรื่องทั้งหมด ลิลลี่ก็แสยะยิ้มอย่างรุนแรงเธอโบกมือหลังจากนั้นไม่นาน "ได้ ฉันเข้าใจแล้ว กลับไปตำแหน่งของนายก่อน!”“ครับ นายหญิงลำดับหนึ่ง!”ชายคนนั้นกำหมัดเคารพ ก่อนจะวิ่งลงเขา“ตอนนี้เราทำยังไงดี นายหญิงลำดับหนึ่ง? เขาไปตั้งแต่เมื่อคืน ตอนนี้เราก็ฆ่าเขาไม่ได้แล้ว!”ชายหนุ่มจากตระกูลลาโกริโอยิ้มอย่างขมขื่น “เราคืนหญ้าวิญญาณที่คุณให้เราเมื่อวานนี้ไม่ได้ด้วย” เขาเตือนเธอ “มันเป็นเงินดาวน์!”โยลันดาเองก็ดีใจเช่นกัน ดูเหมือนว่าเธอไม่ต้องทำเรื่องสกปรกนั่นอีกต่อไปแล้วสุดท้ายแล้ว เธอคิดมาตลอดว่าแนชดูแลพวกเขาอย่างดี เธอเลยมีข้อกังขากับการฆ่าลูกชายของเขาเธอไม่คิดเลยว่าลิลลี่จะแสยะยิ้มอย่างชั่วร้ายออกมาแทน “ทำไมไอ้เด็กเวรนั่นถึงรีบขนาดนั้น ออกไปก่อนตั้งเป็นวันแหนะ” เธอพูด “มันคงจะกลัวฉันส่งคนไปตามสินะ ถึงออกไปไวอย่างนั้น!”ลิลลี่หยุด ก่อนจะพูดต่อ “แต่ฉันรู้ว่ามันกำลังไปที่ไหน เพราะงั้นมันหนีไปไหนไม่ได้หรอก!”“คุณรู้เหรอว่าเขากำลังจะไปที่ไหน นายหญิงลำดับหนึ่ง?”ชายหนุ่มจากตระกูลลาโกริโอรู้สึกตกใจ “ดูเหมือนว่าเรายังต้องทำงานต่อสินะ!” เขาพูด พลางยิ้มอย่างขมขื่น“ไอ้เด็กเ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1107

    ลาน่าอดถามเฟนด์ไม่ได้ หลังจากครุ่นคิดก่อนที่เฟนด์จะตอบ อีธานก็พูดขึ้นมาว่า “ถ้าผมเดาไม่ผิด อาจารย์คงอยากจะกินข้าวแล้วก็พักผ่อนที่นี่ แล้วเราค่อยซื้อตั๋วไปเมืองวิญญาณใช่ไหมครับ”เฟนด์พยักหน้า “เราจะซื้อตั๋วในวันพรุ่งนี้หลังจากพักที่นี่สักพัก เมืองวิญญาณเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติ และสมุนไพรหายากมากมาย ฉันอาจจะเจอสิ่งที่ฉันต้องการก็ได้!”"เอาล่ะ เรารีบมากเมื่อวานนี้ วันนี้ก็เลยเหนื่อยกันหน่อย มันจะดีมากถ้าเราจะเริ่มเดินทางกันในวันพรุ่งนี้!"อีธานพยักหน้า พลางยิ้มลาน่ามองไปที่เมืองที่เต็มไปด้วยเสียงจอแจ ถนนที่แออัด และเสียงอึกทึกครึกโครม เธออดที่จะอุทานออกมาไม่ได้ว่า “ฉันเข้าใจแล้วว่าทำไมตระกูลลึกลับอย่างตระกูลวู๊ดถึงเกลียดโลกมนุษย์ สุดท้ายแล้ว ภูเขาทั้งหลายมีจุดของพลังฉีที่หนาแน่น ในขณะเดียวกัน เราไม่ได้พลังฉีในที่ ๆ มีฝุ่นเยอะ อากาศที่นี่โคตรแย่เลย!”"จริง!"เฟนด์อดไม่ได้ที่จะดื่มด่ำไปกับบรรยากาศของภูเขา “ตอนนี้มีที่ที่เหมาะจะฝึกด้วยตัวเองน้อยลงแล้ว ฉันว่ามันคงยากแน่ ๆ ถ้าคนรุ่นต่อไปอยากจะบรรลุระดับเทพแท้จริง สุดท้ายแล้ว มันยากมากที่จะได้หญ้าวิญญาณมา ถ้าธรรมชาติมีฉีไ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1108

    เฟนด์มองไปที่ผู้หญิงที่ยโสโอหังตรงหน้าของเขา เขาถึงกับพูดไม่ออกเธอเป็นคนหาเรื่องก่อนโดยเรียกพวกเขาอย่างติดตลกว่าลุง เขาเลยเอาคืนด้วยการเรียกเธอว่า ‘ป้า’ทุกคนตกใจมาก ผู้หญิงคนนี้อ่อนไหวมาก เมื่อเธอได้ยินคำว่า ‘ป้า’ เธอก็เตะเข้ามาทันทีผู้หญิงคนนี้ใส่รองเท่าส้นสูง และส้นของมันคือส้นเข็ม ถ้าเฟนด์โดนรองเท้านั่นซัดเข้า เขาคง...ส้นสูงนั่นกำลังจะโดนเขา เฟนด์หงายหลังนิดหน่อย ก่อนจะจับเท้าของเธอด้วยมือข้างเดียว ก่อนจะดึงมันเบา ๆ ให้เข้ามาชิดเขา"อ๊า!"สาวสวยทรงตัวไม่อยู่ เธอล้มตัวเข้าไปหาเฟนด์ เท้าอีกข้างของเธอพลิก และส้นสูงของเธอก็พัง“ปล่อยฉันนะ ไอ้เลว!”สาวสวยคนนั้นล้มลงในอ้อมกอดของเฟนด์อย่างนุ่มนวล แก้มของเธอกลายเป็นสีชมพู เธอสบถใส่เฟนด์พลางรู้สึกได้ถึงความร้อนที่แก้มของเธอทันใดนั้นเอง เฟนด์ก็ปล่อยอีกฝ่ายลง ก่อนจะพูดว่า “คุณผู้หญิง จำไว้ว่านี่คือบทเรียนของคุณวันนี้! ส้นสูงนี่คมมาก อย่าไปเตะใครเข้าล่ะในอนาคต!”“เด็กนี่ รู้ไหมว่าฉันคือใคร? ฉันมาจากตระกูลแลนแคสเตอร์ แล้วพ่อของฉันก็จะมารับฉันพร้อมบอดี้การ์ดอีกเพียบ อีกไม่นานเกินรอ! นายกล้าดียังไงมาเอาเปรียบฉัน! วันนี้นายสมควรกินหม

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1109

    เชอร์ลี่ย์กัดฟันแน่น เมื่อเธอเห็นว่าเศรษฐีหนุ่มนั่นกำลังเดินมาหาเธออย่างกระฟัดกระเฟียด เธอเปลี่ยนอารมณ์ทันที “ไม่มีทาง ฉัน เชอร์ลี่ย์ แลนแคสเตอร์ ทำอะไรไม่เคยมาเสียใจทีหลัง นายกล้าบอกชื่อฉันไหมล่ะ?” เชอร์ลี่ย์ตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มอบอุ่นแบบแกล้ง ๆ “เฟนด์ วู๊ด!”เฟนด์ยิ้มอย่างเยือกเย็น ก่อนจะพูดอีกว่า “เฟนด์ วู๊ด คือชื่อของฉัน และฉันก็ภูมิใจในชื่อนี้ด้วย ทำไมจะไม่กล้าบอกล่ะ!”"ก็ดีแล้ว!"สาวสวยยิ้มแห้ง หลังจากสังเหตเห็นว่าเศรษฐีหนุ่มยืนอยู่ตรงหน้าพวกเขา เธอเลยทักทายเขา “สวัสดีนายน้อยนอร์ตัน ไม่เจอกันนานเลยนะ! มาทำอะไรที่นี่ล่ะ? มารอรับใครเหรอ?”เมื่อนายน้อยนอร์ตันเห็นท่าทีสนิทสนมของทั้งสอง เขาก็แสยะยิ้มอย่างกระอักกระอ่วนทันทีหน้าของเขาเศร้าและหม่นหมองมาก เขามองไปที่เชอร์ลี่ย์ก่อนจะพูดว่า “เชอร์ลี่ย์ แลนแคสเตอร์ ไอ้เวรนี่ใคร? เธอเป็นคู่หมั้นของฉันนะ เราหมั้นกันแล้ว! ฉันมารับใครงั้นเหรอ? เธอก็รู้ดีอยู่แล้วไม่ใช่รึไง?”เฟนด์ได้ยินพวกเขาคุยกัน เขาถึงกับพูดไม่ออก เขาไม่คิดเลยว่าเรื่องมันจะเป็นอย่างงี้ เขาไม่คิดเลยว่าไอ้หมอนี่จะเป็นคู่หมั้นของเชอร์ลี่ย์จริง ๆอย่างไรก็ตาม จากที่ดู ๆ แ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1110

    เฟนด์หน้าเหวอทันที เมื่อเขาได้ยินคำพูดของวิลตัน อะไรวะเนี่ย? เขาเพิ่งจะนั่งเครื่องมานานแสนนาน แล้วเพิ่งจะลงจอดที่เมืองวิญญาณ เขาไม่คิดเลยว่าจะต้องมาเล่นละครเรื่องนี้ด้วยตอนแรก เขาคิดว่าแค่ช่วยผู้หญิงที่น่าสงสารคนนี้เท่านั้น แค่แกล้ง ๆ ทำให้แฟนของเธอโมโหจนจากไปไม่คิดเลยว่านายน้อยคนนี้จะขอให้พวกเขาจูบกันตรงหน้าเขาจริง ๆ ไม่งั้นเขาไม่มีทางเชื่อแต่พอลองคิดดูแล้ว เชอร์ลี่ย์ไม่เคยมีแฟนมาก่อนเลย แล้วจู่ ๆ ก็มาพูดว่าตัวเองมีแฟน? สำหรับเฟนด์เองเขาก็ยังไม่เชื่อเลยเชอร์ลี่ย์หน้าแดงก่ำ เธอหน้านิ่วคิ้วขมวดด้วยความโมโห เธอกำลังตกที่นั่งลำบากในตอนนี้อย่างไรก็ตาม เฟนด์จับแขนของเธอ แถมยังใช้แขนที่แข็งแกร่งของเขาโอบเอวเธออีกต่างหาก ถ้าเธอบอกว่าเฟนด์ไม่ใช่แฟนของเธอในตอนนี้ ความพยายามที่แล้ว ๆ มาของเธอก็จะหมดความหมายทันที นอกจากนี้แล้ว เธอห่วงชื่อเสียงและภาพลักษณ์ของเธออย่างมาก และตอนนี้ เธอก็ไม่มีทางให้ถอยแล้วเมื่อมองหน้าที่ว่างเปล่า และหม่นหมองของเชอร์ลี่ย์ วิลตันก็หัวเราะ ก่อนจะพูดกระแนะกระแหนด้วยน้ำเสียงเสียดสีว่า “โอ้? อะไรกัน? ฉันพูดถูกสินะ ฮ่าฮ่าฮ่า! เชอร์ลี่ย์ ฉันไม่ได้โง่นะ เธอมาหลอกฉ

Latest chapter

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2455

    ตราบใดที่มันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการบ่มเพาะโอสถของเขา ทั้งสองคนจะทำอะไรตามต้องการก็ย่อมได้ สิ่งนั้นไม่กระทบอะไรกับเขาเลย“ถึงฉันจะดูแคลนหมอนี่ แต่เขาก็ยังกล้าเสมอ เขาก็คงจะมีความสามารถอยู่บ้าง เขาน่าจะผ่านสองขั้นตอนแรกได้อย่างไม่มีปัญหา” เกรย์สันพูดอย่างชัดเจนรูดี้มองไปที่เกรย์สันด้วยรอยยิ้มเย็นชาบนใบหน้าแล้วตอบว่า "นายดูมั่นใจกับหมอนี่มากเลยนะ ฉันจะคิดว่าทุกครั้งที่เขาพูดก่อนหน้านี้ล้วนเป็นเรื่องไร้สาระทั้งหมด“ฉันคิดว่าเขาอาจจะไปถึงขั้นที่สองก่อนที่เขาจะล้มเหลวโดยสิ้นเชิง! ฉันอยากเห็นจริง ๆ ว่าถ้าล้มเหลวขึ้นมา เด็กสารเลวคนนี้จะสู้หน้าเราได้ยังไง”เกรย์สันสูดหายใจเข้าลึก ๆ เขารู้สึกได้ว่าความโกรธของรูดี้ที่มีต่อเฟนด์นั้นลึกซึ้งกว่าของเขามากดวงตาของรูดี้ลุกเป็นไฟ เห็นได้ชัดว่าเขาเกลียดเฟนด์มากเพียงใดเกรย์สันหัวเราะอย่างเย็นชา "แล้วมาดูกันว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ฉันคิดว่าเขาน่าจะสามารถไปถึงขั้นตอนสุดท้ายได้ ถ้าเขาสามารถควบรวมอักขระทางยาได้ถึงร้อยเม็ดเขาก็น่าจะมาถึงระดับนั้น"หลังจากที่ทั้งสองพูดเรื่องเหล่านั้นออกมา พวกเขาก็ปิดปากเงียบพร้อม ๆ กับการมองดูเฟนด์โดยไม่พูดอะไรพวกเขามอง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2454

    ผู้อาวุโสฮอร์สท์กระแอมเล็กน้อยในขณะที่เขาพูดต่อ “หลังจากที่เธอบ่มเพาะโอสถได้สำเร็จแล้ว ให้นำโอสถมาให้ฉันตรวจสอบ พวกเธอจะมีเวลาในการทดสอบทั้งสิ้นแปดชั่วโมง ถ้าเธอไม่สามารถบ่มเพาะโอสถได้ภายในแปดชั่วโมง ก็จะแปลว่าไม่ผ่านการทดสอบ ดังนั้นอย่าได้ช้าเกินไป”พวกเขาทั้งสามพยักหน้าแทบจะพร้อมกัน หลังจากผู้อาวุโสฮอร์สท์ให้คำแนะนำแล้ว เขาก็จัดให้มีคนงานสองสามคนคอยเป็นคนตรวจ มีผู้ดูแลยืนอยู่ด้านหลังทั้งสามคนเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่ทำอะไรผิดพลาดหลังจากนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็หันกลับมาและไปหาผู้สอบคนอื่น ๆ รูดี้หรี่ตาลง ขณะที่เขาเหลือบมองเฟนด์และพูดว่า "ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการบ่มเพาะโอสถระดับหกคือขั้นตอนสุดท้าย แต่ขั้นตอนแรกก็ไม่ง่ายเช่นกัน ถ้านายรู้ว่าทำไม่ได้ ก็อย่าทำให้ต้องสิ้นเปลืองวัตถุดิบเลย ของพวกนี้ล้วนมีราคาค่างวด ต่อให้นายจะขายตัวเองเป็นทาสก็ยังไม่พอให้ซื้อของพวกนี้!”เฟนด์ถอนหายใจออกเบา ๆ หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาเบื่อเกินกว่าจะอ้าปากพูดด้วยซ้ำ เขาตัดสินใจที่จะเพิกเฉยต่อผู้ชายคนนั้นและทุกสิ่งที่จะออกมาจากปากเขา ถึงโต้ตอบไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรอยู่ดี

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2453

    เกรย์สันหรี่ตาลงขณะที่เขามองเฟนด์ด้วยความโกรธเช่นกัน เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ดูเหมือนว่าวันนี้ นายจะมาที่นี่เพื่อหาเรื่องขายหน้าให้กับตัวเองเท่านั้น"หลังจากพูดจบเกรย์สันก็หันหลังกลับและเงียบไป เสียงความขัดแย้งหยุดลง และทุกคนรอบ ๆ ก็เริ่มกระซิบกระซาบกันผู้อาวุโสฮอร์สท์มองเฟนด์อย่างมีความหมาย ราวกับว่าเขามองเฟนด์ในมุมมองที่ต่างออกไป ทันใดนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็อยากรู้เรื่องของเฟนด์อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ในขณะนั้นเขาไม่อาจพูดอะไรออกมาได้เมื่อเขาเห็นว่าทุกคนได้จับกลุ่มกันเรียบร้อยแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็โบกมือแล้วพูดว่า "มากับฉัน!"ทุกคนติดตามผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปเป็นกลุ่ม ๆ ผู้อาวุโสฮอร์สท์เข้าไปในเรือวิญญาณ ภายในเรือเต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังรีบร้อนพวกเขาเดินตามหลังผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปอย่างใกล้ชิด เดินลัดเลาะไปตามทางก่อนจะมาถึงห้องกว้างขวางในที่สุด ห้องกว้างขวางมากจนเรียกได้ว่าห้องโถงเลยทีเดียวทันทีที่พวกเขาก้าวเข้าไปในห้อง ทุกคนก็สามารถสัมผัสได้ถึงรังสีของโอสถที่หนาแน่นรอบ ๆ บรรยากาศ พื้นที่ในห้องนี้ใหญ่เกินพอสำหรับพวกเขาแปดสิบคนเฟนด์ประเมินสถานการณ์เล็กน้อย ห้องนี้ใหญ่พอที่จะรองรับคน

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2452

    พวกเขาถาโถมข้อกล่าวหาและดูหมิ่นมามากเกินไป ถึงเขาจะไม่อยากโต้เถียงกับคนพวกนี้ แต่เขาก็ยังถูกบังคับให้ต้องเงยหน้าขึ้นมาอย่างช้า ๆ อยู่วันยันค่ำเขามองเข้าไปในดวงตาของรูดี้ซึ่งเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน ราวกับเขาเป็นเพียงแมลงในสายตาของรูดี้เฟนด์หัวเราะอย่างเย็นชา “แล้วนายได้ยินเสียงสุนัขที่เห่าดังที่สุดแล้วหรือยังล่ะ?”คำพูดเหล่านั้นสามารถเยาะเย้ยทุกคนที่นั่นได้สำเร็จ เขาเปรียบเทียบกิลเบิร์ตกับสุนัขและเย้ยหยันทุกคนที่ฟังสุนัขตัวนั้นเห่า มันทำให้การแสดงออกบนใบหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปกิลเบิร์ตเกือบจะลืมความโกรธของตัวเองไปแล้ว เขาไม่อยากจะเชื่ออะไรด้วยซ้ำว่าเฟนด์จะสามารถขจัดคำดูถูกดูแคลนทั้งหมดลงได้ แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้นกิลเบิร์ตหันกลับมาจ้องมองเฟนด์ด้วยใบหน้าแดงก่ำจากความโกรธเขาอยากจะตะโกนกลับแต่ถูกรองเหรัญญิกปรามไว้ "ดูเหมือนว่านายจะไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบแล้วสินะ!"ประโยคนั้นเพียงประโยคเดียวก็ทำให้กิลเบิร์ตไม่อาจพูดอะไรออกมาได้อีก กิลเบิร์ตตระหนักได้แล้วว่าเขาได้ทำให้รองเหรัญญิกขุ่นเคืองอย่างหนักหากเขายังคงยืนกรานที่จะต่อปากต่อคำกับเฟนด์ รองเหรัญญิกอาจจะดึงเขาออกไปจริง ๆ แล้วเขาจะ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2451

    “สมองหมอนั่นจะต้องมีอะไรผิดปกติจริง ๆ นั่นแหละ เขาคิดจริง ๆ หรือว่าเขาอยู่ในระดับเดียวกับอีกสองคนที่อยู่ตรงหน้าเขา แค่เพราะไปยืนอยู่กลุ่มเดียวกัน? นั่นน่าจะตลกมากเกินไปหน่อยนะ…”“ฉันนึกว่าการทดสอบจะเข้มงวดและจริงจังเสียอีก ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะได้เห็นอะไรแบบนี้ ทำเอาฉันขำจนปวดท้องเลยล่ะ…”แอนดรูว์ขมวดคิ้วอย่างรู้สึกอับอาย รองเหรัญญิกโกรธจนตัวสั่นหลังจากได้ยินคำพูดของกิลเบิร์ต เขานึกอยากจะพุ่งตัวไปไปตบกิลเบิร์ตสักสองสามครั้งกิลเบิร์ตเพิกเฉยต่อชื่อเสียงของวิมานโอสถอย่างเห็นแก่ตัวที่สุด พวกเขาแทบอยากจะมุดดินหนี ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นี่จะเป็นความอัปยศอดสูที่วิมานโอสถไม่อาจจำกัดทิ้งได้รองเหรัญญิกตะโกนออกไปว่า "หุบปากเดี๋ยวนี้! นายกำลังพูดเรื่องบ้าอะไร ถ้าไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบ ก็ไสหัวไปซะ!"รองเหรัญญิกโกรธมาก ขณะที่เขาพูดเช่นนั้น สีหน้าของเขาดูอดสูอย่างไม่น่าเชื่อ เขายังคิดจะฆ่ากิลเบิร์ตให้ตายเสียเดี๋ยวนี้ เมื่อถูกตำหนิเช่นนั้นก็ทำให้กิลเบิร์ตตระหนักได้ว่าเขาพูดผิดไปถึงกระนั้นก็ไม่มีทางที่เขาจะถอนคำพูดเหล่านั้นกลับคืนมา เขากระแอมเบา ๆ ก่อนที่จะรีบหันศีรษะไปซ้ายทีขวาที อย่างไม่กล้

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2450

    ไม่มีใครรู้ดีไปกว่ารองเหรัญญิกว่าโอสถระดับหกหมายถึงสิ่งใด ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา วิมานโอสถรับบัณฑิตมาจำนวนนับไม่ถ้วน แต่มีไม่มากนักที่จะได้กลายเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุระดับหกจริง ๆคอนสแตนซ์ยิ้มอย่างมีความหมายขณะที่เขาเอ่ยถาม "รองเหรัญญิกคนนี้มีความสามารถหลากหลายจริง ๆ ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าวิมานโอสถจะมีอัจฉริยะกับเขาด้วย ผมไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลย"ริมฝีปากของรองเหรัญญิกกระตุก เขาต้องการอธิบายตัวเอง แต่ถ้าเขาบอกว่าเฟนด์ไม่สามารถสกัดโอสถระดับหกได้ และมีเพียงพรสวรรค์ในการสร้างอักขระทางยาเท่านั้น มันคงจะกลายเป็นเรื่องตลกครั้งใหญ่ และทุกคนคงจะหัวเราะเยาะวิมานโอสถเป็นแน่แต่ถ้าเขายังคงดื้อรั้นต่อไป พอถึงเวลาต้องบ่มเพาะโอสถ เฟนด์ก็จะเปิดเผยความจริงข้อนั้นออกมา เมื่อนั้นความอัปยศอดสูก็จะยิ่งหนักข้อขึ้นเขาถึงกับมือสั่น ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยรู้สึกเหมือนตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้มาก่อน เขารู้สึกเหมือนกำลังถูกกักขังอยู่ในกำแพงอีกสองด้าน ทุกคนคิดว่ารองเหรัญญิกกำลังวางแผนที่จะใช้ความเงียบเพื่อตอบคำถามเมื่อเห็นกับตาว่ารองเหรัญญิกไม่ตอบอะไรออกมาแต่ทว่าคอนสแตนซ์คล้ายกับจะไม่เ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2449

    เฟนด์เป็นคนเดียวที่ยังคงยืนอยู่ ขณะนั้นเขาดูคล้ายกับกำลังลังเลและดูเหมือนกำลังรออะไรบางอย่างอยู่ ขณะที่รองเหรัญญิกพูดจบ ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็จ้องมองมาอย่างอยากรู้อยากเห็นแม้ว่าดวงตาของเขาจะดูเป็นประกายมากขนาดไหน แต่เฟนด์ก็ยังคงรู้สึกถึงความเฉียบคมภายใน ราวกับว่าเขาจะถูกตัดสิทธิ์หากเขาไม่ขยับริมฝีปากของเฟนด์กระตุกอย่างช่วยไม่ได้ เขารีรอต่อไปไม่ได้แล้ว จึงได้แต่เดินไปยังพื้นที่ที่เขาวางแผนไว้ก่อนหน้านี้ในตอนแรกเฟนด์ไม่ได้ดึงดูดความสนใจใครมากนัก เขาอาจจะเป็นคนสุดท้ายที่ปรากฏตัวขึ้น ไม่มีใครจำเขาได้ ต่อให้เขาจะมาจากวิมานโอสถ แต่นอกจากคนที่เคยพบเขาแล้ว ก็ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใครขณะที่เขาเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกต่อไป ทุกคนก็เริ่มจ้องมองไปที่เขา ใบหน้าของรองเหรัญญิกก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นบูดบึ้งเมื่อเขาสังเกตเห็นว่าเฟนด์กำลังมุ่งหน้าไปทางใด“ผู้ชายคนนั้นคิดจะไปต่อหลังรูดี้หรือเปล่า? เขาคิดจะพิสูจน์ตัวเองด้วยการกลั่นโอสถระดับหกด้วยหรือ?”“ก็คงเป็นแบบนั้น เว้นแต่เขาจะเป็นคนโง่เง่าที่ไม่ทันได้ฟังกฎการตัดสินให้ดี ไม่งั้นคงไม่เดินไปแบบนั้นหรอก เขาเป็นใคร ทำไมฉันไม่เคยได้ยินอะไรเกี่ยวกับเขาเลย

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2448

    กิลเบิร์ตทำท่าราวกับกลืนแมลงวันเข้าไปสองสามตัว เขาคาดหวังว่ารองเหรัญญิกจะพูดคำเหล่านั้นกับเขาเสียอีก แต่กลับกลายเป็นว่ารองเหรัญญิกไม่ละสายตามามองเขาเลยแม้แต่วินาทีเดียวรองเหรัญญิกฝากความหวังทั้งหมดไว้กับเฟนด์ราวกับว่ากิลเบิร์ตและแอนดรูว์มาที่นี่เพื่อเพิ่มจำนวนคนเท่านั้นแอนดรูว์มีสีหน้าขมขื่นเช่นกัน ในอดีตเขาขัดแย้งกับกิลเบิร์ตมามากมาย และความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ไม่อาจพัฒนาไปในทางที่ดีได้แต่ต้องขอบคุณเฟนด์ที่ทำให้เขาสามารถวางเฉยต่อความแค้นทั้งหมดที่เคยมีได้แอนดรูว์พูดด้วยใบหน้าที่มืดมน “รองเหรัญญิก ดูเหมือนคุณจะฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่เฟนด์เลยนะ“แต่คุณก็น่าจะเตือนเฟนด์สักหน่อยว่าต่อให้เขาจะมีพรสวรรค์ค่อนข้างดี แต่ก็ไม่ควรหยิ่งผยองเกินไป”แอนดรูว์โกรธมากในขณะนั้นและอดไม่ได้จริง ๆ ที่จะต้องเอ่ยคำดูแคลนที่สุดเช่นนั้นออกมากิลเบิร์ตกล่าวเสริมอย่างรีบร้อนทันที “แอนดรูว์พูดถูก แม้ว่าพรสวรรค์ของเฟนด์จะค่อนข้างดี แต่เขาก็ไม่ควรหยิ่งผยองนัก คำพูดพวกนั้นไม่ได้ช่วยอะไรเลยสักนิด”เฟนด์ถึงกับพูดไม่ออกเมื่อถูกคนทั้งสองเหยียบย่ำ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเฟนด์ไม่ได้เอ่ยปากเลยสักคำ แล้วเขาจะเอาเวลา

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2447

    ในตอนแรก คอนสแตนซ์และซีนย์เพียงยืนเคียงข้างกันโดยไม่สนใจเรื่องนี้ พวกเขาต้องการปล่อยให้สถานการณ์ดำเนินต่อไปอย่างที่ควรจะเป็น แต่เมื่อว่าเกรย์สันและรูดี้เริ่มเถียงกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งสองคนก็ถูกบีบให้ต้องทำอะไรสักอย่างพวกเขาถูกบีบให้ต้องแยกรูดี้และเกรย์สันออกจากกัน นั่นก็เพราะ การทะเลาะกันของเด็ก ๆ ควรจะมีขีดจำกัด เพราะหากมันเกินขีดจำกัดไปแล้ว นั่นจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของพวกเขา นี่คือสิ่งที่รูดี้และเกรย์สันเองก็ไม่อยากเห็นเป็นเวลาเกือบสิบห้านาทีแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์นั่งบนเก้าอี้ ขณะมองดูการทะเลาะวิวาทและการพูดคุยกันอย่างเฉยเมย เมื่อหมดเวลาเขาก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้เสียงปรบมือดังขึ้นตอนที่เขาจะพูดว่า "เอาล่ะ หมดเวลาแล้ว ทุกคนต้องตัดสินใจได้แล้วว่าจะพิสูจน์ความสามารถของตัวเองยังไง”“ฉันไม่คิดว่าฉันจะต้องบอกอะไรพวกนายทุกอย่างหรอกนะ ตอนนี้ก็แยกออกเป็นกลุ่มเสีย ผู้ที่ต้องการรวมอักขระทางยาจะยืนอยู่ทางทิศตะวันออก“ผู้ที่ต้องการแยกแยะวัสดุสามารถยืนอยู่ตรงกลางได้เลย และหากจะพิสูจน์ตัวเองด้วยกันบ่มเพาะโอสถให้ไปยืนที่ทางทิศตะวันตก“ถึงอย่างนั้นฉันก็ต้องขอเตือนทุกคนก่อน หากทุกคนต้องการ

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status