Share

บทที่ 1089

Auteur: โมเนโต้
แนชขมวดคิ้วอย่างครุ่นคิด

เวลาผ่านไปนานกว่าเขาจะตอบในที่สุด "ก็ดีนะเฟนด์ แต่มันอันตรายเกินไป ตอนที่เราให้รับผิดชอบแก่ผู้อาวุโสคนอื่น ๆ มันเท่ากับว่าเรารู้ว่าลิลลี่และคนอื่น ๆ แอบยักยอกทรัพยากรบ่มเพาะไป 70 ถึง 80 เปอร์เซ็นต์จากตระกูลสาขา ถ้าผู้อาวุโสคนอื่น ๆ รู้เข้า เราจะทำเป็นไม่สนใจไม่ได้"

แนชหยุดครู่หนึ่งก่อนพูดต่อ "เมื่อผู้อาวุโสจากตระกูลหลักรู้เรื่องนี้เข้า ก็จะมีความวุ่นวายเกิดขึ้น เราจะอยู่ในสงครามกัน!"

"อ่า!"

เฟนด์ถอนหายใจ เขาคิดก่อนพูดว่า "แล้วทำไมไม่ให้ผมไปบอกสิ่งที่พ่อพูดกับตระกูลสาขาล่ะ? ผมจะให้เขาพักหนึ่งหรือสองเดือน เราจะเปลี่ยนเป็น 50 เปอร์เซ็นต์ตอนที่พ่อดีขึ้น แต่ผมมีความคิดดี ๆ ที่มีประโยชน์กับตระกูลสาขา!"

"เหรอ? ว่ามาเลย!"

แนชยินดีเมื่อได้ยินเช่นนั้น เขาชื่นชมในความฉลาดและความสามารถที่เฟนด์สงบสติอารมณ์ได้ดี เขาเชื่อว่าตระกูลวู๊ดจะเจริญรุ่งเรืองถ้าเฟนด์ได้เป็นนายท่านแล้ว

"ผู้นำของตระกูลสาขาทุกคนบอกว่าสมาชิกพวกเขาเก่งด้านต่อสู้มาก แต่น่าเสียดายที่ไม่มีทรัพยากรเพียงพอ พวกเขาจึงไม่ค่อยก้าวหน้าเท่าไหร่!"

เฟนด์ยิ้มแล้วนั่งลง "เราให้ตระกูลสาขาเลือกคนหนุ่มมาสองสามคนที่พ
Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application
Chapitre verrouillé

Related chapter

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1090

    "พ่อพักผ่อนก่อนสิ ผมจะกลับก่อน!"เฟนด์พยักหน้าและเดินออกไป"เอาล่ะ ลูกฉันโตแล้วจริง ๆ เป็นผู้ใหญ่แล้วอีกด้วย มากกว่าแลนซ์อีก!"หลังจากที่เฟนด์ออกไป แนชก็นอนลงบนเตียง มีความขอบคุณอยู่บนใบหน้าของเขาเช้าวันต่อมา สมาชิกตระกูลสาขาที่นอนค้างคืนเริ่มเดินทางกลับทุกอย่างดูปกติแต่ไม่มีใครคิดว่าฮัดสันที่กำลังคุยอยู่กับลูกสาวสองคนของตระกูลวู๊ดในศาลา จะสังเกตเห็นแลนเซล็อตกำลังมุ่งหน้าไปบ้านเฟนด์"แปลกนะ ทำไมเขาต้องไปบ้านเฟนด์ด้วย? สมาชิกตระกูลสาขาที่เหลือกลับไปแล้ว ทำไมเขายังไม่ไปอีก? ทำไมไปหาเฟนด์แทนล่ะ?"ฮัดสันขมวดคิ้วขณะจ้องไปที่แผ่นหลังของแลนเซล็อต มีความสงสัยอยู่บนใบหน้าของเขาเมื่อวานเขากระอักกระอ่วนใจมาก อยากจะฆ่าเฟนด์แต่แตะต้องไม่ได้แม้แต่ปลายนิ้วก่อนที่เขาจะถูกกำจัดไปเขาคิดว่าเฟนด์จะเป็นคู่แข่งคนสุดท้ายในโลกด้วยซ้ำที่จะได้ชนะเป็นแชมป์ และได้เป็นทายาทตระกูลวู๊ด"เฮ้ ใครจะรู้ล่ะ? ต้องไปเลียเท้าเฟนด์แน่ ๆ ตอนนี้เขาก็ได้เป็นทายาทแล้ว ทุกคนก็รู้ว่านายท่านจะอยู่ได้อีกไม่นานหลังจากเป็นโรคประหลาดนั่น เฟนด์ก็จะได้กลายเป็นนายน้อย คนมากมายต้องอยากประจบเขาแน่!"ผู้หญิงสวมชุดม่วงพูดด้วย

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1091

    แลนเซล็อตทักทายเฟนด์ด้วยการโบกมือขณะเดินเข้าไปหา"นั่งก่อนสิ!"เฟนด์ยิ้มให้และให้แลนเซล็อตนั่งลง "ผมไปคุยกับพ่อมาแล้วเรื่องปัญหาที่เกิดขึ้น" เขาพูดอย่างช้า ๆ "เราจัดประชุมเพื่อสนทนากันเรื่องเพิ่มภาษีสำหรับทรัพยากรการฝึก"เฟนด์หยุดก่อนพูดต่อ "แต่เราได้เพิ่มไปครั้งเดียว จาก 50 เป็น 60 เปอร์เซ็นต์ และเราไม่ได้ขอเพิ่มอีก นั่นก็ชัดเจนเลยว่าผู้อาวุโสและนายหญิงคบคิดกันที่จะใช้ทรัพยากรที่คุณให้มา!""ผมไม่คิดเลยว่าเขาจะเอาไปใช้เอง!"แม้จะสงสัยมานานแล้วว่าเป็นเช่นนี้ แต่แลนเซล็อตก็ยังตกใจหลังจากที่เฟนด์ยืนยันมา และความโกรธก็ประกายขึ้นมาในตัวเขา"แล้วนายท่านอยากให้เราทำยังไง?"ในตอนท้าย แลนเซล็อตก็จ้องเฟนด์อย่างหนัก เขารู้ดีว่าแม้เราจะรู้เรื่องนี้แต่การจะแก้ไขมันก็ไม่ง่ายนอกจากนี้ นายท่านก็ยังป่วยด้วยโรคประหลาด เป็นไปได้ว่ามีคนอยากได้ตำแหน่งเขาเฟนด์คือทายาทคนปัจจุบัน แต่ก็ยังเด็ก และไม่ชำนาญ มันคงยากหากผู้อาวุโสลำดับสามอยากจะก่อกบฏในตอนนี้เฟนด์กลับมามองและยกถ้วยขึ้นจิบ "เขาบอกให้คุณรอสักพักก่อน และกระจายข่าวนี้ไปให้หัวหน้าตระกูลสาขารู้อย่างลับ ๆ" เฟนด์พูด "สถานการณ์ตอนนี้มันซับซ้อน ผ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1092

    "เฮ้ ลุกก่อน คุณสุภาพเกินไปแล้ว!"เฟนด์ดึงชายตรงหน้าลุกขึ้น "เอาล่ะ ออกไปได้แล้วล่ะ ทุกคนรอข่าวอยู่" เฟนด์พูด "และคุณยังอยู่ที่นี่นานมันจะไม่ดีถ้ามีใครมาเห็นเข้า!""ตกลง ผมจะไปบอกข่าวดีกับทุกคน!"แลนเซล็อคประกาศอย่างตื่นเต้น"อย่าลืมบอกให้พวกเขาเก็บไว้เป็นความลับด้วย ไม่ต้องห่วง เราอาจจะจัดการกับลิลลี่และผู้อาวุโสลำดับสามในตอนนี้ไม่ได้ แต่ผมแน่ใจว่าพ่อจัดการเรื่องนี้ได้ในที่ประชุม!"เฟนด์เตือนหลังจากคิดอยู่พักหนึ่งแลนเซล็อตออกไปอย่างเร็วและมีความสุขเชิงเขาที่อยู่ไม่ไกลจากคฤหาสน์ตระกูลวู๊ดมากนัก หัวหน้าและผู้อาวุโสของตระกูลสาขาที่แสร้งทำเป็นกลับมากำลังมารวมตัวกัน"อ่า ฉันสงสัยว่าแลนเซล็อตจะมีข่าวดีมาให้เราหรือเปล่า!"แชด วู๊ด ที่มีผมขาวเป็นกระจุกอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ"เฮ้ ไม่ต้องห่วง จะไม่มีข่าวร้ายมาแน่นอน เฟนด์เป็นคนดี แต่เพิ่งมาร่วมกับตระกูลวู๊ดอย่างเป็นทางการ และก็ได้เป็นทายาท ฉันว่าหลายคนไม่เคารพเขา แต่เขาก็เต็มใจช่วยเรา แต่ก็อาจจะไม่เป็นอิสระ!"ชายกลางคนอีกคนหัวเราะ "ดีแล้วที่เขาจะได้พูดความคับข้องใจกับนายท่านได้" เขาพูด "แต่ฉันว่ามันไม่มีประโยชน์แม้จะบอกนายท่านไปแล้ว

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1093

    ชายกลางคนยิ้มขมขื่นและถามอย่างช่วยไม่ได้แลนเซล็อตมองไปที่ฝูงชนและพูดว่า "นายท่านวู๊ดบอกมาอย่างชัดเจนแล้วว่าเขาจะจัดการเรื่องนี้ แต่ไม่ใช่ตอนนี้ ให้อดทนรออีกสองสามเดือน!""อีกสองสามเดือน? เราจะต้องทนกับเรื่องนี้อีกนานแค่ไหน? ถ้าเขาทำอะไรไม่ได้ตอนนี้ แล้วอีกสองสามเดือนจะทำได้เหรอ? และฉันคิดว่าร่างเขาคงจะแข็งทื่อไปแล้วในสามเดือนหลังจากนี้ เขากำลังจะตายตอนนั้น! เมื่อถึงตอนนั้น เขาก็จะได้ 'พักผ่อน' และไม่สนใจอะไรเลย!" ชายวัยกลางคนมีแต่ความปั่นป่วนในท้องและหงุดหงิด เขาโวยวายอย่างประชดประชัน "เราอดทนมานานแล้ว จะต้องทนไปอีกนานแค่ไหน! เห็นไหม? ที่ฉันเคยพูดไว้ แม้ว่านายท่านวู๊ดจะรู้เรื่องนี้ ก็ทำอะไรไม่ได้เลย! กลับกลอกอะไรขนาดนี้!""เมสัน นายจะโยนความผิดไปที่แนชไม่ได้นะ เขาไม่ได้อยากให้เรื่องนี้เกิดขึ้น สุดท้าย คนที่ร้ายที่สุดก็คือผู้อาวุโสลำดับสามและลิลลี่ นายท่านวู๊ดต้องหาหลักฐานให้แน่นอนก่อนที่จะทำอะไรได้!" แม้ว่าแชดจะผิดหวังกับวิธีนี้ แต่ก็ยังเข้าข้างแนชและปลอบเมสัน แลนเซล็อตพูดอย่างสนับสนุน "ทุกคนใจเย็น ๆ ก่อน เรารู้ดีว่าเรื่องนี้มันยาก แต่เราก็ได้ข่าวดีมาเหมือนกัน เฟนด์คุยกับนายท

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1094

    ตอนเที่ยง แนชก็เรียกประชุมแผนการใหม่ที่พูดถึงก่อนหน้านี้นำขึ้นในที่ประชุม และผู้เข้าร่วมประชุมส่วนใหญ่ก็เห็นด้วย ลิลลี่ ผู้อาวุโสลำดับสามและผู้อาวุโสอีกสองคนค่อนข้างไม่เห็นด้วย แต่สมาชิกส่วนใหญ่เห็นด้วยว่า ตระกูลสาขาได้ให้ช่วยเหลือไว้อย่างลบล้างไม่ได้ในตลอดหลายปีที่ผ่านมา พวกเขาจึงอนุมัตินโยบายใหม่ ลิลลี่กับพรรคพวกก็ทำอะไรไม่ได้แม้ว่าจะไม่เห็นด้วยก็ตาม หลังจากกำหนดนโยบายใหม่แล้ว เรื่องต่าง ๆ ก็ส่งไปหาเฟนด์เพื่อจัดการ เบธและยูลเป็นคนช่วยเฟนด์ในเรื่องนี้ ลิลลี่กับผู้อาวุโสลำดับสามออกจากห้องประชุมไปอย่างหงุดหงิด พวกเขาวิ่งเข้าหาฮัดสัน ที่กำลังเดินกลับคฤหาสน์ พวกเขาคุยกันอย่างดุเดือดจนฮัดสันปรากฏ "สวัสดี นายหญิงคนแรก! สวัสดี ผู้อาวุโสลำดับสาม!" ฮัดสันทักทายลิลลี่และผู้อาวุโสลำดับสามด้วยรอยยิ้มกว้างบนใบหน้า หลังจากทักทายแล้ว เมื่อจะเดินต่อ เขาก็นึกอะไรออก จากนั้นก็ตะโกนกับลิลลี่และผู้อาวุโสลำดับสามทันที "จริงสิ! ผู้อาวุโสลำดับสาม มีบางอย่างที่ผมไม่รู้ว่าจะแจ้งพวกคุณดีหรือไม่!" "อะไรน่ะ?" ผู้อาวุโสลำดับสามมองฮัดสันอย่างสงสัยและถาม "อืมมมม...ผมเห็นแลนเซล็อต หัวหน้าตระกูล

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1095

    ลิลลี่และเวดคิดว่าตอนที่ฮัดสันได้ยินสิ่งที่ปู่ทำกับตระกูลหลักเขาจะตัวสั่นด้วยความโกรธพวกเขาไม่คาดหวังอะไรนัก ดวงตาฮัดสันเป็นประกายเมื่อได้ยินความคิดใหม่ ๆ และยิ้มอย่างมีความสุข "เยี่ยมไปเลยนี่? ความจริง การเข้าป่าหาทรัพยากรก็เหมือนกับการล่าขุมทรัพย์ น่าตื่นเต้นสุด ๆ ไปเลย! ผมดีใจกับความคิดนี้นะ โดยเฉพาะเมื่อคุณต้องอยู่แต่บ้านเพื่อฝึกแล้วก็ฝึก มันน่าเบื่อ! ผมเลยอยากเข้าป่าเพื่อไปสำรวจโลกบ้าง ผม ฮัดสัน วู๊ด ไม่กลัวตาย ถ้าอยากจะแข็งแกร่งขึ้น ผมก็ควรพร้อมรับมือกับความท้าทาย..." ใบหน้าของลิลลี่และเวดแหยเกทันทีที่ได้ยิน พวกเขาพูดไม่ออก"เอาล่ะ! นายหญิงคนแรกและผู้อาวุโสที่สาม ผมไปก่อนล่ะ! การปล่อยให้สมาชิกตระกูลสาขามาฝึกที่นี่นั้นผมไม่พอใจแน่นอน แต่การส่งเราไปป่าเพื่อหาทรัพยากรเป็นเรื่องที่ผมว่ามันน่าสนใจนะ และผมก็ชอบแบบนั้น!" "ผมอยากไปพักผ่อนนานแล้ว!" ฮัดสันเดินออกไปขณะพูดเสียงดัง "ไอ้บ้านั่นมันคิดอะไรอยู่? เห็นด้วยกับนโยบายใหม่ได้ยังไง?" หน้าลิลลี่นิ่งลงเมื่อเห็นแผ่นหลังฮัดสันเดินออกไปมากขึ้น "เฮ้อ! เทพีแห่งความโชคดีไม่ได้อยู่ข้างฉัน! ทำไมทุกอย่างไม่เป็นไปได้ด้วยดีนะ? แล้วเรื่องล

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1096

    ลิลลี่สงบสติลง ก่อนจะครุ่นคิดกับเรื่องนั้น “ไม่น่าจะเป็นไปได้นะ ที่แนชจะรู้เรื่อง ถ้าเขารู้ เขาคงพูดอะไรบ้างแล้วในที่ประชุม อาจจะทุบโต๊ะหรืออะไรสักอย่าง แต่วันนี้เขาดูยิ้มแย้มแจ่มใสตลอดในที่ประชุม ฉันว่าเขาน่าจะยังไม่รู้เรื่องหรอก!” ลิลลี่ส่ายหน้าก่อนจะพูดออกมาเวดถอนหายใจเฮือกใหญ่ด้วยความโล่งอก เมื่อเขาได้ยินลิลลี่พูด "คุณพูดถูก ถ้าแนชรู้เรื่องขึ้นมา เขาคงสติแตกไปนานแล้ว อีกอย่างนะ แลนเซล็อตในฐานะหัวหน้าของตระกูลสาขาน่ะนะ เขาไม่ใช่คนกล้าบ้าบิ่นอะไรเลย ทุกครั้งที่ผมไปเก็บทรัพยากรที่เขา เขาจะทักทายผมด้วยสีหน้ายิ้มแย้มตลอด แถมเตรียมอาหารกับไวน์ไว้ดูแลผมอีก คนแบบนี้คงไม่กล้าพูดอะไรออกมาหรอก ถ้าเขาไม่อยากตาย!”“อืม… ดูจากสถานการณ์แล้ว ผมว่านะ แลนเซล็อตคงอยากสู้เพื่อผลประโยชน์อะไรสักอย่างเพื่อคนในตระกูลสาขาของเขานั่นแหละ นอกจากนี้แล้ว ผมว่าเขาคงไม่มีปัญหาอะไรกับเราหรอก!”เวดหัวเราะ ก่อนจะพูดขึ้นมาอีกว่า “ไอ้สารเลวเฟนด์ ผมว่าเขาไม่กล้ายุ่งกับตระกูลหลักหรอก เขาค่อนข้างฉลาดเลยนี่ ใช่ไหม? ถ้าเขาไม่ได้โง่ ไม่มีทางเป็นไปได้เลยที่เขาจะจากตระกูลวู๊ดไป อีกอย่าง พ่อของเขาก็กำลังจะตาย เพราะงั้น เข

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1097

    ทว่า เมื่อเวลาผ่านไป เธอก็เริ่มรู้สึกเสียวแปล๊บไปทั้งตัว ราวกับมดหลายพันตัวกำลังไต่ไปทั่วร่างกาย และกัดผิวหนังอันบอบบางของเธอ เธอรู้สึกมากขึ้นเรื่อย ๆ เธอไม่รู้สึกเสียวซ่านอีกต่อไป แต่เธอรู้สึกถึงความทรมานที่เข้ามาแทนที่เพียงครู่เดียวเท่านั้น เหงื่อมากมายก็ปรากฏขึ้นบนหน้าผากของเธอจนเป็นประกายแวววาว แล้วไหลลงมาบนหน้าที่แสนงดงามของเธออย่างไม่หยุดหย่อน เธอกำหมัด กัดฟันแน่น เธอพยายามอดทน“เอ๊ะ? ทำไมถึงมีน้ำมันดำ ๆ ไหลออกมาจากตัวฉันล่ะ? เหม็นมากเลย ฉันจะเป็นอะไรรึเปล่า?”ไม่นานนัก เซเลน่าก็พบว่าแขนของเธอมีของเหลวสีดำไหลเยิ้มออกมา มันขยะแขยง และน่าสะอิดสะเอียนมาก“ไม่ต้องห่วงนะ มันเป็นเรื่องปกติ น้ำพวกนี้มันคือสิ่งแปลกปลอมที่อยู่ในร่างกายของคุณ เหมือนสารพิษอะไรสักอย่าง หญ้าวิญญาณจะเป็นตัวขับให้มันออกมา พอมันออกมาหมดแล้ว คุณก็จะรู้สึกดีขึ้น ต่อจากนี้คุณก็จะไม่เจ็บป่วยง่าย ๆ อีกต่อไป!”เฟนด์หัวเราะ ก่อนจะพูดต่อว่า “งั้น คุณคิดว่าผมเตรียมน้ำไว้สองถังเพื่ออะไรล่ะ? พอคุณทำสปาหญ้าวิญญาณเสร็จแล้ว คุณก็ไปแช่น้ำอีกถังนึง ขัดผิวทั้งตัวให้สะอาด!”"อ่า!"เธอรู้สึกทรมานมากขึ้นเรื่อย ๆ จนทำให้เธ

Latest chapter

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2455

    ตราบใดที่มันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการบ่มเพาะโอสถของเขา ทั้งสองคนจะทำอะไรตามต้องการก็ย่อมได้ สิ่งนั้นไม่กระทบอะไรกับเขาเลย“ถึงฉันจะดูแคลนหมอนี่ แต่เขาก็ยังกล้าเสมอ เขาก็คงจะมีความสามารถอยู่บ้าง เขาน่าจะผ่านสองขั้นตอนแรกได้อย่างไม่มีปัญหา” เกรย์สันพูดอย่างชัดเจนรูดี้มองไปที่เกรย์สันด้วยรอยยิ้มเย็นชาบนใบหน้าแล้วตอบว่า "นายดูมั่นใจกับหมอนี่มากเลยนะ ฉันจะคิดว่าทุกครั้งที่เขาพูดก่อนหน้านี้ล้วนเป็นเรื่องไร้สาระทั้งหมด“ฉันคิดว่าเขาอาจจะไปถึงขั้นที่สองก่อนที่เขาจะล้มเหลวโดยสิ้นเชิง! ฉันอยากเห็นจริง ๆ ว่าถ้าล้มเหลวขึ้นมา เด็กสารเลวคนนี้จะสู้หน้าเราได้ยังไง”เกรย์สันสูดหายใจเข้าลึก ๆ เขารู้สึกได้ว่าความโกรธของรูดี้ที่มีต่อเฟนด์นั้นลึกซึ้งกว่าของเขามากดวงตาของรูดี้ลุกเป็นไฟ เห็นได้ชัดว่าเขาเกลียดเฟนด์มากเพียงใดเกรย์สันหัวเราะอย่างเย็นชา "แล้วมาดูกันว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ฉันคิดว่าเขาน่าจะสามารถไปถึงขั้นตอนสุดท้ายได้ ถ้าเขาสามารถควบรวมอักขระทางยาได้ถึงร้อยเม็ดเขาก็น่าจะมาถึงระดับนั้น"หลังจากที่ทั้งสองพูดเรื่องเหล่านั้นออกมา พวกเขาก็ปิดปากเงียบพร้อม ๆ กับการมองดูเฟนด์โดยไม่พูดอะไรพวกเขามอง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2454

    ผู้อาวุโสฮอร์สท์กระแอมเล็กน้อยในขณะที่เขาพูดต่อ “หลังจากที่เธอบ่มเพาะโอสถได้สำเร็จแล้ว ให้นำโอสถมาให้ฉันตรวจสอบ พวกเธอจะมีเวลาในการทดสอบทั้งสิ้นแปดชั่วโมง ถ้าเธอไม่สามารถบ่มเพาะโอสถได้ภายในแปดชั่วโมง ก็จะแปลว่าไม่ผ่านการทดสอบ ดังนั้นอย่าได้ช้าเกินไป”พวกเขาทั้งสามพยักหน้าแทบจะพร้อมกัน หลังจากผู้อาวุโสฮอร์สท์ให้คำแนะนำแล้ว เขาก็จัดให้มีคนงานสองสามคนคอยเป็นคนตรวจ มีผู้ดูแลยืนอยู่ด้านหลังทั้งสามคนเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่ทำอะไรผิดพลาดหลังจากนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็หันกลับมาและไปหาผู้สอบคนอื่น ๆ รูดี้หรี่ตาลง ขณะที่เขาเหลือบมองเฟนด์และพูดว่า "ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการบ่มเพาะโอสถระดับหกคือขั้นตอนสุดท้าย แต่ขั้นตอนแรกก็ไม่ง่ายเช่นกัน ถ้านายรู้ว่าทำไม่ได้ ก็อย่าทำให้ต้องสิ้นเปลืองวัตถุดิบเลย ของพวกนี้ล้วนมีราคาค่างวด ต่อให้นายจะขายตัวเองเป็นทาสก็ยังไม่พอให้ซื้อของพวกนี้!”เฟนด์ถอนหายใจออกเบา ๆ หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาเบื่อเกินกว่าจะอ้าปากพูดด้วยซ้ำ เขาตัดสินใจที่จะเพิกเฉยต่อผู้ชายคนนั้นและทุกสิ่งที่จะออกมาจากปากเขา ถึงโต้ตอบไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรอยู่ดี

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2453

    เกรย์สันหรี่ตาลงขณะที่เขามองเฟนด์ด้วยความโกรธเช่นกัน เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ดูเหมือนว่าวันนี้ นายจะมาที่นี่เพื่อหาเรื่องขายหน้าให้กับตัวเองเท่านั้น"หลังจากพูดจบเกรย์สันก็หันหลังกลับและเงียบไป เสียงความขัดแย้งหยุดลง และทุกคนรอบ ๆ ก็เริ่มกระซิบกระซาบกันผู้อาวุโสฮอร์สท์มองเฟนด์อย่างมีความหมาย ราวกับว่าเขามองเฟนด์ในมุมมองที่ต่างออกไป ทันใดนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็อยากรู้เรื่องของเฟนด์อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ในขณะนั้นเขาไม่อาจพูดอะไรออกมาได้เมื่อเขาเห็นว่าทุกคนได้จับกลุ่มกันเรียบร้อยแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็โบกมือแล้วพูดว่า "มากับฉัน!"ทุกคนติดตามผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปเป็นกลุ่ม ๆ ผู้อาวุโสฮอร์สท์เข้าไปในเรือวิญญาณ ภายในเรือเต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังรีบร้อนพวกเขาเดินตามหลังผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปอย่างใกล้ชิด เดินลัดเลาะไปตามทางก่อนจะมาถึงห้องกว้างขวางในที่สุด ห้องกว้างขวางมากจนเรียกได้ว่าห้องโถงเลยทีเดียวทันทีที่พวกเขาก้าวเข้าไปในห้อง ทุกคนก็สามารถสัมผัสได้ถึงรังสีของโอสถที่หนาแน่นรอบ ๆ บรรยากาศ พื้นที่ในห้องนี้ใหญ่เกินพอสำหรับพวกเขาแปดสิบคนเฟนด์ประเมินสถานการณ์เล็กน้อย ห้องนี้ใหญ่พอที่จะรองรับคน

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2452

    พวกเขาถาโถมข้อกล่าวหาและดูหมิ่นมามากเกินไป ถึงเขาจะไม่อยากโต้เถียงกับคนพวกนี้ แต่เขาก็ยังถูกบังคับให้ต้องเงยหน้าขึ้นมาอย่างช้า ๆ อยู่วันยันค่ำเขามองเข้าไปในดวงตาของรูดี้ซึ่งเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน ราวกับเขาเป็นเพียงแมลงในสายตาของรูดี้เฟนด์หัวเราะอย่างเย็นชา “แล้วนายได้ยินเสียงสุนัขที่เห่าดังที่สุดแล้วหรือยังล่ะ?”คำพูดเหล่านั้นสามารถเยาะเย้ยทุกคนที่นั่นได้สำเร็จ เขาเปรียบเทียบกิลเบิร์ตกับสุนัขและเย้ยหยันทุกคนที่ฟังสุนัขตัวนั้นเห่า มันทำให้การแสดงออกบนใบหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปกิลเบิร์ตเกือบจะลืมความโกรธของตัวเองไปแล้ว เขาไม่อยากจะเชื่ออะไรด้วยซ้ำว่าเฟนด์จะสามารถขจัดคำดูถูกดูแคลนทั้งหมดลงได้ แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้นกิลเบิร์ตหันกลับมาจ้องมองเฟนด์ด้วยใบหน้าแดงก่ำจากความโกรธเขาอยากจะตะโกนกลับแต่ถูกรองเหรัญญิกปรามไว้ "ดูเหมือนว่านายจะไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบแล้วสินะ!"ประโยคนั้นเพียงประโยคเดียวก็ทำให้กิลเบิร์ตไม่อาจพูดอะไรออกมาได้อีก กิลเบิร์ตตระหนักได้แล้วว่าเขาได้ทำให้รองเหรัญญิกขุ่นเคืองอย่างหนักหากเขายังคงยืนกรานที่จะต่อปากต่อคำกับเฟนด์ รองเหรัญญิกอาจจะดึงเขาออกไปจริง ๆ แล้วเขาจะ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2451

    “สมองหมอนั่นจะต้องมีอะไรผิดปกติจริง ๆ นั่นแหละ เขาคิดจริง ๆ หรือว่าเขาอยู่ในระดับเดียวกับอีกสองคนที่อยู่ตรงหน้าเขา แค่เพราะไปยืนอยู่กลุ่มเดียวกัน? นั่นน่าจะตลกมากเกินไปหน่อยนะ…”“ฉันนึกว่าการทดสอบจะเข้มงวดและจริงจังเสียอีก ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะได้เห็นอะไรแบบนี้ ทำเอาฉันขำจนปวดท้องเลยล่ะ…”แอนดรูว์ขมวดคิ้วอย่างรู้สึกอับอาย รองเหรัญญิกโกรธจนตัวสั่นหลังจากได้ยินคำพูดของกิลเบิร์ต เขานึกอยากจะพุ่งตัวไปไปตบกิลเบิร์ตสักสองสามครั้งกิลเบิร์ตเพิกเฉยต่อชื่อเสียงของวิมานโอสถอย่างเห็นแก่ตัวที่สุด พวกเขาแทบอยากจะมุดดินหนี ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นี่จะเป็นความอัปยศอดสูที่วิมานโอสถไม่อาจจำกัดทิ้งได้รองเหรัญญิกตะโกนออกไปว่า "หุบปากเดี๋ยวนี้! นายกำลังพูดเรื่องบ้าอะไร ถ้าไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบ ก็ไสหัวไปซะ!"รองเหรัญญิกโกรธมาก ขณะที่เขาพูดเช่นนั้น สีหน้าของเขาดูอดสูอย่างไม่น่าเชื่อ เขายังคิดจะฆ่ากิลเบิร์ตให้ตายเสียเดี๋ยวนี้ เมื่อถูกตำหนิเช่นนั้นก็ทำให้กิลเบิร์ตตระหนักได้ว่าเขาพูดผิดไปถึงกระนั้นก็ไม่มีทางที่เขาจะถอนคำพูดเหล่านั้นกลับคืนมา เขากระแอมเบา ๆ ก่อนที่จะรีบหันศีรษะไปซ้ายทีขวาที อย่างไม่กล้

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2450

    ไม่มีใครรู้ดีไปกว่ารองเหรัญญิกว่าโอสถระดับหกหมายถึงสิ่งใด ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา วิมานโอสถรับบัณฑิตมาจำนวนนับไม่ถ้วน แต่มีไม่มากนักที่จะได้กลายเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุระดับหกจริง ๆคอนสแตนซ์ยิ้มอย่างมีความหมายขณะที่เขาเอ่ยถาม "รองเหรัญญิกคนนี้มีความสามารถหลากหลายจริง ๆ ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าวิมานโอสถจะมีอัจฉริยะกับเขาด้วย ผมไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลย"ริมฝีปากของรองเหรัญญิกกระตุก เขาต้องการอธิบายตัวเอง แต่ถ้าเขาบอกว่าเฟนด์ไม่สามารถสกัดโอสถระดับหกได้ และมีเพียงพรสวรรค์ในการสร้างอักขระทางยาเท่านั้น มันคงจะกลายเป็นเรื่องตลกครั้งใหญ่ และทุกคนคงจะหัวเราะเยาะวิมานโอสถเป็นแน่แต่ถ้าเขายังคงดื้อรั้นต่อไป พอถึงเวลาต้องบ่มเพาะโอสถ เฟนด์ก็จะเปิดเผยความจริงข้อนั้นออกมา เมื่อนั้นความอัปยศอดสูก็จะยิ่งหนักข้อขึ้นเขาถึงกับมือสั่น ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยรู้สึกเหมือนตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้มาก่อน เขารู้สึกเหมือนกำลังถูกกักขังอยู่ในกำแพงอีกสองด้าน ทุกคนคิดว่ารองเหรัญญิกกำลังวางแผนที่จะใช้ความเงียบเพื่อตอบคำถามเมื่อเห็นกับตาว่ารองเหรัญญิกไม่ตอบอะไรออกมาแต่ทว่าคอนสแตนซ์คล้ายกับจะไม่เ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2449

    เฟนด์เป็นคนเดียวที่ยังคงยืนอยู่ ขณะนั้นเขาดูคล้ายกับกำลังลังเลและดูเหมือนกำลังรออะไรบางอย่างอยู่ ขณะที่รองเหรัญญิกพูดจบ ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็จ้องมองมาอย่างอยากรู้อยากเห็นแม้ว่าดวงตาของเขาจะดูเป็นประกายมากขนาดไหน แต่เฟนด์ก็ยังคงรู้สึกถึงความเฉียบคมภายใน ราวกับว่าเขาจะถูกตัดสิทธิ์หากเขาไม่ขยับริมฝีปากของเฟนด์กระตุกอย่างช่วยไม่ได้ เขารีรอต่อไปไม่ได้แล้ว จึงได้แต่เดินไปยังพื้นที่ที่เขาวางแผนไว้ก่อนหน้านี้ในตอนแรกเฟนด์ไม่ได้ดึงดูดความสนใจใครมากนัก เขาอาจจะเป็นคนสุดท้ายที่ปรากฏตัวขึ้น ไม่มีใครจำเขาได้ ต่อให้เขาจะมาจากวิมานโอสถ แต่นอกจากคนที่เคยพบเขาแล้ว ก็ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใครขณะที่เขาเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกต่อไป ทุกคนก็เริ่มจ้องมองไปที่เขา ใบหน้าของรองเหรัญญิกก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นบูดบึ้งเมื่อเขาสังเกตเห็นว่าเฟนด์กำลังมุ่งหน้าไปทางใด“ผู้ชายคนนั้นคิดจะไปต่อหลังรูดี้หรือเปล่า? เขาคิดจะพิสูจน์ตัวเองด้วยการกลั่นโอสถระดับหกด้วยหรือ?”“ก็คงเป็นแบบนั้น เว้นแต่เขาจะเป็นคนโง่เง่าที่ไม่ทันได้ฟังกฎการตัดสินให้ดี ไม่งั้นคงไม่เดินไปแบบนั้นหรอก เขาเป็นใคร ทำไมฉันไม่เคยได้ยินอะไรเกี่ยวกับเขาเลย

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2448

    กิลเบิร์ตทำท่าราวกับกลืนแมลงวันเข้าไปสองสามตัว เขาคาดหวังว่ารองเหรัญญิกจะพูดคำเหล่านั้นกับเขาเสียอีก แต่กลับกลายเป็นว่ารองเหรัญญิกไม่ละสายตามามองเขาเลยแม้แต่วินาทีเดียวรองเหรัญญิกฝากความหวังทั้งหมดไว้กับเฟนด์ราวกับว่ากิลเบิร์ตและแอนดรูว์มาที่นี่เพื่อเพิ่มจำนวนคนเท่านั้นแอนดรูว์มีสีหน้าขมขื่นเช่นกัน ในอดีตเขาขัดแย้งกับกิลเบิร์ตมามากมาย และความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ไม่อาจพัฒนาไปในทางที่ดีได้แต่ต้องขอบคุณเฟนด์ที่ทำให้เขาสามารถวางเฉยต่อความแค้นทั้งหมดที่เคยมีได้แอนดรูว์พูดด้วยใบหน้าที่มืดมน “รองเหรัญญิก ดูเหมือนคุณจะฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่เฟนด์เลยนะ“แต่คุณก็น่าจะเตือนเฟนด์สักหน่อยว่าต่อให้เขาจะมีพรสวรรค์ค่อนข้างดี แต่ก็ไม่ควรหยิ่งผยองเกินไป”แอนดรูว์โกรธมากในขณะนั้นและอดไม่ได้จริง ๆ ที่จะต้องเอ่ยคำดูแคลนที่สุดเช่นนั้นออกมากิลเบิร์ตกล่าวเสริมอย่างรีบร้อนทันที “แอนดรูว์พูดถูก แม้ว่าพรสวรรค์ของเฟนด์จะค่อนข้างดี แต่เขาก็ไม่ควรหยิ่งผยองนัก คำพูดพวกนั้นไม่ได้ช่วยอะไรเลยสักนิด”เฟนด์ถึงกับพูดไม่ออกเมื่อถูกคนทั้งสองเหยียบย่ำ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเฟนด์ไม่ได้เอ่ยปากเลยสักคำ แล้วเขาจะเอาเวลา

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2447

    ในตอนแรก คอนสแตนซ์และซีนย์เพียงยืนเคียงข้างกันโดยไม่สนใจเรื่องนี้ พวกเขาต้องการปล่อยให้สถานการณ์ดำเนินต่อไปอย่างที่ควรจะเป็น แต่เมื่อว่าเกรย์สันและรูดี้เริ่มเถียงกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งสองคนก็ถูกบีบให้ต้องทำอะไรสักอย่างพวกเขาถูกบีบให้ต้องแยกรูดี้และเกรย์สันออกจากกัน นั่นก็เพราะ การทะเลาะกันของเด็ก ๆ ควรจะมีขีดจำกัด เพราะหากมันเกินขีดจำกัดไปแล้ว นั่นจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของพวกเขา นี่คือสิ่งที่รูดี้และเกรย์สันเองก็ไม่อยากเห็นเป็นเวลาเกือบสิบห้านาทีแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์นั่งบนเก้าอี้ ขณะมองดูการทะเลาะวิวาทและการพูดคุยกันอย่างเฉยเมย เมื่อหมดเวลาเขาก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้เสียงปรบมือดังขึ้นตอนที่เขาจะพูดว่า "เอาล่ะ หมดเวลาแล้ว ทุกคนต้องตัดสินใจได้แล้วว่าจะพิสูจน์ความสามารถของตัวเองยังไง”“ฉันไม่คิดว่าฉันจะต้องบอกอะไรพวกนายทุกอย่างหรอกนะ ตอนนี้ก็แยกออกเป็นกลุ่มเสีย ผู้ที่ต้องการรวมอักขระทางยาจะยืนอยู่ทางทิศตะวันออก“ผู้ที่ต้องการแยกแยะวัสดุสามารถยืนอยู่ตรงกลางได้เลย และหากจะพิสูจน์ตัวเองด้วยกันบ่มเพาะโอสถให้ไปยืนที่ทางทิศตะวันตก“ถึงอย่างนั้นฉันก็ต้องขอเตือนทุกคนก่อน หากทุกคนต้องการ

Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status