แชร์

บทที่ 1060

ผู้เขียน: โมเนโต้
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
“พี่ได้ที่หนึ่งเองงั้นเหรอ? จริงจังหรือเปล่าเนี่ย? พี่รู้ใช่ไหมว่าฉันอยู่ระดับกึ่งเทพขั้นกลางแล้ว?”

ยูลรู้สึกงุนงงกับคำพูดเกินจริงของเฟนด์ เธอสงสัยว่าเธอได้ยินสิ่งที่เขาพูดผิดไปหรือเปล่า เธอค่อนข้างอายุน้อยในบรรดากลุ่มคนรุ่นใหม่ของตระกูลวู๊ด และการที่เธออยู่ในระดับดังกล่าวได้ เธอถือว่าเป็นเด็กอัจฉริยะในกลุ่มคนอัจฉริยะ!

เฟนด์มั่นใจในความสามารถของตัวเองขนาดนั้นได้ยังไง? หรือว่าระดับศิลปะการต่อสู้ของเขาและความสามารถในการต่อสู้ของเขานั้นจะอยู่ระดับสูงกว่าเธอ?

“พี่รู้ระดับศิลปะการต่อสู้ของเธอ ดังนั้นพี่จะยั้งมือไว้นิดหน่อย เพราะยังไงซะ เธอก็เป็นน้องสาวของพี่ พี่ไม่อยากทำร้ายเธอ!”

เฟนด์ยิ้มให้ยูลบาง ๆ แม้ว่ารอยยิ้มจะเลือนลาง แต่ก็เป็นรอยยิ้มที่สดใสและอบอุ่น

เขารู้ว่ายูลเป็นคนจิตใจดี แม้ว่าเธออาจจะถูกตามใจมาตั้งแต่เด็กและมักจะมีออร่าที่น่าเกรงขามและสูงส่งอยู่เสมอ แต่เธอก็เป็นหญิงสาวที่มีจิตใจบริสุทธิ์และเรียบง่าย

“ฮ่า ๆ! ไม่เลวเลย! งั้นออมมือให้ฉันด้วย!”

ยูลตอบกลับมาด้วยรอยยิ้มกว้างอย่างเป็นมิตร ใกล้ ๆ มุมปากของเธอปรากฏลักยิ้มน่ารักออกมา

หลังจากที่หยอกล้อกับเฟนด์เสร็จ ยูลก็กำห
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1061

    “ออมมือให้เขา?” ผู้อาวุโสลำดับที่หนึ่งทนฟังคำพูดร้าย ๆ พวกนั้นต่ออีกไม่ไหว “นายหญิง คุณล้อเล่นอยู่ใช่ไหม? เห็นชัด ๆ ว่าการต่อสู้มันรุนแรงมาก ยูลไม่ได้ออมมือให้เฟนด์เลย! นั่นเป็นเพียงแค่การโจมตีรอบแรก และยูลไม่ได้ออมมือให้เฟนด์อย่างแน่นอน!” ผู้อาวุโสลำดับที่สาม เวด วู๊ด ที่นั่งอยู่ข้าง ๆ มองดูความวุ่นวายที่เกิดขึ้น เขาไม่ได้แสดงความเห็นอะไร แต่เขาก็ขมวดคิ้วออกมา เป็นเพราะเขาเห็นการโจมตีอย่างชัดเจนด้วยตาของตัวเขาเอง การโจมตีนั้นดูเหมือนยูลจะไม่ได้ตั้งใจออมมือให้เฟนด์เลย “เป็นไปได้ไหม... เป็นไปได้ไหมว่าเด็กนั่นแข็งแกร่งพอที่จะได้อันดับหนึ่งจริง ๆ? แนช วู๊ด ถึงได้มั่นใจในตัวเขามาก” สีหน้าของเวดหมองและมืดมนลง ดูเหมือนว่าทางเดียวที่เขาจะคว้าตำแหน่งหัวหน้าตระกูลมาได้นั่นก็คือ ต้องหาวิธีลอบสังหารผู้อาวุโสลำดับที่หนึ่งแล้วก็สังหารเฟนด์หลังจากที่แนชตายเพราะยาพิษ เมื่อถึงตอนนั้น ระดับการต่อสู้ของเขาคงจะสูงที่สุดและแข็งแกร่งที่สุดในตระกูลวู๊ด และถ้าเขาบอกว่า เขาต้องการเป็นหัวหน้าตระกูลวู๊ด ใครจะกล้าขัดคำสั่งของเขา? ปัง! ในตอนนั้นเอง ที่ด้านบนของเวทีการประลองหมายเลขหนึ่ง ยูลพุ่งเข้า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1062 คนโง่

    “บ้าน่า ไม่น่าเชื่อ! หมอนั่นเอาชนะยูลเด็กอัจฉริยะที่ยอดเยี่ยมของเราและทำให้เธอต้องออกจากการประลองเนี่ยนะ? เฮ้! การประลองครั้งนี้ไม่ธรรมดาเลย น่าตื่นเต้นดีนะว่าไหม?” ที่อัฒจันทร์ หนึ่งในหัวหน้าตระกูลสาขาของตระกูลวู๊ดอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ “ใช่แล้ว มันน่าตื่นเต้นและน่าประหลาดใจจริง ๆ! เฟนด์ได้รับการเลี้ยงดูและฝึกฝนมาจากทางโลก แต่เขากลับมีทักษะดังกล่าวและประสบความสำเร็จ! ฉันสงสัยว่าระดับพลังยุทธของเขาในตอนนี้จะอยู่ที่ระดับไหน มันคงไม่ต่ำกว่าระดับของคนในตระกูลวู๊ดแน่!” หัวหน้าตระกูลสาขาของตระกูลวู๊ดอีกคนพูดขึ้น หัวหน้าตระกูลสาขาของตระกูลวู๊ดคนก่อนหน้าก็ตอบกลับไปว่า “นั่นไม่น่าจะเป็นไปได้นะ เราเป็นตระกูลที่ยิ่งใหญ่และมีชื่อเสียงที่ซ่อนเร้นอยู่ในโลก และยูลก็เป็นคนของตระกูลหลัก เธอน่าจะมีเทคนิคและกลยุทธ์ในการต่อสู้ดีกว่า ส่วนที่เฟนด์เอาชนะเธอได้นั้น บางทีเขาอาจจะมีระดับพลังยุทธสูงกว่า เขาอาจจะอยู่ระดับกึ่งเทพขั้นสุดยอดแล้ว” “ฮ่าฮ่า! อันที่จริงฉันก็หวังว่าเด็กนั่นจะได้รับตำแหน่งผู้สืบทอดตระกูล เพราะยังไงซะ มีเพียงคนแบบนั้น คนที่ค่อย ๆ เติบโตจากโลกธรรมดาถึงจะเข้าใจว่าการใช้ศิลปะการ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1063

    มาร์ตินที่ตัวสูงใหญ่พูดแทรกขึ้นมาด้วยน้ำเสียงหยาบคาย “ในรอบที่แล้วไอ้หมอนี่โชคดีจึงเอาชนะยูลมาได้!” ชายอีกคนก็พูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้มเย็นชา “อย่างแรก ยูลไม่คิดว่าเขาจะอยู่ในระดับกึ่งเทพ ดังนั้นยูลจึงไม่ได้ใช้กำลังเต็มที่ในการต่อสู้ ทำให้เขามีโอกาสชนะเธอ อย่างที่สอง ยูลยังไม่ทันได้ใช้เทคนิคและทักษะยุทธของเธอเลย เฮ้! ถ้าเธอมีเวลาใช้มัน หรือ มีเวลาเอาอาวุธออกมา มันคงเป็นเรื่องง่ายสำหรับเธอที่จะชนะในรอบนั้น!” คนที่พูดแทรกขึ้นมาหลังจากที่คิดทบทวนคือปรมาจารย์ระดับเก้า เฟนด์ไม่สนใจคนพวกนี้ เขากลับนั่งลง ขาไขว่ห้าง และรอแข่งรอบต่อไปอย่างสบาย ๆ แทน คำเหยียดหยามจากคนพวกนี้ ไม่ช้าก็เร็ว เขาจะใช้กำปั้นตอบโต้และทำให้พวกเขาเข้าใจว่า แม้ว่า เฟนด์ วู๊ด จะมาจากโลกธรรมดา แต่เขาก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าอัจฉริยะพวกนี้ที่มาจากตระกูลวู๊ดเลย เฟนด์สังเกตผู้อาวุโสลำดับที่สามจากระยะไกลซึ่งอยู่บนอัฒจันทร์ของผู้ชม คนเดียวที่เขาเป็นกังวลคือผู้อาวุโสลำดับที่สาม เพราะก่อนหน้านี้ไททัสเคยบอกเขาว่าผู้อาวุโสลำดับที่สาม ลิลลี่ และผู้พิทักษ์รุ่นที่เก้า เบรนตัน วู๊ด เป็นพวกเดียวกัน พวกเขาสนิทกันมาก ผู้อาวุโสลำดับที่สาม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1064

    เอเลนที่อยู่ข้างเซเลน่าส่งยิ้มจาง ๆ แต่อ่อนโยนให้เซเลน่า จากนั้นเธอก็อธิบายอย่างสุภาพว่า “พี่เซเลน่า ทุกสิ่งบนโลกนี้มีจิตวิญญาณ รวมทั้งต้นไม้ หญ้า และสิ่งอื่น ๆ หากสิ่งมีชีวิตเติบโตในสถานที่ที่มีพลังจิตวิญญาณหนาแน่นและอุดมสมบูรณ์ ได้รับการหล่อเลี้ยงด้วยพลังจิตวิญญาณเป็นเวลานานมาก หญ้าพวกนั้นหรืออะไรก็ตามก็จะมีจิตวิญญาณขึ้นมา พวกมันจะเริ่มดูดซับพลังจิตวิญญาณรอบ ๆ ตัว” เซเลน่าพยักหน้าด้วยใบหน้าที่สับสน “ทำไมทุกคนดูตื่นเต้นกับหญ้าวิญญาณนี้ ว่าแต่มันใช้ทำอะไรได้บ้าง? ประโยชน์ของมันน่าอัศจรรย์มากเหรอ?” “แน่นอน มันวิเศษมาก! มันยากที่จะเจอหญ้าวิญญาณ มันจึงหาได้ยากมาก หญ้าวิญญาณพวกนี้ไม่เพียงแต่จะต้องเติบโตในสถานที่ที่มีพลังจิตวิญญาณหนาแน่น แต่อายุของมันก็มีความสำคัญด้วยเหมือนกัน หญ้าวิญญาณยิ่งอายุมาก ก็จะยิ่งหายากมากขึ้นและมันก็ยิ่งวิเศษมากขึ้นด้วย!” “อีกอย่าง เราจะพิจารณาระดับความสมบูรณ์ของพลังวิญญาณในตัวพวกมัน และจัดหมวดหมู่เป็นระดับตามลำดับ ซึ่งมีทั้งหมดเก้าระดับ ระดับหนึ่งจะมีคุณภาพต่ำสุด และระดับเก้าจะมีคุณภาพสูงสุด ภายในระดับของมันเอง เรายังแบ่งพวกมันออกเป็นขั้นต้น ขั้นกลาง และขั้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1065

    เอเลนหยุดไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดต่อว่า “นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ผู้คนจำนวนมากสงสัยว่าหญ้าวิญญาณระดับสามหรือระดับสี่ หรือระดับสูงกว่านั้นมีอยู่จริงหรือเปล่า เพราะไม่มีใครเคยเห็นมันมาก่อน นอกจากนี้ยังมีตำนานอื่นที่น่าตื่นเต้นยิ่งกว่า แต่ใครจะรู้ว่ามันเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า!”“ตำนานอะไรเหรอ?”เซเลน่ากับเบ็นถามออกมาพร้อมกันเอเลนยิ้ม “ระดับสูงสุดที่ปรมาจารย์ฉีสามารถบรรลุได้ในตอนนี้คือระดับเทพแท้จริงขั้นสุดยอด เมื่อคุณไปถึงขั้นนั้นแล้วมันก็เริ่มยากมากที่จะพัฒนาต่อ เนื่องจากเรายังไม่มีทักษะยุทธที่มากกว่าระดับนั้น ยังมีตำนานบอกว่าคนที่สามารถบรรลุมากกว่าขั้นนั้นได้ก็จะอยู่ในระดับเทพสูงสุด”เอเลนคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ แล้วก็มองไปที่ชายตรงหน้าอย่างเคร่งขรึม “ตามตำนานเล่าว่า คุณจะมีอายุยืนขึ้นเมื่อบรรลุระดับเทพสูงสุดได้” เธอพูด “จริง ๆ คุณจะมีชีวิตอยู่ได้ถึงสองร้อยปี!”“ไม่น่าเชื่อ!”เซเลน่ากับเบ็นสูดหายใจเข้าอย่างแรง สงสัยว่าพวกเขาได้ยินผิดไปหรือเปล่า ถ้าตำนานที่ว่ามานั่นเป็นเรื่องจริง งั้นคนที่อยู่ในระดับนั้นก็สามารถมีชีวิตอยู่ได้ถึงอายุสองร้อยปี แล้วใครจะไม่ต้องการแบบนั้นล่ะ?อีกอย่าง คนที่อยู

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1066

    “ฮึ่ม!” เมื่อเสียงที่บ่งบอกว่าการประลองได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว ฮัดสัน คนที่บรรลุพลังระดับกึ่งเทพขั้นสูงก็กำหมัดแน่น เขาปล่อยหมัดพลังฉีขณะวิ่งเข้าหาเฟนด์“ไม่เสียเวลาแม้แต่วินาทีเดียวเลยเหรอ?” ริมฝีปากของเฟนด์เปลี่ยนเป็นยิ้มขณะที่สังเกตเห็นจิตมุ่งร้ายที่อยากจะกำจัดเขา และหมัดหนา ๆ ที่เต็มไปด้วยฉีฟึ่บ!อย่างไรก็ตาม จู่ ๆ ก็มีร่างงามมาปรากฏขึ้นตรงหน้าเขาอย่างกับสายฟ้าฟาดลงมาก่อนที่เขาจะโดนหมัดของฮัดสัน“เบธ?” เฟนด์หลบหมัดฉีและประหลาดใจนิดหน่อยบูม!มีเสียงระเบิดดังขึ้นขณะที่ทั้งคู่ถอยหลังไปหลายเมตรด้วยแรงอันมหาศาลก่อนที่จะตั้งหลักได้มันไม่ต่างกันมากนักกับพลังที่แท้จริงของพวกเขา “เบธ วู๊ด!” ฮัดสันโกรธจัดเขามองเบธขณะคำรามเสียงดัง “หมายความว่าไง? เธออยากให้ลูกนอกสมรสที่มาจากข้างนอกนี่ชนะการแข่งขันงั้นเหรอ? อยากให้ตระกูลวู๊ดทุกคนที่นี่เสียศักดิ์ศรีหรือยังไง? เหอะ...! ถ้าข่าวนี้หลุดออกไปเราจะอับอายกันขนาดไหน? พวกเขาจะบอกว่าอัจฉริยะอย่างพวกเราเทียบกับไอ้พวกข้างนอกนั่นไม่ได้เลย!”เบธสบตากับฮัดสัน “ฉันขอโทษฮัดสัน แต่เรื่องนี้ไม่มีอะไรต้องอับอาย ในความคิดของฉัน เฟนด์คือสมาชิกของตระกูลวู๊ด

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1067

    เพราะยังไงซะ เฟนด์ได้กำจัดยูลนักสู้ที่แข็งแกร่งไปแล้ว แม้ว่ามันจะเกิดจากความประมาทของยูลเอง แต่ก็พิสูจน์ได้ว่าเฟนด์เป็นนักสู้ที่ค่อนข้างยอดเยี่ยม ฮัดสันไม่มั่นใจว่าจะชนะได้หากเฟนด์กับเบธร่วมมือกัน“แนช วู๊ด คุณยังจะบอกฉันว่าคุณไม่ได้เป็นคนจัดการเรื่องนี้อยู่อีกไหม? เห็นชัด ๆ ว่านี่เป็นสิ่งที่คุณทำ และคุณก็ทำทุกอย่างเพื่อลูกชายของคุณ!” ลิลลี่ซึ่งอยู่บนอัฒจันทร์แทบจะโมโหออกมา เธอมองแนชอย่างโกรธจัดและเดือดพล่าน “คุณขอให้เบธและยูลปกป้องลูกชายของคุณในรอบแรก จากนั้นคุณก็โกงในรอบที่สองและขอให้ยูลจงใจแพ้ให้เฟนด์ ตอนนี้คุณได้เปลี่ยนรอบที่สามให้เป็นการต่อสู้หมู่และให้เบธช่วยเขา ฮ่าฮ่า...เขาจะต้องได้อยู่ห้าอันดับแรกแน่ ๆ ด้วยการช่วยเหลือจากคุณ จริงไหม?”“คุณนี่มัน...พยายามแต่งเรื่องจริง ๆ!” แนชเริ่มโกรธขณะที่ไอออกมา เขาถอนหายใจก่อนจะพูดต่อว่า “คุณ...คุณก็เห็นฉีของเฟนด์ด้วยตาตัวเอง เขาบรรลุระดับกึ่งเทพได้แล้ว ฉันจะสร้างเรื่องนั้นออกมาได้ด้วยเหรอ?”“ฉัน..ฉันไม่สนใจหรอก! ดูเหมือนทุกอย่างจะถูกจัดฉากขึ้นมา!” ลิลลี่รู้สึกปวดใจเมื่อคิดว่าลูกชายของเธอไม่ได้เข้าร่วมการประลองครั้งนี้ ถ้าเขาได้เข้าร่วมเข

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1068

    สิ่งที่เฟนด์พูดทำให้เบธพูดไม่ออกเพราะเหตุนี้ มันจึงเป็นแรงผลักดันให้พวกอัจฉริยะคนอื่น ๆ อยากกำจัดเฟนด์ ดังนั้นจึงเข้ามาล้อมพวกเขาไว้คนอื่น ๆ ที่เหลือไม่กล้าเข้ามาเมื่อเห็นว่ามีปรมาจารย์ที่แข็งแกร่งหลายคนมารวมกันที่ด้านนี้ พวกเขาจึงเลือกเฉพาะคนที่มีความสามารถในการต่อสู้ต่ำกว่าและพยายามทำให้ดีที่สุดเพื่อกำจัดคนเหล่านั้น“ฮ่าฮ่า...เธออยู่ข้างเฟนด์ใช่ไหมเบธ? โทษที แต่ดูเหมือนว่าเธอจะลืมฉันไปคนนะ ฉันก็อยากจะกำจัดหมอนี่เหมือนกัน!”“เพราะเขาอวดดีและบอกว่าเขาตั้งใจที่จะเป็นผู้ชนะ!” มาร์ติน ชายร่างสูงตระหง่านที่เอามือกอดอกอยู่พูดออกมาอย่างหยาบคาย“เราเจอปัญหาแล้ว พวกเขามีกันหลายคน!” เบธมองเฟนด์ด้วยสีหน้าไม่สบายใจ“ฮ่าฮ่า...ไม่ต้องกังวล ในเมื่อพวกเขาอยากจัดการกับผมมากนัก ผมก็ต้องกำจัดพวกมันก่อน!” ท่าทางของเฟนด์นั้นต่างจากที่เบธคิดไว้มาก เขายิ้มออกมาอย่างไม่ใส่ใจพร้อมทั้งพูดออกมาอย่างไม่สะทกสะท้าน“เราตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ คุณยังมีอารมณ์มาพูดตลกอยู่อีกเหรอ?” เบธกลอกตามองเฟนด์และรู้สึกว่าเขาไม่น่าเชื่อถือ พวกเขาต้องสู้กับอัจฉริยะถึงหกคน แม้แต่คนที่แข็งแกร่งน้อยสุดก็อยู่ในระดับกึ่งเทพขั้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29

บทล่าสุด

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2455

    ตราบใดที่มันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการบ่มเพาะโอสถของเขา ทั้งสองคนจะทำอะไรตามต้องการก็ย่อมได้ สิ่งนั้นไม่กระทบอะไรกับเขาเลย“ถึงฉันจะดูแคลนหมอนี่ แต่เขาก็ยังกล้าเสมอ เขาก็คงจะมีความสามารถอยู่บ้าง เขาน่าจะผ่านสองขั้นตอนแรกได้อย่างไม่มีปัญหา” เกรย์สันพูดอย่างชัดเจนรูดี้มองไปที่เกรย์สันด้วยรอยยิ้มเย็นชาบนใบหน้าแล้วตอบว่า "นายดูมั่นใจกับหมอนี่มากเลยนะ ฉันจะคิดว่าทุกครั้งที่เขาพูดก่อนหน้านี้ล้วนเป็นเรื่องไร้สาระทั้งหมด“ฉันคิดว่าเขาอาจจะไปถึงขั้นที่สองก่อนที่เขาจะล้มเหลวโดยสิ้นเชิง! ฉันอยากเห็นจริง ๆ ว่าถ้าล้มเหลวขึ้นมา เด็กสารเลวคนนี้จะสู้หน้าเราได้ยังไง”เกรย์สันสูดหายใจเข้าลึก ๆ เขารู้สึกได้ว่าความโกรธของรูดี้ที่มีต่อเฟนด์นั้นลึกซึ้งกว่าของเขามากดวงตาของรูดี้ลุกเป็นไฟ เห็นได้ชัดว่าเขาเกลียดเฟนด์มากเพียงใดเกรย์สันหัวเราะอย่างเย็นชา "แล้วมาดูกันว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ฉันคิดว่าเขาน่าจะสามารถไปถึงขั้นตอนสุดท้ายได้ ถ้าเขาสามารถควบรวมอักขระทางยาได้ถึงร้อยเม็ดเขาก็น่าจะมาถึงระดับนั้น"หลังจากที่ทั้งสองพูดเรื่องเหล่านั้นออกมา พวกเขาก็ปิดปากเงียบพร้อม ๆ กับการมองดูเฟนด์โดยไม่พูดอะไรพวกเขามอง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2454

    ผู้อาวุโสฮอร์สท์กระแอมเล็กน้อยในขณะที่เขาพูดต่อ “หลังจากที่เธอบ่มเพาะโอสถได้สำเร็จแล้ว ให้นำโอสถมาให้ฉันตรวจสอบ พวกเธอจะมีเวลาในการทดสอบทั้งสิ้นแปดชั่วโมง ถ้าเธอไม่สามารถบ่มเพาะโอสถได้ภายในแปดชั่วโมง ก็จะแปลว่าไม่ผ่านการทดสอบ ดังนั้นอย่าได้ช้าเกินไป”พวกเขาทั้งสามพยักหน้าแทบจะพร้อมกัน หลังจากผู้อาวุโสฮอร์สท์ให้คำแนะนำแล้ว เขาก็จัดให้มีคนงานสองสามคนคอยเป็นคนตรวจ มีผู้ดูแลยืนอยู่ด้านหลังทั้งสามคนเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่ทำอะไรผิดพลาดหลังจากนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็หันกลับมาและไปหาผู้สอบคนอื่น ๆ รูดี้หรี่ตาลง ขณะที่เขาเหลือบมองเฟนด์และพูดว่า "ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการบ่มเพาะโอสถระดับหกคือขั้นตอนสุดท้าย แต่ขั้นตอนแรกก็ไม่ง่ายเช่นกัน ถ้านายรู้ว่าทำไม่ได้ ก็อย่าทำให้ต้องสิ้นเปลืองวัตถุดิบเลย ของพวกนี้ล้วนมีราคาค่างวด ต่อให้นายจะขายตัวเองเป็นทาสก็ยังไม่พอให้ซื้อของพวกนี้!”เฟนด์ถอนหายใจออกเบา ๆ หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาเบื่อเกินกว่าจะอ้าปากพูดด้วยซ้ำ เขาตัดสินใจที่จะเพิกเฉยต่อผู้ชายคนนั้นและทุกสิ่งที่จะออกมาจากปากเขา ถึงโต้ตอบไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรอยู่ดี

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2453

    เกรย์สันหรี่ตาลงขณะที่เขามองเฟนด์ด้วยความโกรธเช่นกัน เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ดูเหมือนว่าวันนี้ นายจะมาที่นี่เพื่อหาเรื่องขายหน้าให้กับตัวเองเท่านั้น"หลังจากพูดจบเกรย์สันก็หันหลังกลับและเงียบไป เสียงความขัดแย้งหยุดลง และทุกคนรอบ ๆ ก็เริ่มกระซิบกระซาบกันผู้อาวุโสฮอร์สท์มองเฟนด์อย่างมีความหมาย ราวกับว่าเขามองเฟนด์ในมุมมองที่ต่างออกไป ทันใดนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็อยากรู้เรื่องของเฟนด์อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ในขณะนั้นเขาไม่อาจพูดอะไรออกมาได้เมื่อเขาเห็นว่าทุกคนได้จับกลุ่มกันเรียบร้อยแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็โบกมือแล้วพูดว่า "มากับฉัน!"ทุกคนติดตามผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปเป็นกลุ่ม ๆ ผู้อาวุโสฮอร์สท์เข้าไปในเรือวิญญาณ ภายในเรือเต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังรีบร้อนพวกเขาเดินตามหลังผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปอย่างใกล้ชิด เดินลัดเลาะไปตามทางก่อนจะมาถึงห้องกว้างขวางในที่สุด ห้องกว้างขวางมากจนเรียกได้ว่าห้องโถงเลยทีเดียวทันทีที่พวกเขาก้าวเข้าไปในห้อง ทุกคนก็สามารถสัมผัสได้ถึงรังสีของโอสถที่หนาแน่นรอบ ๆ บรรยากาศ พื้นที่ในห้องนี้ใหญ่เกินพอสำหรับพวกเขาแปดสิบคนเฟนด์ประเมินสถานการณ์เล็กน้อย ห้องนี้ใหญ่พอที่จะรองรับคน

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2452

    พวกเขาถาโถมข้อกล่าวหาและดูหมิ่นมามากเกินไป ถึงเขาจะไม่อยากโต้เถียงกับคนพวกนี้ แต่เขาก็ยังถูกบังคับให้ต้องเงยหน้าขึ้นมาอย่างช้า ๆ อยู่วันยันค่ำเขามองเข้าไปในดวงตาของรูดี้ซึ่งเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน ราวกับเขาเป็นเพียงแมลงในสายตาของรูดี้เฟนด์หัวเราะอย่างเย็นชา “แล้วนายได้ยินเสียงสุนัขที่เห่าดังที่สุดแล้วหรือยังล่ะ?”คำพูดเหล่านั้นสามารถเยาะเย้ยทุกคนที่นั่นได้สำเร็จ เขาเปรียบเทียบกิลเบิร์ตกับสุนัขและเย้ยหยันทุกคนที่ฟังสุนัขตัวนั้นเห่า มันทำให้การแสดงออกบนใบหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปกิลเบิร์ตเกือบจะลืมความโกรธของตัวเองไปแล้ว เขาไม่อยากจะเชื่ออะไรด้วยซ้ำว่าเฟนด์จะสามารถขจัดคำดูถูกดูแคลนทั้งหมดลงได้ แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้นกิลเบิร์ตหันกลับมาจ้องมองเฟนด์ด้วยใบหน้าแดงก่ำจากความโกรธเขาอยากจะตะโกนกลับแต่ถูกรองเหรัญญิกปรามไว้ "ดูเหมือนว่านายจะไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบแล้วสินะ!"ประโยคนั้นเพียงประโยคเดียวก็ทำให้กิลเบิร์ตไม่อาจพูดอะไรออกมาได้อีก กิลเบิร์ตตระหนักได้แล้วว่าเขาได้ทำให้รองเหรัญญิกขุ่นเคืองอย่างหนักหากเขายังคงยืนกรานที่จะต่อปากต่อคำกับเฟนด์ รองเหรัญญิกอาจจะดึงเขาออกไปจริง ๆ แล้วเขาจะ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2451

    “สมองหมอนั่นจะต้องมีอะไรผิดปกติจริง ๆ นั่นแหละ เขาคิดจริง ๆ หรือว่าเขาอยู่ในระดับเดียวกับอีกสองคนที่อยู่ตรงหน้าเขา แค่เพราะไปยืนอยู่กลุ่มเดียวกัน? นั่นน่าจะตลกมากเกินไปหน่อยนะ…”“ฉันนึกว่าการทดสอบจะเข้มงวดและจริงจังเสียอีก ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะได้เห็นอะไรแบบนี้ ทำเอาฉันขำจนปวดท้องเลยล่ะ…”แอนดรูว์ขมวดคิ้วอย่างรู้สึกอับอาย รองเหรัญญิกโกรธจนตัวสั่นหลังจากได้ยินคำพูดของกิลเบิร์ต เขานึกอยากจะพุ่งตัวไปไปตบกิลเบิร์ตสักสองสามครั้งกิลเบิร์ตเพิกเฉยต่อชื่อเสียงของวิมานโอสถอย่างเห็นแก่ตัวที่สุด พวกเขาแทบอยากจะมุดดินหนี ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นี่จะเป็นความอัปยศอดสูที่วิมานโอสถไม่อาจจำกัดทิ้งได้รองเหรัญญิกตะโกนออกไปว่า "หุบปากเดี๋ยวนี้! นายกำลังพูดเรื่องบ้าอะไร ถ้าไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบ ก็ไสหัวไปซะ!"รองเหรัญญิกโกรธมาก ขณะที่เขาพูดเช่นนั้น สีหน้าของเขาดูอดสูอย่างไม่น่าเชื่อ เขายังคิดจะฆ่ากิลเบิร์ตให้ตายเสียเดี๋ยวนี้ เมื่อถูกตำหนิเช่นนั้นก็ทำให้กิลเบิร์ตตระหนักได้ว่าเขาพูดผิดไปถึงกระนั้นก็ไม่มีทางที่เขาจะถอนคำพูดเหล่านั้นกลับคืนมา เขากระแอมเบา ๆ ก่อนที่จะรีบหันศีรษะไปซ้ายทีขวาที อย่างไม่กล้

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2450

    ไม่มีใครรู้ดีไปกว่ารองเหรัญญิกว่าโอสถระดับหกหมายถึงสิ่งใด ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา วิมานโอสถรับบัณฑิตมาจำนวนนับไม่ถ้วน แต่มีไม่มากนักที่จะได้กลายเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุระดับหกจริง ๆคอนสแตนซ์ยิ้มอย่างมีความหมายขณะที่เขาเอ่ยถาม "รองเหรัญญิกคนนี้มีความสามารถหลากหลายจริง ๆ ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าวิมานโอสถจะมีอัจฉริยะกับเขาด้วย ผมไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลย"ริมฝีปากของรองเหรัญญิกกระตุก เขาต้องการอธิบายตัวเอง แต่ถ้าเขาบอกว่าเฟนด์ไม่สามารถสกัดโอสถระดับหกได้ และมีเพียงพรสวรรค์ในการสร้างอักขระทางยาเท่านั้น มันคงจะกลายเป็นเรื่องตลกครั้งใหญ่ และทุกคนคงจะหัวเราะเยาะวิมานโอสถเป็นแน่แต่ถ้าเขายังคงดื้อรั้นต่อไป พอถึงเวลาต้องบ่มเพาะโอสถ เฟนด์ก็จะเปิดเผยความจริงข้อนั้นออกมา เมื่อนั้นความอัปยศอดสูก็จะยิ่งหนักข้อขึ้นเขาถึงกับมือสั่น ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยรู้สึกเหมือนตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้มาก่อน เขารู้สึกเหมือนกำลังถูกกักขังอยู่ในกำแพงอีกสองด้าน ทุกคนคิดว่ารองเหรัญญิกกำลังวางแผนที่จะใช้ความเงียบเพื่อตอบคำถามเมื่อเห็นกับตาว่ารองเหรัญญิกไม่ตอบอะไรออกมาแต่ทว่าคอนสแตนซ์คล้ายกับจะไม่เ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2449

    เฟนด์เป็นคนเดียวที่ยังคงยืนอยู่ ขณะนั้นเขาดูคล้ายกับกำลังลังเลและดูเหมือนกำลังรออะไรบางอย่างอยู่ ขณะที่รองเหรัญญิกพูดจบ ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็จ้องมองมาอย่างอยากรู้อยากเห็นแม้ว่าดวงตาของเขาจะดูเป็นประกายมากขนาดไหน แต่เฟนด์ก็ยังคงรู้สึกถึงความเฉียบคมภายใน ราวกับว่าเขาจะถูกตัดสิทธิ์หากเขาไม่ขยับริมฝีปากของเฟนด์กระตุกอย่างช่วยไม่ได้ เขารีรอต่อไปไม่ได้แล้ว จึงได้แต่เดินไปยังพื้นที่ที่เขาวางแผนไว้ก่อนหน้านี้ในตอนแรกเฟนด์ไม่ได้ดึงดูดความสนใจใครมากนัก เขาอาจจะเป็นคนสุดท้ายที่ปรากฏตัวขึ้น ไม่มีใครจำเขาได้ ต่อให้เขาจะมาจากวิมานโอสถ แต่นอกจากคนที่เคยพบเขาแล้ว ก็ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใครขณะที่เขาเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกต่อไป ทุกคนก็เริ่มจ้องมองไปที่เขา ใบหน้าของรองเหรัญญิกก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นบูดบึ้งเมื่อเขาสังเกตเห็นว่าเฟนด์กำลังมุ่งหน้าไปทางใด“ผู้ชายคนนั้นคิดจะไปต่อหลังรูดี้หรือเปล่า? เขาคิดจะพิสูจน์ตัวเองด้วยการกลั่นโอสถระดับหกด้วยหรือ?”“ก็คงเป็นแบบนั้น เว้นแต่เขาจะเป็นคนโง่เง่าที่ไม่ทันได้ฟังกฎการตัดสินให้ดี ไม่งั้นคงไม่เดินไปแบบนั้นหรอก เขาเป็นใคร ทำไมฉันไม่เคยได้ยินอะไรเกี่ยวกับเขาเลย

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2448

    กิลเบิร์ตทำท่าราวกับกลืนแมลงวันเข้าไปสองสามตัว เขาคาดหวังว่ารองเหรัญญิกจะพูดคำเหล่านั้นกับเขาเสียอีก แต่กลับกลายเป็นว่ารองเหรัญญิกไม่ละสายตามามองเขาเลยแม้แต่วินาทีเดียวรองเหรัญญิกฝากความหวังทั้งหมดไว้กับเฟนด์ราวกับว่ากิลเบิร์ตและแอนดรูว์มาที่นี่เพื่อเพิ่มจำนวนคนเท่านั้นแอนดรูว์มีสีหน้าขมขื่นเช่นกัน ในอดีตเขาขัดแย้งกับกิลเบิร์ตมามากมาย และความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ไม่อาจพัฒนาไปในทางที่ดีได้แต่ต้องขอบคุณเฟนด์ที่ทำให้เขาสามารถวางเฉยต่อความแค้นทั้งหมดที่เคยมีได้แอนดรูว์พูดด้วยใบหน้าที่มืดมน “รองเหรัญญิก ดูเหมือนคุณจะฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่เฟนด์เลยนะ“แต่คุณก็น่าจะเตือนเฟนด์สักหน่อยว่าต่อให้เขาจะมีพรสวรรค์ค่อนข้างดี แต่ก็ไม่ควรหยิ่งผยองเกินไป”แอนดรูว์โกรธมากในขณะนั้นและอดไม่ได้จริง ๆ ที่จะต้องเอ่ยคำดูแคลนที่สุดเช่นนั้นออกมากิลเบิร์ตกล่าวเสริมอย่างรีบร้อนทันที “แอนดรูว์พูดถูก แม้ว่าพรสวรรค์ของเฟนด์จะค่อนข้างดี แต่เขาก็ไม่ควรหยิ่งผยองนัก คำพูดพวกนั้นไม่ได้ช่วยอะไรเลยสักนิด”เฟนด์ถึงกับพูดไม่ออกเมื่อถูกคนทั้งสองเหยียบย่ำ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเฟนด์ไม่ได้เอ่ยปากเลยสักคำ แล้วเขาจะเอาเวลา

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2447

    ในตอนแรก คอนสแตนซ์และซีนย์เพียงยืนเคียงข้างกันโดยไม่สนใจเรื่องนี้ พวกเขาต้องการปล่อยให้สถานการณ์ดำเนินต่อไปอย่างที่ควรจะเป็น แต่เมื่อว่าเกรย์สันและรูดี้เริ่มเถียงกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งสองคนก็ถูกบีบให้ต้องทำอะไรสักอย่างพวกเขาถูกบีบให้ต้องแยกรูดี้และเกรย์สันออกจากกัน นั่นก็เพราะ การทะเลาะกันของเด็ก ๆ ควรจะมีขีดจำกัด เพราะหากมันเกินขีดจำกัดไปแล้ว นั่นจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของพวกเขา นี่คือสิ่งที่รูดี้และเกรย์สันเองก็ไม่อยากเห็นเป็นเวลาเกือบสิบห้านาทีแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์นั่งบนเก้าอี้ ขณะมองดูการทะเลาะวิวาทและการพูดคุยกันอย่างเฉยเมย เมื่อหมดเวลาเขาก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้เสียงปรบมือดังขึ้นตอนที่เขาจะพูดว่า "เอาล่ะ หมดเวลาแล้ว ทุกคนต้องตัดสินใจได้แล้วว่าจะพิสูจน์ความสามารถของตัวเองยังไง”“ฉันไม่คิดว่าฉันจะต้องบอกอะไรพวกนายทุกอย่างหรอกนะ ตอนนี้ก็แยกออกเป็นกลุ่มเสีย ผู้ที่ต้องการรวมอักขระทางยาจะยืนอยู่ทางทิศตะวันออก“ผู้ที่ต้องการแยกแยะวัสดุสามารถยืนอยู่ตรงกลางได้เลย และหากจะพิสูจน์ตัวเองด้วยกันบ่มเพาะโอสถให้ไปยืนที่ทางทิศตะวันตก“ถึงอย่างนั้นฉันก็ต้องขอเตือนทุกคนก่อน หากทุกคนต้องการ

DMCA.com Protection Status