ไม่น่าแปลกใจเลย เพราะถึงยังไงพวกเขาก็ทำจนกลายเป็นเรื่องใหญ่ คนถ่ายทอดสดที่มาถึงสถานที่แล้วต่างก็พากันโพสต์วิดีโอ ส่วนคนที่มาไม่ได้ก็รีบพากันแชร์ในขณะนี้ สถานีโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ และสื่อต่างๆ มากมายแห่แหนกันเข้ามาทำข่าวอย่างบ้าคลั่งมีคนที่ได้รับชมวิดีโอก่อนหน้านี้เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้จำนวนคนที่ด่าเย่เทียนหยู่มากขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะเรื่องท่าทางเย่อหยิ่งและพฤติกรรมอำมหิตของเขาแฟนคลับสมองนิ่มของปาร์คดาฮยอนหลายคนตื่นเต้นมากเมื่อได้เห็นแบบนั้น พวกเธอภูมิใจกับพฤติกรรมอันทรงพลังในการปกป้องเจ้านายของพวกเขาผู้นำของอาณาจักรมังกรกลัวสิ่งที่ร้ายแรงที่สุด คราวนี้ ด้วยการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ พวกเขายังคงกังวลว่าจะไม่สามารถลงโทษฆาตกรอย่างรุนแรงได้โดยไม่สังเกตว่าแกนนำ สภ. ปรากฏตัวแล้ว เจ้าหน้าที่หวงก็ตะโกนดังลั่น: "ทุกคนอย่ากังวล เราจะสอบสวนความจริงอย่างเคร่งครัดและจะไม่ยอมให้ใครก็ตามที่ฝ่าฝืนกฎหมายและระเบียบวินัยหลุดลอยไป"อย่างไรก็ตามทุกคนยังคงไม่พอใจและตะโกนลั่นและเรียกร้องให้จับฆาตกรทันทีและลงโทษอย่างรุนแรงเจ้าหน้าที่หวงเองก็ทำอะไรไม่ถูก ความจริงแล้ว ในความเห็นของเขา ไม่ว
“สมควรตายจริงๆ ถ้าแกด่าพ่อแม่ฉันยังพอทน แต่แกกล้าด่าพี่ดาฮยอนของฉัน ฉันจะสู้กับแกให้ตายไปข้าง” หนึ่งในหมู่แฟนคลับพ่นประโยคไร้สมองที่ทำให้คนอื่นๆต้องตกตะลึงออกมา และเธอเป็นแค่เด็กสิบขวบเจ้าหน้าที่หวงกังวลมากจนเหงื่อไหลผุดออกมาบนหน้าผาก กองกำลังตำรวจของเขาเพียงลำพังไม่สามารถรักษาสถานการณ์ได้อีกต่อไป และทุกอย่างกำลังจะเข้าสู่ความสับสนวุ่นวายเย่เทียนหยู่ส่งเสียงเหอะเป็นเชิงเยาะเย้ยออกมาด้วยความโกรธ และเสียงนั่นก็ทำให้ฝูงชนตะลึงงันไปชั่วขณะ: “พวกคุณไม่เชื่อใช่มั้ย คืนนี้ผมจะปล่อยหลักฐานให้พวกคุณดู ให้พวกคุณได้ตาสว่างสักที” เขาพูดด้วยความโกรธทุกคนหยุดครู่หนึ่ง แต่ไม่นานก็มีคนพูดอย่างไม่มั่นใจ: "คุณต้องการนำหลักฐานประเภทใดมา ฉันคิดว่าคุณแค่อยากจะชะลอเวลาและหลบหนี"“หนีเหรอ คนโง่อย่างพวกคุณ คุ้มค่าให้ผมต้องหนีด้วยเหรอ?”เย่เทียนหยู่ดูถูกเหยียดหยาม และเสียงของเขาก็ดังพอจะเข้าถึงหูของทุกคนเมื่อทุกคนได้ยินแบบนั้น ต่างก็โมโหจนแทบคลั่งขึ้นมาทันที และอยากจะฉีกเขาเป็นชิ้นๆเจ้าหน้าที่หวงทำอะไรไม่ถูก หมอนี่ต้องบ้าไปแล้วแน่ๆแต่ในเวลานี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนมากพยายามรักษาความสงบเรียบร้อย ปร
เมื่อกลับมาที่ห้อง หลินหว่านหรูอดไม่ได้ที่จะถามด้วยความกังวล: "เทียนหยู่นายเตรียมหลักฐานทั้งหมดแล้วจริงๆ เหรอ?""แน่นอน!"เย่เทียนหยู่ยืนยัน ถ้าหากไม่ต้องเตรียมตัวให้เรื่องของหลินหว่านหรูมากหน่อย ทุกอย่างคงจะเรียบร้อยก่อนแล้วเพราะเรื่องคราวนี้ อาจโปรโมตไปถึงเครื่องสำอางของหลินซื่อกรุ๊ป แต่ถึงเขาจะใจดีสุดๆ แต่เขาก็ไม่อาจปล่อยให้คนอย่างแม่ตระกูลหลินระเริงใจมากไปนักประเด็นเพราะนิสัยของแม่ตระกูลหลิน เวลาได้รับผลประโยชน์ เธอไม่เพียงแต่ไม่เคยรู้สึกขอบคุณ แต่เธออาจจะแว้งมาเยาะเย้ยหลินหว่านหรูไม่อย่างนั้น เขาคงไม่ต้องกังวลกับการปล่อยให้แม่หลินฉวยโอกาสพูดถึงแม่หลินถึงแม้จะเป็นวันแรกที่เธอเข้ารับตำแหน่ง แต่มันก็ไปได้ไม่ดีนัก เพราะคนที่เป็นระดับลูกน้องของเธอไม่มีความประทับใจในตัวเธอเลยยิ่งไปกว่านั้น คือทันทีที่เธอเข้ารับตำแหน่ง เธอก็เข้ามาชี้แนะอะไรมากมายราวกับตัวเองรู้ทุกอย่างเป็นอย่างดีสิ่งสำคัญที่สุดคือต้องมีสามสิ่งเพื่อให้เจ้าหน้าที่ใหม่เข้ารับตำแหน่ง พวกเขาจะต้องควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างเข้มงวดและลดรางวัลที่ไม่จำเป็นมากมาย ซึ่งก็คือการลดเงินเดือนของทุกคนแค่ลดค่าจ้างไม่สะดวกจริงๆ
“จะอะไรได้อีก ก็แค่ถ่วงเวลาแล้วพยายามหาทางหนี ถ้าไม่เชื่อก็รอดู ตอนสามทุ่มพวกนั้นปล่อยอะไรออกมาไม่ได้หรอก”เวลาสองทุ่มเป็นเวลาที่พอเหมาะพอดี แต่ถ้าสามทุ่มออกจะดึกไปหน่อย ถ้าเลยช่วงเวลานั้นไป คงจะไม่มีหลักฐานแน่ถึงได้ทำแบบนั้นเมื่อทุกคนได้ยินคำพูดของปาร์คดาฮยอน พวกเขาต่างก็เห็นด้วยโดยเฉพาะผู้หญิงที่เดินทางมาด้วยกัน เธอชมเขาไม่ขาดปากว่าเก่งกาจแค่ไหนพี่ดาฮยอนเก่งทุกอย่างจริงๆ ถึงแม้ว่าเขาจะต้องเสพยาก็ตามที“ดาฮยอน ดูสิ พวกเขาโพสต์บัญชีติ๊กต็อก ได้ยินมาว่าพวกเขาจะลงหลักฐานในนั้น” ผู้จัดการรีบพูด“แล้วพวกเขาลงหรือยัง?” ปาร์คดาฮยอนถาม“ยังหรอก”“ก็นั่นละ หลอกลวงคนอื่นใครจะทำไม่เป็น ไม่เห็นเหรอว่าออฟฟิศเชียลของแพลตฟอร์มก็ไม่ได้ออกมาพูดอะไร?”“นั่นสินะ”ที่แท้แล้วตอนนั้นเอง เมื่อบรรลุข้อตกลงแล้ว เย่เทียนหยู่จึงเป็นผู้นำในการลงทะเบียนบัญชีในนามของหลินหว่านหรู และแจ้งลงในบัญชีนั้นว่าจะมีการเผยแพร่หลักฐานในตอนแรกทุกคนไม่เชื่อ แต่พวกเขาก็ทนไม่ไหวอีกต่อไปและอยากจะเชื่อมัน ผู้คนก็เริ่มเชื่อมันมากขึ้นเรื่อยๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากนั้นไม่นาน เจ้าหน้าที่แพลตฟอร์มก็ยืนยันเรื่องนี้ ในขณ
ทันทีที่สี่ทุ่มมาถึง เย่เทียนหยู่ก็โพสต์วิดีโอทันทีโดยใช้บัญชีของหลินหว่านหรูส่วนนี้บันทึกกระบวนการทั้งหมดอย่างสมบูรณ์ตั้งแต่เริ่มต้นตอนที่พวกเขากำลังรอลิฟต์จนถึงตอนที่เย่เทียนหยูทุบตีผู้คน รวมถึงบอดี้การ์ดด้วยทันทีที่วิดีโอตัวเต็มออกมา ทุกคนก็เริ่มโต้เถียงกันอย่างระมัดระวัง น่าเสียดาย เนื่องจากไม่มีเสียง จึงไม่รู้ว่าเขาพูดอะไรกันแน่แต่เห็นได้ชัดว่าปาร์คดาฮยอนเห็นผู้จัดการหลินก่อนและพูดอะไรบางอย่างซึ่งทำให้เกิดเหตุการณ์ต่อเนื่องตามมา แสดงให้เห็นว่า หลินหว่านหรูไม่ได้เริ่มเข้าหาปาร์คดาฮยอนก่อนแต่ถึงอย่างนั้น ก็ไม่ได้หมายความว่าเย่เทียนหยู่มีสิทธิ์ที่จะใช้ความรุนแรงกับผู้อื่นแต่ว่าผู้จัดการต้องตกใจเมื่อเห็นวิดีโอฉบับเต็มและรีบไปพบปาร์คดาฮยอน เพื่อรายงาน เพราะตอนนั้นเขาทุ่มเงินทำลายกล้องวงจรปิดอย่างชัดเจนปาร์คดาฮยอนสะดุ้ง แต่เมื่อเขารู้ว่ามันเป็นแค่วิดีโอ เขาก็เยาะเย้ยทันที: “ถึงจะมีวิดีโอที่สมบูรณ์แต่ก็ไม่มีเสียง พิสูจน์อะไรไม่ได้หรอก”“ถึงยังไง การที่เขาทำร้ายผู้หญิงแล้วก็ใช้ความรุนแรงหลังจากนั้นก็เป็นเรื่องผิดอยู่ดี”ปาร์คดาฮยอนกล่าวขณะอ่านความคิดเห็นด้านล่าง แม้ว่าหลายคนจ
สถานการณ์ในตอนนั้นทุกคนต่างก็กำลังโมโหผู้เห็นเหตุการณ์อดไม่ได้ที่จะก่นด่าด้วยความโกรธ: “บ้าจริง นี่ฉันตาบอดหรือไงที่มาซัพพอร์ตพวกขยะนี่”“บ้าเอ้ย ผู้หญิงคนนี้หน้าด้านเป็นบ้าเลย ถ้าฉันไปอยู่ในที่เกิดเหตุ มีหวังฉันตบยัยนั่นจนแยกเหนือใต้ออกตกไม่ออกแน่”“ฉันผิดไปแล้ว ขอโทษนะพี่ชาย ที่ก่อนหน้านี้ฉันด่าคุณ”“มีคนแบบนี้ได้ยังไง? ปาร์คดาฮยอนคนนี้ น่าขยะแขยงจริงๆ เลย”“บอกไปนานแล้วว่าต้องมีอะไรผิดปกติ เป็นอย่างที่พูดจริงด้วย!”“อย่างเขาน่ะเหรอแบบอย่างศิลปิน น่าจะเป็นได้แค่แบบแม่พิมพ์ขนมปังมากกว่า ขยะจริงๆเลย”“ขอโทษนะคุณหลิน ฉันผิดไปแล้วละ!”“คุณหลิน เราเข้าใจคุณผิด เราขอโทษนะ” พวกเขาไม่รู้จักชื่อเย่เทียนหยู่ แต่พวกเขารู้จักหลินหว่านหรู“…”ทันใดนั้น กระแสทั้งหมดก็เปลี่ยนไป และหลายคนก็ขอโทษความผิดของตัวเองก่อนหน้านี้ทันใดนั้น คำว่า “ขอโทษ” ก็ถูกพิมพ์ส่งเข้ามาอย่างล้นหลาม โดยเฉพาะ กับคนที่หน้าตาสวยอย่างกับนางฟ้าแบบเธอในตอนแรกทุกคนใช้อารมณ์มองเหตุการณ์ แต่ตอนนี้เมื่อมองดูอีกครั้ง ผู้จัดการหลินสวยสมบูรณ์แบบมากจนเกินจินตนาการ ถ้าเธอมาเป็นคนถ่ายทอดสดบ้างละก็ เธอจะต้องใช้ความสวยฆ่าคนนั
แม้หลายความคิดเห็นจะมีอคติเล็กน้อย แต่ผู้ฟังที่เป็นกลางหลายคนเริ่มเข้าข้างหลินหว่านหรูกับเย่เทียนหยู่อย่างชัดเจน จะมีก็แต่บรรดาแฟนคลับตัวยงเท่านั้นที่ยังพยายามคืนความบริสุทธิ์ และยังออกหน้าพูดแทนปาร์คดาฮยอนทิศทางของเรื่องราวทั้งหมดเริ่มวุ่นวาย ก่อให้เกิดความขัดแย้งครั้งใหญ่ แต่เพราะเป็นแบบนี้ เหตุการณ์จึงขยายวงกว้างขึ้นไม่หยุดเมื่อผู้จัดการเห็นแบบนั้น เขาก็รีบรายงานปาร์คดาฮยอน ส่วนปาร์คดาฮยอนก็ส่งเสียงเหอะออกมาด้วยความไม่แยแส: “มีอะไรอีก”“คือ คุณดูเองเถอะ”ผู้จัดการไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากส่งโทรศัพท์ให้ปาร์คดาฮยอน ปาร์คดาฮยอนหยิบมันขึ้นมาดู และเห็นเนื้อหาของวิดีโอ สิ่งที่เขาพูดและสิ่งที่เขาทำนั้นชัดเจน ใบหน้าของเขาซีดเผือดด้วยความตกใจและความโมโหที่ปะปนกัน“แม่งเอ้ย ได้ยังไงกันวะ ทำไมมีวิดีโอที่บันทึกเสียงไว้ชัดเจนแบบนี้”เมื่อเห็นคำวิพากษ์วิจารณ์อย่างท่วมท้นปาร์คดาฮยอนก็เริ่มวิตกกังวลและสั่งทันที: “ไป ซื้อพวกหน้าม้ามาเพิ่ม เราต้องเปลี่ยนความเห็นของผู้คน”“แล้วก็ หากคุยกับแพลตฟอร์ม จะจ่ายเงินเท่าไหร่ก็ได้ พยายามกดเรื่องนี้ให้เงียบไปซะ”เพียงแต่ ผู้จัดการดูหมดหนทาง และมันก็เ
“อ่า แต่พอฉันส่งคุณไปที่ห้องพักแล้วฉันก็กลับไปที่โรงแรมทันที” หยางไฉ่อวิ๋นไม่ค่อยอยากจะเชื่อเย่เทียนหยู่ตกตะลึงเล็กน้อย เขาไม่คาดคิดว่าผู้หญิงคนนี้จะเป็นห่วงพวกเขาจริงๆ เขายิ้มและพูดว่า: “ตอนที่ผมเข้าลิฟต์ผมได้เตรียมการเอาไว้ก่อนแล้ว อีกอย่างผมใช้วิธีการที่พิเศษ แม้แต่คนของโรงแรมก็ไม่รู้หรอก”เมื่อได้ยินแบบนั้นหยางไฉ่อวิ๋นก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึง ที่แท้เขาก็มีวิธีการที่น่าแปลกใจแบบนั้นซ่อนอยู่สินะ: “แต่ วิดีโออันหลังดูเหมือนคุณเป็นคนถ่ายเลย แต่ฉัน...”“แต่คุณไม่เห็นว่าผมถ่ายงั้นสินะ”เย่เทียนหยู่ยิ้มและพูดว่า “ผมมีกล้องรูเข็มและเครื่องบันทึกเสียงอยู่บนร่างกาย ซึ่งทั้งสองอย่างนี้สามารถบันทึกทุกอย่างได้อย่างสมบูรณ์ แค่ขึ้นอยู่กับว่าผมอยากจะใช้มันหรือเปล่าเท่านั้นเอง”“เอาละ คุณคงไม่มีธุระอะไรแล้วใช่มั้ย?”“ไม่…ไม่มีแล้วค่ะ รอเดี๋ยวก่อนค่ะ คือเรื่องต่อจากนั้น…” หยางไฉ่อวิ๋นรู้สึกสงสัยมากเมื่อเธอนึกถึงเหตุการณ์ต่อจากนั้น“เรื่องหลังจากนั้นรอคืนพรุ่งนี้คุณจะได้รู้เอง”เย่เทียนหยู่ส่งเธอออกไป ก่อนจะส่ายหน้าแล้วพูดว่า: “ผู้หญิงคนนั้นมีความสามารถทีเดียว ถ้าคุณฝึกฝนเธออย่างดี เธอจะเป็นคน
“ครับ เจ้านาย!”เมื่อได้ยินคำพูดของเย่เทียนหยู่ หยางผั่วจวินก็กลับไม่โต้แย้งเลยแม้แต่คำเดียว เขาเพียงก้มตัวและโน้มศีรษะด้วยท่าทีเคารพเท่านั้น ก่อนจะถอยกลับไปฉากนี้ ทำให้ทุกคนรู้สึกตกตะลึงอีกครั้งอย่างอธิบายไม่ได้เมื่อกี้ท่าทีของหยางผั่วจวินดูหยิ่งยโสอย่างมาก แทบจะไม่มีใครสามารถเทียบเคียงเขาได้เลย แต่เมื่อเขาต้องเผชิญหน้ากับเจ้าตำหนักหยู่ กลับแสดงท่าทีเคารพออกมาเสียอย่างนั้น ให้เกียรติมากถึงขั้นเรียกว่าเจ้านายเลยด้วยที่สำคัญเลยก็คือ ดูเหมือนว่าเขาจะทำเพราะความเต็มใจเสียด้วยซ้ำนี่จึงยิ่งทำให้ในใจของเจวี๋ยเทียนเกิดความมืดมนขึ้นมานิดหน่อย แต่เมื่อลองนึกดูอีกที ต่อให้เจ้าตำหนักหยู่จะแข็งแกร่งมากแค่ไหน ก็คงไม่มีทางแข็งแกร่งถึงขั้นนั้นแน่นอนเว้นเสียแต่ว่า เขาจะเลื่อนขั้นถึงระดับเทพยดาแดนดินแล้วแต่นั่นก็เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ในวัยแค่นี้ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันก็ยังไม่มีใครสามารถทำได้ส่วนหยางผั่วจวิน เจ้าเด็กนั่นมีร่างกายที่แปลกประหลาด เขามีพรสวรรค์ที่โดดเด่น แตกต่างจากคนทั่วไปอย่างสิ้นเชิง นั่นจึงไม่อาจมองเขาเป็นแค่คนธรรมดาได้เพราะด้วยเหตุนี้ เจวี๋ยเทียนจึงคิดว่าเย่เทียนห
แต่สีหน้าของเจวี๋ยซินกลับเริ่มเจ็บปวดมากขึ้นเรื่อย ๆ เขาถึงขั้นยอมสละทุกอย่างออกไปจนหมดแล้วแท้ ๆ แต่กลับทำอะไรอีกฝ่ายได้เลยไม่มีกระทั่งบาดแผลเลยแม้แต่น้อย!เป็นไปได้ยังไง ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้!ทันใดนั้นเลือดก็พุ่งออกจากปาก ก่อนจะสลบไปในทันที“เจวี๋ยซิน!”เจวี๋ยเทียนตกใจมาก เขาจึงรีบตรวจสอบร่างกายของเขาโชคดี ที่มันเป็นแค่ผลข้างเคียงจากการใช้ยาจนร่างกายอ่อนแอลงก็เท่านั้น ก่อนจะนำยาสองสามเม็ดให้เขากิน จากนั้นจึงเรียกให้ยอดฝีมือคนอื่นพาไปดูแลต่อเมื่อเห็นเจวี๋ยซินกำลังถูกยกลงไปจากสนาม แววตาของหยางผั่วจวินก็เป็นประกาย ก่อนจะพูดว่า “เจวี๋ยเทียน เจวี๋ยซินถูกฉันจัดการจนอยู่ในสภาพนี้แล้ว มันกลายเป็นสวะไปแล้ว งั้นแกก็รีบขึ้นมาแก้แค้นแทนเขาเถอะ มาจัดการฉันซะสิ?”“......”คนอื่น ๆ ต่างก็หมดคำจะพูด หยางผั่วจวินคนนี้ต้องการจะทำให้เจวี๋ยเทียนโกรธจนตายเลยรึไง อวดดีเกินไปแล้วพวกเขาคิดแค่ว่าหยางผั่วจวินกำลังตั้งใจจะดูถูกเจวี๋ยเทียน แต่จริง ๆ แล้วหยางผั่วจวินแค่ต้องการต่อสู้เท่านั้นทุกคนต่างก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองเจวี๋ยเทียน เพื่อดูว่าจะรับมือกับอีกฝ่ายอย่างไรหากเขาปฏิเสธ นั่นก็เท่ากับ
เจวี๋ยซินส่งเสียงคำรามออกมาเสียงดัง ร่างกายของเขากลับมามีพลังที่เพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่งอีกครั้ง ทำให้ท่าทีของเขาดูเหมือนคนบ้ายิ่งกว่าเดิม ดวงตาของเขาแดงก่ำสีหน้าของหยางผั่วจวินดูมืดลง เขารู้ ว่าอีกฝ่ายกำลังจะใช้ท่าไม้ตายแล้วหลังจากท่านี้ถูกปล่อยออกมา อีกฝ่ายจะไม่สามารถต่อสู้ได้อีกแน่นอนตัวเขาเองก็ทำการรวบรวมกำลังภายในของตนด้วยเช่นกัน ความน่าสะพรึงกลัวของชี่แท้ถูกหลอมรวมเอาไว้ที่หมัดทั้งสองข้างทันที เพื่อเตรียมพร้อมรับการโจมตีที่ดีที่สุดทุกคนต่างจ้องมองฉากตรงหน้าด้วยความตั้งใจ เพราะพวกเขารู้ดีว่าหลังจากทำการปล่อยท่านี้ออกไป ผลแพ้ชนะของทั้งสองก็จะปรากฏออกมาแล้วเป็นอย่างที่คิด เวลาหลังจากนั้นผ่านไปเพียงชั่วขณะ ความแข็งแกร่งอันทรงพลังทั้งสองก็เข้าปะทะกันอย่างรุนแรงทันใดนั้น บรรยากาศรอบ ๆ ราวกับฟ้าถล่มดินทลาย เสียงระเบิดที่น่ากลัวดังขึ้นซ้อนกันเป็นระยะ ๆ ทั่วทั้งพื้นที่โดยรอบมีเพียงกระแสของกำลังภายในที่น่าทึ่งลอยเต็มไปหมดพื้นที่ทั้งหมดถูกฉีกขาดอย่างสมบูรณ์ กลายเป็นพายุหมุนที่พัดผ่านไปมาทั้งสองคนติดอยู่ด้านในกับสถานการณ์ที่ไม่อาจมองเห็นได้อย่างชัดเจนผลกระทบที่เกิดจากพลังอันน
“สายเกินว่าที่แกจะเข้าไปขวางแล้วล่ะ”“ก็แล้วแต่แกจะคิด เสร็จรึยัง ฉันแทบรอไม่ไหวแล้วเนี่ย” หยางผั่วจวินพูดด้วยความตื่นเต้น รู้สึกราวกับว่าคนตรงหน้าคือสาวงามที่หาใดเปรียบแทบอยากกระโจนเข้าไปกระชากเสื้อผ้าออกจนเกลี้ยงเขาแทบรอไม่ไหวแล้วจริง ๆคนอื่น ๆ ต่างมองฉากนี้ด้วยความงงงวย และหมดคำจะพูดไปโดยสิ้นเชิงบางครั้งพวกเขาก็อยากจะพูดออกไปว่า เจ้าเด็กนี่กำลังรนหาที่ตายอยู่รึไง ในตอนแรกพวกเขาอาจจะคิดแบบนี้ แต่ผลที่ได้กลับกลายเป็นว่าหมัดที่ทรงพลังนั้นได้ตอบคำถามทั้งหมดกับพวกเขาครั้งแล้วครั้งเล่าพวกเขาคิดผิด กระทั่งผิดจนไม่อาจให้อภัยได้เลยทีเดียวแต่คำพูดนี้ กลับทำให้เจวี๋ยซินโกรธจัดทันทีเห็นเพียงกำลังภายในของเจวี๋ยซินที่กำลังพุ่งสูงขึ้นจนถึงจุดที่น่ากลัว ดวงตาสองข้างแดงก่ำ จ้องมองไปทางหยางผั่วจวินอย่างโหดเหี้ยม ก่อนจะพูดด้วยความโกรธออกไปว่า “เจ้าหนู แกตายซะเถอะ!”หลังจากที่เขาพูดจบ เจวี๋ยซินก็พุ่งตรงเข้าหาหยางผั่วจวินทันที พร้อมกับพลังที่เพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่ง ความแข็งแกร่งที่น่าสะพรึงกลัวจนน่าตกใจ“เข้ามาเลย!”หยางผั่วจวินเองก็ตรงเข้าไปเผชิญหน้าโดยตรงเช่นกัน เมื่อเขาเห็นพลังที่เพิ
เมื่อเห็นว่าหยางผั่วจวินไม่ได้รับบาดแผลเลยแม้แต่น้อย แถมยังแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ อีกต่างหาก เจวี๋ยซินกลับแทบพังทลายอยู่รอมร่อ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็เป็นคนที่ภูมิใจในตัวเองมาโดยตลอด จะให้ทนอับอายอยู่แบบนี้ได้อย่างไรเมื่อเจวี๋ยเทียนเห็นฉากนี้ สีหน้าเขาก็เปลี่ยนไปเล็กน้อยแย่แล้ว! สถานการณ์แบบนี้เขาไม่มีทางยอมแพ้แน่ เกรงว่าเขาคงจะเปิดใช้เวทอาคมเป็นแน่ จะทำอย่างไรดีเป็นอย่างที่คิด เห็นเพียงแววตาแดงก่ำของเจวี๋ยซิน เขาบ่นพึมพำขึ้นมาว่า “เวรเอ้ย ฉันไม่มีทางยอมแพ้ให้กับเด็กเมื่อวานซืนอย่างแกแน่!”ทันทีที่เขาพูดจบ มือขวาของเขาก็ยาเม็ดหนึ่งออดมา ก่อนจะกลืนมันลงไปทันทีสีหน้าเจวี๋ยเทียนเปลี่ยนไปอย่างมาก คนอื่นอาจจะยังไม่รู้ แต่เขากลับรู้ดีว่าเจวี๋ยซินคิดจะทำอะไรเขาต้องการที่จะหยุดยั้งเอาไว้ แต่สุดท้ายก็ยังไม่ทันแม้แต่จะได้เอ่ยปาก เพราะนอกจากสิ่งนี้ ก็แทบจะไม่มีวิธีที่ดีกว่านี้อีกแล้วทุกคนต่างพากันชะงักไปชั่วขณะ การที่เลือกกินยารักษาบาดแผลในเวลานี้ เกรงว่าคงจะไม่ช่วยอะไรมากนักแต่ในเวลาต่อมา เจวี๋ยซินก็ได้เริ่มทำการใช้วิชามารที่คนทั่วไปไม่สามารถใช้ได้อย่าง วิชามหาเวทสลายชีพจรทันที ผ่านไป
“เข้ามาเลย!”สีหน้าหยางผั่วจวินเต็มไปด้วยความตื่นเต้น เขาเองก็เริ่มด้วยเช่นกันในชั่วพริบตา ทั้งสองต่างก็นำพาพลังอันน่าสะพรึงกลัวพุ่งเข้าปะทะกันอย่างรุนแรง ในเวลาอันสั้น ทั้งสองกลับมีการแลกกระบวนท่ากันไปแล้วกว่าสิบกระบวนท่าภายใต้การโจมตีครั้งแล้วครั้งเล่า ก็ได้มีการปลดปล่อยพลังที่น่ากลัวออกมาเรื่อย ๆ ทำให้ผู้ชมต้องตกตะลึงไปกับความตื่นตาตื่นใจทุกคนต่างจ้องมองการต่อสู้บนสนามโดยไม่ละสายตาหลัก ๆ แล้วการต่อสู้ของทั้งสองนั้นน่ากลัวและแข็งแกร่งมาก ทั้งชีวิตนี้ เกรงว่าคงไม่มีโอกาสได้เห็นการต่อสู้แบบนี้อีกแล้วนอกจากนี้ พวกเขาต่างก็มีผู้สนับสนุนของตนเองเวลาผ่านไปนานพอสมควร ทั้งสองถึงได้แยกออกจากกันหลังจากการเข้าปะทะกันอย่างรุนแรง หยางผั่วจวินหัวเราะออกมาเสียงดัง ก่อนจะพูดอย่างมีความสุขออกไปว่า “สะใจ นี่สิ ถึงจะเรียกว่าการต่อสู้!”“คนเมื่อกี้ มารโลหิตอะไรนั่นก็เป็นได้แค่ขยะเท่านั้นแหละ!”“......”ทุกคนที่กำลังตั้งใจดูการต่อสู้ จู่ ๆ พูดแบบนี้ขึ้นมา เสียมารยาทเกินไปไหมถ้าบอกว่ามารโลหิตคือขยะ เช่นนั้นพวกเราล่ะ?สีหน้าเจวี๋ยซินดูเคร่งเครียด แม้จะเป็นเพียงระยะเวลาสั้น ๆ เขาก็แทบจะใช
ฉากนี้ทำให้ทุกคนที่เห็นเหตุการณ์พากันตกตะลึงไปตาม ๆ กันทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก เร็วจนพวกเขาไม่มีเวลาให้ได้ตอบสนองเลยด้วยซ้ำในเวลาอันสั้น เพียงแค่ไม่กี่ลมหายใจ สถานการณ์ในสนามก็เปลี่ยนแปลงอย่างมาก มารโลหิตถูกสังหารในทันทีไม่ว่าใครก็คาดไม่ถึงว่าหยางผั่วจวินจะลงมือได้อย่างรวดเร็ว คาดไม่ถึงว่าเขาจะมีความแข็งแกร่งที่น่ากลัวขนาดนี้ แถมยังลงมือได้อย่างโหดเหี้ยมอีกต่างหากบอกได้เลยว่า ในตอนนั้นมารโลหิตเองก็คิดไม่ถึงเหมือนกัน ว่าตนจะต้องมาพบกับชะตากรรมเช่นนี้ในใจของตู๋เปียนฝูและบรรพจารย์หวงเฉวียนต่างก็อดไม่ได้ที่จะสั่นสะท้าน พลังของพวกเขาต่างจากมารโลหิตก็จริง กระทั่งยังแข็งแกร่งกว่านิดหน่อยด้วยซ้ำ แต่เมื่ออยู่ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ หากพวกเขาบุกเข้าไป ก็มีเพียงความตายเท่านั้นที่รอพวกเขาอยู่ในเวลานี้ พวกเขารู้สึกโชคดีมากจริง ๆโดยเฉพาะตู๋เปียนฝู เมื่อกี้เขาเองก็กำลังคิดที่จะลงมือเช่นกันถ้าหากเขาลงมือจริง ๆ ตอนนี้คนที่นอนกองอยู่บนพื้นก็คงเป็นเขาไปแล้วปรมาจารย์ที่แท้จริง น่ากลัวขนาดนี้เชียวเหรอ?พวกเขาเองก็อดไม่ได้ที่จะสงสัยว่าระดับปรมาจารย์ที่ตนมีอยู่ตอนนี้จะเป็นของปลอมรึเปล่าเย
พลังทั้งสองปะทะกันอย่างบ้าคลั่ง แรงกดดันมหาศาลกระจายออกไปทั่วทุกสารทิศ ราวกับพายุฝนฟ้าคะนอง น่าสะพรึงกลัวและน่าตกใจอย่างมากอึก!มารโลหิตร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด เลือดพุ่งออกมาจากปาก ก่อนที่ตัวเขาจะเดินถอยหลังอย่างควบคุมไม่ได้เพียงแค่หมัดเดียว อวัยวะภายในของเขาก็ได้รับการกระแทกอย่างรุนแรงจนไม่เหลือชิ้นดี สภาพดูน่าอนาถมาก เห็นได้ชัดว่าภายในได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรงต้องเข้าใจก่อนว่า ความสามารถของเขาเองก็อยู่ในระดับปรมาจารย์ขั้นสูงสุดเช่นกันแม้ว่าระยะเวลาในการบรรลุจะเพิ่งผ่านไปได้ไม่นาน แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็อยู่ในระดับปรมาจารย์ขั้นสูงสุดแล้วพูดตามตรง ความแข็งแกร่งของเขายังห่างจากหยางผั่วจวินอยู่มาก ซึ่งความแข็งแกร่งของหยางผั่วจวินตอนนี้ก็ได้ไปถึงคอขวดของระดับปรมาจารย์ขั้นสูงสุดแล้ว บวกกับร่างกายที่ไม่เหมือนใครของหยางผั่วจวินที่ทำการโจมตีอย่างฉับพลันนั่นอีก ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่เขาจะสามารถรับกระบวนท่านี้ของอีกฝ่ายได้ ช่างเป็นความเร็วที่น่าทึ่งจริง ๆ!เป็นพลังที่น่าสะพรึงกลัวมาก!ทุกคนที่เห็นฉากนี้ ต่างก็ตกตะลึงไปตาม ๆ กัน แบบนี้มันน่ากลัวเกินไปแล้วเมื่อเทียบกันแล้ว เห็นได้
ทันทีที่พูดประโยคนี้ออกมา ทุกคนต่างก็ตกตะลึงทันที!สามหาว!สามหาวเกินไปแล้ว!นี่มันสามหาวจนเกินเยียวยาแล้วจริง ๆ!เยว่เหลียนหานและคนจากสำนักดอกไม้ตกตะลึงไปตาม ๆ กัน จนเกือบคิดว่าตัวเองประสาทหลอนไปแล้วเสียอีก แม้จะรู้อยู่แล้วว่าหยางผั่วจวินคนนี้แข็งแกร่งมากก็เถอะ แต่นี่มันก็บ้าเกินไปแล้ว คิดจริง ๆ เหรอว่าตัวเองจะมีความสามารถมากขนาดนั้น ถึงคิดที่จะสู้กับปรมาจารย์ยอดฝีมือพร้อมกันทีเดียวหลาย ๆ คนอีกอย่าง แค่เจวี๋ยซินคนเดียวก็อาจเพียงพอที่จะทำให้เขาต้องทนทุกข์ทรมานได้แล้ว ยังไงซะ นั่นก็เป็นถึงคนที่มีฝีมือเทียบเท่ากับชิงหลงอย่าว่าแต่พวกเขาเลย แม้แต่มู่หรงอินเองก็ยังชะงักไปชั่วขณะ ความรู้สึกตกใจเผยออกมาจากแววตาของเธอลูกน้องของลูกชายตนช่างอวดเก่งเสียจริง ไม่เห็นเจวี๋ยเทียนอยู่ในสายตาเลยด้วยซ้ำ คิดจะลุยเดี่ยวเลยรึไงดวงตาของทูตใหญ่เบิกกว้าง สีหน้าเต็มไปด้วยความตกใจจูเก่อหลิวหลีกลับรู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก สมแล้วที่เป็นลูกน้องของคุณชาย ยอดเยี่ยมจริง ๆอย่าว่าแต่พวกเขาเลย เย่เทียนหยู่เองก็ตกตะลึงไปชั่วขณะเช่นกันเชี่ย!เจ้าเด็กนี่ เพื่อที่จะแย่งคู่ต่อสู้มาให้ได้ จำเป็นต้องขนาดนี้เ