“หยุดบ้าก่อนได้ไหมคุณ โอ๊ะ โอ๊ย...!” คนตัวโตร้องลั่น เพราะคราวนี้ถูกอีกฝ่ายจู่โจมด้วยการก้มลงมางับปลายจมูกจนถึงกับหน้าชาวูบจะบ้าตาย ชาติก่อนยายนี่เป็นหมาร็อตไวเลอร์หรือไงนะ กัดได้กัดดีไม่ไหวแล้วนะ...“ว้าย!” หมีแพนด้าพันธุ์ร็อตไวเลอร์แหกปากลั่น เมื่อถูกเขากระชากร่างเข้าหาและตวัดกอดรัดแน่น ก่อนที่เขาจะเป็นฝ่ายพลิกกายจับกดและขึ้นคร่อมเธออย่างรวดเร็ว“จะทำอะไร ไอ้คนบ้ากาม ปล่อยนะ”“ปล่อยให้โง่สิ อา...เจ็บชะมัด ผู้หญิงบ้าอะไรเนี่ย” รวินรุตม์กัดฟันกรอด ปลายจมูกแดงเป็นรอยเขี้ยว แสบระบมไม่หาย“ก็...ก็นายอยากมาปล้ำฉันก่อนทำไมล่ะ”รวินรุตม์สูดลมหายใจเข้าปอดระงับอารมณ์เดือดปุดๆ กับข้อกล่าวหาที่อีกฝ่ายโยนใส่หน้า“ทำไม เถียงไม่ออกละสิ นายมัน...อุ๊บ!” เสียงโหวกเหวกนั่นถูกกลืนหายเข้าไปในลำคอ เมื่อผู้ถูกกล่าวหาประกบริมฝีปากลงมา ‘จูบปิดปาก’ เสียก่อนดวงตากลมโตเบิกค้าง ร่างกายเหมือนถูกไฟฟ้าแรงสูงช็ชอร์ตจนชาวาบ ก่อนเปลี่ยนเป็นร้อนวูบเพราะเจอจูบสูบวิญญาณนั่นปล้นลมหายใจไป ชายหนุ่มขบเม้มเรียวปากนุ่มแต่ร้ายกาจของเธอเป็นการลงโทษ ก่อนส่งปลายลิ้นอุ่นซ่านเข้าไปป่วนในรวงน้ำหวานจนหญิงสาวตั้งรับแทบไม่ทัน จูบที่
“ทั้งตัว! ตั้งแต่เจอคุณนี่ ผมก็น่วมไปหมดทั้งตัวแล้ว” เจ้าของใบหน้าเย็นชาเอ่ยหน้าตาย “คุณจะรับผิดชอบยังไงไม่ทราบ”“คุณคงไม่...เอ่อ...แจ้งความจับฉันใช่ไหม” คนพูดทำหน้าเจี๋ยมเจี้ยมปะเหลาะ เมื่อเห็นอีกฝ่ายคว้าโทรศัพท์มือถือที่ตกข้างตัวขึ้นมาก็หน้าเสีย ตายแล้วไอ้แพนด้าเอ๊ย เพิ่งไปเยี่ยมห้องกรงมาหมาดๆ นี่เธอต้องกลับเข้าไปนอนห้องกรงเสียเองแล้วหรือนี่ ฮือ...“เอ้า โทรศัพท์ของคุณ” สาวจอมโก๊ะรับโทรศัพท์มือถือตัวเองมางงๆ ก่อนนึกขึ้นได้ฉิบหายแล้ว! พี่ดาวโทร. มานี่หว่า...หน้าจอที่ดับสนิทบอกว่าปลายสายวางหูไปแล้ว แต่ทว่าประกายดาวจะได้ยินเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแค่ไหนกัน ป่านนี้สาวใหญ่คงมโนไปไกลลิบโลกแล้ว เฮ้อ...หมดกันชีวิตฉัน...เหมือนจะได้ยินเสียงผู้สมรู้ร่วมคิดขยับกายทำท่าจะผละลุกหนีไป จึงหันขวับ“แล้วนั่นคุณจะหนีไปไหนน่ะ” ดวงตาเขียวขุ่นตวัดมองอย่างพาลๆ“ผมเหนียวตัวอยากอาบน้ำสักหน่อย” คนฟังหันขวับทันใด“อาบน้ำ!”ติ๋งๆ เสียงน้ำลายหกเมื่อสมองอันสุดเพี้ยนของเธอผุดภาพเรือนร่างกำยำสุดเซ็กซี่เร่าร้อน มีหยดน้ำใสๆ ไหลย้อยลงมาตามกล้ามเนื้อแน่นๆ เป็นมัดๆ ลงมาที่ซิกซ์แพ็กเป็นลอนสวยๆ น่าขย้ำ และหยดซึมเข้าไปในผ้
ก็นับว่ายังดีที่รู้ตัวว่าเสียมารยาท แต่ไอ้ประกายตาวิบวับที่มองมานั่นคืออะไรกัน“นี่มันก็บ่ายแก่ๆ แล้ว ถ้าคุณหิวก็ลองเข้าไปดูในครัวสิ น่าจะพอมีของกินอยู่บ้าง” เขาเสนออย่างใจกว้าง “ผมขอไปจัดการตัวเองก่อน ตามสบายนะ เดี๋ยวมา”คนเป็นแขกมองตามแผ่นหลังกว้างของเจ้าของห้องที่เดินเข้าห้องน้ำไปด้วยความรู้สึกตงิดๆ แปลกๆ บรรยากาศมันคล้ายๆ กับช่วงข้าวใหม่ปลามันของคู่แต่งงานยังไงบอกไม่ถูก ผิดแต่ว่าเธอไม่ใช่เมียเขา แล้วเขาก็คงไม่มีวันลดตัวลงมาให้เธอไปช่วยขยายเผ่าพันธุ์หมีขั้วโลกให้หรอกเฮ้อ...เรื่องมันชักจะเลยเถิดไปกันใหญ่แล้วพริตตีสาวสุดเพี้ยนส่ายหน้าก่อนทุ่มกายลงนอนแผ่หลามองเพดานอย่างหมดอาลัยตายอยาก นึกไม่ออกว่าชีวิตตัวเองยังจะบัดซบได้มากกว่านี้อีกไหมหนอ...“นี่คุณ! ยังอยู่ในห้องหรือเปล่า ช่วยหยิบผ้าเช็ดตัวให้ผมหน่อยสิ!”ตาขวาของหญิงสาวกระตุกขึ้นมาทันที นั่นไงคิดไม่ทันขาดคำเลยเชียว“คุณก็ออกมาหยิบเองสิ ฉันไม่รู้ว่ามันอยู่ไหน” ตอบส่งๆ ยังไม่ยอมลุก“เปิดตู้ตรงริมขวาสุด ผ้าอยู่ชั้นบนสุดนั่นไง”“โอ๊ย...วุ่นวายจริงๆ เลย แล้วก่อนเข้าไปทำไมไม่รู้จักหยิบเข้าไปด้วยนะ”“ผมลืม! นะ ช่วยหยิบให้หน่อยสิ ผมถอดหมด
ภีรดาก้มมองตำแหน่งที่เขาชี้อย่างระแวดระวัง ‘มัน’ ที่ทำให้ผู้ชายมาดขรึมอย่างรวินรุตม์กลัวจนสติหลุด มันต้องไม่ใช่อะไรที่ธรรมดาสามัญแน่นอน ระหว่างที่กำลังสแกนหาอะไรสักอย่างที่อันตรายนั่น จู่ๆ หางตาก็เห็นเงาดำขยับเคลื่อนไหววอบแวบที่พื้นไม่ไกลจากที่เธอยืนอยู่ จึงรีบหันขวับ ก่อนที่ดวงตาของเธอจะเบิกค้างกับภาพอันสุดแสนสะพรึง...“หา...แมลงสาบเนี่ยนะ!”แป่ว...หญิงสาวถึงขั้นถอนหายใจเฮือก มองเจ้าสิ่งมีชีวิตตัวดำมะเมื่อมที่กำลังหงายท้องตะกุยตะกายอากาศเอาตัวรอด ก่อนเงยหน้าขึ้นมองบุรุษรูปงามตรงหน้าช้าๆ อีกครั้ง ตามด้วยการระเบิดเสียงหัวเราะดังลั่น“ฮ่าๆๆ...” ภีรดากุมท้อง ขำจนตัวงอ ใครจะไปคิดว่าผู้ชายสุดเท่ มีดีกรีเป็นนักแข่งรถขวัญใจสาวๆ ทั้งเมืองแต่ดันพ่ายให้แก่สิ่งมีชีวิตรุ่นดึกดำบรรพ์อย่างแมลงสาบตัวจิ๋วแบบนี้ หมดกัน...“หัวเราะพอหรือยังน่ะ คุณไม่กลัวหรือไง” ชายหนุ่มกัดฟันถาม ดวงตาเขียวปัดตวัดค้อนใส่แม่สาวตรงหน้าอย่างเสียเซลฟ์นิดๆ“กลัวทำไม มันตัวเล็กกว่าคุณตั้งเยอะ” ว่าแล้วคนพูดก็พิสูจน์โดยการใช้สองนิ้วคีบหนวดเจ้าแมลงสาบที่ท่อน้ำนั่นขึ้นมาอย่างเอ็นดู แต่ชายหนุ่มต้องรีบผงะถอยอย่างไม่ไว้ใจ“ไง เจ้าตั
หญิงสาวเพลิดเพลินกับรสจุมพิตที่เขามอบให้ จนไม่ทันรู้ตัวว่าอีกฝ่ายเริ่มรุกคืบไปอีกขั้น เมื่อชายเสื้อของเธอถูกเลิกสูงขึ้นไปกองอยู่เหนือเนินอกอวบอิ่มตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ พร้อมกับที่มือใหญ่ค่อยๆ ลูบไล้ขึ้นไปสำรวจยังเป้าหมายต่อไปอย่างใจเย็น รวินรุตม์แอบยิ้มมุมปากเมื่อพบว่าแม่สาวตรงหน้าไม่ทำให้ผิดหวังแม้แต่น้อย ดวงตาคมกริบทอประกายวิบวับสำรวจดอกบัวตูมเต่งตึงที่แม้จะมีบราลูกไม้ขวางกั้นซ่อนเนื้อแท้ไว้ แต่ก็พอมองเห็นความงดงามตระการตา ดูท่าแม่แพนด้าน้อยจะมี ‘ของ’ ไม่ใช่น้อย เขาค่อยๆ เคล้นคลึงมันอย่างทะนุถนอม ทำเอาสาวเจ้าถึงกับสะท้านเฮือก ขนอ่อนลุกไปทั้งร่าง แต่กลับแอ่นกายเข้าหาฝ่ามือของชายหนุ่มโดยไม่รู้ตัว“อ๊ะ...อื้ม...”เสียงครางประท้วงถูกเขาจูบซับไว้จนหมดสิ้น และเบี่ยงเบนความสนใจเธอด้วยการบดคลึงขยี้ริมฝีปากนุ่มอย่างดูดดื่มและดุดันอยู่ในที กว่าที่สาวน้อยจะรู้ตัวก็เมื่อผิวกายเย็นวาบ เพราะเธอถูกลอกคราบจนเหลือเพียงปราการจิ๋วสองชิ้นสุดท้าย แต่ตอนที่ตะขอบราลูกไม้ตัวโปรดดีดตัวแยกจากกัน สติของสาวจอมหื่นก็กลับคืนเข้าร่างทันใด“มะ...ไม่ หยุดนะ” ดวงตากลมโตเบิกค้างด้วยความตกใจ รีบตะปบคว้ามือใหญ่ที่กำ
“ขอมือหน่อย”น้ำเสียงราบเรียบไร้อารมณ์ของเขาทำให้อีกฝ่ายนึกเคืองขอมือเนี่ยนะ เห็นเธอเป็นหมารึไง นี่ถ้าไม่จับมัดมือละก็ เธอจะตะปบหัวกินให้เข็ดเชียว ตาบ๊องนี่“ยื่นมือมาสิ” พูดพร้อมกับดึงมือของเธอไปเช็ดทำความสะอาดให้ทุกซอกทุกมุมโดยไม่รอให้เจ้าของอนุญาต ปากก็พร่ำสอน “เป็นผู้หญิงยิงเรือ คราวหลังจะหยิบจะจับอะไรต้องระวังรู้ไหม ของสกปรกมีเชื้อโรคแบบนั้นจับเข้าไปได้ยังไง”ถ้าไม่ถูกมัด ภีรดาอยากจะยกมือขึ้นมายีหัวตัวเองระบายความคลั่ง จิกตามองแรงใส่พ่อคนรักสะอาด พลางตั้งต้นนับหนึ่งถึงร้อย สูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ ระงับอารมณ์โมโหที่กำลังเดือดพล่าน เกิดมาก็เพิ่งเคยเห็นผู้ชายแบบนี้ครั้งแรก“ได้ค่ะ ฉันจะจำไว้ คราวหน้าถ้าจะแตะต้องตัวคุณจะใส่ถุงมือกันเชื้อโรคก่อนละกัน”ดวงตาคมกริบตวัดขึ้นมองคนพูดอย่างรู้แกวว่าโดนแขวะ แต่ก็ทำเป็นไขหูตั้งหน้าตั้งตาเช็ดๆ ถูๆ ต่ออย่างไม่ไยดี“เอาละ สะอาดแล้ว” เอ่ยพลางแก้มัดให้“ต้องเอาน้ำร้อนมาลวกฆ่าเชื้อด้วยไหม” พริตตสาวประชดเสียงยียวนเข้าให้อีกครั้ง“ก็ไม่เลวนะ รอตรงนี้ละกัน เดี๋ยวผมจะไปเอามาให้” ว่าแล้วคนพูดก็ลุกขึ้นเดินหายไปในครัวอีกรอบภีรดาจิกตามองตามหลังเขาด้วยสายตาห
“รอก่อน เดี๋ยวผมจะไปส่ง”“อย่าลำบากเลยค่ะ ฉันไม่อยากรบกวน เท่านี้ก็กวนกันมามากพอแล้ว ลาละค่ะ หวังว่าจะไม่ต้องพบกันอีก”รวินรุตม์กลั้นยิ้มมองคนของขึ้นอย่างนึกสนุก ขณะที่ร่างอรชรเดินตรงไปเปิดประตู ก่อนนึกขึ้นได้จึงหันขวับกลับมา“อ้อ...แล้วไอ้งานผู้ช่วยอะไรของคุณนั่นน่ะ ไม่ต้องรอครบสามวันหรอกนะ ฉันบอกตอนนี้เลยก็ได้ว่า...ฉันไม่ทำ!”แค่อยู่ด้วยวันเดียวก็จะประสาทกินแล้ว หากต้องทำงานกับเขาทุกวัน ไม่เธอก็เขาคงต้องมีคนเช็กอินเข้าโรงพยาบาลบ้าแน่ๆขาดคำหญิงสาวก็กระแทกประตูปิดโครมใหญ่ โดยไม่รู้เลยว่าพอคล้อยหลังเธอเท่านั้น เจ้าของห้องหนุ่มรูปงามก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอย่างสุดกลั้น รวินรุตม์เบือนหน้ามองเสื้อผ้าเปียกชุ่มที่กองอยู่มุมห้องด้วยความขบขัน เพิ่งรู้ว่าการแหย่หมีแพนด้ามันสนุกแบบนี้นี่เองยายแพนด้าสุดโก๊ะนั่นคงไม่รู้สินะว่าที่ผ่านมาไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนกล้าปิดประตูใส่หน้าเขาแบบนี้มาก่อน แต่มีสิ่งหนึ่งที่เขาต้องทำให้เธอรู้ให้ได้คือ...คนอย่างรวินรุตม์หากต้องการอะไรแล้ว...ต้องได้...เสมอ!ชายหนุ่มหันไปคว้าโทรศัพท์มือถือมากดเบอร์ที่จำได้ขึ้นใจ“คุณพัลลภ ผมเองรวินรุตม์ ผมต้องการให้คุณช่วยหานักสืบ
“เออ...จริงสิ ฉันโทร. สั่งพิซซ่าไว้ อีกเดี๋ยวแกรอจ่ายตังค์ให้ด้วยละกัน ฉันจะไปดูหนังเกาหลีต่อละ กำลังฟิน” ว่าแล้วคนพูดก็เดินนวยนาดกลับเข้าห้องนอนไปอย่างไม่ทุกข์ร้อนให้มันได้อย่างนี้สิ...ภีรดาถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย พลางเงยหน้ามองรูปบิดาที่ติดข้างฝาอย่างเหนื่อยใจกับชีวิตที่แสนจะยุ่งเหยิงของตัวเองและคนในครอบครัว“พ่อคะ แพนคิดถึงพ่อจัง ถ้าพ่อยังอยู่ตรงนี้ แพนคงไม่ต้องเหนื่อยแบบนี้ เฮ้อ...ไหนๆ พ่อก็หนีไปสบายแล้ว อย่าลืมเอาใจช่วยแพนด้วยแล้วกันนะคะ เฮ้อ...”ระหว่างนั้นเอง จู่ๆ เสียงริงโทนมือถือก็ดังขึ้น เมื่อเห็นชื่อที่ขึ้นหน้าจอก็นึกขึ้นได้...จริงสิ มัวแต่รบกับตาหมีมะเขือเผาเพลินจนลืมประกายดาวไปสนิทเลย“สวัสดีค่ะพี่ดาว”“โอ๊ย...ทำไมทำเสียงห่อเหี่ยวอย่างนั้นล่ะคะคุณน้อง เพิ่งดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์กับหนุ่มเจ้าเสน่ห์ระดับประเทศไปน่าจะสดใสซาบซ่าหน่อยสิ ไหนเล่ามาซิ คุณรวินรุตม์แซ่บเผ็ดเด็ดดวงแค่ไหน”ภีรดากลอกตาใส่โทรศัพท์พลางตอบในใจ...แซ่บชนิดที่ทำเธอเกือบเป็นบ้าน่ะสิ เฮ้อ“พี่ดาวมีธุระอะไรกับแพนหรือเปล่าคะ พอดีเมื่อเช้ามีเรื่องวุ่นวายมากเลยไม่ได้โทร. กลับ หรือว่าจะโทร. มาเรื่องงานพรุ่งนี้คะ” หญ
แต่นั่นกลับเทียบไม่ได้เลยกับสายตาที่กำลังมองมาของกลุ่มคนตรงหน้าที่มองมาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย และจับผิดเวลานี้“ยิ้มหน่อยสิคุณ” เมื่อเห็นหญิงสาวเกร็งจนหน้าสั่น ชายหนุ่มจึงเอียงตัวไปกระซิบเบาๆ พอได้ยินกันสองคน “ทำหน้าแบบนั้นเดี๋ยวเขาก็หาว่าผมบังคับคุณมากันพอดี”“หึ...หรือไม่จริงล่ะ” เธอกัดฟันเถียง “ใครจะไปยิ้มออก ดูสายตาแต่ละคนนั่นสิ แค่ก้าวขาเดินได้นี่ก็บุญแล้ว นี่คุณว่าคนในงานจะจำฉันได้หรือเปล่า”“จำได้แล้วไง”“จะแล้วไงล่ะ ถ้าพวกเขาเชื่อข่าวฉาวในเน็ตนั่นจะว่าไง ฉันน่ะไม่เท่าไหร่ แต่พ่อแม่คุณจะขายหน้าน่ะสิ ฉันไม่เข้าไปในงานได้ไหม เรากลับกันดีกว่า” หญิงสาวเริ่มจะปอดแหก ร่ำๆ ว่าจะขอถอนตัวเอาดื้อๆ แต่พอทำท่าจะหันหลังกลับ ชายหนุ่มก็รีบรั้งข้อมือน้อยไว้ “เชื่อมั่นในตัวเองสิ คุณไม่ได้เป็นอย่างในข่าวลือนั่น แล้วจะต้องไปแคร์คนอื่นทำไม ใครจะว่าอะไรก็ช่าง รู้แค่ว่าผมเชื่อมั่นในตัวคุณก็พอ” ประกายตาพราวระยับที่คนพูดมองสบมาทำให้หัวใจดวงน้อยเต็มตื้นและมีสีหน้าผ่อนคลายขึ้น“ทำใจกล้าเข้าไว้ แล้วจำให้ขึ้นใจว่า...วันนี้คุณมาในฐานะคนรักของผม ไม่ต้องคิดอะไรมาก แค่สนุกกับมันก็พอ ไปเถอะ ทุกคนกำลั
ห้องบอลรูมใหญ่ในโรงแรมหรูหราใจกลางเมืองแห่งนั้นถูกเนรมิตให้เป็นสถานที่จัดงานวันเกิดครบรอบหกสิบปีของเจ้าสัวบิดาของผู้เป็นเจ้าของโรงแรมนั่นเอง ผู้คนมากหน้าหลายตาที่ล้วนแล้วแต่มีฐานะ ชื่อเสียงในวงสังคม หรือไม่ก็เป็นผู้ที่มีตำแหน่งทางการเมือง คนใหญ่คนโตระดับประเทศ หรือแม้กระทั่งพวกไฮโซเซเลบชื่อดังทั้งหลายต่างก็ทยอยมาร่วมงานอย่างอบอุ่น เจ้าสัวผู้เป็นเจ้าของงานพร้อมครอบครัวต่างยืนต้อนรับทักทายแขกเหรื่อคนสนิทที่นำของขวัญมาร่วมอวยพรกันอย่างชื่นมื่นรวีวรรณและกฤษณ์ผู้เป็นสามีก็เป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่กำลังปราศัยกับเจ้าของงานอย่างออกรสเพราะสนิทสนมกันมาแต่ไหนแต่ไร“ไงคุณกฤษณ์ สบายดีหรือ ไม่ค่อยได้เจอกันเลยนะช่วงนี้ ได้ข่าวพาภรรยาไปฮันนิมูนรอบที่ร้อยแปดที่ยุโรปมาเป็นยังไงบ้างล่ะ” เจ้าสัวตระการสัพยอกคนเป็นเพื่อนสนิทอย่างเป็นกันเอง“ก็สนุกดีตามประสาคนแก่นั่นละท่าน อายุมากอย่างพวกเราเที่ยวมารอบโลกแล้ว จนรู้สึกเฉยๆ ที่จริงถ้ามีคนที่เรารักและรักเราอยู่ใกล้ๆ ไม่ว่าจะเมืองไทยหรืออยู่ที่ไหนก็เหมือนกัน” คนพูดหันไปมองภรรยาสุดที่รักอย่างหวานชื่น ไม่ว่ากี่ปีความรักของเขากับภรรยาก็ไม่เคยจืดจาง“นั่นสินะ คนแก่ๆ อ
ก่อนถึงวันงานรวินรุตม์ก็พาผู้ช่วยสาวไปเลือกซื้อชุดสำหรับใส่ออกงานด้วยตัวเอง ทั้งยังพาไปเข้าคอร์สเสริมความงามฉบับเร่งด่วน จนพริตตีสาวหัวหมุน ไม่เข้าใจว่ากะอีแค่ไปเป็นไม้กันหมาจะต้องสวยอะไรขนาดนั้นหลังจากถูกขัดสีฉวีวรรณ วันงานภีรดาก็ออกมาสวยสมใจนายจ้างหนุ่มในที่สุด ร่างสูงเพรียวงามระหงในชุดราตรีแบบเรียบหรูดูผู้ดี๊ผู้ดีผิดหูผิดตา รับกับใบหน้าที่แต่งสไตล์เกาหลีดูฉ่ำน้ำแวววาวเป็นธรรมชาติ ล้อมกรอบด้วยเรือนผมสลวยเงางามที่จัดแต่งมาอย่างประณีตสวยหรูแลดูเฉิดฉาย จนทำเอาชายหนุ่มผู้สวมบทคู่รักกำมะลอของเธอถึงกับตกตะลึงเมื่อแรกเห็นไปนานหลายวินาที“ไงคะ สวยพอเป็นคนรักของคุณได้ไหม” พริตตีสาวหมุนกาย หยอกเย้าด้วยรอยยิ้มน่ารักที่ทำให้คนมองมาแอบหัวใจกระตุกเบาๆ“ผมว่าขาดอะไรไปอย่าง อยู่เฉยๆ ก่อนนะ” ว่าแล้วคนพูดก็เดินหายเข้าไปในห้องนอน ทำเอาหญิงสาวใจหายวาบไม่ใช่ว่าจะไปเอาชุดแม่ชีมาให้เธอใส่อีกหรอกนะ ถ้าเป็นแบบนั้น เธอก็ไม่ปงไม่ไปมันแล้วเพียงชั่วครู่ ชายหนุ่มก็กลับออกมาพร้อมกับอะไรบางอย่างในมือ แต่ไม่ใช่ชุดแม่ชีที่เธอขยาด เฮ้อ...โล่งอกร่างสูงสง่างามในชุดทักซิโดสีเทาสุดเท่เดินอ้อมมาทางด้านหลังของหญิงสาว ก่
ใบหน้าที่แห้งแล้ง และดวงตาหม่นแสงชนิดที่ไม่เคยเห็นมาก่อนของเขาทำให้หญิงสาวอดสงสารไม่ได้ จึงเผลอตัวยื่นมือไปดึงร่างใหญ่เข้ามากอดปลอบโยน แม้จะยังข้องใจและมีคำถามอีกมากมาย แต่เธอกลับไม่กล้าจะเอ่ยอะไรออกไปอีกเพราะกลัวคำตอบ“ฉันเชื่อว่าวันหนึ่งคุณจะได้พบคนคนนั้น คนที่คุณรักเขา แล้วเขาก็รักคุณโดยไม่หวังผลตอบแทนแน่นอน”รวินรุตม์อุ่นวาบขึ้นมาในดวงใจ รับรู้ได้ถึงความอาทรจริงใจที่อีกฝ่ายส่งผ่านมาให้ วงแขนแข็งแรงกอดกระชับร่างกลมกลึงตอบ ดวงตาคมเข้มทอประกายลึกล้ำอ่อนโยน รู้สึกเหมือนหัวใจที่เคยเย็นชาราวกับห่อหุ้มด้วยน้ำแข็งกำลังถูกแสงแดดอันอบอุ่นค่อยๆ ละลายเกราะกำแพงที่กั้นขวางลงทีละนิดๆ พร้อมความรู้สึกบางอย่างที่ก่อตัวขึ้นในส่วนลึกของหัวใจสัมผัสที่เปลี่ยนไปนั้นทำให้หญิงสาวรับรู้ได้เช่นกัน ภีรดาซุกซบใบหน้ากับอกแกร่งนิ่ง เริ่มคุ้นชินกับอ้อมกอดของเขา และเธอคงเป็นบ้าไปแล้วที่อยากอยู่ในอ้อมกอดนี้ไปเรื่อยๆ แต่มันจะเป็นไปได้ยังไง ในเมื่อเธอกับเขานั้นเป็นได้แค่ลูกจ้างกับนายจ้างเท่านั้น อีกไม่นาน ถ้างานสำเร็จเมื่อไหร่เธอกับเขาก็จะกลายเป็นแค่คนแปลกหน้าที่ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก คิดถึงตรงนี้ก็ใจหาย หยาดน้
“หา?” หญิงสาวทำตาโต“ส่วนใหญ่ก็เป็นลูกเป็นหลานเพื่อนๆ ของทั้งสองคนนั่นแหละ ผู้หญิงคนไหนดี คนไหนสวย มีคุณสมบัติเพียบพร้อมถูกใจก็ไปขอนัดให้ผมไปดูตัวหมด จนช่วงหลังนี่ผมงานยุ่งแล้วไหนจะต้องตระเวนแข่งรถก็เลยชักจะขี้เกียจเริ่มเบี้ยวนัด ทั้งสองคนเลยต้องหามุกใหม่ แทนที่จะนัดให้ผมไปดูตัวทีละคน ก็บังคับให้ผมไปตามงานเลี้ยงสารพัดสโมสร ไม่ก็งานวันเกิดเพื่อนๆ ของท่าน แล้วก็แนะนำผู้หญิงที่หมายตาเอาไว้แทนทีละหลายๆ คนไง อย่างงานวันมะรืนนี้ไง เจ้าสัวตระการที่ว่าน่ะเป็นทั้งเพื่อนสนิทพ่อผม แล้วก็ยังเป็นพ่อของนายเต้ เอ่อ...นายตติยะเพื่อนผมที่คุณเคยเจอด้วย ได้ข่าวว่าปีนี้จัดงานวันเกิดใหญ่โต เชิญพวกเซเลปและคนในแวดวงไฮโซมากันเยอะ เดาว่างานนี้ก็คงไม่แคล้วเป็นงานมหกรรมดูตัวอีกตามเคย”นานครั้งอีกฝ่ายถึงจะเล่าอะไรยาวๆ ให้ฟังสักที ภีรดาเลยเท้าคางฟังเพลิน“หึ...แต่ก็อย่างที่รู้กันว่าผมทำหลานให้ท่านอุ้มไม่ได้เพราะไอ้อาการที่เป็นอยู่เนี่ย ต่อให้ผมถูกใจเลือกผู้หญิงที่ท่านหมายตาสักคนมาแต่งงานด้วยก็ใช่ว่าจะผลิตหลานให้อุ้มได้...”“แล้วพวกท่านรู้หรือเปล่าคะว่าคุณ...เอ่อ...มีอาการอย่างว่าน่ะ”ชายหนุ่มหันมามองสบตา ก่อนส่าย
“คือ...แพน...”“เรื่องจริงใช่ไหมลูก” รวีวรรณร้องลั่น ดวงตาเป็นประกาย “งั้นก็แปลว่าลูกกับแม่หนูคนนี้...ทำหลานให้แม่อุ้มเรียบร้อยแล้วสินะ”“อุ๊ย! เปล่านะคะ ไม่ใช่อย่างนั้น” ภีรดาตาเหลือก รีบปฏิเสธลั่น“โธ่...อย่าเขินไปเลยจ้ะ ถ้าเราสองคนคิดจริงจังกันถึงขั้นจะสร้างครอบครัวมีลูกมีเต้า จะนอกลู่นอกทางไปบ้าง แม่ก็ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย กลับจะดีใจด้วยซ้ำ”อ้าวเฮ้ย...ไหงอีกฝ่ายกลับดีใจล่ะ“ว่าแต่คุณแม่ยังไม่บอกเลยว่าแวะมาหาผมมีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับ”“อ๋อ...ก็ลูกน่ะเล่นไม่ยอมกลับบ้านตั้งเป็นเดือนแล้ว แม่ก็เลยคิดถึง แล้วอีกอย่างคุณพ่อก็ฝากเตือนเรื่องงานเลี้ยงแซยิดเจ้าสัวตระการเพื่อนคุณพ่อวันมะรืนนี้ด้วย บอกว่าให้ลูกไปให้ได้” เอ่ยถึงตรงนี้ดวงตาคนพูดก็แอบฉายรอยกังวลขึ้นมานิดๆ “เออ...จริงสิ ทำไมลูกไม่พาหนูแพนด้าไปงานด้วยเสียเลยล่ะจ๊ะ”“หา! ไม่ดีมั้งคะ งานเลี้ยงที่ว่าคงมีแต่ผู้ใหญ่ อย่าพาแพนไปเกะกะเลยนะคะ...” ภีรดารู้สึกผิดที่ต้องมาโกหกผู้หญิงที่แสนจะใจดีตรงหน้า แต่ถ้าจะโทษก็คงต้องโทษตาหมีภูเขาน้ำแข็งนี่ด้วยที่ทำให้เรื่องบานปลาย“ไม่ต้องห่วงครับ เราสองคนจะไปร่วมงานแน่นอน จริงไหมครับที่รัก” ภีรดาสะดุ
ภีรดาเงยหน้ามองนายจ้างหนุ่มที่ตีหน้าขรึมทำไม่รู้ไม่ชี้ แต่กลับดันหลังเธอไปข้างหน้าเบาๆ หญิงสาวจึงสูดหายใจเข้าลึกๆ ทำใจดีสู้เสือพร้อมกับขยับเข้าไปหาอีกฝ่าย“เข้ามาใกล้ๆ อีกสิ” เสียงเย็นยะเยือกสำทับพร้อมกับยื่นมือมา เสี้ยววินาทีที่ภีรดานึกว่าจะถูกอีกฝ่ายจิกหัวตบคว่ำขย้ำม้ามแตก เหมือนที่เคยดูในละครน้ำเน่าเรื่องแม่ผัวตัวร้ายกับลูกสะใภ้ทีเด็ดนั้นเอง จู่ๆ เสียงกังวานอย่างน่าเกรงขามก็ดังขึ้นว่า...“เฮ้อ...ท่าทางไม่เลวนี่”หะ...หา? อะไรคือไม่เลวหญิงสาวถึงขั้นช็อก อ้าปากค้าง คิดว่าตัวเองตาฝาดไป เมื่อได้เห็นรอยยิ้มกว้างของคนมากวัยกว่าหืม...นี่มันเรื่องอะไรกัน? ใครก็ได้ช่วยบอกฉันทีว่าเหตุการณ์มันกลับตาลปัตรแบบนี้ได้ยังไง!รวินรุตม์อมยิ้มขำ พร้อมยกมือขึ้นทำไฮไฟว์กับมารดาของเขาอย่างอารมณ์ดี“ไง คราวนี้แม่เล่นเนียนเลยใช่ไหม”“สุดๆ เลยครับ” ชายหนุ่มยิ้มพร้อมกับชูนิ้วโป้งให้ดาราเจ้าบทบาทที่เปลี่ยนบุคลิกราวกับพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือภีรดาหันมองคนทั้งสองสลับไปมา งุนงงเป็นไก่ตาแตก “เอ่อ...เดี๋ยวนะคะ ช่วยบอกดิฉันทีว่าตกลงเมื่อกี้คือการแสดงเหรอคะ”“แม่ผมเคยเป็นนางเอกละครเวทีของมหาวิทยาลัยเก่าน่ะคุณ” ร
“นั่งนี่แหละ!”สองเสียงเอ่ยขึ้นอย่างพร้อมเพรียง ทำเอาคนเป็นส่วนเกินสะดุ้งโหยง ก่อนค่อยๆ หย่อนกายนั่งลงที่โซฟาฝั่งตรงข้าม สีหน้าร่ำๆ ว่าอยากจะปล่อยโฮเสียให้ได้ฉันมาทำอะไรที่นี่เนี่ย...ฮือๆ“ผู้หญิงคนนี้เป็นใคร แล้วเข้ามาทำอะไรในห้องลูก” รวีวรรณเปิดฉากซักลูกชายด้วยใบหน้าที่เรียบนิ่งจนอ่านไม่ออกว่าคิดอะไรอยู่ภีรดารู้สึกมือไม้เย็นเฉียบ เหงื่อแตกพลั่กๆ ภาวนาให้คนตรงหน้าไม่ได้เห็นข่าวฉาวๆ ของเธอในเน็ต ในขณะที่คนถูกถามไม่ตอบกลับ ทำเป็นนิ่งเฉย ท่าทีเหมือนไม่ได้ทุกข์ร้อนกับสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานตรงหน้าเลยสักนิด“คืออย่างนี้ค่ะ หนู...เอ๊ย...ดิฉันขออนุญาตแนะนำตัวนะคะ ดิฉันชื่อภีรดา ชื่อเล่นแพนด้า เป็นผู้...”“เธอเป็นผู้หญิงของผมครับ”เปรี้ยงเดียวจบเห่! พริตตีสาวหันขวับไปมองคนหวังดีประสงค์ร้ายตาค้าง หมอนี่เล่นบ้าอะไรเนี่ย ไปแนะนำแบบนั้นได้ไง ไม่นะ! หรือว่าตาบ้านี่อยากเห็นเธอโดนแม่เขาเชือดคอหอย... “ผู้หญิงของลูกงั้นเหรอ...” แม่เสือหรี่ตามองมาทางลูกแพนด้าน้อยที่นั่งตัวลีบอย่างจับผิด “ผู้หญิงประเภทไหนล่ะ ชั่วคราวหรือว่าแบบเหมาจ่ายรายเดือน...”หืม...นั่นมันคนหรือโพรโมชันมือถือคะคุณแม่ ภีรดากลอก
ปล้ำเนี่ยนะ! งามหน้าแล้วไอ้แพนด้า! ไม่ใช่โดนเขาปล้ำ แต่เป็นปล้ำเขาเสียเอง รู้ถึงไหนอายไปถึงนั่น!พริตตีสาวกุมขมับอยากหลับไปโดยไม่ต้องตื่น รีบก้มลงสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้น แต่ก็ไม่พบสิ่งผิดปกติ นอกจากชุดที่ใส่เป็นคนละชุดกับเมื่อวาน ซึ่งเธอแน่ใจว่าไม่ได้เปลี่ยนเอง งั้นก็แปลว่า...ฝีมือคนตรงหน้าอยากจะบ้าตาย งั้นก็สรุปว่าเหตุการณ์เมื่อคืนก็ลงเอยที่...เธอปล้ำเขาจนสำเร็จสินะหมดกันพรหมจารีย์ที่หวงแหนมากว่ายี่สิบสามปี ต้องมาขาดวิ่นพังพินาศเพราะผู้ชายที่เซ็กซ์เสื่อมแบบนี้เหรอเนี่ย รู้ถึงไหนอายเขาถึงนั่นเซ็กซ์เสื่อมเหรอ...เดี๋ยวนะลองมาคิดดูอีกทีในเมื่อหมอนี่นกเขาไม่ขัน แล้วเธอจะปล้ำเขาสำเร็จได้ไง หรือจะเป็นเพราะไอ้ยาขวดนั้น หญิงสาวนึกถึงสินค้าออนไลน์ที่ตนแอบเทใส่ไว้ในแก้วเครื่องดื่มของรวินรุตม์เมื่อคืน แต่เท่าที่จำได้เขายังไม่ทันกินนี่หว่า หญิงสาวคิดแล้วสะดุ้งวาบในใจ เมื่อนึกถึงพริกในยำแซลมอนจานนั้นขึ้นมาได้ อย่าบอกนะว่า...ดาบนั้นคืนสนอง!ฮือ...ซวยกว่านี้มีอีกไหมเนี่ยเผ่นก่อนดีกว่า! ไม่แน่หมอนี่อาจจะจำเหตุการณ์เมื่อคืนไม่ได้ หรือไม่ก็คิดว่าฝันไปก็ได้ ว่าแล้วแม่สาวโก๊ะก็รีบย่องลุกจากที่เก