“ข้าต้องการให้ท่านเจ้าเมืองคุ้มกันข้าไปที่ดินแดนทางเหนือที่สุดเขตการปกครองของจักรวรรดิ..”แอนโทนี่เลิกคิ้วขึ้นมามองใบหน้าที่สวยสง่าราวกับเจ้าหญิงผู้สูงศักดิ์ของนักบุญหญิง วิตอเรีย“ทำไมถึงจะเดินทางไปยังเมืองชายแดนที่สุดแสนจะอันตรายเช่นนั้นด้วยล่ะครับ ไม่ใช่ว่าท่านนักบุญควรจะอยู่ที่นี่เพื่อรอคอยให้ทางพระราชวังประกาศราชโองการออกมา..”“เพราะที่เมืองนั้นกำลังมีภัยค่ะ ข้าจะต้องเดินทางไปที่นั่นเพื่อช่วยเหลือชาวเมืองที่เผชิญหน้ากับหายนะ..”ที่จริงเพราะเธอต้องการจะไปพบองค์รัชทายาทต่างหากล่ะ หากจะรอให้เขามาที่นี่ก็ราวๆ หกเดือนกว่าที่เราจะได้พบเจอกัน เธอไม่อยากอยู่ที่เมืองทุรกันดารอย่างปาสคาลแล้ว อีกอย่างท่านเจ้าเมืองของที่นี่ก็ไม่ได้มีอะไรที่น่าดึงดูดเลยสักนิด ท่าทางของแอนโทนี่มัน เคร่งขรึมเป็นผู้ใหญ่มากกว่าอายุของเขาซะอีก ดูแล้วมีแต่จะทำให้เธออารมณ์ไม่ดี ถึงแม้ว่าค่าความชอบของเขาที่มีต่อเธอจะเพิ่มขึ้นมาจาก -20 เป็น -2 แล้วก็ตามที แต่ถึงอย่างนั้นคนอย่างเจ้าเมืองแอนโทนี่มันน่าเบื่อมากเกินไป เขาเหมือนคนตาบอดที่มองไม่เห็นเจตนาอันร้อนแรงของเธอ ว่าเธอนั้นปรารถนาในร่างกายที่แสนกำยำของเขามากแค่ไหน
“ข้านัดหมายนางเอาไว้ในอีกหนึ่งสัปดาห์ข้างหน้า..”นาทาเลียขมวดคิ้วในทันที“แล้วทำไมท่านถึงได้เร่งเร้าให้ข้าเดินทางมาที่นี่เร็วๆ ทั้งๆ ที่กว่าจะถึงกำหนดนัดหมายอีกตั้งนาน?”“เจ้ากล่าวราวกับว่าเจ้าอยากจะอยู่ที่ปาสคาลต่ออย่างนั้นแหละ นี่ข้าช่วยเหลือเจ้าอยู่นะ เจ้าเองก็ไม่ได้อยากจะอยู่ที่นั่นอยู่แล้วเพราะอย่างนั้นมาอยู่กับข้าที่นี่ยังจะดีเสียกว่า”ดวงหน้าหวานถึงกับนิ่วหน้า นาทาเลียนั่งลงที่ด้านหน้าเตาผิง อากาศที่นี่เหน็บหนาวมากกว่าที่เธอเคยพบเจอมาก่อนทั้งชีวิต เป็นความหนาวที่บาดลึกจนถึงชั้นกระดูก..ลูเซียนเดินเข้าไปนั่งข้างๆ นาทาเลีย เขายกมือขึ้นมาแล้วรวบเธอมาตระกองกอดเอาไว้ในอ้อมแขน“ทำไม เถียงสู้ไม่ได้แล้วเลือกจะใช้ความเงียบมาเอาชนะข้างั้นเหรอ?”เธอไม่ได้ผลักไสอ้อมแขนของลูเซียนออกไป ตรงกันข้ามนาทาเลียซบใบหน้าลงบนไหล่ของเขาแทน เธอยื่นมือไปจับเส้นผมสีน้ำตาลอ่อนของเขามาถือเอาไว้ก่อนจะขยับมือยุกยิกไปมาเล็กน้อย..ลูเซียนค่อนข้างหวงแหนเส้นผมของเขามากทีเดียว แต่ในเมื่อเธอชอบสัมผัสมันมากขนาดนั้น เขาก็จะยอมหลับตาข้างหนึ่งไม่ถือสาก็แล้วกัน ทว่าเมื่อลองมองดูดีๆ เหมือนนาทาเลียกำลังถักเปียบนเส้นผมของเ
เกล็ดหิมะเล็กจิ๋วเคลือบอยู่บนกิ่งไม้สนที่ด้านนอกหน้าต่าง ทุกพื้นที่ขาวโพลนไปหมด แต่ก็งดงามเป็นประกายด้วยหิมะที่ปกคลุมหัวใจของนาทาเลียเต้นแรงขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ เธอไม่ชอบตัวเองเท่าไหร่นักที่เป็นเช่นนี้เลย เธอยังคงก้มหน้าซบบนหัวเข่าและไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมาตามที่ลูเซียนร้องขอสำหรับเธอมันยากมากจริงๆ กับการเอาชนะความกลัวที่เกาะกุมหัวใจของตัวเองอยู่ในยามนี้ เพราะสถานะของเธอมันไม่ปกติ เธอเป็นตัวละครตัวหนึ่งในเกมนี้และไม่รู้เหมือนกันว่าเมื่อไหร่ที่เกมนี้จะเล่นสนุกกับจิตใจของเธอเพราะอย่างนั้นจนกว่าจะมั่นใจว่าตัวเองจะหลุดพ้นจากหน้าต่างคำสั่งของเกมนี้ เธอจะไม่มีความรัก..ลูเซียนยกมือขึ้นมาลูบหลังของนาทาเลียเบาๆ คล้ายกับว่าเขากำลังปลอบโยนเธอ ทั้งๆ ที่ตัวเองต่างหากที่เป็นฝ่ายถูกปฏิเสธเราทั้งคู่ในยามนี้เหมือนกันคนที่กำลังหลงจมอยู่ในเขาวงกตที่หาทางออกไม่เจอยังไงอย่างนั้น“นาทาเลีย..เช่นนั้นเจ้าก็อยู่ที่นี่ไปก่อนเถอะนะ เดี๋ยวข้าจะเข้าไปในเมืองเพื่อซื้ออาหารและชุดคลุมสักหน่อย”ในเมื่อบรรยากาศระหว่างเรามันอึดอัดจนดูเหมือนว่าจะหายใจไม่ออก เขาก็ควรจะเว้นช่องว่างระหว่างเราเพื่อให้นาทาเลียได้ลองคิดทบท
ลูเซียนยกมือขึ้นมาเพื่อลูบเส้นผมสีดำนั้นของนาทาเลียเบาๆ เขาวาดมือไปมาเพื่อคลายเวทที่ปกคลุมใบหน้านั้นของเธอออก เพราะสตรีที่เขาอยากจะแนบชิดด้วยคือนาทาเลียเพียงผู้เดียวเท่านั้น และนาทาเลียของเขามีเส้นผมสีเงินสว่างและดวงตาสีน้ำทะเลที่งดงามเสียยิ่งกว่าผู้ใดเขาถอนริมปากออกเล็กน้อย แล้วจ้องมองดวงตาคู่นั้น..ดวงตาสีน้ำทะเลของเธอกำลังครอบงำเขาอย่างช้าๆ ราวกับว่านาทาเลียต่างหากที่มีเวทมนตร์ไม่ใช่เขาลมหายใจของเธอหอบถี่เพราะเขาพึ่งจะยินยอมให้ริมฝีปากของเธอเป็นอิสระ เธอช้อนสายตามองหน้าเขาราวกับว่าเราทั้งคู่กำลังพูดคุยกันผ่านทางดวงตามากกว่าที่จะใช้ริมฝีปาก เธอล้มตัวนอนลงบนพรมที่ด้านหน้าเตาผิง ก่อนที่อาภรณ์ที่เธอสวมจะถูกเลิกขึ้นมากองเอาไว้บนอกมือของลูเซียนสั่นเทาไปหมด เขารีบร้อนจนไม่สามารถอดใจรอเพื่อพาเธอไปที่เตียงได้ เขาต้องการเธอที่นี่และเดี๋ยวนี้ในขณะที่มือทั้งสองข้างของเขากำลังกอบกุมเนื้ออกอวบอิ่ม นิ้วเล็กๆ ของนาทาเลียก็เอื้อมมากอบกุมตรงส่วนนั้นของเขา เธอลากปลายนิ้วไล้ไปมาผ่านทางชั้นของกางเกงที่เขาสวม“จะไม่ถอดออกรึไง ข้าพึ่งจะรู้ว่าท่านลูเซียนคิดเอาเปรียบกันถึงเพียงนี้ ท่านปล่อยให้ข้าเหน็บหน
ร่างกายถูกสอนให้รู้จักจดจำตามการรอคอยที่ปลุกเร้าอารมณ์ขั้นต่อไปอย่างคาดหวัง ลมหายใจของเธอหอบกระชั้น สลับกับผ่อนลมหายใจสั่นเทาร้อนยาวลูเซียนอุ้มนาทาเลียขึ้นมา เขามองหน้าเธออยู่ครู่หนึ่งก่อนจะวางเธอลงไปบนพื้นพรมอีกครั้งเขาตื่นตัวมากพอแล้วอีกทั้งส่วนนั้นของเธอก็ถูกเตรียมพร้อมเอาไว้เป็นอย่างดี ไม่ต้องรีรออะไรอีกแล้วในยามนี้เราทั้งสองต้องการกันและกันจนแทบบ้าเขารับรู้ได้ถึงเสียงการเต้นของหัวใจ ความร้อนจากร่างกายและลมหายใจสั่นๆ ของกันและกันได้อย่างชัดเจน ความหนาวเหน็บจากสภาพอากาศที่แสนเลวร้ายด้านนอก ไม่สามารถทำอะไรเราทั้งสองคนได้แล้วในช่วงเวลานี้ริมฝีปากของนาทาเลียเม้มเข้าหากันเล็กน้อย เธออดไม่ได้ที่จะรู้สึกประหม่าเมื่อสายตาของลูเซียนกำลังกวาดมองไปทุกพื้นที่บนเรือนร่างดวงตาของลูเซียนฉายแววลุ่มหลงออกมาอย่างเห็นได้ชัด ราวกับเขาตกตะลึงค้างในความสวยงามของนาทาเลีย เขาเริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมผู้คนถึงเล่าขานถึงความงดงามของท่านหญิงอาโมรีกันอย่างไม่ขาดปาก ความรู้สึกของเขาในยามนี้คล้ายตกลงไปในทะเลเพลิง ที่พ่ายแพ้ตั้งแต่ยังไม่เริ่มด้วยซ้ำเขาจับเธอนอนตะแคงก่อนจะล้มตัวนอนซ้อนที่ด้านหลัง มือของลูเซียน
เมื่อจัดการเช็ดตัวให้นาทาเลียเสร็จเรียบร้อย ลูเซียนก็อุ้มเธอแล้วพาไปที่เตียงนอนเล็กๆ ในบ้านหลังนี้ เขาสวมใส่ชุดนอนกันหนาวให้แก่เธอก่อนจะดึงผ้าห่มขึ้นมาปกคลุมร่างกายของเราทั้งสองคนเอาไว้ด้วยกัน เขาไม่ลืมใส่ฟืนในเตาผิงก่อนที่จะเข้ามานอนเคียงข้างเธอที่จริงแล้วเขาสามารถทำให้ความเหน็บหนาวเหล่านี้จางหายไปได้ง่ายๆ ด้วยการดีดนิ้วเพียงครั้งเดียวเท่านั้น แต่ลูเซียนกลับไม่นึกอยากที่จะทำเช่นนั้น เขาอยากสัมผัสอากาศที่เหน็บหนาวเหล่านี้ไปพร้อมกันกับเธอมือของเขาสัมผัสลงไปบนปอยผมที่หลุดลุ่ยพวกนั้นและปัดมันให้พ้นจากสายตา นาทาเลียหลับใหลไปด้วยอาการเหนื่อยล้า และนี่คือโอกาสดีที่เขาจะได้จ้องมองใบหน้าแสนหวานของเธอ โดยไม่มีแววตาไม่พอใจจับจ้องกลับมาในใจราวกับได้พบกองไฟอันอบอุ่นของตัวเอง มันปั่นป่วนและสับสนด้วยความรู้สึกบางอย่างที่เอ่อล้นออกมาจนท่วมท้นในหัวใจ แค่การกระทำเล็กๆ ของอีกฝ่ายมันทำให้เขารู้สึกสุขใจอย่างไม่น่าเชื่อแค่เธอยิ้มออกมา..แค่รอยยิ้มเล็กๆ บนมุมปากคู่นี้ สามารถทำให้เขามีความสุขขึ้นมาได้ตลอดระยะเวลากว่าร้อยปีที่ผ่านมาเขาอยู่คนเดียวมานานเท่าไหนแล้วก็ไม่รู้ เขาและความเหงาเป็นเหมือนเพื่อนคนสน
วิตอเรียก้าวถอยหลังออกจากห้องนี้โดยอัตโนมัติ เธอเบือนหน้าหนีด้วยความรังเกียจ พร้อมกับกำมือแน่น เธอเป็นคนแรกที่เดินออกไปจากห้องนี้ และในวินาทีต่อมาแอนโทนี่ก็เดินตามวิตอเรียออกมา“..พวกท่านเดินทางมาเหนื่อยๆ เช่นนั้นไปพักผ่อนกันก่อนน่าจะดีกว่านะครับ”อาเธอร์พยายามหาทางคลี่คลายสถานการณ์ที่น่าอึดอัดเบื้องหน้าด้วยการพาท่านบารอนและท่านนักบุญหญิงไปยังที่พัก เมื่อแอนโทนี่เดินเข้ามายังห้องพักส่วนตัวเขาก็ล้มตัวนอนลงบนเตียงนอนเล็กๆ ในทันทีเดิมทีเขาไม่ชอบขี้หน้าขององค์รัชทายาทเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เพราะหมอนั่น เพราะหมอนั่นเคยทำให้ชื่อเสียงของท่านหญิงนาทาเลียเสื่อมเสีย..อ่า..นาทาเลีย พอชื่อนี้ผุดขึ้นมาในหัว ดวงใจของเขาก็บีบรัดขึ้นมาราวกับมีมือที่มองไม่เห็นมาบีบเคล้นเอาไว้เขาจัดการขับไล่สกาเล็ตออกไปจากปาสคาลด้วยความขุ่นเคือง นางทำให้ทุกอย่างพังพินาศไปหมด ทั้งความรู้สึกระหว่างเขาและนาทาเลีย อีกทั้งนางยังทำให้เขาต้องสูญเสียอัศวินฝีมือดีไปหลายคนเลยทีเดียว มันเป็นความผิดที่แอนโทนี่ไม่สามารถให้อภัยน้องสาวต่างมารดาได้เขานอนมองเพดานด้วยความรู้สึกรวดร้าวมากพอสมควร ในหัวใจของเขายังคงรับไม่ได้กับความผิดหวัง
สตรีที่เดินเข้ามาทักทายนาทาเลียมีดวงหน้าที่หวานละมุนตา และมีรอยยิ้มที่ละมุนละไมในแบบที่ไม่ว่าบุรุษใดก็ตามที่พบเห็นเธอจะต้องละสายตาไปจากใบหน้านี้ไม่ได้อย่างแน่นอน“ไปหาที่เงียบๆ คุยกันเถอะค่ะ”สิ้นสุดคำกล่าวของเบล บรรยากาศรอบๆ ตัวของนาทาเลียและลูเซียนก็พลันเปลี่ยนไป เมื่อครู่เรากำลังเดินอยู่บนถนนย่านการค้า แต่ทว่าในยามนี้เรากลับเข้ามาอยู่ในห้องรับแขกในแบบที่แค่พริบตาเดียวเท่านั้น บรรยากาศรอบๆ กลับเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงพลังเวทที่แข็งแกร่งเช่นนี้ต่อให้เป็นลูเซียนก็ไม่รู้ว่าจะเอาชนะได้หรือไม่ นาทาเลียลอบมองใบหน้าของสตรีที่นั่งลงตรงข้ามกับเธอด้วยแววตาที่ไม่ไว้ใจเท่าไหร่นัก สัญชาตญาณในใจมันร้องเตือนเธอแปลกๆ“ท่านงดงามตามที่ข่าวลือว่าเอาไว้เลยนะคะท่านหญิง ข้ารอคอยการพบเจอของเราทั้งสองคนมานานมากพอสมควรเลย”นาทาเลียสะดุ้งเฮือกเมื่ออยู่ๆ ลูเซียนก็หายตัวไป“เราทั้งสองคนมีเรื่องที่ให้เขารู้ไม่ได้อยู่นี่คะ ไม่เป็นไรหรอกนะ ในห้องนี้สร้างขึ้นมาจากพลังของข้า จอมเวทแห่งกูเรียนจะปลอดภัย อีกทั้งท่านสามารถพูดคุยกับข้าได้ทุกเรื่องที่มันเกี่ยวข้องกับเกมบ้าๆ นี่..”หัวใจของนาทาเลียกระตุกไปวูบหนึ่งเมื่อเบลพ
เมื่อลูเซียนกลับมาที่ห้องของโรงแรมเขากลับไม่พบเจอใครเลยสักคนเดียว เขาตกใจเล็กน้อยที่อยู่ๆนาทาเลียก็หายไป เขากำลังจะวิ่งออกไปเพื่อตามหาเธอที่ด้านหน้าโรงแรมที่พัก ในระหว่างที่เขากำลังวิ่งตามหาเธอแสงสีทองก็ส่องสว่างอยู่บนแหวนที่เขาสวม นั่นหมายความว่านาทาเลียอยู่ในมิติเวทของเขาลูเซียนถอนหายใจอย่างโล่งอกก่อนที่เขาจะสัมผัสที่แหวนเบาๆเพื่อเข้าไปหาเธอในมิติเวท ที่นี่แตกต่างจากในมิติเวทที่เธอและเขาเคยอยู่ด้วยกันอย่างสิ้นเชิง ทะเลสาบอย่างนั้นหรือ?"นาทาเลีย.."เขาพบเจอนาทาเลียนั่งอยู่กับบุรุษผู้หนึ่งที่ดูคุ้นตา..หมอนี่คือคนที่มาป้วนเปี้ยนหน้าห้องเมื่อตอนบ่ายนี่"ลูเซียน มานี่สิ..ข้าจะแนะนำให้ท่านรู้จักกับโลเวล"นี่คือบุรุษที่นาทาเลียกล่าวถึงให้เขาฟังบ่อยๆสินะ โลเวล บาทาซาร์"ยินดีที่ได้รู้จักครับท่านเจ้าของหอคอย"โลเวลลุกขึ้นมาแล้วก้มหน้าลงเพื่อเป็นฝ่ายทักทายก่อน อย่างที่เขาคิดเอาไว้จริงๆว่าออร่าพลังเวทของชายผู้นี้นั้นไม่ธรรมดาเลย ที่ไหนได้นี่คือจอมเวทกูเรียนในตำนาน เจ้าของหอคอยเวทผู้ยิ่งใหญ่"อืม..นาทาเลียพูดถึงเจ้าให้ข้าฟังบ่อยๆ แล้วเจ้ารู้ได้อย่างไรว่านางคือนาทาเลีย"ไม่บ่อยนักที่จะมีคนที่ส
กว่านาทาเลียจะลืมตาตื่นขึ้นมาก็เป็นในช่วงเย็นของอีกวัน เธอลุกขึ้นมานั่งบนเตียงพร้อมกับกวาดสายตามองไปรอบๆห้องนี้แต่ก็ไม่พบลูเซียนเลย นาทาเลียลุกขึ้นเพื่อเดินไปล้างหน้าล้างตา เธอแค่นหัวเราะออกมาเบาๆเมื่อเห็นสภาพใบหน้าของตัวเองในกระจกเงาที่สะท้อนออกมา ดวงตาแดงก่ำที่ผ่านการร้องไห้ออกมาอย่างหนัก..ดูไม่ดีเท่าไหร่เลยเธอไม่รู้ว่าลูเซียนออกไปไหน แต่เขาน่าจะมีธุระของเขานั่นแหละ นาทาเลียนั่งลงที่โซฟา เธอรินน้ำชาในกาใส่ถ้วยเล็กๆก่อนจะยกขึ้นมาดื่ม คิดไม่ผิดเลยจริงๆที่เธอตามพี่ชายไปที่ลานประมูล เพราะอย่างนั้นเธอถึงได้ตาสว่างเรื่องของนาทาเลียในอดีต อีกทั้งสุราต้องคำสาปขวดนั้นหากเดาไม่ผิดเขาจะต้องใช้มันกับเธออย่างแน่นอน เช่นนั้นก็จะต้องหาทางรับมือกับคนสารเลวอย่างโอเว่นเอาไว้"ไม่เจอกันนานเลยนะครับ..ท่านหญิง"โลเวลปีนเข้ามาทางหน้าต่าง เขากระโดดเข้ามาหานาทาเลียในทันทีก่อนจะสวมกอดเธอเอาไว้ในอ้อมแขน"คิดถึง..จังเลยครับ แล้วไอ้สารเลวคนไหนมันทำให้ท่านหญิงของข้ามีสภาพเช่นนี้กัน?"เธอตกใจจนตาค้าง ทั้งๆที่เธอปลอมตัวอยู่ด้วยพลังเวทของลูเซียนแต่แล้วทำไม โลเวลถึงจำเธอได้กันล่ะ? เธอยื่นมือไปกอดเอวของเขาเอาไว้แน
ลูเซียนตกใจเล็กน้อยที่เขาเห็นหยาดน้ำตาแวววาวรินไหลลงมาจากดวงตาของนาทาเลียที่กำลังนั่งอยู่ข้างๆ เขา เขาไม่มั่นใจว่าเธอพบเจอกันอะไร แต่เขาก็ยังไม่อยากจะดึงจิตวิญญาณของเธอกลับมา เพราะในบางทีเธออาจจะกำลังพบเจอเรื่องราวที่ทำให้ตัวเองรับรู้ถึงเบื้องลึกเบื้องหลังของพี่ชายตัวเอง..อลาโน่ อาโมรี เมื่อไหร่กันนะที่เขาจะได้พบเจอพี่เขยอย่างเป็นทางการ อดใจรอไม่ไหวแล้วละสิ“สิ่งที่กระหม่อมต้องการ คือทำให้นาทาเลียเป็นของพระองค์ให้ได้พ่ะย่ะค่ะ ทำให้นางกลับมาหากระหม่อมที่อาโมรีไม่ได้อีก..”ข้อแลกเปลี่ยนกับสุราต้องคำสาปของแกรนด์ดยุคดูเหมือนจะแปลกมากทีเดียวในความคิดของโอเว่น“แกรนด์ดยุคต้องการแค่นั้น?”ชั่วขณะหนึ่งความเศร้าหมองปรากฏให้เห็นในดวงตาของอลาโน่“พ่ะย่ะค่ะ แค่นั้นก็พอ แค่ให้น้องสาวของกระหม่อมได้นั่งในตำแหน่งของจักรพรรดินี”โอเวนพยักหน้า“เช่นนั้นก็หมายความว่าความคิดของเราทั้งคู่มันตรงกัน ข้ารัก นาทาเลียจากใจจริง และข้าจะดูแลนางให้ดี แกรนด์ดยุคไม่ต้องเป็นห่วง”เมื่อกล่าวจบโอเว่นก็เดินออกไปจากห้องนี้พร้อมกับสุราต้องคำสาป ส่วนอลาโน่ เขาเอนหลังพิงเก้าอี้ด้วยท่าทีหมดแรงก่อนจะยกแขนขึ้นมาก่ายหน้าผากเ
ถึงแม้ว่าลูเซียนจะบอกกล่าวกับเธอว่าไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ แต่การที่เขาพาเธอเข้ามาในงานประมูลโดยการใช้เทเลพอทเข้ามานั้นมันคือเรื่องที่น่าตื่นตาตื่นใจมากทีเดียว“ข้าคิดว่าท่านจะทำบัตรเชิญปลอมมาซะอีก”“จะทำแบบนั้นให้ยุ่งยากทำไมกัน ในเมื่อผลลัพธ์ก็ออกมาเหมือนเดิมคือเราได้เข้ามาอยู่ในงานนี้แล้ว”นาทาเลียอยากจะกรีดร้องดังๆ ออกมาซะเหลือเกิน หากไม่ติดว่าในยามนี้เราทั้งคู่กำลังยืนอยู่ในงานนี้เธอนั่งลงยังที่นั่งที่ถูกจัดเตรียมเอาไว้ นาทาเลียเลือกที่นั่งที่ไม่ค่อยสะดุดตาสักเท่าไหร่เพราะว่าเธอไม่ได้คิดมาประมูลอะไรทั้งนั้น เธอแค่ต้องการจับตาดูท่าทีของท่านพี่..ทว่าที่นี่คือโรงละครโอเปร่าเก่า เพราะอย่างนั้นจึงมีที่นั่งด้านบนอีกหลายสิบห้องที่ปิดม่านและปิดบังตัวตนเอาไว้ หมายความว่าพี่ชายของเธออาจจะนั่งอยู่ด้านบนและแอบประมูลบางอย่างลับๆ หรือแม้กระทั่งเขาอาจจะคุยงานกับผู้อื่นแบบที่ไม่มีคนเห็น เพราะห้องที่อยู่ชั้นบนไล่ขึ้นไปเป็นขั้นบันไดเช่นนี้ ทำให้เป็นส่วนตัวและสะดวกในการพูดคุยบางอย่างที่ไม่อยากให้มีผู้อื่นรู้“อยากขึ้นไปข้างบนไหม”นาทาเลียพ่นลมหายใจออกมาเบาๆ เธออาจจะแค่สงสัยไปเองก็ได้เพราะอย่างนั้
ดูจากสีหน้าของแกสทอนหลังจากที่เปิดจดหมายในมืออ่าน แสดงว่าท่านหญิงของเขานั้นส่งจดหมายเพื่อบอกว่าท่านหญิงจะกลับมาที่นี่ในเร็วๆ นี้สินะ โลเวลเองก็ไม่รอช้า เขาเปิดจดหมายออกมาอ่านเช่นกัน“โลเวล ขอบคุณในทุกอย่างที่เจ้าให้ความช่วยเหลือข้ามาโดยตลอด เหนื่อยมากเลยใช่ไหมกับการเปิดตัวที่แสนยิ่งใหญ่ในฐานะของเจ้าของกิลล์ข้อมูล อดทนอีกนิดนะ เพราะว่าข้ากำลังจะกลับไปหาเจ้าในเร็ววันนี้ หวังว่าจะได้พบกันในเร็ววันนะโลเวล”ข้างล่างจดหมายท่านหญิงนาทาเลียเขียนชื่อของบุคคลหนึ่งเอาไว้“ฝากเจ้าตามสืบเรื่องของบุรุษที่ชื่อว่า ไคเลอร์ให้ข้าด้วย ข้าไม่มีข้อมูลอะไรให้นอกจากว่าเขาคือบุรุษที่สูงโปร่งและไม่ได้เป็นขุนนาง ข้าเองก็ไม่รู้รายละเอียดของเขาเหมือนกัน เพียงแต่เขาสำคัญมากๆ และเป็นคนที่ข้าจะต้องตามหาให้เจอ”ไคเลอร์ อย่างนั้นหรือ?โลเวลเงยหน้าขึ้นมาจากกระดาษก่อนจะสั่งการกับฮอลี่“เอาข้อมูลของบุรุษที่ชื่อไคเลอร์มาให้ข้าหน่อยสิ คนที่มีชื่อว่าไคเลอร์ทุกคนของจักรวรรดิแห่งนี้”ฮอลี่พยักหน้า“รับทราบค่ะนายท่าน ข้าจะหาข้อมูลของชายที่ชื่อว่าไคเลอร์มาให้ท่านแบบไม่ให้ตกหล่นเลยแม้แต่คนเดียว”แกสทอนมองท่าทีเคร่งเครียดของโลเว
“ข้าต้องการปรับปรุงคฤหาสน์หลังนี้ และให้พวกชาวเมืองทั้งหมดย้ายเข้ามาอยู่ที่คฤหาสน์แห่งนี้ในช่วงที่พายุหิมะพัดแรงขึ้น..”สิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดเกินขึ้นในช่วงเช้าของวันที่พายุหิมะพัดผ่านเข้ามาที่ดินแดงทางเหนือ องค์รัชทายาทโอเว่นนั้นทรงตื่นจากบรรทมตั้งแต่เช้า พระองค์เรียกประชุมทหารมากมายเพื่อหารือและแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นและนี่คือครั้งแรกที่สายตาของอาเธอร์นั้นมององค์รัชทายาทเปลี่ยนไป เหมือนกับว่าเขามองเห็นประกายไฟในสายพระเนตรของพระองค์ได้อย่างชัดเจน“เรามีเสบียงที่สามารถเลี้ยงคนได้ราวสามร้อยคนในหนึ่งวัน แต่ทว่าประชากรของแดนเหนือรวมกันแล้วมีไม่ถึงสองร้อยคนด้วยซ้ำ เพราะอย่างนั้นหากพาพวกเขามาอยู่ที่นี่เป็นการชั่วคราวจนกว่าพายุหิมะจะสงบลง น่าจะเป็นหาทางออกที่ดีที่สุด”“กระหม่อมเห็นด้วยนะพ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาททรงพระปรีชาสามารถยิ่งแล้ว”อาเธอร์กล่าวชมออกมาจากใจจริง“ข้ารู้เซอร์อาเธอร์ เพียงแต่ที่ดินแดนเล็กๆ แห่งนี้จำเป็นที่จะต้องมีเจ้าเมืองเพราะในอีกสามสัปดาห์ข้าจะต้องเดินทางกลับไปที่พระราชวังแล้ว ข้าจึงให้โอกาสพวกเจ้าในการอาสาที่จะอยู่ที่นี่เพื่อเป็นเจ้าเมืองปกครองดูแลดินแดนเหนือ
โอเว่นยืนอยู่บนระเบียงห้อง เขาไม่ควรเปิดหน้าต่างออกมาด้านนอกเลยด้วยซ้ำเพราะดูเหมือนพายุหิมะจะกำลังพัดโหมกระหน่ำ ทว่าดูเหมือนที่ผ่านมาเขาจะทำตัวเช่นนี้อยู่ตลอด..ชอบทำอะไรที่ไม่สมควรทำ ชอบแสดงด้านที่แย่ๆ ของตัวเองออกไป เขาถูกกดดันจากเสด็จพ่อเรื่องของการแต่งงานที่พระชายาของเขาจะต้องเป็นท่านหญิงนาทาเลียเพียงผู้เดียวเท่านั้น และการถูกบังคับปลูกฝังตั้งแต่เด็กเช่นนั้นมันทำให้ภายในใจของเขาแสดงอาการต่อต้านขึ้นมานาทาเลีย อาโมรี สตรีที่งดงามมากที่สุดในจักรวรรดิ เส้นผมสีเงินของนางนั้นทำให้นางโดดเด่นท่ามกลางสตรีมากมายในแวดวงชนชั้นสูง รอยยิ้มบนใบหน้าให้ความรู้สึกเหมือนกำลังตกอยู่ในภวังค์ และ..แววตาสุดแสนจะคาดหวังที่นางมองมาที่เขา แววตาเช่นนั้นมันทำให้โอเว่นรู้สึกสะอิดสะเอียนมากเหลือเกิน นางทำตัวเป็นเจ้าของเขาจะพยายามกันสตรีที่เข้ามาหาเขาให้ไกลออกไป นาทาเลียเริ่มทำตัวแย่มากขึ้นเรื่อยๆยิ่งเขาควงสตรีอื่นมาออกงาน นางก็จะอาละวาดจนไม่สนใจชื่อเสียงของอาโมรีเลย นั่นทำให้โอเว่นในยามนั้นมองท่าทีของนาทาเลียแล้วเขารู้สึกว่ามันสนุก..เขาพยายามทำให้นาทาเลียแสดงด้านแย่ๆ ออกมาเพื่อหวังว่าเสด็จพ่อจะยกเลิกการหมั้
เมื่อลูเซียนพาเธอเข้ามาด้านในบ้านที่เราอยู่ด้วยกันก่อนหน้านี้ นาทาเลียก็หลับตาลงพร้อมกับถอนหายใจเฮือกใหญ่ เมื่อเธอได้กลับมาอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยของตัวเอง“ข้าควรจะเริ่มคำถามไหนก่อนดีนาทาเลีย”ในใจของลูเซียนมีคำถามมากมาย เธอไปอยู่ที่นั่นได้อย่างไร แล้วคุยกับเบลได้เรื่องอะไรบ้าง ไอ้องค์รัชทายาทเวรนั่นทำอะไรเธอบ้างรึเปล่า เขากำลังโกรธและสับสนจนอยากจะระเบิดพลังออกมาให้รู้แล้วรู้รอดไปนาทาเลียเอื้อมมือโอบรอบคอเขาส่วนลูเซียนก็เอามือตระกองกอดเอวเธอไว้ เขาก้มหน้าลงมาเล็กน้อยเพื่อให้หน้าผากของเราแนบชิดกัน..“ท่านช่วยสร้างมิติเวทมนตร์ขึ้นมาได้ไหมคะ”เท่าที่ฟังจากเบล ไคเลอร์ (ผู้สร้างเกมนี้) จะไม่สามารถควบคุมเธอและฟังความคิดของเธอได้ในมิติเวทมนตร์ลูเซียนไม่ได้ถามหาเหตุผลของการร้องขอนั้น เมื่อเธอบอกความต้องการออกมา หน้าที่ของเขาคือทำตามความต้องการของนาทาเลียเท่านั้น เขาวาดมือออกมาในอากาศก่อนจะอุ้มเธอเดินเข้าไปในประตูโปร่งแสงสีทองมิติเวทมนตร์ของลูเซียนนั้นแตกต่างจากมิติเวทมนตร์ของเบลอย่างสิ้นเชิง แต่ก็ปฏิเสธถึงพลังเวทที่แข็งแกร่งของเบลไม่ได้เลยเธอคิดว่าเบลเองก็อาจจะเป็นนางร้ายเหมือนกันกับเธอซะอี
โอเวนจมอยู่กับความคิดมากมายเพียงลำพัง เธอถามเขาออกมาด้วยใบหน้าที่เย็นชาประดุจน้ำแข็ง บอกตามตรงว่าเขาไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองทำอะไรผิดหนักหนา เธอถึงได้เกลียดชังเขามากขนาดนี้“ข้า..ต้องการเจ้ามากนะเทียร์”นาทาเลียรู้สึกเหนื่อยล้ามากเหลือเกิน เพราะโอเวนทำเหมือนกับว่าเธอกำลังพูดคุยอยู่กับก้อนหินยังไงอย่างงั้นเลย เขาพูดไม่รู้เรื่องหรือว่าตั้งใจไม่ฟังคำพูดของเธอก็ไม่รู้“ต่อให้บนโลกใบนี้เหลือเจ้าที่เป็นบุรุษอยู่แค่คนเดียว ข้ายอมตายเสียยังจะดีกว่าไปเป็นคนรักของเจ้า..เลิกหลงตัวเองแล้วมองที่ความเป็นจริงหน่อยเถิด เจ้าคือองค์รัชทายาทและมีสตรีมากมายที่ตบเท้ากันเดินเข้าหาเจ้า นั่นแหละโอเวน สตรีที่เจ้าควรจะไปหาความรักคือสตรีพวกนั้นไม่ใช่ข้า เรื่องของเรามันเป็นไปไม่ได้เพราะข้าไม่ได้รักเจ้า”“เทียร์ ทุกเรื่องที่ข้าต้องการมันจะต้องเป็นไปได้ เจ้าลืมไปแล้วงั้นเหรอว่าข้าเป็นใคร หากอยากจะหลุดพ้นจากข้า เจ้าก็ฆ่าข้าซะสิ..อึ่ก”ดาบที่แหลมคอจ่ออยู่บนคอของโอเว่น“อ่า..แบบนั้นเองสินะ ข้ากำลังคิดหาทางพาคนรักของข้าไปจากองค์รัชทายาทอยู่พอดีเลย หากรู้ว่าการสังหารท่านแล้วจะพานาทาเลียออกไปจากที่นี่ได้ง่ายๆ ข้าคงจะท