++++++++++++++++ อิจฉาซ่งเชี่ยนเลยเรียกพวกมารุมตบ สมน้ำหน้าโดยพี่หยางเล่น!
พนักงานคนหนึ่งใช้มือชี้ไปที่เงาหลังของหลิงหยาง พร้อมถามโจวหยุนหลง“ท่านประธานโจว ผู้ชายคนนี้คือใครกันคะ? ทำไมคุณถึงเรียกเขาว่านายน้อยหลิง แล้วทำไมถึงกลัวเขาขนาดนั้น?”“เธอนี่โง่จริงๆ” โจวหยุนหลงเหลือบมองอย่างเย็นชา “แม้แต่ทายาทตระกูลหลิง ประธานบริษัทหลิงกรุ๊ปอย่างหลิงหยาง เธอยังไม่รู้จักอีกหรือ? คนใหญ่คนโตแบบเขา ฉันจะไปกล้าหาเรื่องได้ยังไง?”“อ๋อ ที่แท้ก็คือคุณชายเพชรเม็ดงามในตำนานคนนั้นนี่เอง” อู๋เสี่ยวลี่พูดด้วยความอยากรู้อยากเห็น “ไม่ใช่ว่ามีข่าวลือว่าเขาไม่ชอบผู้หญิงหรอกเหรอ? แล้วทำไมถึงปกป้องซ่งเชี่ยนขนาดนั้นล่ะ? ระหว่างพวกเขามีความสัมพันธ์อะไรกันแน่?”“เธอถามฉัน แล้วฉันจะไปถามใครล่ะ?” โจวหยุนหลงจ้องหล่อนด้วยความไม่พอใจ ก่อนจะหันไปมองที่จางเมิ่งเสวี่ย “จางเมิ่งเสวี่ย เธอมาที่ห้องทำงานของฉันหน่อย!”พูดจบเขาก็เดินออกไปจากห้องทำงานทันที จางเมิ่งเสวี่ยเข้าใจจุดประสงค์ของโจวหยุนหลงดี ใบหน้าของเธอแดงระเรื่อ ขณะก้มหน้าและเดินตามเขาออกไป ทั้งสองเดินตามกันเข้าไปในห้องทำงานของผู้จัดการทั่วไป ทันทีที่เข้ามาในห้อง โจวหยุนหลงก็ปิดประตูอย่างแรงหัวใจของจางเมิ่งเสวี่ยเต้นเร็วด้วยความกังวล เธอรู
หลิงหยางยื่นโทรศัพท์ให้ซ่งเชี่ยน เธอจึงกดรับสายทันที เสียงของเจียงอิ๋งเสวี่ยดังออกมาจากโทรศัพท์ด้วยความกระวนกระวาย“ซ่งเชี่ยน ทำไมถึงยังไม่กลับบ้าน? นี่ก็เลิกงานนานแล้วนะ เธอไปไหนมา?”“ฉัน... ฉันมีเรื่องนิดหน่อยที่บริษัท คิดว่าคืนนี้คงกลับบ้านไม่ได้...” ซ่งเชี่ยนตอบตะกุกตะกัก“เกิดอะไรขึ้น? เธอถูกคนที่บริษัทกลั่นแกล้งเหรอ?” เจียงอิ๋งเสวี่ยถามด้วยความตกใจซ่งเชี่ยนไม่อยากให้เจียงอิ๋งเสวี่ยเป็นห่วง เลยพูดแบบกลบเกลื่อน “เปล่า... เปล่าหรอก...”“เปล่าแน่นะ” เจียงอิ๋งเสวี่ยไม่เชื่อ “เธอตอบไม่เต็มปากแบบนี้ แสดงว่าต้องถูกใครรังแกแน่ๆ ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน?”เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ซ่งเชี่ยนจึงไม่กล้าปิดบังต่อ “ฉัน... ฉันบาดเจ็บเลยต้องนอนโรงพยาบาล…”“ใครทำเธอบาดเจ็บจนต้องนอนโรงพยาบาล?” เจียงอิ๋งเสวี่ยถามอย่างเร่งรีบ“ฉันอธิบายผ่านโทรศัพท์ไม่ได้ เธอมาถึงค่อยคุยกัน”“เธออยู่โรงพยาบาลไหน ห้องไหน?”“อยู่ห้องผู้ป่วยพิเศษชั้น 10 ที่โรงพยาบาลประชาชนเมือง…”“รอฉันอยู่ในห้อง ฉันจะไปหาเธอเดี๋ยวนี้!”เจียงอิ๋งเสวี่ยวางสายทันทีหลังจากพูดจบ“เสวี่ยเอ๋อร์คือใคร? ดูเหมือนเธอจะเป็นห่วงเธอมากเลยนะ” หลิงหยางถามด้วยค
ผู้หญิงคนนี้ก็คือเพื่อนร่วมชั้นและเพื่อนสนิทของซ่งเชี่ยน เจียงอิ๋งเสวี่ย เธอมีรูปร่างสูงโปร่ง หน้าตาสวยงาม ผิวขาวเนียนดุจหิมะ มีท่าทางที่สง่างามและดูสูงศักดิ์ ทำให้ผู้คนเกรงกลัวไม่กล้าล่วงเกินหลิวฮุ่ยหลิงอึ้งไปครู่หนึ่ง ก่อนที่จะตั้งสติได้แล้วถามอย่างสงสัย "เธอเป็นใคร? มีสิทธิ์อะไรมาวิจารณ์เรื่องครอบครัวของเรา?""ฉันชื่อเจียงอิ๋งเสวี่ย เป็นเพื่อนร่วมชั้นและเพื่อนสนิทของซ่งเชี่ยน ฉันจะไม่ยอมให้ใครรังแกเธอ และยิ่งไม่ยอมให้ใครมาดูถูกเธอด้วย” เธอกล่าวแนะนำตัวเองหลังจากที่เจียงอิ๋งเสวี่ยแนะนำตัว หลิวฮุ่ยหลิงกลับไม่โกรธเลย แต่พิจารณาดูหล่อนอย่างละเอียด แล้วในที่สุดก็จำได้ว่าเป็นใคร จึงถามด้วยความตกใจ“เธอคือลูกสาวของเจียงซวี่ตงกับหลิงอวี้เหมยเหรอ?”"ใช่ค่ะ มีอะไรรึเปล่าคะ?" เจียงอิ่งเสวี่ยขมวดคิ้วเล็กน้อย“ไม่น่าแปลกใจเลย ตอนเธอเข้ามา ฉันรู้สึกคุ้นหน้ามาก ที่แท้เธอคือลูกสาวของพวกเขานี่เอง!” หลิวฮุ่ยหลิงเปลี่ยนท่าทีเป็นกระตือรือร้นพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือเลย“คุณรู้จักพ่อแม่ของฉันเหรอ?” เธอขมวดคิ้วถาม พ่อกับแม่เธอรู้จักคนประเภทนี้ด้วยเหรอ!“ไม่ใช่แค่รู้จักนะ ตอนเธอยังเด็ก เราเคยจับเธอกับห
"ครอบครัวของพวกเธอสองคนก็เหมาะสมกันดี แถมยังเคยหมั้นหมายกันตั้งแต่เด็กๆ อีก พวกเธอสองคนอยู่ด้วยกันถึงจะเป็นคู่แท้ที่ฟ้าลิขิตสิ!" ซ่งเชี่ยนพูดออกมาโดยไม่ต้องคิด"ซ่งเชี่ยน พูดบ้าอะไรเนี่ย? เธอเป็นเพื่อนสนิทของฉัน แล้วหลิงหยางก็เป็นสามีเธอ ฉันจะไปเป็นมือที่สามแย่งเขามาได้ยังไงกัน?" เจียงอิ๋งเสวียรีบโต้กลับทันทีหลิงหยางพูดด้วยสีหน้าจริงจังเช่นกัน "ซ่งเชี่ยน เธอโดนจางเมิ่งเสวียตีจนโง่ไปแล้ว หรือว่าโดนแม่ฉันทำให้สับสนจนเป็นไข้สูงกันแน่? เธอคิดว่าฉันเป็นคนยังไง ฉันจะไปคบกับเพื่อนสนิทของเธอเนี่ยนะ""แต่ว่า..." ซ่งเชี่ยนเพิ่งจะเอ่ยปาก ประตูห้องก็ถูกเปิดออกจากด้านนอกทุกคนหันไปมองที่ประตู คุณย่าของหลิงหยางถูกพยาบาลสาวในชุดกาวน์ขาวเข็นรถเข็นเข้ามาในห้อง หลังจากเข้ามาแล้วพยาบาลก็รู้กาลเทศะเดินออกไป คุณย่ามองไปที่ซ่งเชี่ยนที่นั่งอยู่บนเตียง เห็นสภาพหน้าตาบวมช้ำของหล่อนแล้วก็รู้สึกเจ็บใจ"หลานสะใภ้ ใครเป็นคนทำร้ายหนูจนเป็นแบบนี้?""หนู..." ซ่งเชี่ยนไม่รู้จะตอบอย่างไร จึงมองไปที่หลิงหยาง"คุณย่า ทำไมมาที่นี่ล่ะครับ?" เขารีบเปลี่ยนเรื่อง"ได้ยินว่าหลานสะใภ้ที่น่ารักของย่า โดนคนทำร้ายจนต้องเข้าโรงพย
ครึ่งชั่วโมงต่อมาหลิงหยางปรากฏตัว ในห้องทำงานผู้จัดการใหญ่ของบริษัทโฆษณาหลานเถียน โจวหยุนหลงถูกซ้อมจนหน้าตาบวมช้ำ นอนแผ่อยู่บนพื้นห้องเหมือนสุนัขตายแล้ว หลิงหยางมองเขาแวบหนึ่ง แล้วถามเกาหมิง"เกิดอะไรขึ้น?""ไอ้นี่ไม่ยอมรับ พวกเราก็เลยสั่งสอนมันไปหน่อย!" เกาหมิงตอบตามตรง"ตอนนี้เป็นสังคมอารยะแล้วนะ ทำไมถึงใช้วิธีรุนแรงแบบนี้? รีบพยุงคุณโจวขึ้นมาเร็ว!" สิ่งที่เลขาของเขาทำออกจะป่าเถื่อนไปหน่อยชายชุดดำสองคนจับโจวหยุนหลงขึ้นมาจากพื้นเหมือนจับไก่ แล้วพาไปนั่งบนโซฟายาวในห้อง หลิงหยางพูดอย่างแกล้งทำเป็นสำนึกผิด"คุณโจว ขอโทษด้วยนะครับ ลูกน้องผมไม่รู้จักคิด ทำร้ายคุณจนเป็นแบบนี้ อย่าถือสาเลยนะครับ!""ไม่เป็นไรครับ พวกเราแค่เล่นๆ กัน คุณหลิงครับ ขอโทษด้วยผมไม่รู้ว่าซ่งเชี่ยนเป็นผู้หญิงของคุณ เป็นความผิดผมเองที่ควบคุมลูกน้องไม่ดี ซ่งเชี่ยนถึงได้โดนจางเมิ่งเสวี่ยทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส..." โจวหยุนหลงเหมือนถูกตีจนโง่ไปแล้ว ส่ายหัวไปมาพลางขอโทษเขาไม่หยุดปากเกาหมิงจ้องโจวหยุนหลงอย่างดุดัน พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "คุณโจว เมื่อกี้คุณไม่ได้พูดแบบนี้นะ จะให้พวกเราช่วยทบทวนความจำคุณอีกรอบไหม?"โจวหยุนหลงตก
หมู่บ้านหยีซินการ์เด้นที่บ้านของเจียงอิ๋งเสวี่ย ซ่งเชี่ยนนั่งซึมเศร้าอยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่น เจียงอิ๋งเสวี่ยนั่งอยู่ข้างๆ ด้วยท่าทางเห็นใจแล้วถามว่า "เธออยากหย่ากับหลิงหยางจริงๆ เหรอ?"ซ่งเชี่ยนพูดเบาๆ "เธอก็เห็นแล้ว แม่ของหลิงหยางเป็นคนที่ไร้เหตุผลและเจ้าอำนาจ ถ้าฉันอยู่กับเขาไปนานๆ ใครจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น สู้ปวดใจทีเดียวแต่จบไปดีกว่า ก่อนที่ฉันจะตกหลุมรักหลิงหยางมากกว่านี้ ฉันควรรีบเลิกกับเขาไปซะ สุดท้ายแล้วพวกเราก็แต่งงานกันแบบหลอกๆ อยู่ดี!""ฉันคิดว่าหลิงหยางรักเธอจริงๆ นะ ตอนนี้ผู้ชายที่ทั้งหล่อและรวยมันหายาก ถ้าปล่อยโอกาสนี้ไป เธออาจจะไม่มีโอกาสอีกแล้ว ลองคิดทบทวนอีกทีดีไหม?" เจียงอิ๋งเสวี่ยพยายามปลอบซ่งเชี่ยนถอนหายใจ "เขาว่ากันว่าการแต่งงานเข้าบ้านเศรษฐีเหมือนกับการดำน้ำลึก ฉันเข้าใจแล้วว่ามันจริงแค่ไหน ครอบครัวของเรามีความแตกต่างกันมาก ฉันไม่เหมาะสมกับหลิงหยางเลย และไม่อยากเป็นต้นเหตุที่ทำให้เขาทะเลาะกับครอบครัว""เอาล่ะ ฉันรู้ว่าเธอเป็นคนที่ดื้อรั้น ถ้าเธอตัดสินใจแล้ว ต่อให้แปดม้าก็ลากกลับไม่ได้ เธอก็อยู่ที่นี่เพื่อพักฟื้นและคิดทบทวนว่าเธอแต่งงานกับหลิงหยางทำไม เมื่อเธอ
“จางเมิ่งเสวี่ย ทำไมถึงเป็นเธอ? ทำร้ายภรรยาฉันจนต้องเข้าโรงพยาบาล แล้วยังกล้าโทรมาหาฉันอีกเหรอ? เธออยากโดนด่าหรือไง?”“หลิงหยาง ฉันน่ารังเกียจขนาดนั้นเลยเหรอ?” จางเมิ่งเสวี่ยถามด้วยน้ำเสียงเจ็บปวด“เธอไม่ใช่แค่น่ารังเกียจ แต่ยังทำให้ฉันรู้สึกขยะแขยงอีกด้วย!” เขาตอบกลับด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ถึงฉันจะน่าขยะแขยงแค่ไหน ก็ไม่เท่าซ่งเชี่ยนที่หน้าไม่อายคนนั้นหรอก!” เริ่มไม่พอใจที่หลิงหยางปกป้องยัยนั่นมากเหลือเกิน“หมายความว่ายังไง?” หลิงหยางถามด้วยความสงสัย“คุณยังไม่รู้ใช่ไหม? ซ่งเชี่ยนเคยมีสัญญาหมั้นกับลูกพี่ลูกน้องของฉันที่ชื่อจางฟาน เพื่อจะแต่งงานกับหล่อน ลูกพี่ลูกน้องของฉันจ่ายหนี้พนันให้ครอบครัวนั้นไปหนึ่งล้านหยวน แถมยังให้เงินสินสอดอีกแปดแสนหยวน…” พูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาราวกับกลัวคนจะได้ยิน แต่แฝงไปด้วยความจริงจังหลิงหยางรู้เรื่องระหว่างจางฟานกับซ่งเชี่ยนเป็นอย่างดีเขาจึงรีบตัดบทจางเมิ่งเสวี่ยและพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ “ที่แท้เธอคือพี่สาวของจางฟานสินะ พวกเธอสองคนมันก็เหมือนกันนั่นแหละ!”“ในเมื่อคุณแต่งงานกับซ่งเชี่ยนแล้ว ก็ต้องให้เงินสินสอดกับครอบครัวของหล่อนไม่ใช่เหรอ?” พูดออกมาอย่างไม
เมื่อคืนที่ผ่านมา แม้ว่าซ่งเชียนจะนอนหลับไม่ค่อยสนิท แต่เนื่องจากเธอมีนิสัยตื่นเช้า จึงตื่นขึ้นมาแต่เช้าตรู่ หลังจากนั้นก็ไปที่ห้องน้ำเพื่อทำความสะอาดตัวเองแบบง่ายๆ แล้วก็เข้าไปในครัวทำอาหารเช้าและจัดเตรียมบนโต๊ะ ประตูห้องนอนใหญ่ยังคงปิดอยู่ เธอยืนอยู่ที่หน้าประตูแล้วเคาะเบาๆ"ใครน่ะ?" เสียงขี้เกียจของเจียงอิ๋งเสวี่ย ดังมาจากในห้องนอน"เมื่อคืนใครมาพักที่บ้านเธอ ยังไม่รู้ตัวอีกเหรอ?""เข้ามาสิ!"หลังได้รับอนุญาต ซ่งเชียนก็หมุนลูกบิดและเปิดประตู เจียงอิ๋งเสวี่ยยังนอนอยู่บนเตียง พอเห็นซ่งเชียนเธอก็ลุกขึ้นนั่ง จากนั้นเธอก็ยืดเส้นยืดสายหาวไปหนึ่งครั้ง "ซ่งเชียน ทำไมเธอตื่นเช้าจัง?""จะว่าเช้าได้ไง เกือบแปดโมงแล้วนะ""อ๋อ? นี่แปดโมงแล้วเหรอ?" เจียงอิ๋งเสวี่ย รู้สึกตกใจ รีบกระโดดลงจากเตียง "ฉันต้องรีบไปทำงานแล้ว ไม่งั้นสายแน่ๆ!"หลังจากล้างหน้าล้างตาในห้องน้ำของห้องนอนใหญ่ เจียงอิ๋งเสวี่ยก็ออกมาที่ห้องนั่งเล่น พอเห็นอาหารร้อนๆ บนโต๊ะเธอก็รู้สึกตกใจ รีบมองไปที่ซ่งเชียนแล้วถามด้วยความประหลาดใจ"นี่เธอทำทั้งหมดเลยเหรอ?"ซ่งเชียนพูดอย่างไม่ใส่ใจนัก "ถ้าไม่ใช่ฉัน แล้วจะเป็นใครล่ะ? หรือว่าบ้านเธ
หลิงหยางมองดูชายหัวล้านตรงหน้า ด้วยสายตาเย็นชาแล้วเอ่ยทักด้วยน้ำเสียงหยอกล้อ ที่แท้ลูกพี่ที่ว่าก็คือเขาคนนี้นี่เอง"อาคัง นายกล้าจริงๆ เหรอ ส่งลูกน้องมาแย่งของจากฉัน แถมยังจะช่วยออกหน้าอีก นายมีเงินมากหรือว่ามีอำนาจใหญ่โตขนาดเชียวเหรอ?"ชายหัวล้านรีบยิ้มอย่างประจบ "คุณชายหลิง ผมจะกล้าได้ยังไง เมื่อเทียบกับคุณแล้ว พวกเราเป็นแค่เศษฝุ่นในสายตาคุณ ถึงจะให้ผมมีความกล้าร้อยเท่า ผมก็ไม่กล้าแย่งของจากคุณหรอก!""ถ้างั้นนายก็รู้แล้วใช่ไหมว่าควรทำยังไง?" หลิงหยางพูดด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก"รู้แล้วครับ" อาคังพยักหน้ารัวๆ แล้วรีบยกมือขึ้นตบผู้ชายที่อยู่ข้างๆ อย่างแรง ก่อนจะตะโกนด่า "ไอ้หนู นายอยากตายใช่ไหม? รีบคุกเข่าลงขอโทษคุณชายหลิงเดี๋ยวนี้!"ชายคนนั้นเห็นสถานการณ์ไม่ดี จึงรีบคุกเข่าลงกับพื้นและขอโทษหลิงหยาง "คุณชายหลิง ผมขอโทษครับ ผมตาไม่ดีเองเอง ไม่ควรแย่งของจากคุณ ได้โปรดให้อภัยผมด้วย!"หลิงหยางไม่สนใจและไม่ได้แสดงท่าทางใดๆ ว่าจะยอมรับคำขอโทษนั้น แต่กลับจับมือซ่งเชี่ยนออกจากร้าน คนมาซื้อของดีๆ กลับถูกหาเรื่องเสียได้"ที่รัก ไปกันเถอะ!"ซ่งเชี่ยนคล้องแขนเขา แล้วทั้งสองก็เดินออกจากร้านเครื่องป
หลังจากลงมายังชั้นล่าง ก็เห็นรถยนต์ของหลิงหยางจอดอยู่ที่หน้าอาคาร ซ่งเชี่ยนนั่งลงที่ข้างๆ คนขับ ก่อนจะหันไปพูดกับหลิงหยาง“คุณคะ คุณเพิ่งใช้เงินไป 6 ล้านหยวน เพื่อซื้อบริษัทโฆษณาหลานเถียนให้ฉัน นั่นก็เยอะพอแล้ว ฉันจะกล้าขอให้คุณซื้อแหวนแต่งงานให้ฉันได้ยังไง?”“การแต่งงานเป็นเรื่องสำคัญ ถ้าฉันไม่ซื้อเครื่องประดับที่เหมาะสมให้ คนอื่นจะดูถูกเอาได้ ดังนั้นให้ฉันซื้อให้เถอะ”ซ่งเชี่ยนลังเลเล็กน้อยแล้วพยักหน้า “ก็ได้ค่ะ ฉันจะฟังคุณ”“ดี งั้นตอนนี้ฉันจะพาเธอไปที่ร้านเครื่องประดับ”หลิงหยางพูดเสร็จก็สตาร์ทรถ และขับไปที่ร้านเครื่องประดับไฮโซ ซึ่งตั้งอยู่ในย่านใจกลางเมือง ไม่นานนักหลิงหยางก็ขับมาถึง ที่นี่เป็นหนึ่งในร้านเครื่องประดับที่หรูหรา และมีสไตล์ที่สุดในเมือง มีเครื่องประดับหลากหลายประเภท ทั้งแหวน, ต่างหู, สร้อยคอ, กำไล, และจี้ ในบรรดาเครื่องประดับเหล่านี้ มีผลงานของนักออกแบบชื่อดังจากทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งออกแบบและสร้างสรรค์ขึ้นอย่างพิถีพิถัน เป็นเครื่องประดับที่มีชื่อเสียงระดับโลกหลิงหยางจอดรถเรียบร้อย ซ่งเชี่ยนควงแขนเขาแ ละเดินเข้าร้านเครื่องประดับไปด้วยกัน พนักงานขายสาวอายุประมาณย
หลังจากหลิงหยางส่งวิดีโอ ที่จางเมิ่งเสวี่ยถูกจับได้ว่าเป็นชู้ไปให้แม่ของเขาดู หลิวฮุ่ยหลิงก็ไม่โทรกลับมาอีกเลย น่าจะเป็นเพราะท่านรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นเมียน้อยของคนอื่น จึงไม่กล้าพูดถึงจางเมิ่งเสวี่ยต่อหน้าเขาอีก และยิ่งไม่อยากช่วยพูดแทนแล้วเรื่องนี้ทำให้หลิงหยางและซ่งเชี่ยน รู้สึกโล่งใจและสบายใจขึ้นมาก จากนี้ไปหลิวฮุ่ยหลิงก็ไม่มีเหตุผลอะไร ที่จะจับคู่หลิงหยางกับจางเมิ่งเสวี่ยอีกต่อไปแล้ว และจะไม่มาทำลายความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งสองด้วยเมื่อครู่ขณะที่ทั้งสองคนเล่นรักกันบนโซฟายาว ในห้องทำงานของผู้จัดการทั่วไป มันให้ความรู้สึกที่แปลกใหม่อย่างมาก และพวกเขาก็เข้าใจว่า ทำไมโจวหยุนหลงถึงชอบให้จางเมิ่งเสวี่ย มาพลอดรักในห้องทำงาน มันเป็นการเล่นที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นและหวาดเสียวปัจจุบันห้องทำงานนี้รวมถึงบริษัททั้งหมด เป็นของซ่งเชี่ยนแล้ว อย่างไรก็ตามในมุมมองของหญิงสาว แม้ว่าพวกเธอจะทำเรื่องส่วนตัวในห้องทำงาน โดยที่ไม่มีใครว่าอะไรแต่มันก็ไม่ส่งผลดีต่อภาพลักษณ์"เพราะคุณเลย! คนนิสัยไม่ดี!" หลังจากจัดเสื้อผ้าและผมของเธอเรียบร้อยแล้ว ซ่งเชี่ยนหันมามองหลิงหยางด้วยสายตาตำหนิ "ต่อไปห้ามทำอะไรฉ
วิดีโอที่หลิงหยางส่งมา เป็นภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตรงหน้าประตูห้องทำงานของผู้จัดการบริษัทหลานเถียน ซึ่งบันทึกเหตุการณ์ทั้งหมด ขณะที่ภรรยาของโจวหยุนหลงมาจับชู้ เมื่อดูจบหลิวฮุ่ยหลิงแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง จึงพยายามแก้ตัวให้จางเมิ่งเสวี่ย “ไม่มีทาง เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด เมิ่งเอ๋อร์ไม่ใช่คนแบบนั้น เธอจะไปมีอะไรกับผู้ชายแก่ๆ ได้ยังไง?”“ยังมีอะไรที่เป็นไปไม่ได้อีก? ภรรยา คุณควรยอมรับความจริงได้แล้ว วิดีโอนี่เป็นของจริง โชคดีที่หลิงหยางไม่ได้ไปยุ่งกับผู้หญิงแบบนั้น ไม่งั้นตระกูลหลิงของเราคงเสียหน้าไปหมดแล้ว!” หลิงฉิงซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ ดูวิดีโอด้วยกันก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่พอใจหลิวฮุ่ยหลิงขมวดคิ้ว “หมายความว่าจางเมิ่งเสวี่ย หลอกเราให้เห็นว่าเธอเป็นเด็กดี?” “ชีวิตส่วนตัวของเธอไม่ดีนัก ถ้าไม่ใช่การแสดงแล้วจะเป็นอะไร?” หลิงฉิงไม่ได้สนิทกับครอบครัวนั้นเหมือนภรรยา รู้จักเพียงแค่ผิวเผินจึงพูดไปตามเนื้อผ้า “ดูเหมือนว่าหลิงหยางตัดสินใจถูก ที่ไม่ไปคบกับจางเมิ่งเสวี่ย และเลือกแต่งงานกับซ่งเชี่ยนแทน!” มาถึงตอนนี้แม้ยากจะยอมรับ แต่ทุกอย่างมันคือเรื่องจริง หลิวฮุ่ยหลิงถอนหายใจออกมาดังๆ“ใช่แล้ว แม้ว่า
จางเมิ่งเสวี่ยขับรถกลับบ้าน แล้วก็พุ่งตัวเข้าไปในห้องนอนส่วนตัว ก่อนจะซบหน้าลงบนเตียงและร้องไห้ออกมา จ้าวชิงหย่าเปิดประตูห้องเห็นลูกเศร้าโศกจึงเดินเข้ามาถาม "เมิ่งเอ๋อร์ ลูกไม่ได้ไปทำงานที่บริษัท เพื่อตรวจสอบการทำงานของพนักงานหรอกเหรอ? ทำไมกลับมาถึงบ้านแล้วก็ร้องไห้แบบนี้ล่ะ บอกฉันสิใครรังแกเธอ?"จางเมิ่งเสวี่ยกลัวว่าแม่ของเธอ จะรู้เรื่องที่เธอแอบมีความสัมพันธ์กับโจวหยุนหลงในห้องทำงาน และภรรยาของโจวหยุนหลงจับได้ พนักงานในบริษัทก็แห่ไปดูเหตุการณ์ ดังนั้นเธอจึงนั่งขึ้นมาจากเตียง และตอบด้วยน้ำตาคลอเบ้า "เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับแม่เลย แม่ออกไปก่อนเถอะ ให้หนูได้อยู่คนเดียวสักพัก!""ไม่!" จ้าวชิงหย่าปฏิเสธอย่างหนักแน่น "ถ้าลูกไม่บอกว่าเกิดอะไรขึ้น แม่จะไม่ออกไปจากห้องนี้เด็ดขาด รีบบอกมาว่ามีเรื่องอะไร""ฉัน... ฉันโดนไล่ออกแล้ว..." ถูกคาดคั้นเลยจำเป็นต้องตอบ เพราะอย่างไรไม่ช้าหรือเร็วแม่ก็ต้องรู้อยู่ดี"อะไรนะ? โดนไล่ออกเหรอ?" จ้าวชิงหย่าถามด้วยเสียงตกใจ "ใครไล่เธอออกล่ะ? หรือว่าคุณโจวไล่ออก ทำไมเขาทำแบบนั้นล่ะ ลูกไปทำอะไรผิดพลาดไว้หรือเปล่า?""ไม่ใช่ค่ะ" จางเมิ่งเสวี่ยส่ายหัว "ฉันถูกหลิงหยา
เมื่อได้ยินว่าหลิงหยางซื้อบริษัทโฆษณาหลานเถียนในนามของเธอ และซ่งเชี่ยนเป็นเจ้าของบริษัทแล้ว หญิงสาวรู้สึกเหมือนกำลังฝันไป ไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง และเมื่อสามีตัดสินใจไล่โจวหยุนหลงและจางเมิ่งเสวี่ยออก เธอจึงรู้สึกเหมือนเพิ่งตื่นจากฝัน “ฉันไม่มีปัญหา แต่ฉันขอไล่คนเพิ่มอีกสองคนได้ไหม?” “เธอเป็นเจ้าของบริษัทนี้ ใครที่อยากไล่ก็ไล่ได้เลย ไม่จำเป็นต้องถามความเห็นฉัน” ยิ้มกว้างให้ภรรยา ตอนนี้เธอมีสิทธิ์ขาดอย่างเต็มที่ จะไล่ใครก็ตามสะดวก“ถ้าอย่างนั้น” ซ่งเชี่ยนหันไปมองซุนจิ่นเหยาแล้วพูด “วันนั้นคุณร่วมมือกับหลิวจื้อกังและจางเมิ่งเสวี่ยเพื่อรังแกฉัน คุณก็ไม่มีความจำเป็นต้องอยู่ที่นี่อีกต่อไป ตั้งแต่ตอนนี้คุณและหลิวจื้อกังจะไม่ใช่พนักงานของบริษัทโฆษณาหลานเถียนอีกต่อไป เก็บข้าวของของคุณแล้วออกไปได้เลย” “ท่านประธานซ่ง ฉันผิดไปแล้ว โปรดยกโทษให้ฉันเถอะ ฉันมีพ่อแม่ต้องดูแลและลูกเล็กๆ ฉันไม่อยากเสียงานนี้ไป!” ซุนจิ่นเหยารีบคุกเข่าขอร้อง “แล้วตอนที่คุณร่วมมือกับจางเมิ่งเสวี่ยเพื่อต่อต้านฉัน ทำไมคุณไม่คิดถึงเรื่องนี้บ้าง?” ไม่ได้อยากใจร้าย แต่คนพวกนี้ทำร้ายเธอก่อน จะมีหน้าร่วมงานกันได้อย่างไรอีกซุน
"อ๊า!"จางเมิ่งเสวี่ยร้องเสียงหลง พร้อมกับผลักโจวหยุนหลงออกจากตัวอย่างแรง ชายแก่รีบลุกขึ้นจากตัวเธอทันที พร้อมดึงกางเกงขึ้นและมองไปที่ห่าวเหมย ซึ่งโกรธจนบุกเข้ามาในห้องทำงานด้วยความตะลึง ก่อนถามออกมาอย่างตะกุกตะกัก“หะ...ห่าวเหมย คุณ...คุณมาที่นี่ได้ยังไง?” “โจวหยุนหลง! แกมันเลวจริงๆ กล้าไปหาผู้หญิงคนอื่น ดูสิวันนี้ฉันจะจัดการแกกับอีผู้หญิงชั่วๆ นี่ยังไง!” เธอตะโกนด่าเสียงเข้มพูดจบเธอก็ตรงเข้ามาตบหน้าโจวหยุนหลงไปสองทีอย่างแรงจางเมิ่งเสวี่ยพอเห็นว่าโจวหยุนหลงเข้ามาขวางห่าวเหมยไว้ เธอจึงตั้งสติรีบใส่ชุดชั้นในแล้วดึงกระโปรงลง ทันใดนั้นเองก็เห็นหลิงหยางกำลังถ่ายรูปพวกเธออยู่ ด้านหลังของหลิงหยางมีซ่งเชี่ยน ซุนจิ๋นเหยา อู๋เสี่ยวลี่ หยางตัน และหลี่น่า ทำให้จางเมิ่งเสวี่ยอายจนแทบอยากจะแทรกแผ่นดินหนีถ้าแค่หลิงหยางกับซ่งเชี่ยนอยู่ที่นี่ เธอก็ยังพอเข้าใจได้ ว่าพวกเขาอาจตามเธอมา และเป็นคนโทรศัพท์บอกห่าวเหมย แต่สิ่งที่เธอไม่คาดคิดก็คือ คนที่เคยอยู่ข้างเธออย่างซุนจิ๋นเหยา อู๋เสี่ยวลี่ และหลี่น่า รวมถึงหยางตันที่สนิทกับซ่งเชี่ยนก็มาอยู่ที่นี่ด้วยสิ่งนี้ทำให้เธออับอายขายหน้ามาก และคิดว่าซ่งเชี
คืนนี้ห่าวเหมยทำเหมือนทุกวัน หลังจากอาบน้ำเสร็จ ก็นั่งบนโซฟาในห้องนั่งเล่นดูทีวี ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้นเธอหยิบโทรศัพท์บนโต๊ะชาขึ้นแล้วดู ปรากฏว่าเป็นหมายเลขที่ไม่คุ้นเคย เข้าใจผิดว่าเป็นสายรบกวนจึงกดตัดสาย แต่เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีกครั้ง จึงเริ่มรู้สึกหงุดหงิดจึงกดรับสายเสียงผู้หญิงคนหนึ่งดังมาจากโทรศัพท์ "คุณเป็นภรรยาของโจวหยุนหลงใช่ไหม?""คุณเป็นใคร?" ห่าวเหมยถามด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด"ฉันเป็นใครไม่สำคัญหรอก ประเด็นคือสามีของคุณตอนนี้ อยู่ที่สำนักงานหลานเทียน และกำลังมีความสัมพันธ์กับพนักงานคนหนึ่งของบริษัท""อะไรนะ? เป็นไปได้ยังไง? ไม่น่าแปลกใจเลยที่โจวหยุนหลงดูเหม่อลอยบ่อยๆ เพราะเขาไปยุ่งกับผู้หญิงในบริษัทนี่เอง!" ห่าวเหมยตกใจ และเชื่อสนิทใจเพราะพักหลังมานี้สามีทำตัวแปลกไป"เขามีคำพูดว่า 'จับโจรต้องจับของกลาง จับชู้ต้องจับให้ได้คาหนังคาเขา' ถ้าคุณอยากจับพวกเขาให้ได้ คุณควรรีบมาที่นี่!" ไม่ทันให้ห่าวเหมยพูดอะไร ปลายสายก็วางสายไปแล้วจึงตั้งใจจะโทรหาสามีเพื่อถามยืนยันว่าเขาอยู่ที่ไหน แต่คิดว่าการทำแบบนั้นจะทำให้เขารู้ตัวเลยเปลี่ยนใจ เธอจึงถอดชุดนอนออก เปลี่ยนเสื้อผ
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นเป็นสายจากโจวหยุนหลง จางเมิ่งเสวี่ยกลัวว่าแม่จะรู้เรื่อง ที่เธอมีความสัมพันธ์กับชายชราผู้นี้ จึงไม่กล้ารับสายและรีบตัดสายทิ้งทันทีจ้าวชิงหย่าถามอย่างสงสัย "เมิ่งเอ๋อร์ทำไมไม่รับสายล่ะ?""เป็นเบอร์รบกวน ไม่มีความจำเป็นต้องรับค่ะ" ได้แต่ตอบเลี่ยงๆ ไป"ฉันเห็นว่าชื่อที่แสดงบนหน้าจอคือชื่อคุณโจวนี่ เขาไม่ใช่เจ้านายของเธอหรอกเหรอ?" จ้าวชิงหย่าเป็นคนหูตาไว มองปราดเดียวก็เห็นอย่างแจ่มชัดว่าใครโทรมา ไม่เข้าใจว่าทำไมลูกสาวถึงโกหก"ฉัน..." จางเมิ่งเสวี่ยไม่รู้จะตอบอย่างไร เธอหยุดคิดคำพูดชั่วคราวก่อนพูดต่อ "ตอนนี้เลิกงานแล้วค่ะ ฉันไม่อยากรับสายจากบริษัท""แล้วถ้าเขาโทรมาสอบถามเรื่องการลักพาตัวซ่งเชี่ยนล่ะ?" เรื่องนี้ไม่ใช่เล็กๆ อย่างไรเสียซ่งเชี่ยนก็เป็นคนในบริษัทเหมือนกัน กลัวว่าเรื่องไปถึงหูคุณโจวแล้ว เรื่องของเรื่องคือกังวลว่าลูกสาวจะเดือดร้อน"คงไม่ใช่แบบนั้นหรอกค่ะ" จางเมิ่งเสวี่ยส่ายหัว "เขาไม่รู้หรอกว่าฉันเป็นคนสร้างเรื่อง และอีกอย่างซ่งเชี่ยนก็ถูกช่วยออกมาแล้ว เขาจะโทรมาหาฉันเรื่องนี้ทำไม แม่ไม่ต้องสนใจหรอกค่ะ" พยายามหาเหตุผลมาอธิบายให้แม่ฟัง แต่ถึงโจวหยุนหลงจะรู้อย่