แชร์

บทที่ 57

ผู้เขียน: ชะนีติดมันส์
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-12 21:05:38

น้ำหนาวโทรลงมาบอกรชตให้ขยับรถไปรอด้านหลังคณะ แน่นอนว่านักข่าวไม่หลงกลง่ายๆ แน่ แต่พวกเพื่อนๆ ในห้องหลายคนต่างก็ช่วยกันเบี่ยงเบนความสนใจนักข่าว จนล่อนักข่าวให้ไปอีกด้านหนึ่งได้สำเร็จ

[ร้านขายของชำ]

ถึงแม้สันติจะบอกให้พ่อกับแม่เลิกขายของได้แล้ว แต่ทั้งสองไม่รู้ว่าเลิกขายไปแล้วจะทำอะไร ถ้าให้นั่งอยู่นอนกินสงสัยต้องเป็นง่อยแน่ สันติก็เลยจ้างเด็กแถวนี้เพื่อมาช่วยดูร้านค้า และบางวันถ้าเกียร์ว่างก็จะขายของช่วยปู่กับย่า

อย่างเช่นวันนี้เขากลับมาถึง ก็มานั่งเฝ้าหน้าร้านให้ปู่และย่า เพราะพวกท่านออกไปซื้อของมาเข้าร้าน

"ถ้าจัดของเสร็จแล้วก็กลับบ้านไปเลยนะนิด ดูท่าแล้วฝนคงใกล้จะตก"

"ไม่เป็นไรค่ะถ้าฝนตกนิดก็รอให้ฝนหยุดก่อนก็ได้" นิดก็คือเด็กที่อยู่ในหมู่บ้านนี้

"ตามใจแล้วกัน" ขณะที่เกียร์กำลังพูดกับลูกจ้างอยู่นั้น ก็ได้มีรถสปอร์ตคันหรูวิ่งเข้ามาจอด แค่มองดูก็รู้แล้วว่าเป็นรถของใคร "มาทำไม" เขาแค่พูดเบาๆ คนเดียว

"จะรับอะไรดีคะ" นิดไม่รู้ว่าคนที่มาก็คือญาติเจ้าของร้าน

"เกียร์" น้ำหนาวเห็นว่าเกียร์นั่งแบบไม่สนใจก็เลยเรียก

"ยกขบวนกันมาทำไมเยอะแยะ" จริงๆ แล้วเกียร์ก็ไม่ค่อยใช้คำพูดแบบนี้กับน้ำหนาวหรอก แต
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ภรรยาในนาม   บทที่ 58

    "แต่ก่อนไม่เห็นเหลวไหลแบบนี้ ไหนบอกมหาลัยนี้ดีไง ทำไมเข้าเรียนแค่ไม่เท่าไรถึงได้เหลวไหลแล้วล่ะ.." ย่าหวงหลานชายมาก เพราะเขายังเด็ก"อย่าลืมว่าหลานเราเป็นผู้ชายนะย่า" ส่วนปู่คิดว่าน่าจะเป็นห่วงอนาคตของผู้หญิงมากกว่า"แล้วถ้าเด็กคนนั้นท้องจะทำยังไงล่ะปู่" พอคิดได้แบบนั้นย่าก็รีบลงมาข้างล่าง"เดี๋ยว..ย่าจะไปไหน" ปู่รีบเดินตามภรรยาออกมา"ร้านขายยาปิดหรือยังเนี่ย""ทำไมหรือย่า" แต่ก่อนทั้งสองเรียกกันพ่อ แม่ พอมีหลานก็เปลี่ยนสรรพนามมาเรียกกัน ปู่ ย่า เพื่อที่จะให้หลานเรียกตาม แต่พอหลานโตทั้งสองก็ยังคงเรียกกันแบบนี้มาเรื่อยๆ"ก็จะไปซื้อยาคุมให้เด็กคนนั้นไง""เด็กเขาคงเตรียมกันมาแล้วมั้ง""ซื้อเผื่อไว้" เดินออกมาไม่ไกลก็เห็นร้านขายยา กำลังจะปิดแล้วด้วยเช้าวันต่อมา.."กรี๊ดดดด!!" ข้าวฟ่างตื่นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองนอนกอดร่างของใครบางคนอยู่ ที่กรี๊ดไม่ใช่เพราะกอดหรอก..แต่กรี๊ดเพราะตอนคลำนี้สิ "ไอ้! ไอ้!! ไอ้โรคจิต!!""ใครโรคจิตกันแน่วะ" ที่จริงเกียร์ตื่นตั้งนานแล้ว แต่อีกคนนี่สิไม่ยอมปล่อย แถมแม่นางตื่นขึ้นมายังลูบคลำไปจนเจออนาคอนด้าที่มันกำลังชูคออยู่"ทำไมนายไม่ใส่เสื้อผ้า!""ก็บอกแล้วไงว่าชอบนอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-12
  • ภรรยาในนาม   บทที่ 59

    "อย่าบอกนะว่าเธอจะขับเองจริง??" ทีแรกคิดว่าเธอแค่แกล้งพูดเพื่อให้เขาหยุดรถ"นายขับแบบนี้เมื่อไรจะถึง" ว่าแล้วหญิงสาวก็เบียดขึ้นรถตรงตำแหน่งคนขับ จนเกียร์ที่ยังนั่งอยู่บนรถได้ขยับให้เธอนั่งข้างหน้า"เอาจริงหรือวะ?" พ่อกับแม่ยิ่งมีลูกชายคนเดียวอยู่ เขาจะกล้าเสี่ยงนั่งกับเธอไปไหมเนี่ย แต่เอาวะ เกิดเป็นลูกผู้ชายทั้งที ถ้าถอย เดี๋ยวก็ถูกเธอหัวเราะอีกมือหนาจับสะโพกเรียวไว้ โดยที่ไม่ได้แตะตัวเธอมากไปกว่านั้น เขาคิดว่าปล่อยให้เธอขับเองลองดู แค่ผู้หญิงจะขับได้เร็วเท่าไรเชียวแง๊น แง๊นน แง๊นนนนนนน"เฮ๊ยย!!" จากที่ทำแค่จับสะโพก เขาเปลี่ยนเป็นกอดเอวบางไว้แน่น "ใจเย็นหน่อยน้องสาว" กอดเฉยๆ คงไม่ได้แล้ว ใบหน้าคมซบลงไหล่ของคนตัวเล็ก ความเร็วเกียร์ไม่ได้กลัวเลย แต่กลัวว่าเธอจะเบรกไม่ทันเมื่อมีรถออกจากซอยมาเอี๊ยดดดด แง๊นนนนน รถออกจากซอย ข้าวฟ่างก็แค่สะบัดหลบเล็กน้อย แล้วก็ไปต่อโดยที่ไม่ได้เบรกหรือหยุดใดๆ ทั้งสิ้นมาถึงตรงที่เป็นไฟแดง ซึ่งตรงนี้รถติดยาวมากในแต่ละวัน หญิงสาวค่อยๆ เบียดเข้ามาปรี๊ดด!! คนที่กอดเอวอยู่ถึงกับสะดุ้ง แต่ที่เธอบีบแตรเพราะมีรถหลบออกมาในซอกของรถอีกคันเธอก็บีบแตรส่งสัญญาณไว้ก่อน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-12
  • ภรรยาในนาม   บทที่ 60

    ข้าวฟ่างพาแม่กลับมาส่งที่บ้านก่อน บ้านของแม่เป็นบ้านปูนชั้นเดียวหลังเก่าๆ ซึ่งเป็นบ้านที่คุณตาสร้างไว้ให้กับคุณยายแท้ๆ ของเธอ บ้านหลังนี้อยู่หลังสวน แต่ก็ยังอยู่ในพื้นที่เดียวกันกับคฤหาสน์หลังใหญ่ที่เป็นบ้านของเมียแต่ง"แม่จำไว้นะ ไม่ว่าจะจำเป็นแค่ไหนแม่ก็ไม่ต้องไปบ้านหลังนั้นอีก ข้าวจะมาหาแม่เอง""แม่อยากจะถามเรื่องที่เรา.." จันทิมาพอรู้เรื่องอยู่บ้าง เรื่องที่วิภาดาให้ลูกสาวหมั้นหมายกับหลานชายเพื่อนรัก"แม่ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ ผู้ชายคนนั้นเป็นคนดี""จริงเหรอลูก""จริงสิคะ" ไม่รู้หรอกว่าเขาจะดีหรือไม่ดี แต่ก็อยากจะพูดให้แม่สบายใจไว้ก่อนนี่แหละที่ข้าวฟ่างพยายามเข้าหารชตและพยายามทำทุกอย่างที่คุณยายบอกให้ทำ แม้กระทั่งเรียนคณะที่ไม่ต้องการ หรือขับมอเตอร์ไซค์ แต่เธอก็พยายามทำให้ถูกใจยายเข้าไว้ เพื่อที่แม่จะได้ไม่ถูกรังแก"ข้าวกลับไปเรียนก่อนนะแม่" ข้าวฟ่างไม่ได้พักอยู่กับแม่หรอก เพราะต้องอยู่กับยายเพื่อสร้างภาพว่ารักหลานคนนี้มาก แต่ที่จริงแล้ว สถานะของเธอในบ้านไม่ต่างจากคนใช้คนหนึ่งเลยข้าวฟ่างอยากจะพาแม่ไปตายเอาดาบหน้าหลายครั้งแล้ว แต่กลัวว่าแม่จะลำบากกว่านี้ เพราะเธอยังอยู่ในวัยเรียน[มห

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-12
  • ภรรยาในนาม   บทที่ 61

    "ทำไมผู้หญิงถึงยังไม่กลับอีกล่ะปู่" ปู่กับย่ากลับมาจากตลาดก็ยังเห็นรถของผู้หญิงคนที่มากับหลานชายจอดอยู่ที่เดิม"สงสัยจะค้างที่นี่อีก""พ่อแม่ไม่เป็นห่วงแย่แล้วเหรอ" จะพูดมากไปกว่านั้นก็ไม่ได้ เดี๋ยวเด็กจะมาถอนหงอกเอา"วัยนี้กำลังเรียนรู้ ปล่อยหลานไปเถอะย่า"ผู้เป็นย่าได้แต่ลอบถอนหายใจก่อนจะลงจากรถเกียร์เดินมาช่วยขนของที่ปู่กับย่าไปจ่ายตลาดลงมาจากรถให้"เกียร์""ย่า!" ปู่ห้ามปรามย่าไว้ เพราะรู้ดีว่าภรรยาจะพูดเรื่องอะไรกับหลาน เรื่องแบบนี้ยิ่งพูดเด็กก็ยิ่งจะเตลิด"ไม่มีอะไรหรอกครับย่า" แต่ทำไมเกียร์จะไม่รู้ว่าย่ากำลังเป็นกังวลเรื่องอะไรอยู่ ที่เขายังไม่อยากให้เธอกลับไป เพราะคนที่ทำร้ายเธอต้องอยู่ที่บ้านของเธอแน่ ถ้าเป็นคนอื่นทำร้าย เธอคงไม่ช่วยปิดบังแบบนี้ นอกเสียจากคนที่ทำร้ายนั้นจะเป็นคนที่เธอรัก และเขาต้องรู้ให้ได้ว่าเป็นใครพอทำงานช่วยปู่กับย่าเสร็จแล้วเขาก็กลับขึ้นมาบนห้องนอนแกร็ก~"ทำอะไรของเธอ" เปิดประตูเข้ามาก็เห็นเธอกำลังรีบดึงเสื้อลงมาคลุมร่างไว้"ทายา""ทาถึงหรือไง เอามาเดี๋ยวจะทาให้" ชายหนุ่มเดินไปหยิบหลอดยาที่หมอให้มา แล้วเปิดฝายาออก"ไม่ต้องหรอกฉันทาเสร็จแล้ว""อย่าบอกนะ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-12
  • ภรรยาในนาม   บทที่ 62

    ก่อนที่จะไปนั่งตรงนั้นข้าวฟ่างได้แวะไปซื้อข้าวก่อน แล้วก็รีบเดินไปนั่งที่โต๊ะข้างๆเขียดสะกิดเกียร์เบาๆ เมื่อเห็นว่าเป็นใครที่นั่งโต๊ะเยื้องกันไป"อะไรของมึง" พูดเหมือนรำคาญแต่ก็มองไปดู "??" ไม่ได้มองไปแค่เกียร์ เพื่อนที่นั่งร่วมโต๊ะกันอยู่ต่างก็มองไปและหันมาพูดคุยกันว่าผู้หญิงคนนี้เหรอที่เป็นข่าวกับเกียร์"อันนี้อร่อยนะข้าว" ไข่ตุ๋นตักอาหารกำลังจะวางใส่จานให้ข้าวฟ่าง"แอ๊ะ! แอ๊ะ!!" ข้าวฟ่างแกล้งไอแบบไม่สบาย แล้วขยับจานออก เพื่อไม่ให้เพื่อนวางใส่ "เราทานไม่ได้หรอกยังเจ็บคออยู่เลย""ตอนอาจารย์ถามไหนบอกว่าหายดีแล้วไง""กลัวอาจารย์จะไล่กลับน่ะสิ""รู้ว่ายังไม่หายจะมาเรียนทำไม" คนที่ตำหนิก็คือคนที่นั่งอยู่อีกโต๊ะ และพวกเพื่อนๆ ที่นั่งร่วมโต๊ะอยู่ต่างก็มองมาที่เกียร์มองเห็นเราแล้วเหรอ.. หญิงสาวคิดออกมาแบบน้อยใจ แต่ก็ไม่ได้ตอบ เธอตักอาหารที่รสจืดหน่อยขึ้นมาทานแทนดูเหมือนว่าบรรยากาศรอบข้างจะดูอึมครึมขึ้น พวกเพื่อนๆ ต่างก็ไม่มีใครพูดจากันอีกเลยจนทานข้าวเสร็จกำลังจะแยกย้ายกันเข้าห้องเรียน เกียร์ก็ได้หยิบอะไรบางอย่างออกมาจากกระเป๋า"กินซะ" วางลงแล้วเขาก็เดินตามเขียดไป"นั่นอะไรหรือข้าวฟ่าง"

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-12
  • ภรรยาในนาม   บทที่ 63

    หลังจากไปส่งเธอที่ห้อง เขาก็กลับลงมาข้างล่าง เพื่อจะช่วยดูร้านค้าให้กับปู่และย่า"แม่เรารู้เรื่องนี้ไหม" สิ่งเดียวที่ย่ากลัวก็คือถ้าแม่ของหลานไม่ชอบใจกับสิ่งที่เขาทำ ย่ากลัวว่ากัลยาจะไม่ยอมให้เกียร์มาอยู่ที่นี่ด้วย เดี๋ยวหาว่าทางนี้ดูหลานไม่ดี"คือว่า.." เรื่องหมั้นหมายยังไม่มีใครเล่าให้ปู่กับย่าฟัง เพราะทั้งสองท่านไม่เล่นโซเชียลอยู่แล้ว และคนแถวนี้คงไม่มีใครมาเล่าให้ฟังหรอก เพราะไม่ค่อยมีใครสนใจกันเท่าไรที่ทุกคนไม่พูดเรื่องนี้ กลัวว่าถ้าย่ารู้จะไม่สบายใจ เพราะย่าเห็นหลานยังเป็นเด็กอยู่ ทุกคนก็เลยคิดว่ารอให้เกียร์โตกว่านี้ค่อยบอกย่าแล้วกัน "เราก็อย่าเพิ่งให้แม่รู้สิครับคุณย่า""ตาย.." ย่าเริ่มจะปวดหัวขึ้นมา แต่ก็คงต้องได้ช่วยหลานปิดบัง เพราะเกียร์ไม่ใช่เด็กชาวบ้านธรรมดา เขาคือทายาทที่จะรับช่วงโรงแรมต่อจากพ่อและแม่"ย่าไม่ต้องคิดมากหรอกครับ ไม่มีอะไรสักหน่อย""มาค้างอ้างแรมด้วยกันขนาดนี้จะไม่มีอะไรได้ยังไง""สาบานผมก็ไม่ตายครับย่า"เห็นหลานชายพูดเป็นมั่นเป็นเหมาะแบบนั้นคนเป็นย่าก็เลยสบายใจขึ้นมาหน่อย"ถ้าปู่กับย่าจะออกไปตลาด ก็ไปเถอะครับเดี๋ยวผมเฝ้าร้านให้""เมื่อเช้านี้ซื้อของมาพอแล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-12
  • ภรรยาในนาม   บทที่ 64

    ทำไมเธอจะไม่เสียดายความบริสุทธิ์ที่หวงแหนมาตลอด 20 ปี แต่เพราะข้าวฟ่างคิดไว้แล้วว่าผู้ชายคนนี้ คงเป็นเสาหลักให้กับเธอได้"อ๊อย" มือเรียวเกาะชายร่างหนาไว้แน่นเมื่อตอนที่เขาเร่ง แต่พอใกล้จะเสร็จเขากลับหยุด หญิงสาวแอบแปลกใจเล็กน้อย เพราะเป็นแบบนี้หลายทีแล้วพอหยุดได้ครู่หนึ่ง เกียร์ก็เริ่มกระแทกใหม่ จังหวะแต่ละทีดูเหมือนมันไม่สม่ำเสมอ"ทำอะไรของนาย" จะไม่ให้ถามก็อดไม่ได้แล้ว เพราะเหมือนเขาทำทีเล่นทีจริง"เจ็บเหรอ" ชายหนุ่มหยุดถามอีกครั้ง และมือที่ค้ำยันไว้ก็ค่อยๆ หมดแรง จนโน้มตัวลงมาใกล้อีกฝ่าย"เจ็บน่ะมันเจ็บอยู่แล้ว แต่นายช่วยตั้งใจทำหน่อยได้ไหม" ข้าวฟ่างแกพูดอะไรลงไปวะ ด้วยอารมณ์ก็เลยพลั้งปากพูดไป"ก็ตั้งใจอยู่นี่ไง" เพราะเขาตั้งใจให้เสร็จนั่นแหละ ถึงยังพยายามอยู่ ถ้าไม่ตั้งใจป่านนี้เขาคงหยุดไปแล้ว"แบบนี้เขาไม่ได้เรียกตั้งใจหรอก" หญิงสาวเริ่มเสียอารมณ์"ก็มันเป็นตะคริวนี่" ใช่แล้วตอนที่เขาหยุด ก็เพราะช่วงนั้นสะโพกตะคริวกิน "เธอทำเองไหมล่ะ" ว่าแล้วชายหนุ่มก็ทิ้งกายลงนอนพร้อมกับกอดร่างของเธอให้พลิกขึ้นมาด้านบนแทน"อือ!?""อยากได้แบบไหนก็ทำเองเลย" ตอนฝึกใช้มือทำมันไม่ลำบากเหมือนตอนปฏิบั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-12
  • ภรรยาในนาม   บทที่ 65

    "เป็นอะไร" เขาเดินตามมาจนเกือบจะถึงโรงอาหารแล้ว แต่ข้าวฟ่างก็ดูเหมือนจะไม่อยากคุยด้วยสักเท่าไร"ไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย แล้วนายตามมาทำไม""ตามมาไม่ได้เหรอ" ชายหนุ่มหยุดเล็กน้อย เพราะเห็นท่าทางของเธอดูหงุดหงิด"ก็เราจะเข้าไปทานข้าว""ก็ไปทานด้วยกันไง""ฉันจะไปทานกับเพื่อน" ว่าแล้วหญิงสาวก็รีบเดินจากไปความคิดหนึ่งแว๊บเข้ามาในหัว เธอโมโหอะไรให้เขา ..หรือจะเป็นเรื่องเมื่อคืนนี้ที่เขาไม่ประสีประสาแต่เกียร์ก็ยังคงเดินตามไป และถืออาหารที่เพิ่งสั่งมาเดินไปนั่งที่โต๊ะเดียวกันกับเธอ"นายไปนั่งกับเพื่อนของนายสิ""ทำไมเราถึงจะนั่งตรงนี้ด้วยไม่ได้"ข้าวฟ่างไม่ตอบ แต่เธอก็นั่งทำหน้ามุ่ยไม่พูดด้วยอีกเกียร์เห็นแบบนั้นก็เลยล้วงยาในกระเป๋าที่เอาติดมาด้วยเมื่อเช้าวางลงให้กับเธอ "ทานข้าวเสร็จอย่าลืมทานยาด้วยล่ะ" ว่าแล้วเขาก็เดินไปหากลุ่มเพื่อนที่กำลังนั่งทานข้าวอยู่ที่เกียร์ยอมล่าถอยไป เพราะคิดว่าเธอคงอายเพื่อนที่มีเขานั่งอยู่ข้างๆ"มีอะไรกันเหรอ" ไข่ตุ๋นซื้ออาหารได้ก็เดินมาหาข้าวฟ่าง"เปล่าหรอก"เย็นวันเดียวกัน..เกียร์ขับรถมาจอดรอที่หน้าคณะบริหารธุรกิจ พอข้าวฟ่างลงมาก็เห็นรถของเขาจอดอยู่ด้านหน้า หญิ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-12

บทล่าสุด

  • ภรรยาในนาม   บทที่ 122 ตอนจบ

    เช้าวันต่อมา.."ขอบพระคุณคุณปู่คุณย่ามากนะคะ""ถ้าอยากมาค้างที่นี่ก็มาได้ตลอดเวลาเลยนะ ปู่กับย่ายินดีต้อนรับเสมอ""ขอบคุณมากเลยนะครับ ส่วนเรื่องประตู เดี๋ยวผมจะให้ช่างมาดูให้""ไม่เป็นไรหรอก แค่เปลี่ยนลูกบิดเฉยๆ ก็ใช้งานได้เหมือนเดิมแล้ว""ให้ช่างมาดูดีกว่าค่ะคุณปู่" รักนรินทร์เกรงใจ มาขออาศัยอยู่บ้านท่านแท้ๆ ยังมาทำของท่านเสียหายอีก"ถ้างั้นก็เอาที่พวกเราสบายใจเลยแล้วกัน เดินทางปลอดภัยนะลูก""ขอบคุณอีกครั้งนะคะ" ทั้งสองไหว้ร่ำลาพวกท่านแล้วก็ออกมา[บ้านภูมิฐาน]ชายหนุ่มพาเธอกลับมาที่บ้านก่อน เพื่อจะมาเปลี่ยนเสื้อผ้าพอมาถึงก็เจอพ่อกับแม่ของเขาอยู่ที่บ้านพอดี"คุณพ่อจะออกไปไหนหรือครับ" เดินเข้ามาก็เห็นผู้เป็นพ่อกำลังจะออกจากบ้าน"ก็เข้าบริษัทน่ะสิ ที่บริษัทโทรมาบอกว่าตามตัวผู้บริหารไม่เจอ""ขอโทษครับ เดี๋ยวผมเข้าไปเอง แต่ขอขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะครับ" เขามัวแต่ยุ่งตามหาเธออยู่ ก็เลยปล่อยปละละเลยเรื่องบริษัทไป"ฉันรออยู่ข้างล่างได้ค่ะ" หญิงสาวชักมือออกเมื่อเขายื่นมาจะจูงเธอขึ้นไปด้วย"จะรออยู่ข้างล่างทำไม..ไม่อาบน้ำก่อนหรือไง""คุณก็ไปอาบเองสิ""ไปด้วยกัน แล้วก็เข้าบริษัทด้วยกัน""ฉ

  • ภรรยาในนาม   บทที่ 121

    "ใครเขาจะให้คุณนอนด้วย" หญิงสาวรีบเก็บของบนโต๊ะอาหาร พอเก็บเสร็จก็เดินไปที่ประตูบ้าน "คุณกลับไปเลยนะ ฉันจะล็อกบ้านแล้ว""บอกแล้วไงว่าจะนอนที่นี่ด้วย""แต่นี่มันไม่ใช่บ้านฉันนะ""งั้นก็กลับบ้านสิ""ไม่"จากที่ยืนกอดอกพิงผนังอยู่ชายหนุ่มก็ก้าวเดินไปที่บันได"นี่คุณ!" รักนรินทร์รีบหันไปล็อกบ้านไว้แล้วก็เดินตามเขาขึ้นมา"คุณพักอยู่ห้องไหน""ไม่บอก"ไม่บอกก็ไม่เห็นจะยาก เพราะชั้นบนมีห้องนอนแค่สองห้อง ภูมิฐานเดินไปหน้าห้องนอนหนึ่งในสองนั้น"คุณภูมิหยุดเดี๋ยวนี้นะ!" รักนรินทร์รีบเดินเข้าไปรั้งตัวเขาไว้ก่อนที่จะเปิดประตูห้องนั้น "นี่มันห้องของคุณปู่คุณย่า""คุณก็ไม่บอกแต่ทีแรก" ว่าแล้วชายหนุ่มก็เอื้อมไปเปิดอีกห้องที่อยู่ข้างกัน หญิงสาวก็เลยรีบตามเข้าไป"ก็ได้แต่ฉันให้คุณค้างแค่คืนนี้คืนเดียวนะ"เขาไม่ตอบ..ให้พ้นคืนนี้ไปก่อนแล้วกัน ถ้ายังรับไหวอยู่ภูมิฐานเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวแล้วก็เข้าห้องน้ำ ทำเหมือนบ้านของตัวเองยังไงยังงั้นรักนรินทร์ได้แต่ยืนทำหน้าบูดบึ้งใส่ แต่หัวใจกลับเต้นแรงสวนทางกับสิ่งที่แสดงออกมาเพียงไม่นานภูมิฐานก็ออกมาจากห้องน้ำ เธอก็เลยเข้าไปใช้ต่อพรึบ! "กรี๊ดด" หญิงสาวที่กำลังอา

  • ภรรยาในนาม   บทที่ 120

    [คอนโด]เพียงไม่นานรถของภูมิฐานก็มาถึงคอนโด ชายหนุ่มลงจากรถได้ก็รีบตรงขึ้นไปก๊อก ก๊อกแกร็ก! แกร็ก!! เขาไม่มีคีย์การ์ดของห้องนี้ ก็เลยต้องได้เคาะประตูแล้วลองเปิด แต่ข้างในก็ยังเงียบอยู่"รักนรินทร์..คุณมาถึงหรือยังเปิดประตูให้ผมหน่อย" ขณะที่เรียกเขาก็ยังคงเคาะประตู แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับใดๆชายหนุ่มเอาโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาเธอ หลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ยังคงเหมือนเดิม[ร้านขายของชำ]"ผมก็ได้ยินคุณแม่บอกว่า ได้ฤกษ์ยามแล้วไม่ใช่หรือครับพี่" เมื่อเกียร์เห็นพี่สาวมาหา ด้วยใบหน้าที่เศร้าหมอง ก็เลยถามเอาความจริง"สงสัยเขาจะยังไม่พร้อม""พี่จะไปสนใจอะไร" เกียร์ของขึ้นทันทีเมื่อได้ยินว่าฝ่ายชายไม่พร้อมที่จะแต่งงานกับพี่สาว"เรื่องนี้เราอย่าไปพูดให้ใครฟังนะ" ที่รักนรินทร์ต้องเล่าให้เกียร์ฟังก็เพราะอยากจะมาขออาศัยอยู่ที่นี่ก่อน ในระหว่างที่รอให้เขาตัดสินใจ พอคิดแล้วดูเหมือนไม่มีค่า ต้องให้ผู้ชายตัดสินใจว่าอยากจะแต่งงานด้วยไหม"ถ้างั้นพี่ก็ค้างที่ห้องผมเลยแล้วกัน..เพราะผมต้องกลับไปค้างที่บ้านของคุณแม่" ข้าวฟ่างไม่ได้มาด้วย เกียร์แค่แวะมาดูร้านช่วยปู่กับย่า"แล้วคุณปู่คุณย่าของเกียร์จะไม่ว่าพี่เหรอ""

  • ภรรยาในนาม   บทที่ 119

    "ปล่อยค่ะนี่มันห้องทำงานนะ" พอเป็นอิสระหญิงสาวก็รีบห้ามปรามกลัวว่าเขาจะเลยเถิด"คุณทำเสน่ห์ใส่ผมหรือเปล่าเนี่ย" ยอมรับว่าไม่เป็นอันทำการทำงานเลย เพราะตั้งแต่ได้สัมผัสร่างกายของเธอมา เขาก็โหยหาเธอโดยตลอด"ทำเสน่ห์? อะไรคือทำเสน่ห์คะ" อย่างที่รู้กันอยู่ว่าเธอเติบโตที่ต่างประเทศ เรื่องแบบนี้ที่นั่นเขาไม่เชื่อกันอยู่แล้ว และไม่มีใครพูดถึง แม้แต่พ่อและแม่ สื่อโซเชียลก็ไม่ใช่ว่าเธอจะไม่สนใจ แต่ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี"ผมแค่ล้อเล่น มันเป็นเสน่ห์จากตัวคุณเอง""คุณรักฉันจริงเหรอ" รักนรินทร์ถามอีกครั้ง เพราะคิดว่าเขาคงอยากจะพูดแค่ต่อหน้าผู้ใหญ่"รักสิ ผมรักคุณ ว่าแต่คุณคิดยังไงกับผม""คิดยังไง?" ใช่แล้วเราคิดยังไงกับเขากันแน่ แต่พอได้ยินเขาบอกรักทำไมถึงดีใจมาก ดีใจจนห้ามน้ำตาของตัวเองไม่ได้"ผมไม่ได้บังคับให้คุณพูดหรอก เรื่องแบบนี้ต้องพูดออกมาจากใจ เหมือนที่ผมบอกคุณไง""คุณพูดจากใจจริงหรือคะ" ก็มันยากที่จะเชื่อนี่ วันนั้นยังทำเหมือนไม่ชอบหน้าเธออยู่เลย"ถ้าพูดแล้วคุณยังไม่เชื่อ งั้นผมทำให้คุณเชื่อเลยแล้วกัน""ทำอะไรคะ"คนตัวโตเดินมาที่ประตู แล้วก็จัดการล็อกมันไว้ แถมไม่ได้ล็อกแค่ลูกบิด เขายังล็อกก

  • ภรรยาในนาม   บทที่ 118

    "กระดาษอะไรแปะอยู่ด้านหลัง" รรินธรที่ยืนอยู่ห่างหน่อยมองไปเห็นตอนที่สามียกแพทเทิร์นขึ้นมาดูหมั่บ รักนรินทร์รีบดึงมันออกมา แล้วก็ขยำไว้ในมือ "ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ก็แค่เจ้านายเขียนโน้ตแก้งานไว้ค่ะ"ภูมิฐานมองที่มือของเธอแบบยิ้มๆ "คุณพ่อกับคุณแม่ทานข้าวมาหรือยังครับ" แล้วเขาก็หันมาชวนพวกท่านคุย"ยังไม่ได้ทานเลย ก็นัดทานข้าวกับพ่อเรานั่นแหละ ไม่รู้ป่านนี้มาหรือยัง""อ้าวหรือครับ พอดีเลยผมกำลังหิว ขอไปร่วมทานด้วยคนนะครับ"ในขณะนั้นโทรศัพท์ของคริสก็ได้ดังขึ้น และคนที่โทรมาก็คือภูสิษฐ์รับโทรศัพท์อยู่ครู่หนึ่งคริสก็หันมาหาภูมิฐาน"ถ้าจะไปทานด้วยกันก็ป่ะ ตอนนี้พ่อกับแม่เราอยู่ข้างล่างแล้ว" ว่าแล้วคริสก็เอื้อมไปจูงแขนภรรยาให้เดินตามมา ส่วนภูมิฐานก็รีบเดินนำหน้าไป เพื่อเปิดประตูห้องให้"แล้วเราไม่ไปเหรอลูก" รรินธรเห็นว่าลูกสาวไม่เดินตาม"ไม่หรอกค่ะ เดี๋ยวรักหาอะไรทานแถวโรงอาหารนี้ก็ได้"ภูมิฐานถึงกับหันกลับมามอง เพราะเขาเดินนำพวกท่านจะออกนอกห้องอยู่แล้ว..หน้าประตูลิฟต์.."ผมเพิ่งนึกขึ้นได้ว่ามีงานด่วน คงไปร่วมทานข้าวด้วยไม่ได้ เอาไว้โอกาสหน้านะครับคุณพ่อคุณแม่" เขาพูดในขณะที่ประตูลิฟต์กำลังเปิดอ

  • ภรรยาในนาม   บทที่ 117

    แกร็ก! แกร็ก!!"ทำไมประตูเปิดไม่ได้ล่ะคะคุณ หรือคีย์การ์ดใช้ไม่ได้แล้ว" คีย์การ์ดเคยเป็นของรรินธรสมัยที่พักอยู่ที่คอนโดนี้ ตอนนั้นเธอไม่ได้คืนให้กับคฑา แต่ก็ไม่ได้ทิ้งยังคงเก็บไว้เป็นอย่างดี"ก็เปิดได้อยู่นะ..แต่เหมือนถูกปิด" คริสใช้คีย์การ์ดเปิดอีกครั้งลองดู"ใครคะ" เสียงคนที่อยู่ด้านในดังออกมา เมื่อได้ยินว่าคนข้างนอกจะเปิดลองดูอีกครั้ง"อ้าวหนูยังไม่นอนเหรอลูก เปิดประตูให้พ่อกับแม่หน่อย" ที่ไม่เคาะเรียกเพราะกลัวจะรบกวนลูกสาว"แป๊บหนึ่งนะคะพ่อ"ที่คริสเปิดประตูเข้ามาไม่ได้ ก็เพราะตอนนั้นภูมิฐานอุ้มรักนรินทร์ยืนอยู่ใกล้ประตู พอได้ยินเสียงแกร๊กเท่านั้นแหละเขาก็รีบใช้มือดันประตูปิดไว้เหมือนเดิม ด้านในมันก็เลยล็อกอีกที ..และตอนนี้ทั้งสองกำลังมัววุ่นใส่เสื้อผ้ากันอยู่แกร็ก~"อ้าวนี่หนูยังไม่อาบน้ำเลยเหรอลูก แม่นึกว่าหนูหลับไปแล้วเสียอีก""ยังค่ะมัวเคลียร์งานอยู่" โกหกแม่จะบาปไหมเรา"ถ้างั้นหนูก็ไปทำงานต่อเถอะลูก ไม่ต้องห่วงพ่อกับแม่หรอก""คุณพ่อจะทำอะไรคะ" รักนรินทร์เห็นพ่อกำลังจะเดินไปเปิดประตูห้องนอน"หนูจะให้พ่อกับแม่นอนห้องไหนล่ะ" คริสถึงกับตกใจแล้วหันกลับมาถามลูกสาว"อีกห้องค่ะพ่อ"

  • ภรรยาในนาม   บทที่ 116

    [ร้านอาหารหรู]"ว่าไงเสือ""ใครเสือ เรียกให้ถูกหน่อยสิ" ดวงตาภูสิษฐ์ กรอกมองไปดูภรรยาที่นั่งอยู่ข้างๆ ถ้าจำกันได้สมัยก่อนภูสิษฐ์ก็ไม่ใช่เบาๆ และคนที่กล้าเรียกเขาว่าเสือก็คือ.. "นายก็ไม่เบาเหมือนกันแหละไอ้คุณคริส"ใช่แล้วคนที่คริสมาทานข้าวด้วยก็คือภูสิษฐ์ ทั้งสองรู้จักกันที่ต่างประเทศ หลายสิบปีผ่านมาแล้ว"อุ๊ย" เมื่อได้ยินเพื่อนเอาคืนคริสก็ได้มองมาที่ภรรยาบ้าง พอเห็นสายตาพิฆาตแล้วถึงกับเสียวสันหลังวูบ"แล้วเมื่อไรเด็กๆ จะมากันเนี่ย" สามีทั้งสองยกนาฬิกาขึ้นมาและพูดพร้อมกันโดยที่ไม่ได้นัดหมาย"ไม่มีพิรุธเลยนะคะ""แหะๆ เมียจ๋าา อย่าไปเชื่อไอ้ภูมันเลย""นั่นไงมาแล้ว" เหมือนกรรมการตีระฆังเพื่อพักยก เมื่อเห็นภูมิฐานเดินเข้ามาพอมองเห็นแล้วว่าพ่อกับแม่นั่งอยู่โต๊ะไหนภูมิฐานก็เดินตรงเข้ามา สายตาคมมองดูชายหญิงวัยกลางคนคู่หนึ่งที่นั่งอยู่โต๊ะเดียวกัน"สวัสดีครับ" เขายังไม่รู้หรอกว่าทั้งสองท่านเป็นใครแต่ด้วยมารยาทพอมาถึงก็ยกมือไหว้"หล่อกว่าพ่อเยอะเลยนะเนี่ย" คริสพูดพร้อมกับรับไหว้"ขอบคุณครับ" ชายหนุ่มมองไปที่พ่อ เพื่ออยากจะถามว่าเพื่อนของท่านทำไมเขาถึงไม่รู้จัก"เพื่อนพ่อเพิ่งเดินทางมาจากต่างปร

  • ภรรยาในนาม   บทที่ 115

    ภูมิฐานรีบตามออกมา คิดว่าที่เธอรีบออกไปคงเพราะเรื่องดินสอแท่งนั้นแน่แกร็ก! ประตูห้องประชุมถูกเปิดเข้าไปแบบถือวิสาสะ รักนรินทร์คิดว่าไอรยาคงยังอยู่ในห้องประชุมเพราะต้องได้คุยเรื่องแบบต่อทุกคนที่ยังอยู่ในห้องประชุมต่างก็หันมองมาที่ประตู"ฉันได้ยินท่านประธานบอกว่าคุณได้ดินสอด้ามนี้ที่ถังขยะ" รักนรินทร์เดินตรงเข้าไปแล้ววางดินสอลงตรงหน้าของไอรยา"ค่ะ" ไอรยาตอบรับเมื่อเห็นว่าภูมิฐานเดินตามเข้ามาด้วย"ถังไหนคะ""เออ..ถัง? ถังไหนแล้วทำไมคะ""มันวางอยู่บนโต๊ะทำงานของฉันแล้วมันจะไปอยู่ข้างถังขยะได้ยังไง ฉันก็เลยอยากรู้ว่าถังไหน""ถังหน้าห้อง" ถ้าจะบอกว่าถังขยะที่ไกลกว่านั้น กลัวจะไม่น่าเชื่อถือ"คุณเจอตอนไหน""นี่คุณ ฉันไม่มีเวลามานั่งจำเวลาหรอกนะ""ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวฉันจะให้คนตรวจสอบกล้องวงจรปิดเองแล้วกัน""??" ไอรยาลืมคิดเรื่องนี้ไปเลยคนที่อยู่ในห้องประชุมได้แค่นั่งฟัง เพราะไม่รู้ว่าทั้งสองมีเรื่องอะไรกัน"ออกไปก่อนครับ" ภูมิฐานเป็นคนสั่ง เพราะเห็นแล้วว่าศึกครั้งนี้คงไม่สงบง่าย"ไม่ต้องหรอกค่ะ อยู่ฟังด้วยกันนี่แหละ"คนที่กำลังเก็บของจะลุกขึ้นต่างก็นั่งลงที่เดิม เมื่อได้ยินรักนรินทร์สั่งอี

  • ภรรยาในนาม   บทที่ 114

    แกร็ก~ "??" พอรู้ว่าใครมาเคาะประตูเท่านั้นแหละ รักนรินทร์ก็รีบปิด..แต่ก็ไม่ทัน"คุณออกจากห้องฉันไปเดี๋ยวนี้เลยนะ"แต่ดูเหมือนว่าภูมิฐานจะไม่สนใจที่เธอไล่ เขายังคงดันประตูแล้วก็แทรกตัวเข้ามา"คุณดื่มเหล้ามาเหรอ?""ขอค้างด้วยหน่อยสิ""คุณเห็นฉันเป็นอะไร""ผมยังไม่รู้ เราคบกันดูก่อนไหม" มันเป็นสิ่งที่เขาคิดไว้ ในระหว่างที่เขายังไม่รู้ใจตัวเองอยากจะอยู่ใกล้เธอให้มากที่สุด"อะไรนะ?""ในระหว่างนี้เราก็คบกันไปก่อน""ฟังดูดีนะ คนเห็นแก่ตัว" ถ้าเขาขอเป็นแฟนเธออาจจะรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง แต่นี่แค่มาขอคบ แถมยังคบกันดูก่อนอีก"แล้วคุณต้องการแบบไหนก็บอกมาสิ""ต้องการให้คุณออกไปจากห้องนี้""คำก็ไล่สองคำก็ไล่ คุณจะให้ผมคิดยังไง""คิดว่าฉันไม่สนใจคุณไง ถ้าสนใจคุณแล้วฉันจะไล่เหรอ""ถ้างั้นแสดงว่าผมคิดกับคุณอยู่ฝ่ายเดียวหรอกหรือ"หญิงสาวทำได้แค่กลืนน้ำลายลงคอ เขาไม่คิดเหรอว่าเธอต้องเล่นตัวไว้บ้าง ถ้ารีบตกลงไป ก็จะดูเหมือนไม่มีค่าไม่มีราคาอะไรเลย"อืม?!" ในขณะที่กำลังใช้ความคิดอยู่นั้นก็ถูกอีกฝ่ายจู่โจมโดยการจูบมือเรียวแนบลงที่แผ่นอกกว้าง นี่เธอโหยหาจูบจากเขาขนาดนี้เลยเหรอ เพราะแรงจะผลักออกก็ยังไม่มีเมื่

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status