"ทำไมสเต็กปลามันหน้าตาคุ้นๆ" ไข่ตุ๋นพูดพร้อมกับตักขึ้นมาชิม "ชัดเลย" วันนั้นถึงแม้สเต็กปลาจะมีไม่เยอะ แต่ไข่ตุ๋นก็พอได้ชิมอยู่บ้าง"เออทำไมมันรสชาติเดียวกันกับที่เธอทำเลยล่ะ" คำพูดนี้ไม่ได้มาจากปากของไข่ตุ๋น แต่มาจากเพื่อนอีกคนที่ได้ชิมเหมือนกัน"สงสัยบังเอิญมั้ง รีบกินกันเถอะ" พยายามทำตัวให้นิ่งที่สุดแล้ว แต่สายตาเจ้ากรรมดันมองไปที่เขา และเป็นจังหวะเดียวกันกับที่รชตมองมา และเขาก็มองแบบไม่หลบสายตาของเธอด้วย ..จะรู้หรือไม่รู้ก็ช่างเขาปะไร เราไม่ได้ไปฆ่าใครตายสักหน่อย ว่าแล้วหญิงสาวก็เอาส้อมเสียบอาหารขึ้นมายัดใส่ปากแล้วเคี้ยว"นายว่ามันแปลกไหม" ทางฝั่งรุ่นพี่ก็คุยเรื่องนี้เช่นกัน เพราะรุ่นพี่ได้ชิมกันทุกคน"มันคงจะบังเอิญจริงนั่นแหละ รีบๆ กินเถอะน่า" คอปเตอร์รีบปรามเพื่อนไว้ แต่เขาก็สงสัยไม่ต่างจากคนอื่นเลย ไม่ใช่แค่รสชาติที่คล้ายกัน องศาที่จัดวางยังคล้ายกันอีก ถ้าวันนั้นเครื่องของเธอครบก็คงจะออกมาหน้าตาแบบนี้"กูสงสัยว่า..แม่นางน่าจะเป็น..""เป็นอะไรวะ มึงพูดให้จบสิไอ้แต๊ง""ก็น่าจะเป็นลูกศิษย์ ของท่านอาจารย์คนนี้แน่เลย" แต๊งกิ้วพูดติดตลกเล็กน้อยหลังทานข้าวเสร็จ.. ทุกคนก็ใช้เวลาตอนนั้
"อะแฮ่ม" เสียงกระแอมดังขึ้นเมื่อน้ำหนาวเดินออกมาจากกลุ่มเพื่อน"รุ่นพี่?" กว่าจะปลีกตัวออกมาจากเพื่อนได้ ยังมาเจออีตาบ้าขี้เก๊กนี้อีก"จะไปไหน""ไปเดินเล่นค่ะ""ไม่ให้ไป""ทำไม""อยากรู้เหรอว่าทำไม เดี๋ยวก็เที่ยวไปว่ายน้ำลงกลางทะเลอีก""ฉันไม่ว่ายแล้ว" ว่าแล้วหญิงสาวก็เดินไป แต่พอเดินไปยังไม่ไกลเท่าไร เธอก็แอบสังเกตว่ามีใครเดินตาม "รุ่นพี่ตามมาทำไม" น้ำหนาวหันกลับไปมองก็เห็นว่าเป็นเขาที่เดินตามมา"ใครตาม""ก็รุ่นพี่นั่นแหละตามฉันมาทำไม""สงสัยเราจะไปทางเดียวกันมั้ง"นอกจากจะขี้เก๊กแล้วยังจะมากวนประสาทอีกนะ เอาไงดีกับอีตาบ้านี่ แล้วเราจะไปเอาชุดออกมาได้ยังไงล่ะทีเนี๊ยะ ..พอคิดขึ้นได้น้ำหนาวก็เดินกลับมาไม่ไปมันแล้ว"เราตามหานายซะทั่วเลย" ขณะที่เดินกลับมาพร้อมกันกับน้ำหนาว ก็ได้มีเสียงนาเดียพูดขึ้นมา"ตามหาเราทำไม""แล้วนี่ไปไหนมา" นาเดียพูดพร้อมกับมองตามหลังน้ำหนาวไป"เราว่าเธอเอาเวลาที่จะมาตามเราไปช่วยคนอื่นดูความปลอดภัยของรุ่นน้องดีกว่า""นายไม่เคยเป็นแบบนี้กับเรา""นาเดีย""ไปก็ได้" นาเดียเดินกระแทกเท้าไปจากตรงนั้น แต่สายตายังคงมองตามน้ำหนาวแบบอยากจะกินเลือดกินเนื้อพอน้ำหนาวกลับมาก็
"โอ๊ย!" ด้วยแรงที่เขากระชาก ทำให้น้ำหนาวกระเด็นตามลงไปทับบนร่างหนาของรชต "นายทำบ้าอะไร!""เมื่อกี้ยังเรียกรุ่นพี่อยู่เลย ปีนเกลียวแล้วเหรอ""ขอโทษค่ะรุ่นพี่ ปล่อยนะคะ!" หญิงสาวพยายามจะดันตัวเองให้ลุกขึ้น แต่ถูกมือของเขาโอบรัดร่างไว้แน่น "ตกลงคุณจะเอายังไงกันแน่ ปล่อยฉันนะ!" หญิงสาวเริ่มขึ้นเสียง"ลืมไปแล้วเหรอว่าเราเป็นอะไรกัน" สายตาคมมองประสานดวงตางามคู่นั้น"เป็นอะไร!""ก็เป็น.." เขายังคงมองเธอแบบเจ้าเล่ห์จริงด้วยลืมไปเลยว่าเป็นอะไรกับเขา หรือว่าเขาคิดจะทำแบบนั้นกับเรา.."ไม่นะ" มือเรียวทุบอกคนที่นอนอยู่ด้านล่างรัวๆ แต่เหมือนไม่ได้ทุบแบบจริงจัง"หลับตาทำไม""ห๊า?" หญิงสาวรีบลืมตาขึ้นเผลอหลับตาให้เขาตั้งแต่เมื่อไรเนี่ย "ปล่อย!" อายตอนนี้ยังทันอยู่ไหมเรา"รู้ว่าตัวเองดื่มไม่ได้แล้วไปดื่มทำไม" แค่นี้เขาก็มองออกแล้วว่าเธอยังคงถูกแอลกอฮอล์กระตุ้นอยู่"ดื่มไม่ดื่มมันก็เรื่องของฉัน ปล่อยสิ!""ไม่ปล่อย แล้วจะทำไม" เขาพูดด้วยสีหน้าที่ท้าทาย"แน่ใจนะว่าจะไม่ปล่อย" จบประโยคคำพูดใบหน้างามก็โน้มลงมากัดเข้าให้ที่ปลายคาง"โอ๊ย! ชาติก่อนเป็นหมาหรือไงชอบกัดจัง" ขณะที่พูดเขาก็นึกคำของแม่เธอขึ้นมาได้
"รุ่นพี่จะนอนที่นี่ได้ยังไง พองานเลี้ยงเลิกเพื่อนฉันก็กลับห้องกันแล้ว""ก็นอนอยู่ท่านี้จะเป็นไรไป ไม่มีใครเห็นหรอก""เอาส่วนไหนคิดว่าจะไม่มีใครเห็น ดูตัวสิจะยาวกว่าเตียงอยู่แล้ว""ไม่ได้ยาวแค่ตัวนะ ไอ้นั่นก็....""ไอ้รุ่นพี่ลามก!""ใครลามกกันแน่ ฉันจะบอกว่าขาก็ยาว แถมแขนก็ยังยาวอีก เธอคิดอะไรหรือเปล่าเนี่ย""เอ้าาเหรอ"รชตกลั้นขำแทบไม่ได้ เมื่อเห็นว่าเธอเหมือนจะเชื่อคำที่เขาพูด"ปล่อยได้แล้วเดี๋ยวฉันจะไปดูว่าเพื่อนไปกันหรือยัง""ไม่ต้องไปดูหรอกยังไม่ได้ไปไหนไกลเลย" ชายหนุ่มพูดพร้อมกับกอดเธอไว้แน่นกว่าเดิม"ทำไมรุ่นพี่รู้"เพียงไม่นานก็ได้ยินเสียงส้นรองเท้าของนาเดียเดินมาเอาหูแอบฟังที่ประตูห้อง เพราะนาเดียออกไปตามหารชตแล้วก็ไม่เจอ ก็เลยกลับมาดูที่ห้องนี้อีกครั้ง"แหมจำเสียงกันได้แม่นจังเลยนะ" อดไม่ได้ที่จะพูดประชด เพราะเธอก็จำเสียงของนาเดียได้"หึงเก่งจังเลยนะแม่คุณ""เดี๋ยวนะ เมื่อกี้รุ่นพี่ว่าอะไร" ถึงแม้เขาจะพูดออกมาไม่ดัง แต่เธอก็พอจะได้ยิน ..ใบหน้างามมุดลงไปใต้ผ้าห่ม ซึ่งมีเขาอยู่ในนั้นเป็นจังหวะเดียวกับที่รชตเงยขึ้นมา ริมฝีปากหนายื่นเข้าไปหาแต่ก็ไม่ทันเธอหลบได้ก่อนที่เขาจะจูบเร
"อวดเก่ง!" มีอยู่คนเดียวในที่นี้ ที่ไม่ได้ชื่นชมสิ่งที่น้ำหนาวทำ พอพูดจบนาเดียก็เดินกระแทกเท้าหนีไป เพราะทนดูต่อไปไม่ได้อีกแล้ว ไม่เชื่อหรอกว่าคนอะไรจะเก่งได้ซะทุกอย่างแบบนี้น้ำหนาวว่ายน้ำไปหนึ่งรอบแล้วก็ว่ายกลับมาที่เดิมในเวลาที่รวดเร็ว สายตาทุกคนเอาแต่จับจ้องสิ่งที่เธอทำ เพราะไม่ใช่ว่าใครก็ทำได้ถ้าไม่ผ่านการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี และน้ำหนาวไม่ได้คิดว่าจะทำให้คนเห็นว่าเธอเก่ง ที่ทำไปเพราะเผลอ บวกกับความโมโหที่เห็นนาเดียทำเป็นสนิทสนมกับเขาพอว่ายน้ำเพื่อระบายอารมณ์เสร็จ เธอก็ได้ขึ้นมาจากน้ำ แต่ตอนนี้ไม่เห็นรชตอยู่ที่นี่แล้วไม่ใช่ไม่เห็นแค่เขา เธอยังไม่เห็นเพื่อนผู้หญิงของเขาคนนั้นด้วย ..หรือว่าพวกเขาจะไปด้วยกัน"เธอเคยเรียนว่ายน้ำมาเหรอ" ข้าวฟ่างถามทันทีที่น้ำหนาวเดินกลับมา"ก็เคยฝึกบ้าง" ขณะที่พูดเธอยังพยายามมองหาเขา เพราะคิดว่าอาจจะอยู่แถวนี้ แต่ก็ไม่เจอ "ฉันกลับก่อนนะ" หญิงสาวหยิบเอาผ้าคลุมมาสวมใส่แล้วก็ขอตัวกลับห้องก่อน"ทำไมมึงกลับเข้าห้องเร็วจังวะ" คอปเตอร์มาเอาของเห็นว่ารชตนอนอยู่ในห้องแล้ว"เซ็ง""มึงเซ็งอะไร""เซ็งหน้ามึงนั่นแหละ""เอ้าไอ้นี่""ดูแลรุ่นน้องให้ดีด้วย กูจะนอนแล้ว
"เห็นไหมก็เลยลงมาไม่ทันเพื่อน" พอลงมาจากรถก็ไม่เห็นไข่ตุ๋นกับข้าวฟ่างรออยู่ข้างล่างแล้ว"ไปขึ้นรถเดี๋ยวไปส่ง" ชายหนุ่มพูดพร้อมกับเอื้อมไปจับกระเป๋าในมือเธอ"ไม่ เดี๋ยวจะขึ้นแท็กซี่กลับเอง""ยังไงฉันก็ต้องไปที่คอนโดอยู่แล้ว""รุ่นพี่จะไปทำไม""ก็นั่นมันคอนโดฉัน"ลืมไปเลยว่าคอนโดที่ตัวเองอยู่คือของเขา จะย้ายออกก็ไม่ได้ เพราะสัญญากับป้ากัลยาไว้แล้วว่าจะดูแลหลานชายให้ท่าน"เป็นเด็กหรือไงทำไมต้องให้เราดูแล" หญิงสาวเผลอบ่นออกมาเป็นคำพูด"ใคร""คะ?""เมื่อกี้ว่าใครเป็นเด็ก""รุ่นพี่ได้ยินความคิดของฉันด้วยเหรอ""คิดแรงนะเรา" ว่าแล้วเขาก็พาเธอขับออกมาจากมหาวิทยาลัยและเพียงไม่นานก็มาถึงคอนโดน้ำหนาวถือกระเป๋าเดินขึ้นมาก่อนแบบไม่รอให้เขาจอดรถเข้าที่ เพราะไม่อยากจะทำตัวสนิทสนมกับเขามากเกินไปขึ้นมาถึงบนห้องทั้งสองก็ไม่ได้พูดคุยอะไรกัน ต่างคนต่างเข้าห้องแล้วก็เงียบไปจนถึงเช้าเช้าวันต่อมา..ที่มหาวิทยาลัยน้ำหนาวเดินเข้ามาในห้องเรียน แต่วันนี้ดูบรรยากาศมันแปลกๆ เพื่อนก็ไม่ค่อยคุยด้วยเหมือนตอนที่ไปเที่ยวเลยหญิงสาวนั่งเรียนไปได้สักพักก็แปลกใจทำไมเพื่อนถึงยังไม่มา พอหันมองกลับไปด้านหลัง ก็เห็นว่าไข่
ขณะที่เดินออกมาหน้ามหาวิทยาลัย ก็เห็นว่าเพื่อนหลายคนต่างก็ยืนรอรถอยู่น้ำหนาวเห็นว่าเพื่อนมองมาที่เธอ หญิงสาวก็เลยยิ้มให้ ทั้งๆ ที่รู้ว่าสายตาที่มองมา ไม่ได้มองแบบอยากทักทายเลยเห็นแท็กซี่มาแต่ไกล เธอก็เลยกวักมือเรียก แต่ถูกเรียกดักหน้าก่อน ถึงแม้แท็กซี่จะมาจอดตรงหน้าของเธอ แต่น้ำหนาวก็ปล่อยให้เพื่อนอีกคนขึ้นไปก่อนจะนั่งรถเมล์ก็ไม่เคยนั่ง และไม่รู้ด้วยว่าสายไหนวิ่งผ่านคอนโดรอรถจนปวดขา เธอก็เลยคิดว่าเดินเล่นไปดีกว่า เพราะยืนอยู่ตรงนี้มันรู้สึกแปลกๆ[คอนโดหรู]กว่าจะมีรถกลับมาที่คอนโด ก็มืดค่ำแล้ว"วันนี้เขากลับไปนอนบ้านเหรอ" พอเข้ามาเธอก็ตรงไปเปิดไฟ4 ปีเราจะอยู่ยังไงเนี่ย นี่เพิ่งเข้าปีแรกนะ ยังเจอศึกหนักขนาดนี้ ..เพื่อนที่คิดว่าจะคบกันไปจนตลอดระยะเวลาที่เรียนอยู่ที่นี่ หรือบางทีอาจจะคบกันไปตลอดชีวิตเลยก็ได้ แต่พวกเขากลับตีตัวออกห่าง โดยไม่บอกเหตุผลว่าทำไมหญิงสาวยืนมองทอดออกไปนอกกระจกบานใหญ่ของคอนโด ..แม่น้ำเจ้าพระยาถึงแม้จะดูสวยงาม แต่ก็ยังซ่อนไว้ด้วยความว้าเหว่ ไม่ต่างจากเธอในเวลาเลยอยู่ๆ น้ำตาก็ไหลออกมา เมื่อคิดถึงท้องทะเลที่บ้านเกิด อยากกลับไปซบอกพ่อแม่ แต่เธอก็ต้องโตได้แล้วห
พอไข่ตุ๋นจากไปแล้ว น้ำหนาวก็ทวนคิดดูว่ามันเป็นไปได้เหรอที่รุ่นพี่จะเล่นอะไรแผลงๆ กันแบบนี้ และคำตอบที่ได้คงเป็นแบบนั้น เพราะเพื่อนในมหาวิทยาลัยไม่เห็นมีใครอยากจะคบกับเธอเลย นอกจากรชตที่พยายามเข้าหาเธออยู่คนเดียว ซึ่งแต่ก่อนเขาไม่เป็นแบบนี้พนันกันอย่างนั้นเหรอ คงสนุกกันมากเลยสินะ ก็ได้ถ้าพวกเขาอยากจะเล่นกับความรู้สึกเธอมากนักเที่ยงวันเดียวกัน..น้ำหนาวมาทานข้าวที่โรงอาหารเหมือนทุกวัน แต่วันนี้เธอสั่งมาสำหรับสองคน"รุ่นพี่คะ" พอเห็นว่ารชตเดินมาพร้อมกลุ่มเพื่อน เธอที่นั่งอยู่ก็รีบลุกขึ้นตะโกนเรียก จริงๆ แล้วน้ำหนาวต้องการให้ทุกคนที่อยู่ในโรงอาหารมองมาที่เธอด้วยรชตมองซ้ายมองขวา เพราะไม่คิดว่าเธอจะเรียกตัวเอง"กูว่าน้องเรียกมึงนั่นแหละ รีบเข้าไปสิ" เพื่อนที่เดินมาด้วยกันพูดขึ้นถึงแม้มันจะดูแปลกๆ แต่เขาก็เดินเข้ามาหา"หนาวสั่งอาหารมารอรุ่นพี่แล้วค่ะ นั่งสิคะ""รอ?" ถ้าเป็นนาเดียเขาจะไม่สงสัยเลย แต่นี่น้ำหนาว คนที่ไล่เขาทุกครั้งที่เข้าใกล้รชตมองดูอาหารที่เธอเตรียมไว้ให้ อดคิดไม่ได้ว่าเธอใส่อะไรลงไปในนั้นหรือเปล่า"ทานสิคะ" น้ำหนาวตักอาหารขึ้นมาแล้วก็ยื่นไปที่ปากของเขา "ชิมดูสิคะอร่อยมาก
เช้าวันต่อมา.."ขอบพระคุณคุณปู่คุณย่ามากนะคะ""ถ้าอยากมาค้างที่นี่ก็มาได้ตลอดเวลาเลยนะ ปู่กับย่ายินดีต้อนรับเสมอ""ขอบคุณมากเลยนะครับ ส่วนเรื่องประตู เดี๋ยวผมจะให้ช่างมาดูให้""ไม่เป็นไรหรอก แค่เปลี่ยนลูกบิดเฉยๆ ก็ใช้งานได้เหมือนเดิมแล้ว""ให้ช่างมาดูดีกว่าค่ะคุณปู่" รักนรินทร์เกรงใจ มาขออาศัยอยู่บ้านท่านแท้ๆ ยังมาทำของท่านเสียหายอีก"ถ้างั้นก็เอาที่พวกเราสบายใจเลยแล้วกัน เดินทางปลอดภัยนะลูก""ขอบคุณอีกครั้งนะคะ" ทั้งสองไหว้ร่ำลาพวกท่านแล้วก็ออกมา[บ้านภูมิฐาน]ชายหนุ่มพาเธอกลับมาที่บ้านก่อน เพื่อจะมาเปลี่ยนเสื้อผ้าพอมาถึงก็เจอพ่อกับแม่ของเขาอยู่ที่บ้านพอดี"คุณพ่อจะออกไปไหนหรือครับ" เดินเข้ามาก็เห็นผู้เป็นพ่อกำลังจะออกจากบ้าน"ก็เข้าบริษัทน่ะสิ ที่บริษัทโทรมาบอกว่าตามตัวผู้บริหารไม่เจอ""ขอโทษครับ เดี๋ยวผมเข้าไปเอง แต่ขอขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะครับ" เขามัวแต่ยุ่งตามหาเธออยู่ ก็เลยปล่อยปละละเลยเรื่องบริษัทไป"ฉันรออยู่ข้างล่างได้ค่ะ" หญิงสาวชักมือออกเมื่อเขายื่นมาจะจูงเธอขึ้นไปด้วย"จะรออยู่ข้างล่างทำไม..ไม่อาบน้ำก่อนหรือไง""คุณก็ไปอาบเองสิ""ไปด้วยกัน แล้วก็เข้าบริษัทด้วยกัน""ฉ
"ใครเขาจะให้คุณนอนด้วย" หญิงสาวรีบเก็บของบนโต๊ะอาหาร พอเก็บเสร็จก็เดินไปที่ประตูบ้าน "คุณกลับไปเลยนะ ฉันจะล็อกบ้านแล้ว""บอกแล้วไงว่าจะนอนที่นี่ด้วย""แต่นี่มันไม่ใช่บ้านฉันนะ""งั้นก็กลับบ้านสิ""ไม่"จากที่ยืนกอดอกพิงผนังอยู่ชายหนุ่มก็ก้าวเดินไปที่บันได"นี่คุณ!" รักนรินทร์รีบหันไปล็อกบ้านไว้แล้วก็เดินตามเขาขึ้นมา"คุณพักอยู่ห้องไหน""ไม่บอก"ไม่บอกก็ไม่เห็นจะยาก เพราะชั้นบนมีห้องนอนแค่สองห้อง ภูมิฐานเดินไปหน้าห้องนอนหนึ่งในสองนั้น"คุณภูมิหยุดเดี๋ยวนี้นะ!" รักนรินทร์รีบเดินเข้าไปรั้งตัวเขาไว้ก่อนที่จะเปิดประตูห้องนั้น "นี่มันห้องของคุณปู่คุณย่า""คุณก็ไม่บอกแต่ทีแรก" ว่าแล้วชายหนุ่มก็เอื้อมไปเปิดอีกห้องที่อยู่ข้างกัน หญิงสาวก็เลยรีบตามเข้าไป"ก็ได้แต่ฉันให้คุณค้างแค่คืนนี้คืนเดียวนะ"เขาไม่ตอบ..ให้พ้นคืนนี้ไปก่อนแล้วกัน ถ้ายังรับไหวอยู่ภูมิฐานเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวแล้วก็เข้าห้องน้ำ ทำเหมือนบ้านของตัวเองยังไงยังงั้นรักนรินทร์ได้แต่ยืนทำหน้าบูดบึ้งใส่ แต่หัวใจกลับเต้นแรงสวนทางกับสิ่งที่แสดงออกมาเพียงไม่นานภูมิฐานก็ออกมาจากห้องน้ำ เธอก็เลยเข้าไปใช้ต่อพรึบ! "กรี๊ดด" หญิงสาวที่กำลังอา
[คอนโด]เพียงไม่นานรถของภูมิฐานก็มาถึงคอนโด ชายหนุ่มลงจากรถได้ก็รีบตรงขึ้นไปก๊อก ก๊อกแกร็ก! แกร็ก!! เขาไม่มีคีย์การ์ดของห้องนี้ ก็เลยต้องได้เคาะประตูแล้วลองเปิด แต่ข้างในก็ยังเงียบอยู่"รักนรินทร์..คุณมาถึงหรือยังเปิดประตูให้ผมหน่อย" ขณะที่เรียกเขาก็ยังคงเคาะประตู แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับใดๆชายหนุ่มเอาโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาเธอ หลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ยังคงเหมือนเดิม[ร้านขายของชำ]"ผมก็ได้ยินคุณแม่บอกว่า ได้ฤกษ์ยามแล้วไม่ใช่หรือครับพี่" เมื่อเกียร์เห็นพี่สาวมาหา ด้วยใบหน้าที่เศร้าหมอง ก็เลยถามเอาความจริง"สงสัยเขาจะยังไม่พร้อม""พี่จะไปสนใจอะไร" เกียร์ของขึ้นทันทีเมื่อได้ยินว่าฝ่ายชายไม่พร้อมที่จะแต่งงานกับพี่สาว"เรื่องนี้เราอย่าไปพูดให้ใครฟังนะ" ที่รักนรินทร์ต้องเล่าให้เกียร์ฟังก็เพราะอยากจะมาขออาศัยอยู่ที่นี่ก่อน ในระหว่างที่รอให้เขาตัดสินใจ พอคิดแล้วดูเหมือนไม่มีค่า ต้องให้ผู้ชายตัดสินใจว่าอยากจะแต่งงานด้วยไหม"ถ้างั้นพี่ก็ค้างที่ห้องผมเลยแล้วกัน..เพราะผมต้องกลับไปค้างที่บ้านของคุณแม่" ข้าวฟ่างไม่ได้มาด้วย เกียร์แค่แวะมาดูร้านช่วยปู่กับย่า"แล้วคุณปู่คุณย่าของเกียร์จะไม่ว่าพี่เหรอ""
"ปล่อยค่ะนี่มันห้องทำงานนะ" พอเป็นอิสระหญิงสาวก็รีบห้ามปรามกลัวว่าเขาจะเลยเถิด"คุณทำเสน่ห์ใส่ผมหรือเปล่าเนี่ย" ยอมรับว่าไม่เป็นอันทำการทำงานเลย เพราะตั้งแต่ได้สัมผัสร่างกายของเธอมา เขาก็โหยหาเธอโดยตลอด"ทำเสน่ห์? อะไรคือทำเสน่ห์คะ" อย่างที่รู้กันอยู่ว่าเธอเติบโตที่ต่างประเทศ เรื่องแบบนี้ที่นั่นเขาไม่เชื่อกันอยู่แล้ว และไม่มีใครพูดถึง แม้แต่พ่อและแม่ สื่อโซเชียลก็ไม่ใช่ว่าเธอจะไม่สนใจ แต่ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี"ผมแค่ล้อเล่น มันเป็นเสน่ห์จากตัวคุณเอง""คุณรักฉันจริงเหรอ" รักนรินทร์ถามอีกครั้ง เพราะคิดว่าเขาคงอยากจะพูดแค่ต่อหน้าผู้ใหญ่"รักสิ ผมรักคุณ ว่าแต่คุณคิดยังไงกับผม""คิดยังไง?" ใช่แล้วเราคิดยังไงกับเขากันแน่ แต่พอได้ยินเขาบอกรักทำไมถึงดีใจมาก ดีใจจนห้ามน้ำตาของตัวเองไม่ได้"ผมไม่ได้บังคับให้คุณพูดหรอก เรื่องแบบนี้ต้องพูดออกมาจากใจ เหมือนที่ผมบอกคุณไง""คุณพูดจากใจจริงหรือคะ" ก็มันยากที่จะเชื่อนี่ วันนั้นยังทำเหมือนไม่ชอบหน้าเธออยู่เลย"ถ้าพูดแล้วคุณยังไม่เชื่อ งั้นผมทำให้คุณเชื่อเลยแล้วกัน""ทำอะไรคะ"คนตัวโตเดินมาที่ประตู แล้วก็จัดการล็อกมันไว้ แถมไม่ได้ล็อกแค่ลูกบิด เขายังล็อกก
"กระดาษอะไรแปะอยู่ด้านหลัง" รรินธรที่ยืนอยู่ห่างหน่อยมองไปเห็นตอนที่สามียกแพทเทิร์นขึ้นมาดูหมั่บ รักนรินทร์รีบดึงมันออกมา แล้วก็ขยำไว้ในมือ "ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ก็แค่เจ้านายเขียนโน้ตแก้งานไว้ค่ะ"ภูมิฐานมองที่มือของเธอแบบยิ้มๆ "คุณพ่อกับคุณแม่ทานข้าวมาหรือยังครับ" แล้วเขาก็หันมาชวนพวกท่านคุย"ยังไม่ได้ทานเลย ก็นัดทานข้าวกับพ่อเรานั่นแหละ ไม่รู้ป่านนี้มาหรือยัง""อ้าวหรือครับ พอดีเลยผมกำลังหิว ขอไปร่วมทานด้วยคนนะครับ"ในขณะนั้นโทรศัพท์ของคริสก็ได้ดังขึ้น และคนที่โทรมาก็คือภูสิษฐ์รับโทรศัพท์อยู่ครู่หนึ่งคริสก็หันมาหาภูมิฐาน"ถ้าจะไปทานด้วยกันก็ป่ะ ตอนนี้พ่อกับแม่เราอยู่ข้างล่างแล้ว" ว่าแล้วคริสก็เอื้อมไปจูงแขนภรรยาให้เดินตามมา ส่วนภูมิฐานก็รีบเดินนำหน้าไป เพื่อเปิดประตูห้องให้"แล้วเราไม่ไปเหรอลูก" รรินธรเห็นว่าลูกสาวไม่เดินตาม"ไม่หรอกค่ะ เดี๋ยวรักหาอะไรทานแถวโรงอาหารนี้ก็ได้"ภูมิฐานถึงกับหันกลับมามอง เพราะเขาเดินนำพวกท่านจะออกนอกห้องอยู่แล้ว..หน้าประตูลิฟต์.."ผมเพิ่งนึกขึ้นได้ว่ามีงานด่วน คงไปร่วมทานข้าวด้วยไม่ได้ เอาไว้โอกาสหน้านะครับคุณพ่อคุณแม่" เขาพูดในขณะที่ประตูลิฟต์กำลังเปิดอ
แกร็ก! แกร็ก!!"ทำไมประตูเปิดไม่ได้ล่ะคะคุณ หรือคีย์การ์ดใช้ไม่ได้แล้ว" คีย์การ์ดเคยเป็นของรรินธรสมัยที่พักอยู่ที่คอนโดนี้ ตอนนั้นเธอไม่ได้คืนให้กับคฑา แต่ก็ไม่ได้ทิ้งยังคงเก็บไว้เป็นอย่างดี"ก็เปิดได้อยู่นะ..แต่เหมือนถูกปิด" คริสใช้คีย์การ์ดเปิดอีกครั้งลองดู"ใครคะ" เสียงคนที่อยู่ด้านในดังออกมา เมื่อได้ยินว่าคนข้างนอกจะเปิดลองดูอีกครั้ง"อ้าวหนูยังไม่นอนเหรอลูก เปิดประตูให้พ่อกับแม่หน่อย" ที่ไม่เคาะเรียกเพราะกลัวจะรบกวนลูกสาว"แป๊บหนึ่งนะคะพ่อ"ที่คริสเปิดประตูเข้ามาไม่ได้ ก็เพราะตอนนั้นภูมิฐานอุ้มรักนรินทร์ยืนอยู่ใกล้ประตู พอได้ยินเสียงแกร๊กเท่านั้นแหละเขาก็รีบใช้มือดันประตูปิดไว้เหมือนเดิม ด้านในมันก็เลยล็อกอีกที ..และตอนนี้ทั้งสองกำลังมัววุ่นใส่เสื้อผ้ากันอยู่แกร็ก~"อ้าวนี่หนูยังไม่อาบน้ำเลยเหรอลูก แม่นึกว่าหนูหลับไปแล้วเสียอีก""ยังค่ะมัวเคลียร์งานอยู่" โกหกแม่จะบาปไหมเรา"ถ้างั้นหนูก็ไปทำงานต่อเถอะลูก ไม่ต้องห่วงพ่อกับแม่หรอก""คุณพ่อจะทำอะไรคะ" รักนรินทร์เห็นพ่อกำลังจะเดินไปเปิดประตูห้องนอน"หนูจะให้พ่อกับแม่นอนห้องไหนล่ะ" คริสถึงกับตกใจแล้วหันกลับมาถามลูกสาว"อีกห้องค่ะพ่อ"
[ร้านอาหารหรู]"ว่าไงเสือ""ใครเสือ เรียกให้ถูกหน่อยสิ" ดวงตาภูสิษฐ์ กรอกมองไปดูภรรยาที่นั่งอยู่ข้างๆ ถ้าจำกันได้สมัยก่อนภูสิษฐ์ก็ไม่ใช่เบาๆ และคนที่กล้าเรียกเขาว่าเสือก็คือ.. "นายก็ไม่เบาเหมือนกันแหละไอ้คุณคริส"ใช่แล้วคนที่คริสมาทานข้าวด้วยก็คือภูสิษฐ์ ทั้งสองรู้จักกันที่ต่างประเทศ หลายสิบปีผ่านมาแล้ว"อุ๊ย" เมื่อได้ยินเพื่อนเอาคืนคริสก็ได้มองมาที่ภรรยาบ้าง พอเห็นสายตาพิฆาตแล้วถึงกับเสียวสันหลังวูบ"แล้วเมื่อไรเด็กๆ จะมากันเนี่ย" สามีทั้งสองยกนาฬิกาขึ้นมาและพูดพร้อมกันโดยที่ไม่ได้นัดหมาย"ไม่มีพิรุธเลยนะคะ""แหะๆ เมียจ๋าา อย่าไปเชื่อไอ้ภูมันเลย""นั่นไงมาแล้ว" เหมือนกรรมการตีระฆังเพื่อพักยก เมื่อเห็นภูมิฐานเดินเข้ามาพอมองเห็นแล้วว่าพ่อกับแม่นั่งอยู่โต๊ะไหนภูมิฐานก็เดินตรงเข้ามา สายตาคมมองดูชายหญิงวัยกลางคนคู่หนึ่งที่นั่งอยู่โต๊ะเดียวกัน"สวัสดีครับ" เขายังไม่รู้หรอกว่าทั้งสองท่านเป็นใครแต่ด้วยมารยาทพอมาถึงก็ยกมือไหว้"หล่อกว่าพ่อเยอะเลยนะเนี่ย" คริสพูดพร้อมกับรับไหว้"ขอบคุณครับ" ชายหนุ่มมองไปที่พ่อ เพื่ออยากจะถามว่าเพื่อนของท่านทำไมเขาถึงไม่รู้จัก"เพื่อนพ่อเพิ่งเดินทางมาจากต่างปร
ภูมิฐานรีบตามออกมา คิดว่าที่เธอรีบออกไปคงเพราะเรื่องดินสอแท่งนั้นแน่แกร็ก! ประตูห้องประชุมถูกเปิดเข้าไปแบบถือวิสาสะ รักนรินทร์คิดว่าไอรยาคงยังอยู่ในห้องประชุมเพราะต้องได้คุยเรื่องแบบต่อทุกคนที่ยังอยู่ในห้องประชุมต่างก็หันมองมาที่ประตู"ฉันได้ยินท่านประธานบอกว่าคุณได้ดินสอด้ามนี้ที่ถังขยะ" รักนรินทร์เดินตรงเข้าไปแล้ววางดินสอลงตรงหน้าของไอรยา"ค่ะ" ไอรยาตอบรับเมื่อเห็นว่าภูมิฐานเดินตามเข้ามาด้วย"ถังไหนคะ""เออ..ถัง? ถังไหนแล้วทำไมคะ""มันวางอยู่บนโต๊ะทำงานของฉันแล้วมันจะไปอยู่ข้างถังขยะได้ยังไง ฉันก็เลยอยากรู้ว่าถังไหน""ถังหน้าห้อง" ถ้าจะบอกว่าถังขยะที่ไกลกว่านั้น กลัวจะไม่น่าเชื่อถือ"คุณเจอตอนไหน""นี่คุณ ฉันไม่มีเวลามานั่งจำเวลาหรอกนะ""ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวฉันจะให้คนตรวจสอบกล้องวงจรปิดเองแล้วกัน""??" ไอรยาลืมคิดเรื่องนี้ไปเลยคนที่อยู่ในห้องประชุมได้แค่นั่งฟัง เพราะไม่รู้ว่าทั้งสองมีเรื่องอะไรกัน"ออกไปก่อนครับ" ภูมิฐานเป็นคนสั่ง เพราะเห็นแล้วว่าศึกครั้งนี้คงไม่สงบง่าย"ไม่ต้องหรอกค่ะ อยู่ฟังด้วยกันนี่แหละ"คนที่กำลังเก็บของจะลุกขึ้นต่างก็นั่งลงที่เดิม เมื่อได้ยินรักนรินทร์สั่งอี
แกร็ก~ "??" พอรู้ว่าใครมาเคาะประตูเท่านั้นแหละ รักนรินทร์ก็รีบปิด..แต่ก็ไม่ทัน"คุณออกจากห้องฉันไปเดี๋ยวนี้เลยนะ"แต่ดูเหมือนว่าภูมิฐานจะไม่สนใจที่เธอไล่ เขายังคงดันประตูแล้วก็แทรกตัวเข้ามา"คุณดื่มเหล้ามาเหรอ?""ขอค้างด้วยหน่อยสิ""คุณเห็นฉันเป็นอะไร""ผมยังไม่รู้ เราคบกันดูก่อนไหม" มันเป็นสิ่งที่เขาคิดไว้ ในระหว่างที่เขายังไม่รู้ใจตัวเองอยากจะอยู่ใกล้เธอให้มากที่สุด"อะไรนะ?""ในระหว่างนี้เราก็คบกันไปก่อน""ฟังดูดีนะ คนเห็นแก่ตัว" ถ้าเขาขอเป็นแฟนเธออาจจะรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง แต่นี่แค่มาขอคบ แถมยังคบกันดูก่อนอีก"แล้วคุณต้องการแบบไหนก็บอกมาสิ""ต้องการให้คุณออกไปจากห้องนี้""คำก็ไล่สองคำก็ไล่ คุณจะให้ผมคิดยังไง""คิดว่าฉันไม่สนใจคุณไง ถ้าสนใจคุณแล้วฉันจะไล่เหรอ""ถ้างั้นแสดงว่าผมคิดกับคุณอยู่ฝ่ายเดียวหรอกหรือ"หญิงสาวทำได้แค่กลืนน้ำลายลงคอ เขาไม่คิดเหรอว่าเธอต้องเล่นตัวไว้บ้าง ถ้ารีบตกลงไป ก็จะดูเหมือนไม่มีค่าไม่มีราคาอะไรเลย"อืม?!" ในขณะที่กำลังใช้ความคิดอยู่นั้นก็ถูกอีกฝ่ายจู่โจมโดยการจูบมือเรียวแนบลงที่แผ่นอกกว้าง นี่เธอโหยหาจูบจากเขาขนาดนี้เลยเหรอ เพราะแรงจะผลักออกก็ยังไม่มีเมื่