"ก็เมื่อคืนนี้ฉันไปค้างที่บ้านคุณ แต่ไม่มีเสื้อผ้าใส่""ก็เลยถือวิสาสะ เอาของคนอื่นมาใส่โดยไม่ถามก่อนงั้นเหรอ" เมื่อคืนนี้มืดมากก็เลยไม่ได้ดูว่าเธอใส่ชุดอะไรก่อนที่เขาจะออกจากห้อง"เดี๋ยวฉันซักคืนคุณก็ได้" เธอกับเขาไม่ต่างจากคนแปลกหน้า เพราะจับพลัดจับผลูก็ได้มาแต่งงานกันเลยมือเรียวเอื้อมไปจับแขนอีกฝ่ายไว้ก่อนที่จะเดินหนีไป เขาคงโกรธเรื่องเสื้อที่เธอเอามาใส่มากจนไม่อยากจะคุยด้วย"ให้คุณแม่หลับก่อนค่อยกลับได้ไหมคะ" เพราะเธอแค่ขอออกมาคุยกับเขาข้างนอก"คุณยังจะขอผมอีกเหรอ""ฉันขอโทษแล้วกันค่ะ เรื่องเสื้อเดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันจะไปคืนให้ที่เดิม" สโรชาปล่อยมือที่รั้งอีกฝ่ายอยู่ออก เพราะแค่นี้ก็รู้แล้วว่าเขาคงไม่อยู่ต่อ"ไม่ต้องหรอก" เสื้อตัวนี้มันเป็นของเขาก็จริง แต่หญิงคนรักเคยใส่มัน รามสูรก็เลยเก็บไว้ในตู้เสื้อผ้าเป็นอย่างดีทำอะไรก็ไม่เข้าตาเขาสักอย่าง เหนื่อยนะกับการที่จะต้องพยายามให้ถูกใจทุกคน โดยที่ไม่มีใครมองเห็นว่าเธอพยายามแค่ไหนบางทีสโรชายังคิดเลยว่าถ้าวันไหนแม่จากไป เธออาจจะตามแม่ไปด้วยก็ได้ เพราะไม่รู้ว่าชีวิตนี้จะอยู่ต่อไปทำไมอีกแล้ว แกร็ก.."แล้วคุณรามล่ะลูก" แม่ถามเมื่อเห็นว่าลูก
กว่าเขาจะตื่นขึ้นมาก็ปาเข้าไปตอนเย็น เพราะเมื่อคืนนี้ดื่มหนักมา แถมมาถึงบ้านยังได้ปลดปล่อยอารมณ์อีก ชายหนุ่มอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดลำลองอยู่บ้าน เดินลงมาข้างล่าง"ไม่ออกไปไหนแล้วเหรอลูก""เหนื่อยครับ อยากจะนอนต่อแต่หิวก่อน""แม่ให้คนเตรียมอาหารไว้รอแล้ว"ขณะที่คุยกับแม่สายตาเขามองไปทั่วบ้าน"มองหาใครเหรอลูก" ผู้เป็นแม่ก็อดที่จะมองตามลูกชายไม่ได้"เธอไปไหนแล้วล่ะครับ""ลูกหมายถึงเมียของลูกน่ะเหรอ" ผ่านไปหลายชั่วโมงแล้วนางก็เลยลืมไปเลย"ใช่ครับ""ออกไปตั้งแต่ลูกมาถึงนู่นแหละ" พุดตาลก็ไม่ได้อคติอะไรกับเด็กหรอก แต่แค่ไม่ชอบแม่ของสโรชา กลัวว่าลูกสาวจะนิสัยเดียวกับแม่"เหรอครับ" นั่นแสดงว่าเธอออกไปหลังจากเสร็จกิจกรรมบนเตียงแล้วเหรอชายหนุ่มทานข้าวจนอิ่มก็กลับขึ้นมา คิดว่าจะนอนเอาแรงอีกสักรอบ เพราะเจองานหนักของบริษัทมาหลายวัน แถมเมื่อคืนนี้ก็มีกินเลี้ยงกับคนที่ช่วยงานอีกก่อนเอนตัวลงนอนเขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดู เพราะเหมือนมีข้อความแจ้งเตือนไว้ว่ามีคนโทรมาเธอโทรมาสองสายเพราะเขาไม่ได้เอาโทรศัพท์ลงไปด้วยพอเห็นเบอร์โทรเท่านั้นแหละ รามสูรก็เปิดเข้าไปเช็คดูใน IG ว่าเธอทำเหมือนทุกครั้งไหม
เช้าวันต่อมา..เมื่อคืนนี้พอสัมผัสได้ว่าเธอร้องไห้ เขาก็เลยเก็บเจ้าสิ่งนั้นไว้ และปล่อยให้เธอได้นอน"เย็นนี้ผมจะมาอยู่เป็นเพื่อนอีก ผมต้องเข้าบริษัทก่อนนะครับ" ประโยคแรกเขาพูดกับคนเป็นภรรยา ประโยคต่อมาชายหนุ่มหันไปพูดกับแม่เธอที่นอนอยู่บนเตียง"เดี๋ยวฉันลงไปส่งค่ะ""ไม่ต้องหรอกอยู่เป็นเพื่อนคุณแม่เถอะ" ก่อนที่จะออกมาชายหนุ่มโน้มตัวลงไปหอมแก้มเธอเบาๆ สโรชาไม่รู้ว่าเขาทำไปเพื่ออะไร แต่ก็ขอบคุณเขามากที่ทำให้แม่มีรอยยิ้มขึ้นมาได้"แม่ดีใจนะที่ลูกเจอคนที่รักลูกจริง" ไม่เหมือนนาง ถ้าชาติหน้ามีจริงคงไม่ต้องมาเป็นอนุของคนอื่นแบบนี้"โรสก็บอกแม่แล้วไงคะว่าลูกเขยของแม่เป็นคนดี และเขาก็รักลูกสาวแม่มากเลยนะ"ขณะที่เธอกำลังเตรียมผลไม้ให้แม่ โทรศัพท์จากแม่ใหญ่ก็โทรเข้ามาพอสโรชารับแล้วก็ถูกต่อว่าไปยกใหญ่ เรื่องที่ไม่กลับมาบ้านเลย จริงๆ นางก็อยากให้พาลูกเขยมาบ้านบ้างนั่นแหละ>>{"พรุ่งนี้โรสจะกลับไปค่ะ"} {"มาเย็นนี้เลย แม่เตรียมอาหารเย็นไว้รอแล้ว"}>>{"เย็นนี้หรือคะ"} หญิงสาวมองไปดูแม่ที่นอนอยู่บนเตียง ถ้ากลับไปไม่นานคงพอได้ แต่เขาจะไปด้วยไหมนั่นมันก็อีกเรื่องหนึ่งที่จริงแม่ของเธอก็ได้ยินเสียงลูก
อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องน้ำเสร็จรามสูรก็ออกมา สโรชาก็เลยเดินเข้าไปใช้ห้องน้ำต่อจากเขามือหนาเอื้อมไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเพราะหน้าจอยังสว่างอยู่ พอเห็นข้อความนั้นเขาก็รีบหันกลับไปมองคนที่กำลังจะปิดประตูห้องน้ำ และเธอก็มองมาเช่นกันเช้าวันต่อมา..เมื่อคืนนี้พออาบน้ำออกมาก็ไม่เจอเขาอยู่ในห้องแล้ว แต่แม่ก็บอกว่าเขามีงานด่วนวันหลังจะมาค้างด้วยใหม่"แม่ว่าหนูกลับบ้านไปเถอะลูก จะได้ดูแลสามีแบบใกล้ชิดหน่อย""โรสอยากอยู่กับแม่ค่ะ""แต่แม่ว่า.." นางไม่อยากให้ชีวิตครอบครัวของลูกสาวมีปัญหา เพราะมัวแต่มาทุ่มเทเวลาให้กับแม่ที่นอนป่วยอยู่"คุณรามสูรเข้าใจเรื่องนี้ดีค่ะ แม่ก็เห็นแล้วว่าเขาเป็นผู้ใหญ่" ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าแม่กำลังคิดอะไรคนเป็นแม่ก็เลยไม่พูดอะไรอีก ที่นางอยากให้ลูกสาวกลับไปอยู่บ้านกับสามี เพราะเห็นสีหน้าลูกสาวไม่สู้ดีตั้งแต่เมื่อคืนนี้แล้ว กลัวว่าทั้งสองจะแอบมีปัญหากันที่จริงข้อความในไลน์เธอเห็นแค่ประโยคข้างหน้า แต่แค่นั้นก็รู้แล้วว่าผู้หญิงของเขากำลังจะกลับมา นั่นหมายถึงว่าคงใกล้วันที่เธอจะต้องปล่อยเขาเป็นอิสระสามวันต่อมา..จนถึงวันนี้เขาก็ยังไม่ได้กลับมาที่โรงพยาบาล และเธอก็ไม่ได
"ขอเช็คความดันด้วยค่ะ"อยากจะนอนกอดแม่ต่ออีกสักคืนแต่สวรรค์ก็ไม่เป็นใจเลย พอถึงเวลานางพยาบาลก็เข้ามาทำหน้าที่"คนไข้เป็นอะไรไปคะ?" พยาบาลรีบเข้ามาจับชีพจรดู พอรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นก็รีบออกไปตามเพื่อนเข้ามาช่วยกัน"คนไข้เสียตั้งแต่ตอนไหนคะ" ที่ต้องถามญาติคนไข้เพราะต้องได้จดรายละเอียดการเสียชีวิต และเธอก็บอกเวลา นาที วินาทีไป เพราะหญิงสาวมองดูนาฬิกาตอนที่แม่หยุดหายใจอีกแค่ไม่กี่นาทีผ่านไป หลังจากที่พยาบาลเข้ามาเก็บทำความสะอาดห้องนี้"เจ้าของห้องไปไหนครับ" พอออกจากสถานบันเทิง รามสูรก็คิดถึงคำพูดของเธอ ที่ขอให้หาเวลามาโรงพยาบาลหน่อย ถึงยังไงก็เป็นทางผ่านเขาก็เลยแวะเข้ามาดู"คนไข้ห้องนี้เพิ่งเสียค่ะ""เสียหรือครับ?""ใช่ค่ะทางเราย้ายไปไว้ที่ห้องดับจิตแล้วค่ะ""แล้วห้องนั้นอยู่ไหนครับ"พยาบาลก็เลยบอกรายละเอียดห้องดับจิตไปสิ่งแรกที่เขาเห็นเมื่อมาถึงชั้นนี้ ก็คือหญิงสาวตัวเล็กๆ นั่งชันเข่าอยู่หน้าห้องชายหนุ่มเดินเข้าไปใกล้แล้วก็นั่งลงกับพื้นข้างๆ เธอตรงนั้นสโรชาไม่แม้แต่จะมองดูคนที่เพิ่งนั่งลงข้างๆ ถึงแม้ไม่มองเธอก็รู้ว่าเป็นใคร และก็รู้ด้วยว่าเขาไปที่ไหนมาเพราะกลิ่นแอลกอฮอล์ฟุ้งขนาดนี้"กิน
วันเดียวกันนั้น..หลังจากที่เก็บอัฐิของแม่เสร็จ สโรชาฝากแม่ไว้กับวัดนั้น เวลาคิดถึงก็จะแวะมาหาได้สะดวกหน่อย"ฉันไม่อยากกลับไปอยู่บ้าน" หญิงสาวที่นั่งอยู่ด้านหลังเอ่ยพูดขึ้นในขณะที่เขาขับรถมุ่งตรงไปทางบ้านของเธอสายตาคมมองผ่านกระจกมาดูคนที่นั่งอยู่ตรงนั้นพอดี"ถ้างั้นก็ไปอยู่บ้านผม" เพราะไม่มีโรงพยาบาลให้ไปส่งเธอแล้ว เขาก็เลยคิดว่าจะไปส่งที่บ้าน"คุณจะพาฉันไปไว้ที่บ้านทำไม ไม่กลัวคนรักของคุณจะรู้เอาเหรอ" มีด้วยเหรอเมียแต่งเมียที่ถือครองใบทะเบียนสมรส แต่ต้องกลัวเมียนอกกฎหมายรู้ว่าเขายังคงเก็บเธอไว้"ทำไมต้องกลัวด้วย" เพราะถึงยังไงถ้าเขากลับไปใช้ชีวิตอยู่กับมะปราง ก็คงพามะปรางเข้าบ้านไม่ได้อยู่แล้วรามสูรอดคิดถึงคำที่เขาเคยว่าให้พ่อไว้ไม่ได้[ย้อนกลับไปสิบกว่าปีที่แล้ว]"พ่อทำแบบนี้ไม่สงสารแม่บ้างหรือครับ""ผู้ชายเราก็เป็นแบบนี้ทั้งนั้นแหละ ลูกโตขึ้นมาเดี๋ยวรู้เอง""ผมไม่มีทางเป็นเหมือนพ่อ" วันนั้นนึกยังไงไม่รู้รามสูรโดดเรียนไปกับเพื่อนกลุ่มหนึ่ง แต่สิ่งที่เขาเห็น คือพ่อพาเด็กผู้ชายคนหนึ่งมาเที่ยวที่ที่เขาไปเหมือนกันจากที่คิดว่าตัวเองเป็นลูกชายคนเดียวมาโดยตลอด ต้องได้เริ่มมีการแข่งเพื่อเ
ชายหนุ่มนั่งรออยู่อีกพักใหญ่ จนเขาหมดความอดทนที่จะรอต่อ"คุณผู้ชายจะกลับแล้วหรือคะ""อืม..ถ้าเธอกลับมาบอกให้โทรหาผมด้วยแล้วกัน" พอพูดจบรามสูรก็ออกมาจากบ้าน แต่ขณะที่เขาเดินมากำลังจะเปิดประตูรถก็เห็นแท็กซี่วิ่งมาจอด"?" เขามาทำไม"คุณมาก็ดีแล้ว วันนี้แม่ของคุณชวนไปทานข้าวที่บ้าน" เขาไม่ถามเลยสักคำว่าเธอไปไหนมา และไปไหนทุกวัน อีกเรื่องที่เขาไม่ถามก็คือเรื่องสุขภาพ หลังจากอาการแท้งแล้วเธอเป็นยังไงบ้างแต่ที่รามสูรไม่ถามเพราะเขาถามเอาความจากแม่บ้านแล้ว ก็เลยคิดว่าไม่จำเป็นต้องถามเธออีก"คุณก็เลยมารับฉันงั้นเหรอคะ""ใช่"คนตัวเล็กเดินไปเปิดประตูด้านหลังแล้วขึ้นไปนั่งแบบรู้ว่าที่ของตนเองอยู่ตรงไหนทั้งสองนั่งรถคันเดียวกันมาโดยไม่ได้เอ่ยพูดอะไรกันสักคำ จนมาถึงบ้านของเธอสโรชาต้องรีบลงจากรถกลัวว่าแม่จะออกมาเห็น ว่าเธอนั่งอยู่ด้านหลังโดยมีเขาเป็นคนขับ"แม่ก็เลยไม่ได้ออกไปรับ""สวัสดีครับ" ชายหนุ่มสวัสดีทั้งพ่อและแม่ของเธอ วันไหนถ้าลูกเขยมาทานข้าวที่บ้านนางก็จะรีบแจ้งไปทางสามี แล้วสามีก็รีบกลับมารอ เหมือนมารับหน้า"เรื่องบริษัทเป็นยังไงบ้างล่ะ""ช่วงนี้ก็ไม่มีปัญหาอะไรแล้วครับ""เรื่องของที่เสี
[โรงพยาบาล]มาถึงหญิงสาวก็ตรงเข้าไปที่ห้องผดุงครรภ์ ใช่แล้วลูกของเธอยังคงอยู่ และวันที่แวะร้านก๋วยเตี๋ยวเรือ เธอคิดวางแผนไว้แล้วว่าจะทำยังไงถึงจะหลุดพ้นจากผู้ชายที่มีเจ้าของหัวใจแล้วเธอก็เลยขอแบ่งซื้อเลือดหมูที่ใช้ทำเป็นก๋วยเตี๋ยวเรือมา เพื่อสร้างสถานการณ์ให้น่าเชื่อถือ พอเข้าโรงพยาบาลก็บอกว่า แม่บ้านเป็นห่วงมากเกินไป เธอแค่ทำเลือดหกใส่กางเกง คุณหมอก็เลยให้กลับบ้านได้"เมื่อสักครู่ผู้หญิงคนนั้นมาทำอะไรคะ""คนไหนคะ""หลานสาวฉันคนที่เพิ่งเดินออกไปเมื่อกี้นี้ค่ะ""เป็นหลานสาวเหรอคะ""ใช่ค่ะ"พอนางรู้ความจริงก็รีบเดินออกมาจากโรงพยาบาล เพื่อรอคนขับรถที่นางสั่งให้ตามไปว่าเธอไปทำอะไรต่อที่ไหน"ทำงานที่นี่เหรอ"พอคนขับรถเห็นว่าสโรชาเข้าไปที่ไหนก็รีบกลับมารับเจ้านาย แล้วพามาดูสถานที่ที่เห็นเธอเข้าไป"ใช่ครับเป็นบริษัทเกี่ยวกับการทำบัญชี""ทำไมต้องมาทำงานที่แบบนี้ด้วย""ผมก็ไม่แน่ใจครับแต่ว่ามาทำได้เกือบเดือนแล้วครับ""เกือบเดือน?"สโรชาออกจากโรงพยาบาลก็กลับมาทำงานต่อ จนถึงช่วงเย็นของวันเดียวกัน หญิงสาวออกมาจากบริษัทนั้นแล้วก็นั่งวินมอเตอร์ไซค์ เพื่อที่จะไปซื้ออาหารที่ตลาดก่อนรถของคนที่ตามเธอ
"แม่ว่าเราอย่าเพิ่งตามไปดีกว่า" พอลูกสะใภ้เข้าไปในห้องของคุณย่า รามสูรกำลังจะตามเธอกับลูกเข้าไป"ผมควรทำยังไงดีครับแม่" ครั้งแรกที่เขายอมเปิดใจคุยกับแม่เรื่องนี้ ซึ่งมันผิดวิสัยของเขามาก ตั้งแต่เกิดมาแม้แต่เรื่องการเรียนเขายังไม่ปรึกษาใคร"เรากลับไปถามใจตัวเอง ว่ามีใจให้กับหนูสโรชาไหม ถ้าคำตอบที่ได้คือไม่ ลูกก็ปล่อยให้เธอไปมีชีวิตของเธอเอง" ที่นางพูดแบบนี้เพราะไม่อยากให้ใครต้องมาเจอวิบากกรรมเหมือนนางอีกแล้ว อย่างที่รู้กันอยู่ว่าสามีเป็นยังไง ถ้าไม่มีใจให้ภรรยา ก็คือต้องไปหานอกบ้าน และพุดตาลก็รู้ดีว่ามันทรมานแค่ไหน การที่รอชายคนรักกลับมาหา ทั้งๆ ที่รู้ว่าตอนนี้เขานอนกอดอยู่กับผู้หญิงคนอื่น"แม่ครับ""ลูกอย่าเพิ่งตอบแม่ตอนนี้ ลูกต้องให้แน่ใจก่อนค่อยตอบ""ผมแน่ใจแล้วครับ" เขาไม่รู้ว่ามีใจให้กับเธอตั้งแต่เมื่อไร ตั้งแต่มะปรางกลับมา ในใจของเขายังคงคิดวนเวียนถึงเธออยู่เสมอ ทั้งๆ ที่มะปรางก็อยู่ข้างกาย แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้แล้วจึงยอมปล่อยเธอไปนี่แหละมันคือสิ่งที่คนเป็นแม่อยากได้ยิน นางเป็นแม่ทำไมจะไม่รู้ว่าลูกชายไม่ได้เจ้าชู้เหมือนพ่อ แต่คนที่ลูกชายมอบใจให้ กลับเป็นผู้หญิงที่ไม่น่าจะได้รับสิ
สายตาคมมองต่ำลงไปดูที่พื้นทันทีที่เห็นผ้าม่านขยับได้ พอแน่ใจแล้วว่าสิ่งที่อยู่หลังผ้าม่านคืออะไร ริมฝีปากหนายกยิ้มขึ้นเล็กน้อย พร้อมกับเดินไปที่ประตูแกร็ก.. มันคือเสียงล็อกประตู เพราะตอนเข้ามาแค่ปิดไว้เฉยๆพอเดินกลับมารามสูรก็เริ่มถอดเสื้อผ้าใหม่อีกครั้งคนที่แอบอยู่หลังผ้าม่านคิดว่าถ้าเขาถอดเสื้อผ้าเสร็จต้องเข้าไปอาบน้ำแน่ เธอจะใช้จังหวะนั้นรีบออกจากห้องนี้แต่พอถอดผ้าออกหมดรามสูรก็หยิบกางเกงลำลองมาสวมใส่แบบง่ายๆ แล้วเดินไปเอนตัวนั่งพิงหมอนที่เตียงนอน"??" คนบ้าอะไรทำงานมาทั้งวันไม่คิดอยากจะอาบน้ำเลยหรือไง แล้วเราจะออกไปได้ยังไงล่ะสโรชาขยับผ้าม่านเล็กน้อยเพื่อจะมองดูว่าคนที่เธอได้ยินเสียงนั่งลงที่เตียงเมื่อสักครู่กำลังทำอะไรอยู่ ..คงกำลังคุยแชทกับผู้หญิงอยู่ล่ะสิ มองไปก็เห็นว่าเขากำลังทำอะไรสักอย่างกับโทรศัพท์"ถ้าเหนื่อยยืนแล้วก็มานั่ง" สายตาของคนที่พูดยังคงมองดูหน้าจอโทรศัพท์อยู่"???" เขาคุยวีดีโอคอลเหรอ? ถ้ารามสูรมองมาทางนี้สักนิดคงคิดว่าเขาเห็นเธอ แต่นี่เขายังคงมองโทรศัพท์อยู่"จะยืนอยู่แบบนั้นทั้งคืนเลยหรือไง" ประโยคนี้ชายหนุ่มค่อยๆ มองไปที่ผ้าม่าน พร้อมกับวางโทรศัพท์ลงบนหัวเ
พอเลขาออกมาจากห้องของท่านประธาน ก็อดมองไปดูผู้หญิงคนนั้นไม่ได้ ตั้งแต่พิมพ์เข้ามาทำงานก็ไม่เคยเห็นบอสสนใจใครนอกจากเลขาที่เพิ่งออกไป เพราะได้ยินคนอื่นเล่าให้ฟังอยู่บ้างว่าเป็นคนพิเศษสำหรับท่านประธานแต่แทนที่จะสนใจสาวๆ ทำไมถึงไปสนใจแม่ลูกอ่อนอยู่ได้ใกล้เที่ยงวันเดียวกัน.."เราไปทานข้าวที่ไหนกันดี" เกวลินถามรุ่นน้องทั้งสองคน"วันนี้ท่านประธานไม่เลี้ยงข้าวเราอีกเหรอ" เอวาถามกลับ"พอเลย อาหารก็อร่อยอยู่หรอก แต่ดูบรรยากาศยังไงไม่รู้""ถ้างั้นเราก็ไปกินหน้าบริษัทนี้แหละ ฉันเห็นร้านอาหารตามสั่งอยู่ แล้วโรสว่าไง""คะ?" สโรชามัวคิดถึงเรื่องเมื่อคืนนี้ เธอไม่น่าพลาดท่าให้เขาเลย "เมื่อกี้พี่ว่าอะไรนะคะ""พี่ถามว่าเราจะไปกินข้าวเที่ยงที่ไหนกันดี ใกล้เที่ยงแล้วเนี่ย""โรสยังไม่หิวค่ะ""จะไม่หิวได้ยังไง""พวกพี่ไปกินเถอะค่ะ""เราไม่หิวจริงเหรอ""น้องโรสอาจจะกินข้าวก่อนมาแล้วก็ได้" เพราะวันนี้สโรชามาสาย"เอาแบบนั้นก็ได้ ถ้างั้นพวกพี่ไปก่อนนะ" พวกเธอไม่ต้องรูดบัตรเหมือนพนักงานที่นี่ จะลงไปก่อนก็ไม่มีใครว่า"ทำไมน้องไม่ไปกินข้าวกับเพื่อนล่ะคะ" เลขาก็แอบมองอยู่ว่าพวกเพื่อนๆ ไปแล้ว ทำไมเธอยังคงนั่งอยู่
ฝนยังคงตกตลอดเวลา เพราะตอนนี้ย่างเข้าฤดูฝนแล้ว แถมยังมีข่าวว่าพายุพัดผ่านที่สโรชาไม่ออกไปนอนข้างนอก เพราะกลัวลูกตื่นมาหิว หรือกลัวพ่อที่กอดลูกอยู่เผลอทับ ขนาดจะหลับยังคงเป็นกังวล แอบมองไปดูเล็กน้อยว่าลูกอึดอัดไหมที่ถูกพ่อกอดอึบ! จังหวะที่กำลังจะเอื้อมมือไปขยับแขนเขาออกเล็กน้อย เพราะมันอยู่ตรงหน้าอกลูก แต่มือที่ค้ำยันร่างไว้ดันพลาด คนตัวเล็กก็เลยล้มลงไปทับจนคนที่หลับสนิทลืมตาขึ้น"...." ดวงตาของทั้งสองสบกันเข้าโดยมีเธออยู่ด้านบนสโรชาไม่รู้จะพูดอะไร อุตส่าห์ค่อยๆ ทำกลัวว่าเขาจะตื่น หญิงสาวกำลังจะยันตัวออกจากตรงนั้น แต่ถูกมืออีกฝ่ายรวบตัวไว้ก่อน"ฉะ.. ฉันแค่จะ.." ตกใจมากจนลืมว่าตอนนี้ตัวเองถูกกอดอยู่รามสูรไม่พูดพร่ำ ใบหน้าคมยื่นขึ้นมาหาริมฝีปากของคนที่อยู่ด้านบน"ไม่นะคุณรามสูร" จะพูดแรงก็ไม่ได้เพราะกลัวลูกตื่น เดี๋ยวก็ตื่นมากลัวเสียงฟ้าอีกแต่ดูเหมือนเขาไม่ได้สนใจปฏิกิริยาที่เธอกำลังห้ามปรามเลย"คุณราม!" หญิงสาวตกใจอยู่ดีๆ ก็ถูกจับให้นอนหงายลงกับพื้นเตียง "คุณอืมม!" เธอไม่มีมือผลักเขาไว้เพราะมือถูกล็อคริมฝีปากหนาแนบจูบลงมาแบบห้ามใจตัวเองไม่ได้อีกแล้ว ลิ้นสากแหย่เข้าไปในโพรงปากของอี
เขาไม่ได้ขยับมือเธอออก แต่ริมฝีปากหนาแนบจูบลงมาหลังฝ่ามือเรียวของอีกฝ่ายที่ปิดปากตัวเองอยู่แต่พอสัมผัสถึงร่างกายของเธอ ชายหนุ่มก็เลยยอมปล่อยแล้วถอยออกมา"เรื่องงานถ้าไม่เสร็จ ก็ทำเท่าที่ไหว" ว่าแล้วคนร่างสูงก็เดินกลับไปนั่งลงเก้าอี้ ที่เขายอมปล่อยเพราะสัมผัสถึงร่างกายที่สั่นกลัวของอีกฝ่าย รามสูรก็รู้ตัวดีว่าที่ผ่านมาทำกับเธอไว้เยอะ จนเธอไม่ยอมเปิดใจและอภัยให้เย็นวันเดียวกัน..สโรชากับเพื่อนลงมาถึงข้างล่าง ก็มีรถตู้รอรับพาไปที่พัก เธอไม่รู้หรอกว่าเขาจัดหาที่พักที่ไหนให้ ในใจอยากจะบอกรถกลับไปส่งที่บ้าน เพราะคิดถึงลูกใช้เวลาไม่นานเท่าไร รถตู้ก็วิ่งเข้ามาจอดในคฤหาสน์หลังใหญ่"อย่าบอกนะว่าเราจะพักกันที่นี่" และเป็นอีกครั้งที่ทำให้รุ่นพี่แปลกใจมาก ส่วนสโรชาก็ไม่คิดเลยว่าเขาจะให้พวกเธอมาพักในบ้านของเขาเองแบบนี้"เชิญลงรถได้เลยครับ ห้องของทุกคนถูกจัดเตรียมไว้แล้ว""จะให้พวกเราพักที่นี่กันจริงเหรอคะ" เกิดมาก็เพิ่งเคยเห็น"ใช่แล้วครับ แต่ไม่ใช่บ้านหลังใหญ่นะครับเป็นโซนด้านหลัง"โซนด้านหลังที่บอกก็คือห้องที่มีไว้สำหรับรับแขก เวลาอยากเป็นส่วนตัว เพราะข้างๆ ห้องนั้นก็คือสระว่ายน้ำ"ว๊าวว" พอเห็
มือเรียวหยิบช้อนแล้วก็ตักอาหารที่อยู่ตรงหน้ามาใส่ปาก แล้วเคี้ยวเหมือนว่าเมื่อสักครู่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น"ทานกันตามสบายเลยนะครับ" รามสูรเห็นว่าทุกคนกำลังงงกับสิ่งที่เขาพูด"เออ..ค่ะ" ถึงแม้เพื่อนร่วมงานจะสงสัยมาก แต่ก็ต้องได้เก็บความสงสัยนั้นไว้ถามตอนที่อยู่กันตามลำพังสายตาคมของท่านประธานยังคงจ้องมองเธอทานอาหารแบบไม่สนใจใครอีกจนคนที่อยู่ร่วมห้องอาหารทำอะไรไม่ถูก จะคุยกันก็ไม่กล้า เอาไปเอามาก็เลยไม่รู้รสชาติของอาหารเลยว่ามันอร่อยไหม เพราะความอยากรู้อยากเห็น"ทะ..ท่านประธานไม่ทานอะไรหน่อยเหรอคะ" ชวนกินข้าวเที่ยงแต่เล่นมานั่งมองเฉยๆ แบบนี้เนี่ยนะ"เห็นพวกคุณทานผมก็อิ่มแล้วครับ ต้องการอะไรเพิ่มอีกไหม" สายตานั้นมองไปดูคนที่ถามแค่เล็กน้อยแล้วก็หันกลับมามองเธออีกครั้ง"ไม่แล้วค่ะ" จนเพื่อนอดมองมาที่สโรชาด้วยไม่ได้ทานไปจนรู้สึกว่าตัวเองอิ่มแล้วเธอก็วางช้อนลง ..พวกเพื่อนๆ ต่างก็วางลงพร้อมกัน ใครจะกล้ากินต่อล่ะ"อิ่มกันแล้วหรือคะ" เลขาซึ่งยืนรอรับคำสั่งเจ้านายอยู่เดินเข้ามาใกล้"ใช่ค่ะ""จะมีชุดของหวานเข้ามาบริการอีกค่ะ ถ้างั้นขอเก็บตรงนี้ก่อนนะคะ""มีของหวานอีกเหรอ" เอวาและเกวลินกระซิบถามกันเ
"เอาไงดีล่ะทีนี้ ใครจะเข้าไปรับงาน""เดี๋ยวเอวาไปเองค่ะ" ใครบ้างไม่อยากจะเข้าหาท่านประธานบริษัทที่ใหญ่โตขนาดนี้"ดีเลยถ้างั้นพี่ฝากด้วยนะ"ขณะที่ทั้งสองกำลังพูดคุยกันอยู่ สโรชาก็จัดโต๊ะทำงานแบบไม่สนใจ แต่จริงๆ แล้วแค่ทำตัวเป็นไม่ว่างก๊อก ก๊อก เอวาหายใจเข้าลึกๆ ก่อนที่จะเดินมาเคาะประตูห้องนี้ ถ้ามีเลขานั่งอยู่หน้าห้องคงไม่เสียมารยาทแบบนี้หรอกแกร็ก.. พอส่งสัญญาณประตูบานนั้นก็ถูกเปิดออก"สวัสดีค่ะ เราเป็นแผนกบัญชีที่เข้ามารับทำบัญชี""อ้าวพวกคุณมาแล้วเหรอคะ" คนที่เปิดประตูออกมาก็คือผู้หญิง"ใช่ค่ะ""เข้ามาข้างในเลยค่ะ""ค่ะ""ท่านประธานบริษัทนี้เป็นผู้หญิงเหรอ" เกวลินอดหันไปคุยกับสโรชาไม่ได้ "แต่ทำไมชื่อเป็นผู้ชายล่ะ" เพราะคงไม่มีผู้หญิงที่ไหนจะมาชื่อรามสูร"ไม่รู้เหมือนกันค่ะ" คนที่ตอบเริ่มมีสีหน้าไม่สู้ดีแล้ว ..คนหนึ่งไปอีกคนก็มาเลยเหรอเพียงไม่นานเอวาก็หอบเอกสารออกมาจากห้องนั้น เกวลินรีบเดินไปช่วยยก ..และก็อดไม่ได้ที่จะสอบถามเรื่องท่านประธาน"เปล่าหรอกคนนั้นเป็นเลขาหน้าห้อง" ได้ยินรุ่นพี่ถามเอวาก็รีบตอบไป"พี่ก็ว่าแล้ว ผู้หญิงที่ไหนจะชื่อรามสูร.. ว่าแต่ท่านประธานหล่อไหม""ฉันไม่รู้ห
"คุณผู้หญิงทำไมวันนี้กลับเร็วคะ" เสียงนี้ดังขึ้นเพื่อเป็นการส่งสัญญาณให้คนข้างในได้ยินด้วย"พอดีเสร็จงานเร็วค่ะ ทางบริษัทก็เลยปล่อยกลับก่อนเวลา" เห็นแค่สีหน้าแม่บ้านเธอก็พอจะเดาได้แล้ว"อ๋อเหรอคะ""วันนี้โรสเหนื่อยขอเข้าบ้านก่อนนะคะ" ยังไงก็ต้องเจอคงเลี่ยงไม่ได้แล้ว หญิงสาวก็เลยเดินเข้าไปข้างในบ้านหลังนี้พอเข้าไปก็เป็นห้องโถง ส่วนห้องนอนจะเรียงกันอยู่มีทั้งของแม่บ้านและของคุณย่า"หนูโรสกลับมาแล้วเหรอลูก" พุดตาลก็กลัวจะถูกลูกสะใภ้ต่อว่า เพราะตอนนี้ลูกชายของนางยังคงเล่นกับหลานอยู่"วันนี้เสร็จงานเร็วค่ะ เจ้านายก็เลยให้กลับมาก่อน ว่าไงครับคนดี" จะไม่คุยกับลูกก็ไม่ได้เพราะตอนนี้มองแม่ตาแป๋วเลย "เราดื้อไหมครับ" ถ้าสังเกตดีๆ ตอนที่พูดกับลูก ดวงตาเธอคลอไปด้วยน้ำตา แต่หญิงสาวก็ยังยิ้ม เพราะไม่อยากให้ใครเห็นความอ่อนแอ"แม่เอาของไปเก็บก่อนนะครับ เดี๋ยวแม่มาเล่นด้วย" ตั้งแต่เข้ามาเธอไม่ได้มองดูผู้ชายอีกคนที่นั่งอยู่ตรงนั้นด้วยเลย สโรชาทำเหมือนว่าในห้องนี้ไม่มีเขาอยู่ พอวางลูกชาย เธอก็เดินไปที่ตู้เย็นซึ่งอยู่ไม่ไกลจากตรงนั้น เพื่อที่จะเอานมออกจากกล่องเก็บอุณหภูมิ ทุกวันก็มีแม่บ้านมาช่วย แต่วันนี
สโรชาเล่นอยู่กับรามิลพักหนึ่งก็ปล่อยให้คุณย่าและพี่เลี้ยงดูแลไป เพราะพวกท่านก็คงจะยังไม่หายคิดถึงหลานพอได้อยู่คนเดียวความน้อยใจก็ค่อยๆ กลืนกินหัวใจเข้ามา มันเป็นแบบที่คิดไว้จริงๆ เขาไม่ได้ต้องการเธอเลย สิ่งที่เขาต้องการก็คือลูกว่าจะไม่คิดมากกับเรื่องพวกนี้แล้ว แต่มันก็อดคิดไม่ได้เช้าวันต่อมา.."แม่ออกไปทำงานก่อนนะครับ เดี๋ยวตอนเย็นแม่จะซื้อขนมมาให้" สมัยนี้ขนมของเด็กทารกมีขายในห้างสรรพสินค้าและซุปเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป"แม่ว่าเราควรจะมีรถส่วนตัวได้แล้ว ไปมาจะได้สะดวกหน่อย" ในเมื่อลูกสะใภ้ไม่ต้องการให้มีคนรถไปส่ง นางก็เลยอยากจะให้เดินทางสะดวกหน่อย"โรสขอหาด้วยตัวเองนะคะคุณแม่" เธอรู้ดีว่าท่านร่ำรวยมาก แค่กดโทรออกก็มีคนเอามาส่งถึงที่พุดตาลก็เลยไม่พูดอะไรต่อ เด็กแบบนี้หาได้ยากในสังคมปัจจุบัน ยิ่งลูกคุณหนูแบบสโรชาด้วยแล้ว คงมีน้อยมากที่อยากจะดิ้นรนด้วยตัวเองสโรชาโทรเรียกมอเตอร์ไซค์วินให้มารับหน้าบ้าน[บริษัทรับทำบัญชี]"เกิดอะไรขึ้นคะ" มาถึงบริษัทก็ดูวุ่นวายไปหมด เหมือนกำลังจัดเตรียมอะไรกันอยู่"พี่ไม่มีเวลาพูดให้เราฟัง ที่จริงพี่ก็ยังไม่ได้พูดให้ใครฟังหรอก เมื่อวานนี้มีผู้ร่วมหุ้นใหม่เ