"แล้วผมเลือกอะไรได้บ้างล่ะครับ" นี่คือคำตอบที่เขาให้ไป
"เลือกได้สิลูก ถ้าลูกไม่แต่งแม่ก็.."
"พอเถอะคุณ" สายตาของผู้เป็นสามีจ้องหน้าภรรยา นางก็เลยไม่พูดต่อ สามีคงจะบอกว่าได้คนนี้เป็นสะใภ้ยังดีกว่าคนที่ผ่านมา
"เอาเป็นว่าเราจะจัดตามฤกษ์สะดวก ผมว่าเป็นสัปดาห์หน้าเลยดีกว่า"
"สัปดาห์หน้าเลยเหรอคะคุณพี่ น้องกลัวว่าจะไม่ทัน"
"ไม่ต้องกลัวหรอก เดี๋ยวผมจะให้คนที่เขาถนัดจัดงานนี้รับหน้าที่ไป"
"ก็ได้ค่ะ"
ผู้ใหญ่ฝ่ายหญิงได้แต่นั่งฟัง และตอบตกลงตามที่ผู้ใหญ่ฝ่ายชายเสนอมาทุกอย่าง
จนการคุยสู่ขอผ่านไปด้วยดี
"ผมกลับได้แล้วใช่ไหมครับ" ชายหนุ่มไม่พูดเปล่าเขายันตัวลุกขึ้น พอผู้ใหญ่ไม่ห้ามปรามเขาก็รีบเดินออกมา
"ฉันไปด้วยค่ะ"
"ดูจะติดกันตั้งแต่ยังไม่แต่งเลยนะคะเนี่ย" คนที่พูดตามไปก็คือผกาแก้วแม่ฝ่ายหญิง ..แต่ดูเหมือนว่าคู่สนทนาจะไม่อยากเจรจาด้วยอีกนั่นแหละ นางก็เลยทำได้แค่ยิ้มแห้งๆ
"คุณจะไปกับผมเหรอ" ออกมาถึงด้านนอกรามสูรหันกลับไปถามเธอที่เดินตามมา
"คุณช่วยไปส่งที่โรงพยาบาลหน่อย ฉันอยากไปเฝ้าแม่"
"โรงพยาบาลไหนล่ะ" ชายหนุ่มก็เลยเดินไปเปิดประตูรถฝั่งคนขับ ส่วนหญิงสาวรีบเดินอ้อมไปเปิดอีกข้าง
[หน้าโรงพยาบาล]
"คุณพอจะมีเวลาว่างสักหน่อยไหมคะ"
"ทำไม" ชายหนุ่มยกนาฬิกาข้อมือราคาแพงขึ้นมาดูเวลา ว่าพอจะมีเวลาให้เธอไหม
"ถ้าคุณมีธุระก็ไปเถอะค่ะ" หญิงสาวกำลังจะถอดเซฟตี้เบลท์ออก แต่เธอหาที่ล็อคไม่เจอ "มันเอาออกยังไงคะ" เมื่อคืนนี้เธอมัวแต่มองรอบข้างก็เลยไม่ได้ดูว่าเขากดออกให้เธอแบบไหน
ชายหนุ่มเอื้อมมือไปด้านข้างของตัวเองแล้วก็กด
"แฟนผมดื้อก็เลยต้องได้ทำแบบนี้" เห็นสีหน้าของเธอสงสัยก็เลยบอกไป ว่าทำไมเขาต้องดัดแปลงที่ล็อคใหม่
"ฉันไปก่อนนะคะ เออลืมเลย" กำลังจะลงจากรถแต่หันกลับมาอีกที "ฉันยังไม่มีเบอร์โทรคุณ"
"?"
"ก็เผื่อมีธุระด่วน จะได้โทรตามไงคะ ธุระเรื่องผู้ใหญ่ค่ะ" แค่ดูแววตาก็รู้แล้วว่าเขาคิดยังไง เป็นผู้หญิงแต่ดันไปขอเบอร์โทรผู้ชายก่อน
ชายหนุ่มก็เลยเอานามบัตรของตัวเองส่งให้
พอเธอลงจากรถเขาก็ขับออกไป
"ทำไมมาได้บ่อยจังเลยล่ะลูก" นางแปลกใจก็เลยถามลูกสาวดู"แม่ไม่ต้องสงสัยหรอกค่ะ โรสจะมาหาแม่ได้บ่อยกว่านี้อีก"
"ทำไมเหรอ"
"ก็โรสกำลังจะออกเรือนแล้วไงคะ ลูกเขยของแม่ใจดีมากเลย"
"จริงเหรอลูก"
"ถ้าเขาไม่ติดธุระคงขึ้นมาด้วยแล้วค่ะ"
"เขามาส่งหนูเหรอ"
"ใช่ค่ะ"
"เขาทำงานทำการอะไรล่ะลูก" ที่นางถามเพราะอยากจะรู้จักคนที่จะฝากฝังลูกสาวไว้ด้วยให้มากกว่านี้
"ทำงานเหรอคะ.." หญิงสาวแอบล้วงเอานามบัตรในกระเป๋าออกมาดู "เขาเป็น CEO ค่ะแม่ เจ้าของบริษัท.." เธอก็เลยพูดตามชื่อบริษัทที่เขาให้นามบัตรมา
"การเป็นภรรยาต้องช่วยงานสามีด้วยนะลูก" ถึงแม้นางไม่เคยอยู่ในสถานะนั้น แต่ก็อยากจะสอนลูกสาวไว้
"ค่ะแม่" มือเรียวเอื้อมไปจับมือของแม่มาแนบไว้กับแก้ม "แม่ต้องหายเร็วๆ นะ จะได้ไปอยู่บ้านของลูกเขยด้วยกันไง"
นางไม่ได้ตอบลูกสาวหรอก เพราะรู้ดีว่าคงไม่มีวันได้ออกจากโรงพยาบาล ถ้าออกไปคงไปแบบร่างที่ไร้วิญญาณ แต่นางก็ดีใจนะที่ลูกสาวเป็นฝั่งเป็นฝาก่อนที่จะจากโลกนี้
เช้าวันต่อมา.. ที่บ้านพลโทพงศธร
"หายไปด้วยกันทั้งคืนเลยเหรอ" ผกาแก้วพูดขึ้นเมื่อเห็นลูกสาวเดินเข้ามาในบ้าน
"โรสคิดว่าคุณแม่จะไม่ว่าอะไร" หญิงสาวตอบออกไปแบบกล้าๆ กลัวๆ
"แม่จะไปว่าอะไรล่ะ ทำดีแล้วล่ะ"
"ถ้างั้นโรสขอตัวขึ้นไปข้างบนก่อนนะคะ" ช่วงนี้เธอต้องทำตัวให้ดีเข้าไว้ กลัวว่าท่านจะไม่ให้ย้ายไปอยู่บ้านสามี ที่กลัวเพราะเธอยังไม่ได้คุยเรื่องนี้กับผู้ใหญ่
สองวันต่อมา..
"รามสูรมาหาน้องเหรอลูก"
"ครับ"
ยังไม่ทันได้พูดอะไร สโรชาก็รีบลงมา เพราะคนที่โทรตามก็คือเธอเอง ที่จริงโทรตามเขาตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว แต่เขาไม่ว่างมารับออกไป
"จะไปเที่ยวไหนกันเหรอลูก ดูแต่งเนื้อแต่งตัวสิ ทำไมไม่ใส่ชุดที่แม่ซื้อให้ใหม่"
"คุณรามสูรจะพาไปดูแหวนแต่งงานค่ะแม่"
"?"
"ไปเถอะค่ะ" เธอกลัวว่าเขาจะเผลอปากออกมาว่าพูดตอนไหน "วันนี้โรสอาจจะกลับค่ำหน่อยนะคะแม่"
"กลับพรุ่งนี้เช้าเลยก็ได้จ้ะ" นางแค่พูดออกมาเบาๆ ไม่ได้หวังให้ทั้งสองได้ยินหรอก
หน้าปากซอย..
"จอดตรงนี้ล่ะค่ะ"
"อย่าบอกนะว่าให้มารับออกจากบ้านแค่นี้จริงๆ"
"ก็แค่นี้แหละค่ะ เดี๋ยวฉันไปเอง"
"จะไปไหน"
"ไปโรงพยาบาลค่ะ"
"เดี๋ยวไปส่ง"
"คุณยุ่งไม่ใช่เหรอคะ"
แต่ชายหนุ่มไม่ได้พูดอะไร เดี๋ยวหาว่าเขาแล้งน้ำใจก็เลยจะไปส่งเธอก่อน
[โรงพยาบาล]
"ขอบคุณมากนะคะ"
"จะกลับตอนไหน"
"ฉันไม่รบกวนคุณแล้วค่ะ"
พอส่งเธอเสร็จรามสูรก็รีบขับรถกลับบริษัท ที่จริงเขาไม่ใช่คนว่างงานหรอก เขายังมีกิจการของครอบครัว ตอนที่พ่อตั้งบริษัทนี้ขึ้นมา ท่านอยู่ในตำแหน่งก็เลยมีชื่อรวมหุ้นของบริษัทไม่ได้
ค่ำมืดของวันเดียวกัน..
"ทำไมต้องนั่งแท็กซี่กลับ"
"คุณแม่?" อุตส่าห์คิดว่าจะแอบเข้ามาไม่ให้แม่เห็น ไม่รู้ว่าท่านยืนอยู่หน้าบ้าน
"ไหนบอกไปดูแหวนไง แล้วแหวนอยู่ไหน" นางเก็บทุกรายละเอียดเพราะไม่ชอบคนโกหก และเรื่องนี้สโรชาก็รู้ดี
"แหวนก็ต้องอยู่กับคุณรามสูรสิคะ ก็เป็นแหวนหมั้น"
"เขาซื้อให้กี่กะรัต"
"เออ.."
"ทำไมต้องโกหก ไปไหนมากันแน่" นางเลี้ยงดูของนางมาทำไมจะดูไม่ออก
"โรสไม่ได้โกหกนะคะ ถ้าคุณแม่ไม่เชื่อโรสจะโทรหาคุณรามสูรก็ได้" ว่าแล้วหญิงสาวก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา
>>{"ที่รักคะ"}
อีกสถานที่หนึ่งที่ที่เธอโทรไปหา..
ตอนนี้เขากำลังมีประชุมด่วน เพราะต้องรีบเคลียร์งานก่อนงานแต่ง และในห้องประชุมค่อนข้างยุ่ง ก็เลยต้องได้เปิดเสียงโทรศัพท์ดังหน่อย
พอปลายสายเรียกที่รักมาเท่านั้นแหละ สายตาคมกรอกมองไปทั่วที่ประชุม เพราะตอนนี้ต่างก็มองมาที่เขาเป็นตาเดียว
>>{"คุณแม่อยากจะเห็นแหวนที่เราไปดูกันค่ะ ฉันจำไม่ได้ว่ากี่กะรัต 5 หรือ 10 กะรัตนะคะ"}
{"ตอนนี้ผมยังไม่ว่าง"} พูดแค่นี้ปลายสายก็ตัดสายไป"เขากำลังติดธุระอยู่ค่ะแม่" ถึงแม้จะรู้สึกเสียหน้ามากแค่ไหน เธอก็ต้องยิ้มไว้"วันหลังชวนเขามาค้างที่บ้านเราสิ" นางชักจะเริ่มสงสัย ตกลงรักกันจริงหรือแค่เล่นละครตบตา"ชวนมาค้างที่บ้านหรือคะ""เห็นไปค้างอ้างแรมด้วยกันที่อื่นมาแล้วไม่ใช่เหรอ""ก็ใช่ค่ะแต่ว่า..""ทำไม? หรือว่าไม่ได้ไปค้างกับเขา" สายตานางเริ่มจับพิรุธ"แต่โรสเป็นผู้หญิงนะคะแม่" ถ้าชวนเขามาค้างที่บ้านแล้วเขาจะคิดยังไง"นิ่มนวล""เออ..คุณแม่คะ ก็ได้ค่ะโรสจะลองชวนดู" ถ้านางใช้เสียงแบบนี้เรียกคนสนิท นั่นหมายถึงว่าให้มาลากตัวเธอไปกักบริเวณ หญิงสาวก็เลยต้องได้แก้ไขเหตุการณ์เฉพาะหน้าไปก่อน[ห้องประชุมที่บริษัท]"ถ้าไม่เสร็จก็ไม่เป็นไร เดี๋ยววันแต่งงานผมจะเข้ามาดูอีกที""ผมว่าวันแต่งงานท่านไม่ต้องเข้ามาหรอกครับ ที่เหลือเดี๋ยวพวกผมจะจัดการกันเอง""ผมมาได้" ว่าแล้วชายหนุ่มก็เดินออกจากห้องนั้นไปก่อนหลายคนที่มองตามคิดว่าเขาคงจะรีบไปจัดการเรื่องว่าที่ภรรยาโทรมาแน่เลยแต่ไม่ใช่หรอกเรื่องนั้นเขาลืมไปแล้วด้วยซ้ำ[สถานบันเทิง]โต๊ะประจำที่รามสูรเคยมานั่งกับหญิงคนรัก ได้ถูกเก็บไว้ให้ถ้าเขาโท
"โอ๊ย!" ด้วยความที่เขาไม่ระวังทำให้เล็บเสียดสีกับช่องคลอดจนเธอรู้สึกเจ็บ แต่เขากลับคิดว่าเธอใกล้แล้ว ก็เลยชักนิ้วออกมา เพื่อที่จะเอาความเป็นชายใส่เข้าไปแทน "อื้ออ"คนตัวเล็กได้แต่กัดฟันปล่อยให้เขาทำไป ถึงแม้จะรู้ว่าตอนนี้แม่ไม่อยู่หน้าห้องแล้วก็ตาม เพราะยังไงคงหยุดอารมณ์ของอีกฝ่ายไม่ได้แล้ว"อื้อ อื้อ อ " เธอก็เหมือนผู้หญิงทั่วไปพอถูกเสียดสีหนักเข้าก็เริ่มมีอารมณ์ แต่ความเจ็บปวดก็ไม่ได้จางหายไป"ซี๊ดด" ชายหนุ่มกระแทกซ้ำอีกหลายทีแล้วก็หยุดลงพร้อมน้ำที่หลั่งออกจากร่างกายพอทุกอย่างผ่านไปร่างหนาก็ทิ้งตัวลงนอนแบบไม่ใยดีคนที่เพิ่งจะถูกเขาสำเร็จความใคร่ไปเลยเช้าวันต่อมา.."โอ้ยย" คนตัวเล็กเริ่มเจ็บเสียดช่องทางที่ถูกของแข็งเมื่อคืนนี้ พอรู้สึกตัวเต็มที่หญิงสาวก็ลุกขึ้นมามองรอบข้างหึ.. เริ่มรู้สึกสมเพชตัวเอง ตื่นมาทีไรก็เจอแต่ความว่างเปล่า ครั้งนี้ก็คงเหมือนครั้งแรก สิ่งที่เขาได้ไปคงไม่น่าจดจำอะไรก๊อกๆ "คุณผู้หญิงบอกให้ลงไปทานข้าวค่ะ""ฉันไม่หิว""แต่คุณผู้หญิงบอกว่าให้คุณลงไปให้ได้"มันคงเป็นคำสั่งสินะ "เดี๋ยวฉันตามลงไป""ให้ไวเลยนะคะ""โอ๊ย" พอลุกขึ้นยิ่งเจ็บเสียด แต่ต้องได้ทำตามคำสั่ง ผ
สบายตัวจัง ..ได้นอนแช่น้ำนมแบบนี้แทนที่จะมีความสุข แต่กลับกระวนกระวาย ไม่รู้ว่า Comment ที่พิมพ์ไว้บน IG ของเขาจะถูกลบหรือยัง เพราะเธอไม่รู้ว่าจะติดต่อเขาได้จากทางไหนนอกจากโทรศัพท์ แต่เธอไม่มีเวลาโทรหาเขาเลยเพราะช่างอยู่ติดตัวตลอดเวลา ก็เลยต้องได้ใช้การพิมพ์ข้อความทิ้งไว้อีกสถานที่หนึ่ง.. คนที่เธอกำลังให้ความหวังว่าเขาจะมาหาพอขับรถมาถึงบ้านของตัวเขาเอง ชายหนุ่มก็ล้วงเอาโทรศัพท์ออกมาเปิดดูว่าเสียงข้อความอะไร"??" หัวใจเต้นแรงขึ้นมาเมื่อเห็น comment นั้น ที่จริง comment ไม่ได้ทำให้เต้นแรงหรอก account ที่กด Like comment นั้นต่างหาก ในที่สุดเธอก็เข้ามาส่อง IG ของเขาจนได้ แถมยังไปกดถูกใจประโยคที่ผู้หญิงอีกคนพิมพ์ไว้ว่ามาหาที่บ้านหน่อยทีแรกว่าจะลบข้อความนั้นออก แต่รามสูรเปลี่ยนใจเก็บไว้แบบนี้แหละ"?" ไม่ใช่แค่เขาหรอกที่เห็น เธอก็เห็นเหมือนกันว่ามีคนมากดถูกใจ commentสโรชาอดไม่ได้ที่จะเข้าไปส่องว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใครหญิงสาวต้องรีบแอบเก็บโทรศัพท์ไว้ เมื่อกดเข้าไปเห็นรูปชายหญิงคู่หนึ่งถูกตั้งไว้เป็นภาพโปรไฟล์ เพราะมันคือผู้ชายคนที่กำลังจะเป็นเจ้าบ่าวเธอในวันพรุ่งนี้ และที่ต้องได้รีบซ่อนโ
ริมฝีปากหนายกยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย เมื่อเห็นคนตรงหน้าเดินไปที่เตียงก่อนที่จริงไม่ใช่นิสัยของเขาหรอกที่จะพูดเรื่องอย่างว่าโจ่งแจ้งขนาดนี้ แต่ไม่รู้ทำไมกับเธอแล้วเขาถึงนึกสนุก เพราะเธอก็ตอบโต้ได้ทุกประโยคที่เขาพูดออกมาร่างระหงเอนตัวลงที่เตียงไปก่อน ถ้าเธอให้ความร่วมมือเขาอาจจะเสร็จเร็ว ที่สโรชาคิดแบบนั้นเพราะไม่อยากจะเจ็บนานขณะที่ชายหนุ่มกำลังจะตามขึ้นไปบนเตียง ก็มีเสียงข้อความดังมาจากโทรศัพท์ จริงๆ IG ของเขาคนติดตามไม่มากหรอก และคน Comment ก็ไม่ค่อยมี เพราะเขาไม่ได้ใช้รูปและฐานข้อมูลของตัวเองเพื่อสมัคร ถ้ามีข้อความขึ้นมาก็มีแค่ไม่กี่คนหญิงสาวที่หลับตาลงค่อยๆ ลืมตาขึ้นเมื่อสัมผัสได้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้สนใจเธอแล้ว เขาคงกำลังสนใจข้อความที่ดังขึ้นมาเมื่อสักครู่ดีใจด้วยนะคะ ..ข้อความนี้ถูกส่งผ่านมาจาก account ที่เขารออยู่ชายหนุ่มทำแค่กดถูกใจข้อความ แล้วก็เดินไปใส่เสื้อผ้าที่เขาถอดออกก่อนเข้าห้องน้ำ"?" หญิงสาวมองตามคนที่เดินไปกำลังจะเปิดประตู "คุณจะมางานแต่งไหม" เธอแค่อยากจะรู้ไว้ก่อน ว่างานแต่งของเธอจะมีเจ้าบ่าวไหม"ทำไมถึงถามแบบนั้น""คุณอย่าลืมว่าในเกมของคุณยังมีฉันอีกคน" เธออยากจะบอกเขา
มือหนาล้วงลงไปหาโทรศัพท์แล้วควักมันออกมาจากกระเป๋ากางเกง เธอก็รู้แหละว่าตัวเองไม่มีความสำคัญอะไรกับเขาเลย แต่นี่มันในงานแต่งและเธอก็เป็นเจ้าสาว เขาควรจะไว้หน้าเธอบ้างพอหยิบโทรศัพท์ออกมาชายหนุ่มก็ส่งไปให้กับคนสนิทที่ยืนอยู่ด้านหลังดวงตาที่เริ่มจะมีม่านน้ำตาออกมาบดบังความงาม ตวัดขึ้นไปมองคนตัวสูงที่ยืนอยู่ข้างกายแบบขอบคุณ"เป็นอะไร" ไม่ใช่ว่าเขาไม่สังเกต ทีแรกก็ว่าจะเลื่อนดูสักหน่อย แต่พอสัมผัสร่างกายของอีกคนได้ เขาก็เลยส่งโทรศัพท์กลับไปด้านหลังแต่หญิงสาวยังไม่ได้ตอบ ผู้ใหญ่ก็เรียกตัวให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวเข้าไปในงานก่อนงานแต่งในครั้งนี้ท่านพลเอกปล่อยให้นักข่าวและเพจดังทำข่าวได้ตามสบาย ส่วนมากทางสื่อออนไลน์ก็จะเป็นการเผยแพร่สดเวลาผ่านไป..และงานแต่งก็ผ่านพ้นไปด้วยดีเช่นกัน จนมาถึงช่วงสุดท้ายของงานที่จริงเรื่องเรือนหอยังไม่ได้คุยกัน แต่ผกาแก้วจัดเตรียมที่บ้านของตัวเองไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้วเจ้าสาวที่คอยเดินตามหลังเจ้าบ่าวเวลาเดินไปพบปะแขกในงาน เอื้อมมือไปสะกิดแขนเสื้อเขาเบาๆคนตัวสูงมองต่ำลงมาดูว่าเธออยากจะคุยอะไรด้วย"เรื่องห้องหอขอเป็นบ้านคุณได้ไหม" หญิงสาวกระซิบพูด ในงานเสียงดังมากเ
"เป็นอะไร" ที่จริงแล้วเขายังไม่หลับหรอก แค่นอนคิดถึง Comment ของคนที่ทำให้หัวใจหวั่นไหวได้ยินเสียงคนข้างๆ ถามมา สโรชาก็เลยแกล้งหลับโดยที่ยังคงมีเสียงสะอื้นอยู่"เมื่อกี้ดูอะไร" นอกจากเขาจะยังไม่หลับแล้วยังเห็นแสงโทรศัพท์ที่เธอเพิ่งจะปิด มันต้องมีอะไรสักอย่างที่ทำให้เธอนอนร้องไห้แน่"คุณจะทำอะไร" หญิงสาวรีบหันไปแย่งโทรศัพท์จากเขากลับมา แต่ก็ไม่ทันเพราะเขาเลื่อนดูหน้าจอแล้ว"??" เธอแค่กดปิดหน้าจอไว้แต่ก็ยังไม่ได้ออกจากหน้าที่เข้าไปส่อง แค่เลื่อนเปิดก็เห็นว่าเธอยังคงอยู่ในหน้า IG ของเขาเอง"ไม่มีอะไรหรอก มือฉันแค่ไปโดน""อย่าบอกนะว่าเธอคิดอะไรกับฉัน" ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าเธอตั้งใจกดเข้าไปดู มือใครจะโดนแม่นขนาดนั้น และถ้าเธอไม่สนใจจะร้องไห้ทำไมเมื่อเห็น Comment ของมะปราง"ฉันจะไปคิดอะไรกับคุณ ก็ในเมื่อเราตกลงกันไว้แล้ว""ไม่คิดก็ดี แต่ถ้าคิด..ก็เลิกคิดซะ" พูดจบชายหนุ่มลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินออกจากห้องไปแบบไม่หันกลับมาฉันมาทำอะไรตรงนี้ ฉันมาอยู่ที่นี่ทำไม ..ถึงแม้จะไม่มีเสียงสะอื้นอีกแล้ว แต่เธอก็ไม่สามารถจะห้ามน้ำตาที่มันไหลลงมาได้เธอเป็นบ้าอะไรสโรชา นั่นมันคนรักของเขานะ ..คนตัวเล็กทิ้งตั
"ก็เมื่อคืนนี้ฉันไปค้างที่บ้านคุณ แต่ไม่มีเสื้อผ้าใส่""ก็เลยถือวิสาสะ เอาของคนอื่นมาใส่โดยไม่ถามก่อนงั้นเหรอ" เมื่อคืนนี้มืดมากก็เลยไม่ได้ดูว่าเธอใส่ชุดอะไรก่อนที่เขาจะออกจากห้อง"เดี๋ยวฉันซักคืนคุณก็ได้" เธอกับเขาไม่ต่างจากคนแปลกหน้า เพราะจับพลัดจับผลูก็ได้มาแต่งงานกันเลยมือเรียวเอื้อมไปจับแขนอีกฝ่ายไว้ก่อนที่จะเดินหนีไป เขาคงโกรธเรื่องเสื้อที่เธอเอามาใส่มากจนไม่อยากจะคุยด้วย"ให้คุณแม่หลับก่อนค่อยกลับได้ไหมคะ" เพราะเธอแค่ขอออกมาคุยกับเขาข้างนอก"คุณยังจะขอผมอีกเหรอ""ฉันขอโทษแล้วกันค่ะ เรื่องเสื้อเดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันจะไปคืนให้ที่เดิม" สโรชาปล่อยมือที่รั้งอีกฝ่ายอยู่ออก เพราะแค่นี้ก็รู้แล้วว่าเขาคงไม่อยู่ต่อ"ไม่ต้องหรอก" เสื้อตัวนี้มันเป็นของเขาก็จริง แต่หญิงคนรักเคยใส่มัน รามสูรก็เลยเก็บไว้ในตู้เสื้อผ้าเป็นอย่างดีทำอะไรก็ไม่เข้าตาเขาสักอย่าง เหนื่อยนะกับการที่จะต้องพยายามให้ถูกใจทุกคน โดยที่ไม่มีใครมองเห็นว่าเธอพยายามแค่ไหนบางทีสโรชายังคิดเลยว่าถ้าวันไหนแม่จากไป เธออาจจะตามแม่ไปด้วยก็ได้ เพราะไม่รู้ว่าชีวิตนี้จะอยู่ต่อไปทำไมอีกแล้ว แกร็ก.."แล้วคุณรามล่ะลูก" แม่ถามเมื่อเห็นว่าลูก
กว่าเขาจะตื่นขึ้นมาก็ปาเข้าไปตอนเย็น เพราะเมื่อคืนนี้ดื่มหนักมา แถมมาถึงบ้านยังได้ปลดปล่อยอารมณ์อีก ชายหนุ่มอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดลำลองอยู่บ้าน เดินลงมาข้างล่าง"ไม่ออกไปไหนแล้วเหรอลูก""เหนื่อยครับ อยากจะนอนต่อแต่หิวก่อน""แม่ให้คนเตรียมอาหารไว้รอแล้ว"ขณะที่คุยกับแม่สายตาเขามองไปทั่วบ้าน"มองหาใครเหรอลูก" ผู้เป็นแม่ก็อดที่จะมองตามลูกชายไม่ได้"เธอไปไหนแล้วล่ะครับ""ลูกหมายถึงเมียของลูกน่ะเหรอ" ผ่านไปหลายชั่วโมงแล้วนางก็เลยลืมไปเลย"ใช่ครับ""ออกไปตั้งแต่ลูกมาถึงนู่นแหละ" พุดตาลก็ไม่ได้อคติอะไรกับเด็กหรอก แต่แค่ไม่ชอบแม่ของสโรชา กลัวว่าลูกสาวจะนิสัยเดียวกับแม่"เหรอครับ" นั่นแสดงว่าเธอออกไปหลังจากเสร็จกิจกรรมบนเตียงแล้วเหรอชายหนุ่มทานข้าวจนอิ่มก็กลับขึ้นมา คิดว่าจะนอนเอาแรงอีกสักรอบ เพราะเจองานหนักของบริษัทมาหลายวัน แถมเมื่อคืนนี้ก็มีกินเลี้ยงกับคนที่ช่วยงานอีกก่อนเอนตัวลงนอนเขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดู เพราะเหมือนมีข้อความแจ้งเตือนไว้ว่ามีคนโทรมาเธอโทรมาสองสายเพราะเขาไม่ได้เอาโทรศัพท์ลงไปด้วยพอเห็นเบอร์โทรเท่านั้นแหละ รามสูรก็เปิดเข้าไปเช็คดูใน IG ว่าเธอทำเหมือนทุกครั้งไหม
"แม่ว่าเราอย่าเพิ่งตามไปดีกว่า" พอลูกสะใภ้เข้าไปในห้องของคุณย่า รามสูรกำลังจะตามเธอกับลูกเข้าไป"ผมควรทำยังไงดีครับแม่" ครั้งแรกที่เขายอมเปิดใจคุยกับแม่เรื่องนี้ ซึ่งมันผิดวิสัยของเขามาก ตั้งแต่เกิดมาแม้แต่เรื่องการเรียนเขายังไม่ปรึกษาใคร"เรากลับไปถามใจตัวเอง ว่ามีใจให้กับหนูสโรชาไหม ถ้าคำตอบที่ได้คือไม่ ลูกก็ปล่อยให้เธอไปมีชีวิตของเธอเอง" ที่นางพูดแบบนี้เพราะไม่อยากให้ใครต้องมาเจอวิบากกรรมเหมือนนางอีกแล้ว อย่างที่รู้กันอยู่ว่าสามีเป็นยังไง ถ้าไม่มีใจให้ภรรยา ก็คือต้องไปหานอกบ้าน และพุดตาลก็รู้ดีว่ามันทรมานแค่ไหน การที่รอชายคนรักกลับมาหา ทั้งๆ ที่รู้ว่าตอนนี้เขานอนกอดอยู่กับผู้หญิงคนอื่น"แม่ครับ""ลูกอย่าเพิ่งตอบแม่ตอนนี้ ลูกต้องให้แน่ใจก่อนค่อยตอบ""ผมแน่ใจแล้วครับ" เขาไม่รู้ว่ามีใจให้กับเธอตั้งแต่เมื่อไร ตั้งแต่มะปรางกลับมา ในใจของเขายังคงคิดวนเวียนถึงเธออยู่เสมอ ทั้งๆ ที่มะปรางก็อยู่ข้างกาย แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้แล้วจึงยอมปล่อยเธอไปนี่แหละมันคือสิ่งที่คนเป็นแม่อยากได้ยิน นางเป็นแม่ทำไมจะไม่รู้ว่าลูกชายไม่ได้เจ้าชู้เหมือนพ่อ แต่คนที่ลูกชายมอบใจให้ กลับเป็นผู้หญิงที่ไม่น่าจะได้รับสิ
สายตาคมมองต่ำลงไปดูที่พื้นทันทีที่เห็นผ้าม่านขยับได้ พอแน่ใจแล้วว่าสิ่งที่อยู่หลังผ้าม่านคืออะไร ริมฝีปากหนายกยิ้มขึ้นเล็กน้อย พร้อมกับเดินไปที่ประตูแกร็ก.. มันคือเสียงล็อกประตู เพราะตอนเข้ามาแค่ปิดไว้เฉยๆพอเดินกลับมารามสูรก็เริ่มถอดเสื้อผ้าใหม่อีกครั้งคนที่แอบอยู่หลังผ้าม่านคิดว่าถ้าเขาถอดเสื้อผ้าเสร็จต้องเข้าไปอาบน้ำแน่ เธอจะใช้จังหวะนั้นรีบออกจากห้องนี้แต่พอถอดผ้าออกหมดรามสูรก็หยิบกางเกงลำลองมาสวมใส่แบบง่ายๆ แล้วเดินไปเอนตัวนั่งพิงหมอนที่เตียงนอน"??" คนบ้าอะไรทำงานมาทั้งวันไม่คิดอยากจะอาบน้ำเลยหรือไง แล้วเราจะออกไปได้ยังไงล่ะสโรชาขยับผ้าม่านเล็กน้อยเพื่อจะมองดูว่าคนที่เธอได้ยินเสียงนั่งลงที่เตียงเมื่อสักครู่กำลังทำอะไรอยู่ ..คงกำลังคุยแชทกับผู้หญิงอยู่ล่ะสิ มองไปก็เห็นว่าเขากำลังทำอะไรสักอย่างกับโทรศัพท์"ถ้าเหนื่อยยืนแล้วก็มานั่ง" สายตาของคนที่พูดยังคงมองดูหน้าจอโทรศัพท์อยู่"???" เขาคุยวีดีโอคอลเหรอ? ถ้ารามสูรมองมาทางนี้สักนิดคงคิดว่าเขาเห็นเธอ แต่นี่เขายังคงมองโทรศัพท์อยู่"จะยืนอยู่แบบนั้นทั้งคืนเลยหรือไง" ประโยคนี้ชายหนุ่มค่อยๆ มองไปที่ผ้าม่าน พร้อมกับวางโทรศัพท์ลงบนหัวเ
พอเลขาออกมาจากห้องของท่านประธาน ก็อดมองไปดูผู้หญิงคนนั้นไม่ได้ ตั้งแต่พิมพ์เข้ามาทำงานก็ไม่เคยเห็นบอสสนใจใครนอกจากเลขาที่เพิ่งออกไป เพราะได้ยินคนอื่นเล่าให้ฟังอยู่บ้างว่าเป็นคนพิเศษสำหรับท่านประธานแต่แทนที่จะสนใจสาวๆ ทำไมถึงไปสนใจแม่ลูกอ่อนอยู่ได้ใกล้เที่ยงวันเดียวกัน.."เราไปทานข้าวที่ไหนกันดี" เกวลินถามรุ่นน้องทั้งสองคน"วันนี้ท่านประธานไม่เลี้ยงข้าวเราอีกเหรอ" เอวาถามกลับ"พอเลย อาหารก็อร่อยอยู่หรอก แต่ดูบรรยากาศยังไงไม่รู้""ถ้างั้นเราก็ไปกินหน้าบริษัทนี้แหละ ฉันเห็นร้านอาหารตามสั่งอยู่ แล้วโรสว่าไง""คะ?" สโรชามัวคิดถึงเรื่องเมื่อคืนนี้ เธอไม่น่าพลาดท่าให้เขาเลย "เมื่อกี้พี่ว่าอะไรนะคะ""พี่ถามว่าเราจะไปกินข้าวเที่ยงที่ไหนกันดี ใกล้เที่ยงแล้วเนี่ย""โรสยังไม่หิวค่ะ""จะไม่หิวได้ยังไง""พวกพี่ไปกินเถอะค่ะ""เราไม่หิวจริงเหรอ""น้องโรสอาจจะกินข้าวก่อนมาแล้วก็ได้" เพราะวันนี้สโรชามาสาย"เอาแบบนั้นก็ได้ ถ้างั้นพวกพี่ไปก่อนนะ" พวกเธอไม่ต้องรูดบัตรเหมือนพนักงานที่นี่ จะลงไปก่อนก็ไม่มีใครว่า"ทำไมน้องไม่ไปกินข้าวกับเพื่อนล่ะคะ" เลขาก็แอบมองอยู่ว่าพวกเพื่อนๆ ไปแล้ว ทำไมเธอยังคงนั่งอยู่
ฝนยังคงตกตลอดเวลา เพราะตอนนี้ย่างเข้าฤดูฝนแล้ว แถมยังมีข่าวว่าพายุพัดผ่านที่สโรชาไม่ออกไปนอนข้างนอก เพราะกลัวลูกตื่นมาหิว หรือกลัวพ่อที่กอดลูกอยู่เผลอทับ ขนาดจะหลับยังคงเป็นกังวล แอบมองไปดูเล็กน้อยว่าลูกอึดอัดไหมที่ถูกพ่อกอดอึบ! จังหวะที่กำลังจะเอื้อมมือไปขยับแขนเขาออกเล็กน้อย เพราะมันอยู่ตรงหน้าอกลูก แต่มือที่ค้ำยันร่างไว้ดันพลาด คนตัวเล็กก็เลยล้มลงไปทับจนคนที่หลับสนิทลืมตาขึ้น"...." ดวงตาของทั้งสองสบกันเข้าโดยมีเธออยู่ด้านบนสโรชาไม่รู้จะพูดอะไร อุตส่าห์ค่อยๆ ทำกลัวว่าเขาจะตื่น หญิงสาวกำลังจะยันตัวออกจากตรงนั้น แต่ถูกมืออีกฝ่ายรวบตัวไว้ก่อน"ฉะ.. ฉันแค่จะ.." ตกใจมากจนลืมว่าตอนนี้ตัวเองถูกกอดอยู่รามสูรไม่พูดพร่ำ ใบหน้าคมยื่นขึ้นมาหาริมฝีปากของคนที่อยู่ด้านบน"ไม่นะคุณรามสูร" จะพูดแรงก็ไม่ได้เพราะกลัวลูกตื่น เดี๋ยวก็ตื่นมากลัวเสียงฟ้าอีกแต่ดูเหมือนเขาไม่ได้สนใจปฏิกิริยาที่เธอกำลังห้ามปรามเลย"คุณราม!" หญิงสาวตกใจอยู่ดีๆ ก็ถูกจับให้นอนหงายลงกับพื้นเตียง "คุณอืมม!" เธอไม่มีมือผลักเขาไว้เพราะมือถูกล็อคริมฝีปากหนาแนบจูบลงมาแบบห้ามใจตัวเองไม่ได้อีกแล้ว ลิ้นสากแหย่เข้าไปในโพรงปากของอี
เขาไม่ได้ขยับมือเธอออก แต่ริมฝีปากหนาแนบจูบลงมาหลังฝ่ามือเรียวของอีกฝ่ายที่ปิดปากตัวเองอยู่แต่พอสัมผัสถึงร่างกายของเธอ ชายหนุ่มก็เลยยอมปล่อยแล้วถอยออกมา"เรื่องงานถ้าไม่เสร็จ ก็ทำเท่าที่ไหว" ว่าแล้วคนร่างสูงก็เดินกลับไปนั่งลงเก้าอี้ ที่เขายอมปล่อยเพราะสัมผัสถึงร่างกายที่สั่นกลัวของอีกฝ่าย รามสูรก็รู้ตัวดีว่าที่ผ่านมาทำกับเธอไว้เยอะ จนเธอไม่ยอมเปิดใจและอภัยให้เย็นวันเดียวกัน..สโรชากับเพื่อนลงมาถึงข้างล่าง ก็มีรถตู้รอรับพาไปที่พัก เธอไม่รู้หรอกว่าเขาจัดหาที่พักที่ไหนให้ ในใจอยากจะบอกรถกลับไปส่งที่บ้าน เพราะคิดถึงลูกใช้เวลาไม่นานเท่าไร รถตู้ก็วิ่งเข้ามาจอดในคฤหาสน์หลังใหญ่"อย่าบอกนะว่าเราจะพักกันที่นี่" และเป็นอีกครั้งที่ทำให้รุ่นพี่แปลกใจมาก ส่วนสโรชาก็ไม่คิดเลยว่าเขาจะให้พวกเธอมาพักในบ้านของเขาเองแบบนี้"เชิญลงรถได้เลยครับ ห้องของทุกคนถูกจัดเตรียมไว้แล้ว""จะให้พวกเราพักที่นี่กันจริงเหรอคะ" เกิดมาก็เพิ่งเคยเห็น"ใช่แล้วครับ แต่ไม่ใช่บ้านหลังใหญ่นะครับเป็นโซนด้านหลัง"โซนด้านหลังที่บอกก็คือห้องที่มีไว้สำหรับรับแขก เวลาอยากเป็นส่วนตัว เพราะข้างๆ ห้องนั้นก็คือสระว่ายน้ำ"ว๊าวว" พอเห็
มือเรียวหยิบช้อนแล้วก็ตักอาหารที่อยู่ตรงหน้ามาใส่ปาก แล้วเคี้ยวเหมือนว่าเมื่อสักครู่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น"ทานกันตามสบายเลยนะครับ" รามสูรเห็นว่าทุกคนกำลังงงกับสิ่งที่เขาพูด"เออ..ค่ะ" ถึงแม้เพื่อนร่วมงานจะสงสัยมาก แต่ก็ต้องได้เก็บความสงสัยนั้นไว้ถามตอนที่อยู่กันตามลำพังสายตาคมของท่านประธานยังคงจ้องมองเธอทานอาหารแบบไม่สนใจใครอีกจนคนที่อยู่ร่วมห้องอาหารทำอะไรไม่ถูก จะคุยกันก็ไม่กล้า เอาไปเอามาก็เลยไม่รู้รสชาติของอาหารเลยว่ามันอร่อยไหม เพราะความอยากรู้อยากเห็น"ทะ..ท่านประธานไม่ทานอะไรหน่อยเหรอคะ" ชวนกินข้าวเที่ยงแต่เล่นมานั่งมองเฉยๆ แบบนี้เนี่ยนะ"เห็นพวกคุณทานผมก็อิ่มแล้วครับ ต้องการอะไรเพิ่มอีกไหม" สายตานั้นมองไปดูคนที่ถามแค่เล็กน้อยแล้วก็หันกลับมามองเธออีกครั้ง"ไม่แล้วค่ะ" จนเพื่อนอดมองมาที่สโรชาด้วยไม่ได้ทานไปจนรู้สึกว่าตัวเองอิ่มแล้วเธอก็วางช้อนลง ..พวกเพื่อนๆ ต่างก็วางลงพร้อมกัน ใครจะกล้ากินต่อล่ะ"อิ่มกันแล้วหรือคะ" เลขาซึ่งยืนรอรับคำสั่งเจ้านายอยู่เดินเข้ามาใกล้"ใช่ค่ะ""จะมีชุดของหวานเข้ามาบริการอีกค่ะ ถ้างั้นขอเก็บตรงนี้ก่อนนะคะ""มีของหวานอีกเหรอ" เอวาและเกวลินกระซิบถามกันเ
"เอาไงดีล่ะทีนี้ ใครจะเข้าไปรับงาน""เดี๋ยวเอวาไปเองค่ะ" ใครบ้างไม่อยากจะเข้าหาท่านประธานบริษัทที่ใหญ่โตขนาดนี้"ดีเลยถ้างั้นพี่ฝากด้วยนะ"ขณะที่ทั้งสองกำลังพูดคุยกันอยู่ สโรชาก็จัดโต๊ะทำงานแบบไม่สนใจ แต่จริงๆ แล้วแค่ทำตัวเป็นไม่ว่างก๊อก ก๊อก เอวาหายใจเข้าลึกๆ ก่อนที่จะเดินมาเคาะประตูห้องนี้ ถ้ามีเลขานั่งอยู่หน้าห้องคงไม่เสียมารยาทแบบนี้หรอกแกร็ก.. พอส่งสัญญาณประตูบานนั้นก็ถูกเปิดออก"สวัสดีค่ะ เราเป็นแผนกบัญชีที่เข้ามารับทำบัญชี""อ้าวพวกคุณมาแล้วเหรอคะ" คนที่เปิดประตูออกมาก็คือผู้หญิง"ใช่ค่ะ""เข้ามาข้างในเลยค่ะ""ค่ะ""ท่านประธานบริษัทนี้เป็นผู้หญิงเหรอ" เกวลินอดหันไปคุยกับสโรชาไม่ได้ "แต่ทำไมชื่อเป็นผู้ชายล่ะ" เพราะคงไม่มีผู้หญิงที่ไหนจะมาชื่อรามสูร"ไม่รู้เหมือนกันค่ะ" คนที่ตอบเริ่มมีสีหน้าไม่สู้ดีแล้ว ..คนหนึ่งไปอีกคนก็มาเลยเหรอเพียงไม่นานเอวาก็หอบเอกสารออกมาจากห้องนั้น เกวลินรีบเดินไปช่วยยก ..และก็อดไม่ได้ที่จะสอบถามเรื่องท่านประธาน"เปล่าหรอกคนนั้นเป็นเลขาหน้าห้อง" ได้ยินรุ่นพี่ถามเอวาก็รีบตอบไป"พี่ก็ว่าแล้ว ผู้หญิงที่ไหนจะชื่อรามสูร.. ว่าแต่ท่านประธานหล่อไหม""ฉันไม่รู้ห
"คุณผู้หญิงทำไมวันนี้กลับเร็วคะ" เสียงนี้ดังขึ้นเพื่อเป็นการส่งสัญญาณให้คนข้างในได้ยินด้วย"พอดีเสร็จงานเร็วค่ะ ทางบริษัทก็เลยปล่อยกลับก่อนเวลา" เห็นแค่สีหน้าแม่บ้านเธอก็พอจะเดาได้แล้ว"อ๋อเหรอคะ""วันนี้โรสเหนื่อยขอเข้าบ้านก่อนนะคะ" ยังไงก็ต้องเจอคงเลี่ยงไม่ได้แล้ว หญิงสาวก็เลยเดินเข้าไปข้างในบ้านหลังนี้พอเข้าไปก็เป็นห้องโถง ส่วนห้องนอนจะเรียงกันอยู่มีทั้งของแม่บ้านและของคุณย่า"หนูโรสกลับมาแล้วเหรอลูก" พุดตาลก็กลัวจะถูกลูกสะใภ้ต่อว่า เพราะตอนนี้ลูกชายของนางยังคงเล่นกับหลานอยู่"วันนี้เสร็จงานเร็วค่ะ เจ้านายก็เลยให้กลับมาก่อน ว่าไงครับคนดี" จะไม่คุยกับลูกก็ไม่ได้เพราะตอนนี้มองแม่ตาแป๋วเลย "เราดื้อไหมครับ" ถ้าสังเกตดีๆ ตอนที่พูดกับลูก ดวงตาเธอคลอไปด้วยน้ำตา แต่หญิงสาวก็ยังยิ้ม เพราะไม่อยากให้ใครเห็นความอ่อนแอ"แม่เอาของไปเก็บก่อนนะครับ เดี๋ยวแม่มาเล่นด้วย" ตั้งแต่เข้ามาเธอไม่ได้มองดูผู้ชายอีกคนที่นั่งอยู่ตรงนั้นด้วยเลย สโรชาทำเหมือนว่าในห้องนี้ไม่มีเขาอยู่ พอวางลูกชาย เธอก็เดินไปที่ตู้เย็นซึ่งอยู่ไม่ไกลจากตรงนั้น เพื่อที่จะเอานมออกจากกล่องเก็บอุณหภูมิ ทุกวันก็มีแม่บ้านมาช่วย แต่วันนี
สโรชาเล่นอยู่กับรามิลพักหนึ่งก็ปล่อยให้คุณย่าและพี่เลี้ยงดูแลไป เพราะพวกท่านก็คงจะยังไม่หายคิดถึงหลานพอได้อยู่คนเดียวความน้อยใจก็ค่อยๆ กลืนกินหัวใจเข้ามา มันเป็นแบบที่คิดไว้จริงๆ เขาไม่ได้ต้องการเธอเลย สิ่งที่เขาต้องการก็คือลูกว่าจะไม่คิดมากกับเรื่องพวกนี้แล้ว แต่มันก็อดคิดไม่ได้เช้าวันต่อมา.."แม่ออกไปทำงานก่อนนะครับ เดี๋ยวตอนเย็นแม่จะซื้อขนมมาให้" สมัยนี้ขนมของเด็กทารกมีขายในห้างสรรพสินค้าและซุปเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป"แม่ว่าเราควรจะมีรถส่วนตัวได้แล้ว ไปมาจะได้สะดวกหน่อย" ในเมื่อลูกสะใภ้ไม่ต้องการให้มีคนรถไปส่ง นางก็เลยอยากจะให้เดินทางสะดวกหน่อย"โรสขอหาด้วยตัวเองนะคะคุณแม่" เธอรู้ดีว่าท่านร่ำรวยมาก แค่กดโทรออกก็มีคนเอามาส่งถึงที่พุดตาลก็เลยไม่พูดอะไรต่อ เด็กแบบนี้หาได้ยากในสังคมปัจจุบัน ยิ่งลูกคุณหนูแบบสโรชาด้วยแล้ว คงมีน้อยมากที่อยากจะดิ้นรนด้วยตัวเองสโรชาโทรเรียกมอเตอร์ไซค์วินให้มารับหน้าบ้าน[บริษัทรับทำบัญชี]"เกิดอะไรขึ้นคะ" มาถึงบริษัทก็ดูวุ่นวายไปหมด เหมือนกำลังจัดเตรียมอะไรกันอยู่"พี่ไม่มีเวลาพูดให้เราฟัง ที่จริงพี่ก็ยังไม่ได้พูดให้ใครฟังหรอก เมื่อวานนี้มีผู้ร่วมหุ้นใหม่เ