วันแรกนี้ฟู่หยุนชิงอยู่ถ่ายทำถึงสามทุ่มจึงได้กลับโรงแรมพร้อมทีมงาน พรุ่งนี้เธอก็ยังมีซีนถ่ายทำอีกเช่นเคย ฟู่หยุนชิงยิ่งคิดก็ยิ่งดีใจที่ทุกซีนเธอจะได้ซีนละสองหมื่นเหรียญ ทำให้ฟู่หยุนชิงมีกำลังใจที่จะทำงานหนังเรื่องนี้ออกมาให้ดีที่สุดตามบทบาทที่ได้รับ
ผู้กำกับเองยังพูดกับเพื่อนร่วมงานด้วยว่าฟู่หยุนชิงเก่งมากในการแสดง ทำไมเขาไม่เคยได้ยินชื่อเธอมาก่อน บรรดาเพื่อนร่วมงานระดับผู้ช่วยผู้กำกับต่างก็มึนงงเช่นกัน เท่าที่รู้มาคือฟู่หยุนชิงนั้นเป็นนักแสดงไม่มีสังกัด นี่เลยเป็นเหตุผลให้เธอไม่โด่งดังเท่าดาราคนอื่นกระมัง ทุกคนต่างแสดงความเห็นไปในทิศทางเดียวกัน ยิ่งพวกเขาเห็นฟู่หยุนชิงตั้งใจทำงานอย่างไม่แสดงความเหน็ดเหนื่อยเหมือนนักแสดงคนอื่น ๆ ด้วยแล้ว พวกเขายิ่งคิดว่าหนังเรื่องนี้จะต้องดังอย่างแน่นอนเมื่อมีฟู่หยุนชิงแสดงเป็นนางรอง
รุ่งเช้าวันต่อมาทุกคนต่างตื่นกันแต่เช้า เนื่องจากซีนแรกของวันนี้นั้น ผู้กำกับต้องการแสงพระอาทิตย์สวย ๆ พวกเขาจึงไ
เฟิงเหยาผู้จัดการของลี่ลี่รู้ว่าวันนี้จะมีฉากโหนสลิงของฟู่หยุนชิง เธอตื่นแต่เช้าพร้อมทีมงานโดยอ้างว่ามาดูสถานที่ให้กับดาราของเธอก่อนที่จะกลับไปรับมาที่นี่ ทีมงานจึงไม่มีใครสงสัยว่าเฟิงเหยาจะตัดสายสลิงหลังจากที่พวกเขาติดตั้งอุปกรณ์ต่าง ๆ เรียบร้อยแล้ว เฟิงเหยาใช้เวลาที่ทีมงานกลับไปกินอาหารเช้ารีบนำมีดคม ๆ ไปตัดสลิงช่วงที่เป็นยางยืดออกครึ่งหนึ่ง เธอกลัวว่าแผนจะผิดพลาดหากฟู่หยุนชิงตกลงมาเร็วเกินไป และกลัวว่าจะถูกจับได้ หลังจากเตรียมการเสร็จแล้ว เฟิงเหยาก็กลับไปรับลี่ลี่มาที่สถานที่ถ่ายทำในวันนี้ซึ่งฉากถูกเซ็ตเอาไว้เรียบร้อยแล้ว เธอยังรายงานเรื่องที่ทำให้กับลี่ลี่ก่อนจะออกจากโรงแรมด้วย ลี่ลี่ที่ฟังแล้วก็หัวเราะอย่างสะใจที่วันนี้ฟู่หยุนชิงจะต้องบาดเจ็บหนักหรือไม่ก็ถูกผู้กำกับตำหนิเป็นแน่ที่เธอตกจากสลิง ฟู่หยุนชิงไม่รู้เลยว่าจะมีคนปองร้ายเธอทั้งที่เธอเองก็ไม่ได้ทำอะไรใครมาก่อน เธอ
เฟิงเหยาที่ร้องไห้ขอร้องผู้กำกับเพื่อจะอยู่ดูแลลี่ลี่ต่อได้แต่ต้องตัดใจ ที่เธออยากอยู่ต่อไม่ใช่เพราะอะไรมากมายนอกจากคลิปของเธอยังคงอยู่ในมือของลี่ลี่ เธอกลัวว่าลี่ลี่จะเล่นไม่ซื่อปล่อยคลิปออกมาอย่างที่เธอขู่บ่อย ๆ ผู้กำกับไม่สนใจว่าเฟิงเหยาจะรู้สึกอย่างไร เขาให้ทีมงานลากตัวเฟิงเหยาไปที่รถตู้แล้วส่งเธอกลับไปเก็บของของเธอออกจากโรงแรม ทั้งยังสั่งให้ทีมงานไปส่งเธอที่ท่ารถเพื่อให้เธอเดินทางกลับเมืองหลวงเอาเอง ลี่ลี่ได้แต่กำหมัดแน่นที่เบ้ของเธอถูกไล่ออกไปเสียแล้ว หลังจากนี้หากเธอต้องการกลั่นแกล้งฟู่หยุนชิงอีกก็คงเป็นไปไม่ได้แล้ว เธอได้แต่โทษว่าเฟิงเหยาโง่มากที่ทำตัวเด่นจนคนในทีมสังเกตเห็นว่าเธออยู่บริเวณสถานที่ถ่ายทำ แทนที่จะแอบมาเพื่อป้องกันตัวเอาไว้ก่อน ลี่ลี่ได้แต่สมน้ำหน้าเฟิงเหยาที่ถูกลากตัวออกไปต่อหน้าต่อตาของเธอ ผู้กำกับที่เห็นว่าเฟิงเหยาออกไปจากกองแล้วก็เรียกนักแสดงทุกคนมา
หลังฟังเรื่องราวทั้งหมดและรับหลักฐานมาแล้ว บอดี้การ์ดก็ให้สัญญากับเฟิงเหยาด้วยว่าพวกเขาจะจัดการกับคลิปลับให้โดยเร็ว แต่ช่วงนี้พวกเขาอยากให้เฟิงเหยาเก็บตัวดี ๆ เพื่อรอเป็นพยานในศาลหลังจากที่ทนายส่งเรื่องฟ้องในอีกไม่กี่เดือน ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายส่วนตัวระหว่างที่เก็บตัวจะมีคนโอนให้เธอทุกเดือนเอง เฟิงเหยาได้แต่ฝากคำขอบคุณไปยังเหอจิ้งเกาที่เขาช่วยเธอในครั้งนี้ บอดี้การ์ดรับคำของเฟิงเหยาว่าพวกเขาจะบอกเจ้านายให้อย่างแน่นอน พวกเขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเจ้านายผู้เย็นชาจึงได้เข้ามายุ่งเรื่องนี้ เมื่อก่อนไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับนักแสดง เจ้านายพวกเขาไม่เคยสนใจ เขาสนใจเพียงแต่ว่าหนังจะถ่ายทำไปได้ตามกำหนดการหรือไม่เท่านั้น แต่ในเมื่อพวกเขาหาเหตุผลไม่ได้ พวกเขาก็ไม่อยากคิดมากอีกต่อไปและรีบกลับไปรายงานเรื่องราวต่าง ๆ ที่สืบมาได้พร้อมกับหลักฐานที่ได้รับมาไม่น้อย เหอจิ้งเกาที่ยังไม่กลับไปพักผ่อนก็รอให้บอดี้การ์ดทั้งสองของเขามารายงานเรื่องที่ใ
รุ่งเช้าหลังอาหารวันต่อมา ทีมงานและนักแสดงทุกคนต่างเก็บข้าวของมารอขึ้นรถเพื่อกลับเมืองหลวงกันที่หน้าโรงแรม ส่วนคนที่เอารถมาเองก็ร่ำลาทุกคนแล้วกลับไปก่อน ฟู่หยุนชิงเองก็รอทีมงานที่จะไปส่งเธอยังสตูดิโอจุดเดิมที่เธอขึ้นรถมาถ่ายทำ โดยก่อนที่จะแยกย้ายกันนั้น ผู้กำกับก็ให้คนนำเช็คเงินสดมาให้กับฟู่หยุนชิง เธอไม่แม้แต่จะมองยอดเงินในนั้นแต่กลับเก็บเอาไว้ในกระเป๋าผ้าใบเล็กของเธอแทน ทำให้ทุกคนยิ่งประทับใจกับฟู่หยุนชิงที่ไม่เหมือนคนเห็นแก่เงินทั่วไปที่จะตื่นเต้นสำหรับรายได้การแสดงจำนวนไม่น้อยเช่นนี้ ไม่นานนักฟู่หยุนชิงก็ได้ขึ้นรถพร้อมกับทีมงานเพื่อกลับเมืองหลวง แน่นอนว่าการเดินทางครั้งนี้ยังคงใช้เวลาเกือบสี่ชั่วโมงเนื่องจากรถติดตอนก่อนที่จะไปถึงสตูดิโอ ฟู่หยุนชิงเห็นว่าวันนี้สายมากแล้ว หากเธอเดินทางไปธนาคารคงจะไม่ทันเวลาปิดทำการเป็นแน่ เธอไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมวันนี้รถถึงได้ติดหนักขนาดนี้ ฟู่หยุนชิงจึงตัดสินใจที่จะเอาเงินไปเข้าบัญชีในวันพรุ่งนี้แทน &nb
วันต่อมาฟู่หยุนชิงยังคงฝึกฝนต่อไปบนรองเท้าส้นสูงของร่างเดิมอย่างขยันขันแข็ง เธอจะต้องเดิน ยืน โพสท่าตามในคลิปให้ได้อย่างเป็นธรรมชาติที่สุด ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่ผ่านกันคัดเลือกการเดินแบบครั้งนี้เป็นแน่ เช้าตรู่วันต่อมา วันนี้ฟู่หยุนชิงแต่งตัวในชุดเดรสแขนสั้นและสวมรองเท้าส้นสูงเพื่อความเหมาะสมในการไปคัดเลือกตัวในครั้งนี้ กว่าที่รถเมล์จะไปถึงป้ายที่เธอต้องการก็เกือบจะแปดโมงเช้าแล้ว ฟู่หยุนชิงรีบเดินไปที่อาคารอันฟู่ซึ่งเป็นบริษัทโมเดลลิ่งที่รับสมัครนางแบบในครั้งนี้ เมื่อเปิดเข้าไปในบริษัทแล้ว ฟู่หยุนชิงก็รีบเข้าไปสอบถามกับพนักงานที่เคาเตอร์ประชาสัมพันธ์ทันที ประชาสัมพันธ์สาวบอกข้อมูลเกี่ยวกับการคัดเลือกตัวกับฟู่หยุนชิงพร้อมรอยยิ้มตอบกลับฟู่หยุนชิง หลังทราบข้อมูลว่าการคัดเลือกจะเริ่มเวลาเก้าโมง ฟู่หยุนชิงก็ได้รับใบสมัครในการคัดเลือกตัววันนี้เช่นเคย เธอยืนกรอกข้อมูลไม่นานก็ส่งคืนให้กับพนักงานฝ่ายประชาสัมพันธ์ที่ยังคงมีรอยยิ้มแต้มใบหน้า
ฟู่หยุนชิงเดินทางกลับห้องพักหลังจากร่ำลาเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์สาวผู้แสนจะอัธยาศัยดี ตอนนี้เธอเริ่มที่จะหิวข้าวเสียแล้วเพราะอีกไม่กี่นาทีก็เที่ยงแล้ว ฟู่หยุนชิงได้แต่ถอนหายใจที่เธอต้องกินอาหารผิดเวลาบ่อยมากเวลามาคัดเลือกตัวหรือมาทำธุระที่ธนาคาร แต่จะให้ทำอย่างไรได้ในเมื่อเธอต้องใช้บริการรถเมล์สาธารณะซึ่งคาดเดาเวลาได้ยากกันเล่า กว่าฟู่หยุนชิงจะเดินทางกลับถึงหน้าปากซอย ท้องน้อย ๆ ของเธอก็ร้องประท้วงมาเกือบจะตลอดทาง เมื่อลงจากรถได้แล้วเธอก็ไม่รอช้าที่จะไปสั่งอาหารเพื่อกลับไปทานที่ห้อง ด้วยความหิว ฟู่หยุนชิงสั่งอาหารถึงสี่อย่างพร้อมข้าวอีกสองถุง เธอไม่รู้หรอกว่าจะกินหมดหรือไม่ แต่ตอนนี้เธอหิวมาก จึงได้แต่สั่งอย่างเผื่อเหลือดีกว่าต้องทนหิวเหมือนร่างเดิม หลังรับอาหารและจ่ายเงินแล้ว ฟู่หยุนชิงแทบอยากใช้วิชาตัวเบาเพื่อรีบกลับห้องไปกินข้าว แต่จนใจที่มีคนเดินผ่านไปมาอยู่ตลอดในซอย ทำให้เธอไม่สามารถทำอย่างที่ใจคิดได้ กระทั่งฟู่หยุนชิงกลับเ
หลังจากซ้อมเดินและบอกลำดับการเดินในชุดที่สองแล้ว เจ้าของงานทั้งสามก็ออกไปรอต้อนรับแขกด้านนอก ส่วนด้านหลังเวทีที่เป็นห้องเปลี่ยนเสื้อผ้านั้น บรรดาสาว ๆ ต่างคุยกันเสียงดังอย่างสนุกสนาน แตกต่างจากตอนเดินลิบลับ ฟู่หยุนชิงที่เป็นน้องใหม่ได้แต่ทำตัวลีบเล็กด้วยเธอไม่ค่อยรู้เรื่องที่เหล่ารุ่นพี่พูดคุยกันนัก แต่หากมีอะไรที่รุ่นพี่สอบถาม ฟู่หยุนชิงก็ตอบกลับโดยเร็วเช่นกัน นางแบบรุ่นพี่ทั้งหมดต่างชอบนิสัยไม่ถือตัวของฟู่หยุนชิง พวกเธอเคยเห็นน้องใหม่ส่วนใหญ่มักจะหยิ่งผยอง ยิ่งเป็นพวกนักแสดงด้วยแล้วล่ะก็ ตาเธอจะแหงนมองท้องฟ้าโน่น พวกเธอไม่มีใครมาสนใจนางแบบตัวเล็กๆ อย่างนี้หรอก แต่ฟู่หยุนชิงนั้นแตกต่าง เธออัธยาศัยดีมาก ถึงแม้จะพูดน้อยไปหน่อยก็เถอะ หนึ่งชั่วโมงต่อมา ประชาสัมพันธ์สาวก็มาบอกให้ทุกคนไปเตรียมตัวหลังเวที นางแบบทั้งหมดรวมทั้งฟู่หยุนชิงต่างเดินตามลำดับของตัวเองออกไปอย่างไม่เร่งรีบ กระทั่งพวกเธอไปยืนสแตนด์บายรอเดินขึ้นเวทีหลังจากพิธีกรป
ผู้กำกับเมื่อเห็นฟู่หยุนชิงก็รีบกวักมือเรียกเธอเข้าไปคุยด้วยพร้อมรอยยิ้ม เขาบอกฟู่หยุนชิงว่าการออกรายการครั้งนี้จะทำให้เธอเป็นที่รู้จักมากขึ้น ฟู่หยุนชิงยิ้มรับคำของผู้กำกับ เธอไม่รู้หรอกว่าคนดังคืออะไร เธอรู้เพียงแต่ว่าตัวเองอยากทำงานแสดงอย่างที่ร่างเดิมวาดหวังไว้ให้ดีเท่านั้น เธอกับผู้กำกับคุยกันและทักทายคนอื่น ๆ ไม่นานนัก ก่อนที่ผู้กำกับจะปล่อยให้ฟู่หยุนชิงไปนั่งพักผ่อนรอการถ่ายทำรายการในอีกไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงนี้แล้ว ฟู่หยุนชิงฟังที่ผู้กำกับบอกกับเธอก็ได้ความว่า เธอต้องตอบคำถามหากพิธีกรสอบถาม ซึ่งพวกเขาเองก็ไม่รู้เช่นกันว่าพิธีกรจะถามเรื่องอะไรบ้าง แต่พวกเขาจะพูดเกี่ยวกับหนังของพวกเขาเพื่อโปรโมตเท่านั้น ฟู่หยุนชิงจึงคิดว่าตอนที่เธอถ่ายทำเป็นอย่างไรบ้าง เพื่อที่เธอจะได้สามารถตอบคำถามได้อย่างไม่ยากเย็นนัก เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ร่างเดิมได้มารายการเช่นนี้ จึงทำให้ฟู่หยุนชิงจะต้องหาประสบการณ์ด้วยตัวเองอีกครั้งแล้ว ไม่ถึงสิบนาทีหลั
“ไม่ว่าลูกสาวหรือลูกชาย ผมก็ชอบทั้งนั้นที่รัก ขอบคุณนะครับที่ยอมเหนื่อยตั้งท้องให้ผมกับลูกได้มีลูกสาวอีกคน”“ใช่ครับ ๆ แม่เก่งที่ซู๊ดเลย หลังจากนี้ผมจะปกป้องน้องสาวเป็นอย่างดีนะครับแม่ไม่ต้องเป็นห่วง เห็นมั้ยครับพ่อ ผมบอกแล้วว่าต้องเป็นน้องสาว ฮิ ฮิ”“ครับผม ลูกชายพ่อเก่งมากเลย เราปล่อยให้แม่นอนพักผ่อนกันก่อนดีกว่า”“ที่รักนอนพักก่อนเถอะนะ รอให้ลูกตื่นก่อนคุณค่อยลุกมาให้นมก็แล้วกัน”“ได้ค่ะ คุณกับลูกก็นอนพักก่อนนะคะ เดี๋ยวพอลูกสาวเราตื่นคงไม่ได้พักผ่อนกันแน่เลย ท่าทางลูกสาวคนจะซนกว่าพี่ชายน่าดู กว่าฉันจะคลอดได้เลยเสียเวลาไปเยอะ”“ฮ่า ฮ่า จริงเหรอที่รัก ไม่ต้องกังวลไป อย่างไรเสี่ยวหมิงน่าจะดูแลน้องได้นะ” เหอจิ้งเกาจูบหน้าผากภรรยาแล้วอุ้มเสี่ยวหมิงหอมแก้มแม่ให้นอนพักผ่อน ส่วนพวกเขาพ่อลูกก็เข้าไปนอนที่เต
หลังหนังจบ เหอจิ้งเกาเห็นว่าภรรยากับลูกชายง่วงมากแล้ว เขาจึงไม่ให้ทั้งสองคนให้สัมภาษณ์นักข่าวหรือพูดคุยกับแฟนคลับ ซึ่งเขาสั่งให้บอดี้การ์ดไปบอกแฟนคลับของฟู่หยุนชิงเอาไว้ก่อน เพื่อที่พวกเขาจะได้ไม่เข้าใจฟู่หยุนชิงผิดสัปดาห์ต่อมา รายได้ของหนังที่ฟู่หยุนชิงแสดงยังขึ้นเป็นอันดับหนึ่งในบ็อกซ์ออฟฟิศเหมือนเคย ทำให้ผู้กำกับและทีมงานต่างดีใจที่หนังเรื่องนี้คนดูชอบและนักวิจารณ์ยังกล่าวถึงหนังไปในทางบวกแทบทุกคน เหล่าแฟนหนังยังอยากดูภาคสองของเรื่องนี้อีกต่างหาก เสียดายที่ฟู่หยุนชิงต้องหยุดถ่ายทำเพื่อเลี้ยงลูกก่อน ทำให้ผู้กำกับไม่อยากนำคนอื่นมาแสดงแทน เขาตั้งใจจะรอฟู่หยุนชิงคนเดียวห้าเดือนต่อมา ตอนนี้ใกล้กำหนดคลอดของฟู่หยุนชิงเข้าไปทุกที เหอจิ้งเกาที่กลัวภรรยาจะคลอดก่อนกำหนดอีกจึงขอร้องให้ฟู่หยุนชิงไปพักที่ รพ.ก่อนสักสองสามวัน แน่นอนว่าพวกเขาพ่อลูกก็จะไปอยู่เป็นเพื่อนเธอด้วย&n
ก่อนที่เหอจิ้งเกาจะเคลียร์งานเสร็จในเดือนถัดมา ฟู่หยุนชิงก็จำเป็นต้องเข้าร่วมงานเปิดตัวหนังรอบปฐมทัศน์ เหอจิ้งเกาจึงพาเสี่ยวหมิงไปให้กำลังใจและคอยดูแลฟู่หยุนชิงด้วย เพราะตอนนี้ท้องของฟู่หยุนชิงเริ่มขยายใหญ่มากขึ้นเนื่องจากใกล้เข้าสู่เดือนที่สี่ของการตั้งครรภ์แล้ว ระหว่างทางที่กำลังจะไปยังโรงหนังในห้างสรรพสินค้าใหญ่ของเหอจิ้งเกา ฟู่หยุนชิงได้แต่บ่นว่าสามีห่วงมากเกินไป“ความจริงฉันมากับลูกก็ได้นะคะ มันทำให้คุณเสียเวลาทำงานไปด้วยโดยใช่เหตุ”“เฮ้อ ที่รัก ผมจะปล่อยให้คุณกับลูกมากันเองได้ยังไง ในเมื่องานนี้มีคนเข้าร่วมมากมาย หากใครชนท้องคุณเข้าจะทำยังไงล่ะที่รัก เชื่อผมเถอะ รับรองว่าผมไม่กวนตอนคุณอยู่บนเวทีแน่ที่รัก”“ใช่ครับแม่ ให้พ่อพามาดีแล้วครับ ผมเองก็เป็นห่วงเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน เพราะคนน่าจะเยอะมากจริง ๆ นะครับแม่”“เอาล่ะ ๆ ยังไงก็มากันแล้วนี่นะ แม่จะไม่บ่นแล้วก็ได้”
ระหว่างที่ฟู่หยุนชิงกำลังตั้งครรภ์อยู่นั้น เหอจิ้งเกาก็ให้ลูกน้องนำงานมาให้ทำที่บ้าน เพราะเขาอยากดูแลลูกกับภรรยาด้วยตัวเอง กระทั่งสามวันต่อมาที่เป็นวันนัดของหมอเพื่อตรวจครรภ์ของฟู่หยุนชิงมาถึง ทั้งสามคนต่างเตรียมตัวกันตั้งแต่เช้า หลังอาหารเช้าพวกเขาจึงออกจากบ้านเพื่อไปที่ รพ. ระหว่างนั่งรถอยู่นั้น ฟู่หยุนชิงก็คุยกับสามีเรื่องลูกคนที่สอง“คุณคะ ครั้งนี้เรามาลุ้นกันดีไหมคะว่าลูกจะเป็นชายหรือหญิง ฉันไม่อยากรู้ก่อนเหมือนตอนเสี่ยวหมิงน่ะค่ะ ดีไหมลูก”“ได้จ๊ะ ผมตามใจคุณอยู่แล้ว เรารอลุ้นก็สนุกดีเหมือนกันนะ”“ดีครับแม่ ผมอยากลุ้นว่าน้องของผมจะเป็นเด็กผู้ชายหรือเด็กผู้หญิง อีกตั้งหลายเดือนกว่าที่แม่จะคลอดน้องอ่ะ ยังไงผมจะช่วยแม่ดูแลน้องหลังคลอดนะครับ”“ขอบใจมากจ๊ะลูก แล้วลูกอยากไปโรงเรียนตอนกี่ขวบ แม่เห็นส่วนใหญ่เด็กสามขวบก็เข้าเรียนอนุบาลกันแล้วนะ”
เมื่อพวกเขามาถึงร้านนาฬิกา พนักงานในร้านรีบออกมาต้อนรับฟู่หยุนชิงเช่นกันกับพนักงานร้านก่อนหน้านี้ พวกเขาได้รับข่าวมาก่อนหน้าจากร้านเสื้อผ้าแล้วว่าภรรยาของท่านประธานกับนายน้อยมาเดินเล่นที่นี่ ด้วยการข่าวอันฉับไว ทุกร้านในห้างจึงเตรียมพนักงานเอาไว้ต้อนรับกันแต่แรกแล้ว“ไม่ทราบว่าคุณมีนาฬิกาคู่รักหรือเปล่าคะ? กับนาฬิกาของเด็กขนาดเดียวกับแขนลูกชายของฉัน”“มีทั้งสอบแบบเลยค่ะ เชิญคุณลูกค้าตามดิฉันมาดูนาฬิกาคู่รักก่อนนะคะ พอดีเพิ่งมีคอลเลคชั่นใหม่ออกมาเมื่อสัปดาห์ก่อน เผื่อว่าคุณลูกค้าถูกใจ” ฟู่หยุนชิงพยักหน้ารับคำและเดินตามพนักงานไปพร้อมอาหยงที่อุ้มเหอเสี่ยวหมิงอยู่ ส่วนอาเหว่ยก็เดินตามหลังฟู่หยุนชิงไปไม่ไกลเช่นกัน อาเหว่ยได้แต่คิดว่าตอนนี้ทั้งห้างคงรู้แล้วว่านายหญิงมา ดูจากการบริการที่รวดเร็วและไม่ถามที่มาที่ไปแบบนี้ นับว่าผู้จัดการห้างมีความสามารถไม่น้อยที่แจ้งข่าวให้ร้านต่าง ๆ ทราบภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโม
ระหว่างทางไปยังบริษัท เลขารายงานเรื่องเมื่อวานให้กับเหอจิ้งเกาทราบทุกอย่าง อีกทั้งวันนี้เขาจะไปหาทนายของบริษัทเพื่อให้ทำเรื่องแจ้งความและส่งฟ้องหวงเหมยหงและลี่ลี่อีกครั้งหนึ่ง“คุณทำได้ดีมาก รอสิ้นปีผมจะเพิ่มโบนัสให้กับทุกคนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้อีกที ถือว่าเป็นรางวัลสำหรับการช่วยรักษาชื่อเสียงภรรยาของผมก็แล้วกัน”“ขอบคุณครับเจ้านาย” เลขากับบอดี้การ์ดที่ช่วยเหลืองานเมื่อวานนี้ไม่คิดว่าพวกเขาจะได้รับรางวัลในการทำงานครั้งนี้ด้วย นับว่าเจ้านายใจดีมากขึ้นตั้งแต่มีครอบครัว พวกเขาที่ได้รับเงินเดือนไม่น้อยต่างก็ดีใจที่เจ้านายมีความสุขและเผื่อแผ่ความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ มาให้พวกเขาเช่นนี้ ฟู่หยุนชิงที่อยู่บ้านกับเหอเสี่ยวหมิงวันนี้ เธอเรียกอาหยงกับอาเหว่ยมาสอบถามเรื่องราวเกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ ที่สามีทำให้เธออยู่เบื้องหลัง เธอแน่ใจว่าเรื่องแบบนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที
เหอจิ้งเกาใช้เวลาไม่นานในการซื้อของ เขาอยากรีบกลับไปทำอาหารให้ฟู่หยุนชิงจะแย่แล้ว บอดี้การ์ดเองก็รีบขับรถกลับบ้านให้เจ้านายตามที่พวกเขาเห็นว่าเจ้านายดูเร่งรีบไม่น้อย เมื่อถึงบ้านแล้ว เหอจิ้งเกาก็เห็นพ่อบ้านมายืนรออยู่แล้ว บอดี้การ์ดช่วยถือวัตถุดิบอาหารเข้าไปยังห้องครัวให้กับเหอจิ้งเกา เขาบอกพ่อบ้านว่ามื้อเย็นเขาจะทำอาหารเอง ให้แม่บ้านทำอาหารให้กับพวกบอดี้การ์ดกับพวกเขาก็พอ พ่อบ้านรับคำเหอจิ้งเกาแล้วเดินไปบอกกับแม่บ้านทั้งสองคนให้ไปทำอาหารที่ครัวของอีกตึกหนึ่งซึ่งพวกเขาอาศัยอยู่ คราแรกแม่บ้านทั้งสองคิดว่าเจ้านายไม่พอใจอาหารของพวกเธอก็พากันตกใจไม่น้อย แต่พอพ่อบ้านบอกว่าเจ้านายอยากทำอาหารให้นายหญิงด้วยตัวเองเท่านั้น พวกเธอจึงได้เบาใจลง พวกเธอไม่อยากหางานใหม่เพราะอายุที่มากแล้วและที่นี่ก็ให้ค่าตอบแทนสูงมากอย่างน่าตกใจแต่ก็ต้องแลกมาด้วยการต้องพักที่นี่และทำความสะอาดบ้านหลังใหญ่ช่วยกันทั้งสี่คน  
หวงเหมยหงกับลี่ลี่ที่ถูกเหอจิ้งเกาจัดการไม่ให้มีงานในวงการก่อนหน้านี้พอได้ข่าวเรื่องเหอจิ้งเกากับฟู่หยุนชิงก็ได้แต่คิดอิจฉาและแค้นใจที่เหอจิ้งเกาทำกับพวกเธอแบบนี้ ทั้งสองคนไม่อยากให้พวกเขาอยู่กันอย่างมีความสุขง่าย ๆ จึงได้จ้างโกสต์เพื่อแพร่ข่าวว่าฟู่หยุนชิงวางยาเหอจิ้งเกาจนต้องรับผิดชอบในปีนั้น แถมยังสร้างข่าวเสีย ๆ หาย ๆ ของฟู่หยุนชิงมากมายอีกด้วย เลขาที่ให้คนคอยติดตามข่าวอยู่ตลอดรู้ในทันทีที่มีข่าวแพร่ออกมา เขารีบแจ้งให้เจ้านายทราบอย่างเร่งด่วนว่าจะจัดการเรื่องนี้ยังไง“ให้คนสืบว่าใครเป็นคนทำ และปิดข่าวอย่าให้ฟู่หยุนชิงรู้ เดี๋ยวเธอจะไม่สบายใจ”“ได้ครับเจ้านาย แล้วถ้ารู้ตัวคนทำแล้วจะให้ทำยังไงต่อไปดีครับ”“ค้นหาเรื่องราวของคนทำที่ทำเรื่องสกปรกออกมาให้หมด แล้วส่งให้สำนักข่าวทุกสำนัก รวมทั้งให้คนกระจายข่าวออกไปตามสื่อโซเชียลด้วย หลังจากได้หลักฐานว่าใครเป็นคนสร้างข่าวเสีย
หลังทานอาหารเสร็จแล้ว เหอจิ้งเกาให้พ่อบ้านพาเขาไปดูห้องที่จัดเตรียมเอาไว้ให้เขากับฟู่หยุนชิงและเหอเสี่ยวหมิง พ่อบ้านรีบรับคำและเดินนำเจ้านายทั้งสามไปอย่างช้า ๆ เขารู้มาก่อนแล้วว่านายหญิงกำลังท้องอยู่จึงไม่กล้าเดินเร็วเกินไปนักด้วยกลัวจะเกิดอุบัติเหตุ ถึงแม้ว่าเจ้านายจะจับมือนายหญิงอยู่ก็เถอะ เขาก็ควรจะต้องระวังเอาไว้ให้มากจะดีที่สุด พ่อบ้านพาทุกคนไปดูห้องใหญ่ของเหอจิ้งเกากับฟู่หยุนชิงก่อนที่ปีกซ้ายชั้นสองของบ้าน ห้องนอนใหญ่มีห้องน้ำกว้างขวางในตัว รวมทั้งยังมีตู้เสื้อผ้าแบบบิวอินที่กว้างพอ ๆ กับห้องอีกห้องหนึ่งอยู่ติดกับห้องน้ำและมีประตูเปิดเข้าไปได้ อีกด้านหนึ่งของห้องมีระเบียงกว้าง โต๊ะและเก้าอี้สำหรับนั่งพักผ่อนชมวิวทิวทัศน์ด้านหลังบ้านซึ่งมองเห็นทะเลสาบและสวนดอกไม้อยู่ ฟู่หยุนชิงกับเหอเสี่ยวหมิงที่เห็นทุกอย่างตามที่พ่อบ้านอธิบายก็พอใจมากกับห้องที่เขาเลือกให้เธอและเหอจิ้งเกา หลังจากที่สำรวจดูคร่าว ๆ แล้ว ฟู่หยุนชิงจึงบอกพ่อบ้า