ทีมงานที่ทำหน้าที่ประสานงานไปติดต่อกับเจ้าของโรงแรมว่าพวกเขามาถึงแล้ว เจ้าของโรงแรมจึงให้พนักงานพาทุกคนไปห้องพักที่จองเอาไว้ทั้งหมดเกือบสี่สิบห้องที่อาคารอีกด้านหนึ่งซึ่งเป็นเหมือนเรือนนอนหลังใหญ่สองชั้นเท่านั้น ทุกคนได้รับกุญแจห้องจากพนักงานโรงแรมคนละดอกสำหรับล็อคห้องของตัวเองเวลาออกไปข้างนอก พนักงานยังเตือนด้วยว่าอย่าทำหายเพราะที่นี่ไม่มีสำรองให้ จากนั้นพนักงานพาพวกเขาไปดูหมายเลขห้องและบอกว่าห้องหมายเลขไหนอยู่ชั้นหนึ่ง หมายเลขไหนอยู่ชั้นสองบ้าง ฟู่หยุนชิงที่ได้พักห้องชั้นสองก็เดินขึ้นบันไดไม้ไปอย่างไม่เร่งรีบ เธอเห็นบรรยากาศเงียบสงบเช่นนี้ก็พอใจกับที่พักไม่น้อย รอยยิ้มน้อยประดับอยู่ที่มุมปากของฟู่หยุนชิงจนเป็นที่ชินตาของทุกคนแล้ว พวกเขาได้แต่คิดว่าขนาดมาอยู่ในที่แบบนี้เธอยังคงยิ้มได้อีก พวกเขาเห็นเช่นนี้ก็ไม่อยากเรื่องมากอีกต่อไป มีเพียงหวงเหมยหงที่ได้แต่พูดว่าฟู่หยุนชิงน่าจะเป็นคนบ้านนอกที่มาทำงานที่เมืองหลวงถึงได้พอใจสถานที่เส็งเคร็งแบบนี้ คนอื่น ๆ ต่างมองหวงเหมยหงอย่างเอือมระอา พวกเขาไม่พูดอะไรกับหวงเหมยหงแม้แต่คนเดียว ต่างคนต่างไปยังห้องพักตนเองเพื่อพ
หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว ทีมงานก็พาฟู่หยุนชิงไปเปลี่ยนเสื้อผ้าและแต่งหน้าทำผมใหม่ พวกเขาจะแต่งหน้าให้จากที่โรงแรมก่อนที่จะเดินไปยังสถานที่ถ่ายทำซึ่งมีทีมงานกำลังเซตฉากการถ่ายทำเอาไว้แล้ว ส่วนตัวประกอบทั้ง 300 คนก็มาครบแล้วและกำลังเปลี่ยนชุดอยู่เช่นกัน นักแสดงคนอื่นที่ไม่มีบทในตอนนี้ต่างพากันไปดูการแสดงของฟู่หยุนชิงกันหลายคน มีเพียงหวงเหมยหงเท่านั้นที่ไม่คิดจะไปดู เธอนอนพักผ่อนที่ห้องพักอย่างไม่สนใจใคร อีกทั้งอาหารเช้าเธอยังให้ผู้จัดการไปนำมาให้เธอที่ห้องพักด้วย ผู้กำกับและนักเขียนบทเองก็เตรียมตัวพร้อมแล้วเช่นเดียวกัน ทีมประสานงานวิ่งไปดูว่าตัวประกอบแต่งตัวเสร็จกันหรือยัง เพราะตอนนี้เริ่มจะสายแล้ว ไม่นานนักเขาก็วิ่งกลับมาแจ้งผู้กำกับว่าอีกไม่เกินสิบนาทีตัวประกอบจะแต่งตัวเสร็จ จากนั้นผู้กำกับยังถามถึงฟู่หยุนชิงอีกด้วยว่าแต่งตัวไปถึงไหนแล้ว แต่หลังจากผู้กำกับสอบถามไป เขาเหลือบไปเห็นฟู่หยุนชิงที่แต่งตัวเป็นแม่ทัพหญิงกำลังเดินเข้ามาหาเขาพอดี ทุกคนที่เห็นฟู่หยุนชิงในชุดนี้ต่างนึกในใจว่า เธอช่างเหมือนแม่ทัพหญิงมากจริง ๆ หลังจากตั้งสติได้ ผู้กำกับก็กวักมือเรียก
หลังฟังผู้กำกับสั่งให้เลิกกองได้ ทีมงานต่างเก็บอุปกรณ์พร้อมกับให้ตัวประกอบทั้งสามร้อยคนไปเปลี่ยนชุดคืนพวกเขา ส่วนฟู่หยุนชิงเองก็ไปเปลี่ยนชุดและรอไปล้างหน้าล้างตาที่โรงแรมก่อนจะนั่งทานข้าวเย็น ไม่นานนักทุกคนก็แยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตนเองตามที่ทีมงานบอก ส่วนฟู่หยุนชิงที่เปลี่ยนชุดเสร็จแล้วขอตัวไปล้างหน้าที่โรงแรมก่อนใครเพื่อน เธอเดินตามหลังผู้กำกับกับนักเขียนบทไม่ไกลนัก ฟู่หยุนชิงไม่ชอบประจบประแจง เธอจึงเดินตามไปห่าง ๆ เท่านั้น กระทั่งไปถึงโรงแรม ฟู่หยุนชิงก็ไปที่ห้องน้ำเพื่อล้างเครื่องสำอางออกให้หมดก่อนจะออกมาทานอาหารที่ทางโรงแรมเตรียมเอาไว้ให้แล้ว ฟู่หยุนชิงนั่งทานข้าวไม่นานนักก็ขอตัวกลับไปพักผ่อนที่ห้องทันที วันนี้เธอหมดแรงไม่น้อย ฟู่หยุนชิงจึงอยากเดินลมปราณเพื่อให้ร่างกายกลับมากระปรี้กระเป่าเหมือนเดิมเสียก่อน อย่างไรฉากในวันนี้เธอคิดว่าทำได้ดีแล้วจึงไม่น่าจะมีสิ่งใดต้องแก้ไข โชคดีที่ตัวประกอบทั้งหมดเองก็แสดงได้ดีทำให้ไม่ต้องเทคเลยสักเทคเดียว เมื่อกลับถึงห้องแล้ว ฟู่หยุนชิงก็ไปอาบน้ำล้างหน้าอีกรอบก่อนที่จะไปนั่งที่เตียงเพื่อเดิมลมปราณและสะสมพลังปราณเพิ่มอ
หลังทานอาหารเสร็จแล้ว ฟู่หยุนชิงก็กลับห้องไปนั่งเดินลมปราณของตนเองต่อไป เธอต้องใช้เวลาที่เหลืออยู่ให้เต็มที่ก่อนที่จะเดินทางกลับในวันพรุ่งนี้ ฟู่หยุนชิงสะสมลมปราณอย่างไม่เร่งรีบเพราะเกรงว่าธาตุไฟจะเข้าแทรกหากเธอรีบร้อนมากเกินไป กระทั่งถึงช่วงเย็นของวัน บรรดานักแสดงที่ไปถ่ายทำที่เมืองโบราณก็กลับมาทานอาหารเย็น ฟู่หยุนชิงทักทายทุกคนพร้อมรอยยิ้มแล้วนั่งทานข้าวของเธอต่ออย่างไม่เร่งร้อน ผู้กำกับเห็นว่าเธอนั่งอยู่คนเดียวเขากับผู้เขียนบทจึงพากันไปนั่งกับฟู่หยุนชิงเพื่อพูดคุยถึงเรื่องในอนาคตว่าหากมีหนังดี ๆ อีก เขาจะเชิญฟู่หยุนชิงมาแสดงจะได้หรือไม่“ยินดีค่ะผู้กำกับ ถ้าหากมีงานเรื่องใหม่ที่เหมาะกับฉัน แค่ผู้กำกับไม่ลืมนักแสดงตัวเล็ก ๆ อย่างฉัน ฉันก็ดีใจแล้วค่ะ”“ฮ่า ฮ่า พูดได้ดี พูดได้ดี เอาล่ะรีบกินข้าวเถอะ เดี๋ยวฉันจะให้ทีมงานนำเช็คเงินสดค่าตัวของเธอมาให้นะ กลับไปก็อย่าลืมเอาเข้าบัญชีไว้ล่ะ”“ขอบคุณมากค่ะผู้กำกับ” พวกเขาพูดคุยกันไม่นานนักก่อนที่ฟู่หยุนชิงจะทานอาหารอิ่มแล้วขอตัวกลับห้องไปก่อนพวกเขา ผู้กำกับกับนักเขียนบทเองก็ปล่อยให้เธอไปตามที่ฟู่หยุนชิงต้องการ อย่า
ฟู่หยุนชิงนั่งในที่นั่งตนเองพร้อมมองออกไปนอกหน้าต่าง เธอยังไม่รู้สึกเลยว่ามีใครมานั่งด้านข้างตนเอง นับว่าเป็นการดีกับการที่เธอจะสะสมพลังปราณอย่างสงบ กระทั่งเสียงแอร์โฮสเตสเริ่มประกาศให้รัดเข็มขัดก็ไม่พบว่ามีใครจะมานั่งข้างเธอ ฟู่หยุนชิงรู้สึกดีใจไม่น้อย เธอสงสัยว่าน่าจะเป็นช่วงโลว์ซีซั่นซึ่งคนเดินทางน้อยเป็นแน่ เครื่องบินเที่ยวนี้จึงมีผู้โดยสารไม่เต็มเครื่อง ไม่นานนักเครื่องก็เริ่มการเทคออฟ ฟู่หยุนชิงรอจนกว่าเครื่องบินจะขึ้นไปจนถึงเพดานบินจึงจะเริ่มสะสมพลังลมปราณ เธอไม่อยากเริ่มต้นตอนที่เครื่องบินยังสั่นอยู่ ฟู่หยุนชิงนั่งทำสมาธิก่อนจะเริ่มการสะสมลมปราณอย่างช้า ๆ เธอไม่รับรู้รอบข้างเลยแม้แต่น้อย อีกทั้งเธอยังหลับตาเหมือนคนกำลังหลับอยู่ จึงทำให้แอร์โฮสเตสไม่สอบถามความต้องการของเธอเหมือนกับขามาเมืองฟู่ไห่ เกือบสองชั่วโมงต่อมา มีเสียงประกาศดังจากนักบินว่าเครื่องกำลังจะลงแล้ว ฟู่หยุนชิงที่สะสมพลังปราณจนถึงอีกก้าวเดียวเธอก็จะผ่านปราณขั้นสามแล้ว จึงค่อย ๆ ลืมตาขึ้นอย่างช้า ๆ เธอมองออกไปนอกหน้าต่างซึ่งภาพด้านล่างกำลังใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ อย่างเพลินตา กระ
หลังกินอาหารเสร็จแล้วฟู่หยุนชิงจึงนำเสื้อผ้าออกมาจากตู้และเลือกเอาเสื้อผ้าที่ดูดีพอที่จะขายได้ใส่ถุงผ้าขนาดใหญ่จนเกือบหมดตู้ ส่วนที่เหลือเล็กน้อยรวมทั้งกางเกงขาสั้นนั้นเธอเห็นว่ามันไม่เหมาะที่จะขายจึงไม่นำใส่ถุงไปด้วย ฟู่หยุนชิงนั่งสมาธิปรับพลังปราณให้มั่นคงยิ่งขึ้นเพื่อรอเวลาที่เธอจะออกไปตั้งแผงที่ตลาดนัดในช่วงบ่ายสามโมง ส่วนราคาที่จะขายเธอก็คิดเอาไว้แล้วว่าแต่ละตัวจะต้องขายเท่าไหร่ เธอตั้งใจจะลด 50% จากราคาที่ร่างเดิมซื้อมาจะได้ขายออกได้เร็ว ๆ อย่างไรฟู่หยุนชิงก็ไม่ถนัดเรื่องการค้าขายมาแต่ไหนแต่ไร เธอจึงอยากรีบขายออก แต่ก่อนที่จะปรับพลังปราณ โทรศัพท์ของฟู่หยุนชิงก็มีข้อความว่ามีเงินเข้าบัญชีห้าหมื่นเหรียญ ทำเอาฟู่หยุนชิงยิ้มแป้นที่ในที่สุดเงินก้อนแรกที่เธอมาทำงานในภพนี้ก็เข้ามาเสียที ต่อไปเธอก็สามารถใช้โทรศัพท์จ่ายเงินค่าสินค้าได้แล้ว เพราะก่อนหน้านี้เงินในบัญชีของเธอเหลือเพียงห้าร้อยเหรียญเท่านั้น ทำให้เธอต้องประหยัดค่าใช้จ่ายอย่างบ้าคลั่ง หลังได้รับการแจ้งเตือนแล้ว ฟู่หยุนชิงก็นั่งสมาธิทันทีจะได้ไม่เสียเวลาไปมากกว่านี้ เป็นเพราะเธอกินข้าวเช้าเอาตอนเกือบ
เมื่อกลับถึงห้องพักแล้ว ฟู่หยุนชิงก็นำเสื้อผ้าที่ซื้อมาทั้งหมดใส่ตะกร้ารอซักในวันพรุ่งนี้ อย่างไรช่วงนี้เธอก็ไม่มีงาน เธอจึงอยากใช้เวลาในการจัดการเรื่องส่วนตัวของตนเองให้เรียบร้อยเสียก่อน วันนี้เธอกลับมาเสียค่ำมืด ถุงแกงที่ซื้อมาแต่เช้าไม่รู้ว่ายังกินได้หรือไม่ ฟู่หยุนชิงเดินไปตรวจสอบดูแล้วพบว่ายังกินได้อยู่ เธอจึงนำถ้วยชามมาใส่แกงกับข้าวแล้วนั่งกินอย่างคนที่กำลังหิวโซ เป็นเพราะเธอมัวแต่จะหาเงินเลยไม่ได้ทานอาหารเที่ยงก่อนจะออกไปขายของ ทำให้กลับมาถึงห้องแล้ว ท้องน้อย ๆ ของเธอก็ร้องประท้วงจนต้องหาอะไรกินนี่แหละ หลังจากกินอาหารล้างถ้วยชามเสร็จแล้ว ฟู่หยุนชิงรีบอาบน้ำก่อนที่จะค่ำมากไปกว่านี้ วันนี้เธอนั่งตากแดดขายของอยู่หลายชั่วโมงจึงต้องรีบอาบน้ำทาครีมบำรุงผิวให้ดีเสียก่อน ไม่อย่างนั้นผิวพรรณของร่างเดิมคงจะหยาบกร้านเหมือนผิวในภพชาติก่อนของเธอเป็นแน่ คืนนี้ฟู่หยุนชิงพักการสะสมลมปราณ เธอเพียงแค่เดินลมปราณสองสามรอบก่อนจะนอนพักผ่อนเพื่อจะได้ซักเสื้อผ้าจำนวนมากในวันพรุ่งนี้หลังจากกลับจากซื้ออาหารเช้า รุ่งเช้าวันต่อมา ฟู่หยุนชิงรีบทำกิจวัตรประจำวันของเธอก่อนท
รุ่งเช้าวันที่ฟู่หยุนชิงต้องไปแคสติ้งงาน เธอตื่นตั้งแต่ตีสี่อาบน้ำแต่งตัวในชุดสุภาพและเดินทางง่าย โดยใส่เสื้อเชิ้ตกับกางเกงสแล็คพร้อมรองเท้าส้นเตี้ยเท่านั้น ฟู่หยุนชิงคิดว่าหากเธอใส่กระโปรงไปคงลำบากในการขึ้นลงรถเมล์เป็นแน่ เธอจึงได้เลือกใส่เสื้อผ้าเช่นนี้ ฟู่หยุนชิงมองตนเองในกระจกเพื่อตรวจสอบการแต่งตัวอีกครั้งว่ามีตรงไหนไม่เรียบร้อยหรือไม่ เมื่อเห็นว่าทุกอย่างไม่มีจุดใดที่ต้องแก้ไขแล้ว ฟู่หยุนชิงก็ทาครีมเหมือนร่างเดิมก่อนจะเดินทางออกจากห้องพักไปยังป้ายรถเมล์หน้าปากซอย ตอนนี้ฟ้ายังไม่สว่าง ฟู่หยุนชิงเห็นว่าไม่มีคนจึงใช้วิชาตัวเบาไปที่ป้ายรถเมล์เพื่อความรวดเร็ว เธอนั่งรอรถอยู่ประมาณยี่สิบนาที รถรอบแรกก็มาตามที่เธอคาดการเอาไว้แต่แรก ฟู่หยุนชิงลุกจากที่นั่งไปรอขึ้นรถริมฟุตบาท ไม่นานนักรถก็มาจอดพร้อมกับเปิดประตู ฟู่หยุนชิงเดินขึ้นไปพร้อมจ่ายเงินที่กล่องจ่ายเงินอัตโนมัติแล้วจึงเดินไปหาที่นั่งริมหน้าต่างซึ่งเป็นที่นั่งเดี่ยวเหมือนที่เธอชอบ รถเมล์ขับไปจอดไปจนกระทั่งถึงป้ายที่เธอจะต้องเปลี่ยนสายรถแล้ว ฟู่หยุนชิงลุกขึ้นเดินไปรอลงที่ประตูทันที ไม่นานนักรถก็จอดใ
“ไม่ว่าลูกสาวหรือลูกชาย ผมก็ชอบทั้งนั้นที่รัก ขอบคุณนะครับที่ยอมเหนื่อยตั้งท้องให้ผมกับลูกได้มีลูกสาวอีกคน”“ใช่ครับ ๆ แม่เก่งที่ซู๊ดเลย หลังจากนี้ผมจะปกป้องน้องสาวเป็นอย่างดีนะครับแม่ไม่ต้องเป็นห่วง เห็นมั้ยครับพ่อ ผมบอกแล้วว่าต้องเป็นน้องสาว ฮิ ฮิ”“ครับผม ลูกชายพ่อเก่งมากเลย เราปล่อยให้แม่นอนพักผ่อนกันก่อนดีกว่า”“ที่รักนอนพักก่อนเถอะนะ รอให้ลูกตื่นก่อนคุณค่อยลุกมาให้นมก็แล้วกัน”“ได้ค่ะ คุณกับลูกก็นอนพักก่อนนะคะ เดี๋ยวพอลูกสาวเราตื่นคงไม่ได้พักผ่อนกันแน่เลย ท่าทางลูกสาวคนจะซนกว่าพี่ชายน่าดู กว่าฉันจะคลอดได้เลยเสียเวลาไปเยอะ”“ฮ่า ฮ่า จริงเหรอที่รัก ไม่ต้องกังวลไป อย่างไรเสี่ยวหมิงน่าจะดูแลน้องได้นะ” เหอจิ้งเกาจูบหน้าผากภรรยาแล้วอุ้มเสี่ยวหมิงหอมแก้มแม่ให้นอนพักผ่อน ส่วนพวกเขาพ่อลูกก็เข้าไปนอนที่เต
หลังหนังจบ เหอจิ้งเกาเห็นว่าภรรยากับลูกชายง่วงมากแล้ว เขาจึงไม่ให้ทั้งสองคนให้สัมภาษณ์นักข่าวหรือพูดคุยกับแฟนคลับ ซึ่งเขาสั่งให้บอดี้การ์ดไปบอกแฟนคลับของฟู่หยุนชิงเอาไว้ก่อน เพื่อที่พวกเขาจะได้ไม่เข้าใจฟู่หยุนชิงผิดสัปดาห์ต่อมา รายได้ของหนังที่ฟู่หยุนชิงแสดงยังขึ้นเป็นอันดับหนึ่งในบ็อกซ์ออฟฟิศเหมือนเคย ทำให้ผู้กำกับและทีมงานต่างดีใจที่หนังเรื่องนี้คนดูชอบและนักวิจารณ์ยังกล่าวถึงหนังไปในทางบวกแทบทุกคน เหล่าแฟนหนังยังอยากดูภาคสองของเรื่องนี้อีกต่างหาก เสียดายที่ฟู่หยุนชิงต้องหยุดถ่ายทำเพื่อเลี้ยงลูกก่อน ทำให้ผู้กำกับไม่อยากนำคนอื่นมาแสดงแทน เขาตั้งใจจะรอฟู่หยุนชิงคนเดียวห้าเดือนต่อมา ตอนนี้ใกล้กำหนดคลอดของฟู่หยุนชิงเข้าไปทุกที เหอจิ้งเกาที่กลัวภรรยาจะคลอดก่อนกำหนดอีกจึงขอร้องให้ฟู่หยุนชิงไปพักที่ รพ.ก่อนสักสองสามวัน แน่นอนว่าพวกเขาพ่อลูกก็จะไปอยู่เป็นเพื่อนเธอด้วย&n
ก่อนที่เหอจิ้งเกาจะเคลียร์งานเสร็จในเดือนถัดมา ฟู่หยุนชิงก็จำเป็นต้องเข้าร่วมงานเปิดตัวหนังรอบปฐมทัศน์ เหอจิ้งเกาจึงพาเสี่ยวหมิงไปให้กำลังใจและคอยดูแลฟู่หยุนชิงด้วย เพราะตอนนี้ท้องของฟู่หยุนชิงเริ่มขยายใหญ่มากขึ้นเนื่องจากใกล้เข้าสู่เดือนที่สี่ของการตั้งครรภ์แล้ว ระหว่างทางที่กำลังจะไปยังโรงหนังในห้างสรรพสินค้าใหญ่ของเหอจิ้งเกา ฟู่หยุนชิงได้แต่บ่นว่าสามีห่วงมากเกินไป“ความจริงฉันมากับลูกก็ได้นะคะ มันทำให้คุณเสียเวลาทำงานไปด้วยโดยใช่เหตุ”“เฮ้อ ที่รัก ผมจะปล่อยให้คุณกับลูกมากันเองได้ยังไง ในเมื่องานนี้มีคนเข้าร่วมมากมาย หากใครชนท้องคุณเข้าจะทำยังไงล่ะที่รัก เชื่อผมเถอะ รับรองว่าผมไม่กวนตอนคุณอยู่บนเวทีแน่ที่รัก”“ใช่ครับแม่ ให้พ่อพามาดีแล้วครับ ผมเองก็เป็นห่วงเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน เพราะคนน่าจะเยอะมากจริง ๆ นะครับแม่”“เอาล่ะ ๆ ยังไงก็มากันแล้วนี่นะ แม่จะไม่บ่นแล้วก็ได้”
ระหว่างที่ฟู่หยุนชิงกำลังตั้งครรภ์อยู่นั้น เหอจิ้งเกาก็ให้ลูกน้องนำงานมาให้ทำที่บ้าน เพราะเขาอยากดูแลลูกกับภรรยาด้วยตัวเอง กระทั่งสามวันต่อมาที่เป็นวันนัดของหมอเพื่อตรวจครรภ์ของฟู่หยุนชิงมาถึง ทั้งสามคนต่างเตรียมตัวกันตั้งแต่เช้า หลังอาหารเช้าพวกเขาจึงออกจากบ้านเพื่อไปที่ รพ. ระหว่างนั่งรถอยู่นั้น ฟู่หยุนชิงก็คุยกับสามีเรื่องลูกคนที่สอง“คุณคะ ครั้งนี้เรามาลุ้นกันดีไหมคะว่าลูกจะเป็นชายหรือหญิง ฉันไม่อยากรู้ก่อนเหมือนตอนเสี่ยวหมิงน่ะค่ะ ดีไหมลูก”“ได้จ๊ะ ผมตามใจคุณอยู่แล้ว เรารอลุ้นก็สนุกดีเหมือนกันนะ”“ดีครับแม่ ผมอยากลุ้นว่าน้องของผมจะเป็นเด็กผู้ชายหรือเด็กผู้หญิง อีกตั้งหลายเดือนกว่าที่แม่จะคลอดน้องอ่ะ ยังไงผมจะช่วยแม่ดูแลน้องหลังคลอดนะครับ”“ขอบใจมากจ๊ะลูก แล้วลูกอยากไปโรงเรียนตอนกี่ขวบ แม่เห็นส่วนใหญ่เด็กสามขวบก็เข้าเรียนอนุบาลกันแล้วนะ”
เมื่อพวกเขามาถึงร้านนาฬิกา พนักงานในร้านรีบออกมาต้อนรับฟู่หยุนชิงเช่นกันกับพนักงานร้านก่อนหน้านี้ พวกเขาได้รับข่าวมาก่อนหน้าจากร้านเสื้อผ้าแล้วว่าภรรยาของท่านประธานกับนายน้อยมาเดินเล่นที่นี่ ด้วยการข่าวอันฉับไว ทุกร้านในห้างจึงเตรียมพนักงานเอาไว้ต้อนรับกันแต่แรกแล้ว“ไม่ทราบว่าคุณมีนาฬิกาคู่รักหรือเปล่าคะ? กับนาฬิกาของเด็กขนาดเดียวกับแขนลูกชายของฉัน”“มีทั้งสอบแบบเลยค่ะ เชิญคุณลูกค้าตามดิฉันมาดูนาฬิกาคู่รักก่อนนะคะ พอดีเพิ่งมีคอลเลคชั่นใหม่ออกมาเมื่อสัปดาห์ก่อน เผื่อว่าคุณลูกค้าถูกใจ” ฟู่หยุนชิงพยักหน้ารับคำและเดินตามพนักงานไปพร้อมอาหยงที่อุ้มเหอเสี่ยวหมิงอยู่ ส่วนอาเหว่ยก็เดินตามหลังฟู่หยุนชิงไปไม่ไกลเช่นกัน อาเหว่ยได้แต่คิดว่าตอนนี้ทั้งห้างคงรู้แล้วว่านายหญิงมา ดูจากการบริการที่รวดเร็วและไม่ถามที่มาที่ไปแบบนี้ นับว่าผู้จัดการห้างมีความสามารถไม่น้อยที่แจ้งข่าวให้ร้านต่าง ๆ ทราบภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโม
ระหว่างทางไปยังบริษัท เลขารายงานเรื่องเมื่อวานให้กับเหอจิ้งเกาทราบทุกอย่าง อีกทั้งวันนี้เขาจะไปหาทนายของบริษัทเพื่อให้ทำเรื่องแจ้งความและส่งฟ้องหวงเหมยหงและลี่ลี่อีกครั้งหนึ่ง“คุณทำได้ดีมาก รอสิ้นปีผมจะเพิ่มโบนัสให้กับทุกคนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้อีกที ถือว่าเป็นรางวัลสำหรับการช่วยรักษาชื่อเสียงภรรยาของผมก็แล้วกัน”“ขอบคุณครับเจ้านาย” เลขากับบอดี้การ์ดที่ช่วยเหลืองานเมื่อวานนี้ไม่คิดว่าพวกเขาจะได้รับรางวัลในการทำงานครั้งนี้ด้วย นับว่าเจ้านายใจดีมากขึ้นตั้งแต่มีครอบครัว พวกเขาที่ได้รับเงินเดือนไม่น้อยต่างก็ดีใจที่เจ้านายมีความสุขและเผื่อแผ่ความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ มาให้พวกเขาเช่นนี้ ฟู่หยุนชิงที่อยู่บ้านกับเหอเสี่ยวหมิงวันนี้ เธอเรียกอาหยงกับอาเหว่ยมาสอบถามเรื่องราวเกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ ที่สามีทำให้เธออยู่เบื้องหลัง เธอแน่ใจว่าเรื่องแบบนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที
เหอจิ้งเกาใช้เวลาไม่นานในการซื้อของ เขาอยากรีบกลับไปทำอาหารให้ฟู่หยุนชิงจะแย่แล้ว บอดี้การ์ดเองก็รีบขับรถกลับบ้านให้เจ้านายตามที่พวกเขาเห็นว่าเจ้านายดูเร่งรีบไม่น้อย เมื่อถึงบ้านแล้ว เหอจิ้งเกาก็เห็นพ่อบ้านมายืนรออยู่แล้ว บอดี้การ์ดช่วยถือวัตถุดิบอาหารเข้าไปยังห้องครัวให้กับเหอจิ้งเกา เขาบอกพ่อบ้านว่ามื้อเย็นเขาจะทำอาหารเอง ให้แม่บ้านทำอาหารให้กับพวกบอดี้การ์ดกับพวกเขาก็พอ พ่อบ้านรับคำเหอจิ้งเกาแล้วเดินไปบอกกับแม่บ้านทั้งสองคนให้ไปทำอาหารที่ครัวของอีกตึกหนึ่งซึ่งพวกเขาอาศัยอยู่ คราแรกแม่บ้านทั้งสองคิดว่าเจ้านายไม่พอใจอาหารของพวกเธอก็พากันตกใจไม่น้อย แต่พอพ่อบ้านบอกว่าเจ้านายอยากทำอาหารให้นายหญิงด้วยตัวเองเท่านั้น พวกเธอจึงได้เบาใจลง พวกเธอไม่อยากหางานใหม่เพราะอายุที่มากแล้วและที่นี่ก็ให้ค่าตอบแทนสูงมากอย่างน่าตกใจแต่ก็ต้องแลกมาด้วยการต้องพักที่นี่และทำความสะอาดบ้านหลังใหญ่ช่วยกันทั้งสี่คน  
หวงเหมยหงกับลี่ลี่ที่ถูกเหอจิ้งเกาจัดการไม่ให้มีงานในวงการก่อนหน้านี้พอได้ข่าวเรื่องเหอจิ้งเกากับฟู่หยุนชิงก็ได้แต่คิดอิจฉาและแค้นใจที่เหอจิ้งเกาทำกับพวกเธอแบบนี้ ทั้งสองคนไม่อยากให้พวกเขาอยู่กันอย่างมีความสุขง่าย ๆ จึงได้จ้างโกสต์เพื่อแพร่ข่าวว่าฟู่หยุนชิงวางยาเหอจิ้งเกาจนต้องรับผิดชอบในปีนั้น แถมยังสร้างข่าวเสีย ๆ หาย ๆ ของฟู่หยุนชิงมากมายอีกด้วย เลขาที่ให้คนคอยติดตามข่าวอยู่ตลอดรู้ในทันทีที่มีข่าวแพร่ออกมา เขารีบแจ้งให้เจ้านายทราบอย่างเร่งด่วนว่าจะจัดการเรื่องนี้ยังไง“ให้คนสืบว่าใครเป็นคนทำ และปิดข่าวอย่าให้ฟู่หยุนชิงรู้ เดี๋ยวเธอจะไม่สบายใจ”“ได้ครับเจ้านาย แล้วถ้ารู้ตัวคนทำแล้วจะให้ทำยังไงต่อไปดีครับ”“ค้นหาเรื่องราวของคนทำที่ทำเรื่องสกปรกออกมาให้หมด แล้วส่งให้สำนักข่าวทุกสำนัก รวมทั้งให้คนกระจายข่าวออกไปตามสื่อโซเชียลด้วย หลังจากได้หลักฐานว่าใครเป็นคนสร้างข่าวเสีย
หลังทานอาหารเสร็จแล้ว เหอจิ้งเกาให้พ่อบ้านพาเขาไปดูห้องที่จัดเตรียมเอาไว้ให้เขากับฟู่หยุนชิงและเหอเสี่ยวหมิง พ่อบ้านรีบรับคำและเดินนำเจ้านายทั้งสามไปอย่างช้า ๆ เขารู้มาก่อนแล้วว่านายหญิงกำลังท้องอยู่จึงไม่กล้าเดินเร็วเกินไปนักด้วยกลัวจะเกิดอุบัติเหตุ ถึงแม้ว่าเจ้านายจะจับมือนายหญิงอยู่ก็เถอะ เขาก็ควรจะต้องระวังเอาไว้ให้มากจะดีที่สุด พ่อบ้านพาทุกคนไปดูห้องใหญ่ของเหอจิ้งเกากับฟู่หยุนชิงก่อนที่ปีกซ้ายชั้นสองของบ้าน ห้องนอนใหญ่มีห้องน้ำกว้างขวางในตัว รวมทั้งยังมีตู้เสื้อผ้าแบบบิวอินที่กว้างพอ ๆ กับห้องอีกห้องหนึ่งอยู่ติดกับห้องน้ำและมีประตูเปิดเข้าไปได้ อีกด้านหนึ่งของห้องมีระเบียงกว้าง โต๊ะและเก้าอี้สำหรับนั่งพักผ่อนชมวิวทิวทัศน์ด้านหลังบ้านซึ่งมองเห็นทะเลสาบและสวนดอกไม้อยู่ ฟู่หยุนชิงกับเหอเสี่ยวหมิงที่เห็นทุกอย่างตามที่พ่อบ้านอธิบายก็พอใจมากกับห้องที่เขาเลือกให้เธอและเหอจิ้งเกา หลังจากที่สำรวจดูคร่าว ๆ แล้ว ฟู่หยุนชิงจึงบอกพ่อบ้า