ตกเย็นวันเดียวกันวานิลเผลอหลับไปเพราะเหนื่อยล้าจากการที่ไม่ได้นอนทั้งคืน เธอตื่นขึ้นมาตอนบ่าย ก่อนจะฝากลูกไว้กับศรัณย์เพราะต้องกลับไปเอาเสื้อผ้า เอาของใช้ต่างๆ มาเตรียมพร้อมสำหรับเฝ้าลูกในคืนนี้ร้านดอกไม้ก็ต้องปิดเพราะเธอต้องดูแลลูกก่อน หลายอย่างหยุดชะงักไปหมด แต่เธอก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรหรอก เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นกันได้โรงพยาบาลขณะที่กำลังจะเดินเข้าไปในห้องพักของลูกชาย เธอชะงักเพราะเสียงจากคนด้านในที่กำลังสนทนากัน ก่อนจะค่อยๆ แง้มประตูเพื่อดูสองคนด้านใน เธอเห็นศรัณย์กำลังป้อนข้าวให้ตะวันอยู่ และดูเหมือนว่าเจ้าตัวจะเจริญอาหารมากด้วย ปกติเวลาป่วยแกจะไม่ค่อยกินอะไรเท่าไหร่จู่ๆ ภาพตรงหน้ามันก็ดันทำให้เธอยิ้มออกมา ที่ผ่านมาเธอไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะได้มาเจอเธอกับลูกแบบนี้ ไม่เคยคิดเลยเขาปรากฏตัวเข้ามาในชีวิตของอีกครั้ง หลังจากที่ไม่ได้เจอกันหลายปี แม้เธอจะพยายามไล่ให้เขาออกไปจากชีวิต แต่มันก็ไม่เหมือนเดิมแล้วเพราะตอนนี้เธอมีลูกและตะวันก็เป็นลูกของเขาเธอโกหกไม่ได้แล้วล่ะ ตอนนี้แค่ต้องคิดว่าจะเอายังไงต่อ จะทำแบบนี้ต่อไป หรือจะยอมให้เขากลับเข้ามาในชีวิตอีกครั้งแต่นั่นก็เป็นเรื่องในอนาคตแ
หลายวันถัดมาคุณหมออนุญาตให้ตะวันกลับมาพักฟื้นที่บ้านได้ แต่ก็ยังไปโรงเรียนไม่ได้อยู่ดี เพราะยังไม่หายสนิท ไม่อย่างนั้นจะเอาไปติดเพื่อนๆ ได้"แม่นิลฮะ คุณลุงต้องกลับจริงๆ เหรอฮะอยู่กับเราไม่ได้เหรอ?"วานิลหันไปมองศรัณย์ก่อนจะหันกลับมาคุยกับลูกชาย"ไม่ได้หรอกครับ คุณลุงต้องทำงาน คุณลุงอยู่ที่โรงพยาบาลกับตะวันตั้งหลายวัน ก็ต้องให้คุณลุงกลับบ้านบ้างสิครับ""ที่จริง..."ศรัณย์กำลังจะพูดแต่พอวานิลหันกลับไปมองตาขวาง เขาก็ไม่กล้าพูดอะไรต่ออีก"ถ้าอย่างนั้น คุณลุงส่งตะวันนอนก่อนได้ไหมครับ แล้วค่อยกลับ""ได้เลยสิครับ ห้องนอนของตะวันอยู่ตรงไหน พาลุงไปหน่อย""ทางนี้ครับ"วานิลได้แต่ยืนมอง เธอไม่เข้าใจเลยจริงๆ ว่าทำไมลูกชายของเธอถึงได้ไปสนิทสนมกับเขาได้มากขนาดนั้น ทั้งที่เพิ่งจะรู้จักกันแท้ๆ ขนาดคุณหมอที่ดูแลและรู้จักรู้ใจมาตั้งแต่เล็กแต่น้อย ยังไม่สนิทกันถึงขนาดนี้เลยหรือมันจะเป็น สัญชาตญาณ ของสายเลือดเดียวกัน ที่มักจะเข้ากันได้โดยที่ยังไม่รู้อะไรมาก่อนว่าเป็นพ่อลูกกันเรื่องนั้นมันก็อาจจะเป็นไปได้ ก็เขาเป็นพ่อเป็นลูกกันนี่นาเธอเดินตามเข้าไป ไหนๆ ก็มาถึงขั้นนี้แล้ว เธอไม่ได้ห้าม และต่อให้ห้ามไ
สวนสนุกในฮ่องกงวานิลพาลูกชายมาเที่ยวเพราะสัญญาเอาไว้ว่าถ้าหายดีแล้วจะพาไปเที่ยว และครั้งนี้มันก็ไม่พ้นศรัณย์ตามมาอีกเหมือนเดิม ไม่ว่าเธอจะทำอะไร ไปที่ไหน จะต้องมีเขาอยู่ตรงนั้นด้วยตลอด และด้วยความที่ลูกชายก็อยากให้เขาไป เธอเลยขัดอะไรไม่ได้ จึงต้องนั่งรถมาพร้อมกับเขา"วันนี้เราไปเที่ยวสวนสนุกแล้ว ไปไหนต่อกันอีกดีครับ""อืม...""เที่ยวสวนสนุกแล้ว แม่ว่ากลับบ้านจะดีกว่านะครับ เดี๋ยวตะวันจะไม่สบายอีก" วานิลพูดขัด"แต่ตะวันหายดีแล้วนะฮะ""นั่นสิคุณ ลูกก็หายดีแล้วนะ" ศรัณย์พูด"เที่ยวแค่สวนสนุกก่อนนะครับ เอาไว้โรงเรียนปิดเมื่อไหร่ แม่จะพาไปเที่ยวอีก แม่สัญญา" วานิลให้คำมั่นสัญญากับลูกชายเป็นมั่นเป็นเหมาะ โดยที่ไม่ได้สนใจว่าศรัณย์จะพูดอะไร เธอทำเป็นหูทวนลมไม่ได้ฟังคำพูดของเขาเลยด้วยซ้ำ"แต่ตะวันกลัวว่าจะไม่ได้เที่ยวกับคุณลุงอีก""คุณลุงเขาก็ต้องไปทำงานนะครับ ทุกคนมีงานเป็นของตัวเอง ขนาดตะวันยังต้องไปโรงเรียนเลย""ก็ได้ฮะ..."เด็กน้อยทำหน้าเศร้า เพราะกลัวว่าจะไม่ได้เจอกับคุณลุงอีก ไม่นานนักก็มาถึงสวนสนุก และคนที่พาตะวันขึ้นไปเล่นของเล่นต่างๆ ก็คือศรัณย์ ส่วนวานิลนั้นก็รออยู่ข้างล่างตลอดเวลา
ร้านดอกไม้ Tawan Flower Shop "ผมช่วยนะครับ" ยังไม่ทันที่เธอจะได้พูดอะไร ศรัณย์ก็แย่งของในมือของเธอเดินไปแล้วเขานี่มันจริงๆ เลยนะ นับวันยิ่งหนักมากขึ้น มาหาเธอทุกวันจนตัวเองไม่ต้องทำงานเลยหรือไง ไล่ก็ไม่ไป พูดยังไงก็ไม่รู้สึก จนเธอเริ่มเอือมระอาแล้วเขาทำเหมือนตัวเองว่าง ไม่มีงานต้องทำ คอยตามตอแยเธออยู่นั่นแหละ"ตอนเย็นใครไปรับตะวันเหรอครับ?""ปกติตะวันกลับรถรับส่ง""อ้าว ผมนึกว่าคุณเป็นคนไปส่งตะวันเองซะอีก วันนั้นเห็นไปรับ""......" เธอไม่ได้ตอบ เพราะไม่อยากคุยด้วย"ผมช่วยนะครับ""อ๊ะ!"เขาจะแย่งดอกไม้ในมือของเธอไป แต่เธอก็ยื้อเอาไว้ซะก่อน จึงทำให้หนามตรงก้านโดนนิ้วของเธอและมีเลือดไหลออกมา"ผะ ผมขอโทษครับ เจ็บมากไหม" ศรัณย์รีบหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมา แต่ผ้าเช็ดหน้าผืนนั้นกลับสะดุดตาจนวานิลต้องแย่งจากมือของเขาไปดูก่อนที่มันจะเปื้อนเลือด"นี่มันผ้าเช็ดหน้าของตะวันหนิ ไปอยู่ที่คุณได้ยังไง?" เธอเอ่ยถาม เพราะจำได้และก็เอะใจ เพราะตอนที่ซักผ้า เธอเห็นว่ามันหายไปผืนนึง ก็ไม่คิดว่าจะไปอยู่ที่เขา เธอคิดว่าตะวันคงไปทำหล่นหายซะอีก"ตะวันเป็นคนให้ผมมาครับ เอ่อ...ให้มาเช็ดน้ำตาน่ะ" พูดแล้วก็เขินนะ เข
ตกดึกในคืนเดียวกัน"ดึกแล้วนะ คุณควรจะนอนได้แล้วสิ ไม่ใช่มาทำงานอยู่แบบนี้" ศรัณย์พูด แต่ถึงจะดึกแล้วเขาเองก็ยังไม่ยอมกลับเหมือนกัน จนตอนนี้ส่งลูกชายนอนหลับเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เขาก็มานั่งเฝ้าวานิลทำงานของเธอต่อ"ก่อนจะบอกให้ฉันไปนอน คุณควรกลับไปมากกว่า""ขอนอนที่นี่ได้ไหม?""ไม่มีที่สำหรับคุณ" ตอบกลับเสียงเรียบเฉย"ใจร้าย" พูดเสียงแผ่ว"บ้านตัวเองก็มี กลับไปนอนบ้านของตัวเองสิ จะมานอนบ้านของคนอื่นทำไม""ไม่ใช่บ้านของคนอื่นนะครับ" เจ้าตัวรีบเถียง ถึงเธอจะมองว่าเขาเป็นคนอื่น แต่เขาไม่เคยมองเธอเป็นคนอื่นเลย"คุณกับฉันเราไม่ได้เป็นอะไรกัน อย่ามาใช้คำคำนี้กับฉัน!""....." พอถูกพูดแบบนั้นใส่พ่อมาเฟียหน้าหวานก็ถึงกับหน้าหงอยไปเลยทันที"ประตูอยู่โน่น เชิญออกไปได้แล้ว""ผมไม่กลับ""นี่! ฉันไล่ขนาดนี้แล้วนะ ยังจะกล้าอยู่อีกเหรอ""ทำไมครับ คุณจะเอาปืนมายิงผมอีกหรือไง?""......" ขณะที่กำลังจัดดอกไม้อยู่นั้น วานิลก็ได้แต่ข่มอารมณ์ เพราะเขารู้ว่าเธอไม่ทำจริง และก็ไม่สามารถทำได้ เขาถึงได้กล้าพูดคำคำนี้ออกมา กล้าที่จะท้าทายเธอ ทั้งที่เขาก็รู้ดี เพราะคนอย่างเธอไม่ควรที่จะท้าทายเลย"เราเองก็โตแล้วนะครั
เช้าวันต่อมา"ตะวันครับ ยังโกรธแม่อยู่เหรอครับ" วานิลเอ่ยถามลูกชาย เพราะเธอไม่ได้คุยกับลูกชายตั้งแต่เมื่อคืน และคืนทั้งคืนเธอก็ข่มตานอนหลับไม่ลงเลย มันเอาแต่คิดฟุ้งซ่านคิดมากไปหมด"เปล่าครับ" เจ้าตัวตอบกลับเสียงเรียบเฉย ทำไมเธอจะไม่รู้ว่านี่เป็นอาการที่ลูกชายของเธอแปลกไป"......""ทำไมแม่นิลถึงไม่บอกล่ะครับ ว่าจริงๆ แล้วคุณลุงเป็นพ่อของตะวัน"ถึงแม้จะเป็นคำพูดของเด็ก แต่ก็เป็นคำพูดที่หนักแน่น สายตาจดจ้องอยู่กับผู้เป็นแม่ด้วยความอยากรู้มันคงถึงเวลาแล้วสินะ ถึงเธอจะคิดเอาไว้อยู่แล้ว แต่เธอก็ไม่ได้คิดว่ามันจะต้องเร็วขนาดนี้ ไม่ว่าจะเรื่องอะไรมันดูเร็วรวบรัดจนเธอปรับตัวตามไม่ทันเลย"มาคุยกันหน่อยได้ไหมครับตะวัน" เสียงของศรัณย์"คุณ!?""ไม่ต้องห่วง ผมจะอธิบายให้ลูกเข้าใจเอง"พูดจบศรัณย์ก็พาตะวันออกไป และด้วยความอยากรู้ อยากรู้ว่าทั้งสองจะคุยอะไรกัน เธอไม่ไว้ใจเขาเลย จึงแอบเดินตามหลังไปอย่างเงียบๆ"ตะวันครับ...""ครับ""เมื่อกี้ตะวันถามแม่ใช่ไหม ว่าทำไมแม่ถึงไม่ยอมบอก ว่าความจริงแล้วลุงคือพ่อ""ครับ""หลายปีก่อน เกิดปัญหาระหว่างเราสองคน ก็เลยต้องแยกจากกัน แม่นิลของตะวันมีตะวันโดยที่ลุงไม่ร
ตอนเย็นหลังเลิกเรียน"คุณลุง...ไม่ใช่ๆ พ่อคร้าบ" เพราะติดเรียกคุณลุงไปแล้ว วันนี้เป็นวันแรกที่ได้รู้ว่าศรัณย์คือพ่อแท้ๆ เลยยังปรับตัวไม่ได้"สวัสดีครับหนุ่มน้อย""อ้าว คุณพ่อมาคนเดียวเหรอครับ?" ตะวันถามพร้อมกับมองไปที่รถ แต่กลับไม่พบผู้เป็นแม่"ครับ แม่นิลให้พ่อมารับ ขายของอยู่ก็เลยไม่ได้มารับ""อ๋อครับ"ปกติตะวันจะขึ้นรถรับส่งกลับบ้าน แต่วันนี้ศรัณย์อาสาที่จะมารับกลับแทน เขาดีใจที่วันนี้วานิลยอมทุกๆ อย่าง ใจดีจนยิ้มแก้มปริอยู่ทั้งวันบนรถ.."คุณพ่อเราจะไปไหนเหรอครับ ทำไมไปทางนี้" ขณะที่กำลังกลับบ้าน หนุ่มน้อยเอ่ยถามขึ้นด้วยความสงสัย เพราะจำทางกลับบ้านได้ ไม่ได้กลับไปทางนี้"แม่นิลของตะวันสั่งให้ซื้อกับข้าวไปครับ เราต้องแวะซื้อของกันก่อน ตะวันจะได้ซื้อช็อคโกแล็ตด้วยไงครับ""ว้าว โอเคครับ""แหม...พอพูดเรื่องขนมแล้วอารมณ์ดีขึ้นมาเชียวนะครับ""ตะวันชอบขนมครับ""รู้แล้วครับ กินเก่งแบบนี้ไง ถึงได้แก้มยุ้ยขนาดนี้""ง่า คุณพ่อชอบล้อแก้มของตะวันเหมือนแม่นิลเลยครับ""....." ศรัณย์หันไปยิ้มให้กับลูกชาย คิดในใจไปด้วยว่า เหมือน เหมือนมาก เหมือนแบบคนคนเดียวกัน แม้นิสัยจะถอดแบบของแม่มา แต่ใดใดแล้วห
ทั้งสามอยู่ด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตา พ่อแม่ลูก เป็นภาพครอบครัวอบอุ่นที่ตะวันอยากมีมานานมากแล้ว นอนด้วยกัน ตื่นเช้ามาเจอกัน วันหยุดไปเที่ยวด้วยกัน เป็นครั้งแรกเลยที่วานิลเห็นลูกชายร่าเริงได้ถึงขนาดนี้ ถึงเมื่อก่อนจะร่าเริงมากแล้วก็เถอะนะ"ตะวันครับรีบๆ เลยสายแล้ว" วานิลพูดเร่งลูกชาย ที่มัวแต่โอ้เอ้ไม่ยอมเร่งรีบสักที ปกติก็เร่งรีบของตัวเองอยู่แล้วนะ แต่พอตอนนี้มีศรัณย์มาคอยหยิบนั่นจับนี่ให้ ก็กลายเป็นเด็กที่เชื่องช้าไปเลย แบบนี้เธอควรจะว่าใครดี พ่อหรือลูก"อะไรกันครับคุณ โรงเรียนอยู่ใกล้แค่นี้เอง ผมขับรถแป๊บเดียวก็ถึงแล้ว" ศรัณย์รีบออกตัวปกป้อง"คุณนั่นแหละตัวดีเลย กลับมาเรามีเรื่องต้องคุยกัน!"น้ำเสียงก็ว่าน่ากลัวแล้วนะ แต่สายตาของเธอน่ากลัวมากกว่าอีก ได้ยินแค่ประโยคเดียวก็เล่นเอาเขาขนลุกจนบอกไม่ถูกแล้ว"รีบไปส่งเลย ลูกจะไปเรียนสาย""คร้าบ..."ศรัณย์ถอดผ้ากันเปื้อนออก ล้างไม้ล้างมือจากนั้นก็ออกไปส่งลูกชายที่โรงเรียนหน้าโรงเรียนของตะวัน..."ตั้งใจเรียนนะครับตะวัน หลังเลิกเรียนพ่อจะมารับ""ครับ คุณพ่อครับ..""หืม?""อย่าทะเลาะกับแม่นิลนะครับ""หึหึ พ่อกับแม่ไม่ได้ทะเลาะกันแล้วนะครับ ใครบอ
เวลาต่อมาสนามบินประเทศไทย"ระวังนะครับตะวัน" ฉันร้องห้ามลูกชาย เมื่อลงมาจากเครื่องเจ้าตัวก็วิ่งไปรอบๆ เหมือนกำลังตื่นเต้น ก็ปกติแหละสำหรับเด็กที่เพิ่งจะได้ออกมาจากโลกของตัวเอง ตะวันไม่เคยไปเที่ยวไหนไกลขนาดนี้มาก่อนเลย"มันแปลกตามากเลยครับแม่""ตะวันครับตะวัน""ปล่อยเถอะครับ แกยังไม่เคยเห็น คนของผมก็อยู่กันเยอะแยะ เขาไม่ปล่อยให้นายน้อยของเขาคลาดสายตาหรอก""....." ฉันไม่ได้ตอบอะไร ถึงเขาจะพูดอย่างนั้นก็เถอะนะ แต่คนเป็นแม่อ่ะ ยังไงก็ห่วงลูกอยู่แล้ว"รถจอดอยู่ทางนี้ครับ" ลูกน้องของเขาเดินมาบอก"มากันเถอะครับนิล ตะวันครับมาขึ้นรถเร็ว""ครับคุณพ่อ"สมกับเป็นเขาจริงๆ นะ แค่เจ้านายกลับมาจากต่างประเทศ ลูกน้องนี่ขนกันมารุมล้อมต้อนรับราวกับว่าจะมีคนมาดักทำร้ายงั้นแหละ ฉันอุตส่าห์จะกลับมาอย่างเงียบๆ แต่นี่คงไม่เงียบแล้วล่ะจะว่าไปหลายปีที่ฉันไม่เคยได้กลับมา อะไรต่อมิอะไรมันเปลี่ยนแปลงไปเยอะเหมือนกันเลยนะเนี่ย มันดูแปลกตาไปเยอะเลย แม้บางอย่างจะอยู่ที่เดิม แต่ก็ปรับเปลี่ยนไปไม่ใช่น้อย"เราจะไปที่ไหนกันครับคุณพ่อ""บ้านของพ่อไงครับ""แล้วแม่นิลมีบ้านที่นี่ไหมครับ""มีครับ""เราจะไปเที่ยวไหนกันบ้างค
เช้าแสนสดใสของวันรุ่งขึ้น"เฮือก!!" วานิลสะดุ้งตื่น เธอรีบลุกขึ้นและมองรอบๆ ตัวเอง พอเห็นว่าพระอาทิตย์ขึ้นจนสว่างจ้าแล้วเธอก็รู้ได้ทันทีว่า มันสายมากแล้ว "รัณ!"ร่างบางรีบลุกขึ้นก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือมาเปิดดู ให้ตายสินี่มันจะสิบโมงแล้ว เธอนอนตื่นสายขนาดนี้ได้ยังไงกัน"ให้ตายสิโอ้ย! ตื่นสายได้ยังไงวะเนี่ย!" เธอบ่นพึมพำกับตัวเองขณะที่กำลังเร่งรีบแต่งตัว เพราะเธอจะลงไปสภาพแบบนี้ไม่ได้หรอกพอแต่งตัวเสร็จเธอก็รีบเดินออกไปที่ประตู แต่ยังไม่ทันที่เธอจะได้เปิดออกไปประตูก็ถูกผลักเปิดเข้ามาซะก่อนแกร๊ก~"คุณ!""ตื่นแล้วเหรอครับ ผมว่าจะขึ้นมาดูอยู่พอดี" ศรัณย์พูด"ตะวันล่ะคุณ?""ไปเรียนแล้วครับ""ตื่นแล้วทำไมไม่ปลุกฉันล่ะ นี่ฉันสายเลยนะ ไหนจะต้องเปิดร้านอีก""ไม่เห็นต้องเร่งรีบเลยครับ พนักงานของคุณเขาจัดการกันเรียบร้อยหมดแล้วนะครับ""....""ทุกอย่างเรียบร้อยหมดแล้วครับ ลงมากินข้าวสิ ผมเตรียมให้แล้ว""เฮ้อ...ตกใจหมด!""ตกใจทำไมครับ มีผมอยู่ทั้งคนนะครับ""ปกติฉันเป็นคนไม่ตื่นสายนะ เล่นมาตื่นสายแบบนี้ ใครบ้างจะไม่ตกใจ""มากินข้าวเถอะครับ""อืม..."วานิลรีบเดินตามศรัณย์ลงไปด้านล่าง เขาทำอาหารไว้ให
"อุ๊บ! อื้อ!!~"วานิลทำตัวไม่ถูก จู่ๆ ศรัณย์ก็โน้มหน้าลงมาจูบปากกับเธอ เรียวลิ้นสอดเข้าไปในปากเล็ก ตวัดไปมาเหมือนควานหาอะไรในปากของเธอ"อื้ม...!!""อืม...อยู่นิ่งๆ สิครับ" น้ำเสียงของอีกฝ่ายแหบพร่า แม้เธอจะขัดขืนแต่เขาก็ไม่ได้หยุดการกระทำของตัวเองนี่มันเป็นครั้งแรกเลยมั้งที่เธอได้จูบกับใคร และมันก็น่าตกใจไม่น้อย เพราะตอนนี้กำลังยืนอยู่ตรงหน้าระเบียง"อืม...""พะ พอ อืม..." วานิลพยายามเบี่ยงหน้าหลบ แต่แล้วก็ถูกเขาประคองให้กลับมาอยู่ในท่าเดิม เริ่มที่จะขัดขืนยากขึ้น เพราะมือทั้งสองข้างถูกล็อคเอาไว้ บวกกับร่างกายที่เหมือนจู่ๆ ก็ร้อนวูบวาบขึ้นมาบอกไม่ถูก"ระ รัณ...!" คราวนี้เธอผลักเขาออกไปได้สำเร็จ แต่ถึงจะจูบกับเธอต่อไม่ได้ ก็ใช่ว่าเขาจะหยุดการกระทำของตัวเองเสียหน่อยจมูกโด่งเริ่มซุกไซ้ตามลำคอขาวต่อจากนั้น คลอเคลียอยู่กับใบหูของเธอจนมาถึงหน้าอก ทำอยู่อย่างนั้นไม่ยอมหยุด เหมือนกับแมวน้อยที่กำลังคลอเคลียเจ้านาย"อะ อืม...พอแล้ว""ตัวคุณหอมจัง""ระ รัณ...""ผมไม่เคยรังเกียจคุณ ผมรักคุณ ผมรักคุณ...""อะ อือ...หยะ หยุดก่อน" เพราะเขาไม่ได้พูดอย่างเดียวเนี่ยสิ มือสองข้างก็เล้าโลม จับตรงนั้นตรง
ตกกลางคืน หลังจากที่ผ่านช่วงเวลาแสนหวานกับศรัณย์มา วานิลกำลังนั่งคิดอะไรอยู่คนเดียวเงียบๆ จนกระทั่งศรัณย์เดินเข้ามา"คิดอะไรอยู่ครับ""มีเรื่องให้ต้องคิดน่ะค่ะ" วานิลตอบ"พอจะบอกผมได้ไหม ว่าคุณกำลังคิดเรื่องอะไร?""....." วานิลเงียบ ก่อนจะถอนหายใจออกมา การกระทำแบบนี้เหมือนจะเป็นส่วนหนึ่งของเธอไปแล้ว "ฉันมีเรื่องจะบอกคุณ""ครับ?""ฉันคิดว่าเรื่องนี้คุณเองก็ยังไม่รู้ และถ้าฉันเล่าออกไป คุณอาจจะรังเกียจคนอย่างฉันไปเลยก็ได้""ไม่ ผมจะไม่...""ฟังฉันก่อนสิ" วานิลรีบพูดดักขึ้น เขายังไม่รู้เลยว่าเธอจะพูดเรื่องอะไรให้ฟัง บางทีถ้าเขาได้ยินแล้วเขาอาจจะรับไม่ได้และเลิกรักเธอไปเลยด้วยและที่เธอเลือกที่จะพูดเอาตอนนี้ เพราะหลายครั้งที่ผ่านมาเธอไม่มีความกล้าซะเลย ยิ่งเธอนึกถึงเรื่องเหล่านั้น มันก็ยิ่งตอกย้ำความรู้สึกของเธออยู่ตลอด"พูดมาสิครับ...""ฉันเคยติดคุก แต่คุณคงรู้แล้ว ฉันถูกอดีตแฟนใส่ร้ายเรื่องยาเสพติด ฉันเลยต้องติดคุก เพราะไม่มีพยาน ไม่มีหลักฐาน ไม่มีคนมาช่วยเรื่องคดี""ใช่ ผมรู้เรื่องนี้แล้ว""เรื่องข้างใน...""ครับ?""ขอโทษนะ ที่เพิ่งบอกเอาตอนนี้ แต่ทุกครั้งที่นึกถึงมัน ฉันก็ยังเจ็บใจอยู
หลายเดือนต่อมาร้านดอกไม้ Tawan Flower Shop"อะไรเนี่ย?" วานิลพึมพำกับตัวเอง เพราะจู่ๆ ตรงหน้าของเธอก็มีช่อดอกไม้ใหญ่อยู่ตรงหน้า และดูเหมือนว่าจะมีคนยืนถือมันอยู่ด้วย"จ๊ะเอ๋!~""คุณ! เล่นอะไรเนี่ย ตกใจหมด!""เซอร์ไพรส์ครับ""ร้านดอกไม้อยู่ตรงนี้แท้ๆ คุณไปอุดหนุนร้านอื่นเหรอ?" ถามเสียงแข็งเหมือนหาเรื่อง"ปะ ป่าวนะครับ ผมสั่งมาจากร้านตรงที่บริษัทที่ผมไปทำงาน ซื้อจากร้านคุณ คุณก็รู้น่ะสิ แบบนั้นก็ไม่เซอร์ไพรส์หรอก""......" ก็ไม่อะไรหรอก แค่แกล้งเขาเล่นก็เท่านั้นแหละ"ดอกไม้สวยๆ สำหรับคนสวยๆ ของผมครับ""อื้ม...ขอบใจนะ""หิวกาแฟจังเลยครับ""เข้าไปข้างในสิ""ไปนั่งด้วยกันนะครับ""อ๊ะ! ดะ เดี๋ยว! ฉันยังทำงานอยู่นะ!"เหมือนศรัณย์จะไม่ฟังอะไรเลย เขาจับแขนของวานิลแล้วดึงเธอเข้าไปในร้าน และตอนนี้ร้านขยับขยายไปอีกเพราะซื้อคูหาใกล้ๆ กันรวมเป็นร้านเดียวไปแล้ว เป็นร้านดอกไม้ที่มีคาเฟ่อยู่ด้วย พอจัดด้วยดอกไม้สวยๆ แล้ว เรียกลูกค้าได้ไม่น้อยเลย โดยเฉพาะคนที่ชอบมาถ่ายรูป"อะไรของคุณเนี่ย!?""พนักงานก็เต็มร้าน ไม่เห็นต้องทำเองเลยครับ""ก็คนมันว่าง จะให้ฉันทำอะไร ทำไม่ให้ฉันทำแบบนี้""ตอนนี้ไม่ว่างแล้วน
เวลาผ่านไปร่วมเดือน"ตะวัน!!" วานิลตะโกนเรียกลูกชาย พร้อมกับเท้าเอวยืนรออยู่ตรงบันได เพราะนี่มัน 7:45 แล้วแต่ลูกชายยังมัวแต่โอ้เอ้อยู่ได้ ศรัณย์นี่แหละตัวดีเลย คอยอยู่เบื้องหลังคอยให้ท้ายกันอยู่แบบนี้ไงตะวันถึงได้เป็นแบบนี้"มาแล้วคร้าบแม่นิล..." เสียงหวานของหนุ่มน้อยดังมาแต่ไกล"สายแล้วนะ มัวทำอะไรกันอยู่!" เธอถามเสียงเข้ม"เสร็จแล้วครับ เสร็จแล้ว""คุณ...!" กำลังจะบ่นแต่ก็ถูกเขาพูดแทรกซะก่อน ราวกับว่ารู้ว่าเธอจะบ่นยังไงเลยชิงพูดก่อน"ขอโทษครับ ผมลืมดูเวลา จะรีบไปส่งเดี๋ยวนี้เลย""....." วานิลยืนมองนิ่ง ส่ายหน้าเล็กน้อยให้กับสองพ่อลูกคู่นี้ที่กำลังพากันวิ่งไปที่รถ มันน่าจริงๆ เลยนะสองพ่อลูกคู่นี้"มีอะไรกันเหรอพี่นิล?" เจียอีเดินเข้ามาถาม"จะอะไรซะอีกล่ะนอกจากสองพ่อลูกคู่นี้""หึหึ ดูเขาเข้ากันได้ดีเลยนะ" เจียอีหัวเราะใส่ ตอนแรกที่รู้ความจริงว่าพ่อของตะวันเป็นใครก็ตกใจอยู่นะ แต่ตอนนี้ก็ชินแล้วล่ะ"เข้ากันได้ดีเกินน่ะสิ หัวจะปวด โอ้ยยย!""เอาน่าพี่ อย่าไปเคร่งนักเลย""พี่ไม่ได้เคร่งนะ แต่เขากำลังจะทำให้ตะวันเสียคน ตะวันเคยตรงเวลา มีระเบียบเรียบร้อย แต่พอมีเขาที่ทำให้ทุกอย่าง ตะวันเปลี
ตอนเช้าวันถัดมา"ตะวันดูมีความสุขนะครับ" ศรัณย์เอ่ยขึ้น ขณะที่กำลังยืนมองลูกชายวิ่งเล่นอยู่กับบอดีการ์ดของเขา แกดูสนุกสนานมีความสุขเอามากๆ เลย"เขาเป็นเด็กที่แบบ ไม่ค่อยชอบเล่นกับเด็กวัยเดียวกันเท่าไหร่" วานิลตอบ"เหมือนกับคุณเลย""อืม...เหมือนฉัน""ดีนะครับ เพราะคุณเป็นคนที่แข็งแกร่ง เป็นคนที่จิตใจแข็งแรง เป็นคนที่เก่ง อดทน""......""ผมอยากให้คุณกับลูก ย้ายมาอยู่ที่นี่จัง""ฉันบอกแล้วไงว่าไม่ได้ ฉันต้องทำงาน""ถ้าอะไรมันลงตัวมากกว่านี้ ตึกนั้นก็ทำเป็นร้านไปเลยดีกว่าไหม ห้องข้างบนก็ทำเป็นที่เก็บของ ส่วนคุณกับลูกก็ย้ายมาอยู่ที่นี่ มีแม่บ้านคอยจัดการงานบ้านให้ คุณจะได้ไม่ต้องเหนื่อยเยอะ""เรื่องนั้นฉันยังไม่คิดหรอก มันไกลเกินที่ฉันจะคิด""......" ศรัณย์ไม่ได้พูดอะไรต่อ เขาเข้าใจเธออยู่ จะย้ายบ้านอะไรทั้งทีมันก็ต้องมีความพร้อม ไม่ใช่ปุบปับจะย้ายเข้ามาอยู่ได้เลย ถึงมันจะไม่ได้ไกลกันก็ตาม"เข้าไปข้างในกันดีกว่าครับ ผมมีอะไรให้คุณดูด้วย""อะไร?"ศรัณย์พาวานิลไปที่ห้องทำงานของเขา ก่อนจะยกกล่องบางอย่างออกมาจากชั้นบนตู้ จากนั้นก็หยิบของในกล่องออกมา ซึ่งมันเป็นอัลบั้มรูปถ่ายเก่าๆ หลายใบมาก"เอ
บ้านพักของศรัณย์ตกกลางคืน"ฝันดีนะครับคนเก่ง""ครับคุณพ่อ""นอนหลับนะครับ พรุ่งนี้เรามีกิจกรรมรออยู่""ตะวันมีความสุขจังเลยครับ""พ่อก็มีความสุขมากครับ" ศรัณย์หอมหัวของลูกชายครั้งแล้วครั้งเล่า มันมีความสุขมากจริงๆ สุขแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ถ้าเป็นไปได้เขาอยากจะพาตะวันกับวานิลไปที่บ้านของเขาทุกหลังที่มีเลยด้วยซ้ำ"คุณพ่อไปนอนกับแม่นิลใช่ไหมครับ""ใช่ครับ""อย่าทะเลาะกันนะครับ""โอเคครับผม ไม่ทะเลาะกันแน่นอน""ฝันดีครับ พ่อรัณ..""ฝันดีครับตะวันของพ่อ"หลังจากที่ส่งลูกชายเข้านอนเรียบร้อยแล้วศรัณย์ก็กลับเข้ามาที่ห้องนอนของตัวเอง"ตะวันหลับละเหรอ?" วานิลเอ่ยถาม เพราะเดินออกมาจากห้องน้ำแล้วเจอกับเขาพอดี เธอกำลังเช็ดผมที่กำลังเปียก"อื้ม หลับแล้ว""แกเป็นยังไงบ้าง""ชอบห้องนอนมากเลยล่ะครับ""คุณไปอาบน้ำสิ""เดี๋ยวผมเช็ดผมให้ก่อนดีกว่าครับ"วานิลยังไม่ทันได้พูดอะไรศรัณย์ก็เดินมาแย่งผ้าเช็ดผมของเธอไปก่อนแล้ว เขากำลังเช็ดผมให้กับเธอ มองหน้าของเธอผ่านกระจกตรงหน้า"คุณชอบไหม?""ชอบอะไร?""ที่นี่ไงครับ คุณชอบไหม""ฉันมาก็เพราะตะวันอยากมาแค่นั้น""บอกว่าชอบสักนิดก็ได้นะครับ""ฉันเป็นคนที่พูดตามใจ
วันหยุดสุดสัปดาห์สุดท้ายก็ได้มาจริงๆ แถมต้องมาพักค้างคืนด้วย เพราะลูกชายตัวดีดันอยากนอนพักค้างคืน เพราะอยากเล่นน้ำ อยากวิ่งเล่น วานิลเองก็ขัดใจลูกชายไม่ได้ เธอเลยต้องเออออตามไปด้วยเลยศรัณย์ขับรถพาเธอมาที่บ้านหลังนึง ซึ่งมันอยู่นอกชานเมือง ไม่ใช่บ้านหลังใหญ่อะไร แต่ดูแล้วก็ร่มรื่น และดูเงียบสงบดีไม่น้อยเลย เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบวุ่นวายกับใครแหละ"นี่บ้านของคุณเหรอ?""ครับ มีแม่บ้านอยู่ ผมจ้างพวกเขามาคอยดูแล อยู่กับผมมานานแล้วเหมือนกันครับ""คุณไม่ค่อยกลับมาแบบนี้ เขาไม่พากันลาออกหมดหรือไง""ผมก็ไม่ได้ว่านี่ครับ เขาทำงานข้างนอกได้ แต่พอผมกลับมา พวกเขาก็ต้องมาทำงานบ้านให้กับผม""ชิ! เป็นคนรวยนี่มันดีจริงๆ นะ""พูดอย่างกับตัวเองไม่เคยรวย เป็นถึงเจ้าแม่บ่อนเชียวนะ""อย่าพูดให้ลูกได้ยินนะ! นั่นมันก็แค่อดีต ก็แค่โชคหล่นทับ""หึหึ~""เลิกพูดเรื่องนี้นะ ไม่งั้นฉันทุบหัวคุณแน่"ศรัณย์มองแต่ไม่ได้ตอบอะไร เขาได้แต่ยิ้ม และก็นึกในใจ ว่าเธอก็ยังเป็นเธอเหมือนเดิม ผู้หญิงที่ปากแรงแต่ความจริงเป็นคนใจดี ถึงจะกล้าถามอย่างที่ปากตัวเองพูดจริงๆ ก็เถอะ"เข้าไปในบ้านสิครับตะวัน""ครับ"เด็กน้อยรีบวิ่งนำหน้