“อลัน งานไม่ต้องทำ เฝ้ายัยตัวแสบนี่ไว้ เข้าใจ?” คำสุดท้ายที่พูด แทนที่ปรายลดาจะช่วยเธอสักหน่อยกลับทำแลบลิ้นใส่ เอาสติกเกอร์อันเล็ก ๆ มาแปะไว้บนเสื้อ ส่งกระดาษให้อลันรับไปเพื่อที่จะให้เธอตามไปเจอกันทีหลัง“เออ! ไปเลย ไปกับผัวเลย มีผัวแล้วลืมเพื่อน คนอะไรช่วยมาตั้งเยอะ ไม่เคยสำนึกบุญคุณ” นัชชาได้แต่ยืนโมโหหัวฟัดหัวเหวี่ยง มองตามหลังคนที่เดินหายไปกับฝูงชน สวีทหวานกับสามีไม่เกรงใจฟ้าดิน จากนั้นเธอก็เริ่มเหวี่ยงแม้กระทั่งกระดาษบนเสื้อ ที่มีตัวเลขและลวดลายดอกไม้เป็นสัญลักษณ์บอกว่าเธอจะต้องขึ้นไปล่องเรือลำไหน“มันจะหลุดไหมเนี่ย? ฮึ่ย... บ้าจริง จะทำมาทำไมก็ไม่รู้สติกเกอร์อันแค่นี้ ไม่ทำอันเท่าฝาบ้านแปะไว้กลางหัว เป็น wristband แบบ Seven Seas Explorer ไม่ได้หรือไงนะ แบบนี้ฉันก็ทำหายน่ะสิ”ชายหนุ่มเห็นอยู่ว่าบางคนหงุดหงิดเอามาก ๆ ยังเข้าใจไฮโซสาวที่กำลังพูดถึงเรือสำราญล่องในมหาสมุทรไปทั่วโลก ระดับความหรูหราเท่าโรงแรมหกดาว มูลค่าชุดเครื่องนอนในห้องพักก็สูงถึงสามล้านบาทเศษเข้าไปแล้วสำคัญที่สุดคือมีบัตเลอร์ให้บริการแบบส่วนตัวสำหรับไฮโซ เศรษฐี ไม่รู้ว่าเหมือนสถานภาพของเขาในตอนนี้หรือเปล่า...แล้ว
สองหนุ่มสาวตะลึงมองอย่างไม่เชื่อหู ไม่มีใครคิดว่านัชชาจะทำตัวหยาบคายยิ่งกว่าคราวก่อนตอนพบกัน เป็นธามไทที่ปรามเสียงเข้ม“ปริม... ทำไมพูดแบบนี้กับเพื่อนพี่ มากไปแล้วนะเรา”“ไม่มากไปหรอกค่ะ ถ้าเทียบกับที่คุณอลันโดน และปริมต้องไปนอนเฝ้าไข้อยู่ตั้งสี่วันสามคืน ก็คงต้องเอาเรื่องให้ถึงที่สุด อีพวกชอบแย่งผัวชาวบ้าน เมียเขาท้องอยู่แท้ ๆ ไม่มีจิตสำนึกความเป็นมนุษย์เลยหรือไง...” คำด่าทอหันไปอีกทาง แต่ดันกระทบเข้ากับเจ้าของร่างบางที่ยืนตัวสั่นเทา ไม่รู้ว่าโกรธหรือรับเรื่องนี้ไม่ได้กันแน่ปานทิพย์เงยหน้าขึ้นประจันใบหน้าสะสวยแต่งแต้มเครื่องสำอางอ่อน ทว่าแฝงความร้ายกาจไว้บนอายไลเนอร์คมกริบที่ละจากชายหนุ่ม เพื่อหันกลับมาทางเธอ“แค่นี้้ทำน้ำตาซึม ฉันแค่พูดถึงพี่สาวคุณเองนะ ไม่ได้พูดถึงพ่อแม่สักหน่อย ถ้าไม่อยากให้ใครเขาว่าก็สั่งสอนคุณปิ่นแก้วให้หัดทำตัวดี ๆ ลานะคะ” แล้วเธอก็สะบัดมือหนาออกอย่างไร้เยื่อใย ก้าวฉับ ๆ ไปไม่รอคนข้างหลังด่าแล้วก็หนีสิ... จะรออะไร!“ปริม... จะไปไหน!?” เสียงตวาดไล่ตามคนที่เร่งฝีเท้าให้เร็วจนเกือบจะวิ่ง กระทั่งพบเข้ากับชายหนุ่มอีกคนอลันกำลังชะเง้อคอมองหาเธออยู่ด้วยเขาคงไม่อยาก
ไม่รู้ว่าพูดแรงไปหรือเปล่า...ชายหนุ่มถอนหายใจเฮือกใหญ่ กลับขึ้นไปที่ชั้นดาดฟ้าเรือก็พบว่าบางคนนั่งฟังดนตรีสด สั่งไวน์มาจิบหน้าตาเฉยที่น่าโมโหยิ่งกว่า! คือบรรดาหนุ่มน้อยใหญ่ทั้งบริกร ลูกค้า ขนาดว่าบางคนมากับเมียยังแอบมองสาวสวย ที่บางทีเธอก็ยกมือขึ้นลูบแขนตัวเองไม่ต้องให้เดาเลยว่าหนาวเพราะไม่ได้หยิบเสื้อคลุมมาให้ด้วยความที่มัวแต่เดินหากันก่อนหน้านี้ ร่างสูงในเชิ้ตสีดำสนิทก้าวเข้าไปคว้าข้อมือเล็กของหญิงสาวที่เชยหน้าขึ้นมองเขาด้วยแววตาวูบไหว “ไป... คุยกันหน่อย”“ฮะ? ว่าไงคะ...” นัชชาได้แต่ทำหน้างุนงง แต่ก็ยอมลุกขึ้นเดินตามเจ้าของฝ่ามืออุ่นไปอย่างไม่ขัดใจ ด้วยกลัวว่าเขาจะไม่เลิกทำตัวเป็นผู้ชายขี้โมโหหลังจากที่เธอได้นั่งใช้ความคิดว่าตัวเองคงมีนิสัยยอดแย่อย่างใครว่าซึ่งมันคงเปลี่ยนกันไม่ได้ง่าย ๆ ไวน์สองแก้วไม่ได้ทำให้เมา แต่เธอก็ยังไม่มีสติมากพอทำตัวดีอยู่วันยังค่ำกระทั่งมาถึงระเบียงด้านนอกบริเวณชั้นสอง ถัดจากหัวเรือไปเล็กน้อย มีคู่รักกะหนุงกะหนิง ครอบครัวตัวอย่างคุณพ่อคุณแม่คุณลูกออกมาถ่ายรูปขนาดว่าโต๊ะบาร์เครื่องดื่มที่ดูท่าทางว่าแสงไฟจะกะพริบเปลี่ยนสีไปตามอารมณ์ของบาร์เทนเดอร์ ยัง
ตอนนี้เธอกำลังนึกถึงเรื่องสนุก ๆ งานอดิเรกที่ชื่นชอบที่สุด“ฉันเจนจัดเรื่องประเทศบราซิลมากเลยนะ โดยเฉพาะลุ่มน้ำอเมซอน... ฉันชอบดูสารคดีมาตั้งแต่เด็ก ๆ ถ้าคุณอลันจะพาฉันไปเที่ยว ฉันอยากไปบราซิล หรือไปล่องเรือในแม่น้ำอเมซอนมากกว่า”“ไปทำอะไร? แม่น้ำอเมซอนเนี่ยนะ ที่เที่ยวมีตั้งเยอะแยะ ผมว่าล่องเรือแม่น้ำเจ้าพระยายังดีกว่า” คนพูดทำหน้าแหยง ๆ บางทีเขาก็ไม่เข้าใจว่านอกจากเรื่องความร้ายกาจ ทำไมนัชชาถึงชอบอะไรแปลก ๆ“ฉันอยากเห็นสัตว์ที่อันตรายที่สุดในลุ่มน้ำอเมซอนอย่างมดกระสุน มดที่กัดเจ็บที่สุดในโลก แรงกัดของมันเหมือนโดนกระสุนปืนยิง ฉันจะเอากลับบ้านมาใส่ในเสื้ออีปิ่น จระเข้... ปลาไหลไฟฟ้า อนาคอนด้าด้วย”เป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้นดีจริง ๆ....อลันไม่ได้พูดอะไรต่อ เขาตั้งใจฟังเธอเล่าเรื่องสัตว์อันตรายในแม่น้ำอเมซอนอย่างเพลิดเพลิน ยังอยากจะรู้ด้วยว่ายัยเด็กแสบมีต่อมรับรู้ความรู้สึกหวั่นไหวบ้างไหม อยู่ใกล้ฝรั่งฮ็อตหลุดโลกแล้วเธอยังนิ่งเฉยได้ขนาดนี้!วงหน้าหล่อเหลาโน้มลงช้า ๆ หากลิ่นหอมอ่อนจากเส้นผมสีน้ำตาลเข้มเป็นลอน กลิ่นแชมพูยี่ห้อดังและน้ำหอมมีราคามอมเมาให้ตกอยู่ในภวังค์ ขณะที่เธอเหลือบตามองตาม ช
เขาคงไม่อยากไปคุยกับมันอีกเป็นรอบที่สอง เพราะไม่ได้คุยดี ๆ อย่างแน่นอน...“บ้านคุณอลันก็เป็นมาเฟียกันทุกคนไม่ใช่เหรอ ได้ข่าวว่าตั้งแต่มาอยู่เมืองไทย ไปไล่ตบเด็กยัยพุดด้วยนี่ มาทำพูดดีไป”“ผมแค่ขู่... ตามคำสั่งบอส”“แล้วนี่ขู่ฉันด้วยใช่ป่ะ ฉันตัวเล็กแต่ฉันสู้ขาดใจนะ บอกไว้ก่อน อย่ามาเลียปากฉันอีกเชียว” กระเสียงใส่แล้วเธอก็เปิดประตูรถออกไป โดยไม่สนคนข้างหลังที่จะต้องไปส่งเธอถึงห้องให้เรียบร้อย ตามหน้าที่ของเขาอลันรู้ว่าบางคนว่าเขาเป็น ‘หมา’ เร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นเพื่อบอก “ผมไม่กล้าทำเรื่องเด็กน้อยขนาดนั้นอีกแล้วล่ะ ผมคงจะเลียอย่างอื่น”ดวงตาคู่สวยเบิกโพลงมองคนที่ตีหน้าเฉยยังพูดต่อด้วยน้ำเสียงว่าทำแน่“รับรองว่าถ้าคราวหน้าเกิดอารมณ์ขึ้นมา ผมอาจจะอึ้บคุณตรงนั้นเลย ปริม...”“บ้า! ไอ้เลขาฯ มาเฟีย กลับบ้านไปเลยนะ” บริภาษเขาในทันที เพราะไม่คิดว่าอลันจะกล้าพูด คนหน้าหนาอย่างเธอยังไม่เคยอายกับเรื่องพรรค์นี้มาก่อนพอไขกุญแจเข้าห้อง นัยน์ตาคู่สวยสั่นไหวมองตามคนที่ไม่ยอมไป ยังปิดประตูให้เบา ๆ ไม่แปลกที่ผู้หญิงใจกล้าหน้าด้านจะเกิดความหวั่นกลัว“คุณ... ส่งฉันแค่นี้ก็ได้ ขอบคุณนะ กลับบ้านดี ๆ ล่ะ ไปไ
ดุดัน ตะกละตะกลาม ทว่าแฝงความหวานละมุนไว้ในทุกสัมผัส กระทั่งปลายลิ้นหนาแทรกเข้าโพรงปากหอมกลิ่นองุ่นที่หมักบ่มอย่างดี กระหวัดลิ้นเล็กไปเชยชม อุณหภูมิในร่างกายของเธอก็สูงขึ้นตาม เขาดูดน้ำลายจากปากเหมือนเครื่องสูบน้ำ ไม่ต่างจากว่าเป็นน้ำรสชาติหวาน เสียงครางในลำคอของหญิงสาวดังด้วยความพึงพอใจบางทีอลันอาจเก็บกดความรู้สึกที่มีไว้มากเกินไป ความห่างเหินเรือนร่างอิสตรีมานานปลุกสัญชาตญาณสัตว์ป่า มันทำให้เกิดความหวาดกลัวว่าเธออาจแหลกเหลวคามือเขาก็ได้ เขาเป็นแค่คนเห็นแก่ตัว หึงหวงอย่างร้ายกาจ แม้ในมือที่กำโทรศัพท์ไว้แน่นถ้าจะกระทืบเด็กรอบนี้ หักมือมันทิ้งด้วยคงดี!จุมพิตของเขาเต็มไปด้วยความเกรี้ยวโกรธ แม้คนไม่ประสีประสาพยายามร้องขอความปรานีด้วยเสียงหอบหายใจหาอากาศอันน้อยนิด เขาเอาแต่ใจมากขึ้นเรื่อย ๆ จนร่างสั่นเทาในวงแขนอาจต้านทานไม่ไหว...ริมฝีปากดื้อรั้นจึงผละออก มองดวงตาฉ่ำปรือของคนที่อ่อนระทวยอยู่ในอ้อมแขน“ฉัน... หายใจไม่ทัน...”“ก็นึกว่าเชี่ยวชาญ เห็นชอบพูดเรื่องอย่างว่า ทำไมอ่อนหัดขนาดนี้” ต่อว่าด้วยสายตาเอ็นดู ขณะร่างสูงโน้มตัวลงตวัดข้อพับขาวเนียนขึ้นอุ้มเดินไปไว ๆ โยนโทรศัพท์ทิ้งลงตรงพื
อลันเคยเป็นเสือผู้หญิง... ทำเรื่องพรรค์นี้กับคู่นอนหลายคนจนรู้ว่าผู้หญิงชอบพอตรงไหน และต้องใช้แรงเท่าไรกับสาวปากร้ายทว่าแสนไร้เดียงสา เขาใช้ความระมัดระวัง ผ่อนแรงลงมากแต่กดปุ่มติดร่างเย้ายวนให้ลุกร้อนเป็นไฟ ลูบขึ้นลงรัวแรงสลับสอดเข้าไปในช่องทางเล็ก ๆ แค่ปลายข้อนิ้ว ความเปียกชุ่มนองบอกว่าเธอพร้อมให้เขาไปไกลกว่า เขาก็จะไม่ทำมันตามคำพูดที่อยากกลืนน้ำลายตัวเองอยู่ไม่น้อยเสียงของนัชชาไม่ต่างจากเสียงดนตรีอันไพเราะสำหรับเขา เส้นผมสีน้ำตาลเป็นลอนสยายกระจายอยู่บนหมอนปรกเม็ดเหงื่อพร่างพราวบนหน้าผากเนียน บางครั้งเขาก็ฝากฝังจุมพิตไว้อย่างเอาใจ“คุณอลัน!” เธอเรียกชื่อเขาซ้ำไปซ้ำมา ในพันธนาการร้อนฉ่า แรงบีบของมือหนามากขึ้นจนรู้สึกเจ็บน้อย ๆ เธอกลับพึงพอใจอยากให้เขาจับกดทุกวันเสียอย่างนั้น และเธอคงจะกลายเป็นผู้หญิงเสพย์ติดเซ็กส์ได้ไม่ยาก“ไม่ไหวแล้ว... อลัน อย่า... หยุด... อ๊า...!”น่าอายที่สุดคือเสียงครางขอให้เขาจับจูงมืออย่างอ่อนโยน ปลายนิ้วชุ่มแฉะน้ำจากกายสาวโยกไปมาเร็วขึ้นจนเกิดเสียงของการเขย่าความเปียกปอนจนถึงจุดเกร็งจัด...“อลัน...!” ปลายเสียงของเธอส่งเสียงหวีดร้องดัง ก่อนทิ้งกายเหนื่อยล้าเพ
“คุณน้า... ผมชอบน้องปริมจริง ๆ นะครับ” “เอาเป็นว่าน้ารับรู้ แต่ช่วยอะไรไม่ได้ ชอบใครก็ต้องขวนขวาย ไปเสนอหน้าจีบเอาเองนะ”“คุณน้า!”“อะไรอีกเนี่ย? ไปได้แล้วนายนนท์ อย่ามาเซ้าซี้น่ะ”ร่างบางใสเดรสสีขาวเข้ารูป คลุมทับด้วยเสื้อสูทหยุดก้าวลงหน้าโต๊ะอลัน เลขานุการหนุ่มรู้หน้าที่ตัวเองว่าต้องปฏิบัติหน้าที่ แม้สาว ๆ อีกสองคนในห้องจะเสียดายอยู่สักแค่ไหน เมื่อถึงเวลาอาหารจานโปรดทางสายตาต้องกลับก่อนเวลา“คุณอลัน โทรหาแบร์นาร์ดให้ฉันด้วย บอกให้ไปรับลูกปริมไปเจอที่ห้องเสื้อคุณลิลลี่ ฉันอยากใส่ชุดสีเดียวกับลูกสาวไปงานแต่งหนูพุทรา” นิตยามาถึงก็สั่ง อลันเหยียดแผ่นหลังพิงเก้าอี้โซฟาของเขา ล้วงหยิบโทรศัพท์มือถือจากกระเป๋ากางเกง เพื่อต่อสายหาเลขานุการหนุ่มชาวฝรั่งเศส ขณะที่ยังได้ยินเสียงกวนใจ“ผมไปด้วยนะครับ คุณน้า... ให้ผมไปช่วยดูน้องนะ”“โทรไปคุยกันเองนะ น้าไม่เกี่ยว”“งั้น... ผมไปห้องเสื้อก็ได้ ผมคิดถึงน้องปริม ไม่ได้เจอกันมาตั้งหลายวัน”ผมคิดถึงน้องปริม! ขนาดตัวเขาเองยังไม่กล้าพูดคำนั้นเลย ดวงตาคู่คมสีฟ้าครามเข้มจัดจับจ้องไปที่มารหัวใจซึ่งยังคงไม่รู้เนื้อรู้ตัวกับรังสีอำมหิต“Allô, c’est moi... Ren
อลันไม่ได้กลับไปทำงานกับเจ้านายเก่าอย่างปรเมษฐ์ เมื่อคุณนายนิตยาไม่ยอม หล่อนรั้งเขาไว้ด้วยคำว่าจะไม่ยกลูกสาวให้คำเดียว เขาจึงต้องลาออกเป็นการถาวรแต่ส่งน้องชายคือเจมส์ไปฝึกงานเลขาฯ แทนชีวิตแต่งงานเรียบง่ายที่มีความสุขในทุก ๆ วัน จะมีทะเลาะกันบ้างเพราะความเอาแต่ใจประสาเด็กสาว หรือเรื่องความขี้หึงของอลันมาถึงจุดหมายปลายทางในช่วงบ่าย ผ่านด่านตรวจคนเข้ามาเมืองมาอย่างง่ายดาย คนเป็นสามีก็ทำหน้าที่ผู้นำครอบครัว เรียกรถแท็กซี่ บอกทางที่จะไปด้วยภาษาท้องถิ่น ช่วยคนขับรถเก็บกระเป๋าใบใหญ่ไว้ข้างหลัง“พี่พูดได้กี่ภาษาอ่ะ? ทำไมปริมไม่เคยถามพี่เลยนะ” เสียงหวานบ่นถามทั้งตัวเองและคนที่ปิดประตูนั่งตามในที่นั่งข้างหลัง“ภาษาไทย... โปรตุเกส สเปน ฝรั่งเศส ภาษาอังกฤษครับที่รัก...”ความสนิทสนมกันเกินไป มีบางอย่างที่ไม่รู้... หญิงสาวชะงักนิ่งไปหลังนับนิ้วจนครบว่าไม่ผิดแน่“ตั้งห้า... ภาษา แล้วปริมเคยว่า...” เธอหน้าตาตะลึงมองเขาที่แค่ยิ้มกับคำดูถูกคราแรกพบหน้ากัน แน่ว่าอลันจำมันได้แม่น!‘เลขาฯ แม่ฉัน คุณแบร์นาร์ด หนุ่มฝรั่งเศสพูดได้ตั้งสี่ภาษา...’“ตอนสักอายุสิบห้า พ่อแม่พี่ไม่ค่อยว่าง พี่กลับมาอยู่บราซิลกับ
“ไม่มีอะไรแล้ว ไม่ต้องร้อง...”สองหนุ่มสาวกอดกันตัวกลม สองหนุ่มบอร์ดี้การ์ดมองหน้ากันก็ตรงไปสะสางเรื่องให้เรียบร้อย เจ้าของห้องที่ใบหน้าลำคอเต็มไปด้วยรอยข่วนไม่ได้หนีหรือมีท่าทีหวาดกลัวอานนท์เป็นคนส่งการ์ดกุญแจห้องให้เธอเดินออกไปเฉย ๆ และแค่มองหญิงสาวที่อยู่ในอ้อมกอดชายอื่นด้วยแววตาเศร้าหมองจนเธอจากไป-------------------------------เรื่องวุ่นวายทั้งหมดถึงหูคุณนายที่มารออยู่ข้างล่างเพนเฮ้าส์ของนายอานนท์พร้อมกับแบร์นาร์ดนิตยาเพิ่งรู้ว่าลูกสาวมีปัญหากับปิ่นแก้ว ทะเลาะเบาะแว้งกันเป็นเรื่องใหญ่โตจนเกิดการทำร้ายร่างกาย คุณแม่ที่กำลังเกรี้ยวโกรธจึงส่งทนาย โทรบอกพวกพ้องให้จัดการกับคนผิดอย่างถึงที่สุดนัชชาไม่ใช่เด็กที่จะร้องไห้เพราะความกลัว แต่เต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจเพราะถูกเลี้ยงดูมาเช่นนั้นวันนี้เธอแค่ทำตัวเป็นเด็กเล็ก ๆ ตั้งแต่อ้อนกอดผู้ชายตัวโต ให้เขาต้องอุ้มขึ้นรถในที่นั่งข้างหลัง ในสายตาของหลายคนรวมถึงพ่อแม่คงไม่ขัดหรือห้ามปราม เพราะคงจะห้ามกันไม่ได้กับการที่คุณหนูของบ้าน โตเป็นสาว ได้ตกหลุมผู้ชายสักคนหัวปักหัวปำเมอร์เซเดสเบนซ์สีดำแล่นฉลิวในความเงียบ มีโอกาสได้นั่งกันตามลำพังข้า
ก็คงจะเดาได้ไม่ยากว่าตัวต้นเหตุยังวนเวียนอยู่แถวนี้ หลังจากที่เขาขับรถมาสมทบกับเจมส์ ยังมีบอร์ดี้การ์ดนอกเครื่องแบบอีกสองคน ตามคำสั่งของคุณนายว่าให้เฝ้าลูกสาวไว้ “พวกสวะน่ะพอได้ ตำรวจต้องการตัวอยู่แล้ว ซัดทอดความผิดไปว่าเก็บกันเอง ขัดผลประโยชน์ แต่คุณนักธุรกิจคนดังคนนั้น ใจเย็น ๆ หน่อย” “อย่างมากก็กลับไปอยู่บราซิล...” พูดจบก็เหน็บอาวุธไว้ด้านหลัง ก่อนลงจากรถยนต์อย่างไม่รอช้า แน่นอนว่าเขาจะใช้มันในยามจำเป็นจริง ๆ เท่านั้น ถุงมือถักทอด้วยเส้นใยโพลีเอสเทอร์บางละเอียด ใช้กับงานที่ป้องกันคราบเหงื่อและรอยนิ้วมือจะทำให้เขาไม่ทิ้งรอยนิ้วมือเอาไว้ถูกสวมทีละข้าง ใบหน้าหล่อเหลานิ่งเฉย ลอบมองซ้ายขวามือกระตุกหมวกแก้ปให้ปกใบหน้าลงมาเล็กน้อย เปลวไฟในดวงตาคู่คมสีฟ้าครามลุกโชน จับจ้องอยู่กับรถยนต์สีดำอีกสองคันถัดไป คนขับนั้นเป็นพี่น้องห่าง ๆ หน้าตา ความสูง และรูปร่างเป็นล่ำสันใกล้เคียงกันกับเขา สองคนข้างหลังที่เพิ่งจะขึ้นรถไปต่างหากคือเป้าหมาย... ------------------------------- สิ่งที่นัชชาไม่ต้องการมากที่สุด คือความเจ
“พี่ให้โอกาสน้องขอโทษน้องสาวพี่แล้วนะคะน้องปริม แต่น้องยังทำปากดี ช่วยไม่ได้”แทนที่นัชชาจะกลัว กลับแค่นหัวเราะ “ฮึ! แกคิดดีแล้วเหรอ? ที่มายุ่งฉันน่ะ”“ไม่ได้ยุ่ง แค่มาเป็นกามเทพ... กับเป็นเพื่อนเจ้าสาว พี่คงต้องขอแสดงความยินดีล่วงหน้า” เสียงหัวเราะดัง ยกมือขึ้นป้องปากด้วยท่าทางเสแสร้ง ความคับแค้นใจสะท้อนขึ้นในแววตากร้าวของนัชชา หยัดกายลุกขึ้นนั่งในท่าเตรียมพร้อมปะทะ!“ฉันว่าแกควรไปพบจิตแพทย์นะนังปิ่น ไม่ก็หัดเข้าวัดเข้าวาซะบ้าง ผู้ชายเขาไม่เอาทำพาลไปทั่ว รับรองได้ว่าแม่ฉันเอาเรื่องแกแน่ ๆ” เสียงขู่ฟ่อหลุดรอดจากไรฟัน หญิงสาวอีกคนก็ขยับก้าวช้า ๆ มาหยุดลงข้างเตียงอย่างท้าทาย“แม่น้องไม่เอาเรื่องพี่หรอก... ดีเสียอีก... พี่มาช่วยให้เรื่องมัน Happy ending พี่ไม่ได้มาฆ่าใคร ไม่ได้ทำร้ายอะไรเราเลยนะ” ทั้งสีหน้าและน้ำเสียงของปิ่นแก้วแม้กระการแต่งตัวสบาย ๆ เสื้อยืดกางเกงยีน ทุกอย่างเหมือนเป็นเรื่องของคนกันเองตามปากว่าเป็นความสะใจล้วน ๆ ในเมื่อหล่อนอุตส่าห์อยู่เงียบ ๆ แลัวนังเด็กปากดี! ยังไปเอาเรื่องปานทิพย์ที่ไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วยเลยความคิดแค้นของปิ่นแก้วไม่น้อยไปกว่านัชชา ดวงตาคู่สวยคมฟาด
เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาในเชิ้ตสีดำสนิทนั่งตัวเกร็ง มือกุมพวงมาลัยแน่น เครื่องปรับอากาศอุณหภูมิปรกติในรถให้ความรู้สึกเย็นยะเยียบ เขาจึงต้องกดปลายเท้าเหยียบลงอีก เพื่อให้ถึงจุดหมายเร็วขึ้น“ขับช้า ๆ หน่อยสิคุณอลัน จะรีบไปไหนกัน บ้านฉันก็อยู่แค่นี้” ใบหน้าสดสวยของสาววัยสี่สิบห้าละจากแท็บเล็ตในมือ สารถีประจำตัวก็ลดความเร็วลงเล็กน้อย โดยที่ยังไม่ลืมเรื่องสำคัญหลายวันมานี้เขาเหนื่อยหน่ายกับการพูดเรื่องเดิม ๆ คือมาขอลูกสาว เมื่อคุณนายนิตยาทำเป็นไม่สนใจยังให้เหตุผลว่าลูกสาวของหล่อนเด็กเกินจะมีครอบครัว“ลูกปริม... มีเงินใช้หรือเปล่า?”“ปริมหาเงินใช้เอง แต่ถ้าวันไหนไม่มีหรือไม่พอ ผมไม่เคยปล่อยให้เมียลำบาก ผมโอนไวครับ”เมีย ย้ำชัดหนักแน่น คนข้างหลังปิดตาลงเพื่อสะกดกลั้นความโกรธ ก่อนจะเหน็บแนมด้วยถ้อยคำร้ายกาจ“ทรัพย์สมบัติพ่อ ทำไมไม่เอาไปลงทุน จะรอแต่งงานกับผู้หญิงไทยเอากรีนการ์ดค่อยกว้านซื้อที่ดินหรือว่ายังไง?”“ผมจะทำแบบนั้นไปเพื่ออะไร? ผมไม่ได้อยากได้สัญชาติไทย เลิกให้คนไปสืบเรื่องของผมนะครับคุณนาย ที่ดินที่ผมไปดูมาคือเรือนหอของผมกับปริม ผมจะให้เธอเลือกเองว่าอยากได้บ้านแบบไหน”“แบร์นาร์ดบอกฉัน
ความสัมพันธ์อันดีของเขาจบลงที่การปล่อยมือจากสาวร้อนแรงอย่างปิ่นแก้ว ไม่ว่าเป็นใครก็คงจะต้องเสียดายอยู่ อานนท์คิดว่าอดเปรี้ยวไว้กินหวานดีกว่า“รอบนี้แกรับเสื้อมาจากจีนกี่กระสอบอ่ะ? ฉันต้องหุ้นกับแกเท่าไร” พูดไปพร้อม ๆ กับที่จดขยุกขยิกลงในโทรศัพท์ขนาดพอดีมือ สีหน้าจริงจังของนัชชาคงเฉพาะเวลาเรียน และธุรกิจเล็ก ๆ ของเธอกับเพื่อนสาวปรายลดาเป็นคนริเริ่มร้านขายเสื้อผ้าแฟชั่นในคราวแรก สุดท้ายก็ทำคนเดียวไม่ไหว โดยเฉพาะตอนนี้ที่ท้องโตมากจนเห็นได้ชัดว่ามีบางอย่างเคลื่อนไหวไปมา คราวเด็กน้อยในท้องถีบแขนถีบขา อีกไม่ถึงสองเดือนคลอดลูกแล้วคงจะได้ยุ่งวุ่นวายมากกว่านี้“ชุดนอนแขนสั้น กางเกงผ้าฝ้าย แจ็คเก็ตยีน อย่างละสามกระสอบ พวกงานลิขสิทธิ์เก็บไว้ก่อน ล่อซื้อเยอะไม่อยากเสี่ยง ทั้งหมดเท่าไรแกคิดเลย”กองเสื้อผ้าตรงหน้ามีที่ขายไม่ออก ตัวไหนขายดีปรายลดาก็จะสั่งมาอีกเป็นล็อต ๆในห้องพักแบ่งแยกเป็นสัดส่วน ห้องสตูดิโอของคอนโดมิเนียมกลายเป็นที่เก็บเสื้อผ้านับพันตัวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ต่างคนมีความเห็นตรงกันว่าไม่ควรไปเสียเงินเช่าห้องเก็บเสื้อผ้าย่านประตูน้ำ ด้วยค่าเช่าหลักครึ่งแสนต่อเดือนในเมื่อห้องนี้ก็ไม
“งานหมั้นเหรอ... น้ายกเลิกไปเพราะอะไรรู้ไหม?” ถามพลางยกมือป้องปากหัวเราะเป็นเรื่องตลกขบขัน ก่อนที่จะพิงแผ่นหลังบนเก้าอี้มีพนักของผู้บริหาร ใบหน้าสดสวยฉาบประกายเย็นยะเยือก“น้าไม่อยากให้ลูกสาวติดโรค เพราะไปคลุกคลีกับพวกมักมากในกาม เปลี่ยนคู่นอนไปเรื่อย”“ผมเป็นผู้ชายนี่ครับ... มีกินเล็กกินน้อยบ้าง ก็เป็นเรื่องปรกติธรรมดา แต่ผมจริงจังกับน้องปริม ถ้าผมหมั้นกับน้อง ผมจะไม่มีใครอีกทั้งนั้น” คนที่มีสีหน้าเข้มเครียดมาเพื่อแก้ความเข้าใจผิด อานนท์ไปพูดกับผู้ใหญ่ให้กลับมาคุยกับนิตยาอีกครั้ง ทว่าหล่อนก็ทำเป็นเมินเฉยจนเขาต้องเข้ามายืนทนโท่อยู่ตรงนี้“ลูกสาวน้าคบอยู่กับทายาทซีเพิร์ลจ้ะ น้าต้องขอโทษด้วย เราคงไม่อยากให้พ่อมีปัญหาเนอะ” เป็นข้ออ้างของคนฉลาดกว่า ชายหนุ่มในชุดสูทหล่อเหลาที่ยืนอยู่ในฝั่งตรงข้ามกันจึงเลิกคิ้วขึ้น“อะไรนะครับ? คุณน้า ผมไม่ได้เดือดร้อนเรื่องหุ้นของพ่อ... คุณน้าอย่าลืมสิครับ ผมเป็นนักธุรกิจ ทำงานหาเงินใช้เอง”“ไม่ได้ลืม แค่เตือนด้วยความหวังดี ในฐานะคนทำงานมานานกว่า เรื่องผลประโยชน์ครอบครัวมันควรจะต้องมาก่อนตั้งตัวได้อย่างน้านะ นนท์” สีหน้าของนักธุรกิจสาวรุ่นแม่เต็มเปี่ยมไปด้ว
ร่างกำยำส่งแรงกระแทกแต่ละครั้งหนักหน่วงจนศีรษะกระทบเข้ากับหมอนที่รองรับอยู่บนหัวเตียง ประกายเร่าร้อนดิบเถื่อนฉายออกมาทางแววตา“อ๊า... อื้ม... อลัน เอาแรง ๆ อีก...” คนบ่นสั่งสูดลมเข้าปากอย่างซ่านสยิว ราวกับว่าร่างกายปรับเปลี่ยนขนาดไปเองตามธรรมชาติสรรค์สร้าง ร่องทางรักขยายตัวอย่างเหมาะสม ปลดปล่อยและดูดดึงมันกลับเข้าสู่กลางกาย ร่างบางบิดเร่าแอ่นเอวรับทุกอย่างที่เป็นเขา ส่งเสียงครางหวานในสีหน้ายุ่งเหยิง ไม่ต่างจากว่าเธอได้กลายเป็นทาสบำเรอกามของเขาอย่างสมบูรณ์แบบ“อลัน...! ปริมจะเสร็จ... อ๊า... อีกนิด... เร็ว ๆ!” เธอส่งเสียงหวีดร้องก่อนยกมือขึ้นปิดป้องปากไว้ ด้วยความเกรงใจห้องข้าง ๆ จังหวะเร่งเร้าของบุรุษผู้พกพาความร้อนแรงมาชนิดจัดเต็ม ไม่มีพักหรือหยุดสักนาที สวรรค์ของเธออาจอยู่ใกล้กว่าขณะที่อีกคนไม่ได้ทำตามคำขอ หยุดพื้นพรมอันสวยงามเบื้องหน้าให้ชะงักนิ่งบางครั้งอลันก็ชอบที่จะแกล้งเธออย่างนั้น เขามักพาเธอไปแค่ครึ่งทางก่อนค่อยบรรเลงบทเรียนสวาทต่อ ให้มันเป็นไปอย่างช้า ๆ อย่างดุเดือดเลือดร้อน...มือหนาตะปบเข้าท้ายทอยน้อย จับพลิกให้นอนคว่ำหน้าโดยไม่ปล่อยให้ส่วนสอดสวมกันหลุดออก แม้ว่ามันจะลื่
ร่างสูงโน้มตัวลงประกบลงบนเรียวปากอิ่มงาม ขณะที่เธอตอบรับจุมพิตหวานฉ่ำ เลื่อนมือขึ้นล้อมกรอบใบหน้าหล่อเหลา แม้ว่าเขาจะยืนซ้อนอยู่ข้างหลัง ไม่ใช่อุปสรรคสำหรับมืออาชีพที่พลอดรักกันได้ทุกเช้าเย็นปากอุ่นนุ่มเผยอเชื้อเชิญให้เธอเป็นฝ่ายสอดแทรกลิ้นน้อยเข้าหาความหวาน จากนั้นปลายลิ้นหนาก็กระหวัดเกี่ยวอย่างช่ำชองงานงานที่นัชชาทำได้ดีที่สุดและได้รับคำชมเชยจากครูผู้สอนเสมอคือจูบ... หากว่าเป็นเรื่องอย่างอื่นแล้วคนฉลาดหัวไว ผ่านการดูอะไรต่อมิอะไรมามาก เทียบไม่ได้สักครึ่งหนึ่งของคู่ขาในอดีตของอลัน ทว่าเขากลับเสพย์ติดเรือนร่างนิ่มนวลนี้มากที่สุด เสพย์ติดทุกอย่างที่เป็นเธอผ่านริมฝีปากนุ่มละมุนคราวขยับอย่างเป็นผู้นำให้อีกคนเผยอรั้งปากตาม ชายหนุ่มคอยแต่จะแย่งสูดลมหายใจของเธอไว้ให้เป็นของเขา มือลูบไล้หน้าท้องแบนราบเข้าไปในสาบเสื้อ แต่เพียงหยุดไว้เท่านั้นหลายนานกับการผลัดแลกรสจูบแสนหวานแทนคำบอกรัก ราวกับว่าไม่มีสิ่งใดมาแทนที่กันและกันได้ ก็จะต้องเป็นเขาเท่านั้น ก่อนที่ชายผู้แสนดีจะมอบอิสรภาพให้ เขาผ่อนลมหายใจหอบสั่นอันเต็มไปด้วยความปรารถนา“ไป... ขึ้นห้องนอนกันดีกว่า”นัยน์ตาคู่คมสีฟ้าครามหลุบมองร่างเป