คุณนายกู้ไม่ชอบเยี่ยหลิงเป็นที่สุด พอเข้ามาก็ด่าเยี่ยหลิงว่านางเด็กแพศยาตัวดีใส่เลยทันที!กู้เยี่ยจิ่นเม้มปากบางเล็กน้อย จากนั้นก็มองบอดี้การ์ดชุดดําคนนั้นอย่างเงียบ ๆ ด้วยสีหน้าเรียบเฉย บอดี้การ์ดชุดดําเอ่ยขึ้นอย่างนอบน้อม “คุณนาย คุณชาย ผมขอตัวก่อนครับ”บอดี้การ์ดชุดดําเดินออกไปแล้วมือข้างหนึ่งของกู้เยี่ยจิ่นล้วงเขาไปในกระเป๋ากางเกง ใบหน้าหล่อเหลาทั้งห้าส่วนฉายแววความไม่สบอารมณ์ที่เคลือบแฝงไปด้วยความเยือกเย็นออกมา“แม่ครับ ช่วยรักษาเกียรติของคุณนายตระกูลกู้ของแม่หน่อย อย่าเอ่ยปากด่าทอใคร แม่ก็รู้ว่าผมไม่ชอบที่แม่เป็นแบบนี้”คุณนายกู้สวมเสื้อผ้าที่ราคาแพงลิบลับ อีกทั้งยังดูแลตัวเองดีจนดูอ่อนเยาว์มาก ๆ ผมของเธอถูกม้วนอย่างพิถีพิถัน เห็นได้ชัดว่าเธอเองก็เป็นคนสวยคนหนึ่งเมื่อตอนยังสาวทว่าคิ้วและตาของเธอนั้นเต็มไปด้วยความขุ่นเคืองและขื่นขมซ่อนอยู่จาง ๆ แค่มองก็ดูเหมือนผู้หญิงประเภทที่ไม่ได้รับความรักและการเอาใจใส่จากสามีมานานหลายปีเมื่อเห็นว่าลูกชายของตัวเองปกป้องและคอยให้ท้ายเยี่ยหลิง คุณนายกู้ก็บีบที่พักแขนของรถเข็นจนแน่น “เยี่ยจิ่น คำไหนที่แม่พูดผิดไปอย่างนั้นเหรอ ซุนยี๋แม่
ทันทีที่เธอเข้ามาในบ้านตระกูลกู้ เธอจะได้ยินเสียงการทะเลาะวิวาทที่ไม่จบสิ้นระหว่างคุณลุงกู้กับคุณป้ากู้อยู่ตลอด คุณป้ากู้มักจะด่าว่าแม่ของเธออยู่เสมอว่าแม่ของเธอเป็นนางจิ้งจอกดาวยั่ว เป็นนางแพศยาหน้าไม่อายสวมเขาให้พ่อกับคุณลุงกู้และคนอื่น ๆ อีกมากมาย...หลังจากนั้นคุณป้ากู้ก็เริ่มด่าทอเธอว่าเธอเป็นนางเด็กตัวดี นางเด็กแพศยา เป็นสินค้าชิ้นหนึ่งเหมือนกันกับแม่ของเธอ... เธอเคยเห็นคุณลุงกู้ตบคุณป้ากู้ด้วยฝ่ามือที่ตบเข้าไปที่หน้าของคุณป้ากู้อย่างแรงจนทำให้คุณป้ากู้ล้มลงมาจากรถเข็นและร่วงลงไปกองกับพื้น เธอมองคุณป้ากู้ที่หยิ่งผยอง คุณป้ากู้ทั้งหัวเราะทั้งร้องไห้ราวกับคนบ้า น่าสมเพช และก็...น่าสงสาร...เยี่ยหลิงค่อย ๆ เติบโตขึ้นและเริ่มเข้าใจคําพูดของคุณป้ากู้ว่าแม่ของเธอนอกใจคุณลุงกู้ และการนอกใจในครั้งนั้นได้พรากชีวิตคนสองคนไป ทําให้ขาทั้งสองของคุณป้ากู้พิการ และพี่ชายแท้ ๆ ของเธอก็หายตัวไป เธอกลายเป็นเด็กกําพร้า ทุกคนต่างจมอยู่กับความเจ็บปวด ไม่แปลกใจเลยที่หลังจากเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ในครั้งนั้น ญาติพี่น้องและเพื่อน ๆ ของพ่อต่างมองเธอด้วยสายตาที่เปลี่ยนไปและไม่ได้ให้ความช่วยเหลือใด ๆ
เซี่ยซีหว่านพลิกเหรียญออกมาหนึ่งเหรียญ จากนั้นเธอก็เชิดคางน้อย ๆ ขึ้น แล้วส่งเหรียญนี้ให้ลู่หานถิงด้วยสีหน้าที่เหนือชั้นและหยิ่งผยอง “อะ คุณลู่ นี่คือทิปคุณคืนนี้”เอาเหรียญหนึ่งเหรียญมาเป็นทิปเหรอ? ลู่หานถิงเลิกคิ้วคมกริบได้รูปขึ้นเล็กน้อย “ไปอาบน้ำ” ไปอาบน้ำ... เซี่ยซีหว่านที่กำลังเมามายใช้ฟันขาวกัดริมฝีปากแดงระเรื่อเล็กน้อยพร้อมกับมองเขาด้วยสายตาเย้ายวนราวกับเส้นไหม “เมื่อครู่นี้ปากไม่ตรงกับใจ ตอนนี้กลับพูดตรง ๆ ขึ้นมาซะอย่างนั้น อยากจะอาบน้ำจู๋จี๋กันกับฉันเหรอ?” ลู่หานถิงมองเธอ “ไปอาบน้ำเอง” “...”ที่แท้เขาก็ไม่ได้ต้องการอาบน้ำจู๋จี๋ แต่ปล่อยให้เธอไปอาบน้ำเอง เซี่ยซีหว่านไม่พอใจ เธอกระทืบเท้าด้วยความโมโห “ทําไมต้องให้ฉันไปอาบน้ำเองด้วย ฉันอยากไปอาบน้ำกับคุณ!”ลู่หานถิงรู้สึกว่าตัวเองแทบจะทนไม่ไหวแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นเธอเมา ที่แท้เซี่ยซีหว่านหลังจากดื่มจนเมามายก็เป็นคนที่ทั้งเร้าร้อนอ้อนแอ้นเหมือนปีศาจตัวน้อยเสียงต่ำแหบพร่านั้นทรงพลังจนไม่อาจทัดทานได้ “เชื่อฟังด้วย หืม?” เซี่ยซีหว่านสะดุ้งเฮือกจนแทบจะหลงเคลิ้มไปกับออร่าของชายที่โตเต็มวัยเช่นเขา เธอเขย่งปล
เธอกำลังทำอะไรอยู่?เซี่ยซีหว่านรู้สึกอับอายมาก เธอรู้สึกอยากจะเป็นลมจริง ๆขณะเดียวกันสายตาของเธอก็พร่ามัว ลู่หานถิงจูบเธออีกครั้ง“ไม่นะ!” เซี่ยซีหว่านรีบใช้มือเล็ก ๆ ทั้งสองข้างปิดริมฝีปากบางของเธออย่างรวดเร็ว เธอไม่ยอมให้เขาจูบลู่หานถิงหยุดชะงักแล้วพูดว่า “คนที่สร้างปัญหาชวนทะเลาะขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผลก็คือคุณ คนที่ไร้อารมณ์ก็คือคุณ คุณยึดติดกับผมก็ต่อเมื่อคุณต้องการ และไล่ตะเพิดผมออกไปเมื่อคุณไม่ต้องการ คุณนายลู่ คุณทำกับผมเหมือนผมเป็นเด็กหนุ่มที่ถูกคุณเลี้ยงดูงั้นเหรอ?”“... ฉัน ฉันเมามาก อีกทั้งยังขาดสติ คุณไม่สามารถฉวยโอกาสในเวลาแบบนี้กับผู้อื่นได้” ร่างผอมเพรียวของเซี่ยซีหว่านสั่น เธอพยายามตั้งสติลู่หานถิงเม้มริมฝีปาก หากเขาฉวยโอกาสในครั้งนี้ เธอก็คงจะกลายเป็นผู้หญิงของเขาไปแล้ว“สิ่งนี้ ผมคืนให้คุณ”เซี่ยซีหว่านมองลงไป ในมือของเขามีเหรียญอยู่หนึ่งเหรียญหนึ่ง… เหรียญ…ราวกับว่ามีฟ้าผ่าลงกลางหัวของเซี่ยซีหว่าน เมื่อครู่ตัวเธอเองเพิ่งมอบเหรียญให้เขาเพื่อเป็นทิป แถมยังอยากจะอาบน้ำ และจูบกับเขาอีกด้วย…ลู่หานถิงยื่นเหรียญให้กับมือเล็ก ๆ ของเธอ และพูดว่า “นี่มันน้อยไป
เซี่ยซีหว่านขมวดคิ้วด้วยความเจ็บปวด ริมฝีปากสีชมพูของเธอซีดลงในทันทีไม่กี่วินาทีต่อมาลู่หานถึงก็รู้สึกตัว แรงกระตุ้นที่กระหายเลือดอย่างบ้าคลั่งนี้ทำให้เขารู้สึกหนาวสั่นราวกับว่าเขาตกลงไปในเหวลึกเขาเอื้อมมือออกไปและผลักเธอออกอย่างรวดเร็วเซี่ยซีหว่านลืมตา ตัวของเธอสั่นเทาขณะมองไปที่เขาและพูดว่า “คุณชายลู่ อาการป่วยของคุณกำเริบอีกแล้วใช่ไหมคะ ขอฉันดูหน่อย…”“อย่ามาแตะต้องตัวผม!” ลู่หานถิงรีบลุกขึ้นแล้วเดินไปที่ห้องน้ำ เขาพูดว่า “คุณไปนอนก่อนเถอะ”เขาล็อคประตูห้องน้ำทุกครั้งที่อาการของเขากำเริบ เขาจะทำแบบนี้ตลอด บอกให้เธอออกไป เซี่ยซีหว่านรู้ดีว่าผู้ชายอย่างเขานั้นหยิ่งในศักดิ์ศรีของตนเอง และเขาไม่ต้องการที่จะแสดงด้านที่น่าอับอายของเขาออกมาต่อหน้าเธออย่างไรก็ตาม เขาไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้เขาขังตัวเองไว้ ซึ่งมันยิ่งทำให้สถานการณ์แย่ลงเซี่ยซีหว่านยื่นมือออกไปเคาะประตูและพูดว่า “ลู่หานถิงเปิดประตูเดี๋ยวนี้ ฉันเป็นหมอ และฉันสามารถช่วยคุณได้… ฉันรู้ว่าตอนนี้คุณกำลังเจ็บปวด คุณเปิดประตู แล้วให้ฉันดูอาการคุณเถอะค่ะ!”ในห้องน้ำร่างสูงโปร่งของลู่หานถิงยืนอยู่ข้างอ่างล้างหน้า
ตอนตี 5 ห้องยาไร้ซึ่งผู้คน เซี่ยซีหว่านเปิดเพียงโคมไฟติดผนังในห้องน้ำเท่านั้น จากนั้นก็ถอดเสื้อผ้าออกผิวสีขาวของหญิงสาวมีรอยฟกช้ำ อีกทั้งบาดแผลที่ถูกกัดยังเต็มไปด้วยเลือด เซี่ยซีหว่านหยิบขวดยาฆ่าเชื้อออกมาแล้วเริ่มรักษาบาดแผลของเธอด้วยสำลีก้านฟู่ดวงตาที่สดใสของเธอแดงก่ำด้วยความเจ็บปวดขณะเดียวกัน ประตูห้องน้ำก็ถูกเปิดออก มีหนุ่มรูปหล่อที่ดูไม่แยแสต่อสิ่งต่าง ๆ ปรากฏตัวขึ้นที่ประตูเซี่ยซีหว่านไม่คิดว่าจะมีใครเข้ามาที่นี่ตั้งแต่เช้า เธอหลบสายตาของเขา จากนั้นก็ยื่นมือออกมาดึงเสื้อผ้าเพื่อปกปิดร่างกายของตนเองในทันที“ใครคะ?”เซี่ยซีหว่านหันไปมอง คนที่ยืนอยู่ที่ประตูคือ... ผู้ชายขี้เซาที่ชอบนอนในห้องยาเธอเกือบจะลืมคนที่ไปไหนมาไหนไม่ให้ซุ่มไม่ให้เสียงราวกับผีคนนี้เสียแล้วผู้ชายที่ประตูก็ไม่คิดว่าจะเป็นเธอเช่นกัน หญิงสาวสวมผ้าคลุมหน้า เห็นเพียงนัยน์ตาสีเข้มและเฉลียวฉลาด เธอมองมาที่เขาอย่างระแวดระวัง ภายในแววตาของเธอมีน้ำตาคลอเล็กน้อยเนื่องจากความเจ็บปวดในตอนนี้ ร่างผอมเพรียวสั่นเบา ๆ ความงามที่วิจิตรบรรจงของเธอนั้น ทำให้ผู้คนแทบจะละสายตาไม่ได้เลยทีเดียวชายคนนั้นเหลือบมองเธอ จ
เซี่ยซีหว่านไม่ได้อยู่ที่นี่แล้วลู่หานถิงลืมตาขึ้นอย่างรวดเร็ว อาการงัวเงียเมื่อครู่หายไปในทันที ความทรงจำเมื่อคืนค่อย ๆ พรั่งพรูออกมาที่ละน้อยเมื่อคืนนี้อาการของเขากำเริบ จากนั้นเขาก็โยนเธอลงบนเตียงเลือดอันหอมหวานของเธอ และกลิ่นหอมราวกับดอกป๊อปปี้บนเรือนร่างของหญิงสาว…จู่ ๆ ลู่หานถิงก็ลุกขึ้นนั่ง เขาลุกออกจากเตียง จากนั้นก็มองไปรอบ ๆ ห้องขนาดใหญ่ ห้องแต่งตัว และห้องน้ำ… ต่างก็ไม่มีวี่แววของเธอเลย“หว่านหว่าน...”เธอไปออกไปแล้วอย่างนั้นเหรอ?เธอน่าจะออกไปแล้วเขาจำไม่ได้ว่าเมื่อคืนเขาทำให้เธอมีบาดแผลมากเท่าไหร่ ตัวตนที่มืดมน โหดร้าย และกระหายเลือดทำให้เขารู้สึกรังเกียจ และหวาดกลัวเป็นอย่างมาก แล้วเธอล่ะ จะกลัวมากขนาดไหน?เมื่อคืนเธอคงได้รับบาดเจ็บหนัก เธอคงจะกลัวมากแน่ ๆ ดังนั้นเธอเลยจากไปในอนาคตเธอยังจะกลับมาไหม?ลู่หานถิงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา และพบกับหมายเลขโทรศัพท์ที่ไม่ได้รับสายของเซี่ยซีหว่าน เขาต้องการโทรกลับ แต่สุดท้ายแล้วเขาไม่สามารถกดปุ่มโทรออกได้...หลังจากลู่หานถิงอาบน้ำเสร็จ เขาก็ลงไปชั้นล่าง คุณท่านลู่ทักทายเขาว่า “หานถิง วันนี้แกตื่นสายมาก แล้วทำไมห
ด้านนอกของสถาบันวิจัยซูมี่ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนธอมหยุดจอดอย่างช้า ๆ ลู่หานถิงมองไปทางห้องยาผ่านทางหน้าต่างกระจกใส เขารู้ว่าเธออยู่ที่นั่นตราบใดที่เขาเข้าไปตอนนี้ เขาก็จะได้พบกับเธอในมือของเขามียาขี้ผึ้งที่ซื้อมาให้เธอ เขาอยากจะมอบมันให้กับเธอมากอย่างไรก็ตาม เขาจะไม่เข้าไป เขาแค่อยากจะแวะมาดู และอยากจะอยู่ใกล้เธออีกสักนิดก็เท่านั้นเองลู่หานถิงเอนหลังอันแข็งทื่อของเขาลงบนเบาะฝั่งคนขับ นี่คือระยะห่างที่ปลอดภัยระหว่างเขากับเธอ ตราบใดที่เธอไม่เข้าใกล้เขา เขาก็จะไม่สามารถทำร้ายเธอได้เขาไม่อยากจากเธอไปเลยเด็กสาวที่อ่อนโยนและเฉลียวฉลาดคนนี้ เขาชอบเธอมาก และตอนนี้เธอก็เป็นยาเพียงตัวเดียวของเขาลู่หานถิงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาอีกครั้ง และพบกับบัญชี WeChat ของเธอ การแชทครั้งสุดท้ายระหว่างคนทั้งสองสิ้นสุดลงตอนที่เธอไปซานย่า เธอส่งรูปตอนที่เธอใส่ชุดว่ายน้ำให้เขาโดยไม่ได้ตั้งใจเขาได้บันทึกรูปภาพนี้ลงในโทรศัพท์เรียบร้อยแล้วความทรงจำเมื่อคืนค่อย ๆ พรั่งพรูออกมาทีละน้อย เขาจำท่าทางของเธอในขณะนั้นได้ หน้าเล็ก ๆ ที่ซีดขาวของเธอกลายเป็นสีแดง และเธอยังเตะเขาอีกด้วย…ลู่หานถิงยกมือขึ้นเพื่อปิ
เซี่ยซีหว่านรู้สึกได้ว่าลู่ซือเจี๋ยรักลูกชายทั้งสองคนนี้ ดังนั้นที่เมืองไห่เฉิง เขาไม่สามารถอนุญาตให้เธออยู่ได้ แต่ตอนนี้เมื่อรู้ว่าเธอเป็นลูกสาวของหลินสุ่ยเหยา เมื่อตอนนั้นหลินสุ่ยเหยากับหลิวอิงหลั่วสองสาวครองอันดับหนึ่งเรื่องความเก่งกล้าสามารถที่สุดของเมืองหลวง เขาต้องการตามหาหลินสุ่ยเหยา ผ่านตัวเธอ ดังนั้นเขาจึงปล่อยวางลูกชายสองคนของเขาลงและปล่อยให้เธอดำรงอยู่หมายความว่า ภายในใจของลู่ซือเจี๋ย หลิวอิงหลั่วมีความสำคัญมากกว่าลูกชายทั้งสองคนของเขานี่เป็นครั้งแรกที่ เซี่ยซีหว่านตระหนักอย่างแท้จริงว่าลู่ซือเจี๋ยรักหลิวอิงหลั่วอย่างสุดซึ้งหลิวอิงหลั่วหายตัวไปหลายปี ปีนี้ลูกชายของเธอลู่หานถิงอายุ 28 ปีแล้ว เซียซีหว่านไม่รู้ว่าแท้ที่จริงแล้วมันเป็นอย่างไร ความรักที่ลึกซึ้งถึงสามารถทนต่อการกัดเซาะและความแข็งแกร่งของปีที่เลยผ่านได้ จึงทำให้ชายที่ราวกับจักรพรรดิยังคงรออยู่ที่นี่ตลอด บางทีอาจเป็นสถานที่ที่พวกเขาพบกันครั้งแรกแต่รักอย่างสุดซึ้ง ทำไมถึงต้องเจ็บอีก?ตอนนั้นหลินอิงหลั่วตั้งท้องลูกคนที่สอง เธอหยิบมีดมาคว้านท้องตัวเอง อุ้มทารกออกมา ช่างน่าเวทนานัก?ถ้าไม่ใช่เพราะถูกบีบบังคับจ
แต่ว่า เธอปรากฏตัวต่อหน้าเขาครั้งแล้วครั้งเล่าทุกครั้งที่เธอปรากฏตัว เขาจะควบคุมตัวเองไม่ได้และไม่เป็นตัวของตัวเองแม้แต่น้อยเขาพยายามไม่ให้ไปหลงเสน่ห์เธอแล้ว แต่ก็ทำไม่ได้หลังจากที่ได้รู้ในห้องนั่งเล่นเมื่อครู่นี้ว่าเธอคือ เด็กผู้หญิงตัวน้อยเมื่อก่อนนั้น เดิมที่แม่ของเขายอมยกเจ้าสาวตัวน้อยแก่เขา เขารู้สึกว่าความยับยั้งชั่งใจและความอดกลั้นที่ผ่านมาในหลายวันมานี้ได้พังทลายลงลู่หานถิงจ้องมองเธออย่างดุดันด้วยดวงตาสีแดงก่ำ เขายกริมฝีปากบางของเขาขึ้นเล็กน้อย และพูดอย่างเยาะเย้ยว่า “ทำไมสวี่เส้าหนานถึงได้ ลู่จื่อเซียนถึงได้ แต่ทำไมฉันไม่ได้เหรอ?”“…”ใบหน้าเล็กสวยงามของเซี่ยซีหว่านเปลี่ยนเป็นสีขาวและแดงสลับกัน เธอยกมือเล็กขึ้นเพื่อตบลงไปยังใบหน้าอันหล่อเหลาด้วยความน่าเกลียดชังอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เธอไม่ไม่ได้ตบเขาเพราะลู่หานถิงจับข้อมือเรียวของเธอไว้ได้ทัน เธอจึงไม่ได้ตบใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาลู่หานถิงมองดูเธอด้วยแววตาเศร้าโศกและพูดว่า “เซี่ยซีหว่าน ผมไม่รู้ว่าคุณกำลังใช้เล่ห์เหลี่ยมอะไรนะ สิ่งที่ผมสามารถให้คุณได้คือสิ่งที่ลู่จื่อเซียนและสวี่เส้าหนานไม่สามารถให้คุณได้แน่นอน ถ้าหา
เขาจำไม่ได้แล้วแน่นอน เพราะความทรงจำเหล่านั้นเธอลบมันไปหมดแล้ว ดังนั้นเขาจึงสามารถพูดได้อย่างชอบธรรมแถมเขายังพูดอีกว่า การที่เขานอนกับเธอคือ การนำน้ำสกปรกสาดใส่ตัวเขา เขาคิดว่าเธอเป็นอะไร น้ำสกปรกเหรอ?แน่นนอน เขาเกลียดเธอ !แต่ในเมื่อเขาเกลียดเธอมาก ทำไมเขาถึงมารังควานเธอด้วย?เซี่ยซีหว่านมองใบหน้าที่เย็นชาหล่อเหลาของเขาและพูดเยาะเย้ยว่า “ฉันแค่พูดไร้สาระ พอใจหรือยังล่ะ คนที่บริสุทธิ์ผุดผ่องอย่าประธานลู่ ฉันจะทำให้คุณมีมลทินได้อย่างไรคะ !”“บริสุทธิ์เหรอ” ลู่หานถิงขมวดคิ้วรูปดาบอันองอาจผึ่งผายนั้นและกล่าวว่า “คนที่พูดว่าผมนอนกับคุณ ก็คือคุณ ตอนนี้คนที่กำลังพูดไร้สาระก็คือคุณ คิดว่าเป็นหญิงสาวคนหนึ่งก็สามารถพูดจาเหลวไหลแบบนี้ออกมาได้งั้นเหรอ เซี่ยซีหว่าน คุณยังมียางอายอยู่อีกไหม?”“ฉันจะมีหรือไม่มียางอายเกี่ยวอะไรกับคุณด้วยเหรอคะ ใช่สิประธานลู่ คุณคงจะยังไม่...เป็นหนุ่มน้อยบริสุทธิ์คนหนึ่งอยู่ใช่ไหมคะ?”ดวงตาของเซี่ยซีหว่านเปล่งประกาย ทันใดนั้นดูเหมือนว่าจะเจอกับปัญหาเข้าแล้ว เขาไม่มีความทรงจำช่วงนั้นแล้ว เขาคงจำไม่ได้ว่าเขากับเธอเคยเดือดพล่านกันบนเตียงมาก่อน งั้นเขาคงไม่คิดว่า
เซี่ยซีหว่านใช้ส้อมจิ้มสเต็กชิ้นเล็ก ๆ เพิ่งเตรียมจะใส่เข้าปาก ตอนนี้เท้าของเธอที่อยู่ใต้โต๊ะถูกเตะอย่างแรง สเต็กบนส้อมก็ร่วงตกลงมาบนจานทันที“หว่านหว่าน คุณเป็นอะไรไปครับ?” ลู่จื่อเซียนถามด้วยความเป็นห่วงร่างผอมเพรียวของเซี่ยซีหว่านสั่นไหวเล็กน้อย เธอมองไปยังลู่หานถิงซึ่งนั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม เขาไม่ได้พูดอะไรมาโดยตลอดตั้งแต่เธอเดินเข้ามา แต่เขาเพิ่งเตะเธอเขาเป็นอะไรของเขา?ลู่หานถิงหั่นสเต็กในมืออย่างสง่างามราวกับว่าคนที่เตะเมื่อกี้ไม่ใช่เขา ทั้งหมดไม่เกี่ยวอะไรกับเขาเลยเข้าใจแกล้งจริง ๆ !เซี่ยซีหว่านด่าเขาในใจแล้วยิ้มให้ลู่จื่อเซียนและกล่าวว่า “จื่อเซียน ฉันไม่เป็นอะไรค่ะ”ทั้งห้าคนก็จบมือค่ำในบรรยากาศอันแปลก ๆ แบบนี้ลง...หลังมื้อเย็น เซี่ยซีหว่านไปห้องน้ำทันทีที่เธอเดินเข้ามา มือใหญ่มือหนึ่งจากด้านในยื่นออกมา และคว้าข้อมือที่เรียวยาวของเธอแล้วดึงเธอเข้าไปเซี่ยซีหว่านชนเข้ากับหน้าอกแข็งแกร่งอย่างกระทันหัน หน้าอกนี้แข็งแกร่งราวกับกับแพง เธอชนเข้าไปราวกับกระดูกของเธอจะแตกสลาย นัยน์ตาขาวบริสุทธื์แดงก่ำด้วยความเจ็บปวดเธอเงยหน้าขึ้นและใบหน้าที่หล่อเหลาละเอียดงดงามของล
ด้านนอกประตูคือลู่จื่อเซียนจริง ๆ และยังมีเงาเพรียวบางเงาหนึ่งอยู่ข้างกายของลู่จื่อเซียนหลิวจ้าวตี้ดีใจมาก “จื่อเซียน ลูกกลับมาแล้วเหรอ คู่หมั้นของลูก…”แววตาของหลิวจ้าวตี้จับจ้องไปยังเซี่ยซีหว่าน เมื่อมองชัดเจนแล้วว่าเป็นเซี่ยซีหว่าน รูม่านตาของหลิวจ้าวตี้ก็เบิกกว้างและตัวแข็งทื่ออยู่กับที่ในทันทีเป็นไปได้ยังไงกัน?ทั้งลู่ซือเจี๋ยและลู่หานถิงที่อยู่ในห้องนั่งเล่นต่างก็ได้ยินการเคลื่อนไหวที่ด้านนอกประตู คืนนี้พวกเขากำลังรอให้ลู่จื่อเซียนพาคู่หมั้นลึกลับกลับบ้านลู่ซือเจี๋ยวางหนังสือพิมพ์เศรษฐกิจในมือลงแล้วยืนขึ้นพลางเอ่ยถามว่า “เกิดอะไรขึ้น?”ทันใดนั้นลู่จื่อเซียนจูงมือเล็ก ๆ ของเซี่ยซีหว่านเดินเข้ามาทันทีที่ลู่ซือเจี๋ยเห็นเซี่ยซีหว่าน เขาเคยต่อกรกับเซี่ยซีหว่านมาแล้วสองครั้ง เขารู้ดีว่าเด็กสาวคนนี้ไม่ธรรมดา แต่เขาไม่คิดมาก่อนว่าเซี่ยซีหว่านจะเป็นลูกสาวของหลินสุ่ยเหยา!ในขณะเดียวกันนั้นลู่หานถิงก็มองไปยังลู่จื่อเซียน จากนั้นดวงตาอันเฉี่ยวคมของเขาก็ค่อย ๆ หันไปมองใบหน้าที่งดงามของเซี่ยซีหว่าน จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นยืนการมาถึงของเซี่ยซีหว่านทำให้ครอบครัวลู่ทั้งหมดตกอยู่ในบรรยากา
ลู่จื่อเซียนพูดกับเธอว่า หว่านหว่านผมชอบคุณครับเซี่ยซีหว่านนั่งลง เธอรู้ว่าลู่จื่อเซียนรู้สึกกับเธออย่างไร ได้รับความรักจากคุณชายรองตระกูลลู่ที่ทั้งสง่างาม และมีความสามารถ เธอควรจะมีความสุข และตื่นเต้นมากกว่าผู้หญิงคนไหน ๆ อย่างไรก็ตาม เธอไม่ได้รู้สึกแบบนั้นกับลู่จื่อเซียน นอกจากนี้เธอแต่งงานกับลู่หานถิงแล้ว แม้จะเป็นระยะเวลาสั้น ๆ ก็ตาม แต่เธอก็เคยเป็นพี่สะใภ้ของเขาแล้ว และตอนนี้เธอได้กลายมาเป็นคู่หมั้นของเขาอีกครั้ง ความรู้สึกนี้เป็นความรู้สึกที่แปลกประหลาดขณะเดียวกันเซี่ยปัง และหลานเหยียนเดินเข้ามา เขาพูดว่า “หว่านหว่านการแต่งงานในครั้งนี้เป็นความต้องการของแม่ของลูก พวกเราคิดว่าคุณชายรองตระกูลลู่เป็นคนที่ดีมาก เขาจะไม่ทำให้ลูกเศร้าเสียใจเหมือนใครบางคน ตอนนี้ลูกคงจะไม่ปฏิเสธคุณชายรองตระกูลลู่เพราะคน ๆ นั้นใช่ไหม?”“ใช่แล้วหว่านหว่าน ผู้หญิงอย่างพวกเราต้องมองไปข้างหน้า ผ่านไปแล้วก็ผ่านไป ไม่ต้องไปเสียใจกับมัน ปล่อยวางในสิ่งที่ควรจะปล่อย ถ้าลูกไม่ยอมเปิดใจ และก้าวไปข้างหน้า ลูกจะเห็นความงามของชีวิตได้อย่างไร?”เซี่ยปังและหลานเหยียนไม่ชอบลู่หานถิง ลู่หานถิงแต่งงานกับลี่เหยียนหลา
สวี่เส้าหนานรู้สึกขมขื่นภายในใจ !คุณท่านลี่ไม่ต้องการให้เซี่ยซีหว่านลงเอยกับสวี่เส้าหนานหลานชายของท่าน เธอคิดว่าสองคนนี้ไม่คู่ควรกัน ตอนนี้คุณท่านลี่กำลังยืนมองลู่จื่อเซียน คุณท่านลี่รู้จักลูกชายสองคนของตระกูลลู่ เป็นอย่างดี เห็นได้ชัดว่าลู่จื่อเซียนเป็นเหมือนกับดอกบัวที่บานในโคลนตม เขาเป็นคนที่ดีมากชีวิตส่วนตัวของลู่จื่อเซียนใสสะอาดมาก และเขายังไม่เคยมีแฟนมาก่อน คุณท่านลี่ดูออกว่าลู่จื่อเซียนชอบเซี่ยซีหว่านมาก เขาดูแล และเอาใจใส่เธอด้วยความรัก ดังนั้นคุณท่านลี่จึงมองเขาเหมือนหลานชายคนหนึ่ง ท่านเหลือบมองลู่จื่อเซียน จากนั้นก็พยักหน้าอย่างพึงพอใจเซี่ยปังและหลานเหยียนก็พอใจในตัวลู่จื่อเซียนมากเช่นเดียวกัน ในมหานครเอมพีเรียลแห่งนี้ ลู่จื่อเซียนเป็นคนที่มีความสามารถและหล่อเหลา อีกทั้งยังเหมาะสมกับเซี่ยซีหว่านแหวนหยกวงนี้เป็นแหวนที่หลินสุ่ยเหยาสวมอยู่ตลอดเวลา เซี่ยปังและหลานเหยียนจำข้าวของส่วนตัวของหญิงสาวได้อย่างรวดเร็ว ย้อนกลับไปในตอนนั้นเธอได้หมั้นหมายเซี่ยซีหว่านกับลูกชายของเพื่อนสนิท พวกเขาคิดไม่ถึงว่าเด็กชายคนนั้นจะเป็นคุณชายรองตระกูลลู่ลู่จื่อเซียนเป็นนักวิชาการที่อายุน้อยท
เซี่ยปัง “...”ที่นี่...คือตระกูลเซี่ย ไม่ใช่เหรอ?เซี่ยปังมองไปยังคุณท่านลี่ที่พูดออกไปเช่นนั้น มุมปากของเขากระตุกเล็กน้อยคุณท่านลี่เป็นนายหญิงของตระกูลลู่มานานหลายปีแล้ว ท่านมีภาพลักษณ์ที่น่าเกรงขามเป็นอย่างมาก บรรดาผู้ใต้บังคับบัญชาที่ถูกท่านดุก็มักจะกลัวจนขาอ่อนแรง และเกือบจะล้มลงไปในทันทีขณะเดียวกันร่างที่หล่อเหลา และดูชั่วร้ายก็ปรากฏตัวขึ้น เขาพูดว่า “อย่าทำให้เขาตกใจกลัวสิครับคุณยาย ผมเองที่มาที่นี่ !”เมื่อทุกคนหันไปมอง กลายเป็นสวี่เส้าหนานคุณชายของตระกูลสวี่ เจ้าชายแห่งมหานครเอมพีเรียลที่ไม่เคยเกรงกลัวสิ่งใดเขามาที่นี่จริง ๆ !คุณท่านลี่มองสวี่เส้าหนานด้วยสีหน้าไม่พอใจ ราวกับว่าที่นี่เป็นบ้านของท่านจริง ๆ ท่านพูดว่า “ทำไมหลานถึงมาที่นี่ได้ล่ะ?”“คุณยายผมมาที่นี่เพราะ…” ดวงตาทรงดอกท้อของสวี่เส้าหนานมองไปยังใบหน้าที่งดงามของเซี่ยซีหว่าน และพูดต่อว่า “...เพราะเซี่ยซีหว่านครับ !”คุณชายที่มีชื่อเสียงเช่นเขา มีข่าวลือไปทั่วว่าเขาเปลี่ยนผู้หญิงราวกับเปลี่ยนเสื้อผ้า เซี่ยปังและหลานเหยียนรีบดึงเซี่ยซีหว่านไปทางด้านหลังพวกเขา และพูดว่า “คุณชายสวี่ครับ หว่านหว่านของพวกเราไม่
คุณท่านลี่ยิ้ม และพูดว่า “ทำไมล่ะ ฉันมาร่วมฉลองงานวันเกิดของเซี่ยปังผู้ยิ่งใหญ่ไม่ได้เหรอ?”เมื่อท่านพูดจบ ภายในห้องโถงก็เกิดความโกลาหลขึ้นในทันที ท่านผู้เฒ่าแห่งตระกูลลี่มาที่นี่เพื่อฉลองวันเกิดให้กับเซี่ยปัง!”คุณท่านลี่มองไปที่เซี่ยปังและหลานเหยียน จากนั้นก็พูดว่า “ท่านเซี่ย คุณนายเซี่ย ฉันมาที่นี่โดยไม่ได้รับคำเชิญ หวังว่าพวกคุณจะไม่ถือสาและไล่ฉันออกไปใช่ไหม?”เซี่ยปังและหลานเหยียนชำเลืองมองกัน พวกเขาไม่คิดว่าจู่ ๆ คุณท่านลี่จะมาร่วมงานด้วย แม้ว่าตระกูลเซี่ยจะเป็นตระกูลที่มีอิทธิพล แต่ตระกูลขุนนางเก่าแก่ที่ร่ำรวยในมหานครเอมพีเรียลก็ไม่ได้สนใจที่จะคบค้าสมาคมกับพวกเขา นั่นเป็นเป็นเหตุผลว่าทำไมเซี่ยซีหว่านจึงไม่สามารถเข้าสู่แวดวงคนดังในมหานครเอมพีเรียลได้ตระกูลเซี่ยและสี่ยักษ์ใหญ่แห่งมหานครเอมพีเรียลไม่เคยติดต่อไปมาหาสู่ หรือมีปัญหาอะไรกันมาก่อน แต่จู่ ๆ วันนี้คุณท่านลี่กลับมาที่นี่อย่างกะทันหัน ทำให้ทุกคนในที่นี้ต่างก็ตกตะลึงแต่ในเมื่อท่านมาถึงที่นี่แล้ว เซี่ยปังก็ไม่สามารถไม่ต้อนรับท่าน เขาจึงพูดว่า “คุณท่านลี่ ยินดีต้อนรับครับ”คุณท่านลี่ยิ้ม จากนั้นก็ส่งกล่องของขวัญให้กับเ