ใบหน้าของเซี่ยซีหว่านซีดเผือด เธอไม่คิดว่าในระยะเวลาสามเดือนที่เธอจากเมืองไห่เฉิงมา คุณย่าจะป่วยหนักถึงเพียงนี้ตอนนั้นเธอไม่ได้บอกลากับคุณย่า เหตุผลแรกเป็นเพราะเธอกลัวว่าคุณย่าจะรู้สึกเสียใจ เหตุผลที่สองเป็นเพราะเธอรู้สึกว่าเพียงแค่ลู่หานถิงอาการดีขึ้น คุณย่าก็น่าจะมีความสุข และอายุยืนยาวมากขึ้นแล้ว เธอไม่คิดเลยว่าเรื่องราวจะกลายเป็นเช่นนี้คุณย่าอายุมากแล้ว หากไม่กินอาหารเลยก็ยากที่จะดำรงชีวิตอยู่ต่อไปได้“หว่านหว่าน ฉันคิดว่าหญิงชราคงจะรู้สึกป่วยใจ แม้ว่าลู่หานถิงจะเป็นหลานชายของท่าน แต่หญิงชราก็รักและเอ็นดูเธอมาโดยตลอด อยู่ดี ๆ เธอก็หายตัวไปเพื่อช่วยลู่หานถิงแบบนั้นน่าจะทำให้หญิงชรารู้สึกเศร้าและกังวลจนล้มป่วยอย่างแน่นอน” เยี่ยหลิงพูดดวงตาของเซี่ยซีหว่านเปลี่ยนเป็นสีแดง และพูดว่า “หลิงหลิง ฉันจะไปหาคุณย่าตอนนี้เลย ฉันจะทำทุกวิถีทางให้คุณย่าดีขึ้น แต่ตอนนี้คุณย่าอยู่ในคฤหาสน์ซีหยวนของลู่หานถิง ฉันจะหาเหตุผลอะไรเพื่อเข้าพบคุณย่าดีล่ะ?”“ฉันได้ยินมาว่าลู่หานถิงกำลังตามหาเชฟฝีมือดีอยู่ หว่านหว่าน เธอลองไปสมัครเป็นเชฟคนสวยดูสิ แค่นี้เธอก็จะมีเหตุผลในการเข้าไปดูแลหญิงชราแล้ว”ดวงต
เซี่ยซีหว่านปฏิบัติต่อหญิงชราราวกับว่าท่านเป็นคุณย่าแท้ ๆ ของเธอ ไม่เหมือนกับลี่เหยียนหลานที่มาเอาใจหญิงชราเพื่อให้ลู่หานถิงเห็นเท่านั้นลี่เหยียนหลานที่เห็นว่าหญิงชราทานอาหารอะไรไม่ได้เลย ทั้งไอ และอาเจียนออกมา แต่เมื่อเธอเห็นหญิงชราเป็เช่นนั้นเธอกลับรู้สึกผิดหวัง แต่ไม่ได้รู้สึกทุกข์ใจแม่บ้านอู๋รู้ดีว่าถ้าคุณนายยังอยู่ตรงนั้น เมื่อเธอเห็นหญิงชราเป็นเช่นนี้เธอจะต้องรู้สึกเจ็บปวดอย่างแน่นอนคุณนายจากไปสามเดือนแล้ว แต่เธอยังคงอยู่ในใจของทุกคนคุณท่านลู่พูดทั้งน้ำตาว่า “นี่มันไม่ยุติธรรมต่อหว่านหว่าน เธอยังเด็กมาก และชีวิตของเธอเพิ่งเริ่มต้นขึ้น...เพื่อช่วยชีวิตอาถิงทำให้เธอต้องตาย แต่ถึงอย่างไรอาถิงก็ลืมความทรงจำเรื่องของเธอไปหมดแล้ว อีกทั้งข้างกายของเขาก็ยังมีลี่เหยียนหลาน และอาจจะมีผู้หญิงคนอื่นอีกในอนาคต...”คุณท่านลู่ร้องไห้พลางกำมือแน่นพร้อมกับทุบลงบนหน้าอกของเธอ และพูดว่า “อีกอย่างต่อหน้าอาถิงฉันไม่สามารถพูดถึงหว่านหว่านได้เลย...แม่บ้านอู๋ เธอก็รู้ว่าหัวใจของฉันรู้สึกเจ็บปวดมากแค่ไหน...ฉันรู้สึกเจ็บปวดมากจริง ๆ ...”แม่บ้านอู๋เอื้อมมือไปกอดหญิงชราที่มีรูปร่างผอมบางดูอ่อนแอ
แม่บ้านอู๋หม่าพาเซี่ยซีหว่านไปที่ห้องนอนห้องข้าง ๆ ห้องนอนของหญิงชรา ซึ่งห้องนอนห้องนี้มีลักษณะที่ใหญ่มาก ภายในห้องนอนตกแต่งอย่างเรียบง่าย และหรูหราการออกแบบ และการตกแต่งภายในห้องนอนใช้โทนสีเย็น ส่วนใหญ่เป็นสีดำ สีเทา และสีน้ำเงินให้ความรู้สึกสงบนิ่ง และลึกลับตามสไตล์ของลู่หานถิง“แม่บ้านอู๋คะ พวกเรามาผิดห้องหรือเปล่าคะ ฉันคิดว่าห้องนี้ดูเหมือนห้องของคุณชายลู่นะคะ” เซี่ยซีหว่านเอ่ยถามด้วยความสงสัยแม่บ้านอู๋รู้สึกตกใจและรีบหัวเราะกลบเกลื่อนในทันทีว่า “เราไม่ได้เข้าห้องผิดค่ะคุณนาย นี่คือห้องรับแขกของที่นี่ คฤหาสน์ซีหยวนแห่งนี้เป็นทรัพย์สินส่วนบุคคลภายใต้ชื่อคุณชาย ดังนั้นการออกแบบของแต่ละห้องจึงคล้ายคลึงกันตามรสนิยมของคุณชายค่ะ”“อ๋อ แบบนี้นี่เอง” เซี่ยซีหว่านพยายามกำจัดความสงสัยของเธอ และพยักหน้าเพื่อที่จะสื่อว่าเธอเข้าใจแล้วแม่บ้านอู๋แอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก เธอรู้สึกว่าเมื่อเธอเลือกที่จะรับใช้หญิงชราแล้ว เธอก็ควรที่จะโกหกตามน้ำไปด้วย “อ้อ อีกเรื่องหนึ่งค่ะแม่บ้านอู๋ คราวหลังอย่าเรียกหนูว่าคุณนายอีกนะคะ เพราะตอนนี้สถานะของหนูเปลี่ยนไปแล้วค่ะ ต่อจากนี้ให้เรียกชื่อหนูแทนนะคะ
ลู่หานถิงจำความฝันของเขาในคืนนั้นได้…เธอมาอยู่บนเตียงของเขาได้อย่างไร?ลู่หานถิงเอื้อมมือที่หยาบกร้านออกไปลูบไล้บนใบหน้าที่ขาวนวลของเธอผิวของเธอขาวนวลเนียนและบริสุทธิ์ผุดผ่องโดยไม่ต้องแต่งเติมใบหน้า กลิ่นกายของเธอนั้นมีกลิ่นหอมอย่างเป็นธรรมชาติ กลิ่นหอมของเจลอาบน้ำของเขายังติดอยู่บนร่างกายของเธอ ทุกสิ่งที่อยู่บนตัวของเธอดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่เขาชื่นชอบลู่หานถิงกดนิ้วลงไปบนผิวของเธออย่างแรง ผิวของเธอบอบบางมาก เพียงแค่เขากดนิ้วลงไป ผิวบริเวณนั้นก็เปลี่ยนเป็นสีแดงอย่างรวดเร็วเขากดมือลงไปบนผิวของเธอหลายต่อหลายครั้งริมฝีปากสวยได้รูปของเธอเม้มเข้าหากันจนเป็นเส้นโค้งมน จากนั้นลู่หานถิงก็ก้มศีรษะลงจูบริมฝีปากสีแดงของเธออย่างรวดเร็วเดิมทีเซี่ยซีหว่านกำลังนอนหลับสบายเป็นอย่างมาก แต่ทันใดนั้นเธอก็ฝันร้ายและรู้สึกราวกับว่ามีก้อนหินก้อนใหญ่กำลังกดทับหัวใจของเธอร่างเพรียวบางสั่นเทาเล็กน้อย จากนั้นเซี่ยซีหว่านก็ลืมตาขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อเธอลืมตาขึ้น เธอก็พบกับใบหน้าที่หล่อเหลา และมีเสน่ห์ของลู่หานถิงเซี่ยซีหว่านตกใจมาก เธอไม่มีเวลาคิดทบทวนเลยว่าทำไมเขาถึงมาอยู่ในห้องนอนของเธอได้ และเ
เช้าวันรุ่งขึ้นลู่หานถิงตื่นสายกว่าปกติ วันนี้สีหน้าของเขาดูไม่ค่อยดีนัก เขาดูหม่นหมองเป็นอย่างมากเมื่อเขาตื่นแล้ว เขาก็ไปหาคุณย่าที่อยู่ห้องข้าง ๆ เป็นอันดับแรก แต่เมื่อเขาเปิดประตูเข้าไปในห้อง บนเตียงกลับว่างเปล่า คุณย่าหายตัวไปแล้วลู่หานถิงเบิกตากว้าง เขาเม้มริมฝีปากบางของเขาเป็นเส้นโค้งด้วยความไม่พอใจ คุณย่าของเขาหายไปไหน?สามเดือนที่ผ่านมาคุณย่าอยู่แต่ในห้อง และท่านไม่อยากออกไปไหนเลย“แม่บ้านอู๋หม่า คุณย่าอยู่ที่ไหนครับ?”ลู่หานถิงรีบเดินลงมาชั้นล่างอย่างรีบร้อน จากนั้นเขาก็หยุดอยู่ที่หน้าห้องนั่งเล่นในทันที เพราะเขาเห็นคุณย่าของเขาแล้วตอนนี้หญิงชราอยู่ในห้องครัว เนื่องจากท่านเจ็บป่วยมาเป็นเวลานาน หญิงชราจึงต้องนั่งรถเข็น บนขาของท่านมีผ้าห่มนุ่ม ๆ คลุมอยู่ แสงแดดที่สดใส และอบอุ่นในยามเช้าสาดส่องเข้ามาผ่านทางหน้าต่างห้องครัว ซึ่งหญิงชรากำลังนั่งอาบแดดอยู่ตรงนั้นด้วยท่าทางสบายใจราวกับหินก้อนใหญ่ตกลงมากลางหัวใจของลู่หานถิง เมื่อครู่นี้เขาคิดว่ามีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้นกับคุณย่าเสียอีกเขารู้สึกแปลกใจเป็นอย่างมาก คุณย่าจะเต็มใจออกมาอาบแดดแบบนี้ได้อย่างไร นี่เป็นครั้งแรกที่
เดิมทีลู่หานถิงต้องการข่มขู่ และเตือนสติเธอว่าอย่าสร้างปัญหาที่นี่ เขาคิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะตอบโต้เขาเช่นนี้ปากเรียวเล็กที่งดงามได้รูปสวยของเธอช่าง...รู้จักพูดเสียจริงลู่หานถิงชำเลืองมองริมฝีปากสีแดงระเรื่อของเธอพลางขมวดคิ้วรูปดาบขึ้น และพูดด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มต่ำว่า “คุณอยากตายเหรอ?”“คนอื่นรู้สึกกลัวคุณ แต่ฉันไม่กลัวคุณหรอกค่ะ !” เซี่ยซีหว่านจ้องมองเขาอย่างยั่วยุ เธอเลิกคิ้วใบหลิวขึ้น และพูดว่า “ถ้าคุณกล้ารังแกฉันอีก ฉันจะฟ้องคุณย่าของคุณ ให้ท่านได้สอนบทเรียนกับคุณสักหน่อย !”“คุณ !”“คุณอะไรอีกค่ะ คุณกล้ารังแกฉันเหรอคะ คุณก็เข้ามาเลยสิคะ” ร่างเพรียวบางของเซี่ยซีหว่านขยับเข้าไปใกล้เขามากยิ่งขึ้น เธอเขย่งปลายเท้าพร้อมกับยืนจ้องหน้าเขาอย่างกล้าหาญร่างสูงโปร่งของลู่หานถิงแข็งทื่อในทันที ทั้งสองอยู่ใกล้กันมากจนเขารู้สึกได้ถึงลมหายใจของเธอ ในหัวของเขาเต็มไปด้วยฉากที่เขาจูบเธอเมื่อคืนขณะที่เธอกำลังหลับลู่หานถิงกลืนน้ำลายลงคอหนึ่งครั้ง และพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำอันแหบแห้งว่า “อยู่ให้ห่างจากผมซะ!”เมื่อลู่หานถิงพูดจบ เขาก็หันหลัง และเดินออกไปในทันทีเซี่ยซีหว่านมองไปยังแผ่นหลังอันแข
ทันใดนั้นแม่บ้านอู๋หม่าก็เดินเข้ามาและเอ่ยถามว่า “คุณชายคะ คุณทานข้าวเย็นหรือยังคะ?”มือของลู่หานถิงชะงักค้างในทันที เขารีบเอามือล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงและพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉยว่า “ผมทานมาจากบริษัทแล้วครับ”“วันนี้คุณหว่านหว่านพาคุณท่านทำเกี๊ยวน้ำค่ะ คุณชายคะ ดิฉันห่อเอาไว้ให้คุณชายด้วยค่ะ ดิฉันจะต้มเกี๊ยวน้ำให้คุณชายลองชิมรสชาติสักหน่อยนะคะ คุณชายลองชิมดูนะคะว่าอร่อยหรือไม่ค่ะ”ลู่หานถิงหันไปมองแม่บ้านอู๋หม่า แล้วพูดว่า “พวกเขาห่อเกี๊ยวน้ำเหรอครับ?”“ใช่ค่ะคุณชาย ดิฉันจะรีบไปต้มให้คุณชายทานสักหน่อยนะคะ” เมื่อแม่บ้านอู๋หม่าเห็นว่าลู่หานถิงรู้สึกสนใจ เธอจึงรีบลงไปต้มเกี๊ยวน้ำให้อย่างรวดเร็ว…ในห้องครัว แม่บ้านอู๋หม่านำเกี๊ยวน้ำที่ต้มเสร็จแล้วถือประคองมาวางไว้ตรงหน้าลู่หานถิง แล้วพูดว่า “คุณชายคะ เกี๊ยวน้ำเสร็จแล้วค่ะ”ลู่หานถิงเหลือบมองดูเกี๊ยวน้ำเพียงเล็กน้อย คิ้วรูปดาบอันองอาจผึงผายของเขาก็ขมวดขึ้นอย่างรวดเร็ว น้าอู๋ต้มเกี๊ยวน้ำมาหกชิ้น สามชิ้นบูดเบี้ยวไปทั้งชิ้น ขี้เหร่ราวกับตัวหนอน แถมยังมีอีกสามชิ้นที่ฝีมือดี แต่ทว่าเกี๊ยวน้ำกลับมีรูปร่างราวกับ “หมูน้อย” โดยเฉพาะใบหูใหญ
อธิการบดีมหาวิทยาลัย A เหรอ?เดิมทีอาจารย์อู๋นั่งอยู่ริมสุดโดยไร้ซึ่งอารมณ์ความรู้สึกราวกับไม่มีตัวตน แต่ทว่าทันใดนั้นเขาก็ได้ยินลู่หานถิงเอ่ยชื่อของเขาสายตาของทุกคนต่างจับจ้องมายังตัวเขาทุกคนต่างก็ไม่เข้าใจว่าทำไม จู่ ๆ ประธานลู่ถึงเอ่ยชื่อเรียกหาเขาอาจารย์อู๋เองก็รู้สึกงุนงง แต่เขากลับตอบสนองอย่างรวดเร็ว แล้วมายืนอยู่ข้าง ๆ ลู่หานถิงในทันที และพูดว่า “สวัสดีครับท่านประธานลู่ อธิการบดีมหาวิทยาลัย A อยู่นี่ครับ ผมเองครับ ผมชื่ออู๋ครับ”เมื่อรองอธิการบดีโจวเห็นดังนั้น จึงพูดขึ้นอย่างรวดเร็วว่า “ท่านประธานลู่ครับ ทำไม จู่ ๆ ท่านถึงเรียกหาอาจารย์อู๋ล่ะครับ มหาวิทยาลัย A เป็นมหาวิทยาลัยที่ไม่มีชื่อเสียง กิจกรรมนันทนาการก็ไม่เคยได้ที่หนึ่งเลย ครั้งนี้มหาวิทยาลัย A ก็คงจะไปสร้างปัญหาอะไรไว้อีกใช่ไหมครับ?”ทุกคนต่างก็คาดเดากันเช่นนี้ ซึ่งอันที่จริงแล้วอาจารย์อู๋เองก็รู้สึกหวั่นใจอยู่เล็กน้อยเช่นกัน หรือว่ามีใครในภายใต้บังคับบัญชาของเขาไปก่อเรื่องสร้างหายนะไว้ให้เขา และทำให้ตอนนี้ท่านประธานลู่จึงมาคิดบัญชีกับเขาอย่างนั้นเหรอ?ดวงตาอันเฉี่ยวคมของลู่หานถิงมองไปยังใบหน้าของอาจารย์อู๋ แล
เซี่ยซีหว่านรู้สึกได้ว่าลู่ซือเจี๋ยรักลูกชายทั้งสองคนนี้ ดังนั้นที่เมืองไห่เฉิง เขาไม่สามารถอนุญาตให้เธออยู่ได้ แต่ตอนนี้เมื่อรู้ว่าเธอเป็นลูกสาวของหลินสุ่ยเหยา เมื่อตอนนั้นหลินสุ่ยเหยากับหลิวอิงหลั่วสองสาวครองอันดับหนึ่งเรื่องความเก่งกล้าสามารถที่สุดของเมืองหลวง เขาต้องการตามหาหลินสุ่ยเหยา ผ่านตัวเธอ ดังนั้นเขาจึงปล่อยวางลูกชายสองคนของเขาลงและปล่อยให้เธอดำรงอยู่หมายความว่า ภายในใจของลู่ซือเจี๋ย หลิวอิงหลั่วมีความสำคัญมากกว่าลูกชายทั้งสองคนของเขานี่เป็นครั้งแรกที่ เซี่ยซีหว่านตระหนักอย่างแท้จริงว่าลู่ซือเจี๋ยรักหลิวอิงหลั่วอย่างสุดซึ้งหลิวอิงหลั่วหายตัวไปหลายปี ปีนี้ลูกชายของเธอลู่หานถิงอายุ 28 ปีแล้ว เซียซีหว่านไม่รู้ว่าแท้ที่จริงแล้วมันเป็นอย่างไร ความรักที่ลึกซึ้งถึงสามารถทนต่อการกัดเซาะและความแข็งแกร่งของปีที่เลยผ่านได้ จึงทำให้ชายที่ราวกับจักรพรรดิยังคงรออยู่ที่นี่ตลอด บางทีอาจเป็นสถานที่ที่พวกเขาพบกันครั้งแรกแต่รักอย่างสุดซึ้ง ทำไมถึงต้องเจ็บอีก?ตอนนั้นหลินอิงหลั่วตั้งท้องลูกคนที่สอง เธอหยิบมีดมาคว้านท้องตัวเอง อุ้มทารกออกมา ช่างน่าเวทนานัก?ถ้าไม่ใช่เพราะถูกบีบบังคับจ
แต่ว่า เธอปรากฏตัวต่อหน้าเขาครั้งแล้วครั้งเล่าทุกครั้งที่เธอปรากฏตัว เขาจะควบคุมตัวเองไม่ได้และไม่เป็นตัวของตัวเองแม้แต่น้อยเขาพยายามไม่ให้ไปหลงเสน่ห์เธอแล้ว แต่ก็ทำไม่ได้หลังจากที่ได้รู้ในห้องนั่งเล่นเมื่อครู่นี้ว่าเธอคือ เด็กผู้หญิงตัวน้อยเมื่อก่อนนั้น เดิมที่แม่ของเขายอมยกเจ้าสาวตัวน้อยแก่เขา เขารู้สึกว่าความยับยั้งชั่งใจและความอดกลั้นที่ผ่านมาในหลายวันมานี้ได้พังทลายลงลู่หานถิงจ้องมองเธออย่างดุดันด้วยดวงตาสีแดงก่ำ เขายกริมฝีปากบางของเขาขึ้นเล็กน้อย และพูดอย่างเยาะเย้ยว่า “ทำไมสวี่เส้าหนานถึงได้ ลู่จื่อเซียนถึงได้ แต่ทำไมฉันไม่ได้เหรอ?”“…”ใบหน้าเล็กสวยงามของเซี่ยซีหว่านเปลี่ยนเป็นสีขาวและแดงสลับกัน เธอยกมือเล็กขึ้นเพื่อตบลงไปยังใบหน้าอันหล่อเหลาด้วยความน่าเกลียดชังอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เธอไม่ไม่ได้ตบเขาเพราะลู่หานถิงจับข้อมือเรียวของเธอไว้ได้ทัน เธอจึงไม่ได้ตบใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาลู่หานถิงมองดูเธอด้วยแววตาเศร้าโศกและพูดว่า “เซี่ยซีหว่าน ผมไม่รู้ว่าคุณกำลังใช้เล่ห์เหลี่ยมอะไรนะ สิ่งที่ผมสามารถให้คุณได้คือสิ่งที่ลู่จื่อเซียนและสวี่เส้าหนานไม่สามารถให้คุณได้แน่นอน ถ้าหา
เขาจำไม่ได้แล้วแน่นอน เพราะความทรงจำเหล่านั้นเธอลบมันไปหมดแล้ว ดังนั้นเขาจึงสามารถพูดได้อย่างชอบธรรมแถมเขายังพูดอีกว่า การที่เขานอนกับเธอคือ การนำน้ำสกปรกสาดใส่ตัวเขา เขาคิดว่าเธอเป็นอะไร น้ำสกปรกเหรอ?แน่นนอน เขาเกลียดเธอ !แต่ในเมื่อเขาเกลียดเธอมาก ทำไมเขาถึงมารังควานเธอด้วย?เซี่ยซีหว่านมองใบหน้าที่เย็นชาหล่อเหลาของเขาและพูดเยาะเย้ยว่า “ฉันแค่พูดไร้สาระ พอใจหรือยังล่ะ คนที่บริสุทธิ์ผุดผ่องอย่าประธานลู่ ฉันจะทำให้คุณมีมลทินได้อย่างไรคะ !”“บริสุทธิ์เหรอ” ลู่หานถิงขมวดคิ้วรูปดาบอันองอาจผึ่งผายนั้นและกล่าวว่า “คนที่พูดว่าผมนอนกับคุณ ก็คือคุณ ตอนนี้คนที่กำลังพูดไร้สาระก็คือคุณ คิดว่าเป็นหญิงสาวคนหนึ่งก็สามารถพูดจาเหลวไหลแบบนี้ออกมาได้งั้นเหรอ เซี่ยซีหว่าน คุณยังมียางอายอยู่อีกไหม?”“ฉันจะมีหรือไม่มียางอายเกี่ยวอะไรกับคุณด้วยเหรอคะ ใช่สิประธานลู่ คุณคงจะยังไม่...เป็นหนุ่มน้อยบริสุทธิ์คนหนึ่งอยู่ใช่ไหมคะ?”ดวงตาของเซี่ยซีหว่านเปล่งประกาย ทันใดนั้นดูเหมือนว่าจะเจอกับปัญหาเข้าแล้ว เขาไม่มีความทรงจำช่วงนั้นแล้ว เขาคงจำไม่ได้ว่าเขากับเธอเคยเดือดพล่านกันบนเตียงมาก่อน งั้นเขาคงไม่คิดว่า
เซี่ยซีหว่านใช้ส้อมจิ้มสเต็กชิ้นเล็ก ๆ เพิ่งเตรียมจะใส่เข้าปาก ตอนนี้เท้าของเธอที่อยู่ใต้โต๊ะถูกเตะอย่างแรง สเต็กบนส้อมก็ร่วงตกลงมาบนจานทันที“หว่านหว่าน คุณเป็นอะไรไปครับ?” ลู่จื่อเซียนถามด้วยความเป็นห่วงร่างผอมเพรียวของเซี่ยซีหว่านสั่นไหวเล็กน้อย เธอมองไปยังลู่หานถิงซึ่งนั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม เขาไม่ได้พูดอะไรมาโดยตลอดตั้งแต่เธอเดินเข้ามา แต่เขาเพิ่งเตะเธอเขาเป็นอะไรของเขา?ลู่หานถิงหั่นสเต็กในมืออย่างสง่างามราวกับว่าคนที่เตะเมื่อกี้ไม่ใช่เขา ทั้งหมดไม่เกี่ยวอะไรกับเขาเลยเข้าใจแกล้งจริง ๆ !เซี่ยซีหว่านด่าเขาในใจแล้วยิ้มให้ลู่จื่อเซียนและกล่าวว่า “จื่อเซียน ฉันไม่เป็นอะไรค่ะ”ทั้งห้าคนก็จบมือค่ำในบรรยากาศอันแปลก ๆ แบบนี้ลง...หลังมื้อเย็น เซี่ยซีหว่านไปห้องน้ำทันทีที่เธอเดินเข้ามา มือใหญ่มือหนึ่งจากด้านในยื่นออกมา และคว้าข้อมือที่เรียวยาวของเธอแล้วดึงเธอเข้าไปเซี่ยซีหว่านชนเข้ากับหน้าอกแข็งแกร่งอย่างกระทันหัน หน้าอกนี้แข็งแกร่งราวกับกับแพง เธอชนเข้าไปราวกับกระดูกของเธอจะแตกสลาย นัยน์ตาขาวบริสุทธื์แดงก่ำด้วยความเจ็บปวดเธอเงยหน้าขึ้นและใบหน้าที่หล่อเหลาละเอียดงดงามของล
ด้านนอกประตูคือลู่จื่อเซียนจริง ๆ และยังมีเงาเพรียวบางเงาหนึ่งอยู่ข้างกายของลู่จื่อเซียนหลิวจ้าวตี้ดีใจมาก “จื่อเซียน ลูกกลับมาแล้วเหรอ คู่หมั้นของลูก…”แววตาของหลิวจ้าวตี้จับจ้องไปยังเซี่ยซีหว่าน เมื่อมองชัดเจนแล้วว่าเป็นเซี่ยซีหว่าน รูม่านตาของหลิวจ้าวตี้ก็เบิกกว้างและตัวแข็งทื่ออยู่กับที่ในทันทีเป็นไปได้ยังไงกัน?ทั้งลู่ซือเจี๋ยและลู่หานถิงที่อยู่ในห้องนั่งเล่นต่างก็ได้ยินการเคลื่อนไหวที่ด้านนอกประตู คืนนี้พวกเขากำลังรอให้ลู่จื่อเซียนพาคู่หมั้นลึกลับกลับบ้านลู่ซือเจี๋ยวางหนังสือพิมพ์เศรษฐกิจในมือลงแล้วยืนขึ้นพลางเอ่ยถามว่า “เกิดอะไรขึ้น?”ทันใดนั้นลู่จื่อเซียนจูงมือเล็ก ๆ ของเซี่ยซีหว่านเดินเข้ามาทันทีที่ลู่ซือเจี๋ยเห็นเซี่ยซีหว่าน เขาเคยต่อกรกับเซี่ยซีหว่านมาแล้วสองครั้ง เขารู้ดีว่าเด็กสาวคนนี้ไม่ธรรมดา แต่เขาไม่คิดมาก่อนว่าเซี่ยซีหว่านจะเป็นลูกสาวของหลินสุ่ยเหยา!ในขณะเดียวกันนั้นลู่หานถิงก็มองไปยังลู่จื่อเซียน จากนั้นดวงตาอันเฉี่ยวคมของเขาก็ค่อย ๆ หันไปมองใบหน้าที่งดงามของเซี่ยซีหว่าน จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นยืนการมาถึงของเซี่ยซีหว่านทำให้ครอบครัวลู่ทั้งหมดตกอยู่ในบรรยากา
ลู่จื่อเซียนพูดกับเธอว่า หว่านหว่านผมชอบคุณครับเซี่ยซีหว่านนั่งลง เธอรู้ว่าลู่จื่อเซียนรู้สึกกับเธออย่างไร ได้รับความรักจากคุณชายรองตระกูลลู่ที่ทั้งสง่างาม และมีความสามารถ เธอควรจะมีความสุข และตื่นเต้นมากกว่าผู้หญิงคนไหน ๆ อย่างไรก็ตาม เธอไม่ได้รู้สึกแบบนั้นกับลู่จื่อเซียน นอกจากนี้เธอแต่งงานกับลู่หานถิงแล้ว แม้จะเป็นระยะเวลาสั้น ๆ ก็ตาม แต่เธอก็เคยเป็นพี่สะใภ้ของเขาแล้ว และตอนนี้เธอได้กลายมาเป็นคู่หมั้นของเขาอีกครั้ง ความรู้สึกนี้เป็นความรู้สึกที่แปลกประหลาดขณะเดียวกันเซี่ยปัง และหลานเหยียนเดินเข้ามา เขาพูดว่า “หว่านหว่านการแต่งงานในครั้งนี้เป็นความต้องการของแม่ของลูก พวกเราคิดว่าคุณชายรองตระกูลลู่เป็นคนที่ดีมาก เขาจะไม่ทำให้ลูกเศร้าเสียใจเหมือนใครบางคน ตอนนี้ลูกคงจะไม่ปฏิเสธคุณชายรองตระกูลลู่เพราะคน ๆ นั้นใช่ไหม?”“ใช่แล้วหว่านหว่าน ผู้หญิงอย่างพวกเราต้องมองไปข้างหน้า ผ่านไปแล้วก็ผ่านไป ไม่ต้องไปเสียใจกับมัน ปล่อยวางในสิ่งที่ควรจะปล่อย ถ้าลูกไม่ยอมเปิดใจ และก้าวไปข้างหน้า ลูกจะเห็นความงามของชีวิตได้อย่างไร?”เซี่ยปังและหลานเหยียนไม่ชอบลู่หานถิง ลู่หานถิงแต่งงานกับลี่เหยียนหลา
สวี่เส้าหนานรู้สึกขมขื่นภายในใจ !คุณท่านลี่ไม่ต้องการให้เซี่ยซีหว่านลงเอยกับสวี่เส้าหนานหลานชายของท่าน เธอคิดว่าสองคนนี้ไม่คู่ควรกัน ตอนนี้คุณท่านลี่กำลังยืนมองลู่จื่อเซียน คุณท่านลี่รู้จักลูกชายสองคนของตระกูลลู่ เป็นอย่างดี เห็นได้ชัดว่าลู่จื่อเซียนเป็นเหมือนกับดอกบัวที่บานในโคลนตม เขาเป็นคนที่ดีมากชีวิตส่วนตัวของลู่จื่อเซียนใสสะอาดมาก และเขายังไม่เคยมีแฟนมาก่อน คุณท่านลี่ดูออกว่าลู่จื่อเซียนชอบเซี่ยซีหว่านมาก เขาดูแล และเอาใจใส่เธอด้วยความรัก ดังนั้นคุณท่านลี่จึงมองเขาเหมือนหลานชายคนหนึ่ง ท่านเหลือบมองลู่จื่อเซียน จากนั้นก็พยักหน้าอย่างพึงพอใจเซี่ยปังและหลานเหยียนก็พอใจในตัวลู่จื่อเซียนมากเช่นเดียวกัน ในมหานครเอมพีเรียลแห่งนี้ ลู่จื่อเซียนเป็นคนที่มีความสามารถและหล่อเหลา อีกทั้งยังเหมาะสมกับเซี่ยซีหว่านแหวนหยกวงนี้เป็นแหวนที่หลินสุ่ยเหยาสวมอยู่ตลอดเวลา เซี่ยปังและหลานเหยียนจำข้าวของส่วนตัวของหญิงสาวได้อย่างรวดเร็ว ย้อนกลับไปในตอนนั้นเธอได้หมั้นหมายเซี่ยซีหว่านกับลูกชายของเพื่อนสนิท พวกเขาคิดไม่ถึงว่าเด็กชายคนนั้นจะเป็นคุณชายรองตระกูลลู่ลู่จื่อเซียนเป็นนักวิชาการที่อายุน้อยท
เซี่ยปัง “...”ที่นี่...คือตระกูลเซี่ย ไม่ใช่เหรอ?เซี่ยปังมองไปยังคุณท่านลี่ที่พูดออกไปเช่นนั้น มุมปากของเขากระตุกเล็กน้อยคุณท่านลี่เป็นนายหญิงของตระกูลลู่มานานหลายปีแล้ว ท่านมีภาพลักษณ์ที่น่าเกรงขามเป็นอย่างมาก บรรดาผู้ใต้บังคับบัญชาที่ถูกท่านดุก็มักจะกลัวจนขาอ่อนแรง และเกือบจะล้มลงไปในทันทีขณะเดียวกันร่างที่หล่อเหลา และดูชั่วร้ายก็ปรากฏตัวขึ้น เขาพูดว่า “อย่าทำให้เขาตกใจกลัวสิครับคุณยาย ผมเองที่มาที่นี่ !”เมื่อทุกคนหันไปมอง กลายเป็นสวี่เส้าหนานคุณชายของตระกูลสวี่ เจ้าชายแห่งมหานครเอมพีเรียลที่ไม่เคยเกรงกลัวสิ่งใดเขามาที่นี่จริง ๆ !คุณท่านลี่มองสวี่เส้าหนานด้วยสีหน้าไม่พอใจ ราวกับว่าที่นี่เป็นบ้านของท่านจริง ๆ ท่านพูดว่า “ทำไมหลานถึงมาที่นี่ได้ล่ะ?”“คุณยายผมมาที่นี่เพราะ…” ดวงตาทรงดอกท้อของสวี่เส้าหนานมองไปยังใบหน้าที่งดงามของเซี่ยซีหว่าน และพูดต่อว่า “...เพราะเซี่ยซีหว่านครับ !”คุณชายที่มีชื่อเสียงเช่นเขา มีข่าวลือไปทั่วว่าเขาเปลี่ยนผู้หญิงราวกับเปลี่ยนเสื้อผ้า เซี่ยปังและหลานเหยียนรีบดึงเซี่ยซีหว่านไปทางด้านหลังพวกเขา และพูดว่า “คุณชายสวี่ครับ หว่านหว่านของพวกเราไม่
คุณท่านลี่ยิ้ม และพูดว่า “ทำไมล่ะ ฉันมาร่วมฉลองงานวันเกิดของเซี่ยปังผู้ยิ่งใหญ่ไม่ได้เหรอ?”เมื่อท่านพูดจบ ภายในห้องโถงก็เกิดความโกลาหลขึ้นในทันที ท่านผู้เฒ่าแห่งตระกูลลี่มาที่นี่เพื่อฉลองวันเกิดให้กับเซี่ยปัง!”คุณท่านลี่มองไปที่เซี่ยปังและหลานเหยียน จากนั้นก็พูดว่า “ท่านเซี่ย คุณนายเซี่ย ฉันมาที่นี่โดยไม่ได้รับคำเชิญ หวังว่าพวกคุณจะไม่ถือสาและไล่ฉันออกไปใช่ไหม?”เซี่ยปังและหลานเหยียนชำเลืองมองกัน พวกเขาไม่คิดว่าจู่ ๆ คุณท่านลี่จะมาร่วมงานด้วย แม้ว่าตระกูลเซี่ยจะเป็นตระกูลที่มีอิทธิพล แต่ตระกูลขุนนางเก่าแก่ที่ร่ำรวยในมหานครเอมพีเรียลก็ไม่ได้สนใจที่จะคบค้าสมาคมกับพวกเขา นั่นเป็นเป็นเหตุผลว่าทำไมเซี่ยซีหว่านจึงไม่สามารถเข้าสู่แวดวงคนดังในมหานครเอมพีเรียลได้ตระกูลเซี่ยและสี่ยักษ์ใหญ่แห่งมหานครเอมพีเรียลไม่เคยติดต่อไปมาหาสู่ หรือมีปัญหาอะไรกันมาก่อน แต่จู่ ๆ วันนี้คุณท่านลี่กลับมาที่นี่อย่างกะทันหัน ทำให้ทุกคนในที่นี้ต่างก็ตกตะลึงแต่ในเมื่อท่านมาถึงที่นี่แล้ว เซี่ยปังก็ไม่สามารถไม่ต้อนรับท่าน เขาจึงพูดว่า “คุณท่านลี่ ยินดีต้อนรับครับ”คุณท่านลี่ยิ้ม จากนั้นก็ส่งกล่องของขวัญให้กับเ