เมื่อซุนจินได้ยินข่าว เขาที่กำลังแข่งรถกับบรรดาพี่ใหญ่แห่งตระกูลมั่งคั่งและทรงอิทธิพลสองสามคนอยู่พอดีนั้น ทุกคนต่างก็พูดหยอกล้อเขา “คุณชายซุน นายเคยได้ยินข่าวนี้ไหมว่า พ่อตาของนายพาคู่หมั้นของนายไปที่มหาวิทยาลัย T เมื่อเช้านี้ คู่หมั้นของนายอยากเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัย T ล่ะ” “น่าเสียดายที่ท่านรองอธิการบดีโจวปิดประตูมหาวิทยาลัย T เลย อันที่จริงแล้วไม่น่าให้พ่อตาแม่ยายและคู่หมั้นของนายเข้าไปตั้งแต่แรกแล้ว พวกเขาถูกปฏิเสธในการต้อนรับแขก”“ต่อมา คู่หมั้นของนายก็ไปที่มหาวิทยาลัย A ฉันได้ยินมาว่าเธอได้เข้าเรียนแล้ว มหาวิทยาลัย A เป็นมหาวิทยาลัยที่แย่ที่สุดในมหาวิทยาลัยทางการแพทย์ แต่คู่หมั้นของนายเข้าไปแบบไม่เต็มใจ ฉันยังคิดว่าเธอจะรับมรดกทางสติปัญญาจากนายใหญ่ตระกูลเซี่ยซะแล้ว”ซุนจินถอดหมวกออกด้วยความตกใจ อะไรนะ ยัยอัปลักษณ์นั่นไปเรียนที่มหาวิทยาลัยแพทย์เหรอ?เมื่อประตูมหาวิทยาลัย T ไม่ให้เธอเข้าไปเรียน เธอจึงเข้าเรียนมหาวิทยาลัย A ที่แย่ที่สุดเหรอ? ซุนจินรู้สึกว่าเธอทำลายภาพลักษณ์ของเขาหมดแล้ว ถ้าเธอชอบอับอายขาหน้าก็เป็นเรื่องของเธอ แต่เป็นเพราะว่าพวกเราทั้งสองคนหมั้นกันอยู่ เขาจึ
เมื่อซุนจินตะโกนขึ้นเช่นนี้ สายตาของทุกคนก็หันมองไป “ฟึบ” ในทันทีและมีคนพูดว่า “นี่ไม่ใช่คุณชายซุนหรอกเหรอ ทำไมเขามาหาเราถึงมหาวิทยาลัย A ได้ แล้วใครคือยัยอัปลักษณ์เซี่ยกัน?”บรรดาคุณชายตระกูลร่ำรวยของมหาวิทยาลัย A เหล่านี้ต่างก็รู้จักกับซุนจิน บางครั้งพวกเขาจะออกไปเที่ยวเล่นด้วยกันซุนจินคิดชื่อยัยอัปลักษณ์ของตระกูลเซี่ยไม่ออก จึงพูดขึ้นว่า “ยัยอัปลักษณ์ของตระกูลเซี่ย เธอเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัย A ของพวกนายในวันนี้ไม่ใช่เหรอ เรียกเธอออกมาแล้วบอกว่า คุณชายซุนกำลังตามหาเธออยู่ เธอเหมือนจะชื่ออะไรนะ... เซี่ยซีหว่าน”เซี่ยซีหว่าน?ทุกคนพ่นลมหายใจออกมาด้วยความรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ ซุนจินกำลังตามหาดาวมหาลัยคนใหม่ของพวกเขา ตามหานางฟ้าตัวน้อยเหรอ?“คุณชายซุน นายกำลังตามหาเซี่ยซีหว่านจริง ๆ เหรอ? ตาของนายน่าจะมีปัญหานะ เซี่ยซีหว่านขี้เหร่ที่ไหน เธอเป็นนางฟ้าตัวน้อยที่สมบูรณ์แบบ”นางฟ้าตัวน้อยเหรอ?ฮู่วซุนจินหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง ตระกูลเซี่ยจะสามารถให้กำเนิดนางฟ้าตัวน้อยได้อย่างไร?“พวกนายไม่เคยเห็นนางฟ้าตัวน้อยน่ะสิ ถ้าไม่เคยเห็นแนะนำให้พวกนายไปที่มหาวิทยาลัยข้าง ๆ ดูนะ น้องสาวของฉ
ลี่เหยียนหลานนั่งอยู่เบาะนั่งข้างคนขับ เธอเห็นอย่างแน่นอนว่าหลังจากรถหรูขับออกมาลู่หานถิงยังคงมองดูเซี่ยซีหว่านที่ค่อย ๆ ไกลออกไปผ่านกระจกมองหลัง เธอจึงกัดริมฝีปากของเธอด้วยความโกรธ และพูดว่า “พี่หานถิงคะ วันนี้ฉันจะไปเยี่ยมคุณย่าลู่สักหน่อยค่ะ นักโภชนาการที่ฉันเรียน เพิ่งจัดทำชุดเมนูที่เหมาะกับสุขภาพของคุณยายลู่พอดีค่ะ”ลี่เหยียนหลานรู้ว่าลู่หานถิงรักย่าของเขาที่สุด เธอจึงวางแผนที่จะเริ่มลงมือที่คุณย่าลู่เพื่อรับความชื่นชอบจากคุณย่าลู่ก่อนลี่เหยียนหลานยังคงมั่นใจในอาชีพนักโภชนาการของเธอมาก เธอสามารถจัดการความอยากอาหารและสุขภาพร่างกายของคุณย่าลู่ได้อย่างแน่นอน ถึงเวลานั้นเธอก็จะสามารถเข้าใกล้ลู่หานถิงได้อีกก้าวหนึ่งแล้วลู่หานถิงมองไม่เห็นเซี่ยซีหว่านที่อยู่ข้างหลังแล้ว เขาจึงละสายตากลับมาและพยักหน้าพูดตอบรับว่า “ความอยากอาหารของคุณย่าแย่ลงเรื่อย ๆ ผมวางแผนว่าจะเชิญนักโภชนาการมืออาชีพมาดูแลคุณย่า ผมขอโทรหาคุณย่าก่อน ถ้าท่านไม่ปฏิเสธ ผมจะพาคุณไป”“ค่ะ” ลี่เหยียนหลานพูดตอบรับด้วยรอยยิ้มที่น่ารักน่าเอ็นดูลู่หานถิงหยิบโทรศัพท์ออกมา เสียงโทรศัพท์มือถืออันไพเราะดังขึ้นหนึ่งครั้งแล้วถู
ลู่หานถิงมาแล้ว ร่างสูงโปร่งยืนตระหง่านอยู่ตรงระเบียงวนทางด้านหน้า มือข้างหนึ่งของเขาล้วงอยู่ในกระเป๋ากางเกง แสงไฟสีแชมเปญที่ระเบียงทางเดินนั้นส่องกระทบลงบนใบหน้าที่หล่อเหลาอันวิจิตรเป็นสามมิติของเขา เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีดำและกางเกงสูทขายาวสีดำ ดูสง่างามเลิศหรูดูแพงตั้งแต่หัวจรดเท้าจนทำให้ผู้คนหลงใหล เมี๊ยว เมี๊ยว เสี่ยวเหวียนเหวียนร้องขึ้นมาอีกสองครั้งเซี่ยซีหว่านไม่คิดว่าจะเจอเขาโดยไม่ทันตั้งตัวที่เอมพีเรียลบาร์ และเธอก็ยืนนิ่งด้วยความตกตะลึงอยู่ตรงนั้นลู่หานถิงมาหาเสี่ยวเหวียนเหวียน โดยปกติแล้วเสี่ยวเหวียนเหวียนมักจะติดเจ้าของและแทบจะไม่เคยห่างจากเขาสักก้าวเดียว เมื่อมีผู้หญิงมาปรากฏอยู่รอบตัวเขา เสี่ยวเหวียนเหวียนก็จะร้องเมี๊ยวเมี๊ยวอย่างดุเดือดราวกับปฏิญาณต่ออธิปไตยตัวเอง แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าแมวเหมียวกำลังปฏิญาณอธิปไตยอะไรแต่ จู่ ๆ วันนี้เสี่ยวเหวียนเหวียนก็หายตัวไป เมื่อเขาตามหาจนพบก็เห็นฉากข้างหน้าที่อยู่ตรงระเบียงวน เสี่ยวเหวียนเหวียนของเขาถูกหญิงสาวร่างเพรียวบางกอดอยู่ในอ้อมอกของเธอ เธอก้มหัวลงและไม่รู้ว่าเธอพูดอะไรกับเสี่ยวเหวียนเหวียนอย่างมีความสุข ใบหน้าด้านข้างของเธอช
ลู่หานถิงพาเสี่ยวเหวียนเหวียนกลับมาที่คฤหาสน์ซีหยวน เขาเข้าไปจัดการกับเอกสารที่ห้องหนังสือ และกลับไปที่ห้องนอนเพื่ออาบน้ำแล้วเข้านอนอย่างรวดเร็ว ครั้งนี้เขาไม่ได้หลับเร็วอะไรขนาดนั้น เขาแบฝ่ามือออก มีบางอย่างอยู่ในฝ่ามือของเขา นั่นคือริบบิ้นผูกผมรูปผีเสื้อของเซี่ยซีหว่าน ภายในบาร์ เส้นผมสวยสีดำขลับและเป็นประกายของเธอปล่อยสยายลงมือ เชือกผูกเปียผีเสื้อเส้นนี้ถูกเสี่ยวเหวียนเหวียนจับไว้ จากนั้นก็ถูกเขาถือมา ลู่หานถิงวางเชือกผูกเปียผีเสื้อไว้ใต้ปีกจมูกของเขาและดมมัน เขาได้กลิ่นหอม ๆ ของเด็กสาวแสนหวานก็โชยมาที่จมูกเหมือนกับที่เขาได้กลิ่นบนตัวของเธอในบาร์ เธอชนเข้ามาที่อ้อมอกเขา ความห่างที่ใกล้ชิดขนาดนั้นทำให้เขาได้กลิ่นหอมเฉพาะตัวของเธอซึ่งต่างจากน้ำหอมเทียมของผู้หญิงคนอื่น ๆ กลิ่นเฉพาะตัวตามธรรมชาติของเธอช่างหอมหวานและน่ารื่นรมย์ เมี๊ยวเมี๊ยวในเวลานี้ เสียงแมวร้องเข้ามาที่หูสองที ลู่หานถิงเงยหน้าขึ้น และเห็นเสี่ยวเหวียนเหวียนนอนอยู่ในผ้าห่มของเขา มองดูเขาที่กำลังดมเชือกผูกเปียผีเสื้ออยู่อย่างเมินเฉย “อี๋ นายท่าน นายเป็นโรคจิตเหรอ ?” “......”ลู่หานถิงลืมไปว่ามีสิ่งเล็ก ๆ
ซุนจินคนนี้ชอบเล่นมากเป็นพิเศษ เขาไม่สนใจว่าเรื่องจะใหญ่บานปลายแค่ไหน เขาพูดว่า “งั้นพรุ่งนี้พวกคุณต้องมากันให้หมดนะ ไม่ใช่แค่คุณ โทรหาเพื่อนทุกคนที่เที่ยวเล่นด้วยกันมาด้วย ฉันจะให้พวกคุณดูอะไรดี ๆ ที่เรียกว่ายัยอัปลักษณ์ที่ไม่กล้าโผล่หน้า !” “ตกลง คำไหนคำนั้น !” ลี่เหยียนหลานดื่มน้ำผลไม้ เธอไม่ได้มีส่วนร่วมในนั้น อันที่จริงแล้วเธอก็พูดแค่ประโยคหนึ่ง และไม่ต้องทำอะไรอย่างอื่นอีกเลย แต่ซุนจินก่อเรื่องอย่างนี้ เกรงว่าแวดวงคุณชายชั้นสูงส่วนใหญ่จะต้องสั่นสะเทือน วันพรุ่งนี้จะต้องมีละครเด็ดให้ได้ชมแน่ ลี่เหยียนหลานจำได้ว่าภาพที่ลู่หานถิงนั่งอยู่ในรถหรูและจ้องมองเซี่ยซีหว่านนั้น ละครรอบของวันพรุ่งนี้พี่หานถิงจะพลาดไม่ได้...เช้าวันรุ่งขึ้นเซี่ยซีหว่านมาถึงมหาวิทยาลัย A ในเวลานี้มีรถยนต์ส่วนตัวสุดหรูขับมา แล้วจอดลง คนขับเปิดประตูออกด้วยความเคารพ จากนั้นลี่เหยียนหลานก็ลงมาจากรถอย่างสง่างามทั้งสองคนเจอกันแล้วเซี่ยซีหว่านมองลี่เหยียนหลาน ลี่เหยียนหลานก็มองมาที่เธอเช่นกัน วันนี้ลี่เหยียนหลานสวมชุดกระโปรงเจ้าหญิงทั้งตัว เธอมองสังเกตเซี่ยซีหว่านขึ้นลงด้วยสายตาที่ดูถูกเหยียดหยาม เ
ลี่เหยียนหลานเก็บโทรศัพท์ และเธอก็ไม่แน่ใจกับความคิดของลู่หานถิงไปชั่วขณะ อันที่จริงแล้วเขาสนใจหรือไม่สนใจเซี่ยซีหว่านกันแน่? ถ้าเขาสนใจทำไมเขาถึงไม่มาล่ะ? เมื่อลี่เหยียนหลานครุ่นคิดดูอีกที ผู้ชายที่มีอำนาจและอิทธิพลสถานะอย่างลู่หานถิงนี้ ผู้หญิงแบบไหนที่ไม่เคยเห็น ผู้หญิงแต่ละคนมีความงามของตัวเอง ตั้งแต่ไหนแต่ไรรอบ ๆ ตัวเขาไม่เคยขาดสิ่งที่ล่อต่อล่อใจและเขาไม่ใช่ผู้ชายผิวเผินที่จะถูกดึงดูดให้หลงใหลกับความงามของหญิงสาว เขาน่าจะไม่ได้คิดอะไรกับเซี่ยซีหว่านลี่เหยียนหลานเองก็ไม่เคยมองผู้หญิงที่เกิดมาอย่างเซี่ยซีหว่านไว้ในสายตาของเธอ และถือว่าเป็นคู่ต่อสู้ของเธออย่างแท้จริง เธอคงยังไม่เหมาะ เมื่อคิดอย่างนี้ ลี่เหยียนหลานก็รู้สึกผ่อนคลายไปทั้งตัวอย่างไรก็ตาม เธอยังต้องไปดูละครเด็ดเรื่องนี้ด้วยตัวเอง เธออยากรู้อยากเห็นมากว่าใบหน้าที่อยู่ใต้ผ้าคลุมของเซี่ยซีหว่านนั้นจะอัปลักษณ์ถึงขั้นไหน...ตอนนี้ลู่หานถิงอยู่ในโรงพยาบาล เพราะคุณท่านลู่หมดสติและถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วนลู่หานถิงยืนตระหง่านอยู่ที่ระเบียงทางเดิน ใบหน้าหล่อเหลาของเขาเต็มไปด้วยความทุกข์อันหนาวเหน็บ เขาเหลือบ
แน่นอนว่าซุนจินก็รู้สึกประหลาดใจ แต่ในความเห็นของเขา คนของมหาวิทยาลัย A เหล่านี้ถูกบุคลิกอันละเอียดอ่อนและสวยเลิศของเซี่ยซีหว่านหลอกเข้าแล้ว เมื่อวานเขาก็ถูกหลอกเช่นกัน“หวังชง ดูเหมือนว่าวันนี้นายตั้งใจแน่วแน่ที่จะปกป้องเซี่ยซีหว่านและเป็นศัตรูกับพวกเรา แต่ฉันขอเตือนนายดี ๆ นะว่า เซี่ยซีหว่านเป็นยัยอัปลักษณ์คนหนึ่ง พวกนายหลงจนโงหัวไม่ขึ้นอย่างนี้รอให้ฉันดึงผ้าคลุมหน้าออกตอนนั้น พวกนายก็จะโดนตบหน้าไปตาม ๆ กัน แน่นอน” ซุนจินพูดด้วยความจองหองอวดดีหวังชงและคนอื่น ๆ ไม่ยอมสักก้าวเดียว “ซุนจิน เซี่ยซีหว่านเป็นดาวมหาลัยนางฟ้าตัวน้อยในมหาวิทยาลัย A ของเรา ฉันคิดว่านายก็คือคนที่ถูกถอนหมั้นแล้วรู้สึกว่าตัวเองอับอายขายหน้า นายถึงมาหาเรื่องเธอ !” หางของซุนจินถูกเหยียบในทันใด “นาย !”คนทั้งสองฝ่ายเต็มไปด้วยเขม่าควันปืน และดูเหมือนว่าจะมีการตีกันขึ้นมาในวินาทีต่อไปทันใดนั้นน้ำเสียงสดใสไพเราะและนุ่มนวลก็ดังขึ้น “ซุนจิน เราถอนหมั้นกันแล้วไม่ใช่เหรอ ทำไมคุณถึงต้องมาหาฉันอีกล่ะ?”หวังชงและคนอื่น ๆ ก็รีบถอยกลับอย่างรวดเร็ว ร่างเพรียวบางของเซี่ยซีหว่านก็ปรากฏตัวต่อหน้าทุกคนเซี่ยซีหว่านมาแล้ว !
เซี่ยซีหว่านรู้สึกได้ว่าลู่ซือเจี๋ยรักลูกชายทั้งสองคนนี้ ดังนั้นที่เมืองไห่เฉิง เขาไม่สามารถอนุญาตให้เธออยู่ได้ แต่ตอนนี้เมื่อรู้ว่าเธอเป็นลูกสาวของหลินสุ่ยเหยา เมื่อตอนนั้นหลินสุ่ยเหยากับหลิวอิงหลั่วสองสาวครองอันดับหนึ่งเรื่องความเก่งกล้าสามารถที่สุดของเมืองหลวง เขาต้องการตามหาหลินสุ่ยเหยา ผ่านตัวเธอ ดังนั้นเขาจึงปล่อยวางลูกชายสองคนของเขาลงและปล่อยให้เธอดำรงอยู่หมายความว่า ภายในใจของลู่ซือเจี๋ย หลิวอิงหลั่วมีความสำคัญมากกว่าลูกชายทั้งสองคนของเขานี่เป็นครั้งแรกที่ เซี่ยซีหว่านตระหนักอย่างแท้จริงว่าลู่ซือเจี๋ยรักหลิวอิงหลั่วอย่างสุดซึ้งหลิวอิงหลั่วหายตัวไปหลายปี ปีนี้ลูกชายของเธอลู่หานถิงอายุ 28 ปีแล้ว เซียซีหว่านไม่รู้ว่าแท้ที่จริงแล้วมันเป็นอย่างไร ความรักที่ลึกซึ้งถึงสามารถทนต่อการกัดเซาะและความแข็งแกร่งของปีที่เลยผ่านได้ จึงทำให้ชายที่ราวกับจักรพรรดิยังคงรออยู่ที่นี่ตลอด บางทีอาจเป็นสถานที่ที่พวกเขาพบกันครั้งแรกแต่รักอย่างสุดซึ้ง ทำไมถึงต้องเจ็บอีก?ตอนนั้นหลินอิงหลั่วตั้งท้องลูกคนที่สอง เธอหยิบมีดมาคว้านท้องตัวเอง อุ้มทารกออกมา ช่างน่าเวทนานัก?ถ้าไม่ใช่เพราะถูกบีบบังคับจ
แต่ว่า เธอปรากฏตัวต่อหน้าเขาครั้งแล้วครั้งเล่าทุกครั้งที่เธอปรากฏตัว เขาจะควบคุมตัวเองไม่ได้และไม่เป็นตัวของตัวเองแม้แต่น้อยเขาพยายามไม่ให้ไปหลงเสน่ห์เธอแล้ว แต่ก็ทำไม่ได้หลังจากที่ได้รู้ในห้องนั่งเล่นเมื่อครู่นี้ว่าเธอคือ เด็กผู้หญิงตัวน้อยเมื่อก่อนนั้น เดิมที่แม่ของเขายอมยกเจ้าสาวตัวน้อยแก่เขา เขารู้สึกว่าความยับยั้งชั่งใจและความอดกลั้นที่ผ่านมาในหลายวันมานี้ได้พังทลายลงลู่หานถิงจ้องมองเธออย่างดุดันด้วยดวงตาสีแดงก่ำ เขายกริมฝีปากบางของเขาขึ้นเล็กน้อย และพูดอย่างเยาะเย้ยว่า “ทำไมสวี่เส้าหนานถึงได้ ลู่จื่อเซียนถึงได้ แต่ทำไมฉันไม่ได้เหรอ?”“…”ใบหน้าเล็กสวยงามของเซี่ยซีหว่านเปลี่ยนเป็นสีขาวและแดงสลับกัน เธอยกมือเล็กขึ้นเพื่อตบลงไปยังใบหน้าอันหล่อเหลาด้วยความน่าเกลียดชังอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เธอไม่ไม่ได้ตบเขาเพราะลู่หานถิงจับข้อมือเรียวของเธอไว้ได้ทัน เธอจึงไม่ได้ตบใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาลู่หานถิงมองดูเธอด้วยแววตาเศร้าโศกและพูดว่า “เซี่ยซีหว่าน ผมไม่รู้ว่าคุณกำลังใช้เล่ห์เหลี่ยมอะไรนะ สิ่งที่ผมสามารถให้คุณได้คือสิ่งที่ลู่จื่อเซียนและสวี่เส้าหนานไม่สามารถให้คุณได้แน่นอน ถ้าหา
เขาจำไม่ได้แล้วแน่นอน เพราะความทรงจำเหล่านั้นเธอลบมันไปหมดแล้ว ดังนั้นเขาจึงสามารถพูดได้อย่างชอบธรรมแถมเขายังพูดอีกว่า การที่เขานอนกับเธอคือ การนำน้ำสกปรกสาดใส่ตัวเขา เขาคิดว่าเธอเป็นอะไร น้ำสกปรกเหรอ?แน่นนอน เขาเกลียดเธอ !แต่ในเมื่อเขาเกลียดเธอมาก ทำไมเขาถึงมารังควานเธอด้วย?เซี่ยซีหว่านมองใบหน้าที่เย็นชาหล่อเหลาของเขาและพูดเยาะเย้ยว่า “ฉันแค่พูดไร้สาระ พอใจหรือยังล่ะ คนที่บริสุทธิ์ผุดผ่องอย่าประธานลู่ ฉันจะทำให้คุณมีมลทินได้อย่างไรคะ !”“บริสุทธิ์เหรอ” ลู่หานถิงขมวดคิ้วรูปดาบอันองอาจผึ่งผายนั้นและกล่าวว่า “คนที่พูดว่าผมนอนกับคุณ ก็คือคุณ ตอนนี้คนที่กำลังพูดไร้สาระก็คือคุณ คิดว่าเป็นหญิงสาวคนหนึ่งก็สามารถพูดจาเหลวไหลแบบนี้ออกมาได้งั้นเหรอ เซี่ยซีหว่าน คุณยังมียางอายอยู่อีกไหม?”“ฉันจะมีหรือไม่มียางอายเกี่ยวอะไรกับคุณด้วยเหรอคะ ใช่สิประธานลู่ คุณคงจะยังไม่...เป็นหนุ่มน้อยบริสุทธิ์คนหนึ่งอยู่ใช่ไหมคะ?”ดวงตาของเซี่ยซีหว่านเปล่งประกาย ทันใดนั้นดูเหมือนว่าจะเจอกับปัญหาเข้าแล้ว เขาไม่มีความทรงจำช่วงนั้นแล้ว เขาคงจำไม่ได้ว่าเขากับเธอเคยเดือดพล่านกันบนเตียงมาก่อน งั้นเขาคงไม่คิดว่า
เซี่ยซีหว่านใช้ส้อมจิ้มสเต็กชิ้นเล็ก ๆ เพิ่งเตรียมจะใส่เข้าปาก ตอนนี้เท้าของเธอที่อยู่ใต้โต๊ะถูกเตะอย่างแรง สเต็กบนส้อมก็ร่วงตกลงมาบนจานทันที“หว่านหว่าน คุณเป็นอะไรไปครับ?” ลู่จื่อเซียนถามด้วยความเป็นห่วงร่างผอมเพรียวของเซี่ยซีหว่านสั่นไหวเล็กน้อย เธอมองไปยังลู่หานถิงซึ่งนั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม เขาไม่ได้พูดอะไรมาโดยตลอดตั้งแต่เธอเดินเข้ามา แต่เขาเพิ่งเตะเธอเขาเป็นอะไรของเขา?ลู่หานถิงหั่นสเต็กในมืออย่างสง่างามราวกับว่าคนที่เตะเมื่อกี้ไม่ใช่เขา ทั้งหมดไม่เกี่ยวอะไรกับเขาเลยเข้าใจแกล้งจริง ๆ !เซี่ยซีหว่านด่าเขาในใจแล้วยิ้มให้ลู่จื่อเซียนและกล่าวว่า “จื่อเซียน ฉันไม่เป็นอะไรค่ะ”ทั้งห้าคนก็จบมือค่ำในบรรยากาศอันแปลก ๆ แบบนี้ลง...หลังมื้อเย็น เซี่ยซีหว่านไปห้องน้ำทันทีที่เธอเดินเข้ามา มือใหญ่มือหนึ่งจากด้านในยื่นออกมา และคว้าข้อมือที่เรียวยาวของเธอแล้วดึงเธอเข้าไปเซี่ยซีหว่านชนเข้ากับหน้าอกแข็งแกร่งอย่างกระทันหัน หน้าอกนี้แข็งแกร่งราวกับกับแพง เธอชนเข้าไปราวกับกระดูกของเธอจะแตกสลาย นัยน์ตาขาวบริสุทธื์แดงก่ำด้วยความเจ็บปวดเธอเงยหน้าขึ้นและใบหน้าที่หล่อเหลาละเอียดงดงามของล
ด้านนอกประตูคือลู่จื่อเซียนจริง ๆ และยังมีเงาเพรียวบางเงาหนึ่งอยู่ข้างกายของลู่จื่อเซียนหลิวจ้าวตี้ดีใจมาก “จื่อเซียน ลูกกลับมาแล้วเหรอ คู่หมั้นของลูก…”แววตาของหลิวจ้าวตี้จับจ้องไปยังเซี่ยซีหว่าน เมื่อมองชัดเจนแล้วว่าเป็นเซี่ยซีหว่าน รูม่านตาของหลิวจ้าวตี้ก็เบิกกว้างและตัวแข็งทื่ออยู่กับที่ในทันทีเป็นไปได้ยังไงกัน?ทั้งลู่ซือเจี๋ยและลู่หานถิงที่อยู่ในห้องนั่งเล่นต่างก็ได้ยินการเคลื่อนไหวที่ด้านนอกประตู คืนนี้พวกเขากำลังรอให้ลู่จื่อเซียนพาคู่หมั้นลึกลับกลับบ้านลู่ซือเจี๋ยวางหนังสือพิมพ์เศรษฐกิจในมือลงแล้วยืนขึ้นพลางเอ่ยถามว่า “เกิดอะไรขึ้น?”ทันใดนั้นลู่จื่อเซียนจูงมือเล็ก ๆ ของเซี่ยซีหว่านเดินเข้ามาทันทีที่ลู่ซือเจี๋ยเห็นเซี่ยซีหว่าน เขาเคยต่อกรกับเซี่ยซีหว่านมาแล้วสองครั้ง เขารู้ดีว่าเด็กสาวคนนี้ไม่ธรรมดา แต่เขาไม่คิดมาก่อนว่าเซี่ยซีหว่านจะเป็นลูกสาวของหลินสุ่ยเหยา!ในขณะเดียวกันนั้นลู่หานถิงก็มองไปยังลู่จื่อเซียน จากนั้นดวงตาอันเฉี่ยวคมของเขาก็ค่อย ๆ หันไปมองใบหน้าที่งดงามของเซี่ยซีหว่าน จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นยืนการมาถึงของเซี่ยซีหว่านทำให้ครอบครัวลู่ทั้งหมดตกอยู่ในบรรยากา
ลู่จื่อเซียนพูดกับเธอว่า หว่านหว่านผมชอบคุณครับเซี่ยซีหว่านนั่งลง เธอรู้ว่าลู่จื่อเซียนรู้สึกกับเธออย่างไร ได้รับความรักจากคุณชายรองตระกูลลู่ที่ทั้งสง่างาม และมีความสามารถ เธอควรจะมีความสุข และตื่นเต้นมากกว่าผู้หญิงคนไหน ๆ อย่างไรก็ตาม เธอไม่ได้รู้สึกแบบนั้นกับลู่จื่อเซียน นอกจากนี้เธอแต่งงานกับลู่หานถิงแล้ว แม้จะเป็นระยะเวลาสั้น ๆ ก็ตาม แต่เธอก็เคยเป็นพี่สะใภ้ของเขาแล้ว และตอนนี้เธอได้กลายมาเป็นคู่หมั้นของเขาอีกครั้ง ความรู้สึกนี้เป็นความรู้สึกที่แปลกประหลาดขณะเดียวกันเซี่ยปัง และหลานเหยียนเดินเข้ามา เขาพูดว่า “หว่านหว่านการแต่งงานในครั้งนี้เป็นความต้องการของแม่ของลูก พวกเราคิดว่าคุณชายรองตระกูลลู่เป็นคนที่ดีมาก เขาจะไม่ทำให้ลูกเศร้าเสียใจเหมือนใครบางคน ตอนนี้ลูกคงจะไม่ปฏิเสธคุณชายรองตระกูลลู่เพราะคน ๆ นั้นใช่ไหม?”“ใช่แล้วหว่านหว่าน ผู้หญิงอย่างพวกเราต้องมองไปข้างหน้า ผ่านไปแล้วก็ผ่านไป ไม่ต้องไปเสียใจกับมัน ปล่อยวางในสิ่งที่ควรจะปล่อย ถ้าลูกไม่ยอมเปิดใจ และก้าวไปข้างหน้า ลูกจะเห็นความงามของชีวิตได้อย่างไร?”เซี่ยปังและหลานเหยียนไม่ชอบลู่หานถิง ลู่หานถิงแต่งงานกับลี่เหยียนหลา
สวี่เส้าหนานรู้สึกขมขื่นภายในใจ !คุณท่านลี่ไม่ต้องการให้เซี่ยซีหว่านลงเอยกับสวี่เส้าหนานหลานชายของท่าน เธอคิดว่าสองคนนี้ไม่คู่ควรกัน ตอนนี้คุณท่านลี่กำลังยืนมองลู่จื่อเซียน คุณท่านลี่รู้จักลูกชายสองคนของตระกูลลู่ เป็นอย่างดี เห็นได้ชัดว่าลู่จื่อเซียนเป็นเหมือนกับดอกบัวที่บานในโคลนตม เขาเป็นคนที่ดีมากชีวิตส่วนตัวของลู่จื่อเซียนใสสะอาดมาก และเขายังไม่เคยมีแฟนมาก่อน คุณท่านลี่ดูออกว่าลู่จื่อเซียนชอบเซี่ยซีหว่านมาก เขาดูแล และเอาใจใส่เธอด้วยความรัก ดังนั้นคุณท่านลี่จึงมองเขาเหมือนหลานชายคนหนึ่ง ท่านเหลือบมองลู่จื่อเซียน จากนั้นก็พยักหน้าอย่างพึงพอใจเซี่ยปังและหลานเหยียนก็พอใจในตัวลู่จื่อเซียนมากเช่นเดียวกัน ในมหานครเอมพีเรียลแห่งนี้ ลู่จื่อเซียนเป็นคนที่มีความสามารถและหล่อเหลา อีกทั้งยังเหมาะสมกับเซี่ยซีหว่านแหวนหยกวงนี้เป็นแหวนที่หลินสุ่ยเหยาสวมอยู่ตลอดเวลา เซี่ยปังและหลานเหยียนจำข้าวของส่วนตัวของหญิงสาวได้อย่างรวดเร็ว ย้อนกลับไปในตอนนั้นเธอได้หมั้นหมายเซี่ยซีหว่านกับลูกชายของเพื่อนสนิท พวกเขาคิดไม่ถึงว่าเด็กชายคนนั้นจะเป็นคุณชายรองตระกูลลู่ลู่จื่อเซียนเป็นนักวิชาการที่อายุน้อยท
เซี่ยปัง “...”ที่นี่...คือตระกูลเซี่ย ไม่ใช่เหรอ?เซี่ยปังมองไปยังคุณท่านลี่ที่พูดออกไปเช่นนั้น มุมปากของเขากระตุกเล็กน้อยคุณท่านลี่เป็นนายหญิงของตระกูลลู่มานานหลายปีแล้ว ท่านมีภาพลักษณ์ที่น่าเกรงขามเป็นอย่างมาก บรรดาผู้ใต้บังคับบัญชาที่ถูกท่านดุก็มักจะกลัวจนขาอ่อนแรง และเกือบจะล้มลงไปในทันทีขณะเดียวกันร่างที่หล่อเหลา และดูชั่วร้ายก็ปรากฏตัวขึ้น เขาพูดว่า “อย่าทำให้เขาตกใจกลัวสิครับคุณยาย ผมเองที่มาที่นี่ !”เมื่อทุกคนหันไปมอง กลายเป็นสวี่เส้าหนานคุณชายของตระกูลสวี่ เจ้าชายแห่งมหานครเอมพีเรียลที่ไม่เคยเกรงกลัวสิ่งใดเขามาที่นี่จริง ๆ !คุณท่านลี่มองสวี่เส้าหนานด้วยสีหน้าไม่พอใจ ราวกับว่าที่นี่เป็นบ้านของท่านจริง ๆ ท่านพูดว่า “ทำไมหลานถึงมาที่นี่ได้ล่ะ?”“คุณยายผมมาที่นี่เพราะ…” ดวงตาทรงดอกท้อของสวี่เส้าหนานมองไปยังใบหน้าที่งดงามของเซี่ยซีหว่าน และพูดต่อว่า “...เพราะเซี่ยซีหว่านครับ !”คุณชายที่มีชื่อเสียงเช่นเขา มีข่าวลือไปทั่วว่าเขาเปลี่ยนผู้หญิงราวกับเปลี่ยนเสื้อผ้า เซี่ยปังและหลานเหยียนรีบดึงเซี่ยซีหว่านไปทางด้านหลังพวกเขา และพูดว่า “คุณชายสวี่ครับ หว่านหว่านของพวกเราไม่
คุณท่านลี่ยิ้ม และพูดว่า “ทำไมล่ะ ฉันมาร่วมฉลองงานวันเกิดของเซี่ยปังผู้ยิ่งใหญ่ไม่ได้เหรอ?”เมื่อท่านพูดจบ ภายในห้องโถงก็เกิดความโกลาหลขึ้นในทันที ท่านผู้เฒ่าแห่งตระกูลลี่มาที่นี่เพื่อฉลองวันเกิดให้กับเซี่ยปัง!”คุณท่านลี่มองไปที่เซี่ยปังและหลานเหยียน จากนั้นก็พูดว่า “ท่านเซี่ย คุณนายเซี่ย ฉันมาที่นี่โดยไม่ได้รับคำเชิญ หวังว่าพวกคุณจะไม่ถือสาและไล่ฉันออกไปใช่ไหม?”เซี่ยปังและหลานเหยียนชำเลืองมองกัน พวกเขาไม่คิดว่าจู่ ๆ คุณท่านลี่จะมาร่วมงานด้วย แม้ว่าตระกูลเซี่ยจะเป็นตระกูลที่มีอิทธิพล แต่ตระกูลขุนนางเก่าแก่ที่ร่ำรวยในมหานครเอมพีเรียลก็ไม่ได้สนใจที่จะคบค้าสมาคมกับพวกเขา นั่นเป็นเป็นเหตุผลว่าทำไมเซี่ยซีหว่านจึงไม่สามารถเข้าสู่แวดวงคนดังในมหานครเอมพีเรียลได้ตระกูลเซี่ยและสี่ยักษ์ใหญ่แห่งมหานครเอมพีเรียลไม่เคยติดต่อไปมาหาสู่ หรือมีปัญหาอะไรกันมาก่อน แต่จู่ ๆ วันนี้คุณท่านลี่กลับมาที่นี่อย่างกะทันหัน ทำให้ทุกคนในที่นี้ต่างก็ตกตะลึงแต่ในเมื่อท่านมาถึงที่นี่แล้ว เซี่ยปังก็ไม่สามารถไม่ต้อนรับท่าน เขาจึงพูดว่า “คุณท่านลี่ ยินดีต้อนรับครับ”คุณท่านลี่ยิ้ม จากนั้นก็ส่งกล่องของขวัญให้กับเ