หลังออกไปจากบ้านฉัน เธอก็ส่งข้อความมาหาฉันไม่หยุด โทรศัพท์ฉันที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงซูอวี๋หร่วน ก็สั่นไม่หยุดเช่นกันบางทีอาจเป็นเพราะซูอวี๋หร่วนกลัวว่าเธอจะไปแจ้งตำรวจ จึงตอบกลับเธอไปเงียบ ๆ ประโยคหนึ่ง “ทุกอย่างโอเค ไม่ต้องเป็นห่วง”ทว่านี่ไม่เหมือนวิธีการพูดของฉันเลยแม้แต่นิดเดียว อีกฝ่ายจึงยิ่งส่งข้อความมาอย่างบ้าคลั่งกว่าเดิมซูอวี๋หร่วนกลัวเล็กน้อย จึงปิดโทรศัพท์และซ่อนเอาไว้ในถังน้ำของชักโครก จากนั้นก็ไปใช้เวลาพักผ่อนที่ต่างประเทศกับพ่อฉันเองก็ตามพวกเขาไปเช่นกันในช่วงเวลานี้นอกจากพวกเขาจะไปเที่ยวสี่ที่แล้ว พ่อยังพาซูเชียนไปโรงพยาบาลด้วยซูเชียนตั้งท้องโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่ไหน ๆ ก็ตั้งท้องแล้ว งั้นทางที่ดีก็ควรเป็นลูกชายโรงพยาบาลภายในประเทศไม่สามารถตรวจเพศได้ ฉะนั้นจึงฉวยโอกาสไปตรวจเพศที่โรงพยาบาลด้วยเสียเลยขณะที่รู้ว่าเป็นลูกชาย พ่อดีใจจนเหมือนเด็กลงไปสิบปีในทันใด“ดี ๆ ๆ ผมจะตั้งชื่อให้เขาว่าจี้เย่ ต่อไปให้สืบทอดธุรกิจของตระกูลผม”ทั้งสองคนกลับถึงโรงแรมด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยสีแดงเลือดฝาด ซูอวี๋หร่วนเองก็เพิ่งกลับมาจากซื้อของ พ่อให้บัตรเธอใบหนึ่ง ให้เธอรูดได้ตามสบา
“ผมไม่รู้ เซี่ยไป๋เดรัจฉานนั่นหายตัวไปนานแล้ว” พ่อพูดด้วยใบหน้าเย็นชา“โอเคครับ คุณเซี่ย เราจะตามหาต่อไป แต่ก็หวังว่าคุณจะให้ความร่วมมือกับการทำงานของเรานะครับ”อันที่จริงไม่ว่าพวกตำรวจเขาจะตามหาอย่างไร ก็ไม่มีทางตามหาฉันเจออีกเพราะตอนนี้ฉันยังนอนอยู่ในที่เก็บของท้ายรถนั่น ศพเน่าเปื่อยขั้นรุนแรง บางทีไม่นานอาจจะเหลือเพียงโครงกระดูกแล้วจะมีคนตามหาเจอได้ยังไงกัน?ตำรวจสืบหาไปทั่ว อยากจะหาตัวฉันให้พบ ทว่าในภาพวงจรปิด จุดที่ฉันปรากฏตัวล้วนใส่หน้ากากอนามัยและใส่หมวก เดิมทีแค่นี้ไม่มีทางมั่นใจได้เลยเสาะหาราวกับแมลงวันไร้หัวอยู่นาน นานจนซูเชียนออกจากโรงพยาบาลแล้ว ตำรวจก็ยังไม่พบเบาะแสของฉัน“เธอเหมือนหายไปกลางอากาศอย่างนั้น” ตำรวจเอ่ยขึ้นตอนที่มาบ้าน“ฮึ ผู้ใหญ่คนหนึ่ง จะมาหายไปกลางอากาศได้ยังไง! พวกหัวมงกุฎท้ายมังกรของเธอพวกนั้นต้องช่วยอยู่เบื้องหลังแน่ เซี่ยไป๋จิตใจโหดเหี้ยม ต้องถูกเธอซ่อนแน่ ๆ!”ตำรวจไม่ได้เดือดดาลแต่อย่างใด เขาลวดมองไปภายในบ้าน และพบกับกล้องวงจรปิดในห้องรับแขกตัวหนึ่ง“คุณเซี่ยครับ เราขอดูกล้องวงจรปิดในบ้านคุณหน่อยได้ไหมครับ?”พ่อพยักหน้า “ได้ครับ”ตำรวจก๊อ
ขณะที่ตำรวจชั้นผู้น้อยพูดประโยคนี้ออกมา ตนก็เขลาไปเช่นกัน พวกเขาทำคดีมาหลากหลาย สถานการณ์แบบนี้ยังมีอะไรที่ไม่เข้าใจอีกความเป็นไปได้เพียงหนึ่งเดียวก็คือ คนคนนี้ตายไปแล้วเมื่อเห็นพวกเขาคิดได้ถึงจุดนี้ ฉันก็โล่งอก รีบไปหาศพฉันสิคะ ฉันกลัวว่าถึงเวลานั้นจะเหลือแค่โครงกระดูก แล้วทำพวกคุณกลัวตำรวจนำเบาะแสที่พบในหลายวันมานี้กลับไปบอกพ่อ“คุณเซี่ยครับ ตอนนี้เรากำลังสงสัยว่า จะเกิดเรื่องอะไรที่ไม่คาดคิดขึ้นกับเซี่ยไป๋ หวังว่าคุณจะให้ความร่วมมือกับการสืบสวนของเราด้วยนะครับ”เมื่อพ่อได้ยินแบบนี้ เขาไม่เชื่ออยู่แล้ว “เป็นไปไม่ได้ เธอยังขับรถชนคนได้อยู่เลย จะมีอะไรไม่คาดคิดเกิดขึ้นได้ยังไง”“แต่เหมือนว่าเซี่ยไป๋จะหายไปจากโลกใบนี้ตั้งแต่ก่อนเธอชนคนแล้วนะครับ ไม่มีบันทึกการอุปโภคบริโภค ไม่มีบันทึกการโทร ไม่มีอะไรเลย คุณเซี่ย คุณคิดว่านี่เป็นไปได้เหรอ?”ตำรวจสีหน้าเคร่งขรึม แต่พ่อก็ยังไม่สนใจ “ทำไมจะเป็นไปไม่ได้ ผมระงับบัตรของเธอทั้งหมดแล้ว ไม่มีบันทึกการอุปโภคบริโภคก็ปกติจะตายไป เธอมีเพื่อนเยอะขนาดนั้น ให้เธอนิด ๆ หน่อย ๆ ก็พอให้เธอใช้แล้ว”“ทางเราเองก็ตรวจสอบแล้ว เพื่อนเหล่านี้ของเธอไม่ได
เขาเดินเข้าไป ยังไม่ทันได้พูดอะไรก็ถูกพ่อคว้าขากางเองเอาไว้“สารวัตรจาง นี่เป็นของปลอม นี่ไม่ใช่ลูกสาวของผมใช่ไหม?”ในแววตาของเขาประกายแสงแห่งความหวังวาบหนึ่ง ดูราวกับเป็นพ่อที่ห่วงลูกสาวมากคนหนึ่งทว่ากลับถูกสารวัตรจางเตะออกไป จากนั้นก็ล้วงกุญแจมือออกมาใส่มือเขาจากเบื้องหลัง“คุณเซี่ย พ่อบ้านคนก่อนของบ้านคุณมาแจ้งความที่โรงพักว่าคุณฆ่าคนอำพรางศพ มีกล้องวงจรปิดเป็นหลักฐาน”สารวัตรจางเขย่ามือถือ “โชคไม่ดีเลย นี่คือลูกสาวของคุณ”“เป็นไปไม่ได้! ไม่มีทาง ลูกสาวผมไม่มีทางตาย เป็นไปไม่ได้! เธอต้องออกไปเที่ยวเล่นแน่ ๆ แล้วสร้างศพปลอมมาหลอกผม!”พ่อที่ถูกใส่กุญแจมือดิ้นขึ้นมาอย่างแรง ในแววตาเต็มไปด้วยความสิ้นหวังฉันยืนเงียบอยู่ข้าง ๆ มองท่าทางคลุ้มคลั่งของเขาพ่อ ในวินาทีที่ถูกใส่กุญแจมือ พ่อกลัวว่าตัวเองจะต้องถูกจับขังคุกเพราะฆ่าคนตายและต้องสูญเสียทั้งหมดในตอนนี้ไป หรือว่ากำลังคิดถึงลูกสาวอย่างหนูที่หายไปจากโลกใบนี้อย่างไม่มีวันกลับจริง ๆ“คุณเซี่ย ศพที่ผมเคยเห็นมาไม่หนึ่งพันก็มีแปดร้อย เป็นของจริงหรือของปลอมผมแยกแยะได้ อยากจะพูดอะไรก็เก็บไปพูดที่โรงพักเถอะ”ตำรวจคุมตัวเขาเดินไปข้า
“ลูกทรพีนั่นเป็นยังไงบ้าง ขอให้ยกโทษให้หรือยัง?”ภายในคฤหาสน์หลังใหญ่ ประโยคนี้ของพ่อราวกับเสียงสายฟ้าฟาดในที่ราบพ่อบ้านตอบอย่างกระอักกระอ่วน “คุณท่านครับ คุณหนูยังไม่ออกมาเลยครับ”นิ้วเรียวยาวที่กำลังคีบซิการ์ของพ่อชะงัก พลันกลับสู่ท่าทางปกติ “ปกติฉันตามใจเธอจนเสียคน ถึงได้ทำให้เธอกำเริบเสิบสาน ไม่คิดเลยว่าจะกล้าขังหรวนหร่วนไว้ในรถ สมควรทำให้เธอลำบากซะบ้าง”พ่อบ้านอดกลั้นไม่ไหวเล็กน้อย เขาพูดขึ้นว่า “แต่ว่าตอนนี้ข้างนอกอุณหภูมิสูงถึงสี่สิบกว่าองศา ในรถร้อนขนาดนั้น คุณหนูจะ...”“หึ ร้อน? ต้องทำให้เธอรู้จักร้อนซะบ้าง ฉันจะดูซิว่าต่อไปเธอยังกล้าทำแบบนี้กับหรวนหร่วนอีกหรือเปล่า มีแค่เธอสัมผัสได้ถึงอุณภูมิในรถเท่านั้น ต่อไปเธอถึงจะไม่ทำเรื่องพรรค์นี้อีก”น้ำเสียงของพ่อเย็นชา ราวกับลืมไปเสียสนิทว่าฉันถูกขังอยู่ในที่เก็บของท้ายรถมาเจ็ดวันแล้วพ่อบ้านยังอยากจะพูดอะไรต่ออีก ทว่าถูกเขาขัดขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์ “เอาละ นายคิดว่าในบ้านจะไม่มีคนแอบส่งข้าวให้เธอเลยหรือไง? เธอเป็นเด็กดีจะตาย ไม่ตายหรอก”เมื่อได้ยินประโยคนี้ ฉันก็อดขำออกมาไม่ได้ แต่ว่าไม่มีใครได้ยินเสียงของฉันเลยเพราะ ฉันตายไ
ยี่สิบปีก่อน ซูเชียนเลิกกับพ่อฉัน แล้วหันไปแต่งงานกับคนรวยมีอิทธิพลที่ที่บ้านจัดการให้หลังจากนั้นสรรพสิ่งก็แปรเปลี่ยนตามเวลา คนรวยกลายเป็นคนจน กลับกันคนจนอย่างพ่อฉันเมื่อแต่งงานกับแม่ของฉัน ก็ชุบตัวเปลี่ยนเป็นรวยทั้งหมดก็เหมือนอย่างละครแบบนี้ หลังจากนั้นแม่ก็จากไปเพราะป่วย ซูเชียนก็หย่าสำหรับพ่อฉันแล้ว นี่ถือเป็นข่าวดีสองเรื่องและแบบนี้ ซูเชียนกับพ่อจึงกลับมาคบหากัน สองแม่ลูกไต่เต้าขึ้นมา แย่งทุกอย่างที่เป็นของฉันไปทั้งเสื้อผ้าของฉัน ห้องของฉัน และสุดท้ายก็แย่งพ่อของฉันไปเจ็ดวันก่อน ซูอวี๋หร่วนกลับมาทั้งดีอกดีใจ บอกว่าตัวเองได้ใบขับขี่แล้ว ตอนนี้ขับรถได้แล้วพ่อบอกว่าจะซื้อรถยนต์ให้เธอหนึ่งคัน แต่เธอลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยขึ้นอย่างกระมิดกระเมี้ยนว่า “หนูคิดว่ารถสีชมพูที่อยู่ในโรงจอดรถคันนั้นก็สวยดีนะคะ”ฉันตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงเย็นชา “รถคันนั้นพ่อซื้อให้ฉัน เธออยากได้ก็ให้พ่อเธอซื้อให้สิ เธอไม่มีพ่อของตัวเองเหรอ?”นั่นคือของขวัญวันเกิดที่พ่อให้ฉันหลังจากที่ฉันได้ใบขับขี่มา ปกติฉันขับออกไปน้อยมาก ทีแรกฉันยังคิดว่าพ่อจะเข้าใจ ทว่าคำพูดหลังจากนี้ของเขาทำลายจินตนาการฉั
ตอนค่ำ พ่อบ้านฉวยโอกาสเดินเข้ามาที่โรงจอดรถ ในตอนที่คนทั้งคฤหาสน์หลับกันไปหมดแล้ว ยังไม่ทันได้เข้าใกล้รถคันนั้น เขาก็ได้กลิ่นเหม็นรุนแรงยากจะทนไหวสายหนึ่งยิ่งเข้าใกล้รถคันนั้นกลิ่นก็ยิ่งแรงขึ้น ของเหลวไม่ทราบบนพื้นเริ่มมีหนอนขึ้นในหัวเขาผุดลางสังหรณ์ไม่ดีขึ้นมาอย่างหนึ่ง ฉันขวางอยู่ตรงหน้าเขา แล้วพูดกับเขาว่า “รีบกลับไปเถอะค่ะ อย่าดูเลย มันน่าคลื่นไส้มากจริง ๆ นะคะ ดูแล้วคุณจะกินข้าวไม่ลงไปตลอดชีวิต”พ่อบ้านเป็นคนดี เขาเคยเอ่ยปากช่วยฉันขอร้อง แต่คนชั้นผู้น้อยอย่างเขาพูดไปก็ไม่มีใคร และเพื่องานที่รายได้พอใช้ได้นี้ จึงช่วยอะไรไม่ได้มากนักบางทีการตักเตือนของฉันอาจได้ผล พ่อบ้านถอยหลังไปหลายก้าว และเดินออกไปโดยไม่แม้แต่จะหันมามองจริง ๆเช้าวันต่อว่า พ่ออารมณ์ดีเป็นอย่างมาก หลังกินข้าว ก็หยิบกล่องของขวัญที่ห่ออย่างสวยงามออกมาจากลิ้นชักกล่องหนึ่งเขาฉวยโอกาสในตอนที่ซูอวี๋หร่วนไม่ได้สนใจ วางกล่องของขวัญกล่องนี้ไว้ตรงหน้าเธอ“หรวนหร่วน สุขสันต์วันเกิดนะ ดูของขวัญของลูกสิ”ใบหน้าของซูอวี๋หร่วนเต็มไปด้วยความเซอร์ไพรส์ “ขอบคุณค่ะคุณพ่อ!”เธอเปิดออกอย่างอดใจไม่ไหว ด้านในเป็นกุญแจรถตัว
เนื่องจากอุณหภูมิร้อนอบอ้าว จึงมองใบหน้าของศพไม่ออกแล้ว มีแค่ดวงตาทั้งสองที่ยังเบิกตาโพลงอยู่เพียงสิ่งเดียว ตายตาไม่หลับบางจุดบนร่างกายเน่าเปื่อยขั้นรุนแรง เผยกระดูกด้านในออกมา ส่วนที่เหลือเต็มไปด้วยหนอนแมลงวันสีขาว เมื่อประตูรถถูกเปิดออก ทำเอาแมลงวันที่เกาะอยู่บนศพตกใจ เสียงหึ่ง ๆ ๆ ดังเสียดหูไม่หยุด“อ้วก...”พวกคนใช้รีบพุ่งไปอ้วกข้าง ๆ ทันที ไม่กล้ามองเพิ่มอีกพ่อเดินเข้าไป ในวินาทีที่เห็นศพฉันอีกครั้ง นัยน์ตาก็พลันหดตัวลง หลังจากนั้นใบหน้าก็บึ้งตึงเดือดเป็นฟืนเป็นไฟ “เซี่ยไป๋ล่ะ? นี่ไม่ใช่เซี่ยไป๋! ให้เธอออกมา!”เขาจ้องใบหน้าที่เน่าเฟะไปแล้วใบหน้านั้นเขม็ง ไม่รู้เพราะอะไร ตรงหน้าผากเน่าเปื่อยรุนแรงที่สุด จนเผยกระดูกสีขาวมากมายออกมาแล้วในวินาทีนี้ฉันมองใบหน้านั้น ไม่กล้าเชื่อเลยว่านั่นคือตัวฉันท้ายที่สุดพ่อบ้านก็อดไม่อยู่ ตะโกนเสียงดังขึ้นมาว่า “คุณท่าน นี่ก็คือคุณหนู เธอตายไปแล้ว”พ่อถลึงตามองเขาด้วยความเกรี้ยวกราด “ตาแก่อย่างนายนี่นะ แก่จนเลอะเลือนไปแล้วใช่ไหม นี่ใช่เซี่ยไป๋ที่ไหน เจ้านี่ต้องเป็นฝีมือเธอนี่เอามาหลอกฉันแน่ ๆ”“คุณหนูใหญ่ถูกขังเอาไว้แปดวันแล้ว ต่อให้เป็น
เขาเดินเข้าไป ยังไม่ทันได้พูดอะไรก็ถูกพ่อคว้าขากางเองเอาไว้“สารวัตรจาง นี่เป็นของปลอม นี่ไม่ใช่ลูกสาวของผมใช่ไหม?”ในแววตาของเขาประกายแสงแห่งความหวังวาบหนึ่ง ดูราวกับเป็นพ่อที่ห่วงลูกสาวมากคนหนึ่งทว่ากลับถูกสารวัตรจางเตะออกไป จากนั้นก็ล้วงกุญแจมือออกมาใส่มือเขาจากเบื้องหลัง“คุณเซี่ย พ่อบ้านคนก่อนของบ้านคุณมาแจ้งความที่โรงพักว่าคุณฆ่าคนอำพรางศพ มีกล้องวงจรปิดเป็นหลักฐาน”สารวัตรจางเขย่ามือถือ “โชคไม่ดีเลย นี่คือลูกสาวของคุณ”“เป็นไปไม่ได้! ไม่มีทาง ลูกสาวผมไม่มีทางตาย เป็นไปไม่ได้! เธอต้องออกไปเที่ยวเล่นแน่ ๆ แล้วสร้างศพปลอมมาหลอกผม!”พ่อที่ถูกใส่กุญแจมือดิ้นขึ้นมาอย่างแรง ในแววตาเต็มไปด้วยความสิ้นหวังฉันยืนเงียบอยู่ข้าง ๆ มองท่าทางคลุ้มคลั่งของเขาพ่อ ในวินาทีที่ถูกใส่กุญแจมือ พ่อกลัวว่าตัวเองจะต้องถูกจับขังคุกเพราะฆ่าคนตายและต้องสูญเสียทั้งหมดในตอนนี้ไป หรือว่ากำลังคิดถึงลูกสาวอย่างหนูที่หายไปจากโลกใบนี้อย่างไม่มีวันกลับจริง ๆ“คุณเซี่ย ศพที่ผมเคยเห็นมาไม่หนึ่งพันก็มีแปดร้อย เป็นของจริงหรือของปลอมผมแยกแยะได้ อยากจะพูดอะไรก็เก็บไปพูดที่โรงพักเถอะ”ตำรวจคุมตัวเขาเดินไปข้า
ขณะที่ตำรวจชั้นผู้น้อยพูดประโยคนี้ออกมา ตนก็เขลาไปเช่นกัน พวกเขาทำคดีมาหลากหลาย สถานการณ์แบบนี้ยังมีอะไรที่ไม่เข้าใจอีกความเป็นไปได้เพียงหนึ่งเดียวก็คือ คนคนนี้ตายไปแล้วเมื่อเห็นพวกเขาคิดได้ถึงจุดนี้ ฉันก็โล่งอก รีบไปหาศพฉันสิคะ ฉันกลัวว่าถึงเวลานั้นจะเหลือแค่โครงกระดูก แล้วทำพวกคุณกลัวตำรวจนำเบาะแสที่พบในหลายวันมานี้กลับไปบอกพ่อ“คุณเซี่ยครับ ตอนนี้เรากำลังสงสัยว่า จะเกิดเรื่องอะไรที่ไม่คาดคิดขึ้นกับเซี่ยไป๋ หวังว่าคุณจะให้ความร่วมมือกับการสืบสวนของเราด้วยนะครับ”เมื่อพ่อได้ยินแบบนี้ เขาไม่เชื่ออยู่แล้ว “เป็นไปไม่ได้ เธอยังขับรถชนคนได้อยู่เลย จะมีอะไรไม่คาดคิดเกิดขึ้นได้ยังไง”“แต่เหมือนว่าเซี่ยไป๋จะหายไปจากโลกใบนี้ตั้งแต่ก่อนเธอชนคนแล้วนะครับ ไม่มีบันทึกการอุปโภคบริโภค ไม่มีบันทึกการโทร ไม่มีอะไรเลย คุณเซี่ย คุณคิดว่านี่เป็นไปได้เหรอ?”ตำรวจสีหน้าเคร่งขรึม แต่พ่อก็ยังไม่สนใจ “ทำไมจะเป็นไปไม่ได้ ผมระงับบัตรของเธอทั้งหมดแล้ว ไม่มีบันทึกการอุปโภคบริโภคก็ปกติจะตายไป เธอมีเพื่อนเยอะขนาดนั้น ให้เธอนิด ๆ หน่อย ๆ ก็พอให้เธอใช้แล้ว”“ทางเราเองก็ตรวจสอบแล้ว เพื่อนเหล่านี้ของเธอไม่ได
“ผมไม่รู้ เซี่ยไป๋เดรัจฉานนั่นหายตัวไปนานแล้ว” พ่อพูดด้วยใบหน้าเย็นชา“โอเคครับ คุณเซี่ย เราจะตามหาต่อไป แต่ก็หวังว่าคุณจะให้ความร่วมมือกับการทำงานของเรานะครับ”อันที่จริงไม่ว่าพวกตำรวจเขาจะตามหาอย่างไร ก็ไม่มีทางตามหาฉันเจออีกเพราะตอนนี้ฉันยังนอนอยู่ในที่เก็บของท้ายรถนั่น ศพเน่าเปื่อยขั้นรุนแรง บางทีไม่นานอาจจะเหลือเพียงโครงกระดูกแล้วจะมีคนตามหาเจอได้ยังไงกัน?ตำรวจสืบหาไปทั่ว อยากจะหาตัวฉันให้พบ ทว่าในภาพวงจรปิด จุดที่ฉันปรากฏตัวล้วนใส่หน้ากากอนามัยและใส่หมวก เดิมทีแค่นี้ไม่มีทางมั่นใจได้เลยเสาะหาราวกับแมลงวันไร้หัวอยู่นาน นานจนซูเชียนออกจากโรงพยาบาลแล้ว ตำรวจก็ยังไม่พบเบาะแสของฉัน“เธอเหมือนหายไปกลางอากาศอย่างนั้น” ตำรวจเอ่ยขึ้นตอนที่มาบ้าน“ฮึ ผู้ใหญ่คนหนึ่ง จะมาหายไปกลางอากาศได้ยังไง! พวกหัวมงกุฎท้ายมังกรของเธอพวกนั้นต้องช่วยอยู่เบื้องหลังแน่ เซี่ยไป๋จิตใจโหดเหี้ยม ต้องถูกเธอซ่อนแน่ ๆ!”ตำรวจไม่ได้เดือดดาลแต่อย่างใด เขาลวดมองไปภายในบ้าน และพบกับกล้องวงจรปิดในห้องรับแขกตัวหนึ่ง“คุณเซี่ยครับ เราขอดูกล้องวงจรปิดในบ้านคุณหน่อยได้ไหมครับ?”พ่อพยักหน้า “ได้ครับ”ตำรวจก๊อ
หลังออกไปจากบ้านฉัน เธอก็ส่งข้อความมาหาฉันไม่หยุด โทรศัพท์ฉันที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงซูอวี๋หร่วน ก็สั่นไม่หยุดเช่นกันบางทีอาจเป็นเพราะซูอวี๋หร่วนกลัวว่าเธอจะไปแจ้งตำรวจ จึงตอบกลับเธอไปเงียบ ๆ ประโยคหนึ่ง “ทุกอย่างโอเค ไม่ต้องเป็นห่วง”ทว่านี่ไม่เหมือนวิธีการพูดของฉันเลยแม้แต่นิดเดียว อีกฝ่ายจึงยิ่งส่งข้อความมาอย่างบ้าคลั่งกว่าเดิมซูอวี๋หร่วนกลัวเล็กน้อย จึงปิดโทรศัพท์และซ่อนเอาไว้ในถังน้ำของชักโครก จากนั้นก็ไปใช้เวลาพักผ่อนที่ต่างประเทศกับพ่อฉันเองก็ตามพวกเขาไปเช่นกันในช่วงเวลานี้นอกจากพวกเขาจะไปเที่ยวสี่ที่แล้ว พ่อยังพาซูเชียนไปโรงพยาบาลด้วยซูเชียนตั้งท้องโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่ไหน ๆ ก็ตั้งท้องแล้ว งั้นทางที่ดีก็ควรเป็นลูกชายโรงพยาบาลภายในประเทศไม่สามารถตรวจเพศได้ ฉะนั้นจึงฉวยโอกาสไปตรวจเพศที่โรงพยาบาลด้วยเสียเลยขณะที่รู้ว่าเป็นลูกชาย พ่อดีใจจนเหมือนเด็กลงไปสิบปีในทันใด“ดี ๆ ๆ ผมจะตั้งชื่อให้เขาว่าจี้เย่ ต่อไปให้สืบทอดธุรกิจของตระกูลผม”ทั้งสองคนกลับถึงโรงแรมด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยสีแดงเลือดฝาด ซูอวี๋หร่วนเองก็เพิ่งกลับมาจากซื้อของ พ่อให้บัตรเธอใบหนึ่ง ให้เธอรูดได้ตามสบา
ตอนกลางคืน ซูอวี๋หร่วนนอนอยู่บนเตียง เธอล้วงโทรศัพท์เครื่องหนึ่งออกมาจากใต้หมอนในตอนนี้เองฉันเพิ่งพบว่า โทรศัพท์กลับเป็นของฉัน และไม่รู้ว่าเธอไปเอามาตั้งแต่ตอนไหนเธอเปิดห้องแชตที่ปักหมุดไว้บนสุดของไลน์ออก ก่อนจะพิมพ์ข้อความอย่างรวดเร็วแล้วกดส่งไปแทบจะในวินาทีต่อมา ก็มีเสียงก่นด่าด้วยความเดือดดาลแว่วดังขึ้นมาจากห้องพ่อที่อยู่ไม่ไกล“ฉันว่าแล้วเชียวว่านังลูกทรพีนี่มันแกล้งตาย ไม่คิดเลยว่าจะกล้าขู่ฉันด้วย ฉันไม่มีลูกสาวอย่างมัน! ให้ดีให้มันตายอยู่ข้างนอกนั่นแหละ ตายไปเลย”ฉันขยับเข้าไปใกล้ อยากดูว่าซูอวี๋หร่วนส่งข้อความอะไรไป ถึงทำให้เขาโกรธได้ขนาดนี้“ตาแก่ พ่อกล้าระงับบัตรหนูเหรอ เชื่อไหมหนูจะตายให้พ่อดู!”ฉันจิ๊อย่างไม่พอใจเสียงหนึ่ง “แค่นี้เองเหรอ นี่มันไม่มีแรงจูงใจที่จะฆ่าเกินไปแล้วหรือเปล่า”เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว ฉันมีเพียงความเกลียดชังให้กับพ่อทางสรีรวิทยาคนนี้เท่านั้น อย่างอื่นไม่มีทั้งนั้นซูอวี๋หร่วนช่วยด่าเขาแทนฉันได้สองสามประโยค ฉันยังต้องขอบคุณเธอด้วยตอนนี้ฉันตายไปแล้ว เขาจะข่มขู่ฉันต่อไปไม่ได้อีกในไลน์ มีข้อความของเพื่อนที่ติดต่อฉันอีกไม่น้อย ซูอวี๋หร่วนไล่
เมื่อหันหลังกลับไปมอง พ่อบ้านและเหล่าคนใช้ไม่กล้ากระทั่งดูศพ และยิ่งไม่ต้องพูดถึงจัดการศพเลย“พ่อบ้าน จะทำยังไงดี? ฉันไม่กล้าทำ” แม่บ้านคนหนึ่งถามขึ้นมาพ่อบ้านถอนหายใจ ก่อนจะถอดถุงมือสีขาวที่อยู่ในมือทิ้งไปบนพื้น“ผมไม่ทำแล้ว พวกคุณดูแลตัวเองดี ๆ ด้วยนะ”เมื่อเขาพูดแบบนี้ คนอื่น ๆ เองต่างก็ตัดสินใจออกเช่นกันถึงยังไงที่นี่ก็มีศพศพหนึ่งอยู่ พวกเขาเป็นแค่คนใช้ ไม่ใช่หมอนิติเวช เก็บศพไม่ได้อยู่ในขอบเขตภาระงานของพวกเขายิ่งไปกว่านั้นเมื่อครู่ในพวกเขามีหลายคนที่เห็นศพของฉันแล้ว สิ่งที่ฝังอยู่ในใจนี้ไม่ใช่สิ่งที่เงินจะชดเชยได้ตอนนี้ต่อให้เพิ่มเงินพวกเขาก็ไม่อยากอยู่ต่ออีกแล้ว“ฉันเองก็ไม่ทำแล้ว ที่บ้านหลังนี้มีศพ น่ากลัวจะตาย”“นั่นน่ะสิ ฆ่าได้กระทั่งลูกสาวของตัวเอง บ้านหลังนี้ฉันไม่กล้าอยู่แล้ว”คนใช้ทั้งหมดที่อยู่ในเหตุการณ์ล้วนเลือกที่จะยอมแพ้ไม่ทำแล้ว พวกเขาถอดถุงมือ ถอดผ้ากันเปื้อนออก แล้วเดินอาด ๆ ออกไปจากตรงนี้พ่อบ้านออกไปเป็นคนสุดท้าย เขาทำงานที่นี่มาหลายปีคนใช้หนุ่มคนหนึ่งกระซิบถามขึ้นว่า “พ่อบ้าน จะแจ้งตำรวจหรือเปล่า ทิ้งศพเอาไว้ตรงนี้มันน่าคลื่นไส้จะตาย”พ่อบ้านมอ
เนื่องจากอุณหภูมิร้อนอบอ้าว จึงมองใบหน้าของศพไม่ออกแล้ว มีแค่ดวงตาทั้งสองที่ยังเบิกตาโพลงอยู่เพียงสิ่งเดียว ตายตาไม่หลับบางจุดบนร่างกายเน่าเปื่อยขั้นรุนแรง เผยกระดูกด้านในออกมา ส่วนที่เหลือเต็มไปด้วยหนอนแมลงวันสีขาว เมื่อประตูรถถูกเปิดออก ทำเอาแมลงวันที่เกาะอยู่บนศพตกใจ เสียงหึ่ง ๆ ๆ ดังเสียดหูไม่หยุด“อ้วก...”พวกคนใช้รีบพุ่งไปอ้วกข้าง ๆ ทันที ไม่กล้ามองเพิ่มอีกพ่อเดินเข้าไป ในวินาทีที่เห็นศพฉันอีกครั้ง นัยน์ตาก็พลันหดตัวลง หลังจากนั้นใบหน้าก็บึ้งตึงเดือดเป็นฟืนเป็นไฟ “เซี่ยไป๋ล่ะ? นี่ไม่ใช่เซี่ยไป๋! ให้เธอออกมา!”เขาจ้องใบหน้าที่เน่าเฟะไปแล้วใบหน้านั้นเขม็ง ไม่รู้เพราะอะไร ตรงหน้าผากเน่าเปื่อยรุนแรงที่สุด จนเผยกระดูกสีขาวมากมายออกมาแล้วในวินาทีนี้ฉันมองใบหน้านั้น ไม่กล้าเชื่อเลยว่านั่นคือตัวฉันท้ายที่สุดพ่อบ้านก็อดไม่อยู่ ตะโกนเสียงดังขึ้นมาว่า “คุณท่าน นี่ก็คือคุณหนู เธอตายไปแล้ว”พ่อถลึงตามองเขาด้วยความเกรี้ยวกราด “ตาแก่อย่างนายนี่นะ แก่จนเลอะเลือนไปแล้วใช่ไหม นี่ใช่เซี่ยไป๋ที่ไหน เจ้านี่ต้องเป็นฝีมือเธอนี่เอามาหลอกฉันแน่ ๆ”“คุณหนูใหญ่ถูกขังเอาไว้แปดวันแล้ว ต่อให้เป็น
ตอนค่ำ พ่อบ้านฉวยโอกาสเดินเข้ามาที่โรงจอดรถ ในตอนที่คนทั้งคฤหาสน์หลับกันไปหมดแล้ว ยังไม่ทันได้เข้าใกล้รถคันนั้น เขาก็ได้กลิ่นเหม็นรุนแรงยากจะทนไหวสายหนึ่งยิ่งเข้าใกล้รถคันนั้นกลิ่นก็ยิ่งแรงขึ้น ของเหลวไม่ทราบบนพื้นเริ่มมีหนอนขึ้นในหัวเขาผุดลางสังหรณ์ไม่ดีขึ้นมาอย่างหนึ่ง ฉันขวางอยู่ตรงหน้าเขา แล้วพูดกับเขาว่า “รีบกลับไปเถอะค่ะ อย่าดูเลย มันน่าคลื่นไส้มากจริง ๆ นะคะ ดูแล้วคุณจะกินข้าวไม่ลงไปตลอดชีวิต”พ่อบ้านเป็นคนดี เขาเคยเอ่ยปากช่วยฉันขอร้อง แต่คนชั้นผู้น้อยอย่างเขาพูดไปก็ไม่มีใคร และเพื่องานที่รายได้พอใช้ได้นี้ จึงช่วยอะไรไม่ได้มากนักบางทีการตักเตือนของฉันอาจได้ผล พ่อบ้านถอยหลังไปหลายก้าว และเดินออกไปโดยไม่แม้แต่จะหันมามองจริง ๆเช้าวันต่อว่า พ่ออารมณ์ดีเป็นอย่างมาก หลังกินข้าว ก็หยิบกล่องของขวัญที่ห่ออย่างสวยงามออกมาจากลิ้นชักกล่องหนึ่งเขาฉวยโอกาสในตอนที่ซูอวี๋หร่วนไม่ได้สนใจ วางกล่องของขวัญกล่องนี้ไว้ตรงหน้าเธอ“หรวนหร่วน สุขสันต์วันเกิดนะ ดูของขวัญของลูกสิ”ใบหน้าของซูอวี๋หร่วนเต็มไปด้วยความเซอร์ไพรส์ “ขอบคุณค่ะคุณพ่อ!”เธอเปิดออกอย่างอดใจไม่ไหว ด้านในเป็นกุญแจรถตัว
ยี่สิบปีก่อน ซูเชียนเลิกกับพ่อฉัน แล้วหันไปแต่งงานกับคนรวยมีอิทธิพลที่ที่บ้านจัดการให้หลังจากนั้นสรรพสิ่งก็แปรเปลี่ยนตามเวลา คนรวยกลายเป็นคนจน กลับกันคนจนอย่างพ่อฉันเมื่อแต่งงานกับแม่ของฉัน ก็ชุบตัวเปลี่ยนเป็นรวยทั้งหมดก็เหมือนอย่างละครแบบนี้ หลังจากนั้นแม่ก็จากไปเพราะป่วย ซูเชียนก็หย่าสำหรับพ่อฉันแล้ว นี่ถือเป็นข่าวดีสองเรื่องและแบบนี้ ซูเชียนกับพ่อจึงกลับมาคบหากัน สองแม่ลูกไต่เต้าขึ้นมา แย่งทุกอย่างที่เป็นของฉันไปทั้งเสื้อผ้าของฉัน ห้องของฉัน และสุดท้ายก็แย่งพ่อของฉันไปเจ็ดวันก่อน ซูอวี๋หร่วนกลับมาทั้งดีอกดีใจ บอกว่าตัวเองได้ใบขับขี่แล้ว ตอนนี้ขับรถได้แล้วพ่อบอกว่าจะซื้อรถยนต์ให้เธอหนึ่งคัน แต่เธอลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยขึ้นอย่างกระมิดกระเมี้ยนว่า “หนูคิดว่ารถสีชมพูที่อยู่ในโรงจอดรถคันนั้นก็สวยดีนะคะ”ฉันตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงเย็นชา “รถคันนั้นพ่อซื้อให้ฉัน เธออยากได้ก็ให้พ่อเธอซื้อให้สิ เธอไม่มีพ่อของตัวเองเหรอ?”นั่นคือของขวัญวันเกิดที่พ่อให้ฉันหลังจากที่ฉันได้ใบขับขี่มา ปกติฉันขับออกไปน้อยมาก ทีแรกฉันยังคิดว่าพ่อจะเข้าใจ ทว่าคำพูดหลังจากนี้ของเขาทำลายจินตนาการฉั