@ คฤหาสน์คาเซียโน กรุงเทพฯหนึ่งอาทิตย์ต่อมาสกายออกจากบ้านด้วยรถหรูคู่ใจในช่วงเช้าของวันศุกร์ หลังจากแวะไปส่งชะเอมที่หน้ามหาวิทยาลัย ก็มุ่งหน้าไปที่คฤหาสน์ของพ่อแม่ ซึ่งท่านทั้งสองได้กว้านซื้อพื้นที่ว่างกว่าร้อยไร่เพื่อสร้างเป็นคฤหาสน์หลังใหญ่ที่มีสองชั้นสิบห้องนอน ไว้สำหรับพักผ่อนขณะกลับมายังประเทศไทยแม่ของเขาได้มาถึงประเทศไทยได้พักใหญ่แล้ว ก่อนหน้านี้ไปพักอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ซึ่งเป็นบ้านเก่าก่อนจะแต่งงานกับผู้เป็นพ่อ และวันนี้ก็ได้นั่งเครื่องบินมาถึงกรุงเทพฯ เมื่อช่วงเช้า ในขณะเดียวกันมาเฟียใหญ่อย่างลูอีส คาเซียโน ก็ได้เดินทางโดยเครื่องบินส่วนตัวมาลงยังลานจอดที่สร้างไว้บนพื้นที่โล่งกว้างด้านหลังคฤหาสน์ โดยมีลูกน้องและบอดี้การ์ดหลายสิบชีวิตไปยืนเรียงแถวรอรับเจ้านายใหญ่“สวัสดีครับแม่”สกายเดินเข้าไปในบ้านหลังใหญ่ที่ด้านในถูกตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์แบบเรียบหรูผสมผสานทั้งสไตล์ไทยและยุโรปอย่างลงตัว ก็พบกับหญิงวัยกลางคนที่แต่งตัวดูดี สวมนาฬิกาแบรนด์หรูที่ข้อมือข้างซ้าย และสวมใส่สร้อยคอเพชรเปล่งประกายวิบวับสะท้อนกับแสงสว่างที่กระทบ ยืนรอต้อนรับลูกชายคนเล็กอยู่ในบ้าน“ไม่เจอหน้ากันตั้งห
@ คฤหาสน์สกายชะเอมที่กำลังนอนเล่นอยู่บนเตียงก็พลันถอนหายใจออกมาหลายครั้ง มือเล็กไถหน้าจอโทรศัพท์เลื่อนดูอะไรเรื่อยเปื่อย แต่จิตใจก็ว้าวุ่นอย่างบอกไม่ถูก เธอจึงพิมพ์ข้อความส่งไปหาน้ำหวานหวังจะหาเพื่อนคุยคลายเหงาชะเอม : ทำอะไรอยู่ คุยเป็นเพื่อนฉันหน่อยข้อความถูกส่งออกไปไม่ถึงนาทีเพื่อนรักของเธอก็ตอบกลับมา สงสัยจะกำลังเล่นโทรศัพท์อยู่เหมือนกันน้ำหวาน : คืนนี้มาแปลก คนที่เอาแต่ทำงานหาเงิน ทำไมถึงมีเวลาว่างทักมาหาฉันได้ชะเอม : คืนนี้ฉันไม่ได้ไปทำงาน แล้วอยู่บ้านคนเดียวมันเหงาไงเธอจำใจต้องโกหกเพื่อน เพราะเรื่องที่เธอใช้ตัวแลกเงินค่ารักษายาย และย้ายมาอยู่คฤหาสน์ของสกายก็ยังไม่ได้เล่าให้น้ำหวานฟังน้ำหวาน : เหงาก็หาหนุ่ม ๆ คุยสิจ๊ะเพื่อนรัก พี่เจ้าของรถสปอร์ตวันนั้นหายไปไหนแล้วล่ะชะเอม : ก็เป็นแค่คนรู้จักไง จะให้คุยอะไรล่ะน้ำหวาน : รู้จักกันดีล่ะสิไม่ว่า ทั้งให้สร้อยเพชร ทั้งมาส่งที่มหาวิทยาลัย เด็กอนุบาลยังมองออกเลยจ้าเพื่อนสาวชะเอมที่โดนเพื่อนรู้ทันก็ส่งมือเล็กลูบตรงจี้เพชร พลันทำให้คิดถึงใบหน้าหล่อของคนให้สร้อยเส้นนี้มา ป่านนี้ไม่รู้ว่าเขาจะนอนอยู่ที่บ้านพ่อแม่เหมือนอย่างที่บอกไว้
@ บริษัทวีเอ็น ฟู้ด แอนด์ เบฟเวอเรจ จำกัดอคิณได้สั่งให้รถของบริษัทไปรับนักศึกษาสามสิบห้าคนจากมหาวิทยาลัย เพื่อมาเยี่ยมชมสถานที่และการทำงานก่อนจะลงนามมาฝึกงานที่นี่ ซึ่งเขาก็ให้โควตาแค่สิบคนเท่านั้น“สวัสดีครับ ผมดนุสรณ์ เป็นเลขาของคุณอคิณ วันนี้ผมจะรับหน้าที่พาน้อง ๆ นักศึกษาเยี่ยมชมบริษัทของเราครับ”ดนุสรณ์เป็นคนออกมายืนรอรับนักศึกษาที่ลงจากรถด้านหน้าบริษัทแทนเจ้านาย และได้แนะนำตัวก่อนจะพาทุกคนเดินชมบริษัทและอธิบายไปด้วย“ฉันก็นึกว่าพี่อคิณจะเป็นคนมาดูแลเราซะอีก” น้ำหวานกระซิบกระซาบเพื่อนชะเอมได้แต่คลี่ยิ้มออกมา สำหรับเธอใครพาชมบริษัทก็เหมือนกัน เพราะแค่มาดูก่อนการตัดสินใจก็เท่านั้นบริษัทของอคิณมีนักโภชนาการอยู่แล้วห้าคน นักศึกษาที่จะรับเข้ามาฝึกงานที่นี่ ก็จะมีนักโภชนาการหนึ่งคนคอยดูแลนักศึกษาสองคน และในระหว่างฝึกงานเขาก็ได้จ่ายค่าจ้างตามรายวันขั้นต่ำ“วันนี้บอสของผมใจดี ได้สั่งให้จัดเตรียมอาหารเลี้ยงน้อง ๆ ด้วยนะครับ เชิญทุกคนรับประทานได้ตามสบายเลยครับ ไม่ต้องเกรงใจ”หลังจากที่ดนุสรณ์พานักศึกษาไปทำความรู้จักกับนักโภชนาการทั้งห้าคนแล้ว ก็พาทุกคนไปยังโรงอาหารสอง ซึ่งเป็นห้องรับประ
@ รีสอร์ตกลางป่ารีสอร์ตแห่งนี้ตั้งอยู่ในพื้นที่ห่างไกลผู้คน เนื่องจากอคิณได้ซื้อที่ดินแถบนี้เอาไว้หมดแล้ว และได้สร้างรีสอร์ตขนาดสามห้องนอนเอาไว้เป็นที่พักผ่อนและซ่อนตัวจากบุคคลภายนอกอคิณอุ้มหญิงสาวเข้าไปวางไว้บนเตียงในห้องนอนของเขา ก่อนจะหาเชือกมามัดมือมัดเท้า แล้วรอเวลาให้ฤทธิ์ยานอนหลับหมดลงในอีกหกถึงแปดชั่วโมงตอนนี้เขาได้ให้เลขาคนสนิทซึ่งก็เป็นบุคคลที่น้องสาวไว้ใจไม่ต่างจากเขา ไปรับเธอมาจากบ้านแล้วพามาที่นี่“มาแล้วเหรอครับคนเก่งของพี่”“สวย”อลิสาส่งยิ้มมองไปรอบภายในบ้านที่สร้างด้วยไม้สักทั้งหลัง และประดับตกแต่งตามสไตล์ที่เธอชอบขณะที่สติยังดีอยู่ อคิณลูบผมน้องสาวอย่างอ่อนโยน ก่อนจะเอ่ยกับดนุสรณ์“เตรียมตัวให้พร้อม คืนนี้กูจะคิดบัญชีกับไอ้สกาย”“ครับ”ช่วงเวลาต่อจากนี้อคิณก็ทำตัวปกติ ทำอาหารให้น้องสาวกินและพูดคุยกันอย่างใจเย็น ส่วนอลิสาก็แค่ดีใจที่พี่ชายพาออกมาเที่ยวนอกบ้านพอใกล้ช่วงเย็น อคิณก็พาน้องสาวขึ้นไปบนห้องที่เตรียมไว้ให้เธอพัก“นั่งระบายสีอยู่ในห้องนี้ก่อนนะ”“ค่ะ”อคิณออกจากห้องน้องสาวก็เดินเข้าไปในห้องนอนของตน หยิบโทรศัพท์ของชะเอมขึ้นมาเปิดเครื่อง แล้วถ่ายรูปที่เธอนอน
อคิณพาสองสาวเดินลงบันไดมายังชั้นล่าง แต่ก็ไม่ได้เดินเข้าไปใกล้มาก ส่วนสกายที่จิตใจจดจ่อแต่ชะเอมจนไม่ได้ระวังตัว ก็ถูกดนุสรณ์ที่ซ่อนตัวอยู่อีกมุมเดินเข้ามาประชิด ใช้ด้ามปืนตอกเข้าที่ท้ายทอยทรุดตัวลงนั่งคุกเข่ากับพื้น ปืนที่อยู่ในมือก็กระเด็นออก ดนุสรณ์จึงใช้เท้าเตะให้ไกลออกไป“อย่าทำพี่สกาย”อลิสาสะบัดข้อมือออกจากพี่ชาย รีบวิ่งเข้าไปหาสกายที่ยกมือกุมท้ายทอยด้วยความเจ็บ“ลิสาเป่าให้นะคะ”หญิงสาวเข้าไปประคองคนที่เธอรักให้ลุกขึ้นยืน เขย่งปลายเท้าทั้งสองข้างเชิดหน้าขึ้นเป่าลมออกจากปากใส่ท้ายทอยของเขา แต่สกายก็สะบัดแขนออกอย่างไม่ใยดี เพราะไม่ต้องการให้หญิงอื่นมาโดนตัว“ปล่อย ฉันไม่รู้จักเธอ”“ฮึก หนูชื่อลิสา เป็นเมียพี่ไงคะ”อลิสาทำท่าจะกอดแต่สกายก็ขยับออกราวกับรังเกียจ มองเธอด้วยสายตาว่างเปล่า“ได้ยินแล้วใช่ไหม น้องสาวฉันเคยเป็นผู้หญิงที่ไอ้สกายมันได้แล้วทิ้ง จนลิสาต้องมาตกอยู่ในสภาพที่จิตใจไม่ปกติแบบนี้ และอีกไม่นานเธอเองก็จะโดนมันทิ้งเหมือนกัน”ชะเอมมองไปที่สกายน้ำตาเอ่อคลอ ส่ายหน้าไล่ความคิดว่ามันไม่จริงใช่ไหม ที่ผู้หญิงคนนั้นบอกว่าเป็นเมียของเขา และอคิณก็ยังบอกว่าที่เธอเป็นแบบนี้ก็เพรา
รถห้าคันขับเข้ามาจอดต่อท้ายรถของสกาย ชายฉกรรจ์หลายคนเปิดประตูลงจากรถได้ก็ขึ้นลำปืน และเล็งไปยังบริเวณโดยรอบเผื่อว่าลูกน้องของอคิณจะซุ่มอยู่“กูมาช่วยมึงแล้วเพื่อน”“คุณสกายเป็นยังไงบ้างครับ”เลย์กับโฬมรีบวิ่งเข้าไปหาสกายด้วยความเป็นห่วง“ฮึก คุณสกายถูกยิงค่ะ” ชะเอมบอกออกไปด้วยน้ำเสียงสะอื้น“มาครับน้องชะเอม เดี๋ยวพี่ช่วย”เลย์เห็นเพื่อนถูกยิงหมดแรงซบไหล่สาวก็อาสาเข้าช่วย และพอเข้าไปประคองสกายเอาแขนยกขึ้นพาดบ่าพาเดินออกมา สกายก็ลืมตาขึ้นและส่งเสียงเอ็ดเพื่อน“ไอ้สัส กูไม่ได้เป็นอะไรมาก”“อยากอ้อนเมียก็บอกกูก่อนดิวะ ไหน ๆ กูก็ช่วยประคองละ มึงค่อยไปอ้อนต่อในรถแล้วกัน”“โอ๊ย”สกายเปล่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด เมื่อไอ้เพื่อนเวรเปิดประตูแล้วปล่อยเขานั่งลงบนเบาะหลังอย่างรวดเร็ว จนแผลกระทบกระเทือน“ฝากดูแลมันด้วยนะครับน้องชะเอม เดี๋ยวพี่ไปขับรถให้”เลย์บอกกับหญิงสาวก็เดินอ้อมเปิดประตูเข้าไปนั่งที่เบาะคนขับ ก่อนจะสตาร์ตรถแล้วขับออกไป“เจ็บมากไหมคะ” ชะเอมที่นั่งกับสกายก็รีบเอ่ยถามอย่างร้อนใจ กลัวว่าชายหนุ่มจะเป็นอะไรมาก“มาก”สกายนิ่วหน้าเรียกร้องความเห็นใจ เขาเจ็บมากก็จริง แต่มันก็ยังพอทนได้ บ
เช้าวันต่อมาปรียานุชและสามีทราบข่าวว่าลูกชายคนเล็กได้รับบาดเจ็บ ตอนนี้กำลังพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ก็เร่งรีบพากันออกจากคฤหาสน์ตั้งแต่เช้ามืด แต่พอเปิดประตูเข้ามาก็พบว่าสกายได้นอนกอดกับหญิงสาวคนหนึ่งอยู่บนเตียงคนป่วย“คุณว่าใช่เด็กคนนี้ไหมคะที่ลูกเราบอกว่าเป็นคนรู้จัก” ปรียานุชเอ่ยกับสามี“กอดกันขนาดนี้ก็ชัดแล้วล่ะว่าเป็นมากกว่านั้น” ลูอีสที่กอดอกมองคนทั้งสองบนเตียงก็ตอบกลับภรรยาสกายและชะเอมต่างก็ได้ยินเสียงซุบซิบดังเข้ามาในหู บวกกับแสงสว่างของผ้าม่านที่ถูกปรียานุชเลื่อนไปด้านข้าง ก็ทำให้ทั้งสองคนปรือดวงตาขึ้นอย่างเชื่องช้า ก่อนที่ชะเอมจะเบิกตาโพลงรีบดันตัวลุกขึ้นแล้วจัดทรงผมให้เรียบร้อย“ไม่ต้องตกใจหรอกจ้ะ พวกเราเป็นพ่อแม่ของสกาย”“สวัสดีค่ะคุณลุง คุณป้า”ชะเอมยกมือไหว้ผู้ใหญ่อย่างนอบน้อม ก่อนจะก้าวลงจากเตียงผิดด้าน แล้วก้มมองหารองเท้าที่ถอดทิ้งไว้เพราะทำตัวไม่ถูก“รองเท้าอยู่ฝั่งนี้”สกายกระตุกยิ้มเอ่ยกับหญิงสาว ชะเอมก็ก้มหน้าเขินอายเดินอ้อมไปอีกด้านแล้วใส่รองเท้า“หนูขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ” เอ่ยจบเธอก็รีบเดินออกไปไม่คิดว่าพ่อแม่ของเขาจะมาเยี่ยม แล้วมาเห็นเธอ
ชะเอมกดเบอร์โทรออกไปหาเพื่อน และทันทีที่น้ำหวานรับสายก็ส่งเสียงเอ็ดเธอด้วยความเป็นห่วง“แกไปอยู่ไหนมา ฉันติดต่อไม่ได้เลย รู้ไหมว่ามีคนเป็นห่วง ฉันนอนไม่หลับทั้งคืน คิดว่าแกคงจะเกิดเรื่องขึ้นแน่ ๆ ถึงได้หายไปเลย สรุปมันเกิดอะไรขึ้นบอกฉันมาเดี๋ยวนี้”“เอาทีละคำถามได้ไหม ฉันฟังไม่ทัน”“ก็ฉันเป็นห่วงแกนี่ เล่นหายออกไปแล้วให้คนอื่นมาบอก ฉันรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีเลย”“แกตั้งสติก่อนนะ เมื่อวานฉันถูกคุณอคิณจับตัวไป”“คุณอคิณ ทำไมต้องจับตัวแกไปด้วย ไอ้คนหน้าไหว้หลังหลอก ไอ้ปีศาจในคราบนักบุญ หน้าหล่อเสียเปล่าแต่สันดานแย่สุด ๆ ถ้ารู้ว่าจะเป็นแบบนี้ฉันน่าจะผลักให้ตกเรือตั้งแต่ไปช่วยน้ำท่วม”น้ำหวานรู้สึกโกรธแทนเพื่อน และโมโหตัวเองด้วยที่หลงไหลเพียงหน้าตาหล่อเหลา โดยไม่รู้จักนิสัยใจคอที่แท้จริง“เอาน่า อย่าโมโหไปเลย ตอนนี้ฉันปลอดภัยแล้ว พี่สกายเป็นคนไปช่วย”“พี่สกาย พี่รถสปอร์ตที่แกแอบชอบน่ะเหรอ นั่นไง ฉันคิดไว้แล้วว่ายังไงเขาก็ต้องชอบแกเหมือนกัน ไม่อย่างนั้นจะเสี่ยงชีวิตไปช่วยแกทำไม แล้วตอนนี้แกอยู่ที่ไหน ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรใช่ไหม”“ฉันอยู่โรงพยาบาล”“นี่มันทำแกเจ็บถึงขนาดเข้าโรงพยาบาลเลยเหรอ”“เป
@ มหาวิทยาลัย1 ปีต่อมาเหล่ารุ่นน้องได้ยืนรายล้อมรุ่นพี่บัณฑิตที่จบการศึกษาระดับปริญญาตรี พร้อมกับร้องเพลงบูมกันดังกึกก้องไปทั่วทั้งมหาวิทยาลัย ท่ามกลางสายตาของคนที่มาร่วมแสดงความยินดีในวันรับปริญญาชะเอมอยู่ในชุดนักศึกษาที่สวมชุดครุยสีดำทับอีกชั้น ได้ยืนอยู่กลางวงล้อมของเหล่ารุ่นน้อง ทั้งร่วมร้องเพลงและขยับร่างกายเป็นจังหวะตามเนื้อเพลงที่ดังขึ้นหลังจากนั้นเธอก็ไปถ่ายรูปร่วมเฟรมกับเพื่อนรัก ผลัดกันแสดงความยินดี“ดีใจด้วยนะแก”“ยินดีกับแกเหมือนกันนะน้ำหวาน”“เรียนจบแล้วก็อย่าลืมเพื่อนอย่างฉันล่ะ” น้ำหวานทำหน้าหงอยเล็กน้อย เมื่อคิดว่าเรียนจบแล้วคงจะได้เจอกันน้อยลง ด้วยอายุที่มากขึ้น และต่างคนก็ต้องไปทำหน้าที่ของตนเอง“จะลืมได้ยังไง แกเป็นเพื่อนรักของฉันนะ ฉันยังอยู่กรุงเทพฯ พักที่บ้านพี่สกาย ถ้ามีเวลาก็มาเจอกันบ่อย ๆ นะ”ขณะที่สองสาวกอดกัน ก็มีเสียงทุ้มดังอยู่ใกล้ ๆ และพอหันไปมองก็พบว่าเป็นธามไท หนุ่มเจ้าของโรงแรมที่พวกเธอไปฝึกงาน“ยินดีด้วยนะครับน้องน้ำหวาน น้องชะเอม”“ขอบคุณนะคะพี่ธามไท ว่าแต่มาแสดงความยินดีกับพวกเราสองคน ทำไมมีดอกไม้แค่ช่อเดียวคะ” ชะเอมเอ่ยทักทายหนุ่มรุ่นพี่ ก่อนจะเ
@ โรงแรมธามไทสกายขับรถมาส่งแฟนสาวด้วยตัวเอง วันนี้เธอต้องฝึกงานเป็นวันแรกในช่วงปิดภาคเรียน ซึ่งก่อนหน้านี้เขาก็ได้ติดต่อโรมแรมของเพื่อน เพื่อขอให้แฟนสาวและเพื่อนรักของเธอมาฝึกงานที่นี่“ขอบคุณนะคะที่มาส่ง”เธอปลดเข็มขัดนิรภัยออกก็เอ่ยด้วยรอยยิ้ม แล้วโน้มตัวไปจูบที่แก้มของเขา“ปากด้วยสิครับ”จุ๊บ!“หนูไปก่อนนะคะ เดี๋ยวยัยน้ำหวานจะบ่นเอาว่ามาถึงช้า”ที่ช้าก็เพราะถูกเขาจับกินตั้งแต่เช้าตรู่ ทั้งบนเตียง ในห้องน้ำ จนได้อาบน้ำด้วยกัน กว่าจะแต่งตัวเสร็จแล้วลงมากินมื้อเช้า ก็ทำให้ออกจากบ้านช้ากว่าที่กำหนด“ครับ”สิ้นเสียงขานรับชะเอมก็เปิดประตูลงจากรถ แต่แล้วก็ได้ยินเสียงประตูอีกฝั่งที่เปิดออก จึงรีบหันไปมองด้วยความสงสัย“พี่สกาย จะลงมาทำไมอีกคะ”“รีบไม่ใช่เหรอครับ เข้าไปข้างในสิ พี่แค่จะเข้าไปส่งเมีย”ชะเอมกระตุกยิ้มพร้อมกับมือที่โดนอีกฝ่ายกอบกุม แล้วพากันเดินเข้าไปในโรงแรมของเพื่อนแฟนหนุ่ม“ชะเอม”ทันทีที่น้ำหวานเห็นเพื่อนเดินเข้ามากับแฟน ก็โบกมือแล้วเอ่ยเรียกเบา ๆ ด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น เพราะนี่คงจะเป็นครั้งแรกที่ได้เจอหนุ่มรุ่นพี่ใจดีที่เป็นธุระเรื่องฝึกงานให้เธอกับชะเอม“สวัสดีค่ะพี่สกาย ห
ร่างของหญิงสาวถูกอุ้มคีบเอวขณะที่ริมฝีปากก็บดจูบกันอย่างเร่าร้อน และวางลงข้างโต๊ะสนุกเกอร์ เท้าแตะพื้นโน้มตัวคว่ำหน้านอนบนนั้น แอ่นก้นงามให้เขากระแทกร่องสาวจากทางด้านหลัง“อ๊ะ อ๊ะ อ๊า... พี่สกาย”เสียงร้องครางดังระงมของทั้งคู่ประสานกันลั่นห้อง เขาได้ชื่อว่าเป็นหนุ่มกินดุ กินโหด เพราะฉะนั้นน้ำเดียวไม่เคยพอ“อ่า... เมียพี่ตอดดีมาก”“อื้อ จะ จุก ซี้ด...”“พี่ขออีกน้ำนะครับ”ปัก ปัก ปัก!!!คนทั้งสองผลัดเปลี่ยนกันมอบบทรัก จนกระทั่งน้ำสีขาวขุ่นหลั่งออกมาเป็นครั้งที่สาม สกายก็อุ้มหญิงสาวมานั่งอยู่บนตักตรงโซฟาดังเดิมเพื่อพักให้หายเหนื่อย“ขอบคุณนะคะที่พายายมาอยู่ด้วย”“เราขอบคุณพี่หลายรอบแล้วนะ”เอ่ยพลางยื่นมือหนาเชยปลายคางของหญิงสาวให้เงย ก่อนจะก้มลงไปจูบแผ่วเบา ทำเอาคนโดนจูบคลี่ยิ้มเขิน“ก็พี่แสนดีแบบนี้ไงล่ะคะ ให้ขอบคุณวันละล้านรอบก็ยังตอบแทนไม่หมดเลย”“ไม่ต้องล้านรอบหรอก ตอบแทนเป็นตัวกับหัวใจวันละน้ำสองน้ำก็พอ”“คนบ้า”หญิงสาวคลี่ยิ้มส่งสายตามองค้อนให้คนเจ้าเล่ห์ พูดดีด้วยหน่อยไม่ได้ ต้องวกเข้าเรื่องสิบแปดบวกตลอดทั้งสองต่างจ้องตาและหลุดยิ้มออกมา พักกันพอหายเหนื่อย สกายและชะเอมก็พากันไปยั
@ โรงพยาบาลสามทุ่มของวันนี้ยายของหญิงสาวจะเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายหัวใจ เมื่อช่วงพลบค่ำได้ตรวจเลือดและสภาพร่างกายโดยรวมแล้วมีความพร้อมทุกอย่างปรียานุชแม่ของสกายได้จัดการติดต่อกับทางโรงพยาบาลทั้งสองแห่งเรื่องการผ่าตัด เพราะหัวใจที่นำออกมาแล้วนั้น จำเป็นต้องนำไปปลูกถ่ายให้กับยายของชะเอมโดยด่วน จะให้มีเรื่องผิดพลาดไม่ได้เด็ดขาด“เจอกันอีกแล้วนะพ่อหนุ่ม”ผู้เป็นยายเอ่ยทักทายสกายทันทีที่เห็นเด็กทั้งสองเดินเข้าไปหาในห้องพักผู้ป่วย ทำเอาชะเอมงุนงงว่าไปรู้จักกันตอนไหน เพราะเธอไม่เคยพาแฟนหนุ่มมาเยี่ยมยายเลยสักครั้ง“ยายรู้จักพี่สกายด้วยเหรอคะ”“รู้จักสิ เขาก็เคยมาเยี่ยมยาย”ชะเอมยังไม่อยากคาดคั้นสิ่งที่อยากรู้ในตอนนี้ เลยได้แต่คลี่ยิ้มส่งกำลังใจให้ผู้เป็นยาย สักพักก็มีพยาบาลและเจ้าหน้าที่เวรเปลมาพายายไปที่ห้องผ่าตัด“หนูจะรออยู่ตรงนี้นะคะ”หญิงสาวที่จับมือของยายมาตลอดทางก็ปล่อยมือออกเพราะเข้าไปในห้องผ่าตัดด้วยไม่ได้ สกายจึงโอบไหล่พาชะเอมไปนั่งรอที่เก้าอี้หน้าห้องผ่าตัดผู้เป็นยายเข้าไปได้ไม่นาน ก็มีเจ้าหน้าที่วิ่งออกมาจากลิฟต์ ในมือยังถือกระติกสี่เหลี่ยม เข้าไปในห้องผ่าตัดอย่างรวดเร็วหัวใจข
@ ทะเลชะเอมถูกแฟนหนุ่มจูงมือเข้าไปยังร้านอาหารริมทะเลแห่งหนึ่ง ทั้งสองเข้าไปนั่งที่โต๊ะแล้วเปิดดูเมนูเพื่อสั่งอาหาร“พามากินข้าวไกลจังเลยนะคะ”“เราเพิ่งผ่านเรื่องร้ายมาด้วยกัน พี่เลยอยากพาเธอมาเปิดหูเปิดตา เผื่อว่าจะรู้สึกดีขึ้น”“ขอบคุณนะคะ ตอนนี้หนูรู้สึกดีขึ้นมากแล้วค่ะ” เธอยิ้มให้กับคนตรงหน้าทั้งสองนั่งรออาหารไม่นานก็มีพนักงานเดินมาเสิร์ฟให้ที่โต๊ะ หลังจากนั้นสกายก็พาชะเอมไปที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งที่อยู่ติดกับชายทะเล เปิดประตูออกมานั่งเล่นรับลม และลงเล่นน้ำทะเลที่ด้านหน้าได้เลย“คืนนี้นอนกันที่นี่นะ”ชะเอมที่กำลังแง้มผ้าม่านมองดูคลื่นของน้ำทะเลก็หันมาถามกลับ“แต่เราไม่ได้เอาเสื้อผ้ามานะคะ”“พี่เตรียมมาให้แล้วครับ”“ไปแอบเตรียมมาตอนไหนคะ หนูไม่เห็นพี่หิ้วกระเป๋าลงมาจากห้องเลย”“ถ้าเห็นจะเรียกว่าแอบเหรอ”ชายหนุ่มกระตุกยิ้มหย่อนก้นลงนั่งที่ปลายเตียง จับหญิงสาวนั่งลงบนตักแล้วสวมกอดเธอทางด้านหลัง เกยปลายคางลงที่ไหล่บาง เอ่ยกระซิบข้างใบหู“เราจะทำอะไรดี”“ไปเดินเล่นกันไหมคะ”“ดูแดดสิครับ เดี๋ยวผิวเมียพี่ก็เสียหมด เรามานอนพักกันดีกว่า”“ว้าย พี่สกาย ไม่เอา นี่มันกลางวันอยู่เลยนะคะ”เสียงหว
ชะเอมกดเบอร์โทรออกไปหาเพื่อน และทันทีที่น้ำหวานรับสายก็ส่งเสียงเอ็ดเธอด้วยความเป็นห่วง“แกไปอยู่ไหนมา ฉันติดต่อไม่ได้เลย รู้ไหมว่ามีคนเป็นห่วง ฉันนอนไม่หลับทั้งคืน คิดว่าแกคงจะเกิดเรื่องขึ้นแน่ ๆ ถึงได้หายไปเลย สรุปมันเกิดอะไรขึ้นบอกฉันมาเดี๋ยวนี้”“เอาทีละคำถามได้ไหม ฉันฟังไม่ทัน”“ก็ฉันเป็นห่วงแกนี่ เล่นหายออกไปแล้วให้คนอื่นมาบอก ฉันรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีเลย”“แกตั้งสติก่อนนะ เมื่อวานฉันถูกคุณอคิณจับตัวไป”“คุณอคิณ ทำไมต้องจับตัวแกไปด้วย ไอ้คนหน้าไหว้หลังหลอก ไอ้ปีศาจในคราบนักบุญ หน้าหล่อเสียเปล่าแต่สันดานแย่สุด ๆ ถ้ารู้ว่าจะเป็นแบบนี้ฉันน่าจะผลักให้ตกเรือตั้งแต่ไปช่วยน้ำท่วม”น้ำหวานรู้สึกโกรธแทนเพื่อน และโมโหตัวเองด้วยที่หลงไหลเพียงหน้าตาหล่อเหลา โดยไม่รู้จักนิสัยใจคอที่แท้จริง“เอาน่า อย่าโมโหไปเลย ตอนนี้ฉันปลอดภัยแล้ว พี่สกายเป็นคนไปช่วย”“พี่สกาย พี่รถสปอร์ตที่แกแอบชอบน่ะเหรอ นั่นไง ฉันคิดไว้แล้วว่ายังไงเขาก็ต้องชอบแกเหมือนกัน ไม่อย่างนั้นจะเสี่ยงชีวิตไปช่วยแกทำไม แล้วตอนนี้แกอยู่ที่ไหน ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรใช่ไหม”“ฉันอยู่โรงพยาบาล”“นี่มันทำแกเจ็บถึงขนาดเข้าโรงพยาบาลเลยเหรอ”“เป
เช้าวันต่อมาปรียานุชและสามีทราบข่าวว่าลูกชายคนเล็กได้รับบาดเจ็บ ตอนนี้กำลังพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ก็เร่งรีบพากันออกจากคฤหาสน์ตั้งแต่เช้ามืด แต่พอเปิดประตูเข้ามาก็พบว่าสกายได้นอนกอดกับหญิงสาวคนหนึ่งอยู่บนเตียงคนป่วย“คุณว่าใช่เด็กคนนี้ไหมคะที่ลูกเราบอกว่าเป็นคนรู้จัก” ปรียานุชเอ่ยกับสามี“กอดกันขนาดนี้ก็ชัดแล้วล่ะว่าเป็นมากกว่านั้น” ลูอีสที่กอดอกมองคนทั้งสองบนเตียงก็ตอบกลับภรรยาสกายและชะเอมต่างก็ได้ยินเสียงซุบซิบดังเข้ามาในหู บวกกับแสงสว่างของผ้าม่านที่ถูกปรียานุชเลื่อนไปด้านข้าง ก็ทำให้ทั้งสองคนปรือดวงตาขึ้นอย่างเชื่องช้า ก่อนที่ชะเอมจะเบิกตาโพลงรีบดันตัวลุกขึ้นแล้วจัดทรงผมให้เรียบร้อย“ไม่ต้องตกใจหรอกจ้ะ พวกเราเป็นพ่อแม่ของสกาย”“สวัสดีค่ะคุณลุง คุณป้า”ชะเอมยกมือไหว้ผู้ใหญ่อย่างนอบน้อม ก่อนจะก้าวลงจากเตียงผิดด้าน แล้วก้มมองหารองเท้าที่ถอดทิ้งไว้เพราะทำตัวไม่ถูก“รองเท้าอยู่ฝั่งนี้”สกายกระตุกยิ้มเอ่ยกับหญิงสาว ชะเอมก็ก้มหน้าเขินอายเดินอ้อมไปอีกด้านแล้วใส่รองเท้า“หนูขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ” เอ่ยจบเธอก็รีบเดินออกไปไม่คิดว่าพ่อแม่ของเขาจะมาเยี่ยม แล้วมาเห็นเธอ
รถห้าคันขับเข้ามาจอดต่อท้ายรถของสกาย ชายฉกรรจ์หลายคนเปิดประตูลงจากรถได้ก็ขึ้นลำปืน และเล็งไปยังบริเวณโดยรอบเผื่อว่าลูกน้องของอคิณจะซุ่มอยู่“กูมาช่วยมึงแล้วเพื่อน”“คุณสกายเป็นยังไงบ้างครับ”เลย์กับโฬมรีบวิ่งเข้าไปหาสกายด้วยความเป็นห่วง“ฮึก คุณสกายถูกยิงค่ะ” ชะเอมบอกออกไปด้วยน้ำเสียงสะอื้น“มาครับน้องชะเอม เดี๋ยวพี่ช่วย”เลย์เห็นเพื่อนถูกยิงหมดแรงซบไหล่สาวก็อาสาเข้าช่วย และพอเข้าไปประคองสกายเอาแขนยกขึ้นพาดบ่าพาเดินออกมา สกายก็ลืมตาขึ้นและส่งเสียงเอ็ดเพื่อน“ไอ้สัส กูไม่ได้เป็นอะไรมาก”“อยากอ้อนเมียก็บอกกูก่อนดิวะ ไหน ๆ กูก็ช่วยประคองละ มึงค่อยไปอ้อนต่อในรถแล้วกัน”“โอ๊ย”สกายเปล่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด เมื่อไอ้เพื่อนเวรเปิดประตูแล้วปล่อยเขานั่งลงบนเบาะหลังอย่างรวดเร็ว จนแผลกระทบกระเทือน“ฝากดูแลมันด้วยนะครับน้องชะเอม เดี๋ยวพี่ไปขับรถให้”เลย์บอกกับหญิงสาวก็เดินอ้อมเปิดประตูเข้าไปนั่งที่เบาะคนขับ ก่อนจะสตาร์ตรถแล้วขับออกไป“เจ็บมากไหมคะ” ชะเอมที่นั่งกับสกายก็รีบเอ่ยถามอย่างร้อนใจ กลัวว่าชายหนุ่มจะเป็นอะไรมาก“มาก”สกายนิ่วหน้าเรียกร้องความเห็นใจ เขาเจ็บมากก็จริง แต่มันก็ยังพอทนได้ บ
อคิณพาสองสาวเดินลงบันไดมายังชั้นล่าง แต่ก็ไม่ได้เดินเข้าไปใกล้มาก ส่วนสกายที่จิตใจจดจ่อแต่ชะเอมจนไม่ได้ระวังตัว ก็ถูกดนุสรณ์ที่ซ่อนตัวอยู่อีกมุมเดินเข้ามาประชิด ใช้ด้ามปืนตอกเข้าที่ท้ายทอยทรุดตัวลงนั่งคุกเข่ากับพื้น ปืนที่อยู่ในมือก็กระเด็นออก ดนุสรณ์จึงใช้เท้าเตะให้ไกลออกไป“อย่าทำพี่สกาย”อลิสาสะบัดข้อมือออกจากพี่ชาย รีบวิ่งเข้าไปหาสกายที่ยกมือกุมท้ายทอยด้วยความเจ็บ“ลิสาเป่าให้นะคะ”หญิงสาวเข้าไปประคองคนที่เธอรักให้ลุกขึ้นยืน เขย่งปลายเท้าทั้งสองข้างเชิดหน้าขึ้นเป่าลมออกจากปากใส่ท้ายทอยของเขา แต่สกายก็สะบัดแขนออกอย่างไม่ใยดี เพราะไม่ต้องการให้หญิงอื่นมาโดนตัว“ปล่อย ฉันไม่รู้จักเธอ”“ฮึก หนูชื่อลิสา เป็นเมียพี่ไงคะ”อลิสาทำท่าจะกอดแต่สกายก็ขยับออกราวกับรังเกียจ มองเธอด้วยสายตาว่างเปล่า“ได้ยินแล้วใช่ไหม น้องสาวฉันเคยเป็นผู้หญิงที่ไอ้สกายมันได้แล้วทิ้ง จนลิสาต้องมาตกอยู่ในสภาพที่จิตใจไม่ปกติแบบนี้ และอีกไม่นานเธอเองก็จะโดนมันทิ้งเหมือนกัน”ชะเอมมองไปที่สกายน้ำตาเอ่อคลอ ส่ายหน้าไล่ความคิดว่ามันไม่จริงใช่ไหม ที่ผู้หญิงคนนั้นบอกว่าเป็นเมียของเขา และอคิณก็ยังบอกว่าที่เธอเป็นแบบนี้ก็เพรา