@ ชุมชนแออัดชะเอมและคณะเดินทางด้วยรถประจำทางปรับอากาศสองชั้น ไปถึงชุมชนแออัดที่ได้เกิดอุทกภัยน้ำท่วมเนื่องจากฝนตกหนักติดต่อกันเป็นเวลาหลายวัน ตอนนี้ผู้คนในชุมชนกำลังได้รับความเดือดร้อน แต่ดีที่วันนี้ฝนหยุดตกแล้ว และยังมีหน่วยงานกู้ภัยและหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องเข้าไปให้ความช่วยเหลือชาวบ้านและมอบถุงยังชีพส่วนเหล่านักศึกษาคณะคหกรรมศาสตร์อย่างพวกเธอ ก็ทำได้แค่ช่วยหุงหาอาหารอยู่ที่ศาลากลางของหมู่บ้านซึ่งตั้งอยู่บนเนินสูง ทำให้ตัวอาคารไม่ได้ถูกน้ำท่วมไปด้วย รอเวลาใกล้เที่ยงจะได้ตักอาหารใส่กล่องเตรียมไว้ให้กับหน่วยกู้ภัยและบุคคลที่เข้าไปให้ความช่วยเหลือ และนักศึกษาส่วนหนึ่งก็จะพากันนั่งเรือเล็ก เพื่อนำอาหารเข้าไปแจกจ่ายให้แต่ละบ้านด้วยเช่นกัน“ฉันขอโทรหายายแป๊บนึงนะ”ชะเอมบอกกับน้ำหวานก่อนจะเดินหลีกออกมา ในมือก็กดเบอร์ชายหนุ่มที่เน้นย้ำตอนมาส่งว่าต้องโทรไปรายงานเขา“ฉันมาถึงแล้วนะคะ”“อื้ม แล้วจะกลับกี่โมง”สกายถามกลับ ริมฝีปากหยักกระตุกยิ้มที่ได้ยินเสียงอันคุ้นเคย“น่าจะไปถึงมหา’ลัยประมาณห้าโมงค่ะ แต่ว่าก่อนกลับฉันขอไปเยี่ยมยายได้ไหมคะ วันนี้มีนัดจ่ายค่ารักษาด้วยค่ะ”“อื้ม ไปสิ ไว้ฉั
@ โรงพยาบาล“ยายเป็นยังไงบ้างจ๊ะ”“ก็ตามสภาพนะลูก ไม่ได้ดีขึ้น แต่ก็ไม่ได้แย่ลง” ยายของเธอเอ่ยพลางเอามือลูบศีรษะหลานสาวอย่างทะนุถนอม“วันนี้หนูไปช่วยชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วมมาด้วยนะคะ ชาวบ้านดีใจกันใหญ่เลยที่มีคนเข้าไปช่วยเหลือ”“ดีแล้วล่ะชะเอม มีอะไรที่เราพอช่วยได้ ก็ช่วย ๆ กันไป คนตกทุกข์ได้ยาก เวลาเห็นคนใจบุญมาช่วยเหลือ ก็เหมือนได้เห็นแสงสว่างต่อลมหายใจให้พวกเขา”“จ้ะยาย”ยายของเธอพร่ำสอนเรื่องการมีน้ำใจต่อเพื่อนมนุษย์มาตั้งแต่เด็ก แม้ว่าสองยายหลานจะไม่ได้ร่ำรวยอะไร แต่พอเห็นคนลำบากก็จะช่วยตามกำลังที่มี“อยู่ที่นี่ก็ไม่มีอะไร แค่นอนเบื่อไปวัน ๆ พายายกลับไปนอนพักที่บ้านไม่ได้เหรอลูก”“ไม่ต้องกังวลเรื่องเงินนะจ๊ะยาย ยังไงอยู่ที่นี่ก็ใกล้หมอ หนูจะได้สบายใจ ถ้าวันไหนได้รับหัวใจใหม่ขึ้นมา ยายจะได้ผ่าตัดได้เลย กลับไปอยู่บ้านเราหนูก็ทำแต่งาน ไม่มีเวลาดูแลยายด้วยนะคะ”ชะเอมพยายามเกลี้ยกล่อมคนแก่ที่ชอบอยู่ติดบ้าน เธอเข้าใจผู้เป็นยายดีว่ามาอยู่ต่างที่มันรู้สึกเบื่อ แต่เธอก็เป็นห่วงอาการของยาย อยู่ในสถานที่ปลอดเชื้อและใกล้มือหมอ อย่างไรก็ลดอาการเจ็บป่วยที่อาจแทรกซ้อนขึ้นมาได้บ้างยายของเธอได้แต่ถ
สกายอุ้มหญิงสาวตรงไปยังห้องน้ำ และวางเธอลงอย่างเบามือ ก่อนจะเอ่ยออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงพร่า“ถอดเสื้อผ้าให้ฉันสิ”ชะเอมยื่นมือออกไปดึงรั้งเสื้อยืดของเขาให้ถอดออกไปทางศีรษะ ริมฝีปากสวยยกยิ้มอย่างเคอะเขิน แม้จะมีอะไรกันนับครั้งไม่ถ้วน แต่ก็ยังเขินอายอยู่ทุกครั้งที่ได้แก้ผ้าต่อหน้ากันผิวกายขาวสะอาดปรากฏแก่สายตาหญิงสาว ชะเอมเลื่อนมือลงไปปลดเข็มขัดของเขาและจัดการถอดกางเกงต่อแก่นกายขนาดหกสิบสองผงาดเป็นลำแข็ง ชะเอมลอบกลืนน้ำลายเผลอมองต่ำทำเอาใจสั่นไหว ก่อนจะช้อนดวงตาคู่หวานเงยขึ้นมองใบหน้าหล่อร้าย และหลบสายตาคู่คมเบี่ยงใบหน้าไปทางอื่นสกายจับปลายคางของเธอให้หันมามองกัน โน้มใบหน้าเข้าไปกระซิบที่ข้างหู“จะถอดเอง หรือให้ฉันช่วย”“ฉันอยากให้คุณช่วย” ชะเอมเอ่ยความต้องการออกไปน้ำเสียงแผ่วเบาสกายยกยิ้มพึงพอใจ เลื่อนมือไปจัดการกับเสื้อผ้าของเธอ ก่อนจะอุ้มหญิงสาวเข้าไปในอ่างอาบน้ำ“อาบน้ำให้ฉัน ถูสบู่ทุกซอกทุกมุม โดยเฉพาะที่กำลังแข็งอยู่”เขาใช้ความอดทนอดกลั้นเป็นอย่างมาก น้องชายก็แข็งจนอยากแทงเข้าไปในกายสาว แต่ก็ดึงเวลาเพื่อที่จะได้อาบน้ำด้วยกันมือเล็กถูไปทั่วทั้งตัวของเขา โดยเฉพาะจุดที่ชายหนุ่มเน
@ มหาวิทยาลัยหลายวันต่อมา“นักศึกษาทุกคนคะ นี่คือคุณอคิณ เป็นเจ้าของบริษัทวีเอ็น ฟู้ด แอนด์ เบฟเวอเรจ จำกัด วันนี้คุณอคิณได้เข้ามาพบกับอาจารย์เพื่อมอบโควตาให้กับนักศึกษาฝึกงานจำนวนสิบคน ส่วนรายละเอียดเดี๋ยวให้ทางคุณอคิณเป็นคนชี้แจงนะคะ”เสียงของมณีวรรณ อาจารย์ประจำสาขาอาหารและโภชนาการ เอ่ยกับนักศึกษาชั้นปีที่สามที่ห้องประชุมเล็กของคณะคหกรรมศาสตร์วันนี้นักธุรกิจหนุ่มผู้เป็นเจ้าของบริษัทผลิตอาหารและเครื่องดื่มรายใหญ่ ส่งขายทั้งในไทยและต่างประเทศ ได้มีการเข้ามาพบปะกับอาจารย์ผู้สอนของคณะคหกรรมศาสตร์ สาขาวิชาอาหารและโภชนาการ เนื่องจากภาคฤดูร้อนที่จะถึงนี้ นักศึกษาชั้นปีที่สามจะได้มีการฝึกงานเป็นระยะเวลาสองเดือนและหลังจากอาจารย์พูดจบ อคิณก็ได้เอ่ยต่อ“สวัสดีครับน้อง ๆ นักศึกษา บริษัทของผมเป็นอุตสาหกรรมผลิตอาหารสำเร็จรูปทั้งคาวและหวาน และผลิตเครื่องดื่มหลากหลายชนิดซึ่งทุกคนน่าจะทราบกันดี และที่ผมมาในวันนี้ก็เพราะอยากจะมอบโอกาสดี ๆ ให้กับน้อง ๆ ได้เข้าไปฝึกงานที่บริษัท ไม่ต้องกังวลนะครับว่างานที่ฝึกจะไม่ตรงกับสายที่ได้เรียนมา เพราะว่าทางเรามีนักโภชนาการมืออาชีพคอยให้คำปรึกษา ทั้งในเรื่องกา
@ บ้านวาณิชย์ศราหลังจากที่อคิณออกจากมหาวิทยาลัยก็เดินทางกลับเข้าบ้านทันทีเขาเปิดประตูเข้าไปในห้องนอนที่ถูกตกแต่งไปด้วยตุ๊กตาหมีสีชมพูวางเต็มหัวเตียง ภายในห้องมีกระดาษที่ถูกตัดเป็นรูปหัวใจแปะเต็มฝาผนัง บางส่วนก็ได้ถูกเขียนข้อความติดเอาไว้“ทำอะไรอยู่ครับคนเก่งของพี่”อคิณเอ่ยถามพลางยกมือขึ้นลูบศีรษะน้องสาวที่นั่งอยู่โต๊ะทำงานที่มีกระดาษและปากกากองอยู่อย่างอ่อนโยน แล้วหันไปมองนักจิตวิทยาและพยาบาลพิเศษที่จ้างมาเฝ้าติดตามอาการน้องสาวอย่างใกล้ชิดที่นั่งอยู่ตรงโซฟา ก็ส่งซิกให้พวกเธอออกจากห้องไปก่อน“นี่ค่ะ ลิสาทำหัวใจ สวยไหมคะ”อลิสา หญิงสาววัยยี่สิบห้าปีที่ตอนนี้เป็นผู้ป่วยจิตเวช เนื่องจากมีอาการซึมเศร้าและอาการเพ้อร่วมด้วย หันมาตอบพี่ชายด้วยรอยยิ้ม โชว์กระดาษโน้ตในมือที่เขียนชื่อคนที่เธอรัก และทำให้เธอกลายเป็นแบบนี้ให้พี่ชายดู“พี่สกายของหนู”อคิณกัดกรามแน่น ฝืนยิ้มให้น้องสาวที่จับกระดาษโน้ตแนบอก หลับตาพริ้มแล้วเอ่ยชื่อคนที่เขาเกลียดเข้าไส้ออกมาเขาเดินออกห่างจากน้องสาวที่กำลังตกอยู่ในอาการเพ้อ ก่อนจะปิดประตูห้องก็หันไปมองอลิสาและเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่นแต่แผ่วเบา เพื่อไม่ให้น้องสาวได้ย
ชีวิตไม่สิ้นก็ต้องดิ้นกันไป คำคมสอนใจที่ได้ยินอยู่บ่อยครั้งคนเราเกิดมาย่อมมีโชคชะตาแตกต่างกัน บางคนเกิดมารวยล้นฟ้าเป็นมหาเศรษฐีพันล้าน หมื่นล้าน ใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย หยิบจับอะไรก็เป็นเงินเป็นทอง ในขณะที่บางคนก็เป็นแค่ชาวรากหญ้าหาเช้ากินค่ำ ต้องดิ้นรนทำงานเพื่อแลกเงินประทังชีวิตให้ผ่านพ้นไปวัน ๆเกิดมาทั้งทีก็ต้องใช้ชีวิตให้อยู่รอดเผื่อว่าพรุ่งนี้จะเป็นวันที่ดีกว่า และนั่นก็เป็นถ้อยคำสอนของผู้เป็นยายที่ใช้สอนหลานสาวอันเป็นแก้วตาดวงใจมาโดยตลอดแต่ชีวิตแสนธรรมดาของนักศึกษาอย่างเธอมันกลับไม่ได้โรยไปด้วยกลีบกุหลาบ*****@ SA9 Pub and Restaurantเอสเอไนน์ หนึ่งในสถานบันเทิงชื่อดังใจกลางเมืองกรุงเทพฯ (ชื่อSA ก็ย่อมาจาก sex appeal หมายถึง เสน่ห์ดึงดูดเพศตรงข้าม) ซึ่งได้เปิดเป็นร้านอาหารกึ่งผับที่ให้บริการอาหารและเครื่องดื่ม ชั้นล่างได้ถูกแบ่งเป็นโซนทั่วไปและบนชั้นสองเป็นห้องแบบวีไอพี มีสาวนั่งดริงและสาวไซด์ไลน์ที่เลือกทำด้วยความสมัครใจ“คืนแรกก็โชคดีเลยนะชะเอม มีลูกค้าวีไอพีจองตัวไปนั่งดื่มด้วย” เสียงของจีจี้เอ่ยกับสาวรุ่นน้องชะเอม สาวสวยดวงตากลมโต ผมยาวสลวยถึงกลางหลัง คืนนี้เธอได้ถูกแปลงโฉ
สามวันก่อนหน้า“ออเดอร์จีสองหนึ่งห้าได้แล้วค่ะ” เสียงเจ้าของร้านอาหารเอ่ยเรียกพนักงานส่งอาหารที่มายืนรออยู่หน้าร้านพนักงานสาวยื่นมือออกไปรับออเดอร์ด้วยใบหน้าแย้มยิ้ม แล้วนำถุงอาหารไปใส่ไว้ในกล่องที่ผูกติดกับท้ายรถมอเตอร์ไซค์ เพื่อนำไปส่งลูกค้าที่สั่งผ่านบริการออนไลน์ให้ทันเวลาทุกวันหลังเลิกเรียนหรือวันหยุดชะเอมก็จะมารับจ็อบหางานเสริม เนื่องจากความอาภัพ พ่อแม่เสียชีวิตตั้งแต่เด็กจึงทำให้อยู่กับยายเพียงแค่สองคน และตั้งแต่เข้าเรียนมหาวิทยาลัย เธอก็ต้องหางานทำเพื่อนำไปเป็นค่าเล่าเรียน และเลี้ยงดูผู้เป็นยายที่มีโรคประจำตัวซึ่งอยู่บ้านร้อยพวงมาลัยส่งขายตลาด รายได้ต่อวันก็แค่ร้อยสองร้อยตอนนี้เธอเรียนอยู่ปีที่สามคณะคหกรรมศาสตร์ สาขาวิชาอาหารและโภชนาการ ของมหาวิทยาลัยรัฐบาลแห่งหนึ่งชะเอมมีความใฝ่ฝันว่าอยากจะมีร้านอาหารเป็นของตัวเองตั้งแต่เด็ก หวังว่าเรียนจบแล้วจะสามารถเก็บเงินได้สักก้อนและเปิดร้านอาหารเป็นของตัวเอง จะได้มีเงินเลี้ยงดูยาย ไม่ต้องมาร้อยพวงมาลัยให้หลังขดหลังแข็งอีกต่อไปหลังจากส่งอาหารเสร็จก็ต้องรีบกลับบ้านไปอาบน้ำ เตรียมตัวไปทำงานเสริมอีกที่หนึ่ง“ยายจ๋า หนูไปทำงานก่อนนะคะ ก
ชุดสายเดี่ยวสีดำรัดรูปได้ถูกสวมใส่อยู่บนเรือนร่างของหญิงสาว และจีจี้ก็ได้ทำการผูกเชือกที่อยู่ตรงด้านหลังให้คืนนี้จีจี้ได้จัดการแปลงโฉมรุ่นน้องทั้งแต่งหน้าทำผม และเลือกชุดให้โชว์ผิวขาวมีออรา เพื่อให้ชะเอมได้กลายเป็นหญิงสาวที่มีความเซ็กซี และสวยที่สุดในเอสเอไนน์“สวยมากเลยชะเอม”“ชุดไม่โป๊ไปเหรอคะพี่จีจี้”ชะเอมมองตัวเองผ่านกระจกบานใหญ่กับชุดโชว์ก้อนเนื้อหน้าอกที่โผล่พ้นเกาะอกเว้าหลัง และสั้นแค่พอคลุมก้น ก็ทำให้รู้สึกไม่มั่นใจ ปกติเธอจะใส่แต่เสื้อยืดกางเกงยีน สั้นสุดก็คงจะเป็นกระโปรงนักศึกษาที่ยาวประมาณหัวเข่า“แบบนี้สิผู้ชายชอบ มั่นใจเข้าไว้ อย่าลืมสิว่าเราตัดสินใจทำเพราะอะไร”จีจี้เรียกความมั่นใจให้คนที่เสมือนน้องสาว ทำให้ชะเอมฉุกคิดขึ้นได้ว่ายายยังนอนอยู่ที่โรงพยาบาล เธอจะไม่มีวันลืมกับสิ่งที่ตัดสินใจทำลงไป และจะไม่เสียใจที่เลือกทำแบบนี้เด็ดขาด“พี่จีจี้คะ หนูเลือกแขกเองได้ใช่ไหมคะ”“ได้สิจ๊ะ สาว ๆ ที่นี่ก็ไม่ใช่จะรับงานกับผู้ชายทุกคน มันอยู่ที่ข้อตกลงระหว่างเรากับแขก”จีจี้ได้สอนวิธีการพูดคุยเอาอกเอาใจลูกค้า การแสดงกิริยาท่าทางเพื่อเรียกให้แขกสนใจ และการดีลงานบนเตียง แต่ดูแล้วมันคง
@ บ้านวาณิชย์ศราหลังจากที่อคิณออกจากมหาวิทยาลัยก็เดินทางกลับเข้าบ้านทันทีเขาเปิดประตูเข้าไปในห้องนอนที่ถูกตกแต่งไปด้วยตุ๊กตาหมีสีชมพูวางเต็มหัวเตียง ภายในห้องมีกระดาษที่ถูกตัดเป็นรูปหัวใจแปะเต็มฝาผนัง บางส่วนก็ได้ถูกเขียนข้อความติดเอาไว้“ทำอะไรอยู่ครับคนเก่งของพี่”อคิณเอ่ยถามพลางยกมือขึ้นลูบศีรษะน้องสาวที่นั่งอยู่โต๊ะทำงานที่มีกระดาษและปากกากองอยู่อย่างอ่อนโยน แล้วหันไปมองนักจิตวิทยาและพยาบาลพิเศษที่จ้างมาเฝ้าติดตามอาการน้องสาวอย่างใกล้ชิดที่นั่งอยู่ตรงโซฟา ก็ส่งซิกให้พวกเธอออกจากห้องไปก่อน“นี่ค่ะ ลิสาทำหัวใจ สวยไหมคะ”อลิสา หญิงสาววัยยี่สิบห้าปีที่ตอนนี้เป็นผู้ป่วยจิตเวช เนื่องจากมีอาการซึมเศร้าและอาการเพ้อร่วมด้วย หันมาตอบพี่ชายด้วยรอยยิ้ม โชว์กระดาษโน้ตในมือที่เขียนชื่อคนที่เธอรัก และทำให้เธอกลายเป็นแบบนี้ให้พี่ชายดู“พี่สกายของหนู”อคิณกัดกรามแน่น ฝืนยิ้มให้น้องสาวที่จับกระดาษโน้ตแนบอก หลับตาพริ้มแล้วเอ่ยชื่อคนที่เขาเกลียดเข้าไส้ออกมาเขาเดินออกห่างจากน้องสาวที่กำลังตกอยู่ในอาการเพ้อ ก่อนจะปิดประตูห้องก็หันไปมองอลิสาและเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่นแต่แผ่วเบา เพื่อไม่ให้น้องสาวได้ย
@ มหาวิทยาลัยหลายวันต่อมา“นักศึกษาทุกคนคะ นี่คือคุณอคิณ เป็นเจ้าของบริษัทวีเอ็น ฟู้ด แอนด์ เบฟเวอเรจ จำกัด วันนี้คุณอคิณได้เข้ามาพบกับอาจารย์เพื่อมอบโควตาให้กับนักศึกษาฝึกงานจำนวนสิบคน ส่วนรายละเอียดเดี๋ยวให้ทางคุณอคิณเป็นคนชี้แจงนะคะ”เสียงของมณีวรรณ อาจารย์ประจำสาขาอาหารและโภชนาการ เอ่ยกับนักศึกษาชั้นปีที่สามที่ห้องประชุมเล็กของคณะคหกรรมศาสตร์วันนี้นักธุรกิจหนุ่มผู้เป็นเจ้าของบริษัทผลิตอาหารและเครื่องดื่มรายใหญ่ ส่งขายทั้งในไทยและต่างประเทศ ได้มีการเข้ามาพบปะกับอาจารย์ผู้สอนของคณะคหกรรมศาสตร์ สาขาวิชาอาหารและโภชนาการ เนื่องจากภาคฤดูร้อนที่จะถึงนี้ นักศึกษาชั้นปีที่สามจะได้มีการฝึกงานเป็นระยะเวลาสองเดือนและหลังจากอาจารย์พูดจบ อคิณก็ได้เอ่ยต่อ“สวัสดีครับน้อง ๆ นักศึกษา บริษัทของผมเป็นอุตสาหกรรมผลิตอาหารสำเร็จรูปทั้งคาวและหวาน และผลิตเครื่องดื่มหลากหลายชนิดซึ่งทุกคนน่าจะทราบกันดี และที่ผมมาในวันนี้ก็เพราะอยากจะมอบโอกาสดี ๆ ให้กับน้อง ๆ ได้เข้าไปฝึกงานที่บริษัท ไม่ต้องกังวลนะครับว่างานที่ฝึกจะไม่ตรงกับสายที่ได้เรียนมา เพราะว่าทางเรามีนักโภชนาการมืออาชีพคอยให้คำปรึกษา ทั้งในเรื่องกา
สกายอุ้มหญิงสาวตรงไปยังห้องน้ำ และวางเธอลงอย่างเบามือ ก่อนจะเอ่ยออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงพร่า“ถอดเสื้อผ้าให้ฉันสิ”ชะเอมยื่นมือออกไปดึงรั้งเสื้อยืดของเขาให้ถอดออกไปทางศีรษะ ริมฝีปากสวยยกยิ้มอย่างเคอะเขิน แม้จะมีอะไรกันนับครั้งไม่ถ้วน แต่ก็ยังเขินอายอยู่ทุกครั้งที่ได้แก้ผ้าต่อหน้ากันผิวกายขาวสะอาดปรากฏแก่สายตาหญิงสาว ชะเอมเลื่อนมือลงไปปลดเข็มขัดของเขาและจัดการถอดกางเกงต่อแก่นกายขนาดหกสิบสองผงาดเป็นลำแข็ง ชะเอมลอบกลืนน้ำลายเผลอมองต่ำทำเอาใจสั่นไหว ก่อนจะช้อนดวงตาคู่หวานเงยขึ้นมองใบหน้าหล่อร้าย และหลบสายตาคู่คมเบี่ยงใบหน้าไปทางอื่นสกายจับปลายคางของเธอให้หันมามองกัน โน้มใบหน้าเข้าไปกระซิบที่ข้างหู“จะถอดเอง หรือให้ฉันช่วย”“ฉันอยากให้คุณช่วย” ชะเอมเอ่ยความต้องการออกไปน้ำเสียงแผ่วเบาสกายยกยิ้มพึงพอใจ เลื่อนมือไปจัดการกับเสื้อผ้าของเธอ ก่อนจะอุ้มหญิงสาวเข้าไปในอ่างอาบน้ำ“อาบน้ำให้ฉัน ถูสบู่ทุกซอกทุกมุม โดยเฉพาะที่กำลังแข็งอยู่”เขาใช้ความอดทนอดกลั้นเป็นอย่างมาก น้องชายก็แข็งจนอยากแทงเข้าไปในกายสาว แต่ก็ดึงเวลาเพื่อที่จะได้อาบน้ำด้วยกันมือเล็กถูไปทั่วทั้งตัวของเขา โดยเฉพาะจุดที่ชายหนุ่มเน
@ โรงพยาบาล“ยายเป็นยังไงบ้างจ๊ะ”“ก็ตามสภาพนะลูก ไม่ได้ดีขึ้น แต่ก็ไม่ได้แย่ลง” ยายของเธอเอ่ยพลางเอามือลูบศีรษะหลานสาวอย่างทะนุถนอม“วันนี้หนูไปช่วยชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วมมาด้วยนะคะ ชาวบ้านดีใจกันใหญ่เลยที่มีคนเข้าไปช่วยเหลือ”“ดีแล้วล่ะชะเอม มีอะไรที่เราพอช่วยได้ ก็ช่วย ๆ กันไป คนตกทุกข์ได้ยาก เวลาเห็นคนใจบุญมาช่วยเหลือ ก็เหมือนได้เห็นแสงสว่างต่อลมหายใจให้พวกเขา”“จ้ะยาย”ยายของเธอพร่ำสอนเรื่องการมีน้ำใจต่อเพื่อนมนุษย์มาตั้งแต่เด็ก แม้ว่าสองยายหลานจะไม่ได้ร่ำรวยอะไร แต่พอเห็นคนลำบากก็จะช่วยตามกำลังที่มี“อยู่ที่นี่ก็ไม่มีอะไร แค่นอนเบื่อไปวัน ๆ พายายกลับไปนอนพักที่บ้านไม่ได้เหรอลูก”“ไม่ต้องกังวลเรื่องเงินนะจ๊ะยาย ยังไงอยู่ที่นี่ก็ใกล้หมอ หนูจะได้สบายใจ ถ้าวันไหนได้รับหัวใจใหม่ขึ้นมา ยายจะได้ผ่าตัดได้เลย กลับไปอยู่บ้านเราหนูก็ทำแต่งาน ไม่มีเวลาดูแลยายด้วยนะคะ”ชะเอมพยายามเกลี้ยกล่อมคนแก่ที่ชอบอยู่ติดบ้าน เธอเข้าใจผู้เป็นยายดีว่ามาอยู่ต่างที่มันรู้สึกเบื่อ แต่เธอก็เป็นห่วงอาการของยาย อยู่ในสถานที่ปลอดเชื้อและใกล้มือหมอ อย่างไรก็ลดอาการเจ็บป่วยที่อาจแทรกซ้อนขึ้นมาได้บ้างยายของเธอได้แต่ถ
@ ชุมชนแออัดชะเอมและคณะเดินทางด้วยรถประจำทางปรับอากาศสองชั้น ไปถึงชุมชนแออัดที่ได้เกิดอุทกภัยน้ำท่วมเนื่องจากฝนตกหนักติดต่อกันเป็นเวลาหลายวัน ตอนนี้ผู้คนในชุมชนกำลังได้รับความเดือดร้อน แต่ดีที่วันนี้ฝนหยุดตกแล้ว และยังมีหน่วยงานกู้ภัยและหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องเข้าไปให้ความช่วยเหลือชาวบ้านและมอบถุงยังชีพส่วนเหล่านักศึกษาคณะคหกรรมศาสตร์อย่างพวกเธอ ก็ทำได้แค่ช่วยหุงหาอาหารอยู่ที่ศาลากลางของหมู่บ้านซึ่งตั้งอยู่บนเนินสูง ทำให้ตัวอาคารไม่ได้ถูกน้ำท่วมไปด้วย รอเวลาใกล้เที่ยงจะได้ตักอาหารใส่กล่องเตรียมไว้ให้กับหน่วยกู้ภัยและบุคคลที่เข้าไปให้ความช่วยเหลือ และนักศึกษาส่วนหนึ่งก็จะพากันนั่งเรือเล็ก เพื่อนำอาหารเข้าไปแจกจ่ายให้แต่ละบ้านด้วยเช่นกัน“ฉันขอโทรหายายแป๊บนึงนะ”ชะเอมบอกกับน้ำหวานก่อนจะเดินหลีกออกมา ในมือก็กดเบอร์ชายหนุ่มที่เน้นย้ำตอนมาส่งว่าต้องโทรไปรายงานเขา“ฉันมาถึงแล้วนะคะ”“อื้ม แล้วจะกลับกี่โมง”สกายถามกลับ ริมฝีปากหยักกระตุกยิ้มที่ได้ยินเสียงอันคุ้นเคย“น่าจะไปถึงมหา’ลัยประมาณห้าโมงค่ะ แต่ว่าก่อนกลับฉันขอไปเยี่ยมยายได้ไหมคะ วันนี้มีนัดจ่ายค่ารักษาด้วยค่ะ”“อื้ม ไปสิ ไว้ฉั
@ สนามยิงปืน Sky Shooting Rangeหลังจากที่สกายกลับมาจากบริษัทจิลเวลลีของพี่ชายก็เอาแต่ขลุกตัวอยู่ในห้องทำงาน พร้อมกับอุปกรณ์สำหรับแกะจี้สร้อยเพชร“นี่มันสร้อยที่เพิ่งได้มานี่ครับ คุณสกายแกะมันทำไม”โฬมเห็นก็ชักสงสัย สร้อยก็ยังใหม่อยู่และสวยมากด้วย ทำไมเจ้านายของเขาถึงได้นำมาแกะเอาจี้เพชรออก แถมบนโต๊ะยังมีกล่องของเครื่องติดตามขนาดเล็กจิ๋ววางอยู่ด้วย“นี่มึงจะแอบใส่จีพีเอสไว้กับจี้เหรอวะ”เลย์ที่วันนี้มีเวลาว่างมานั่งเล่นเกมในห้องทำงานของสกาย พอได้ยินเสียงของโฬมก็ละสายตาจากมือถือแล้วถามขึ้นอีกคน“พวกมึงว่างกันนักหรือไงถึงได้มีเวลามาจับผิดกู ส่วนมึงไอ้โฬม เอาเวลาไปชงกาแฟให้กูดีกว่า”“ครับคุณสกาย”โฬมรับคำก็กระตุกยิ้มเดินออกจากห้อง ถ้าเขาเดาไม่ผิดสร้อยเส้นนี้น่าจะมอบให้กับชะเอม เจ้านายของเขาคงจะเป็นห่วงผู้หญิงคนนี้มาก แม้จะไม่ได้ตามเฝ้าด้วยตัวเอง แต่มันก็ทำให้รู้ว่าเธออยู่ที่ไหน*****@ คฤหาสน์สกายวันออกค่ายอาสา“จะรีบไปไหน กินข้าวด้วยกันก่อนสิ”สกายที่ตื่นนอนพร้อมกับหญิงสาวก็ขยับพิงแผ่นหลังกับหัวเตียง จ้องมองคนที่กำลังทำตัวเร่งรีบ“คงไม่ได้ค่ะ ฉันจะไปไม่ทันแล้ว”ชะเอมเกือบจะตื่นสายเพราะ
@ บริษัท Levi's Bule Diamondสามวันต่อมา สกายขับรถสปอร์ตคันหรูออกจากคฤหาสน์ส่วนตัว มุ่งหน้าไปยังบริษัทจิลเวลลีใจกลางกรุงเทพฯ พอดับเครื่องยนต์และก้าวเท้าลงจากรถ ก็เป็นที่จับตามองของสองสาวสวยที่ทำงานอยู่ตรงเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์“อุ้ย นั่นใครอะ หล่อเวอร์”“คนไหน”“ก็คนที่ใส่แจ็กเก็ตดำสวมแว่นตานั่นไง กรี๊ด… เดินเข้ามาแล้ว”“กรี๊ด… หุ่นแซ่บมาก ไปกินอะไรมาถึงได้ทั้งสูงทั้งยาว น่ากินอะ ฉันอยากได้แบบนี้”สองสาวทำท่าทางสะดีดสะดิ้งซุบซิบกัน ส่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่มองไปทางชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง หน้าตาหล่อเหลาออกไปทางยุโรป ที่กำลังเดินเข้ามายังล็อบบีของบริษัทและสาวคนหนึ่งก็ใจกล้าเดินออกมายืนดักหน้าชายหนุ่มและเอ่ยถามด้วยเสียงหวานหยดย้อย พร้อมกับส่งสายตาพราวเสน่ห์ไปให้“มาพบใครเหรอคะ”“พี่ลีวายส์”“เรียกท่านประธานซะสนิทเชียว ได้นัดไว้ไหมคะ สะดวกนั่งรอตรงด้านนั้นสักครู่ไหมคะ เดี๋ยวดิฉันขออนุญาตโทรขึ้นไปแจ้งก่อน” เธอเอ่ยพลางผายมือไปยังโซฟาสำหรับนั่งรอ“ไม่จำเป็น”สกายเอ่ยอย่างขอไปทีแล้วเดินหนีตรงไปยังลิฟต์ สงสัยจะเป็นพนักงานใหม่ถึงไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร และน้องชายเจ้าของบริษัทอย่างเขา ก็ไม่จำเป็นต้องโทร
พอเธอออกจากห้อง สกายก็ก้าวลงจากเตียงเพื่อไปอาบน้ำล้างหน้าแปรงฟัน แต่แผลที่แขนข้างขวาก็ทำให้หยิบจับอะไรได้ไม่ค่อยสะดวก“แม่งเอ๊ย รู้งี้ขอให้มาช่วยอาบน้ำให้ก็ดี”สกายรู้สึกหัวเสียกับอาการเจ็บ และจัดการตัวเองไปอย่างเงียบ ๆ แต่ก็รู้สึกว่าการมีคนดูแลมันดีกว่าส่วนชะเอมก็รีบกลับเข้าห้องไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ ดีที่ว่าวันนี้เป็นวันหยุดถึงได้มีเวลามาช่วยดูแลคนเจ็บ หลังจากทำข้าวต้มเสร็จก็นำขึ้นมาบนห้องพร้อมกับน้ำและยา“ทำไมมีแค่ชามเดียว”สกายเห็นถาดอาหารมีแค่ข้าวต้มหนึ่งชาม กระปุกยาสีขาว และน้ำขวดเล็กหนึ่งขวดพร้อมด้วยแก้วเปล่า คิ้วเข้มก็ขมวดเข้าหากันขณะเงยหน้ามองคนที่เดินเข้าห้อง“ของคุณไงคะ หนึ่งชาม หรือว่ากินไม่อิ่ม”“ฉันหมายถึงทำไมไม่มีของเธอ”“ก็ฉันไม่ได้ป่วยนี่คะ ลงไปกินข้างล่างเอาก็ได้ ทำไมต้องมานั่งกินบนห้องนอน”เธอไม่ได้ขี้เกียจสันหลังยาวถึงขนาดต้องเสิร์ฟข้าวเสิร์ฟน้ำให้ถึงเตียงเสียหน่อย“เออ ๆ ตามใจ งั้นก็ช่วยป้อนฉันด้วย” สกายขมวดคิ้วเอ่ยอย่างขอไปทีชะเอมถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะวางถาดอาหารลงบนโต๊ะข้างเตียง แล้วหยิบชามข้าวต้มมาคนไล่ความร้อน แล้วตักขึ้นมาเป่าด้วยลมที่ออกจากปากอีก
“นึกว่าจะเป็นห่วงฉันซะอีก” สกายเอ่ยเสียงแผ่ว เวลานี้เขาไม่มีแรงจะต่อว่าหรือโต้เถียงใด ๆ ทั้งนั้น“ก็…”ชะเอมถึงกับพูดไม่ออก มันจุกอยู่กลางอกอย่างบอกไม่ถูก ทั้งสองจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของกันและกัน ราวกับว่าเวลาได้หยุดเดินชั่วขณะลึก ๆ ในใจเกิดกระตุกวูบ ดูเหมือนว่าเธอจะรู้สึกเจ็บไปด้วยเมื่อเห็นว่าเขาได้รับบาดเจ็บ และยังรู้สึกเป็นห่วงเขามาก ก่อนที่หญิงสาวจะกระพริบตาถี่ ก้มใบหน้าที่ร้อนผ่าวสูดหายใจลึกเพื่อข่มกลั้นหยดน้ำตา มองไปที่แผลของเขาแทน จัดการใส่ยาและพันทับด้วยผ้าขาวสะอาด“เจ็บมากไหมคะ”“ลองมาโดนยิงดูสิ”ความเป็นห่วงก่อนหน้าดูเหมือนจะมลายหายไป ทำเอาชะเอมถึงกับลอบถอนหายใจ สงสัยจะไม่เป็นอะไรมาก เพราะสกิลหมาในปากของเขายังคงเหมือนเดิม เธอก็อุตส่าห์ถามด้วยความหวังดี ดันแช่งให้เธอไปลองโดนยิง ใครจะอยากเจ็บตัวกันล่ะเธอจัดการเก็บอุปกรณ์ทำแผลลงในกล่อง และนำสำลีที่เปื้อนเลือดไปทิ้งถังขยะ ก่อนจะกลับเข้ามาหาสกายที่นั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น“ขึ้นไปพักเถอะค่ะ เดี๋ยวฉันพาไป”เธอแทรกตัวเข้ามายืนอีกข้างที่ไม่ได้เป็นอะไร แล้วยกแขนของเขาขึ้นมาพาดคอ ก่อนจะประคองเดินขึ้นบันไดพาไปยังห้องนอนของสกาย“คืนนี้มาน