“อันดาคงไม่รู้สินะว่าแกเป็นเจ้าหนี้ของป้าเธอ”เขามองหน้าพ่อทันที ไม่แปลกใจที่พ่อรู้ แต่แปลกใจตรงที่ทำไมจู่ๆพ่อถึงพูดเรื่องนี้ขึ้นมามากกว่า เขาพอจะเดาออก คนเหมือนกันดูกันออกอยู่แล้ว…“เรื่องที่แกส่งคนไปบุกบ้าน สร้างสถานการณ์แล้วทำตัวเป็นพระเอกขี่ม้าขาวเข้าไปช่วย แท้จริงแล้วแกก็คือปีศาจที่บงการเรื่องทั้งหมด ถ้าอันดารู้ เธอยังจะรักแกอยู่ไหม”“พ่อจะใช้เรื่องนี้ขู่ผม?”“ไตร่ตรองดูดีๆ ก่อนจะเป็นศัตรูกับฉัน”“…”“ฉันเป็นพ่อแก ฉันรู้ทุกอย่างที่แกทำ คิดดีๆถ้าคิดจะเป็นศัตรูกับฉัน ส่วนอันดาฉันไม่แตะอยู่แล้ว” เขามีวิธีทำให้ผู้หญิงคนนั้นหายไปจากชีวิตรามิลโดยไม่ต้องลงมือให้เปลืองแรง อันดาเป็นคนดี แต่ไม่ใช่คนที่เหมาะสมกับรามิล บางอย่างเธอเหมือนน้ำฟ้า น่าเสียดายที่ไม่มีวาสนาได้เกี่ยวดองกัน คนที่เหมาะสมกับลูกชาย เขาได้เลือกเอาไว้แล้ว“คำเตือนจากฉัน ถ้าแกยังยืนยันที่จะมีอันดาอยู่ในชีวิต ฉันจะทำให้ผู้หญิงคนนั้นเดินออกไปจากชีวิตของแกเอง ตอนแรกฉันจะมาคุยกับแกเรื่องงาน เอาไว้วันหลังแล้วกัน ใกล้ถึงเวลาประชุมแล้ว”ราเชนทร์หมุนตัวเตรียมเดินออกไป แต่กลับต้องชะงักเพราะประโยคหนึ่งของลูกชาย“ภาพลักษณ์สำคัญกว่าล
“อันมานี่หน่อย”“คะพี่แซมมี่”“คืนนี้ไม่ต้องทำงานแล้วนะ”“ทะ…ทำไมล่ะคะ” เธอใจหายวาบเมื่อได้ยินพี่แซมมี่บอกแบบนั้น เผลอไปทำอะไรไม่ถูกใจลูกค้ามาหรือเปล่า ทำไมพี่แซมมี่ถึงพูดเหมือนจะไล่เธอออก“อย่าเพิ่งตกใจ พี่ไม่ได้จะไล่อันออก พี่หมายถึงแค่คืนนี้ไม่ต้องทำงาน เพราะมีลูกค้าวีไอพีคนนึงซื้อตัวอันเอาไว้ทั้งคืน และจะจ่ายเงินวันนี้ให้ด้วย”“ใครเหรอคะ?”“นู่นไง นั่งหล่อๆอยู่ทางโน่น”เธอมองตามมือของพี่แซมมี่ที่ชี้ไปทางโซนวีไอพี หยุดมองเขาคนนั้นที่มองเธออยู่เช่นเดียวกัน ก่อนจะหันกลับไปมองพี่แซมมี่อีกครั้ง“คุณรามิล?”“ใช่จ้ะ คืนนี้เขาซื้อตัวอันทั้งคืนเลย” แซมมี่พูดด้วยรอยยิ้ม“พี่อิจฉาเราจริงๆ ไม่รู้ชาตินี้จะเจอผู้ชายแบบคุณรามิลเหมือนอันไหม แอบไปมูมารึเปล่า มูวัดไหนแนะนำพี่ที”“มูเมออะไรกันคะพี่แซมมี่ อันไม่ได้ไปมูที่ไหน”“นึกว่าแอบไปมูเรื่องความรงความรักมา เพราะช่วงนี้เห็นคุณรามิลตามติดอันเป็นแจเลย”“แล้วปกติเขาไม่ตามติดผู้หญิงแบบนี้เหรอคะ?”“เท่าที่รู้จักคุณรามิลมา เขาไม่เคยตามผู้หญิงหนักขนาดนี้มาก่อนนะ”“มะ…ไม่เคยเลยเหรอคะ”“ช่าย สงสัยหลงเสน่ห์อันเข้าให้แล้วมั้ง ตอนอันกำลังทำงานอยู่ คุณรามิลก็
“อย่าโกรธสิ ทีกับคนอื่นตัวเองยังทำได้ พอโดนทำกลับบ้างไม่เห็นต้องโกรธเลย”ตอนนี้ลูกค้าในร้านต่างมองมาที่เธอและควีนอย่างให้ความสนใจ เธอไม่แคร์ เพราะควีนเป็นฝ่ายเข้ามาหาเรื่องเธอก่อน แล้วเรื่องอะไรเธอจะยอมโดนกระทำอยู่ฝ่ายเดียวด่ามาด่ากลับใช้ความรุนแรงมาก็ทำกลับแฟร์ๆไม่มีใครได้เปรียบหรือเสียเปรียบ การมาของควีนพอจะเดาได้ว่ามาเพราะเรื่องอะไร หนีไม่พ้นเรื่องของรามิลอย่างแน่นอน ตอนแรกก็มองว่าควีนเหมาะสมกับรามิล พอเห็นแบบนี้ก็เข้าใจแล้วว่าทำไมรามิลไม่อยากแต่งงานด้วย “ฉันไม่สาดกลับก็บุญเท่าไรแล้ว”“พอเถอะควีน คนมองใหญ่แล้ว” เพื่อนสนิทที่มาด้วยจับแขนควีนพร้อมกับเอ่ยบอก ตอนแรกที่มาร้านนี้คิดว่าควีนคงแวะซื้อเครื่องดื่มเหมือนทุกครั้ง แต่พอมาถึงก็ตรงเข้าไปหาเรื่องอันดาอย่างไม่รีรอ“ปล่อยให้มองไปสิ! ฉันยังคุยกับมันไม่จบ”“เธอจะคุยอะไรกับฉัน”“เลิกกับรามิลซะ”“เธอเป็นใคร มีสิทธิ์อะไรมาสั่งให้ฉันเลิกกับเขา”“ฉันเป็นคู่หมั้นเขา”“แปลกจัง เพราะตอนที่อยู่ด้วยกันเขาไม่เคยพูดถึงเธอเลย แถมยังไม่เคยพูดด้วยว่ามีคู่หมั้นแล้ว มโนไปเองรึเปล่าคะ?”“เธอกับฉันมันคนละชั้นกัน แน่นอนว่าคนอย่างเธอไม่มีวันได้เป็นสะใ
“คุณยิ้มอะไร”“เวลาเธอบ่นแล้วดูน่ารักดี”“อัยย์บอกว่าเวลาฉันบ่นแล้วดูน่ารำคาญ แต่คุณนี่แปลกที่บอกว่าฉันน่ารัก”“ก็น่ารักจริงๆ”เธอใจสั่นกับคำชมของรามิล“แปลกคน”“แปลกแค่เวลาอยู่กับเธอ”“ทำไมกับคนอื่นถึงไม่แปลกล่ะคะ”“คนเราจะเผยอีกด้านที่คนอื่นไม่เคยเห็นออกมาและเป็นตัวเอง ก็ต่อเมื่ออยู่กับความสบายใจ ความสบายใจของฉันคือเธอ”“…” เธอนิ่งเงียบ หากแต่หัวใจกำลังเต้นแรงไม่เป็นส่ำ รามิลกำลังทำให้เธอหวั่นไหว ตอนนี้ไม่รู้ว่าเขารู้สึกอะไรกับเธอ บางครั้งแอบคิดว่าเขามีใจ แต่ในบางครั้งก็คิดว่าหรือเธออาจจะคิดไปเองเดาใจเขาไม่ได้เหมือนกัน เพลย์บอยตัวพ่อแบบรามิลเก่งเรื่องทำให้ผู้หญิงหวั่นไหว เธอยอมรับว่าตัวเองกำลังตกอยู่ในสถานการณ์แบบนั้น ความคิดเมื่อก่อน ไม่มีทางหวั่นไหวกับผู้ชายคนนี้ สิ่งเดียวที่ทำให้เธอหวั่นไหวได้ คือ เงินส่วนความคิดตอนนี้…สวนทางกับเมื่อก่อนหวั่นไหว…ไม่สิ ต้องเรียกว่าเผลอรักไปแล้วหมดหัวใจ“ฉันมีความสุขที่ได้อยู่กับเธอ”“…” กรรมอึ้งประโยคเมื่อครู่ยิ่งกว่า“ความที่เธอไม่สนใจฉัน เฉยเมยทั้งที่ผู้หญิงที่เข้ามาในชีวิตฉันไม่มีใครเป็นแบบเธอ ฉันอยากเอาชนะเธอ แต่รู้ไหมว่าตอนนี้ฉันเหมือนคนแ
@ไนต์คิงส์“ทำไมวันนี้มึงดูอารมณ์ดีจังเลยวะ ไปโดนตัวไหนมา” เคียนติเอ่ยถามรามิลที่มีท่าทางอารมณ์ดี ซึ่งแตกต่างออกไปจากทุกวันโดยสิ้นเชิง “คนมันมีความสุข” รามิลพูดพร้อมกับเอนตัวพิงพนักโซฟา ยกแขนวางพาดขอบโซฟา มืออีกข้างยกแก้วน้ำสีเหลืองอำพันขึ้นจิบอย่างอารมณ์ดี“มีอะไรดีๆเกิดขึ้นเหรอวะ”“นิดหน่อย”คิระและเคียนติมองหน้ากันอัตโนมัติ“พวกกูสองคนพลาดอะไรไปรึเปล่า?” เป็นคิระที่เอ่ยถามรามิลเป็นแบบนี้ปกติ แต่วันนี้ดูมีความสุขเกินไปจนผิดสังเกต สร้างความอยากรู้ให้เพื่อนในกลุ่มไม่ใช่น้อย ทั้งคิระและเคียนติต่างจ้องมองไปยังรามิลที่นั่งยกแก้วเครื่องดื่มขึ้นจิบอย่างใจเย็นพวกเขาพลาดอะไรไปหรือเปล่า?ต้องมีอะไรบางอย่างที่รามิลยังไม่เล่าให้พวกเขาสองคนฟังอย่างแน่นอน“เดี๋ยวนี้มีความลับกับเพื่อนเหรอ” เคียนติพูด“กำลังจะบอก”“รอฟังอยู่”คิระและเคียนติรอฟังอย่างตั้งใจ“กูมีแฟนแล้ว”คำตอบของรามิลทำให้คิระและเคียนติหันหน้ามองกันโดยอัตโนมัติ ทั้งคู่ไม่ได้แสดงสีหน้าตกใจหรืออึ้ง แค่เกิดความแปลกใจมากกว่าที่ได้ยินว่ามีแฟนเสือผู้หญิงอย่างรามิลน่ะเหรอมีแฟนแล้ว?บอกว่าเจอเด็กใหม่ถูกใจยังเข้าท่ากว่าบอกเพื่อนว่ามีแฟนแ
@โรงพยาบาลภูริธนากุลณ ห้องพักส่วนตัวก๊อก ก๊อกคนที่กำลังใช้เวลาพักผ่อนในห้องพักส่วนตัวหันไปมองประตูที่มีเสียงดังเล็ดลอดเข้ามา ก่อนจะเดินไปส่องตาแมวดูว่าคือใคร พอเห็นเป็นอันดาจึงเปิดประตูให้“จะมาทำไมถึงไม่บอกก่อน”“เซอร์ไพรส์ไงคะ“เขายิ้ม ก่อนจะหลีกทางให้เธอเดินเข้ามา อันดาเดินเข้ามาข้างในห้องพักส่วนตัวของรามิลพร้อมกับอาหาร ตั้งใจซื้อมาให้ เพราะคิดว่ารามิลคงยังไม่ทานอะไร เขาไม่ค่อยชอบทานอาหารกลางวัน จึงแวะซื้ออาหารโปรดของเขามาให้“ฉันซื้อข้าวมาให้ด้วย ของโปรดคุณ”“ทำไมน่ารักขนาดนี้““แฟนใครคะ”“แฟนหมอ”เธอยิ้ม แอบใจกระตุกเบาๆกับประโยคเมื่อครู่ จัดการแกะอาหารใส่จานให้รามิล ระหว่างกำลังยืนจัดแจงแถวโต๊ะอาหาร รามิลเดินเข้ามาสวมกอดเธอจากข้างหลัง“คิดถึง” “คิก เจอกันทุกวันยังคิดถึงอีกเหรอคะ” เธอเอียงใบหน้าไปถามรามิลด้วยรอยยิ้ม“คืนนี้นอนกับฉันนะ”“ได้สิคะ หลังเลิกงานแล้วจะไปหาที่เพนท์เฮาส์”“เดี๋ยวรอเลิกงาน กลับพร้อมกัน”“จะไปนั่งเฝ้าฉันทำงาน?”“ใช่”“ไม่เบื่อเหรอคะ นั่งรอตั้งหลายชั่วโมงเลยนะ”“ไม่เบื่อ” เขาพูดพร้อมกระชับท่อนแขนที่กอดเอวบางของอันดา“ปล่อยก่อนไหมคะ ฉันทำตรงนี้ไม่ถนัด”“
‘ผู้ชายคนนั้นไม่ใช่คนดี’‘…’‘ความจริงแล้ว…เขาคือเจ้าหนี้ของป้า’เธออึ้งจนพูดอะไรไม่ออกกับสิ่งที่ได้ยินจากป้ากุล หูทั้งสองอื้อจนแทบไม่ได้ยินอะไร คาดไม่ถึงว่าสิ่งที่ได้ยินเมื่อครู่คือเรื่องจริงรามิล คือ เจ้าหนี้ของป้ากุลรามิล คือ คนที่ช่วยจ่ายหนี้ทั้งหมดคนเดียวกันแต่หน้าที่ต่างกัน ใช่เขาจริงๆเหรอ? เธอยังคงไม่เชื่อว่าเรื่องที่เกิดขึ้นคือเรื่องจริง“มะ…ไม่จริง”“ป้านึกไว้แล้วว่าอันต้องพูดคำนี้ แต่มันคือความจริงที่อันต้องรู้ ป้าจำเป็นต้องบอกอันเรื่องนี้ ป้าไม่อยากเห็นอันโดนเขาหลอก”“อันเชื่อป้าได้เหรอ? เพราะที่ผ่านมาป้าก็หลอกอันเหมือนกัน”“แล้วป้าได้อะไรจากเรื่องนี้? ป้าไม่ได้อะไรเลย แค่ไม่อยากให้อันโดนหลอก ป้ารู้ว่าอันรักเขามาก แต่ระวังความรักมันจะย้อนกลับมาทำร้ายตัวอันและคนรอบข้าง เหมือนที่ป้ากำลังโดนอยู่”“หมายความว่ายังไง”“สองวันก่อนป้าถูกคนของคุณรามิลตามล่า พวกมันจงใจฆ่าปิดปากป้า เพราะไม่อยากให้ป้าบอกอันดาเรื่องนี้ แต่ป้าหนีมาได้ เลยรีบมาหาอันเพื่อบอกเรื่องนี้ ป้าไม่อยากให้อันและครอบครัวเป็นอันตราย…ป้ารู้ตัวว่าอันไม่เชื่อสิ่งที่ป้าพูด แต่ไม่มีเหตุผลอะไรที่ป้าต้องโกหก อัน อัยย์ แ
อันดาอึ้งจนพูดอะไรไม่ออก ยืนมองรามิลเงียบๆด้วยความผิดหวังปนเสียใจ ไม่รู้จะพูดอะไร คำพูดทุกอย่างหายออกไปจากหัวหลังจากคนตรงหน้าสารภาพความจริงความเงียบกัดกินนานสองนาน ต่างคนต่างเงียบ รามิลเองก็ไม่รู้จะพูดอะไรต่อ ไม่มีคำแก้ตัวเพราะทุกอย่างคือเรื่องจริง แววตาเจ็บปวดของอันดาทำหัวใจแกร่งสั่นคลอน“ทำไมคะ” หลังจากเงียบอยู่นาน เธอตัดสินใจเป็นคนเริ่มพูดเพื่อทำลายความเงียบนี้“ทำไมต้องปิดบังเรื่องนี้”“ฉันขอโทษ…”“…”“ฉันผิดเองที่ไม่ยอมบอกความจริงกับเธอ” เขาไม่มีอะไรจะแก้ตัว ถึงแก้ตัวก็คงไม่มีอะไรดีขึ้น ก้มหน้าและยอมรับความจริงเสียดีกว่า“ตอนแรกฉันแค่อยากเอาชนะเธอ อะไรที่ทำให้ฉันสามารถเอาชนะเธอได้ฉันทำหมด แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แบบนั้นแล้ว”อันดากลอกกลิ้งดวงตาไปมาเพื่อไม่ให้น้ำตารินไหล อยากโกรธแต่ก็ไม่สามารถทำได้ เพราะตอนนั้นรามิลแค่อยากเอาชนะตัวเอง ตอนนี้เธอกำลังเสียความรู้สึกมากๆ พยายามจัดการความรู้สึกพวกนี้แล้ว ทว่าสุดท้ายก็จัดการไม่ได้ รามิลคว้ามืออันดามากุม แววตาคมเข้มอ่อนลงจนหญิงสาวต้องเบือนสายตาไปทางอื่น“ฉันขอโทษ ฉันไม่มีอะไรจะแก้ตัวกับเรื่องนี้ ที่ฉันยอมรับเพราะไม่อยากโกหกเธอไปมากกว่านี้ ฉั
หลายวันต่อมา ปึก! ปึก! ปึก! “อะ อ๊ะ~”รามิลเริ่มเคลื่อนไหวส่วนล่างไปมาอย่างด้วยจังหวะเนิบนาบ สายตาคมเข้มมองเรือนร่างขาวผุดผ่องของคนใต้ร่างด้วยความหลงใหล หน้าท้องแบนราบตอนนี้เริ่มนูนขึ้นมาเล็กน้อยเพราะมีอีกหนึ่งชีวิตกำลังลืมตาออกมาดูโลก“อึก! อ๊ะ อ๊ะ~” เธอเสียวสะท้านไปทั่วร่างกาย ในระหว่างที่รามิลกระแทกท่อนเอ็นแข็งขึงเข้ามาเขาโน้มตัวลงไปจูบอันดาอย่างอ่อนโยน เธอยกแขนมาคล้องคอเอาไว้หลวมๆ ขณะที่ท่อนเอ็นยังคงตอกอัดใส่โพรงถ้ำอย่างหนักหน่วง ภายในตอดรัดแท่งเอ็นจนรู้สึกเสียวสะท้านไปทั่วร่างกาย กลิ่นตัวอันดาหอมเย้ายวนจนเขาอดที่จะสูดดมเข้ามาในปอดไม่ได้“อืมม ตอดดีจังเลยนะ” เขาทำหน้าเหยเกด้วยความเสียวซ่าน สีหน้าทรมานของอันดาตอนนี้ยังกระตุ้นอารมณ์กระสันในกายให้เพิ่มมากขึ้นได้ไม่ยาก“อ๊ะ…อ๊า~” แท่งเอ็นของเขามันเคลื่อนเข้ามาลึกมากขึ้นเรื่อยๆ จนรู้สึกว่าส่วนหัวมันแทบจะชนผนังด้านในอยู่แล้ว “อ่า…”“อึก! มัน…มันแรงเกินไป เบาๆ หน่อยได้ไหม…” กระแสเสียวซ่านวิ่งปราดไปทั่วร่างกายจนนอนบิดเร่าร่างกายไปมาด้วยความทรมาน แรงกระแทกหนักหน่วงจากเขาทำให้เธอแทบหยุดหายใจเสียงเนื้อกระทบกันดังไปทั่วห้องนอน คนตัวเล็กค
ก๊อก ก๊อก“ใคร” “ผมเองครับ แม็ค”“เข้ามา”‘แม็ค’ คนของราเชนทร์เปิดประตูเข้ามา หลังจากได้รับอนุญาตจากเจ้านาย เดินมาหยุดอยู่หน้าเจ้านายหนุ่มที่กำลังนั่งยกขาไขว่ห้างสูบบุหรี่ รามิลอัดบุหรี่เข้าเต็มปอด ก่อนจะพ่นควันสีขาวเจือเทาออกมาอย่างใจเย็นการมาของแม็คทำให้เขารู้สึกดีใจ เพราะแม็คคือลูกน้องคนสนิทของพ่อ เขาขอให้พ่อช่วยตามหาคนที่ขับรถชนป้าของอันดา คนของพ่อทำงานเร็วมาก ใช้เวลาแค่สามวันก็สามารถรู้ตัวคนทำแล้ว“รู้ตัวคนทำแล้วครับคุณรามิล”“มันเป็นใคร”“จริงๆคนที่ขับรถชนถูกสั่งมาอีกทีครับ ผมสืบสาวจนรู้ว่าคนสั่งการคือคุณควีน”“ควีน?” เขาเลิกคิ้วขึ้นสูงพร้อมกับย้ำชื่อที่ได้ยินเมื่อครู่อีกครั้ง “ครับ คุณควีนคือคนอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้” เขาอึ้งและช็อกในเวลาเดียวกัน หลังจากรู้ว่าควีนคือคนอยู่เบื้องหลังอุบัติเหตุของกุล คาดไม่ถึงว่าจะเป็นควีน จิตใจทำด้วยอะไรถึงโหดเหี้ยมได้ขนาดนี้ จ้างคนให้ขับรถชนกุล ป้าแท้ๆของอันดาแบบนี้เรียกตั้งใจฆ่าให้ตายแล้ว“ผมรวบรวมหลักฐานทั้งหมดมาให้ ที่เหลือขึ้นอยู่กับคุณรามิลและคุณอันดา ว่าจะทำยังไงต่อไปครับ”ครอบครัวควีนมีอิทธิพลและมีหน้ามีตาทางสังคมพอสมควร พ่อของควีนค
หลายวันต่อมาพายุที่โหมกระหน่ำมานานกลายเป็นความสงบสุขในเวลาต่อมา รามิลให้สัญญาว่าจะดูแลอันดาและลูกน้อยเป็นอย่างดีใช่แล้ว…ตอนนี้ทั้งคู่กำลังได้รับบทบาทใหม่แสนท้าทาย นั่นคือการเป็นคุณพ่อและคุณแม่ป้ายแดง รามิลดีใจจนร้องไห้หลังจากรู้ว่ากำลังเลื่อนขั้นเป็น ‘คุณพ่อ’ในตอนแรกอันดานึกภาพไม่ออกถ้าเกิดตัวเองมีลูกขึ้นมาจริงๆ ทว่าหลังจากผลออกมาว่ากำลังตั้งครรภ์ ความรู้สึกแรกที่เกิดขึ้นคือ อึ้ง ต่อมาตื่นเต้นจนทำอะไรไม่ถูกเคยกังวลอะไรหลายอย่าง หลังจากกลับมาเชื่อใจรามิลอีกครั้งไม่มีอะไรให้กังวลอีกต่อไป รามิลเป็นคนเข้าไปสารภาพกับแม่อันดาเรื่องนี้ด้วยตัวเองอ้อมเข้าใจและไม่ถือโทษโกรธ ตรงกันข้ามดีใจด้วยซ้ำที่จะได้อุ้มหลานคนแรก ส่วนครอบครัวรามิลไม่มีปัญหาอะไร ดีใจและเตรียมของรับขวัญหลานไว้รอแล้วหลานคนแรกของตระกูลภูริธนากุล ว่าที่คุณปู่และคุณย่าเล่นใหญ่รัชดาลัยแน่นอนครืด ครืดเธอคว้าโทรศัพท์มาแล้วกดรับสายแม่ที่โทรมาหา“คะแม่”(อัน ป้ากุลโดนรถชน อาการสาหัสมาก ตอนนี้อยู่โรงพยาบาล)“อะ…อะไรนะ ป้ากุลโดนรถชน?” ใจเธอหล่นวูบเมื่อได้ยินแบบนั้น ถึงจะโกรธกับสิ่งที่ป้ากุลทำไว้ในอดีต แต่พอเกิดเรื่องนี้ขึ้นกับป้
“คุณกำลังทำอะไร”“ทำงาน”“ทำงานแล้วทำไมถึงมีไวน์ด้วย”“เพิ่งสั่งมาเมื่อกี้”“คุณไปดื่มไกลๆได้ไหม” เธอบอกเขาด้วยท่าทางหงุดหงิด ช่วงนี้เป็นอะไรไม่รู้ รู้สึกหงุดหงิดง่ายกว่าปกติ ไม่ว่ารามิลทำอะไรก็ไม่เคยถูกใจเลยสักอย่าง แถมช่วงนี้ยังรู้สึกคลื่นไส้บ่อยๆ กินเยอะผิดปกติ แถมยังอ่อนเพลียง่าย บางครั้งเธอก็เผลอนึกย้อนกลับไปในคำพูดของรามิลตอนนั้น‘แพ้ท้องเหรอ’ถึงรามิลเคยบอกว่าอยากมีลูกกับเธอ ทว่ามันก็แอบกังวลไม่ได้อยู่ดีถ้าเกิดว่าท้องขึ้นมาจริงๆ “ทำไม”“ฉันไม่ชอบ”คุณหมอหนุ่มมองไวน์ราคาแพง ก่อนจะดึงสายตากลับไปมองคนตัวเล็กอีกครั้ง“ไม่ชอบที่ฉันดื่มไวน์?”“ไม่ชอบทั้งที่คุณดื่มไวน์และกลิ่นของมัน”“กลิ่นก็ไม่ได้แย่นะ ออกจะหอม”“ก็ฉันไม่ชอบ มันเหม็น ถ้าคุณอยากดื่มก็ไปดื่มที่อื่น”เขามองอันดาสลับกับไวน์ที่วางอยู่ตรงหน้า แบบนี้เริ่มไม่ใช่ละ อาการของอันดานับวันยิ่งเหมือนคนแพ้ท้อง เขาเป็นหมอทำไมจะดูไม่ออก ถึงไม่ได้จับตรวจโดยตรง แต่อาการของอันดามันฟ้องทุกอย่าง“พรุ่งนี้กลับกรุงเทพกัน”“ฉันยังไม่อยากกลับ”เขาดึงตัวเองขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินเข้าไปหาอันดา“เธอรู้ไหมว่าอาการของเธอนับวันยิ่งชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ
เช้าวันต่อมา“อื้อ~” หญิงสาวนอนส่งเสียงดังในลำคอออกมาเบาๆ พร้อมกับพลิกตัวเข้าหาไออุ่นจากคนข้างกาย ใบหน้าสวยหวานซุกลงแผงอกอุ่นคุ้ยเคย ก่อนจะเริ่มลืมตาขึ้นอย่างยากลำบาก และเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของอ้อมกอดอบอุ่นนี้รามิลนอนกอดเธอทั้งคืน…เมื่อคืนหลังไปตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้ หลังจากอาบน้ำเสร็จออกมานอนเล่นโทรศัพท์อยู่โซฟา รู้สึกง่วงเลยงีบไปสักพัก ทว่าไม่คิดว่าตัวเองจะหลับจริง ตื่นขึ้นมาอีกทีช่วงเที่ยงคืนเพราะหิวน้ำ ตอนนั้นรามิลกำลังนั่งทำงานอยู่มุมหนึ่งของห้อง กลับมานอนต่อก็หลับไปเลยทันที ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองเหนื่อยมาจากไหน เธอหลับตาแล้วนอนต่อในอ้อมกอดของรามิล ชอบเวลาได้นอนในอ้อมกอดอุ่นๆนี้•••คุณหมอหนุ่มตื่นจากการนอนหลับในช่วงเก้าโมงเช้า อ้อมกอดที่ว่างเปล่าทำให้รามิลลืมตาพรึ่บทันที ดีดตัวเองขึ้นมานั่งแล้วมองหาอันดา เธอไม่ได้นอนอยู่ตรงนี้แล้ว…เขาดึงผ้าห่มออกแล้วก้าวลงจากเตียง“ไปไหนอีกวะ!” เขาพูดคนเดียวอย่างกระวนกระวาย กำลังก้าวขาเดินออกไปก็ต้องชะงัก เมื่อได้ยินเสียงดังอ้วกอ้ากออกมาจากห้องน้ำเขาเปิดประตูห้องน้ำเข้าไป เห็นอันดากำลังลุกขึ้นจากชักโครก ก่อนจะกดชักโครกแล้วหันมามองเขา เธอเดิน
เธอยืนกอดอกมองออกไปนอกทะเลตรงหน้าด้วยความคิดมากมาย ปล่อยสายลมเย็นพัดผ่าน พากลิ่นอายของน้ำทะเลลอยมาเตะจมูก เสียงเกลียวคลื่นดังระงมไปทั่วชายหาด มองคลื่นทะเลที่ซัดเข้ามาชายฝั่งแล้วไหลย้อนกลับ เฉกเช่นเดียวกับความรู้สึกของเธอตอนนี้ ครั้นจะเดินออกไปก็ไม่กล้าพอ ทำได้แค่วนเวียนอยู่แบบนี้เพราะไม่สามารถไปไหนไม่ได้เธอมาที่นี่เพราะตั้งใจหนีหน้ารามิล อยากอยู่คนเดียวเพื่อทบทวนตัวเองอีกครั้งมาได้แค่ตัว ส่วนหัวใจยังอยู่กับเขา…เธอหมุนตัวเตรียมเดินกลับเข้าไปข้างในวิลล่าของครอบครัวคิระ หากแต่ต้องหยุดชะงักเมื่อสายตาพลันเห็นใครบางคนที่ยืนมองมาทางนี้รามิล…เขามาได้ยังไง?“เจอตัวแล้ว”เธอตกใจจนทำอะไรไม่ถูกที่เห็นรามิล สองเท้าถอยกรูดออกห่างเมื่อเขาเดินเข้ามาหา ก่อนจะรีบก้าวเดินออกไปอย่างรวดเร็ว หากแต่ว่า…หมับรามิลคว้าแขนเธอแล้วดึงเข้าไปหา ร่างกายแนบชิดกันจนได้กลิ่นน้ำหอมประจำตัวของเขา“หนีมาทำไม”“ฉันอยากอยู่คนเดียว”“ให้จีบแล้วหนีมาดื้อๆแบบนี้ แถวบ้านเรียกขี้โกง”“ขี้โกงตรงไหน ฉันแค่อยากอยู่คนเดียว”“แต่ฉันอยากอยู่กับเธอ” เขาพูดพร้อมกับกระชับกอดอันดาให้แน่นขึ้น“คุณมาที่นี่ได้ยังไง”“เมียหายทั้งคนก็ต
“ยัยอันบอกว่าพี่หมอรามิลจะจีบ”“มันบอกพี่เหมือนกันว่าจะจีบอันดา”คิระมองภรรยาสาวที่ทำสีหน้าเป็นกังวล “เป็นห่วงอันดาเหรอ”“ใช่ค่ะ กลัวเพื่อนพี่คิระหลอกยัยอันอีก ไม่อยากเห็นเพื่อนตัวเองต้องมานั่งร้องไห้เสียใจเหมือนที่ผ่านมา”“รามิลไม่เคยจีบผู้หญิงมาก่อน การที่มันบอกว่าจะจีบอันดา พี่ว่ามันพูดจริง” เป็นเพื่อนกับรามิลมานาน รู้ไส้รู้พุงกันหมดทุกอย่างแล้ว คนที่ไม่เคยจีบผู้หญิงมาก่อนแบบรามิลไม่มีทางพูดลอยๆ เพราะมันไม่ทำอะไรที่ฝืนใจตัวเอง ถ้าบอกว่าจีบก็คือจีบ“ถ้าเพื่อนพี่คิระรักยัยอันดาจริงๆก็ดีไป กลัวแต่จะหลอกนี่สิ” ทำเพื่อนสนิทตัวเองเจ็บครั้งเดียว ไม่กล้าเชื่อคนแบบรามิลอีกเลย รักอันดาจริงก็ดี ไม่อยากให้หลอกเพื่อนสนิทตัวเองเหมือนอย่างที่ผ่านมาคิระยิ้ม“รอดู พี่ว่าครั้งนี้มันเอาจริง”“ขอให้เป็นอย่างที่พี่คิระพูด เทียร์ไปหาลูกก่อนนะ”มาเฟียหนุ่มพยักหน้าให้ภรรยาสาว นึกภาพไม่ออกเลยว่าคนที่ไม่เคยจีบผู้หญิงมาก่อนแบบรามิล จะจีบอันดายังไงให้ติดอีกครัง•••“อันดาเพิ่งลาออกไปเมื่อวานเองค่ะคุณหมอ”“ลาออก?”“ใช่ค่ะ” “ขอบคุณครับ”“ทะเลาะกันเหรอคะ?”“นิดหน่อยครับ” “สู้ๆนะคะ โบนัสเป็นกำลังใจให้” โบนัส
“สิ่งที่คุณทำกับฉัน มันทำให้ฉันไม่อยากเชื่อคำพูดของคุณอีก คาร์เทียร์เตือนฉันเรื่องคุณหลายครั้ง แต่ฉันยังพยายามที่จะรักคุณ ถ้าวันนั้นฉันทำตามที่คาร์เทียร์บอก วันนี้ฉันก็คงไม่ต้องเสียใจ” “ฉันผิดไปแล้ว…” “ฉันไม่อยากเชื่อคุณ ไม่อยากกลับไปรักคุณอีก อยากหนีคุณไปไกลๆ แต่ทำไมฉัน…ฉันถึงทำไม่ได้”รามิลดึงตัวขึ้นจากตักอันดา ดวงตาแดงก่ำมองใบหน้าสวยหวานซึ่งเต็มไปด้วยคราบน้ำตาพร้อมกับหัวใจแกร่งที่สั่นไหวเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาให้ เขาไม่ชอบเวลาอันดาร้องไห้ แต่มันก็มาจากตัวเองทั้งหมด ที่อันดาร้องไห้ก็เพราะเขาผิดเองที่เข้าไปหลอกให้อันดารัก ถ้าได้โอกาสอีกครั้งจะทะนุถนอมความรู้สึกเธอไว้เป็นอย่างดี“ทำไมถึงทำไม่ได้”“ฮึก…” เธอเบือนหน้าไปทางอื่นแทนการมองหน้าเขา เหตุผลเพราะอะไรนะเหรอ? เพราะเธอยังรักและขาดเขาไม่ได้“เพราะเธอยังรักฉันอยู่ใช่ไหม”“ใช่ มันน่าตลกใช่ไหมที่ฉันยังรักผู้ชายที่หลอกให้ฉันรักอย่างคุณอยู่ ฉันควรถอยออกมาไม่ใช่…ไม่ใช่ยังรักคุณอยู่”แค่รู้ว่าอันดายังรักเขาอยู่ ก็รู้สึกมีความหวังขึ้นมาแล้ว…“คุณออกไปจากชีวิตฉันได้ไหม คุณเป็นคนเดินออกไปเองได้ไหม” เพราะเธอไม่สามารถเดินออกมาจากชีวิตของรามิล
“เหอะ! รักเหรอ? พูดออกมาได้ยังไงว่ารัก ไม่อายบ้างเหรอคะ เมื่อนึกย้อนกลับไปมองการกระทำของตัวเองในอดีต”“ฉันรู้ว่าทำไม่ดีกับเธอไว้เยอะ แต่ครั้งนี้จริงจัง ไม่ได้เข้ามาหลอกเธอด้วย ฉันรักเธอจริงๆนะอันดา”เธอเบือนหน้าหนีไปทางอื่น“เธอยังไม่ต้องเชื่อฉันตอนนี้ก็ได้ แต่จะทำให้เห็นว่าฉันรักเธอจริงๆ”เธอคิดว่าวันนั้นที่รามิลมาหาถึงหน้าบ้านจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เจอกัน ทว่ามันกลับไม่ใช่ เริ่มสับสนกับสิ่งที่เขาทำอยู่ตอนนี้ว่าจริงหรือหลอก ไม่กล้าเชื่อเพราะที่ผ่านมาเขาโกหกเธอมาโดยตลอดถึงจะบอกกับตัวเองว่าไม่เชื่อ แต่หัวใจกลับอ่อนไหวทุกครั้งที่เห็นหน้าเขารามิลจับเรียวคางของอันดาให้หันกลับมาหา ก่อนจะโน้มใบหน้าลงไปใกล้คนใต้ร่าง อันดาพยายามเบือนใบหน้าหนีแต่กลับทำไม่สำเร็จ ริมฝีปากทั้งคู่บรรจบกัน แรงบดคลึงจากคนตัวโตทำหัวใจดวงน้อยสั่นไหว ริมฝีปากหยักได้รูปขบเม้มปากล่าง เริ่มสอดแทรกลิ้นสากเข้าไปในโพรงปากนุ่มเพื่อหยอกล้อกับลิ้นเล็ก มือเรียวที่พยายามดันไหล่แกร่งออกอ่อนแรงลง เช่นเดียวกับร่างกายที่เริ่มอ่อนระทวยราวกับขี้ผึ้งโดนไฟลนจูบแสนดูดดื่มถูกถอนออกอย่างอ้อยอิ่งในเวลาต่อมา“ฉันเกลียดคุณ”“ปากบอกว่าเกลียด