พวกเขาคือเพชฌฆาตที่พรากชีวิตของลูกเธอเธอจะมีความรู้สึกกับศัตรูที่ฆ่าลูกของเธอได้อย่างไร!“เย่าจิ่งไม่อยากหย่า แล้วเธอคิดว่าจะทำอย่างไรต่อ? เรื่องลูกในท้องปกปิดได้แค่พักเดียวนะ พอแก่เดือนท้องใหญ่ขึ้น ก็ปกปิดต่อไปไม่ได้แล้ว” เสิ่นจือเชียนพูดเพื่อเตือนสติซ่งอวิ้นอวิ้นมีวิธีที่คิดไว้ในใจแล้ว แต่แค่ไม่ได้บอกเสิ่นจือเชียน เพราะว่าเสิ่นจือเชียนและเจียงเย่าจิ่งสนิทกันเกินไปถ้าเสิ่นจือเชียนรู้ ในไม่ช้าเจียงเย่าจิ่งก็จะรู้เธอแสร้งทำเป็นไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อไป “ฉันเองก็ไม่รู้ ค่อย ๆ เดินไปทีละขั้น คิดทีละขั้นแล้วกัน”เสิ่นจือเชียน “ไม่ได้สิ ถ้าเธอแอบเขาหนีไป หนีไปแบบที่เจียงเย่าจิ่งหาเธอไม่เจอ พอนานวันเข้า เขาก็จะลืมเธอได้เอง”ซ่งอวิ้นอวิ้นเหลือบมองเขาเพียงครู่ สีหน้าอึมครึม “พี่คิดว่า ถ้าเจียงเย่าจิ่งอยากหา เขาจะหาไม่เจอเหรอ?”“ก็ใช่แฮะ” เสิ่นจือเชียนรู้วิธีของเจียงเย่าจิ่งดี “พี่ ฉันง่วงแล้ว ฉันอยากพักผ่อน” ซ่งอวิ้นอวิ้นพูดเสิ่นจือเชียนเตรียมที่จะเดินออกไป “โอเค มีเรื่องอะไรก็โทรหาฉันนะ”ซ่งอวิ้นอวิ้นขานรับ เสิ่นจือเชียนเปิดประตูห้อง“พี่” ทันใดนั้นซ่งอวิ้นอวิ้นก็เรียกเข
เจียงเย่าจิ่งหันกลับมา เหลือบมองเฉินเวินเหยียนเพียงครู่หนึ่ง พูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นว่า “ไปเอาตัวมา”ในตอนนี้เฉินเวินเหยียนทั้งรู้สึกสับสน และตื่นตระหนก “คุณหมอ คุณหมออะไรเหรอคะ?”เจียงเย่าจิ่งนั่งบนโซฟาที่อยู่ในห้องพักฟื้น ไขว่ห้างอย่าสง่างาม “คุณไม่ได้บอกว่าแท้งหรอกเหรอ? หมอที่ทำการผ่าตัดให้เธอหนีไปโดยไม่มีเหตุผล? ผมก็เลยจับเขากลับมา”เฉินเวินเหยียนเกือบทรุดลงกับพื้นด้วยความตกใจ หลังจากที่เกิดอุบัติเหตุ เธอคือคนแรกที่ได้สติ เธอเสียเงินไปตั้งมาก เพื่อติดสินบนหมอ ขอให้หมอบอกเลขาของเจียงเย่าจิ่งว่า เธอแท้งหลังจากนั้นให้คุณหมอหอบเงินหนีไปตอนนี้ถูกจับกลับมาแล้วอย่างนั้นเหรอ?“เย่าจิงฟังฉันก่อน…”“รอเดี๋ยว เดี๋ยวคุณก็ได้พูด ไม่ต้องรีบ” ทันใดนั้นเขาก็โน้มตัวลงมา ถาโถมความกดดันทั้งหลายใส่เธอเฉินเวินเหยียนเข่าอ่อน ทรุดลงไปกองกับพื้น เธอตัวสั่นเทา พยายามคลานไปข้างหน้าอย่างช้า ๆ เพื่อจับขากางเกงของเจียงเย่าจิ่งอย่างระมัดระวัง “ฉันขอเถอะ อย่าไปฟังเรื่องไร้สาระจากปากคนอื่นเลยนะคะ ฉันไม่ได้โกหกคุณนะ…”เจียงเย่าจิ่งหรี่ตาลง ผู้หญิงที่กองอยู่ตรงพื้นคนนี้ มีอะไรที่จะทำให้คนอื่นมาชอบ?
เรื่องมันมาถึงขนาดนี้แล้ว ยังจะเล่นลิ้นได้อยู่อีกเจียงเย่าจิ่งยกยิ้มเย็นชา ผู้หญิงคนนี้พาลไม่ยอมฟังเหตุผล ถ้าไม่ใช่เพราะเห็นแก่คืนนั้นที่เธอช่วยเขาไว้ เขาคงจะทำให้เธอทรมานยิ่งกว่าตายไปแล้ว!กล้าดีอย่างไร เอาเรื่องแบบนี้มาหลอกลวงกัน!“เฉินเวินเหยียน ครั้งนี้ฉันจะยกโทษให้ แต่ฉันจะไม่มาเจอเธออีก ความอดทนของฉันที่มีต่อเธอ มีแค่ครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้น ถ้าหากยังทำอีก ฉันไม่ยกโทษให้เธอแน่!” เจียงเย่าจิ่งลุกขึ้น บอกเลขาว่า “ปล่อยเธอไป”“ค่ะ” เลขาสั่งให้ปล่อยตัวเธอ“เย่าจิ่ง…” เฉินเวินเหยียนพยุงตัวขึ้นมา ร้องไห้ขอร้อง น้ำตานองหน้า “ฉันไม่ได้ตั้งใจ…”“ถ้าเธอยังเซ้าซี้ฉันไม่เลิก ฉันจะทำให้เธออยู่เมืองนี้ไม่ได้อีกต่อไป!” น้ำเสียงไม่สูงไม่ต่ำ แต่กลับทำให้น่าตกใจอย่างยิ่งเฉินเวินเหยียนปล่อยมือ เธอนั่งอยู่ที่พื้นด้วยใบหน้าซีดเผือดเดิมทีเธอวางแผนที่จะแกล้งท้องเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย ใครจะรู้ว่า ทุกอย่างมันจะพังไม่เป็นท่า!อย่าว่าแต่บรรลุเป้าหมายเลย ตอนนี้เจียงเย่าจิ่งเกลียดเธอไปแล้วทั้งใจ มีแต่ความรังเกียจที่มอบให้เธอสถานการณ์ของเธอตอนนี้ ไม่ถือว่ากำไรที่ได้กลับไม่คุ้มเสีย แต่ถือว
ไฟหัวเตียงส่องแสงสว่างภายในห้องพักฟื้น แสงสว่างไม่มาก มองเห็นได้สลัว ๆ เมื่อเจียงเย่าจิ่งแน่ใจว่าซ่งอวิ้นอวิ้นหลับแล้ว ถึงได้ปิดประตูเขาก้มหน้าลงมาดูเหมือนว่าไม่กี่วันมานี้ซ่งอวิ้นอวิ้นจะฟื้นคืนความมีชีวิตชีวาขึ้นมาบ้าง ใบหน้าและแก้มเนียนละเอียดเปล่งปลั่งดั่งหยกสวย ริมฝีปากสีชมพูน่าหลงใหล ผมดำเงาที่วางตัวไม่เป็นที่เป็นทาง คิ้วเรียวสวย เพิ่มความมีเสน่ห์อยู่ไม่น้อย เจียงเย่าจิ่งอดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปแตะแก้มของเธอเมื่อปลายนิ้วสัมผัสที่ใบหน้าของเธอ รู้สึกได้ถึงความนุ่มละเอียดเขาขมวดคิ้วอาจจะคันยุบยิบ ซ่งอวิ้นอวิ้นจึงส่ายหน้าไปมา เจียงเย่าจิ่งรีบเก็บมือทันที “อื้อ…”ซ่งอวิ้นอวิ้นพลิกตัว นอนหันหลังให้เขาแล้วหลับต่อเมื่อเธอพลิกตัวผ้าห่มจึงปลิ้น เจียงเย่าจิ่งจึงห่มผ้าให้เธอดี ๆ หลังจากนั้นจึงนอนลงบนที่ว่างบนเตียงที่ไม่ได้กว้างมากนัก เขานอนตะแคงหันหน้าเข้าหาเธอ ซุกหน้าไปที่หลังคอของเธอ นอนโดยมีเธออยู่ในอ้อมอกค่ำคืนที่มืดสนิท ภายในห้องพักฟื้นอบอุ่นไม่น้อย ตอนเช้าซ่งอวิ้นอวิ้นตื่นขึ้นมา ไม่รู้ว่าเจียงเย่าจิ่งออกไปตั้งแต่ตอนไหนเธอไม่รู้เลยว่าเมื่อคืนมีใครมาหาเธอ
แต่ไม่เคยเข้าใจความคิดของเขาเลย ว่าสิ่งที่เขาต้องการคืออะไรเขาอยากประสบความสำเร็จ จะเหมือนกับที่ตัวเองอยากจะเป็นหมอทหารไหมนะเป็นส่วนหนึ่งในความฝันของพวกเขาด้วยหรือเปล่า?“ฉันอยากจะทำให้ตระกูลซ่งของเราเจริญรุ่งเรือง ฉันคิดว่าลูกสาวของฉันก็เป็นทายาทตระกูลร่ำรวยได้เช่นกัน” ซ่งลี่เฉิงรู้ว่าซ่งอวิ้นอวิ้นค่อนข้างใจอ่อน จึงให้กำลังใจเธอเม้มปาก “พ่อสละลูกไปได้เพื่อความฝันของพ่ออย่างนั้นเหรอ?”ซ่งลี่เฉิงพูดเตือนอย่างหวังดี “จะเรียกว่าสละลูกได้ยังไงกัน? เจียงเย่าจิ่งน่าเกลียดเหรอ? จนหรือเปล่า? ข้างนอกนั่นมีสาว ๆ ตั้งเท่าไหร่ที่อยากจะแต่งงานกับเขาแต่ไม่มีโอกาส ไม่มีหนทาง พวกเรามีโอกาสนี้ ทำไมถึงไม่คว้าไว้ล่ะ? ถึงแกจะไม่แต่งงานกับเจียงเย่าจิ่ง แล้วแกจะไปหาแบบไหนล่ะ? หาคนที่ดีกว่าเขาได้เหรอ?”ซ่งอวิ้นอวิ้นหมดคำพูดเงื่อนไขของเจียงเย่าจิ่งดีแค่ไหน ในจุดนี้เธอรู้ดีเรื่องที่มีหญิงสาวมากมายแห่กันแย่งชิงนั้น เธอก็เคยได้ยินอยู่แต่พอได้อยู่ด้วยกันแล้วถึงได้รู้ว่า นิสัยของเขามันเน่าเฟะแค่ไหนไม่เหมาะที่จะใช้ชีวิตด้วยเลยเขามีรูปลักษณ์ที่ดูดีปกติแล้วกับผู้ชายประเภทนี้แล้ว คงทำได้เพียงแค่มอ
ถ้าไม่ใช่เป็นห่วงว่าบนตัวเธอมีบาดแผล ไม่แน่เจียงเย่าจิ่งอาจจะบีบคอเธอตายแล้วแต่งงานกับเขา มันทำให้เธอต้องอึดอัดคับข้องใจขนาดนี้เลยเหรอ?ซ่งอวิ้นอวิ้นแสร้งทำเป็นไม่ได้ยินแต่ขนตาที่ขยับอยู่นั้น แสดงให้เห็นอยู่ตลอดว่าเธอไม่ได้หลับเจียงเย่าจิ่งหลับตา พยายามกดความโกรธเอาไว้เขาผ่อนคลายความโกรธที่มีในใจ นั่งลงข้างเตียง ยื่นมือไปลูบใบหน้าของเธอ ซ่งอวิ้นอวิ้นไม่อยู่นิ่ง แล้วเอียงหัวหนีเจียงเย่าจิ่งยิ้ม “ไม่แกล้งทำแล้วเหรอ?”“ฉันแกล้งอะไร? ฉันแค่เพิ่งตื่นต่างหาก” เธอจงใจทำบิดขี้เกียจ แล้วพูดเอื่อย ๆ “คุณมาทำอะไร?”“เธอเป็นภรรยาของฉัน ฉันก็ต้องมาเยี่ยมเธอสิ” ใบหน้าของเขายังคงมีรอยยิ้มอยู่“ช่วงนี้ป้าหวู่ดูแลเธอดีไหม?”ซ่งอวิ้นอวิ้นพยักหน้าป้าหวู่ดีมากจริง ๆ ดูแลเธอเป็นอย่างดีเลยที่เธอฟื้นฟูกลับมาได้เร็วขนาดนี้ ก็ต้องยกความดีให้ป้าหวู่“เมื่อไหร่จะออกจากโรงพยาบาลได้?” เขาถามซ่งอวิ้นอวิ้นยอมอยู่ที่โรงพยาบาลเสียดีกว่า เธอไม่อยากกลับไปอยู่ใต้ชายคาเดียวกับเขาที่คฤหาสน์ “ยังอีกนาน”เจียงเย่าจิ่งมองออก “ซ่งอวิ้นอวิ้น เธอคิดว่าเธอหลบได้เหรอ?”เธอแกล้งทำเป็นไม่เข้าใจ “ฉันไม่รู้ว่าค
เธอรู้ว่าเฉินเวินเหยียนสนใจเจียงเย่าจิ่งเวลานี้จึงจงใจใช้เจียงเย่าจิ่งมาทำให้เธอโกรธเป็นดังที่คาด พอได้ยินคำพูดของเธอ ความโกรธที่เฉินเวินเหยียนเก็บกดเอาไว้ก็ระเบิดออกมาทันที แล้วพุ่งเข้ามาบีบคอของเธอ “เธอแย่งตำแหน่งของฉันไป ตายซะเถอะ ถ้าเธอตาย เจียงเย่าจิ่งก็จะสนใจฉัน”ซ่งอวิ้นอวิ้นแค่อยากจะยั่วโมโหเธอ ไม่ได้คิดว่าจะลงไม้ลงมือกัน อีกอย่างร่างกายเธอก็ไม่เอื้ออำนวยด้วย“เฉินเวินเหยียน เธอคิดว่าถ้าเจียงเย่าจิ่งเห็นเธอเป็นบ้าแบบนี้ เขาจะชอบเหรอ? ผู้ชายเขาก็ชอบผู้หญิงที่อ่อนโยนกันทั้งนั้น ไม่มีผู้ชายที่ชอบผู้หญิงปากร้ายหรอก”คำพูดของเธอได้ผล เฉินเวินเหยียนเป็นห่วงภาพลักษณ์ของตัวเองในสายตาของเจียงเย่าจิ่ง“คุณผู้หญิง...”ป้าหวู่เอาอาหารเข้ามาให้ เห็นเฉินเวินเหยียนกำลังทำร้ายซ่งอวิ้นอวิ้นอยู่ ก็รีบวางถาดอาหารแล้วเข้าไปจับแยก พร้อมทั้งตำหนิ “คุณรู้ไหมว่าเธอเป็นใครถึงกล้าทำกับเธอแบบนี้? ฉันจะไปบอกคุณผู้ชาย คุณจะได้รับผลของการกระทำของคุณ!”เฉินเวินเหยียนมองป้าหวู่ที่ปกป้องเจ้านาย แล้วสีหน้าก็เปลี่ยนไป ถ้าไม่ใช่เพราะซ่งอวิ้นอวิ้น เธอก็จะเป็นคุณผู้หญิงที่คนใช้คนนี้เรียก!ทุกสิ่งทุกอย่าง
ซ่งอวิ้นอวิ้นจ้องเขา รู้สึกได้ว่าเขาไม่ได้มีเจตนาดีเป็นดังที่คาดไว้ เจียงเย่าจิ่งหัวเราะเบา ๆ แล้วพูด “เห็นเธอพ่ายแพ้แล้วฉันมีความสุขจัง”ซ่งอวิ้นอวิ้น “...”เธอพูดประชดอย่างไม่รีบร้อน “งานอดิเรกของคุณนี่พิเศษจริง ๆ เลยนะ ถ้าไม่รู้คงคิดว่าสมองคุณมีปัญหา”เธอพูดขณะเดินไปนั่งบนเตียงร่างกายดีขึ้นมากแล้ว วันนี้ได้ออกกำลังกาย เวลานี้เธอก็เหนื่อยแล้ว พอดูเวลา นี่มันเกือบจะสามทุ่มแล้ว จึงบอก “คุณยังไม่กลับอีกเหรอ?”เธอยิ่งอยากไล่ให้ไป เจียงเย่าจิ่งก็ยิ่งไม่ยอมกลับ“เธออยู่ที่นี่ แล้วฉันจะไปไหนได้ล่ะ?” เขาเอนหลังพิงตามแต่ใจตัวเองซ่งอวิ้นอวิ้นไม่สนใจเขา แล้วนอนลงบนเตียงเจียงเย่าจิ่งพูดกับเธอ “คืนนี้ ฉันจะนอนที่นี่กับเธอ”เธอแสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน ห่มผ้าห่ม ห่อตัวไว้จนมิดราวกับกลัวว่าเขาจะเข้ามาแย่งผ้าห่มของตัวเองเจียงเย่าจิ่งมองท่าทีของเธอ แล้วยกมุมปากขำขัน ท่าทางของผู้หญิงคนนี้น่ารักดีนะเขาดึงคอเสื้อ จู่ ๆ ก็รู้สึกค่อนข้างร้อนในห้องผู้ป่วยมีเครื่องปรับอากาศ อีกอย่างนี่ก็เข้าฤดูใบไม้ร่วงแล้ว อากาศตอนกลางคืนไม่ร้อนเลย แต่ไม่รู้ทำไมเขาถึงรู้สึกทั้งร้อนทั้งหงุดหงิดไม่นานสายตา
เจียงเย่าจิ่งรีบเดินออกไปโดยไม่ลังเลสักนิด! เบื้องหลังของเขาคือเสียงร้องไห้ด้วยความเจ็บปวดรวดร้าวของหยางเชี่ยนเชี่ยน ฮั่วซุนรู้สึกสับสน เจียงเย่าจิ่งไม่ใช่คนโหดเหี้ยมแบบนั้น โดยเฉพาะคนที่เคยช่วยชีวิตเขาไว้ เขาไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่นัก "คุณเจียงครับ?" เจียงเย่าจิ่งชะงักมือที่กำลังจะเปิดประตูรถแล้วพูดว่า "ไปบอกมู่ฉินว่าฉันจะไม่เข้าไปยุ่งเรื่องของลูกชายเธออีก" เมื่อสักครู่นี้เขาไม่แยแส เพราะคิดว่านี่อาจจะเป็นการแสดงละครตบตาของมู่ฉินกับหยางเชี่ยนเชี่ยน นี่เป็นการแสดงละครตบตากันชัด ๆ เพียงแต่มู่ฉินให้สัญญากับหยางเชี่ยนเชี่ยนว่าเธอจะไม่ถูกข่มขืน นั่นเป็นแค่คำหวานของเธอเท่านั้น เธอรู้ว่าการจะทำให้เจียงเย่าจิ่งเชื่อนั้น ลำพังแค่การแสดงละครตบตาย่อมหลอกเขาไม่ได้ ดังนั้นตั้งแต่ตอนที่หยางเชี่ยนเชี่ยนตอบตกลงที่จะเล่นละครฉากนี้กับมู่ฉิน เธอก็ถูกลิขิตให้ต้องเสียความบริสุทธิ์แล้ว! ฮั่วซุนพยักหน้าอยู่เงียบ ๆ จากนั้นเขาก็รีบกลับไป ดูเหมือนว่าเขาจะมาช้าเกินไปเสียแล้ว น้ำเสียงของหยางเชี่ยนเชี่ยนฟังดูน่าสลดใจ แต่อย่างไรเสียเขาก็ต้องนำความมาบอกกล่าว มู่ฉินยิ้มราวกับคาดเอาไว้แล
ฮั่วซุนไม่มีทางเลือกนอกจากบอกเจียงเย่าจิ่ง เจียงเย่าจิ่งชะงักแล้วหันมามองฮั่วซุน "นายว่ายังไงนะ?" ฮั่วซุนทวนคำอีกครั้งแล้วพูดว่า "เขาคิดจะจับตัวหยางเชี่ยนเชี่ยน ทำยังไงดีครับ?" เจียงเย่าจิ่งยื่น "เอาโทรศัพท์มาให้ฉัน" เขาตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า "คุณคิดจะทำอะไรกันแน่?" มู่ฉินพูดตรงเข้าประเด็น "ฉันได้ยินมาว่าตอนที่เธอตกน้ำ หยางเชี่ยนเชี่ยนช่วยเธอไว้ใช่ไหมล่ะ? ถ้าตอนนั้นเธอจมน้ำไปซะ ตอนนี้ทุกสิ่งทุกอย่างก็เป็นของลูกชายฉันแล้ว เป็นหล่อนที่ทำลายเรื่องดี ๆ ของฉัน เธอคิดว่าฉันจะปล่อยหล่อนไปงั้นเหรอ?" "ต้องการอะไรก็ว่ามา" เจียงเย่าจิ่งพูดตามตรง "เอาล่ะ ในเมื่อเธอตรงไปตรงมาขนาดนั้น ฉันก็จะไม่พูดจาอ้อมค้อมกับเธออีก หยางเชี่ยนเชี่ยนเป็นผู้มีพระคุณของเธอใช่ไหมล่ะ? ฉันขอแลกเธอกับลูกชายของฉันว่ายังไงล่ะ?" มู่ฉินเอ่ยขึ้น หลังจากได้พบหยางเชี่ยนเชี่ยน เธอก็รู้ว่าหยางเชี่ยนเชี่ยนชอบเจียงเย่าจิ่ง ดังนั้นตอนนี้ทั้งสองคนจึงบรรลุข้อตกลงร่วมกัน ตอนที่กำลังดำเนินแผนการครั้งนี้ มู่ฉินคิดว่าเธอสามารถใช้เหตุการณ์ครั้งนี้มาแลกเปลี่ยนเพื่อให้เจียงเย่าจิ่งยอมปล่อยลูกชายของเธอไป "ลูกชายของคุณไม่ไ
เมื่อซ่งรุ่ยเจี๋ยได้ยินเสียง เขาก็รีบซ่อนโทรศัพท์มือถือเอาไว้ใต้ผ้าห่ม เขาเคลื่อนไหวรวดเร็วเสียจนทั้งซ่งอวิ้นอวิ้นหรือหานซินก็ไม่ทันสังเกตเห็นความผิดปกติของเขา! หานซินวางอาหารเอาไว้บนโต๊ะข้างเตียง "เธอหิวหรือยัง? รีบมากินอาหารเช้าเถอะ" เมื่อหานซินพูดจบ เธอก็ค่อย ๆ หยิบอาหารที่เตรียมไว้ออกมา "ผมไม่อยากกิน ผมอยากอยู่คนเดียว" ทั้งสีหน้าและน้ำเสียงของซ่งรุ่ยเจี๋ยฉายแววเย็นชา ไม่ได้แสดงความเสียใจออกมานัก หานซินคิดจะเกลี้ยกล่อม แต่ซ่งอวิ้นอวิ้นเอ่ยขัดจังหวะหานซินได้ทันเวลา "แม่คะ ให้เขาอยู่คนเดียวสักพักเถอะ" หานซินกล้ำกลืนคำพูดเกลี้ยกล่อมกลับลงไปแล้วเอ่ยขึ้นมาว่า "อาหารอยู่ตรงนี้นะ เธอหิวเมื่อไหร่ก็มากินล่ะ" ซ่งรุ่ยเจี๋ยไม่พูดอะไร หานซินอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ "เฮ้อ" "พอเถอะค่ะ" ซ่งอวิ้นอวิ้นดึงตตัวหานซินออกไป "รุ่ยเจี๋ย นายก็พักผ่อนด้วยนะ" ซ่งอวิ้นอวิ้นปิดประตูห้องพักผู้ป่วยแล้วบอกหานซินวว่า "รุ่ยเจี๋ยต้องการเวลาทำใจ เขากินอะไรไม่ลงหรอกค่ะ อย่าไปเกลี้ยกล่อมเขาเลย ไป๋ซิ่วฮุ่ยเป็นแม่ของเขา เขาคงรับไม่ได้ไปสักพัก นี่เป็นเรื่องที่พอเข้าใจได้" หานซินเข้าใจแล้ว "แม่รู้ แม่เป็น
ซ่งรุ่ยเจี๋ยเงยหน้าขึ้นแล้วถามว่า "พี่มาแต่เช้าขนาดนั้น คงรู้เรื่องนั้นแล้วใช่ไหม?" ซ่งอวิ้นอวิ้นไม่ได้ปิดบัง "ใช่" แววตาที่ไร้ชีวิตชีวาของซ่งรุ่ยเจี๋ย มองไปทางอื่นโดยไร้จุดมุ่งหมาย "ตำรวจมาถามเรื่องเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แล้วถามว่าผมได้เจอแม่หรือเปล่า" ซ่งอวิ้นอวิ้นฟังอยู่เงียบ ๆ ที่จริงเขารู้แก่ใจว่าเมื่อไป๋ซิ่วฮุ่ยถูกใครสักคนพาตัวออกไปก็หมดทางรอดแล้ว "นายต้องดูแลตัวเองให้ดี ๆ นะ" ซ่งอวิ้นอวิ้นไม่รู้ว่าจะปลอบใจเขาอย่างไรดี ซ่งรุ่ยเจี๋ยเงยหน้าขึ้น "แม่ผมตายเมื่อคืนนี้ พี่รู้เรื่องเร็วขนาดนั้นได้ยังไงกัน?" "ฉัน..." พอนึกถึงสิ่งที่เจียงเย่าจิ่งพูด เธอก็เปลี่ยนเปลี่ยนคำพูดเป็น "ฉันเพิ่งจะได้ยินตำรวจพูดถึงรู้น่ะสิ" "อ้อ" ซ่งรุ่ยเจี๋ยรู้ว่าเธอกำลังโกหกอยู่ชัด ๆ เธอกำลังปิดบังอะไรสักอย่างใช่ไหม? ทำไมต้องปิดบังด้วยเล่า? เพราะเธอรู้ว่าคนที่ฆ่าแม่ของเขาคือเจียงเย่าจิ่งอย่างนั้นเหรอ? ทำไมเธอไม่พูดอะไรเลยล่ะ? ตั้งใจที่จะปิดบังไม่ให้เขารู้ใช่ไหม? เขากำหมัดที่อยู่ใต้ผ้าห่มแน่น พลางรู้สึกหนาวเหน็บอยู่ในใจ "ผมเสียใจด้วยนะ" ซ่งอวิ้นอวิ้นเอ่ยเสียงเบา ซ่งรุ่ยเจี๋ยยิ้มเหยีย
พ่อบ้านเฉียนรวบรวมคำพูดแล้วเอ่ยขึ้นมาว่า "ตอนนี้นายน้อยไม่มีอะไรต้องกังวล ดังนั้นเขาจึงประชันหน้ากับพวกเราได้เต็มที่ แต่ถ้าหลังบ้านเกิดไฟลุกไหม้ เขาก็จะเสียสมาธิแล้วพวกเราก็จะมีโอกาสขึ้นมา" "โอ้ พ่อบ้านเฉียนพูดถูก" มู่ฉินเห็นด้วยยิ่งนัก เธอถองข้อศอกใส่สามีตัวเอง "พูดอะไรบ้างสิ" เจียงอวี้จึงเอ่ยขึ้นมาว่า "เป็นความคิดที่ดีอยู่หรอก แต่… พวกเราจะจุดไฟหลังบ้านเจียงเย่าจิ่งได้ยังไงล่ะ นั่นต่างหากที่เป็นประเด็นสำคัญไม่ใช่รึไง?" นายท่านเจียงยังคงเงียบ เพราะเหตุผลเดียวกันนี้ ตอนนี้ดูเหมือนว่าเจียงเย่าจิ่งกับซ่งอวิ้นอวิ้นจะมีความสัมพันธ์ที่ดี ประกอบกับมีลูกเพิ่มเข้ามา ยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองคนแนบแน่นขึ้นไปอีก "ไม่เห็นจะยากเลย พวกเราก็แค่หว่านเมล็ดพันธุ์แห่งความขัดแย้งลงไปท่ามกลางความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งสองคนเสียก็ใช้ได้แล้วไม่ใช่เหรอ?" ถึงแม้ว่ามู่ฉินจะย่างเข้าวัยกลางคนแล้ว แต่เสน่ห์ของเธอก็ยังคงอยู่ ประกอบกับการดูแลตัวเองเป็นอย่างดี ทำให้ยากจะมองอายุที่แท้จริงของเธอออก เธอกลอกตาดำขลับ "ระหว่างผู้ชายกับผู้หญิง มือที่สามถือว่าเป็นเรื่องต้องห้ามที่สุดเลยเชียวล่ะ ถ้ามีมือที
ซ่งอวิ้นอวิ้นไม่ได้รีบเข้านอนทันที แต่กลับไปหาซวงซวง ป้าหวู่พาซวงซวงเข้านอนแล้ว แต่เธอก็ยังอยากตรวจสอบดูให้แน่ใจ ตอนนี้ซวงซวงหลับลึกไปแล้ว ดังนั้นเธอจึงย่องเบาออกมา เมื่อกลับมาที่ห้องนอน เธอก็นั่งตรงขอบเตียง แต่กลับไม่รู้สึกง่วงอีกต่อไป เธอกุมศีรษะแล้วครุ่นคิดถึงเรื่องนั้น นอกจากหลินหรุ่ยกับตระกูลเจียงแล้ว เธอก็นึกไม่ออกว่าเป็นใคร หลังจากเจียงเย่าจิ่งเดินออกมาหลังจากอาบน้ำเสร็จ เขาก็เห็นซ่งอวิ้นอวิ้นนั่งอยู่ตรงขอบเตียง ดังนั้นเขาจึงเดินเข้ามากอดเธอแล้วนอนลงบนเตียง จากนั้นก็พลิกตัวอยู่เหนือร่างของเธอ จูบที่พร่างพรมลงมาทั้งดูดดื่มและเร่าร้อน ขณะที่บรรยากาศกำลังเป็นไปได้สวย ซวงซวงก็ร้องไห้ขึ้นมา พวกเขาทั้งสองคนต่างตะลึงงัน ซ่งอวิ้นอวิ้นเป็นฝ่ายที่มีท่าทีตอบสนองก่อนแล้วผลักเขาออกไป "ซวงซวงอาจจะหิวก็ได้" "ป้าหวู่จะป้อนเขาเอง" "แต่…" ก่อนที่เธอจะทันได้พูดให้จบประโยค เธอก็โดนจูบ สกัดกั้นคำพูดของเธอจนหมดสิ้น! ทุกสิ่งทุกอย่างพรั่งพรูออกมา! ราตีช่างแสนยาวนาน ทว่ากลับเต็มไปด้วยความรักใคร่เร่าร้อน! …… คฤหาสน์ต้นตระกูลเจียงเปิดไฟสว่างจ้า คราวนี้แผนใส่ร้ายเจียงเย่าจิ่
"ทำไมเธอยังไม่นอนอีกล่ะ?" เจียงเย่าจิ่งเดินเข้ามา "ฉันทำให้เธอตื่นหรือเปล่า?" ซ่งอวิ้นอวิ้นเอ่ยขึ้นมาว่า "เปล่าหรอก ฉันกำลังรอคุณอยู่น่ะ" เมื่อเธอพูดจบก็ลงจากเตียงแล้วเดินเข้ามากอดเขาไว้ จากนั้นก็แนบใบหน้าเข้ากับหน้าอกของเขา การเคลื่อนไหวของเธอทำให้เจียงเย่าจิ่งรู้สึกประหลาดใจเสียจนตัวแข็งทื่อไปชั่วขณะ จากนั้นเขาก็ยิ้มพลางถามว่า "เธอเป็นอะไรไปน่ะ?" ซ่งอวิ้นอวิ้นบอกว่าไม่มีอะไร "ฉันก็แค่อยากจะกอดคุณ" เจียงเย่าจิ่งก้มมองเธอ "ปล่อยก่อนเถอะ เดี๋ยวฉันไปอาบน้ำแล้วเธอค่อยมากอดก็ได้ ตอนนี้ฉันสกปรกจะแย่" ซ่งอวิ้นอวิ้นไม่ยอมปล่อยแล้วกอดเขาให้แน่นขึ้น ร่างกายของทั้งสองคนบดเบียดเข้าหากันอย่างแนบแน่น เจียงเย่าจิ่งถามเสียงเบาว่า "เธอเป็นอะไรไป?" ทำไมถึงรู้สึกว่าเธอไม่ปกติเลยล่ะ? ซ่งอวิ้นอวิ้นลูบหน้าอกของเขา "นับจากนี้เป็นต้นไป ไม่ว่าอยู่ที่ไหนฉันก็จะเป็นบ้านให้คุณเอง ฉันจะรักคุณให้มาก ๆ" เจียงเย่าจิ่งหลุบตาลง ท่ามกลางแสงสลัวรางเลือน เขายังมองเห็นประกายในดวงตาของเธอและเนื้อตัวที่สั่นระริกอยู่บ้าง น้ำเสียงทุ้มของเขาปะปนความแหบพร่าเล็กน้อย "ซ่งอวิ้นอวิ้น วันนี้เธอเป็นอะไรไปกันแน
เมื่อกลับมาถึงบ้าน เธอก็ล้างมือแล้วไปหาซวงซวง เห็นเพียงป้าหวู่ที่กำลังอุ้มเขาอยู่ "ป้าหวู่" เธอรู้สึกประหลาดใจนัก ป้าหวู่ยิ้มแล้วพูดว่า "คุณผู้ชายบอกให้ป้ามาที่นี่ เพราะไม่มีใครคอยจัดการเรื่องต่าง ๆ เลยค่ะ" เจียงเย่าจิ่งเป็นห่วงเรื่องตามหาตัวคนแปลกหน้า ดังนั้นเขาจึงเรียกป้าหวู่ให้มาที่นี่ ซ่งอวิ้นอวิ้นดีใจที่ได้ยินว่าป้าหวู่มาที่นี่ เพราะก่อนหน้านี้ตอนที่อยู่ในคฤหาสน์ ป้าหวู่ดีกับเธอมากทีเดียว เธอเป็นคนจิตใจดี "มีป้าหวู่อยู่ที่นี่ ฉันรู้สึกเบาใจขึ้นเยอะเลยค่ะ" ซ่งอวิ้นอวิ้นเอ่ยพลางยิ้มให้ เธอรับซวงซวงมาจากอ้อมแขนของป้าหวู่ จากนั้นเขาก็ตื่นขึ้นมาพอดี ทันใดนั้นใบหน้าเล็ก ๆ ก็ยับย่น ซ่งอวิ้นอวิ้นรู้ว่าเขาคงจะอึเป็นแน่ ดังนั้นเธอจึงบีบจมูกน้อย ๆ ของเขา "เหม็นหรือเปล่าจ๊ะ?" ป้าหวู่จึงพูดว่า "เดี๋ยวป้าเปลี่ยนผ้าอ้อมให้เองค่ะ" ซ่งอวิ้นอวิ้นอยากจะทำเอง เธอรู้สึกว่าตนเองติดค้างลูกชายมาโดยตลอด เพราะเธอไม่มีเวลาดูแลเขานัก ตอนนี้เธอมีเวลาแล้ว "งั้นป้าจะเอาน้ำมาให้นะคะ" ซ่งอวิ้นอวิ้นตอบตกลงแล้ววางซวงซวงลงไป เธอทิ้งผ้าอ้อมที่ใช้แล้วลงถังขยะ จากนั้นก็หยิบกระดาษมาเช็ดก้นของ
ซ่งรุ่ยเจี๋ยรีบกลบเกลื่อนว่า "ไม่มีอะไรหรอก..." "จริงเหรอ?" ซ่งอวิ้นอวิ้นยื่นน้ำที่รินแล้วให้เขา น้ำเสียงของเธอบ่งบอกว่าไม่เชื่ออยู่ชัด ๆ ซ่งรุ่ยเจี๋ยหลบสายตาแล้วรีบหาข้ออ้างขึ้นมาว่า "เป็นเรื่องในบริษัทน่ะ ส่วนเรื่องเมื่อคราวก่อนก็แก้ปัญหาได้แล้ว" ซ่งอวิ้นอวิ้นพยักหน้า "นายรับมือได้ดี" "แต่วิธีการก็เป็นความคิดของพี่อยู่ดี" ซ่งรุ่ยเจี๋ยเอ่ยขึ้น เขารู้สึกอิจฉาอยู่บ้าง เขาต้องยอมรับว่าซ่งลี่เฉิงช่างมีสายตาแหลมคม ถึงให้ซ่งอวิ้นอวิ้นมาดูแลบริษัท ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ถนัด แต่เธอก็เรียนรู้หลาย ๆ สิ่งได้รวดเร็ว! "ฉันแก่กว่านายไม่กี่ปี ฉันถึงต้องใคร่ครวญให้มากหน่อย อีกไม่กี่ปีนายน่าจะล้ำหน้าฉันไปแล้ว" ซ่งอวิ้นอวิ้นพูดให้กำลังใจ อันที่จริงแล้ว นับตั้งแต่ซ่งลี่เฉิงตายไป ซ่งรุ่ยเจี๋ยก็เป็นผู้ใหญ่ขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก ซ่งรุ่ยเจี๋ยแทบไม่เผยรอยยิ้มขึ้นบนใบหน้า "ผมไม่เป็นไรหรอก พี่น่าจะกลับไปดูแลซวงซวงก่อนนะ" ซ่งรุ่ยเจี๋ยเอ่ยขึ้น "ได้ ถ้านายมีเรื่องอะไรก็ติดต่อฉันได้ตลอดนะ" ซ่งอวิ้นอวิ้นลุกขึ้น "อย่าลืมดื่มน้ำล่ะ" ซ่งรุ่ยเจี๋ยรีบยื่นมือข้างที่ไม่ได้รับบาดเจ็บมายกถ้วยชาขึ้นมา "ผมไม่ลื