“ฉันได้ยินมาว่าซวงซวงไม่สบาย ตอนนี้ดีขึ้นหรือยัง?” ซ่งรุ่ยเจี๋ยถามซ่งอวิ้นอวิ้นทำเป็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น น้ำเสียงก็อ่อนโยน “นายฟังมาจากใครว่าซวงซวงไม่สบาย?”ซ่งรุ่ยเจี๋ยตอบกลับ “ผมได้ยินป้าหานซินบอก”ซ่งอวิ้นอวิ้นทำน้ำเสียงตกใจ “แม่ฉัน?”จู่ ๆ เธอก็คิดวิธีออก ก็เลยทำเป็นเปิดเผยข้อบกพร่องของตัวเองเมื่อซ่งรุ่ยเจี่ยได้ฟังคำของเธอ ก็ถามขึ้น “เกิดเรื่องกับซวงซวงจริง ๆ เหรอ?”สายตาเธอเย็นชา แววตาดุเดือด เธอแปลกใจที่ซ่งรุ่ยเจี๋ยกับไป๋ซิ่วฮุ่ยไม่เหมือนกันตัวเองพยายามกล่อมเกลาเขาดูแลความรู้สึกของเขา คิดอยากจะให้เขาเป็นคนในครอบครัวแต่ไม่คิดว่า…“ใช่”ซ่งรุ่ยเจี๋ยกังวล “หนักไหม?”“ตอนนี้เขาอยู่ที่โรงพยาบาล ถ้านายกังวลก็มาดูสิ” ซ่งอวิ้นอวิ้นพูด“ได้ อยู่โรงพยาบาลไหน? ผมจะไปเดี๋ยวนี้เลย”ซ่งอวิ้นอวิ้นบอกที่อยู่ให้กับเขา หลังจากวางสายเธอก็รีบโทรหาเจียงเย่าจิ่ง“ฮัลโหล”“ฉันเองนะ หาคนที่มีฝีมือดี ๆ มาให้ฉันหน่อยได้ไหม?”เจียงเย่าจิ่งถามอย่างกังวล “เกิดอะไรขึ้น?”“คุณส่งมาได้ไหม?” ซ่งอวิ้นอวิ้นไม่ได้พูดถึงเรื่องที่เกิดกับซวงซวง แต่ก็ไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังเขา เพราะมันเป็นเรื่อง
คนของเจียงเย่าจิ่ง เธอก็ต้องไว้ใจอยู่แล้วเธอเพิ่งเดินถึงลิฟต์ พอดีกับที่ซ่งรุ่ยเจี๋ยมาถึงท่าทางของเขาดูรีบร้อน “ซวงซวงอยู่ไหนเหรอ? ฉันจะไปดู เขาเป็นยังไงบ้าง? ดีขึ้นไหม?”ซ่งอวิ้นอวิ้นมองหน้าเขานิ่ง ๆ คิดอยากจะมองหน้าเขาเพื่อดูความล้มเหลว อีกทั้งท่าทางที่ดูกังวลของเขานั้นมันคือเรื่องจริงหรือแกล้งทำไม่รู้ว่าซ่งรุ่ยเจี๋ยจะแกล้งเก่งขนาดนี้ หรือแสดงเก่งมาก ๆ เธอถึงได้มองข้อบกพร่องไม่ออกเลย!“รุ่ยเจี๋ย นายมากับฉัน” เธอเดินเข้าไปในลิฟต์ กดปุ่มไปที่ชั้นถัดไปซ่งรุ่ยเจี๋ยถาม “พี่เรียกผมมามีธุระเหรอ?”ซ่งอวิ้นอวิ้นตอบไปรับไปอย่างเรียบ ๆ “มีเรื่องอะไร?” ซ่งรุ่ยเจี๋ยถามซ่งอวิ้นอวิ้นพูด “เดี๋ยวค่อยคุย”ซ่งรุ่ยเจี๋ยอ้ำอึ่ง แต่ไม่ได้ถามอะไรไปลิฟต์หยุดลง ซ่งอวิ้นอวิ้นเดินออกจากลิฟต์เป็นคนแรก เดินไปที่สวนหย่อมหลังโรงพยาบาล ข้างในมีป่าอยู่ ซ่งอวิ้นอวิ้นพาเขาเดินเข้าไป“พี่ พี่พาผมมาที่นี่ทำไมเนี่ย?” ซ่งรุ่ยเจี๋ยถามอย่างไม่เข้าใจรอบ ๆ ไม่มีคนเลย ซ่งอวิ้นอวิ้นตอบกลับไป “ฉันอยากจะถามนาย นายแน่ใจเหรอว่าแม่ของฉันบอกนายเรื่องที่ซวงซวงไม่สบาย?”ซ่งรุ่ยเจี๋ยคิดไม่ถึงว่าเธอจะถามคำถามนี้ สีห
“ฉันไม่อยากได้ยินคำพวกนี้!” ซ่งอวิ้นอวิ้นเอาแต่ขัดจังหวะ “พูดมาสิ นายมีปมอะไรในใจกับฉัน หรือนายถูกสั่งมา?”ซ่งรุ่ยเจี๋ยเอาแต่ส่ายหน้า “ผมยอมรับพี่แล้ว ไม่มีปมในใจอะไรกับพี่จริง ๆ ผม… ผมถูกคนข่มขู่”“ใครข่มขู่นาย?” ซ่งอวิ้นอวิ้นถามอย่างรวดเร็วในขณะที่ซ่งรุ่ยเจี๋ยหยิบโทรศัพท์ก็พูดไปด้วย “ผมก็ไม่รู้ว่าฝ่ายตรงข้ามเป็นใคร มีแค่ข้องความที่ไม่มีชื่อ ผมหาร่องรอยของฝ่ายตรงข้ามไม่เจอเลย” เขาเอาโทรศัพท์ให้ซ่งอวิ้นอวิ้นดู “พี่ดูสิ”ซ่งอวิ้นอวิ้นเหลือบมองเขา แล้วก็ขมวดคิ้ว “แม่นายอยู่ในคุกไม่ใช่เหรอ?”“ผมไปดูมาแล้ว จริง ๆ ไม่ได้อยู่แล้ว แต่ก็ไม่รู้ว่าข้อความที่ส่งมาให้ผมเป็นใครกัน อีกอย่างไอดีที่ใช้ส่งข้อความมาให้ผมก็ต้องใส่รหัส ผมหาอะไรไม่เจอเลย” ในตอนนี้ซ่งรุ่ยเจี๋ยปิดบังไว้ไม่ได้แล้ว ทำได้แค่บอกไปตามตรง “พวกเขาใช้ชีวิตของแม่มาข่มขู่ผม ผมอดไม่ได้ที่จะ…”ซ่งอวิ้นอวิ้นพูดต่อ “ดังนั้น พวกเขาก็เลยให้นายทำร้ายซวงซวงเหรอ?”ซ่งรุ่ยเจี๋ยพยักหน้า “พวกเขาส่งยามาให้ พวกเขาทำเหมือนที่ส่งข้อความมาให้ผม ผมแน่ใจ ถึงแม้พวกเขาไม่ได้บอกว่ายาตัวนี้มีผลอะไรกับซวงซวง แต่ผมก็มั่นใจว่าไม่ใช่สิ่งที่ดีเลย ผมก็เลย
ซ่งอวิ้นอวิ้นรู้สึกกังวลขึ้นมาอยู่ดี ๆ เขาก็โผล่มา!ซ่งอวิ้นอวิ้นแสดงสีหน้าเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วยิ้ม “คุณมาได้ยังไงคะ?”เจียงเย่าจิ่งเงยหน้าขึ้น ใบหน้าไม่แสดงอะไรออกมา นิ่งมาก ๆ “เธอไปไหนมา?”“ฉัน… มีเรื่องต้องจัดการนิดหน่อย” ซ่งอวิ้นอวิ้นตอบไปที เธอตั้งใจไม่สบตากับเจียงเย่าจิ่ง แล้วเดินไปที่โต๊ะพลางเทน้ำมาหนึ่งแก้ว เธอยกน้ำขึ้นดื่มเพื่อปกปิดการกระทำของเธอ “คุณยังไม่ได้บอกเลยว่าคุณมาได้ยังไง”เสียงของเจียงเย่าจิ่งเย็นชา “ลูกชายของฉันไม่สบาย ฉันไม่ควรมาดูเหรอ?”ซ่งอวิ้นอวิ้นรู้สึกผิด เจียงเย่าจิ่งจ้องมองเธอสักพัก แต่เธอก็ไม่ได้เปิดเผยอะไรออกมาในใจเขาก็เริ่มโกรธลูกของพวกเขาทั้งคนตอนนี้ซวงซวงถูกทำร้าย เธอกลับปิดบังตนเอง เธอไม่ไว้ใจเขาเหรอ? หรือเป็นเพราะอย่างอื่น?“ฉันจะพาซวงซวงไป” เจียงเย่าจิ่งพูดซ่งอวิ้นอวิ้นเงยหน้าขึ้นอย่างกล้าหาญ “คุณมีสิทธิ์อะไร?”“สิทธิ์ที่เขาเป็นลูกชายของฉัน”“ลูกชายของคุณ ก็เป็นฉันที่คลอดออกมา ถ้าฉันไม่คลอดออกมาคุณจะมีลูกเหรอ?” ซ่งอวิ้นอวิ้นสวนกลับไปเจียงเย่าจิ่งจ้องเธอเขม็ง เงียบไปสักพัก แล้วค่อย ๆ เปิดปากพูด “ไม่มีฉัน เธอจะคลอดเขาม
บอดี้การ์ดก็เดินตามมาด้วย!เจียงเย่าจิ่งไม่ได้กลับไปที่คฤหาสน์ แต่พาซวงซวงกลับไปที่ที่ซ่งอวิ้นอวิ้นเคยอยู่ที่นี่มีคนรู้ไม่มาก อยู่ที่นี่ปลอดภัยกว่าอยู่ที่คฤหาสน์มากอีกทั้งเขายังจัดคนเฝ้าตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง เพิ่มการป้องกันมากขึ้นอีกนิดเมื่อวางซวงซวงลง เสิ่นจือเชียนก็เข้ามาเจียงเย่าจิ่งเป็นคนเรียกเขามาถึงแม้ตอนนี้เขาจะไม่ได้เป็นหมอแล้ว แต่ก็ยังติดต่อกันอยู่ ดังนั้นก็เลยให้เสิ่นจือเชียนมาดีที่สุด เป็นหมอที่น่าเชื่อถือ และยังมองซวงซวงเป็นเหมือนคนในครอบครัว จะเสียเงินมากเท่าไหร่ก็ไม่เป็นไรเสิ่นจือเชียนยังมีเส้นสายอยู่บ้าง ถึงแม้เขาจะทำใจไม่ได้ที่ต้องเลิกทำอาชึพที่ตนเองชอบ แต่เพื่ออันลู่แล้ว เขาทำได้เพียงแค่ทำงานที่บริษัทตามที่แม่บอกเสิ่นจือเชียนเอาความรู้ที่มีในหัวออกมาใช้ แล้วเลือกวิธีที่ดีที่สุดมา“เรื่องนี้ให้ฉันจัดการเถอะ” เสิ่นจือเชียนบอกเจียงเย่าจิ่ง “เร็วเข้าล่ะ”“ได้” เสิ่นจือเชียนมองไปที่ซ่งอวิ้นอวิ้นแล้วถาม “ทำไมจู่ ๆ ก็พาลูกไปหาหมอ ตัวเธอเองก็เป็นหมอ ดูแลลูกตัวเองไม่ดีกว่าหมอประจำตระกูลเหรอ?”ซ่งอวิ้นอวิ้นรู้ว่าเจียงเย่าจิ่งยังโกรธอยู่ก็เลยต้องทำแบบนี้แต่ว่
นี่ไม่ใช่ว่ามีคนเข้าข้างเจียงเย่าจิ่ง แล้วยังพูดแทนเขาอีกอีกทั้งยังยืนกราน แสดงให้เห็นว่าสนับสนุนเจียงเย่าจิ่งเป็นประธานต่อ อย่างไรก็ตามทุกคนรู้ความสามารถของเจียงเย่าจิ่งดี พวกเขาถือหุ้นไม่มาก แต่เป็นเพราะสถานการณ์ในบริษัทยังดีอยู่ ได้ปันผลจากบริษัทเยอะ ถ้าเปลี่ยนคน พวกเขาจะสามารถนอนอยู่เฉย ๆ แล้วได้เงินเหรอ?พวกเขาไม่เชื่อเลย อีกอย่างเรื่องที่เจียงเย่าเทียนทำในครั้งที่แล้ว ทำให้คนคิดว่าเขาและพ่อของเขานั้นไม่เชื่อถือ แน่นอนว่า ที่นายท่านเจียงกล้าจัดการประชุมคณะกรรมการ และติดต่อสมาชิกคณะกรรมการหลาย ๆ คนเป็นการส่วนตัวให้สนับสนุนเจียงอวี้ดังนั้นเจียงอวี้ก็เลยมั่นใจมากเดิมทีนายท่านเจียงสนับสนุนเจียงเย่าเทียน เจียงเย่าเทียนยังหนุ่มอยู่ อีกทั้งก็มีฝีมืออยู่บ้าง แต่เป็นเพราะเรื่องกาสิโนของเจียงเย่าเทียน ทำให้ตอนนี้ยังอยู่ในการสอบสวนอยู่ และเขาไม่สามารถมาที่บริษัทได้ อีกอย่าง ไม่มีทางที่จะพูดให้คณะกรรมการมาสนับสนุนเขาได้ในตอนนี้เขาแบกเรื่องมากมายไว้บนหลังจึงทำได้แค่สนับสนุนเจียงอวี้!“ฉันคิดว่าเจียงอวี้นั้นเหมาะสม เขาอายุมาก มีประสบการณ์ ไม่แพ้ความสามารถของเจียงเย่าจิ่ง? อีกอย่าง
เจียงเย่าจิ่งก้าวเดินออกไปไม่หยุด ไม่แม้แต่จะมองเขาด้วยซ้ำเจียงอวี้ไม่อยากจะคิดอะไร “พ่อ ดูสิ เขาถูกพ่อตามใจ ไม่มีมารยาทเอาซะเลย!”นายท่านเจียงรู้จักนิสัยของเจียงเย่าจิ่งดีเขาครุ่นคิดอยู่สักพัก เจียงเย่าจิ่งไม่ได้สนใจตำแหน่งประธานเลยเหรอ? หรือเขามีแผนสำรอง?“พ่อ…”“หุบปากซะ!” นายท่านเจียงปรายตามองลูกชาย ทำไมถึงใจร้อนแบบนี้? ไม่เหมือนกับวัยรุ่น?“เนื่องจากทุกคนมีความคิดของตนเอง ทำให้ไม่สามารถหาข้อสรุปได้ในเวลานี้ การประชุมครั้งนี้ต้องยกเลิกไปก่อน” นายท่านเจียงคิดว่ามีบางอย่างผิดปกติ จึงควรที่จะยกเลิกการประชุม“นายท่านเจียง เรื่องในครั้งนี้ ผมคิดว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมันมีสาเหตุ ประธานเจียงใส่ใจเรื่องของบริษัทเสมอมา ผมคิดว่าทุกคนน่าจะรู้ดี อีกอย่าง ไม่มีใครเป็นนักปราชญ์ที่จะหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดได้ ผมคิดว่าเราไม่ควรจะเปลี่ยนประธาน”บางคนยังคงสนับสนุนเจียงเย่าจิ่งอยู่นายท่านเจียงนั้นพยักหน้า แต่ในใจกลับมีแผนอื่นอยู่ดูแล้ว ควรจะเริ่มจัดการจากเจียงเย่าจิ่ง“ฉันจะพิจารณาอย่างรอบคอบ” นายท่านเจียงพูดเจียงอวี้ตื่นตระหนกเมื่อได้ยิน คิดว่าเขาต้องสนับสนุนเจียงเย่าจิ่ง แบบนั้นความพยาย
ซ่งอวิ้นอวิ้นตะลึงผู้หญิงคนนั้นไม่ได้สังเกตว่ามีคนอยู่ เธอยังคงลูบไล้โต๊ะไปมาในใจก็จินตนาการว่าเจียงเย่าจิ่งอยู่ในห้องทำงาน!“อุแว้…”จู่ ๆ ซวงซวงก็ร้องขึ้นมาเลขาที่อยู่ในจินตนาการอยู่ก็ถูกดึงกลับมาด้วยเสียง หันกลับไปมองก็ไม่เห็นว่ามีคนอยู่ ประตูที่ถูกปิดไว้ มีการขยับ! เธอค่อย ๆ เดินไปดึงประตู ไม่มีคนอยู่ก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก เธอจัดเสื้อผ้า เงยหน้าขึ้นเดินออกไป แล้วปิดประตู!ซ่งอวิ้นอวิ้นที่ซ่อนตัวอยู่ตรงมุม สีหน้ายังประหลาดใจไม่หาย ยังคงตกใจกับพฤติกรรมของเลขาอยู่!เธอก้มลงไปมองลูกชาย หายใจเข้าลึก ๆ ให้ตัวเองผ่อนคลายซวงซวงกะพริบตา ไม่ได้เข้าใจอะไรเลย เอาแต่มองไปที่ซ่งอวิ้นอวิ้น!ซ่งอวิ้นอวิ้นก้มหน้าลงค่อย ๆ จูบไปที่หน้าผากของลูกชาย กอดเขาไว้ หันหลังกลับตรงไปที่ลิฟต์แล้วกดลงไปเข้าไปนั่งในรถ เธอก็รู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาเธอคิดถึงเลขาของเจียงเย่าจิ่ง พฤติกรรมนั้น…ซ่งอวิ้นอวิ้นก็รู้สึกหนาวขึ้นมาร่างกายของเธอก็ขนลุกขึ้นมา และเธอก็สั่นไปทั้งตัว!บอดี้การ์ดที่อยู่ข้างหน้าถามขึ้น “พวกเราจะกลับกันเลยใช่ไหมครับ?”ซ่งอวิ้นอวิ้นพยักหน้า “อืม กลับกันเลย”ระหว่างทางซ่งอวิ้นอ
เจียงเย่าจิ่งรีบเดินออกไปโดยไม่ลังเลสักนิด! เบื้องหลังของเขาคือเสียงร้องไห้ด้วยความเจ็บปวดรวดร้าวของหยางเชี่ยนเชี่ยน ฮั่วซุนรู้สึกสับสน เจียงเย่าจิ่งไม่ใช่คนโหดเหี้ยมแบบนั้น โดยเฉพาะคนที่เคยช่วยชีวิตเขาไว้ เขาไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่นัก "คุณเจียงครับ?" เจียงเย่าจิ่งชะงักมือที่กำลังจะเปิดประตูรถแล้วพูดว่า "ไปบอกมู่ฉินว่าฉันจะไม่เข้าไปยุ่งเรื่องของลูกชายเธออีก" เมื่อสักครู่นี้เขาไม่แยแส เพราะคิดว่านี่อาจจะเป็นการแสดงละครตบตาของมู่ฉินกับหยางเชี่ยนเชี่ยน นี่เป็นการแสดงละครตบตากันชัด ๆ เพียงแต่มู่ฉินให้สัญญากับหยางเชี่ยนเชี่ยนว่าเธอจะไม่ถูกข่มขืน นั่นเป็นแค่คำหวานของเธอเท่านั้น เธอรู้ว่าการจะทำให้เจียงเย่าจิ่งเชื่อนั้น ลำพังแค่การแสดงละครตบตาย่อมหลอกเขาไม่ได้ ดังนั้นตั้งแต่ตอนที่หยางเชี่ยนเชี่ยนตอบตกลงที่จะเล่นละครฉากนี้กับมู่ฉิน เธอก็ถูกลิขิตให้ต้องเสียความบริสุทธิ์แล้ว! ฮั่วซุนพยักหน้าอยู่เงียบ ๆ จากนั้นเขาก็รีบกลับไป ดูเหมือนว่าเขาจะมาช้าเกินไปเสียแล้ว น้ำเสียงของหยางเชี่ยนเชี่ยนฟังดูน่าสลดใจ แต่อย่างไรเสียเขาก็ต้องนำความมาบอกกล่าว มู่ฉินยิ้มราวกับคาดเอาไว้แล
ฮั่วซุนไม่มีทางเลือกนอกจากบอกเจียงเย่าจิ่ง เจียงเย่าจิ่งชะงักแล้วหันมามองฮั่วซุน "นายว่ายังไงนะ?" ฮั่วซุนทวนคำอีกครั้งแล้วพูดว่า "เขาคิดจะจับตัวหยางเชี่ยนเชี่ยน ทำยังไงดีครับ?" เจียงเย่าจิ่งยื่น "เอาโทรศัพท์มาให้ฉัน" เขาตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า "คุณคิดจะทำอะไรกันแน่?" มู่ฉินพูดตรงเข้าประเด็น "ฉันได้ยินมาว่าตอนที่เธอตกน้ำ หยางเชี่ยนเชี่ยนช่วยเธอไว้ใช่ไหมล่ะ? ถ้าตอนนั้นเธอจมน้ำไปซะ ตอนนี้ทุกสิ่งทุกอย่างก็เป็นของลูกชายฉันแล้ว เป็นหล่อนที่ทำลายเรื่องดี ๆ ของฉัน เธอคิดว่าฉันจะปล่อยหล่อนไปงั้นเหรอ?" "ต้องการอะไรก็ว่ามา" เจียงเย่าจิ่งพูดตามตรง "เอาล่ะ ในเมื่อเธอตรงไปตรงมาขนาดนั้น ฉันก็จะไม่พูดจาอ้อมค้อมกับเธออีก หยางเชี่ยนเชี่ยนเป็นผู้มีพระคุณของเธอใช่ไหมล่ะ? ฉันขอแลกเธอกับลูกชายของฉันว่ายังไงล่ะ?" มู่ฉินเอ่ยขึ้น หลังจากได้พบหยางเชี่ยนเชี่ยน เธอก็รู้ว่าหยางเชี่ยนเชี่ยนชอบเจียงเย่าจิ่ง ดังนั้นตอนนี้ทั้งสองคนจึงบรรลุข้อตกลงร่วมกัน ตอนที่กำลังดำเนินแผนการครั้งนี้ มู่ฉินคิดว่าเธอสามารถใช้เหตุการณ์ครั้งนี้มาแลกเปลี่ยนเพื่อให้เจียงเย่าจิ่งยอมปล่อยลูกชายของเธอไป "ลูกชายของคุณไม่ไ
เมื่อซ่งรุ่ยเจี๋ยได้ยินเสียง เขาก็รีบซ่อนโทรศัพท์มือถือเอาไว้ใต้ผ้าห่ม เขาเคลื่อนไหวรวดเร็วเสียจนทั้งซ่งอวิ้นอวิ้นหรือหานซินก็ไม่ทันสังเกตเห็นความผิดปกติของเขา! หานซินวางอาหารเอาไว้บนโต๊ะข้างเตียง "เธอหิวหรือยัง? รีบมากินอาหารเช้าเถอะ" เมื่อหานซินพูดจบ เธอก็ค่อย ๆ หยิบอาหารที่เตรียมไว้ออกมา "ผมไม่อยากกิน ผมอยากอยู่คนเดียว" ทั้งสีหน้าและน้ำเสียงของซ่งรุ่ยเจี๋ยฉายแววเย็นชา ไม่ได้แสดงความเสียใจออกมานัก หานซินคิดจะเกลี้ยกล่อม แต่ซ่งอวิ้นอวิ้นเอ่ยขัดจังหวะหานซินได้ทันเวลา "แม่คะ ให้เขาอยู่คนเดียวสักพักเถอะ" หานซินกล้ำกลืนคำพูดเกลี้ยกล่อมกลับลงไปแล้วเอ่ยขึ้นมาว่า "อาหารอยู่ตรงนี้นะ เธอหิวเมื่อไหร่ก็มากินล่ะ" ซ่งรุ่ยเจี๋ยไม่พูดอะไร หานซินอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ "เฮ้อ" "พอเถอะค่ะ" ซ่งอวิ้นอวิ้นดึงตตัวหานซินออกไป "รุ่ยเจี๋ย นายก็พักผ่อนด้วยนะ" ซ่งอวิ้นอวิ้นปิดประตูห้องพักผู้ป่วยแล้วบอกหานซินวว่า "รุ่ยเจี๋ยต้องการเวลาทำใจ เขากินอะไรไม่ลงหรอกค่ะ อย่าไปเกลี้ยกล่อมเขาเลย ไป๋ซิ่วฮุ่ยเป็นแม่ของเขา เขาคงรับไม่ได้ไปสักพัก นี่เป็นเรื่องที่พอเข้าใจได้" หานซินเข้าใจแล้ว "แม่รู้ แม่เป็น
ซ่งรุ่ยเจี๋ยเงยหน้าขึ้นแล้วถามว่า "พี่มาแต่เช้าขนาดนั้น คงรู้เรื่องนั้นแล้วใช่ไหม?" ซ่งอวิ้นอวิ้นไม่ได้ปิดบัง "ใช่" แววตาที่ไร้ชีวิตชีวาของซ่งรุ่ยเจี๋ย มองไปทางอื่นโดยไร้จุดมุ่งหมาย "ตำรวจมาถามเรื่องเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แล้วถามว่าผมได้เจอแม่หรือเปล่า" ซ่งอวิ้นอวิ้นฟังอยู่เงียบ ๆ ที่จริงเขารู้แก่ใจว่าเมื่อไป๋ซิ่วฮุ่ยถูกใครสักคนพาตัวออกไปก็หมดทางรอดแล้ว "นายต้องดูแลตัวเองให้ดี ๆ นะ" ซ่งอวิ้นอวิ้นไม่รู้ว่าจะปลอบใจเขาอย่างไรดี ซ่งรุ่ยเจี๋ยเงยหน้าขึ้น "แม่ผมตายเมื่อคืนนี้ พี่รู้เรื่องเร็วขนาดนั้นได้ยังไงกัน?" "ฉัน..." พอนึกถึงสิ่งที่เจียงเย่าจิ่งพูด เธอก็เปลี่ยนเปลี่ยนคำพูดเป็น "ฉันเพิ่งจะได้ยินตำรวจพูดถึงรู้น่ะสิ" "อ้อ" ซ่งรุ่ยเจี๋ยรู้ว่าเธอกำลังโกหกอยู่ชัด ๆ เธอกำลังปิดบังอะไรสักอย่างใช่ไหม? ทำไมต้องปิดบังด้วยเล่า? เพราะเธอรู้ว่าคนที่ฆ่าแม่ของเขาคือเจียงเย่าจิ่งอย่างนั้นเหรอ? ทำไมเธอไม่พูดอะไรเลยล่ะ? ตั้งใจที่จะปิดบังไม่ให้เขารู้ใช่ไหม? เขากำหมัดที่อยู่ใต้ผ้าห่มแน่น พลางรู้สึกหนาวเหน็บอยู่ในใจ "ผมเสียใจด้วยนะ" ซ่งอวิ้นอวิ้นเอ่ยเสียงเบา ซ่งรุ่ยเจี๋ยยิ้มเหยีย
พ่อบ้านเฉียนรวบรวมคำพูดแล้วเอ่ยขึ้นมาว่า "ตอนนี้นายน้อยไม่มีอะไรต้องกังวล ดังนั้นเขาจึงประชันหน้ากับพวกเราได้เต็มที่ แต่ถ้าหลังบ้านเกิดไฟลุกไหม้ เขาก็จะเสียสมาธิแล้วพวกเราก็จะมีโอกาสขึ้นมา" "โอ้ พ่อบ้านเฉียนพูดถูก" มู่ฉินเห็นด้วยยิ่งนัก เธอถองข้อศอกใส่สามีตัวเอง "พูดอะไรบ้างสิ" เจียงอวี้จึงเอ่ยขึ้นมาว่า "เป็นความคิดที่ดีอยู่หรอก แต่… พวกเราจะจุดไฟหลังบ้านเจียงเย่าจิ่งได้ยังไงล่ะ นั่นต่างหากที่เป็นประเด็นสำคัญไม่ใช่รึไง?" นายท่านเจียงยังคงเงียบ เพราะเหตุผลเดียวกันนี้ ตอนนี้ดูเหมือนว่าเจียงเย่าจิ่งกับซ่งอวิ้นอวิ้นจะมีความสัมพันธ์ที่ดี ประกอบกับมีลูกเพิ่มเข้ามา ยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองคนแนบแน่นขึ้นไปอีก "ไม่เห็นจะยากเลย พวกเราก็แค่หว่านเมล็ดพันธุ์แห่งความขัดแย้งลงไปท่ามกลางความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งสองคนเสียก็ใช้ได้แล้วไม่ใช่เหรอ?" ถึงแม้ว่ามู่ฉินจะย่างเข้าวัยกลางคนแล้ว แต่เสน่ห์ของเธอก็ยังคงอยู่ ประกอบกับการดูแลตัวเองเป็นอย่างดี ทำให้ยากจะมองอายุที่แท้จริงของเธอออก เธอกลอกตาดำขลับ "ระหว่างผู้ชายกับผู้หญิง มือที่สามถือว่าเป็นเรื่องต้องห้ามที่สุดเลยเชียวล่ะ ถ้ามีมือที
ซ่งอวิ้นอวิ้นไม่ได้รีบเข้านอนทันที แต่กลับไปหาซวงซวง ป้าหวู่พาซวงซวงเข้านอนแล้ว แต่เธอก็ยังอยากตรวจสอบดูให้แน่ใจ ตอนนี้ซวงซวงหลับลึกไปแล้ว ดังนั้นเธอจึงย่องเบาออกมา เมื่อกลับมาที่ห้องนอน เธอก็นั่งตรงขอบเตียง แต่กลับไม่รู้สึกง่วงอีกต่อไป เธอกุมศีรษะแล้วครุ่นคิดถึงเรื่องนั้น นอกจากหลินหรุ่ยกับตระกูลเจียงแล้ว เธอก็นึกไม่ออกว่าเป็นใคร หลังจากเจียงเย่าจิ่งเดินออกมาหลังจากอาบน้ำเสร็จ เขาก็เห็นซ่งอวิ้นอวิ้นนั่งอยู่ตรงขอบเตียง ดังนั้นเขาจึงเดินเข้ามากอดเธอแล้วนอนลงบนเตียง จากนั้นก็พลิกตัวอยู่เหนือร่างของเธอ จูบที่พร่างพรมลงมาทั้งดูดดื่มและเร่าร้อน ขณะที่บรรยากาศกำลังเป็นไปได้สวย ซวงซวงก็ร้องไห้ขึ้นมา พวกเขาทั้งสองคนต่างตะลึงงัน ซ่งอวิ้นอวิ้นเป็นฝ่ายที่มีท่าทีตอบสนองก่อนแล้วผลักเขาออกไป "ซวงซวงอาจจะหิวก็ได้" "ป้าหวู่จะป้อนเขาเอง" "แต่…" ก่อนที่เธอจะทันได้พูดให้จบประโยค เธอก็โดนจูบ สกัดกั้นคำพูดของเธอจนหมดสิ้น! ทุกสิ่งทุกอย่างพรั่งพรูออกมา! ราตีช่างแสนยาวนาน ทว่ากลับเต็มไปด้วยความรักใคร่เร่าร้อน! …… คฤหาสน์ต้นตระกูลเจียงเปิดไฟสว่างจ้า คราวนี้แผนใส่ร้ายเจียงเย่าจิ่
"ทำไมเธอยังไม่นอนอีกล่ะ?" เจียงเย่าจิ่งเดินเข้ามา "ฉันทำให้เธอตื่นหรือเปล่า?" ซ่งอวิ้นอวิ้นเอ่ยขึ้นมาว่า "เปล่าหรอก ฉันกำลังรอคุณอยู่น่ะ" เมื่อเธอพูดจบก็ลงจากเตียงแล้วเดินเข้ามากอดเขาไว้ จากนั้นก็แนบใบหน้าเข้ากับหน้าอกของเขา การเคลื่อนไหวของเธอทำให้เจียงเย่าจิ่งรู้สึกประหลาดใจเสียจนตัวแข็งทื่อไปชั่วขณะ จากนั้นเขาก็ยิ้มพลางถามว่า "เธอเป็นอะไรไปน่ะ?" ซ่งอวิ้นอวิ้นบอกว่าไม่มีอะไร "ฉันก็แค่อยากจะกอดคุณ" เจียงเย่าจิ่งก้มมองเธอ "ปล่อยก่อนเถอะ เดี๋ยวฉันไปอาบน้ำแล้วเธอค่อยมากอดก็ได้ ตอนนี้ฉันสกปรกจะแย่" ซ่งอวิ้นอวิ้นไม่ยอมปล่อยแล้วกอดเขาให้แน่นขึ้น ร่างกายของทั้งสองคนบดเบียดเข้าหากันอย่างแนบแน่น เจียงเย่าจิ่งถามเสียงเบาว่า "เธอเป็นอะไรไป?" ทำไมถึงรู้สึกว่าเธอไม่ปกติเลยล่ะ? ซ่งอวิ้นอวิ้นลูบหน้าอกของเขา "นับจากนี้เป็นต้นไป ไม่ว่าอยู่ที่ไหนฉันก็จะเป็นบ้านให้คุณเอง ฉันจะรักคุณให้มาก ๆ" เจียงเย่าจิ่งหลุบตาลง ท่ามกลางแสงสลัวรางเลือน เขายังมองเห็นประกายในดวงตาของเธอและเนื้อตัวที่สั่นระริกอยู่บ้าง น้ำเสียงทุ้มของเขาปะปนความแหบพร่าเล็กน้อย "ซ่งอวิ้นอวิ้น วันนี้เธอเป็นอะไรไปกันแน
เมื่อกลับมาถึงบ้าน เธอก็ล้างมือแล้วไปหาซวงซวง เห็นเพียงป้าหวู่ที่กำลังอุ้มเขาอยู่ "ป้าหวู่" เธอรู้สึกประหลาดใจนัก ป้าหวู่ยิ้มแล้วพูดว่า "คุณผู้ชายบอกให้ป้ามาที่นี่ เพราะไม่มีใครคอยจัดการเรื่องต่าง ๆ เลยค่ะ" เจียงเย่าจิ่งเป็นห่วงเรื่องตามหาตัวคนแปลกหน้า ดังนั้นเขาจึงเรียกป้าหวู่ให้มาที่นี่ ซ่งอวิ้นอวิ้นดีใจที่ได้ยินว่าป้าหวู่มาที่นี่ เพราะก่อนหน้านี้ตอนที่อยู่ในคฤหาสน์ ป้าหวู่ดีกับเธอมากทีเดียว เธอเป็นคนจิตใจดี "มีป้าหวู่อยู่ที่นี่ ฉันรู้สึกเบาใจขึ้นเยอะเลยค่ะ" ซ่งอวิ้นอวิ้นเอ่ยพลางยิ้มให้ เธอรับซวงซวงมาจากอ้อมแขนของป้าหวู่ จากนั้นเขาก็ตื่นขึ้นมาพอดี ทันใดนั้นใบหน้าเล็ก ๆ ก็ยับย่น ซ่งอวิ้นอวิ้นรู้ว่าเขาคงจะอึเป็นแน่ ดังนั้นเธอจึงบีบจมูกน้อย ๆ ของเขา "เหม็นหรือเปล่าจ๊ะ?" ป้าหวู่จึงพูดว่า "เดี๋ยวป้าเปลี่ยนผ้าอ้อมให้เองค่ะ" ซ่งอวิ้นอวิ้นอยากจะทำเอง เธอรู้สึกว่าตนเองติดค้างลูกชายมาโดยตลอด เพราะเธอไม่มีเวลาดูแลเขานัก ตอนนี้เธอมีเวลาแล้ว "งั้นป้าจะเอาน้ำมาให้นะคะ" ซ่งอวิ้นอวิ้นตอบตกลงแล้ววางซวงซวงลงไป เธอทิ้งผ้าอ้อมที่ใช้แล้วลงถังขยะ จากนั้นก็หยิบกระดาษมาเช็ดก้นของ
ซ่งรุ่ยเจี๋ยรีบกลบเกลื่อนว่า "ไม่มีอะไรหรอก..." "จริงเหรอ?" ซ่งอวิ้นอวิ้นยื่นน้ำที่รินแล้วให้เขา น้ำเสียงของเธอบ่งบอกว่าไม่เชื่ออยู่ชัด ๆ ซ่งรุ่ยเจี๋ยหลบสายตาแล้วรีบหาข้ออ้างขึ้นมาว่า "เป็นเรื่องในบริษัทน่ะ ส่วนเรื่องเมื่อคราวก่อนก็แก้ปัญหาได้แล้ว" ซ่งอวิ้นอวิ้นพยักหน้า "นายรับมือได้ดี" "แต่วิธีการก็เป็นความคิดของพี่อยู่ดี" ซ่งรุ่ยเจี๋ยเอ่ยขึ้น เขารู้สึกอิจฉาอยู่บ้าง เขาต้องยอมรับว่าซ่งลี่เฉิงช่างมีสายตาแหลมคม ถึงให้ซ่งอวิ้นอวิ้นมาดูแลบริษัท ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ถนัด แต่เธอก็เรียนรู้หลาย ๆ สิ่งได้รวดเร็ว! "ฉันแก่กว่านายไม่กี่ปี ฉันถึงต้องใคร่ครวญให้มากหน่อย อีกไม่กี่ปีนายน่าจะล้ำหน้าฉันไปแล้ว" ซ่งอวิ้นอวิ้นพูดให้กำลังใจ อันที่จริงแล้ว นับตั้งแต่ซ่งลี่เฉิงตายไป ซ่งรุ่ยเจี๋ยก็เป็นผู้ใหญ่ขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก ซ่งรุ่ยเจี๋ยแทบไม่เผยรอยยิ้มขึ้นบนใบหน้า "ผมไม่เป็นไรหรอก พี่น่าจะกลับไปดูแลซวงซวงก่อนนะ" ซ่งรุ่ยเจี๋ยเอ่ยขึ้น "ได้ ถ้านายมีเรื่องอะไรก็ติดต่อฉันได้ตลอดนะ" ซ่งอวิ้นอวิ้นลุกขึ้น "อย่าลืมดื่มน้ำล่ะ" ซ่งรุ่ยเจี๋ยรีบยื่นมือข้างที่ไม่ได้รับบาดเจ็บมายกถ้วยชาขึ้นมา "ผมไม่ลื