ซ่งอวิ้นอวิ้นคิดไม่ถึงว่าหานซินจะพูดคำเหล่านี้ จึงเข้าไปกอดหานซินจากทางข้างหลัง “แม่ ขอบคุณนะคะ”หานซินยิ้มแล้วลูบหลังมือเธอ “เด็กโง่ กับแม่ยังต้องเกรงใจอีกเหรอ? แม่เป็นแม่ของลูกนะ ก็ต้องหวังให้ลูกมีชีวิตที่ดีอยู่แล้ว”เธอกระซิบที่หูของลูกสาว “แม่ไม่ได้ตาบอดนะ เห็นพวกลูกสองคน…”ซ่งอวิ้นอวิ้นเขินเล็กน้อย แล้วพูดอย่างงอน ๆ “แม่”“เอาล่ะ ๆ แม่ไม่พูดแล้ว” เธอพูดอย่างจริงใจ “ขอแค่ลูกมีความสุขก็พอแล้ว”ซ่งอวิ้นอวิ้นพูดเสียงหนักแน่น “แม่ วางใจได้”หานซินหัวเราะ “เอาล่ะ แม่จะไปทำกับข้าวแล้ว”ซ่งอวิ้นอวิ้นปล่อยอ้อมกอดจากแม่แล้วเดินไปที่โซฟาเจียงเย่าจิ่งไม่ได้อุ้มซวงซวงขึ้นมา เขานั่งอยู่ข้าง ๆ แล้วก้มหน้ามองลูกดวงตากลมโตของซวงซวงกลอกไปมาแล้วกะพริบตามองเขาดูแปลก ๆ ไม่ร้องไม่งอแงเลย นอนอย่างไร้เดียงสาเจียงเย่าจิ่งก้มหน้ามองเขาซ่งอวิ้นอวิ้นเทน้ำมาหนึ่งแก้ว “มองอะไรอยู่เหรอ?”เจียงเย่าจิ่งไม่ได้หันไปมอง เพียงแค่ถามออกไป “เธออยากจะเป็นหมอต่อ หรืออยากจะเรียนเกี่ยวกับธุรกิจไหม?”ซ่งอวิ้นอวิ้นนั่งลงบนโซฟา สายตาของเธอก็ค่อย ๆ มองไปที่ซวงซวง ความฝันของเธอคือการเป็นหมอที่ยอดเยี่ยม ถึงแม้
“เธอเป็นมหาเศรษฐี” เจียงเย่าจิ่งยิ้มแล้วพูดหานซินนั่งมองพวกเขาจากโต๊ะอาหาร มุมปากก็ยกขึ้นยิ้มเธอปลื้มใจ ในที่สุดลูกสาวของเธอก็มีความสุข ซวงซวงก็มีครอบครัวที่สมบูรณ์ ใจของเธอก็มีความสุขไปด้วย“พวกลูกรีบ ๆ มาเถอะ” หานซินเร่ง ถ้าอาหารเย็นแล้วมันจะไม่อร่อยเจียงเย่าจิ่งพูดขึ้น “สืบเรื่องของซ่งรุ่ยเจี๋ยเจอแล้ว ต้องรีบติดต่อฉันอย่างรวดเร็ว”เสียงฝั่งนั้นตอบรับ เขาก็วางสาย แล้วเดินไปพร้อมกับซ่งอวิ้นอวิ้นเป็นเพราะซวงซวงหลับไปแล้ว พวกเขาก็เลยสามารถนั่งทานข้าวได้“ฉันไม่รู้ว่าคุณชอบทานรสชาติแบบไหน ก็เลยทำมาแบบง่าย ๆ คุณไม่ต้องเกรงใจนะ” หานซินตักซุปให้เจียงเย่าจิ่งถ้วยหนึ่งแม่ยายมีความสุขมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อได้เห็นลูกเขยของเธอชอบ!เจียงเย่าจิ่งไม่ได้ปรับตัวอะไรมาก บรรยากาศวันนี้กลับทำให้เขา รู้สึกเหมือนกลับมาอยู่ที่บ้านหลังจากที่ไม่ได้กลับมานาน“รอให้ผมกับซ่งอวิ้นอวิ้นจดทะเบียนกัน อยากให้คุณหาฤกษ์ดีมาให้พวกเรา ผมอยากจะจัดงานแต่งงานให้เธอ” นี่เป็นการขออนุญาตจากผู้ใหญ่ แล้วก็ยังเป็นการยืนยันและให้ซ่งอวิ้นอวิ้นได้ตัดสินใจหานซินไม่คิดว่าเขาจะพูดอะไรแบบนี้ ก่อนหน้านี้งานแต่งของพวกเขา
ซ่งอวิ้นอวิ้นขมวคิ้ว“เหมือนฉันจะเห็นซ่งรุ่ยเจี๋ย”เจียงเย่าจิ่งมองไป ก็ไม่เห็นอะไร“เธอตาฝาดหรือเปล่า?” เจียงเย่าจิ่งถามซ่งอวิ้นอวิ้นส่ายหัว “ไม่น่าจะใช่นะ”เธอมองไม่ผิดแน่ เมื่อกี้เห้นได้ชัดว่าเป็นซ่งรุ่ยเจี๋ยวันนี้ตอนโทรหาเขา น้ำเสียงของเขาดูกังวล เมื้อกี้เขาก็ทำตัวลับ ๆ ล่อ ๆ ดูไม่ปกติอย่างเห็นได้ชัด!“ฉันเพิ่งให้ฮั่วซุนสืบให้ ถ้าเกิดเขาอยู่ที่บริษัทจะทำเรื่องอะไรกัน อีกไม่นานก็น่าจะรู้แล้ว” เจียงเย่าจิ่งโอบไหล่เธอไว้ แล้วพูด “อย่ามองเลย พวกเราไปกันเถอะ”ซ่งอวิ้นอวิ้นพยักหน้า แต่ในใจกลับรู้สึกไม่มั่นใจเลย!ไม่นานลางสังหรณ์ที่ไม่ดีก็เป็นจริงฮั่วซุนตรวจสอบดูแล้ว เรื่องที่เกิดขึ้นบนเรือนั้นซ่งรุ่ยเจี๋ยเป็นคนเปิดเผยให้กับสื่อได้รู้ซ่งอวิ้นอวิ้นไม่อยากจะเชื่อมากนัก “ทำไมถึงเป็นเขา?”“ไม่มีเหตุผลอะไรที่เขาต้องทำแบบนี้นะ?”แต่ช่วงนี้ซ่งรุ่ยเจี๋ยนั้นดูแปลก ๆ ไป ยิ่งเห็นได้ชัดว่าเขามีเรื่องอะไรอยู่“คุณหาเจอหรือยัง? ช่วงนี้เขาทำอะไรอยู่?” ซ่งอวิ้นอวิ้นถามฮั่วซุนฮั่วซุนพูด “ผมหาแล้วครับ ไม่เจออะไรที่ผิดปกติ”“แปลกจัง” ซ่งอวิ้นอวิ้นขมวดคิ้วครืด ครืด…จู่ ๆ โทรศัพท์ของซ
ซวงซวงที่อยู่ในอ้อมกอดของซ่งอวิ้นอวิ้นนั้นไม่นิ่งเลย แขนทั้งสองข้างปัดป่ายไปมา บางทีก็สะอื้น เหมือนจะร้องไห้ แต่ก็ไม่ได้ร้องออกมามองดูท่าทางของเขาก็รู้ ว่าเขาไม่สบาย ถึงได้เป็นแบบนี้ซ่งอวิ้นอวิ้นหอมแก้มเขาอย่างเจ็บใจ แล้วถามหานซิน “แม่รู้เมื่อไหร่ว่าเขาไม่สบาย?”หานซินตอบกลับ “ก่อนจะโทรหาลูก”ซ่งอวิ้นอวิ้นพยักหน้าตอนนี้รอแค่ผลการตรวจเท่านั้นในตอนนี้ ซ่งอวิ้นอวิ้นอุ้มซวงซวงเดินไปที่เงียบสงบมีคนน้อย หวังว่าบรรยากาศรอบ ๆ จะทำให้เขาสบายขึ้นแต่ซวงซวงกลับรู้สึกไม่สบาย ก็ร้องไห้ขึ้นอีกเขายังเด็กอยู่ ไม่สบายก็พูดอะไรไม่ได้ ทำได้แค่ร้องไห้ออกมาซ่งอวิ้นอวิ้นรู้ว่าเขาไม่สบายเธอบอกกับหานซิน “ฉันจะอุ้มซวงซวงไปเดินรอบ ๆ แม่รอรับผลตรวจอยู่ตรงนี้นะคะ”หานซินพยักหน้า อีกทั้งยังเร่ง “แม่รู้แล้ว ลูกไปเถอะ”ซ่งอวิ้นอวิ้นอุ้มซวงซวงออกไปจากห้องตรวจ เพราะซวงซวงยังเล็ก ไม่สามารถแสดงออกมาได้ว่าตัวเองนั้นไม่สบาย แค่หาสาเหตุของที่ไม่สบายได้ผลตรวจฝั้งนี้ก็ผลตรวจก็ออกมาแล้ว ฝั่งนั้นตอนนี้ผลตรวจเลือดก็ออกมาแล้วเช่นกัน หานซินรีบไปรับมาซ่งอวิ้นอวิ้นดูคนแรก จากนั้นสีหน้าก็เปลี่ยนไปอยากจะคาดเดา
“ฉันได้ยินมาว่าซวงซวงไม่สบาย ตอนนี้ดีขึ้นหรือยัง?” ซ่งรุ่ยเจี๋ยถามซ่งอวิ้นอวิ้นทำเป็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น น้ำเสียงก็อ่อนโยน “นายฟังมาจากใครว่าซวงซวงไม่สบาย?”ซ่งรุ่ยเจี๋ยตอบกลับ “ผมได้ยินป้าหานซินบอก”ซ่งอวิ้นอวิ้นทำน้ำเสียงตกใจ “แม่ฉัน?”จู่ ๆ เธอก็คิดวิธีออก ก็เลยทำเป็นเปิดเผยข้อบกพร่องของตัวเองเมื่อซ่งรุ่ยเจี่ยได้ฟังคำของเธอ ก็ถามขึ้น “เกิดเรื่องกับซวงซวงจริง ๆ เหรอ?”สายตาเธอเย็นชา แววตาดุเดือด เธอแปลกใจที่ซ่งรุ่ยเจี๋ยกับไป๋ซิ่วฮุ่ยไม่เหมือนกันตัวเองพยายามกล่อมเกลาเขาดูแลความรู้สึกของเขา คิดอยากจะให้เขาเป็นคนในครอบครัวแต่ไม่คิดว่า…“ใช่”ซ่งรุ่ยเจี๋ยกังวล “หนักไหม?”“ตอนนี้เขาอยู่ที่โรงพยาบาล ถ้านายกังวลก็มาดูสิ” ซ่งอวิ้นอวิ้นพูด“ได้ อยู่โรงพยาบาลไหน? ผมจะไปเดี๋ยวนี้เลย”ซ่งอวิ้นอวิ้นบอกที่อยู่ให้กับเขา หลังจากวางสายเธอก็รีบโทรหาเจียงเย่าจิ่ง“ฮัลโหล”“ฉันเองนะ หาคนที่มีฝีมือดี ๆ มาให้ฉันหน่อยได้ไหม?”เจียงเย่าจิ่งถามอย่างกังวล “เกิดอะไรขึ้น?”“คุณส่งมาได้ไหม?” ซ่งอวิ้นอวิ้นไม่ได้พูดถึงเรื่องที่เกิดกับซวงซวง แต่ก็ไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังเขา เพราะมันเป็นเรื่อง
คนของเจียงเย่าจิ่ง เธอก็ต้องไว้ใจอยู่แล้วเธอเพิ่งเดินถึงลิฟต์ พอดีกับที่ซ่งรุ่ยเจี๋ยมาถึงท่าทางของเขาดูรีบร้อน “ซวงซวงอยู่ไหนเหรอ? ฉันจะไปดู เขาเป็นยังไงบ้าง? ดีขึ้นไหม?”ซ่งอวิ้นอวิ้นมองหน้าเขานิ่ง ๆ คิดอยากจะมองหน้าเขาเพื่อดูความล้มเหลว อีกทั้งท่าทางที่ดูกังวลของเขานั้นมันคือเรื่องจริงหรือแกล้งทำไม่รู้ว่าซ่งรุ่ยเจี๋ยจะแกล้งเก่งขนาดนี้ หรือแสดงเก่งมาก ๆ เธอถึงได้มองข้อบกพร่องไม่ออกเลย!“รุ่ยเจี๋ย นายมากับฉัน” เธอเดินเข้าไปในลิฟต์ กดปุ่มไปที่ชั้นถัดไปซ่งรุ่ยเจี๋ยถาม “พี่เรียกผมมามีธุระเหรอ?”ซ่งอวิ้นอวิ้นตอบไปรับไปอย่างเรียบ ๆ “มีเรื่องอะไร?” ซ่งรุ่ยเจี๋ยถามซ่งอวิ้นอวิ้นพูด “เดี๋ยวค่อยคุย”ซ่งรุ่ยเจี๋ยอ้ำอึ่ง แต่ไม่ได้ถามอะไรไปลิฟต์หยุดลง ซ่งอวิ้นอวิ้นเดินออกจากลิฟต์เป็นคนแรก เดินไปที่สวนหย่อมหลังโรงพยาบาล ข้างในมีป่าอยู่ ซ่งอวิ้นอวิ้นพาเขาเดินเข้าไป“พี่ พี่พาผมมาที่นี่ทำไมเนี่ย?” ซ่งรุ่ยเจี๋ยถามอย่างไม่เข้าใจรอบ ๆ ไม่มีคนเลย ซ่งอวิ้นอวิ้นตอบกลับไป “ฉันอยากจะถามนาย นายแน่ใจเหรอว่าแม่ของฉันบอกนายเรื่องที่ซวงซวงไม่สบาย?”ซ่งรุ่ยเจี๋ยคิดไม่ถึงว่าเธอจะถามคำถามนี้ สีห
“ฉันไม่อยากได้ยินคำพวกนี้!” ซ่งอวิ้นอวิ้นเอาแต่ขัดจังหวะ “พูดมาสิ นายมีปมอะไรในใจกับฉัน หรือนายถูกสั่งมา?”ซ่งรุ่ยเจี๋ยเอาแต่ส่ายหน้า “ผมยอมรับพี่แล้ว ไม่มีปมในใจอะไรกับพี่จริง ๆ ผม… ผมถูกคนข่มขู่”“ใครข่มขู่นาย?” ซ่งอวิ้นอวิ้นถามอย่างรวดเร็วในขณะที่ซ่งรุ่ยเจี๋ยหยิบโทรศัพท์ก็พูดไปด้วย “ผมก็ไม่รู้ว่าฝ่ายตรงข้ามเป็นใคร มีแค่ข้องความที่ไม่มีชื่อ ผมหาร่องรอยของฝ่ายตรงข้ามไม่เจอเลย” เขาเอาโทรศัพท์ให้ซ่งอวิ้นอวิ้นดู “พี่ดูสิ”ซ่งอวิ้นอวิ้นเหลือบมองเขา แล้วก็ขมวดคิ้ว “แม่นายอยู่ในคุกไม่ใช่เหรอ?”“ผมไปดูมาแล้ว จริง ๆ ไม่ได้อยู่แล้ว แต่ก็ไม่รู้ว่าข้อความที่ส่งมาให้ผมเป็นใครกัน อีกอย่างไอดีที่ใช้ส่งข้อความมาให้ผมก็ต้องใส่รหัส ผมหาอะไรไม่เจอเลย” ในตอนนี้ซ่งรุ่ยเจี๋ยปิดบังไว้ไม่ได้แล้ว ทำได้แค่บอกไปตามตรง “พวกเขาใช้ชีวิตของแม่มาข่มขู่ผม ผมอดไม่ได้ที่จะ…”ซ่งอวิ้นอวิ้นพูดต่อ “ดังนั้น พวกเขาก็เลยให้นายทำร้ายซวงซวงเหรอ?”ซ่งรุ่ยเจี๋ยพยักหน้า “พวกเขาส่งยามาให้ พวกเขาทำเหมือนที่ส่งข้อความมาให้ผม ผมแน่ใจ ถึงแม้พวกเขาไม่ได้บอกว่ายาตัวนี้มีผลอะไรกับซวงซวง แต่ผมก็มั่นใจว่าไม่ใช่สิ่งที่ดีเลย ผมก็เลย
ซ่งอวิ้นอวิ้นรู้สึกกังวลขึ้นมาอยู่ดี ๆ เขาก็โผล่มา!ซ่งอวิ้นอวิ้นแสดงสีหน้าเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วยิ้ม “คุณมาได้ยังไงคะ?”เจียงเย่าจิ่งเงยหน้าขึ้น ใบหน้าไม่แสดงอะไรออกมา นิ่งมาก ๆ “เธอไปไหนมา?”“ฉัน… มีเรื่องต้องจัดการนิดหน่อย” ซ่งอวิ้นอวิ้นตอบไปที เธอตั้งใจไม่สบตากับเจียงเย่าจิ่ง แล้วเดินไปที่โต๊ะพลางเทน้ำมาหนึ่งแก้ว เธอยกน้ำขึ้นดื่มเพื่อปกปิดการกระทำของเธอ “คุณยังไม่ได้บอกเลยว่าคุณมาได้ยังไง”เสียงของเจียงเย่าจิ่งเย็นชา “ลูกชายของฉันไม่สบาย ฉันไม่ควรมาดูเหรอ?”ซ่งอวิ้นอวิ้นรู้สึกผิด เจียงเย่าจิ่งจ้องมองเธอสักพัก แต่เธอก็ไม่ได้เปิดเผยอะไรออกมาในใจเขาก็เริ่มโกรธลูกของพวกเขาทั้งคนตอนนี้ซวงซวงถูกทำร้าย เธอกลับปิดบังตนเอง เธอไม่ไว้ใจเขาเหรอ? หรือเป็นเพราะอย่างอื่น?“ฉันจะพาซวงซวงไป” เจียงเย่าจิ่งพูดซ่งอวิ้นอวิ้นเงยหน้าขึ้นอย่างกล้าหาญ “คุณมีสิทธิ์อะไร?”“สิทธิ์ที่เขาเป็นลูกชายของฉัน”“ลูกชายของคุณ ก็เป็นฉันที่คลอดออกมา ถ้าฉันไม่คลอดออกมาคุณจะมีลูกเหรอ?” ซ่งอวิ้นอวิ้นสวนกลับไปเจียงเย่าจิ่งจ้องเธอเขม็ง เงียบไปสักพัก แล้วค่อย ๆ เปิดปากพูด “ไม่มีฉัน เธอจะคลอดเขาม
เจียงเย่าจิ่งรีบเดินออกไปโดยไม่ลังเลสักนิด! เบื้องหลังของเขาคือเสียงร้องไห้ด้วยความเจ็บปวดรวดร้าวของหยางเชี่ยนเชี่ยน ฮั่วซุนรู้สึกสับสน เจียงเย่าจิ่งไม่ใช่คนโหดเหี้ยมแบบนั้น โดยเฉพาะคนที่เคยช่วยชีวิตเขาไว้ เขาไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่นัก "คุณเจียงครับ?" เจียงเย่าจิ่งชะงักมือที่กำลังจะเปิดประตูรถแล้วพูดว่า "ไปบอกมู่ฉินว่าฉันจะไม่เข้าไปยุ่งเรื่องของลูกชายเธออีก" เมื่อสักครู่นี้เขาไม่แยแส เพราะคิดว่านี่อาจจะเป็นการแสดงละครตบตาของมู่ฉินกับหยางเชี่ยนเชี่ยน นี่เป็นการแสดงละครตบตากันชัด ๆ เพียงแต่มู่ฉินให้สัญญากับหยางเชี่ยนเชี่ยนว่าเธอจะไม่ถูกข่มขืน นั่นเป็นแค่คำหวานของเธอเท่านั้น เธอรู้ว่าการจะทำให้เจียงเย่าจิ่งเชื่อนั้น ลำพังแค่การแสดงละครตบตาย่อมหลอกเขาไม่ได้ ดังนั้นตั้งแต่ตอนที่หยางเชี่ยนเชี่ยนตอบตกลงที่จะเล่นละครฉากนี้กับมู่ฉิน เธอก็ถูกลิขิตให้ต้องเสียความบริสุทธิ์แล้ว! ฮั่วซุนพยักหน้าอยู่เงียบ ๆ จากนั้นเขาก็รีบกลับไป ดูเหมือนว่าเขาจะมาช้าเกินไปเสียแล้ว น้ำเสียงของหยางเชี่ยนเชี่ยนฟังดูน่าสลดใจ แต่อย่างไรเสียเขาก็ต้องนำความมาบอกกล่าว มู่ฉินยิ้มราวกับคาดเอาไว้แล
ฮั่วซุนไม่มีทางเลือกนอกจากบอกเจียงเย่าจิ่ง เจียงเย่าจิ่งชะงักแล้วหันมามองฮั่วซุน "นายว่ายังไงนะ?" ฮั่วซุนทวนคำอีกครั้งแล้วพูดว่า "เขาคิดจะจับตัวหยางเชี่ยนเชี่ยน ทำยังไงดีครับ?" เจียงเย่าจิ่งยื่น "เอาโทรศัพท์มาให้ฉัน" เขาตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า "คุณคิดจะทำอะไรกันแน่?" มู่ฉินพูดตรงเข้าประเด็น "ฉันได้ยินมาว่าตอนที่เธอตกน้ำ หยางเชี่ยนเชี่ยนช่วยเธอไว้ใช่ไหมล่ะ? ถ้าตอนนั้นเธอจมน้ำไปซะ ตอนนี้ทุกสิ่งทุกอย่างก็เป็นของลูกชายฉันแล้ว เป็นหล่อนที่ทำลายเรื่องดี ๆ ของฉัน เธอคิดว่าฉันจะปล่อยหล่อนไปงั้นเหรอ?" "ต้องการอะไรก็ว่ามา" เจียงเย่าจิ่งพูดตามตรง "เอาล่ะ ในเมื่อเธอตรงไปตรงมาขนาดนั้น ฉันก็จะไม่พูดจาอ้อมค้อมกับเธออีก หยางเชี่ยนเชี่ยนเป็นผู้มีพระคุณของเธอใช่ไหมล่ะ? ฉันขอแลกเธอกับลูกชายของฉันว่ายังไงล่ะ?" มู่ฉินเอ่ยขึ้น หลังจากได้พบหยางเชี่ยนเชี่ยน เธอก็รู้ว่าหยางเชี่ยนเชี่ยนชอบเจียงเย่าจิ่ง ดังนั้นตอนนี้ทั้งสองคนจึงบรรลุข้อตกลงร่วมกัน ตอนที่กำลังดำเนินแผนการครั้งนี้ มู่ฉินคิดว่าเธอสามารถใช้เหตุการณ์ครั้งนี้มาแลกเปลี่ยนเพื่อให้เจียงเย่าจิ่งยอมปล่อยลูกชายของเธอไป "ลูกชายของคุณไม่ไ
เมื่อซ่งรุ่ยเจี๋ยได้ยินเสียง เขาก็รีบซ่อนโทรศัพท์มือถือเอาไว้ใต้ผ้าห่ม เขาเคลื่อนไหวรวดเร็วเสียจนทั้งซ่งอวิ้นอวิ้นหรือหานซินก็ไม่ทันสังเกตเห็นความผิดปกติของเขา! หานซินวางอาหารเอาไว้บนโต๊ะข้างเตียง "เธอหิวหรือยัง? รีบมากินอาหารเช้าเถอะ" เมื่อหานซินพูดจบ เธอก็ค่อย ๆ หยิบอาหารที่เตรียมไว้ออกมา "ผมไม่อยากกิน ผมอยากอยู่คนเดียว" ทั้งสีหน้าและน้ำเสียงของซ่งรุ่ยเจี๋ยฉายแววเย็นชา ไม่ได้แสดงความเสียใจออกมานัก หานซินคิดจะเกลี้ยกล่อม แต่ซ่งอวิ้นอวิ้นเอ่ยขัดจังหวะหานซินได้ทันเวลา "แม่คะ ให้เขาอยู่คนเดียวสักพักเถอะ" หานซินกล้ำกลืนคำพูดเกลี้ยกล่อมกลับลงไปแล้วเอ่ยขึ้นมาว่า "อาหารอยู่ตรงนี้นะ เธอหิวเมื่อไหร่ก็มากินล่ะ" ซ่งรุ่ยเจี๋ยไม่พูดอะไร หานซินอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ "เฮ้อ" "พอเถอะค่ะ" ซ่งอวิ้นอวิ้นดึงตตัวหานซินออกไป "รุ่ยเจี๋ย นายก็พักผ่อนด้วยนะ" ซ่งอวิ้นอวิ้นปิดประตูห้องพักผู้ป่วยแล้วบอกหานซินวว่า "รุ่ยเจี๋ยต้องการเวลาทำใจ เขากินอะไรไม่ลงหรอกค่ะ อย่าไปเกลี้ยกล่อมเขาเลย ไป๋ซิ่วฮุ่ยเป็นแม่ของเขา เขาคงรับไม่ได้ไปสักพัก นี่เป็นเรื่องที่พอเข้าใจได้" หานซินเข้าใจแล้ว "แม่รู้ แม่เป็น
ซ่งรุ่ยเจี๋ยเงยหน้าขึ้นแล้วถามว่า "พี่มาแต่เช้าขนาดนั้น คงรู้เรื่องนั้นแล้วใช่ไหม?" ซ่งอวิ้นอวิ้นไม่ได้ปิดบัง "ใช่" แววตาที่ไร้ชีวิตชีวาของซ่งรุ่ยเจี๋ย มองไปทางอื่นโดยไร้จุดมุ่งหมาย "ตำรวจมาถามเรื่องเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แล้วถามว่าผมได้เจอแม่หรือเปล่า" ซ่งอวิ้นอวิ้นฟังอยู่เงียบ ๆ ที่จริงเขารู้แก่ใจว่าเมื่อไป๋ซิ่วฮุ่ยถูกใครสักคนพาตัวออกไปก็หมดทางรอดแล้ว "นายต้องดูแลตัวเองให้ดี ๆ นะ" ซ่งอวิ้นอวิ้นไม่รู้ว่าจะปลอบใจเขาอย่างไรดี ซ่งรุ่ยเจี๋ยเงยหน้าขึ้น "แม่ผมตายเมื่อคืนนี้ พี่รู้เรื่องเร็วขนาดนั้นได้ยังไงกัน?" "ฉัน..." พอนึกถึงสิ่งที่เจียงเย่าจิ่งพูด เธอก็เปลี่ยนเปลี่ยนคำพูดเป็น "ฉันเพิ่งจะได้ยินตำรวจพูดถึงรู้น่ะสิ" "อ้อ" ซ่งรุ่ยเจี๋ยรู้ว่าเธอกำลังโกหกอยู่ชัด ๆ เธอกำลังปิดบังอะไรสักอย่างใช่ไหม? ทำไมต้องปิดบังด้วยเล่า? เพราะเธอรู้ว่าคนที่ฆ่าแม่ของเขาคือเจียงเย่าจิ่งอย่างนั้นเหรอ? ทำไมเธอไม่พูดอะไรเลยล่ะ? ตั้งใจที่จะปิดบังไม่ให้เขารู้ใช่ไหม? เขากำหมัดที่อยู่ใต้ผ้าห่มแน่น พลางรู้สึกหนาวเหน็บอยู่ในใจ "ผมเสียใจด้วยนะ" ซ่งอวิ้นอวิ้นเอ่ยเสียงเบา ซ่งรุ่ยเจี๋ยยิ้มเหยีย
พ่อบ้านเฉียนรวบรวมคำพูดแล้วเอ่ยขึ้นมาว่า "ตอนนี้นายน้อยไม่มีอะไรต้องกังวล ดังนั้นเขาจึงประชันหน้ากับพวกเราได้เต็มที่ แต่ถ้าหลังบ้านเกิดไฟลุกไหม้ เขาก็จะเสียสมาธิแล้วพวกเราก็จะมีโอกาสขึ้นมา" "โอ้ พ่อบ้านเฉียนพูดถูก" มู่ฉินเห็นด้วยยิ่งนัก เธอถองข้อศอกใส่สามีตัวเอง "พูดอะไรบ้างสิ" เจียงอวี้จึงเอ่ยขึ้นมาว่า "เป็นความคิดที่ดีอยู่หรอก แต่… พวกเราจะจุดไฟหลังบ้านเจียงเย่าจิ่งได้ยังไงล่ะ นั่นต่างหากที่เป็นประเด็นสำคัญไม่ใช่รึไง?" นายท่านเจียงยังคงเงียบ เพราะเหตุผลเดียวกันนี้ ตอนนี้ดูเหมือนว่าเจียงเย่าจิ่งกับซ่งอวิ้นอวิ้นจะมีความสัมพันธ์ที่ดี ประกอบกับมีลูกเพิ่มเข้ามา ยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองคนแนบแน่นขึ้นไปอีก "ไม่เห็นจะยากเลย พวกเราก็แค่หว่านเมล็ดพันธุ์แห่งความขัดแย้งลงไปท่ามกลางความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งสองคนเสียก็ใช้ได้แล้วไม่ใช่เหรอ?" ถึงแม้ว่ามู่ฉินจะย่างเข้าวัยกลางคนแล้ว แต่เสน่ห์ของเธอก็ยังคงอยู่ ประกอบกับการดูแลตัวเองเป็นอย่างดี ทำให้ยากจะมองอายุที่แท้จริงของเธอออก เธอกลอกตาดำขลับ "ระหว่างผู้ชายกับผู้หญิง มือที่สามถือว่าเป็นเรื่องต้องห้ามที่สุดเลยเชียวล่ะ ถ้ามีมือที
ซ่งอวิ้นอวิ้นไม่ได้รีบเข้านอนทันที แต่กลับไปหาซวงซวง ป้าหวู่พาซวงซวงเข้านอนแล้ว แต่เธอก็ยังอยากตรวจสอบดูให้แน่ใจ ตอนนี้ซวงซวงหลับลึกไปแล้ว ดังนั้นเธอจึงย่องเบาออกมา เมื่อกลับมาที่ห้องนอน เธอก็นั่งตรงขอบเตียง แต่กลับไม่รู้สึกง่วงอีกต่อไป เธอกุมศีรษะแล้วครุ่นคิดถึงเรื่องนั้น นอกจากหลินหรุ่ยกับตระกูลเจียงแล้ว เธอก็นึกไม่ออกว่าเป็นใคร หลังจากเจียงเย่าจิ่งเดินออกมาหลังจากอาบน้ำเสร็จ เขาก็เห็นซ่งอวิ้นอวิ้นนั่งอยู่ตรงขอบเตียง ดังนั้นเขาจึงเดินเข้ามากอดเธอแล้วนอนลงบนเตียง จากนั้นก็พลิกตัวอยู่เหนือร่างของเธอ จูบที่พร่างพรมลงมาทั้งดูดดื่มและเร่าร้อน ขณะที่บรรยากาศกำลังเป็นไปได้สวย ซวงซวงก็ร้องไห้ขึ้นมา พวกเขาทั้งสองคนต่างตะลึงงัน ซ่งอวิ้นอวิ้นเป็นฝ่ายที่มีท่าทีตอบสนองก่อนแล้วผลักเขาออกไป "ซวงซวงอาจจะหิวก็ได้" "ป้าหวู่จะป้อนเขาเอง" "แต่…" ก่อนที่เธอจะทันได้พูดให้จบประโยค เธอก็โดนจูบ สกัดกั้นคำพูดของเธอจนหมดสิ้น! ทุกสิ่งทุกอย่างพรั่งพรูออกมา! ราตีช่างแสนยาวนาน ทว่ากลับเต็มไปด้วยความรักใคร่เร่าร้อน! …… คฤหาสน์ต้นตระกูลเจียงเปิดไฟสว่างจ้า คราวนี้แผนใส่ร้ายเจียงเย่าจิ่
"ทำไมเธอยังไม่นอนอีกล่ะ?" เจียงเย่าจิ่งเดินเข้ามา "ฉันทำให้เธอตื่นหรือเปล่า?" ซ่งอวิ้นอวิ้นเอ่ยขึ้นมาว่า "เปล่าหรอก ฉันกำลังรอคุณอยู่น่ะ" เมื่อเธอพูดจบก็ลงจากเตียงแล้วเดินเข้ามากอดเขาไว้ จากนั้นก็แนบใบหน้าเข้ากับหน้าอกของเขา การเคลื่อนไหวของเธอทำให้เจียงเย่าจิ่งรู้สึกประหลาดใจเสียจนตัวแข็งทื่อไปชั่วขณะ จากนั้นเขาก็ยิ้มพลางถามว่า "เธอเป็นอะไรไปน่ะ?" ซ่งอวิ้นอวิ้นบอกว่าไม่มีอะไร "ฉันก็แค่อยากจะกอดคุณ" เจียงเย่าจิ่งก้มมองเธอ "ปล่อยก่อนเถอะ เดี๋ยวฉันไปอาบน้ำแล้วเธอค่อยมากอดก็ได้ ตอนนี้ฉันสกปรกจะแย่" ซ่งอวิ้นอวิ้นไม่ยอมปล่อยแล้วกอดเขาให้แน่นขึ้น ร่างกายของทั้งสองคนบดเบียดเข้าหากันอย่างแนบแน่น เจียงเย่าจิ่งถามเสียงเบาว่า "เธอเป็นอะไรไป?" ทำไมถึงรู้สึกว่าเธอไม่ปกติเลยล่ะ? ซ่งอวิ้นอวิ้นลูบหน้าอกของเขา "นับจากนี้เป็นต้นไป ไม่ว่าอยู่ที่ไหนฉันก็จะเป็นบ้านให้คุณเอง ฉันจะรักคุณให้มาก ๆ" เจียงเย่าจิ่งหลุบตาลง ท่ามกลางแสงสลัวรางเลือน เขายังมองเห็นประกายในดวงตาของเธอและเนื้อตัวที่สั่นระริกอยู่บ้าง น้ำเสียงทุ้มของเขาปะปนความแหบพร่าเล็กน้อย "ซ่งอวิ้นอวิ้น วันนี้เธอเป็นอะไรไปกันแน
เมื่อกลับมาถึงบ้าน เธอก็ล้างมือแล้วไปหาซวงซวง เห็นเพียงป้าหวู่ที่กำลังอุ้มเขาอยู่ "ป้าหวู่" เธอรู้สึกประหลาดใจนัก ป้าหวู่ยิ้มแล้วพูดว่า "คุณผู้ชายบอกให้ป้ามาที่นี่ เพราะไม่มีใครคอยจัดการเรื่องต่าง ๆ เลยค่ะ" เจียงเย่าจิ่งเป็นห่วงเรื่องตามหาตัวคนแปลกหน้า ดังนั้นเขาจึงเรียกป้าหวู่ให้มาที่นี่ ซ่งอวิ้นอวิ้นดีใจที่ได้ยินว่าป้าหวู่มาที่นี่ เพราะก่อนหน้านี้ตอนที่อยู่ในคฤหาสน์ ป้าหวู่ดีกับเธอมากทีเดียว เธอเป็นคนจิตใจดี "มีป้าหวู่อยู่ที่นี่ ฉันรู้สึกเบาใจขึ้นเยอะเลยค่ะ" ซ่งอวิ้นอวิ้นเอ่ยพลางยิ้มให้ เธอรับซวงซวงมาจากอ้อมแขนของป้าหวู่ จากนั้นเขาก็ตื่นขึ้นมาพอดี ทันใดนั้นใบหน้าเล็ก ๆ ก็ยับย่น ซ่งอวิ้นอวิ้นรู้ว่าเขาคงจะอึเป็นแน่ ดังนั้นเธอจึงบีบจมูกน้อย ๆ ของเขา "เหม็นหรือเปล่าจ๊ะ?" ป้าหวู่จึงพูดว่า "เดี๋ยวป้าเปลี่ยนผ้าอ้อมให้เองค่ะ" ซ่งอวิ้นอวิ้นอยากจะทำเอง เธอรู้สึกว่าตนเองติดค้างลูกชายมาโดยตลอด เพราะเธอไม่มีเวลาดูแลเขานัก ตอนนี้เธอมีเวลาแล้ว "งั้นป้าจะเอาน้ำมาให้นะคะ" ซ่งอวิ้นอวิ้นตอบตกลงแล้ววางซวงซวงลงไป เธอทิ้งผ้าอ้อมที่ใช้แล้วลงถังขยะ จากนั้นก็หยิบกระดาษมาเช็ดก้นของ
ซ่งรุ่ยเจี๋ยรีบกลบเกลื่อนว่า "ไม่มีอะไรหรอก..." "จริงเหรอ?" ซ่งอวิ้นอวิ้นยื่นน้ำที่รินแล้วให้เขา น้ำเสียงของเธอบ่งบอกว่าไม่เชื่ออยู่ชัด ๆ ซ่งรุ่ยเจี๋ยหลบสายตาแล้วรีบหาข้ออ้างขึ้นมาว่า "เป็นเรื่องในบริษัทน่ะ ส่วนเรื่องเมื่อคราวก่อนก็แก้ปัญหาได้แล้ว" ซ่งอวิ้นอวิ้นพยักหน้า "นายรับมือได้ดี" "แต่วิธีการก็เป็นความคิดของพี่อยู่ดี" ซ่งรุ่ยเจี๋ยเอ่ยขึ้น เขารู้สึกอิจฉาอยู่บ้าง เขาต้องยอมรับว่าซ่งลี่เฉิงช่างมีสายตาแหลมคม ถึงให้ซ่งอวิ้นอวิ้นมาดูแลบริษัท ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ถนัด แต่เธอก็เรียนรู้หลาย ๆ สิ่งได้รวดเร็ว! "ฉันแก่กว่านายไม่กี่ปี ฉันถึงต้องใคร่ครวญให้มากหน่อย อีกไม่กี่ปีนายน่าจะล้ำหน้าฉันไปแล้ว" ซ่งอวิ้นอวิ้นพูดให้กำลังใจ อันที่จริงแล้ว นับตั้งแต่ซ่งลี่เฉิงตายไป ซ่งรุ่ยเจี๋ยก็เป็นผู้ใหญ่ขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก ซ่งรุ่ยเจี๋ยแทบไม่เผยรอยยิ้มขึ้นบนใบหน้า "ผมไม่เป็นไรหรอก พี่น่าจะกลับไปดูแลซวงซวงก่อนนะ" ซ่งรุ่ยเจี๋ยเอ่ยขึ้น "ได้ ถ้านายมีเรื่องอะไรก็ติดต่อฉันได้ตลอดนะ" ซ่งอวิ้นอวิ้นลุกขึ้น "อย่าลืมดื่มน้ำล่ะ" ซ่งรุ่ยเจี๋ยรีบยื่นมือข้างที่ไม่ได้รับบาดเจ็บมายกถ้วยชาขึ้นมา "ผมไม่ลื